เสิ่นหรูโจวกำลังเตรียมการ นางเปิดกล่องยา ตรวจสอบยาและเครื่องมือที่อีกครู่ต้องใช้ลู่หวายหนิงขยับมาอยู่ข้างกายนางอย่างอยากรู้อยากเห็นอย่างยิ่ง ชี้ไปที่ขวดสีน้ำตาลใบหนึ่งถามว่า “พี่สาว ของสิ่งนี้ไว้ใช้ทำสิ่งใดกัน?”“นี่คือทิงเจอร์ไอโอดีน เอาไว้ใช้ฆ่าเชื้อโรค ใช้เช็ดบนผิวหนังก่อนผ่าตัด ช่วยป้องกันไม่ให้แผลติดเชื้อ” นางด้านหนึ่งกล่าววาจา อีกด้านก็มองไปทางเป่ยซิวเยี่ยน ที่จริงแล้วนางตั้งใจพูดให้เขาฟังต่างหาก“อย่างนั้นอันนี้เล่า?” ลู่หวายหนิงถามขึ้นอีกครั้งเสิ่นหรูโจวอธิบายอย่างตั้งใจ “นี่เป็นเพนิซิลลินแบบฉีด อีกครู่เมื่อผ่าตัดเสร็จก็จะต้องฉีดสิ่งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้บาดแผลอักเสบ” ลู่หวายหนิงพยักหน้า น้ำเสียงมีความตื่นเต้นยินดีอยู่เล็กน้อย “เช่นนั้นยาพวกนี้ก็เหมาะที่จะใช้ในสนามรบพอดีเลย!”เขารีบดึงเป่ยซิวเยี่ยนเข้ามาใกล้ขึ้นอีกเล็กน้อย “อาจารย์ท่านดูสิขอรับ ยาของพี่สาวพวกนี้ดีเกินไปแล้ว หากสามารถส่งไปที่สนามรบได้ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการรักษาของเหล่าทหารอีกแล้วขอรับ!”เป่ยซิวเยี่ยนมีสีหน้าเรียบเฉย กวาดสายตามองยาและอุปกรณ์ในกล่องยาพวกนั้นรอบหนึ่ง“บาดแผลที่พบมากที่สุดในสนามรบก็คื
หมอหลวงจ้าวพยักหน้ารับคำโจวอี๋เจี่ยนมองของเหลวที่ไหลออกมา ยังมีท้องที่ค่อยๆ เล็กลงของกุ้ยเฟย สีหน้าก็เปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่าเสิ่นหรูโจวดำเนินการต่ออย่างสงบ หยิบมีดผ่าตัดออกมา เริ่มทำการเปิดช่องท้องนางทำการฆ่าเชื้อก่อน จากนั้นจึงกรีดเปิดผิวหนังบริเวณหน้าท้องออกเมื่อเห็นว่าท้องของกุ้ยเฟยถูกกรีดเป็นแผลกว่าถึงเพียงนั้น โจวอี๋เจี่ยนก็ได้รับความตกใจไม่น้อย ดวงตาเบิกกว้างกว่าในยามปกติถึงสองเท่า“พระชายามีฐานะเป็นแพทย์ ทว่ากลับลงมืออย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้!”เสิ่นหรูโจวหัวเราะเบาๆ ทีหนึ่ง มิได้สนใจเขา หลี่หมัวมัวกลับพูดว่า “ท่านนักพรตหลิงเซียว หากท่านทนดูไม่ไหว ก็ไปนั่งพักตรงนั้นเถิดเจ้าค่ะ อย่าได้รบกวนพระชายาเลย” โจวอี๋เจี่ยนสะบัดแขนเสื้อ ท่าทางราวกับปวดใจอย่างยิ่งถัดมา เสิ่นหรูโจวยังคงลงมีดต่อไปโจวอี๋เจี่ยนมองภาพเต็มไปด้วยเลือดที่อยู่เบื้องหน้า ก็รู้สึกไม่สบายอยู่บ้าง อดท่องบทสวดขึ้นมาไม่ได้ “อันธารบารมีของท่านปรมาจารย์ไพศาลไร้ขอบเขต…”เสิ่นหรูโจวยังคงเห็นเขาเป็นอากาศธาตุ ทำการกรีดเปิดช่วงล่างของมดลูกต่อ เมื่อเปิดโพรงมดลูกออก ร่างของทารกก็เผยออกมาหลี่หมัวมัวรีบก้าวเข้ามา
โจวอี๋เจี่ยนถลึงตาใส่เสิ่นหรูโจวอย่างโมโห ทว่าไม่อาจขยับตัว จึงได้แต่แข็งค้างอยู่ตรงนั้น ไม่กล้าพูดมากอีกเสิ่นหรูโจวจัดการโจวอี๋เจี่ยนเสร็จ ก็รีบไปดูอาการของกุ้ยเฟยหลี่หมัวมัวทางหนึ่งอุ้มทารก อีกทางก็กล่าวอย่างร้อนใจว่า “พระชายา นี่…นี่เกิดสิ่งใดขึ้นกัน ท่านมิใช่กล่าวว่าจะต้องปลอดภัยทั้งแม่ลูกอย่างแน่นอนหรือเจ้าคะ?”หมอหลวงจ้าวก็ตื่นตระหนกแล้วเช่นกัน “พระชายา กุ้ยเฟยเลือดไหลไม่หยุด นี่เกรงว่า…”เขาไม่กล้าพูดจนจบ หากกุ้ยเฟยเกิดเรื่องขึ้นมา เขาก็ไม่อาจรอดชีวิตอย่างแน่นอนเช่นกัน!เสิ่นหรูโจวมีสีหน้าสงบมั่นคง ตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้เลือดออกอย่างละเอียด พบว่าไม่มีจุดที่ปริแตกที่มดลูกและไม่มีเส้นเลือดที่ฉีกขาด ทว่าเกิดจากการบีบตัวอย่างรุนแรงของมดลูกเป็นเหตุให้เลือดออกเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ตามสภาพร่างกายของกุ้ยเฟยไม่น่าจะเกิดอาการมดลูกบีบตัวอย่างหนักได้?นอกจากนี้ สิ่งนี้เป็นเหตุให้การระบายของเหลวคั่งค้างอยู่ในช่องท้องเกิดปัญหา ของเหลวในช่องท้องถูกขับออกมาจำนวนมาก ทำให้กุ้ยเฟยเกิดอาการช็อกขึ้นมาในช่วงวลาสั้นๆหมอหลวงจ้าวร้อนใจจนกระทืบเท้า ถอนใจติดๆ กันทารกน้อยที่พึ่งถือกำเนิดออกมา
“ยังจะรักษาอะไรอีก!” ฮ่องเต้หย่งอันตะคอกใส่หน้าอย่างตำหนิ “พระชายาที่แสนดีของเจ้าทำร้ายกุ้ยเฟยจนมีสภาพเช่นใดแล้ว เจ้ายังกล้าขอร้องแทนนางอีก!”เซียวเฉินเหยี่ยนก้มศีรษะลง กล่าวด้วยเสียงหนักแน่นว่า “ยังไม่ถึงนาทีสุดท้าย บางทีอาจมีการพลิกผัน เสด็จพ่อโปรดทรงรอก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ” เดิมฮ่องเต้หย่งอันก็ไม่ชอบเขาอยู่แล้ว ครั้งนี้ก็ย่อมไม่ฟังคำพูดของเขา ฝ่ามือใหญ่โบกสะบัด ให้องครักษ์เข้าไปจับคนในเวลานี้เอง เสียงเยียบเย็นที่ผสานด้วยแรงกดดันก็ดังขึ้นมา “ฝ่าบาท โปรดทรงรอสักครู่เถอะพ่ะย่ะค่ะ” เป่ยซิวเยี่ยนเดินไปที่เบื้องหน้าของฮ่องเต้หย่งอัน กล่าวแนะนำว่า “ฝ่าบาท ใช้คนย่อมไม่ควรระแวง ผู้ที่ระแวงย่อมไม่ใช้ พระชายาของอ๋องอู่เฉิงมิใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน ฝ่าบาทก็ทรงประทานเวลาให้นางอีกสักหน่อย ทรงอดทนรอเถิดพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หย่งอันแค่นเสียงอย่างไม่พอใจครั้งหนึ่ง ในน้ำเสียงแสดงความโมโหออกมา “ไม่ควรให้นางลองแต่แรก กล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจ แต่กลับทำจนเป็นเช่นนี้! ยังรออะไรอยู่อีก ลากนางออกมาตีให้ตายเดี๋ยวนี้ดีที่สุด!”น้ำเสียงของเป่ยซิวเยี่ยนเรียบเฉย “ยามนี้ การโบยพระชายาของอ๋องอู่เฉิงจนตายมีแต่จะทำให้
“เหนียงเหนียงทรงปลอดภัยไร้อันตราย ยามนี้พระอาการคงที่แล้วเพคะ” หลี่หมัวมัวตอบพร้อมรอยยิ้ม “พระชายาทรงกล่าวว่า อีกครู่กุ้ยเฟยก็จะทรงฟื้นขึ้นมาแล้วเพคะ” เมื่อฮ่องเต้หย่งอันได้ยินเช่นนั้น ก็มองไปที่เสิ่นหรูโจว “ตอนนี้ ของเหลวที่คั่งค้างอยู่ในท้องของกุ้ยเฟยถูกกำจัดไปแล้ว อาการเลือดออกหลังการคลอดก็คงที่แล้ว ยามนี้เพียงแค่ร่างกายอ่อนแออยู่บ้างเท่านั้น อีกครู่ก็จะทรงฟื้นขึ้นมาเพคะ” “องค์ชายน้อยคลอดก่อนกำหนด ร่างกายจึงอ่อนแออยู่บ้าง แต่ขอเพียงบำรุงให้ดีก็จะสามารถแข็งแรงขึ้นมาได้อย่างแน่นอนเพคะ” บนใบหน้าของนางมีรอยยิ้ม มองไปยังฮ่องเต้หย่งอันด้วยดวงตากระจ่างใส “ลูกพูดได้ทำได้ ปลอดภัยทั้งมารดาและบุตรเพคะ” ฮ่องเต้หย่งอันมีรอยยิ้มเต็มใบหน้า “ดี! ชายาของอ๋องอู่เฉิง มีทักษะการแพทย์เลิศล้ำจริงๆ!”เป่ยซิวเยี่ยนมองคิ้วตาที่ประณีตงดงามของหญิงสาว ริมฝีปากโค้งขึ้นอย่างเบาบางจิตใจที่เป็นกังวลของเซียวเฉินเหยี่ยนก็วางลงได้ในที่สุดเช่นกัน ความมืดหม่นในดวงตาสลายไปไม่น้อยมุ่หว่านหรงมองไปทางโจวอี๋เจี่ยนด้วยสีหน้าแข็งเกร็ง เมื่อเห็นโจวอี๋เจี่ยนส่ายหน้า นางก็กัดฟันอย่างแรง สีหน้าไม่น่ามองอย่างยิ่งรอย
โจวอี๋เจี่ยนเหลือบมองมู่หว่านหรงครั้งหนึ่ง แอบแค้นที่นางเพื่อเอาตัวรอด ได้กันตัวเองออกไปแล้ว ไม่สนใจความเป็นตายของเขาเลย!คิ้วของเซียวเฉินเหยี่ยนก็ขมวดแน่นเช่นกัน มู่หว่านหรงเป็นชายารองของเขา และเป็นผู้มีพระคุณของเขา อีกอย่างเรื่องนี้แม้แต่เขาก็เชื่อผิดไป แล้วนับประสาอะไรกับนาง “เสด็จพ่อ หว่านหรงเลอะเลือนไปชั่วขณะ เชื่อคำพูดของนักพรตหลิงเซียว ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่รู้ความจริงจึงได้ช่วยเขาพูดไปสองสามประโยค แต่มิได้ทำร้ายกุ้ยเฟย ขอเสด็จพ่อโปรดทรงอภัย วันหลังนางจะต้องควบคุมคำพูดและการกระทำของตนแน่พ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หย่งอันขมวดคิ้ว กวาดตามองเขาอย่างไม่พอใจทีหนึ่ง แต่ถึงที่สุดแล้วนางก็ไม่ได้มีส่วนร่วมในเรื่องนี้จริงๆ สุดท้ายจึงยอมปล่อยไปว่า “ช่างเถอะ ครั้งนี้จะอภัยให้เจ้า วันหลังเจ้าจงระวังวาจาและการกระทำให้จงดี” มู่หว่านหรงราวได้รับการอภัยโทษครั้งใหญ่ “เพคะ เพคะ!”ฮ่องเต้หย่งอันมองโจวอี๋เจี่ยนที่อยู่บนพื้นอย่างเย็นชา มู่หว่านหรงสามารถอภัยได้ แต่โจวอี๋เจี่ยนกล่าววาจาโคมลอยแต่งเรื่องหลอกลวงครั้งใหญ่ มีความผิดไม่อาจให้อภัย!เขากล่าวด้วยสีหน้าน่ายำเกรงว่า “แม้แต่ทายาทราชวงศ์มีกี่คน เจ้าก
“เสด็จพ่อ” เซียวเฉินเหยี่ยนพลันตัดบทนาง “ก่อนหน้านี้พระชายาเคยกล่าวกับกระหม่อมว่า ฮูหยินผู้เฒ่าเสิ่นยังไม่เคยได้รับการแต่งตั้งบรรดาศักดิ์ ครั้งนี้พระชายาสร้างผลงานที่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ มิสู้แต่งตั้งฮูหยินผู้เฒ่าเฉิน ท่านย่าของนางให้เป็นฮูหยินบรรดาศักดิ์เถิดพ่ะย่ะค่ะ” เสิ่นหรูโจวขมวดคิ้ว มองเซียวเฉินเหยี่ยนอย่างเย็นชายามนี้เขาเสนอให้แต่งตั้งยศฮูหยินบรรดาศักดิ์ให้ท่านย่า หากนางคัดค้าน มิเท่ากับว่าไม่กตัญญูหรือ? ช่างชั่วร้ายเหลือเกิน ตั้งใจจะไม่ยอมให้นางหย่าด้วยดี!แต่ทว่า นางก็อยากให้ตระกูลมีหน้ามีตาเช่นกัน ตระกูลเสิ่นจงรักภักดีมาทุกรุ่น หลั่งเลือดในสนามรบ ท่านย่าสละสามีของตน บุตรชายของตน แม้แต่หลานชายก็คอยปกปักรักษาประเทศ สุดท้ายกลับเป็นเพียงคนที่ไร้ชื่อเสียง มีจุดจบที่เลวร้ายชาตินี้ นางจะต้องนำเกียรติยศมาให้ท่านย่า ท่านพ่อและพี่ชายแน่ เพียงแต่ ตอนนี้นางอยากหย่าขาดโดยสมัครใจกันทั้งสองฝ่ายมากกว่า…ฮ่องเต้หย่งอันคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นพยักหน้าว่า จวนแม่ทัพเลี้ยงดูเด็กสาวที่กตัญญูและรู้ความเช่นเจ้าออกมา ถึอได้ว่าอบรมสั่งสอนได้ดีจริงๆ ได้ ข้าก็จะแต่งตั้งท่านย่าของเจ้าเป็นฮูหยินบรร
เสิ่นหรูโจวอมยิ้มกล่าวว่า “กุ้ยเฟยทรงกล่าวหนักไปแล้ว หรูโจวรับไว้ด้วยความละอาย” “มีที่ใดต้องละอายกัน” กุ้ยเฟยค้อนนางทีหนึ่ง ในก้นบึ้งของดวงตากลับเต็มไปด้วยความพึงพอใจ “ข้าไม่ชอบอ้อมค้อมไปมา เจ้ามีบุญคุณกับข้า ข้าไม่เพียงจะขอบคุณเจ้า แต่ยังจะให้รางวัลแก่เจ้าด้วย” กุ้ยเฟยเรียกหลี่หมัวมัวมา จากนั้นมอบเงินร้อยตำลึง ผ้าไหมชาววัง และผ้าไหมสำหรับชุดฤดูใบไม้ผลิอย่างละสิบพับให้เสิ่นหรูโจวในทันทีเสิ่นหรูโจวขอบพระทัยเวลานี้กุ้ยเฟยก็นึกถึงโจวอี๋เจี่ยนขึ้นมาอีก จึงกล่าวอย่างไม่พอใจว่า “ฝ่าบาท นักพรตหลิงเซียวผู้นั้นเล่าเพคะ? เขาเอาแต่พูดว่าวันนี้หม่อมฉันคลอดไม่ได้ คลอดไม่ได้ ที่แท้ก็หลอกลวงคน เกือบจะทำร้ายหม่อมฉันแล้ว พระองค์จะต้องลงโทษเขาอย่างแรงเลยนะเพคะ”สีหน้าของฮ่องเต้หย่งอันเคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย ตบมือนางเบาๆ “วางใจเถอะ ข้าได้ให้คนเอาเขาไปขังในเรือนจำแล้ว” “อย่างนั้นก็ดีเพคะ นี่ถ้าไม่ใช่มีท่านผู้สำเร็จราชการกับพระชายาของอ๋องอู่เฉิงอยู่ หม่อมฉันคงจะถูกเขาหลอกไปแล้วจริงๆ” กุ้ยเฟยพยักหน้า กวาดตามองไปทางเป่ยซิวเยี่ยนเบาๆ “ท่านผู้สำเร็จราชการ ยังต้องขอบคุณท่านที่แนะนำหมอที่ดีเช่นนี้ให้ข