ส่วนมู่หว่านหรงหลังกลับจากคุกใต้ดินก็ยืนลังเลอยู่หน้าประตูห้องหมอกงพักใหญ่นางไม่เชื่อว่าวิธีรักษาของเสิ่นหรูโจวใช้ได้จริง เพียงแต่…ตอนนี้นางไม่มีหนทางอื่น จะเชิญหมอท่านอื่นก็คงไม่ได้ หากท่านอ๋องรู้เข้า เรื่องที่หมอกงไม่รู้วิชาหมอก็จะถูกเปิดเผยกงฉางจื้อต้องไม่เป็นอะไรไปเป็นอันขาด เหลือเพียงใช้วิธีรักษาม้าตายเหมือนม้าเป็น[footnoteRef:1] แล้วล่ะ! [1: รักษาม้าตายเหมือนม้าเป็นเป็นสำนวนที่เปรียบเทียบเรื่องที่รู้ชัดว่าไม่มีความหวังแต่ยังมีความหวังเลือนรางหรือใช้ความพยายามครั้งสุดท้าย] มู่หว่านหรงจับปลายเสื้อแล้วตัดใจสั่งให้หลิงเฟิงไปเอาฉี่ม้ามาสองถ้วย……กงฉางจื้อนอนนิ่งบนเตียงขยับตัวไม่ได้มาครึ่งวัน เมื่อเห็นมู่หว่านหรงกับหลิงเฟิงเดินเข้ามาดวงตาก็ลุกวาวในมือของหลิงเฟิงมีถาดใบหนึ่ง มีถ้วยเซรามิคสีขาววางอยู่สองใบ เพียงแต่นางถือถาดอยู่ไกลมากมู่หว่านหรงเดินนำหน้ามาพร้อมกับรอยยิ้มและพูดกับกงฉางจื้อ: “หมอกง นี่คือยาแก้เข็มเงินบนตัวท่าน เพียงดื่มเข้าไปก็ขยับตัวได้แล้ว”หลิงเฟิงยืนเงียบอยู่ข้าง ๆ ด้วยสีหน้าอึดอัดใจเมื่อกงฉางจื้อได้ยินสีหน้าก็เต็มไปด้วยความตื่นตะลึง เขามอง “ยา” สองถ้ว
เกิดอะไรขึ้น!!หรือว่ายานี้ใช้ไม่ได้!หลิงเฟิงรีบกล่าว: “พระชายารอง พวกเราถูกพระชายาเอกหลอกจริง ๆ หรือ ข้าน้อยไม่เคยได้ยินเลยว่าฉี่ม้ารักษาโรคได้!”อะไรนะ!!นี่คือฉี่ของม้า!กงฉางจื้อที่ดื่มเข้าไปสองถ้วยใหญ่พลันเบิกตาโพล่ง อาการคลื่นไส้พุ่งขึ้นจากกระเพาะทันที เขาอาเจียนอย่างต่อเนื่องและอดกลั้นจนกลายเป็นสีม่วงไปทั้งใบหน้าและมีเหงื่อขนาดเท่าเม็ดถั่วซึมตรงหน้าผากร่างกายของเขาแข็งทื่อและขยับไม่ได้ตั้งแต่ทีแรก ตอนนี้มีกลิ่นฉี่ของม้าอยู่เต็มปากยิ่งทำให้เขารู้สึกตายทั้งเป็นกระเพาะปั่นป่วนและมีกลิ่นเหม็นคาวตีขึ้นมายิ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวใจแทบอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอดเมื่อเห็นเขาในสภาพเช่นนี้ มู่หว่านหรงรู้สึกทั้งร้อนใจและโมโหแล้วนี่ควรทำอย่างไรต่อดี! ใคร ๆ ก็รู้ว่ากงฉางจื้อเป็นคนเก่งกาจด้านการรักษา หากผู้อื่นรู้ว่าเขาถูกเสิ่นหรูโจวจัดการได้อย่างง่ายดาย ความจริงก็จะถูกเปิดโปงน่ะสิ!นางเหลือบมองที่เตียงหนึ่งที ใบหน้าทุกข์ทรมานของกงฉางจื้อและยังมีคราบฉี่ม้าตรงมุมปากกำลังส่งสายตามาให้นางน่ารังเกียจ!“อ๊า……อ๊า……” กงฉางจื้ออ้าปากส่งเสียงเรียกอยู่อย่างนั้น ดวงตาสองข้างแดงก่ำ
พูดจบ นางสูดหายใจลึก กัดฟันแน่นแล้วจับกรรไกรกรีดตรงข้อมือที่เล็กและขาวหลิงเฟิงตื่นตกใจมาก “พระชายารอง!”มู่หว่านหรงขยับมุมปาก “ข้าไม่เป็นไร”นางเพียงต้องการใช้แผนทรมานตนเองไม่ได้คิดสั้นแต่อย่างใด บาดแผลเป็นเพียงรอยแดงมีเลือดออกเล็กน้อย“ไปบอกกับท่านอ๋องว่าข้าตั้งใจไปเยี่ยมพระชายาเอกในคุกใต้ดิน แต่พระชายาเอกไม่รับความหวังดีและยังทำร้ายข้า ต้องพูดอย่างไรบ้างข้าคงไม่ต้องสอนหรอกกระมัง!”“ข้าน้อยเข้าใจแล้ว พระชายารองวางใจได้เลยเจ้าค่ะ!” เมื่อหลิงเฟิงเข้าใจความหมายแล้วก็ออกไปหาเซินเฉินเหยี่ยนทันทีเสิ่นหรูโจวทำให้นางได้รับโทษการโบยตีถึงยี่สิบครั้ง คิดจะให้หลอกตีแต่ทำไม่ได้เพราะมีเมี่ยวตงคอยเฝ้า ยี่สิบครั้งเต็ม ๆ นางต้องฝืนทนความเจ็บปวดคลานกลับมาที่เรือนและรอยเลือดก็ไหลเป็นทางเดินถ้าพระชายารองไม่เอายาให้นางกินจนไม่เหลือความเจ็บปวด นางจะขยับตัวได้อย่างไร!ทำให้นางต้องเป็นทุกข์มากถึงเพียงนี้ นางไม่มีวันปล่อยเสิ่นหรูโจวไปแน่ ต้องแก้แค้นเพื่อตนเองให้จงได้!เซียวเฉินเหยี่ยนเพิ่งกลับมาจากพระราชวัง ใบหน้าที่หล่อเหลาเต็มไปด้วยความหม่นหมองก่อนหน้านี้ เสด็จพ่อมีรับสั่งให้เป่ยซิวเยี่ยนไปปรา
“แต่เมื่อพระชายาทำชั่วไม่สำเร็จจึงโกรธจัดและทำหมอกงจนบาดเจ็บ! หมอกงจนถึงตอนนี้ก็ยังนอนติดเตียงลุกไม่ได้เจ้าค่ะ!”เมื่อฟังคำบอกเล่าแล้ว ใบหน้าหล่อเหลาของเซียวเฉินเหยี่ยนมืดมนทันใด “อะไรนะ นางทำร้ายหมอกงด้วยงั้นรึ”มู่หว่านหรงรีบมองหลิงเฟิงและตำหนิ: “พอแล้ว หยุดพูดได้แล้ว คิดว่าท่านอ๋องมีเรื่องรำคาญใจไม่มากพออีกรึ!”“ให้นางพูด” ขากรรไกรล่างของเซียวเฉินเหยี่ยนตึง เส้นสัมผัสทั้งห้าของใบหน้าดูเย็นชามาก “ข้าต้องการฟังว่าเสิ่นหรูโจวก่อเรื่องอะไรไว้อีกบ้าง!”หลิงเฟิงกล่าวต่อทันที: “เจ้าค่ะ สถานการณ์ตอนนั้นอยู่ในภาวะวิกฤต พระชายารองกลัวว่าหากพระชายาเอกยังทำต่อไปมีแต่จะทำให้เกียรติยศของจวนอ๋องเสื่อมเสีย ด้วยสถานการณ์ที่คับขันจึงจำต้องนำตัวพระชายาเอกขังในคุกใต้ดิน ที่ทำไปก็เพื่อรักษาชื่อเสียงของจวนอ๋อง”“แต่พระชายารองใจอ่อนเกินไป เป็นห่วงว่าพระชายาเอกจะโกรธจึงลงไปเยี่ยมและอยากเกลี้ยกล่อมให้พระชายาเอกล้มเลิกความคิดทำร้ายคน เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นศัตรูกับผู้สำเร็จราชการแทนและสร้างปัญหาให้กับท่านอ๋อง แต่พระชายาเอกกลับไม่ฟังและยังกรีดข้อมือของพระชายารองจนบาดเจ็บเจ้าค่ะ!”“หลิงเฟิง เจ้านี่มันพูดม
ไม่เพียงให้คำอธิบายกับมู่หว่านหรงเท่านั้นแต่ยังรวมถึงผู้สำเร็จราชการแทนด้วยเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ ความชั่วช้าที่เสิ่นหรูโจวทำนั้นไม่สามารถชดเชยได้ มีแต่ลงโทษนางก่อน เพื่อให้เป่ยซิวเยี่ยนเห็นและแสดงถึงจุดยืนของเขาด้วยวิธีนี้ เมื่อเป่ยซิวเยี่ยนกลับมา ต่อให้อยากหาคนรับผิดชอบแต่ก็อาจดูไม่ดีหากตำหนิมากไปมิฉะนั้น หากส่งเสิ่นหรูโจวให้เป่ยซิวเยี่ยน ด้วยวิธีการของเป่ยซิวเยี่ยนนั้น เกรงว่านาง……อาจไม่มีชีวิตรอดและนางในวันนี้ใช้แซ่ของเขาแล้ว เขาก็ไม่อยากส่งให้คนนอกเป็นคนลงโทษมู่หว่านหรงยิ้มอ่อนอย่างระมัดระวังให้เขา “ขอบคุณท่านอ๋องเจ้าค่ะ ท่านอ๋อง หว่านหรงรู้ว่าท่านเอ็นดูหว่านหรง”นางไม่รู้ว่าเซียวเฉินเหยี่ยนคิดถึงสิ่งใดอยู่ในใจ รู้เพียงว่าเสิ่นหรูโจวใกล้พินาศแล้วหลังจากเซียวเฉินเหยี่ยนกำชับนางพักผ่อนดี ๆ และเดินออกจากห้องไปแล้ว นางก็แสดงสีหน้าดีใจออกมาทันทีนี่คือผลลัพธ์ของการล่วงเกินมู่หว่านหรงผู้นี้ เสิ่นหรูโจว รอรับความตายซะเถอะ!ในคุกใต้ดินที่มืดมิด เสิ่นหรูโจวกำลังนั่งสานตั๊กแตนอยู่บนเสื่ออย่างเบื่อหน่าย พลันมีเสียงย่ำเท้าดังขึ้นนางเงยหน้าขึ้นมาก็พบใบหน้าร้ายกาจของเซียวเฉินเ
“หากไม่มี คนที่ท่านควรหาไม่ใช่ข้าแต่เป็นเขา เขาไม่มีความสามารถอะไรเลย ท่านยังปล่อยให้เขามีอาชีพทำไมอีก!”“และข้อสุดท้าย ข้าไม่เคยแตะต้องมู่หว่านหรงแม้ผมเส้นเดียว ทำไมนางถึงบาดเจ็บท่านควรไปถามนางเอง”เมื่อประโยคนี้ถูกกล่าว แววตาของเซียวเฉินเหยี่ยนก็เย็นชาทันใด“คำโกหกร้อยเรียงเป็นหน้ากระดาษ คิดหรือว่าข้าจะเชื่อ!”“ข้าเพิ่งไปหาหว่านหรงมา ข้อมือของนางบาดเจ็บขนาดนั้น ถ้าไม่ใช่เจ้าทำแล้วจะเป็นใครได้อีก! เสิ่นหรูโจว หว่านหรงเป็นหญิงอ่อนแอเช่นนั้นแล้วยังกล้าลงมือได้อีก บรรทัดฐานของความเป็นคนของเจ้าอยู่ตรงไหนกันแน่!!”“ข้าน้อยขอพูดอีกครั้ง!” เสิ่นหรูโจวมองเขาและพูดเสียงแข็งมีพลังมั่นใจ “ข้าไม่เคยแตะต้องมู่หว่านหรง บาดแผลของนางไม่เกี่ยวกับข้า เรื่องใดที่ข้า เสิ่นหรูโจวไม่เคยทำอย่าคิดมาโทษข้า!”น้ำเสียงของนางเย็นเยียบขึ้นเรื่อย ๆ : “เซียวเฉินเหยี่ยน ท่านด่าทอข้าและดูถูกข้าถึงเพียงนี้ เมื่อถึงวันที่ความจริงเปิดเผย ท่านจะต้องเสียใจ!”“ถึงตอนนั้น อย่าโทษว่าข้าไม่เตือน ท่านอาจเสียใจจนร้องไห้ ไอ้คนโง่!”ชาติที่แล้วเซียวเฉินเหยี่ยนก็หน้ามืดตามัว ไม่สนใจถูกผิดกับเรื่องของพี่น้องมู่หว่านหรงเช่นน
อะไรนะ!!เสิ่นหรูโจวช่วยชีวิตลู่หวายหนิง!!มือของเซียวเฉินเหยี่ยนชะงักทันใด สีหน้าประหลาดใจวาบผ่านใบหน้ารูปงามเป็นไปได้อย่างไร!!“เจ้าสับสนอะไรหรือเปล่า ไม่ใช่นางหรือที่ทำร้ายนายน้อยของเจ้าจนมีสภาพย่ำแย่!”เสิ่นหรูโจวสะบัดมือเขาออกทันทีและนั่งลงที่พื้นอย่างอ่อนแรง นางจับหน้าอกและไอหนัก แต่สายตากลับแหลมคมมากเป็นพิเศษฉินอวี่รู้สึกสงสารอย่างอดไม่ได้เมื่อเห็นสภาพนางเป็นเช่นนี้ พระชายาเอกเป็นคนดีถึงเพียงนี้แต่ได้รับการปฏิบัติเช่นนี้!อ๋องอู่เฉิงทำเกินไปแล้ว!“พระชายาเอกช่วยนายน้อยจริง ๆ ขอรับ! อ๋องอู่เฉิง พระชายาเอกเป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตนายน้อยของข้าน้อยและยังเป็นผู้มีพระคุณของจวนผู้สำเร็จราชการแทนขอรับ!”เซียวเฉินเหยี่ยนกลับไม่เชื่อเสิ่นหรูโจวว่านางมีความสามารถขนาดนั้นจริง ๆ นางก็แค่คนไม่เอาไหน จิตใจก็โหดเหี้ยมและยังทำร้ายหมอกงกับหว่านหรง นางน่ะหรือจะช่วยคน! เป็นไปไม่ได้!“แม้ว่าเสิ่นหรูโจวเป็นพระชายาของข้า แต่นางไม่มีความรู้ด้านการรักษาจริง ๆ ยิ่งไปกว่านั้นนางเป็นคนโหดเหี้ยมอำมหิตแบบนี้หรือจะช่วยคนได้ เจ้าระวังถูกนางหลอกเอานะ!”เสิ่นหรูโจวที่นั่งกับพื้นได้ยินดังนั้นมุมปากก็
เสิ่นหรูโจวเหลือบมองเขาด้วยความรู้สึกบางอย่าง สีหน้าสับสนและสงสัยของชายหนุ่มตกอยู่ในสายตาของนางนางยิ้มเย็นชา นัยน์ตาดำสนิทจ้องเขม่นเซียวเฉินเหยี่ยน“เซียวเฉินเหยี่ยน ตอนนี้ผู้เป็นเจ้าของเรื่องพูดแล้วว่าข้าเป็นคนช่วยชีวิตเขา ข่าวลือที่กล่าวหาว่าข้าทำร้ายผู้อื่นก่อนหน้านี้กับพระชายารองของท่านจับข้าไปขังและท่านยังบีบคออยากให้ข้าตาย จะสะสางอย่างไรดีเจ้าคะ”นางตั้งใจไม่ตอบโต้เพื่อปูทางให้กับวินาทีนี้ภายใต้แสงมืดสลัว โครงหน้าด้านข้างของเซียวเฉินเหยี่ยนดูเย็นชาแต่ยังรูปหล่อไม่มีที่ติเขามองเสิ่นหรูโจวยกคางเล็กน้อย ลำคอที่ขาวนวลทำให้รอยแดงเห็นชัดมาก เมื่อครู่นี้เขาลงมือหนักไปจริง ๆแต่ในฐานะอ๋องอู่เฉิง นายท่านแห่งจวนอ๋องจะยอมรับความผิดได้อย่างไร อีกอย่างเรื่องนี้ยังมีข้อสงสัยอีกมากมายที่ทําให้อดคิดมากไม่ได้"เสิ่นหรูโจว เจ้าไม่มีความรู้เรื่องหมอ แต่ตอนนี้เจ้ากลับช่วยชีวิตคนได้และยังเป็นโรคที่ซับซ้อนเช่นนี้อีก มันเป็นไปได้ด้วยรึ! หรือไม่เจ้าก็ไม่ใช่เสิ่นหรูโจว เจ้าแค่สวมหน้ากากหนังของเสิ่นหรูโจว หรือไม่ก็เป็นความดีความชอบของหมอกงแล้วเจ้าบังเอิญได้ประโยชน์จากช่องโหว่นี้ไป"เสิ่นหรูโจวต