กุ้ยเฟยฟังคนทั้งหมดออกความเห็นเงียบๆ ฝ่ามือลูบท้องที่พองโตของตนอย่างแผ่วเบา ราวกำลังครุ่นคิดบางสิ่งเรื่องแม่ลูกดวงชะตาขัดกันที่โจวอี๋เจี่ยนพูดไม่รู้เชื่อถือได้หรือไม่ แต่เมื่อคิดถึงผลลัพธ์ของการรอให้ครบกำหนดที่เสิ่นหรูโจวพูด ในใจของนางก็รู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา ในฐานะมารดาผู้หนึ่ง การปกป้องลูกของตนเป็นสัญชาตญาณโดยธรรมชาติ หากมีเพียงการเร่งคลอดที่สามารถรักษาเขาไว้ได้ เช่นนี้นางก็ยินดีที่จะเสี่ยงหลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดนางก็มองไปที่ฮ่องเต้หย่งอัน “ฝ่าบาท ก็ให้พระชายาของอ๋องอู่เฉิงเร่งการคลอดให้หม่อมฉันเถิดเพคะ” ฮ่องเต้หย่งอันขมวดคิ้ว มองกุ้ยเฟย “แต่ว่า…”“กุ้ยเฟยเหนียงเหนียง โปรดทรงอย่าตัดสินใจอย่างหุนหัน!” โจวอี๋เจี่ยนเริ่มโน้มน้าวกุ้ยเฟยอีกครั้ง ด้วยท่าทีแสนจริงจังและจริงใจ “ทรงมีพระวรกายที่สูงค่าและบอบบาง หากกรีดแผลใหญ่ลงไปบนร่างสักแผล จะต้องทนรับไม่ไหวอย่างแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ”“น่าขำนัก!” เสิ่นหรูโจวแค่นเสียงเย็นทีหนึ่ง มองโจวอี๋เจี่ยนด้วยแววตาคมกล้า “นางหลัวอวิ๋นก็เป็นสตรีเช่นกัน นางทนไหว แล้วเหตุใดกุ้ยเฟยจึงจะทนไม่ไหว ท่านเอาแต่พูดว่าไม่อาจเร่งคลอด ที่ท่านขัดขวางเช่นนี้ ยังตระ
ไม่ว่าอย่างไรนางหลัวอวิ๋นก็พึ่งผ่านการผ่าตัดมา ร่างกายอ่อนเพลียอยู่บ้าง จะต้องพักผ่อนรักษาตัวให้ดีย้อนคิดถึงชาติก่อน แม้นางจะช่วยชีวิตหลานสาวของนางหลัวอวิ๋นได้สำเร็จ แต่สตรีนางนั้นครึ่งปีให้หลังก็ฆ่าตัวตายเพราะอาการสืบเนื่องที่เกิดตามมา เพื่อรับรองว่านางหลัวอวิ๋นจะไม่มีโรคเกิดตามมาจะต้องรักษาตัวให้ดี มีนางคอยดูแลอย่างใส่ใจ ส่งกลับไปที่บ้านนางย่อมดีที่สุดคนทั้งสองอยู่ใกล้กันอย่างมาก สายตาของเป่ยซิวเยี่ยนตกลงบนตัวนาง มิได้ถอยออก “ได้” เสิ่นหรูโจวแย้มยิ้ม “ขอบคุณท่านผู้สำเร็จราชการแทนมาก” นางเงยหน้าขึ้น เห็นดวงตาที่ล้ำลึกคู่นั้นของเป่ยซิวเยี่ยนอยู่ใกล้เพียงเอื้อม จึงได้รู้สึกตัวว่าอยู่ใกล้เขาเกินไปแล้ว รีบถอยห่างออกมาเล็กน้อยฉากนี้ถูกเซียวเฉินเหยี่ยนเห็นทั้งหมด เพลิงโทสะสายหนึ่งพลันเผาไหม้ขึ้นมาในที่สาธารณะท่ามกลางผู้คน เสิ่นหรูโจวใกล้ชิดกับบุรุษอื่นถึงเพียงนี้ ยังเห็นเขาซึ่งเป็นสามีอยู่ในสายตาหรือไม่!เขากำลังจะก้าวเข้าไปดึงเสิ่นหรูโจวมา แต่กลับถูกมู่หว่านหรงดึงแขนเสื้อไว้“ท่านอ๋อง เมื่อครู่ขอบคุณท่านอ๋องที่ช่วยขอร้องแทนหว่านหรงมากเจ้าค่ะ” สีหน้าของมู่หว่านหรงเต็มไปด้วยค
เสิ่นหรูโจวกำลังเตรียมการ นางเปิดกล่องยา ตรวจสอบยาและเครื่องมือที่อีกครู่ต้องใช้ลู่หวายหนิงขยับมาอยู่ข้างกายนางอย่างอยากรู้อยากเห็นอย่างยิ่ง ชี้ไปที่ขวดสีน้ำตาลใบหนึ่งถามว่า “พี่สาว ของสิ่งนี้ไว้ใช้ทำสิ่งใดกัน?”“นี่คือทิงเจอร์ไอโอดีน เอาไว้ใช้ฆ่าเชื้อโรค ใช้เช็ดบนผิวหนังก่อนผ่าตัด ช่วยป้องกันไม่ให้แผลติดเชื้อ” นางด้านหนึ่งกล่าววาจา อีกด้านก็มองไปทางเป่ยซิวเยี่ยน ที่จริงแล้วนางตั้งใจพูดให้เขาฟังต่างหาก“อย่างนั้นอันนี้เล่า?” ลู่หวายหนิงถามขึ้นอีกครั้งเสิ่นหรูโจวอธิบายอย่างตั้งใจ “นี่เป็นเพนิซิลลินแบบฉีด อีกครู่เมื่อผ่าตัดเสร็จก็จะต้องฉีดสิ่งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้บาดแผลอักเสบ” ลู่หวายหนิงพยักหน้า น้ำเสียงมีความตื่นเต้นยินดีอยู่เล็กน้อย “เช่นนั้นยาพวกนี้ก็เหมาะที่จะใช้ในสนามรบพอดีเลย!”เขารีบดึงเป่ยซิวเยี่ยนเข้ามาใกล้ขึ้นอีกเล็กน้อย “อาจารย์ท่านดูสิขอรับ ยาของพี่สาวพวกนี้ดีเกินไปแล้ว หากสามารถส่งไปที่สนามรบได้ ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการรักษาของเหล่าทหารอีกแล้วขอรับ!”เป่ยซิวเยี่ยนมีสีหน้าเรียบเฉย กวาดสายตามองยาและอุปกรณ์ในกล่องยาพวกนั้นรอบหนึ่ง“บาดแผลที่พบมากที่สุดในสนามรบก็คื
หมอหลวงจ้าวพยักหน้ารับคำโจวอี๋เจี่ยนมองของเหลวที่ไหลออกมา ยังมีท้องที่ค่อยๆ เล็กลงของกุ้ยเฟย สีหน้าก็เปลี่ยนไปครั้งแล้วครั้งเล่าเสิ่นหรูโจวดำเนินการต่ออย่างสงบ หยิบมีดผ่าตัดออกมา เริ่มทำการเปิดช่องท้องนางทำการฆ่าเชื้อก่อน จากนั้นจึงกรีดเปิดผิวหนังบริเวณหน้าท้องออกเมื่อเห็นว่าท้องของกุ้ยเฟยถูกกรีดเป็นแผลกว่าถึงเพียงนั้น โจวอี๋เจี่ยนก็ได้รับความตกใจไม่น้อย ดวงตาเบิกกว้างกว่าในยามปกติถึงสองเท่า“พระชายามีฐานะเป็นแพทย์ ทว่ากลับลงมืออย่างโหดเหี้ยมเช่นนี้!”เสิ่นหรูโจวหัวเราะเบาๆ ทีหนึ่ง มิได้สนใจเขา หลี่หมัวมัวกลับพูดว่า “ท่านนักพรตหลิงเซียว หากท่านทนดูไม่ไหว ก็ไปนั่งพักตรงนั้นเถิดเจ้าค่ะ อย่าได้รบกวนพระชายาเลย” โจวอี๋เจี่ยนสะบัดแขนเสื้อ ท่าทางราวกับปวดใจอย่างยิ่งถัดมา เสิ่นหรูโจวยังคงลงมีดต่อไปโจวอี๋เจี่ยนมองภาพเต็มไปด้วยเลือดที่อยู่เบื้องหน้า ก็รู้สึกไม่สบายอยู่บ้าง อดท่องบทสวดขึ้นมาไม่ได้ “อันธารบารมีของท่านปรมาจารย์ไพศาลไร้ขอบเขต…”เสิ่นหรูโจวยังคงเห็นเขาเป็นอากาศธาตุ ทำการกรีดเปิดช่วงล่างของมดลูกต่อ เมื่อเปิดโพรงมดลูกออก ร่างของทารกก็เผยออกมาหลี่หมัวมัวรีบก้าวเข้ามา
โจวอี๋เจี่ยนถลึงตาใส่เสิ่นหรูโจวอย่างโมโห ทว่าไม่อาจขยับตัว จึงได้แต่แข็งค้างอยู่ตรงนั้น ไม่กล้าพูดมากอีกเสิ่นหรูโจวจัดการโจวอี๋เจี่ยนเสร็จ ก็รีบไปดูอาการของกุ้ยเฟยหลี่หมัวมัวทางหนึ่งอุ้มทารก อีกทางก็กล่าวอย่างร้อนใจว่า “พระชายา นี่…นี่เกิดสิ่งใดขึ้นกัน ท่านมิใช่กล่าวว่าจะต้องปลอดภัยทั้งแม่ลูกอย่างแน่นอนหรือเจ้าคะ?”หมอหลวงจ้าวก็ตื่นตระหนกแล้วเช่นกัน “พระชายา กุ้ยเฟยเลือดไหลไม่หยุด นี่เกรงว่า…”เขาไม่กล้าพูดจนจบ หากกุ้ยเฟยเกิดเรื่องขึ้นมา เขาก็ไม่อาจรอดชีวิตอย่างแน่นอนเช่นกัน!เสิ่นหรูโจวมีสีหน้าสงบมั่นคง ตรวจสอบสาเหตุที่ทำให้เลือดออกอย่างละเอียด พบว่าไม่มีจุดที่ปริแตกที่มดลูกและไม่มีเส้นเลือดที่ฉีกขาด ทว่าเกิดจากการบีบตัวอย่างรุนแรงของมดลูกเป็นเหตุให้เลือดออกเหตุใดจึงเป็นเช่นนี้ ตามสภาพร่างกายของกุ้ยเฟยไม่น่าจะเกิดอาการมดลูกบีบตัวอย่างหนักได้?นอกจากนี้ สิ่งนี้เป็นเหตุให้การระบายของเหลวคั่งค้างอยู่ในช่องท้องเกิดปัญหา ของเหลวในช่องท้องถูกขับออกมาจำนวนมาก ทำให้กุ้ยเฟยเกิดอาการช็อกขึ้นมาในช่วงวลาสั้นๆหมอหลวงจ้าวร้อนใจจนกระทืบเท้า ถอนใจติดๆ กันทารกน้อยที่พึ่งถือกำเนิดออกมา
“ยังจะรักษาอะไรอีก!” ฮ่องเต้หย่งอันตะคอกใส่หน้าอย่างตำหนิ “พระชายาที่แสนดีของเจ้าทำร้ายกุ้ยเฟยจนมีสภาพเช่นใดแล้ว เจ้ายังกล้าขอร้องแทนนางอีก!”เซียวเฉินเหยี่ยนก้มศีรษะลง กล่าวด้วยเสียงหนักแน่นว่า “ยังไม่ถึงนาทีสุดท้าย บางทีอาจมีการพลิกผัน เสด็จพ่อโปรดทรงรอก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ” เดิมฮ่องเต้หย่งอันก็ไม่ชอบเขาอยู่แล้ว ครั้งนี้ก็ย่อมไม่ฟังคำพูดของเขา ฝ่ามือใหญ่โบกสะบัด ให้องครักษ์เข้าไปจับคนในเวลานี้เอง เสียงเยียบเย็นที่ผสานด้วยแรงกดดันก็ดังขึ้นมา “ฝ่าบาท โปรดทรงรอสักครู่เถอะพ่ะย่ะค่ะ” เป่ยซิวเยี่ยนเดินไปที่เบื้องหน้าของฮ่องเต้หย่งอัน กล่าวแนะนำว่า “ฝ่าบาท ใช้คนย่อมไม่ควรระแวง ผู้ที่ระแวงย่อมไม่ใช้ พระชายาของอ๋องอู่เฉิงมิใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน ฝ่าบาทก็ทรงประทานเวลาให้นางอีกสักหน่อย ทรงอดทนรอเถิดพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หย่งอันแค่นเสียงอย่างไม่พอใจครั้งหนึ่ง ในน้ำเสียงแสดงความโมโหออกมา “ไม่ควรให้นางลองแต่แรก กล่าวอย่างมั่นอกมั่นใจ แต่กลับทำจนเป็นเช่นนี้! ยังรออะไรอยู่อีก ลากนางออกมาตีให้ตายเดี๋ยวนี้ดีที่สุด!”น้ำเสียงของเป่ยซิวเยี่ยนเรียบเฉย “ยามนี้ การโบยพระชายาของอ๋องอู่เฉิงจนตายมีแต่จะทำให้
“เหนียงเหนียงทรงปลอดภัยไร้อันตราย ยามนี้พระอาการคงที่แล้วเพคะ” หลี่หมัวมัวตอบพร้อมรอยยิ้ม “พระชายาทรงกล่าวว่า อีกครู่กุ้ยเฟยก็จะทรงฟื้นขึ้นมาแล้วเพคะ” เมื่อฮ่องเต้หย่งอันได้ยินเช่นนั้น ก็มองไปที่เสิ่นหรูโจว “ตอนนี้ ของเหลวที่คั่งค้างอยู่ในท้องของกุ้ยเฟยถูกกำจัดไปแล้ว อาการเลือดออกหลังการคลอดก็คงที่แล้ว ยามนี้เพียงแค่ร่างกายอ่อนแออยู่บ้างเท่านั้น อีกครู่ก็จะทรงฟื้นขึ้นมาเพคะ” “องค์ชายน้อยคลอดก่อนกำหนด ร่างกายจึงอ่อนแออยู่บ้าง แต่ขอเพียงบำรุงให้ดีก็จะสามารถแข็งแรงขึ้นมาได้อย่างแน่นอนเพคะ” บนใบหน้าของนางมีรอยยิ้ม มองไปยังฮ่องเต้หย่งอันด้วยดวงตากระจ่างใส “ลูกพูดได้ทำได้ ปลอดภัยทั้งมารดาและบุตรเพคะ” ฮ่องเต้หย่งอันมีรอยยิ้มเต็มใบหน้า “ดี! ชายาของอ๋องอู่เฉิง มีทักษะการแพทย์เลิศล้ำจริงๆ!”เป่ยซิวเยี่ยนมองคิ้วตาที่ประณีตงดงามของหญิงสาว ริมฝีปากโค้งขึ้นอย่างเบาบางจิตใจที่เป็นกังวลของเซียวเฉินเหยี่ยนก็วางลงได้ในที่สุดเช่นกัน ความมืดหม่นในดวงตาสลายไปไม่น้อยมุ่หว่านหรงมองไปทางโจวอี๋เจี่ยนด้วยสีหน้าแข็งเกร็ง เมื่อเห็นโจวอี๋เจี่ยนส่ายหน้า นางก็กัดฟันอย่างแรง สีหน้าไม่น่ามองอย่างยิ่งรอย
โจวอี๋เจี่ยนเหลือบมองมู่หว่านหรงครั้งหนึ่ง แอบแค้นที่นางเพื่อเอาตัวรอด ได้กันตัวเองออกไปแล้ว ไม่สนใจความเป็นตายของเขาเลย!คิ้วของเซียวเฉินเหยี่ยนก็ขมวดแน่นเช่นกัน มู่หว่านหรงเป็นชายารองของเขา และเป็นผู้มีพระคุณของเขา อีกอย่างเรื่องนี้แม้แต่เขาก็เชื่อผิดไป แล้วนับประสาอะไรกับนาง “เสด็จพ่อ หว่านหรงเลอะเลือนไปชั่วขณะ เชื่อคำพูดของนักพรตหลิงเซียว ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่รู้ความจริงจึงได้ช่วยเขาพูดไปสองสามประโยค แต่มิได้ทำร้ายกุ้ยเฟย ขอเสด็จพ่อโปรดทรงอภัย วันหลังนางจะต้องควบคุมคำพูดและการกระทำของตนแน่พ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้หย่งอันขมวดคิ้ว กวาดตามองเขาอย่างไม่พอใจทีหนึ่ง แต่ถึงที่สุดแล้วนางก็ไม่ได้มีส่วนร่วมในเรื่องนี้จริงๆ สุดท้ายจึงยอมปล่อยไปว่า “ช่างเถอะ ครั้งนี้จะอภัยให้เจ้า วันหลังเจ้าจงระวังวาจาและการกระทำให้จงดี” มู่หว่านหรงราวได้รับการอภัยโทษครั้งใหญ่ “เพคะ เพคะ!”ฮ่องเต้หย่งอันมองโจวอี๋เจี่ยนที่อยู่บนพื้นอย่างเย็นชา มู่หว่านหรงสามารถอภัยได้ แต่โจวอี๋เจี่ยนกล่าววาจาโคมลอยแต่งเรื่องหลอกลวงครั้งใหญ่ มีความผิดไม่อาจให้อภัย!เขากล่าวด้วยสีหน้าน่ายำเกรงว่า “แม้แต่ทายาทราชวงศ์มีกี่คน เจ้าก