นางกำนัลสองนางก้าวเข้ามาทันที“ผู้ใดกล้า!” เสิ่นหรูโจวคำรามเสียงต่ำ ใบหน้าอันงดงามฉายพลังอันเฉียบคมออกมา“ข้าตีท่านหญิงเจียหนิงก็จริง ทว่าที่ข้าตีนาง ก็เพราะนางสมควรถูกตี!”เซียวจิ่นซีโมโหจนขึ้นเสียงด่าทอ อาศัยโอกาสที่ยืนขึ้นมา ตำหนิว่า “ไร้ยางอายนัก! ที่สมควรถูกตีคือเจ้า! วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้ลิ้มลองความเจ็บปวดดูบ้าง! ลงมือ!”เต๋อเฟยเกลี้ยกล่อมว่า “จิ่นซี เหตุใดต้องทำถึงเพียงนี้ อย่าทำลายความกลมเกลียวในครอบครัวเลย” ทว่านางกำนัลยังคงก้าวเข้ามาเพื่อจะกดตัวเสิ่นหรูโจวไว้ เสิ่นหรูโจวผลักนางกำนัลออกไป สายตามองไปที่เซียวจิ่นซี“องค์หญิงใหญ่ ข้าก็คิดว่าคนครอบครัวเดียวกันควรสมัครสมานโชคลาภจึงจะบังเกิด แต่คิดไม่ถึงว่าองค์หญิงจะไม่ยอมปล่อยวางเยี่ยงนี้ เมื่อเป็นเช่นนี้ข้าก็จะไม่เกรงใจแล้ว” “วันนี้ที่จวนอ๋องถูกลอบสังหาร ฉินอวี่ องครักษ์ของผู้สำเร็จราชการได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังท่านหญิงทราบก็ร้อนใจดั่งไฟเผา คิดว่าข้าเป็นคนทำร้ายชายในดวงใจของนาง ดังนั้นจึงได้ไปเอาเรื่องกับข้าที่จวนอ๋อง” “ไม่ถามไถ่อะไรก็จะใช่แส้โบยข้า ต่อมาก็กล่าววาจาอย่างไร้ขอบเขตล่วงเกินท่านผู้สำเร็จราชการอีก บอกว่าข้ามี
“มีฐานะเป็นถึงพระชายา แต่กลับไปเกี่ยวพันข้องแวะกับบุรุษอื่น ไร้ยางอายไร้คุณธรรม ต่อให้ประหารเจ้าซะก็ยังไม่เพียงพอ! ตอนนี้ข้าจะสั่งสอนเจ้าด้วยตัวเอง ให้เจ้ารู้ว่าสิ่งใดเรียกว่ายางอาย!”เซียวจิ่นซีพลันยกมือขึ้นมาแววตาของเสิ่นหรูโจวขรึมลง ยังไม่ทันได้ลงมือ เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาจากเบื้องหลังของนางอย่างกะทันหัน“หยุดนะ”ฝ่ามือของเซียวจิ่นซีหยุดชะงักอยู่กลางอากาศ มองไปยังผู้ที่มาก็เห็นเซียวเฉินเหยี่ยนสาวเท้าเข้ามาจากนอกตำหนักใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาปกคลุมไปด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ดวงเนตรสีนิลทั้งคู่เปล่งประกายเจิดจ้า แหลมคมราวอินทรี ในยามที่เดินผ่านเสิ่นหรูโจว สายตาก็กวาดผ่านใบหน้าหยิ่งทระนงของนางอย่างเย็นชาเซียวจิ่นซีเห็นว่าเซียวเฉินเหยี่ยนมาแล้ว ก็สะกดกลั้นเพลิงโทสะไว้ชั่วขณะ ค้อนส่งหรูโจวอย่างรุนแรงทีหนึ่ง จากนั้นเก็บมือกลับไปอย่างไม่ยินยอมพร้อมใจ“เฉินเหยี่ยน ในที่สุดเจ้าก็มาแล้ว” เต๋อเฟยเข้าไปต้อนรับก่อนด้วยสีหน้าเป็นกังวล“เสด็จแม่ เสด็จพี่” เซียวเฉินเหยี่ยนแสดงความเคารพ สีหน้าอึมครึมอยู่บ้างเมื่อครู่เขาอยู่ด้านนอก ได้ยินเสด็จพี่พูดว่าเสิ่นหรูโจวกับเป่ยซิวเยี่ยนมีลับลมคมในต่อกัน
เต๋อเฟยขมวดคิ้วเสิ่นหรูโจวเบิกตากว้างอย่างคาดไม่ถึง หันกลับไปมองเซียวเฉินเหยี่ยน ในใจพลันเริงร่าขึ้นมาไม่คิดว่าการปะทะกับศัตรู กลับรอจนได้ยินศัตรูพูดคำนี้ได้ ช่างเป็นความน่ายินดีที่ตกลงมาจากฟ้าจริงๆ!รีบหย่านางเถอะ!ม่านตาของเซียวเฉินเหยี่ยนหดตัวลงเล็กน้อย ริมฝีปากบางเม้มแน่นจนเป็นเส้นเดียวกัน เห็นได้ชัดว่าก็คาดไม่ถึงเช่นกันรอยยิ้มบนใบหน้าของเซียวจิ่นซีราบเรียบ“รอจนหย่านางทิ้งแล้ว พี่จะไปขอให้เสด็จพ่อพระราชทานสมรสให้ มอบรั่วหานให้เป็นพระชายาของเจ้า” ตัวนางในยามนี้มีความโปรดปรานจากเสด็จพ่อ มีอำนาจสูงเทียมฟ้า ในช่วงเวลานี้มีหน้ามีตาไร้ผู้ใดเทียบ แต่ภายภาคหน้าเมื่อราชบัลลังก์เปลี่ยนคนนั่ง สถานการณ์จะเป็นเช่นใด ก็ยากที่จะบอกแล้วหากนางจะสนับสนุนเขาให้ได้ครองบัลลังก์ จำต้องแอบส่งคนไปอยู่ข้างกายเขาอย่างลับๆ จำนวนหนึ่ง เพื่อสะดวกในการควบคุมเขาในอนาคตเซียวรั่วหานเป็นลูกสาวบุญธรรมของนาง เคารพนางเสมอมา ซื่อสัตย์ภักดี เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในห้องพลันเงียบงันลง เซียวเฉินหยี่ยนมิได้รับคำของเซียวจิ่นซี เหลือบมองเสิ่นหรูโจวด้วยดวงตาสีนิลที่ลึกล้ำเสิ่นหรูโจวก็จ้องเขาอย่างไม่ละ
ชาติก่อน เซียวเฉินเหยี่ยนไม่ผิดต่อผู้ใด แต่กลับผิดต่อนางเพียงคนเดียว นางเลิกคาดหวังในตัวเขาไปนานแล้วนอกจากนี้ เขาก็ไม่มีทางช่วยนาง แต่ไรมาเขาชื่นชอบเพียงการทรมานนางเท่านั้นเต๋อเฟยมองเสิ่นหรูโจวด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นตามไปส่งเซียวเฉินเหยี่ยนสุดท้าย เสิ่นหรูโจวยังคงตกอยู่ในมือของเซียวจิ่นซีเซียวจิ่นซีค่อยๆ เดินมาที่เบื้องหน้าของเสิ่นหรูโจว มองนางอย่างผู้เหนือกว่าอย่างเย็นชา มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นอย่างได้ใจ“เสิ่นหรูโจว ในเมื่อเซียวเฉินเหยี่ยนไม่หย่าเจ้า ข้าย่อมมีวิธีการสั่งสอนเจ้า! หากเจ้าไม่มีทายาท ดูว่าเจ้าจะปักหลักอยู่ในจวนอ๋องได้อย่างไร ถึงเวลานั้น ต่อให้เจ้าไม่อยากถูกหย่าก็เป็นเรื่องยาก!”“ใครเข้ามา” เซียวจิ่นซีเชิดคางขึ้นเล็กน้อย ริมฝีปากแดงเฉิดฉันราวโลหิตแย้มออกอย่างเย็นชา “ประทานยาขับโลหิต!”สีหน้าของเสิ่นหรูโจวแปรเปลี่ยนเป็นเย็นชาทันทีขับโลหิตเป็นยาพิษชนิดหนึ่ง ฤทธิ์ยารุนแรงอย่างยิ่ง หลังจากดื่มแล้ว ไม่เพียงตลอดชีวิตไม่อาจตั้งครรภ์ ยังสร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับร่างกาย เพียงไม่กี่ปีก็จะพลังชีวิตเหือดแห้งสุดท้ายจนสิ้นลมเซียวจิ่นซีผู้นี้ลงมืออำมหิตนัก!มองเพ
ขันทีน้อยรีบกล่าวว่า “ฝ่าบาทกับท่านผู้สำเร็จราชการเสด็จมาขอรับ!”อะไรนะ!เสด็จพ่อกับเป่ยซิวเยี่ยนกับเจ้ามารร้ายเป่ยซิวเยี่ยนมาด้วยกันแล้ว?สีหน้าของเซียวจิ่นซีเปลี่ยนไปในทันที ตะคอกเสียงเบา “รีบเก็บของไปเร็ว!”หากให้เสด็จพ่อ โดยเฉพาะผู้สำเร็จราชการเห็นภาพนี้เข้า เรื่องคงไม่จบง่ายๆนางกำนัลรีบปล่อยเสิ่นหรูโจว วางยาน้ำลงในกล่องอาหาร จากนั้นยกกล่องอาหารไปวางไว้ในมุมที่ไม่สะดุดตาในที่สุดเสิ่นหรูโจวก็ถูกปล่อยตัว อดไม่ได้ที่จะไอแห้งๆ ออกมาสองสามครั้งนางมองนางกำนัลเอายาน้ำถ้วยนั้นไปซ่อนไว้อย่างเย็นชา โค้งริมฝีปากเป็นรอยยิ้มเย็นชายามนี้ เซียวจิ่นซีจัดเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว สายตาอันเหี้ยมโหดมองไปที่เสิ่นหรูโจว แค้นที่ตอนนี้ไม่อาจกับจัดการนาง!นางคว้าคอเสื้อของเสิ่นหรูโจวขึ้นมา ดึงคนมาอยู่เบื้องหน้าสายตา จากนั้นกล่าวเตือนว่า“ทางที่ดีที่สุดเจ้าอย่าได้พูดจาเหลวไหล ไม่เช่นนั้นข้าจะให้เจ้าตายโดยไร้ที่ฝัง!”พอกลบฝังฟังดูเหมือนขยะเลย ^^!เสิ่นหรูโจวมองเซียวจิ่นซีด้วยดวงตาเจิดจ้า สีหน้าไม่แยแส ค่อยๆ แกะนิ้วของนางออก กล่าวอย่างราบเรียบว่า“องค์หญิง รีบไปรับเสด็จเถิด!”แม้ในใจของเซียวจิ่นซ
“พระชายาของอ๋องอู่เฉิง การตรวจรักษาให้กุ้ยเฟยในอีกสองวันข้างหน้า เตรียมการไปถึงไหนแล้ว?”เสิ่นหรูโจวประหลาดอยู่บ้าง เป่ยซิวเยี่ยนถึงกับพูดเรื่องนี้ขึ้นมาต่อหน้าฮ่องเต้ นางพยักหน้า “สามารถทำการรักษาได้ทุกเวลาเพคะ” ฮ่องเต้หย่งอันมองที่เสิ่นหรูโจว กล่าวด้วยน้ำเสียงประหลาดใจเล็กน้อยว่า“อ้อ ชายาของอ๋องอู่เฉิงจะรักษาอาการป่วยให้กุ้ยเฟยหรือ” หัวคิ้วของเต๋อเฟยพลันขมวดเข้าหากันกุ้ยเฟยค่อนข้างได้รับความรักจากฮ่องเต้ เป็นสนมที่ได้รับความโปรดปรานที่สุด แต่อาการป่วยของนางมีความพิเศษ ทั่วทั้งสำนักหมอหลวงล้วนรักษาไม่หาย แล้วบุตรีจากภริยาเอกของแม่ทัพจะรักษาได้อย่างไร?และต่อให้เสิ่นหรูโจวมีความสามารถนั้นจริง จะรักษาให้ใครก็ไม่ควรรักษาให้กุ้ยเฟย! ปล่อยให้นางทรมานจนตายจึงจะดี!“หรูโจวรู้เรื่องการแพทย์เพียงแค่ผิวเผินเท่านั้น พี่กุ้ยเฟยตั้งครรภ์มังกร อาการป่วยมีความพิเศษ ให้นางไปรักษาอาการให้กุ้ยเฟยเกรงว่าจะไม่เหมาะ” สายตาอันลึกล้ำของฮ่องเต้หย่งอันกวาดมองใบหน้าที่อ่อนเยาว์และงดงามของเสิ่นหรูโจวรอบหนึ่งเซียวจิ่นซีก็รีบกล่าวสนับสนุนว่า “เสด็จพ่อหาหมอมีชื่อเสียงมามากมาย ก็ยังไม่สามารถรักษาอากา
สีหน้าของเสิ่นหรูโจวไม่เปลี่ยนแปลง “ที่ข้ารักษาอาการป่วยให้กุ้ยเฟย มิใช่เพราะต้องการเป็นจุดสนใจ แต่เพราะท่านผู้สำเร็จราชการเป็นผู้ร้องขอมา!”สีหน้าของเป่ยซิวเยี่ยนเรียบเฉย รับคำด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า“เป็นกระหม่อมเสนอให้พระชายาของอ๋องอู่เฉิงเป็นผู้รักษาอาการป่วยให้กุ้ยเฟยจริงๆ พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมเคยเห็นพระชายาช่วยชีวิตผู้ที่ใกล้ตายด้วยตนเอง วิชาแพทย์สูงส่งยิ่ง ดังนั้นจึงเสนอไปเช่นนั้น เพื่อแบ่งเบาความกังวลพระทัยของฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ” จิตใจของเต๋อเฟยพลันหนักอึ้ง สบตากับเซียวจิ่นซีครั้งหนึ่ง คนทั้งคู่ต่างไร้คำพูดแล้วเป่ยซิวเยี่ยนมีน้ำหนักมากเพียงใดต่อฮ่องเต้หย่งอัน เขาเป็นผู้แนะนำให้เสิ่นหรูโจวรักษาอาการป่วยให้กุ้ยเฟย ต่อให้ฮ่องเต้หย่งอันจะลังเลเพียงใด ก็ไม่มีทางพูดอะไร นอกจากนี้ วาจาของเป่ยซิวเยี่ยนกล่าวได้น่าฟังถึงเพียงนี้ แล้วยังจะมีผู้ใดขัดขวางได้อีก?“ผู้สำเร็จราชการเคยกล่าวไว้จริงๆ ว่า พระชายาของอ๋องอู่เฉิงวิชาแพทย์ไม่เลว ให้ชายาของอู่เฉิงอ๋องลองดูก็ไม่เสียหายอะไร” ฮ่องเต้หย่งอันยิ้มจางๆ ให้เสิ่นหรูโจวอย่างหาได้ยาก น้ำเสียงก็อ่อนโยนลงไม่น้อย“กุ้ยเฟยกำลังตั้งครรภ์ ยามรักษาอา
“เสด็จพ่อ ทรงดูสิเพคะ ยาน้ำนี้เป็นยาบำรุงชั้นยอด ข้างในไม่เพียงมีโสม หลินจือ และสมุนไพรล้ำค่าต่างๆเท่านั้น ยังมีความปรารถนาดีที่องค์หญิงมีต่อกุ้ยเฟยเหนียงเหนียงด้วยนะเพคะ!”“รีบนำไปให้กุ้ยเฟยเหนียงเหนียงดื่มเถิดเพคะ ไม่แน่ว่า เพียงครู่เดียวอาการป่วยของกุ้ยเฟยเหนียงเหนียงก็จะหายเป็นปลิดทิ้งแล้ว!”คิ้วของเป่ยซิวเยี่ยนเลิกสูงกว่าเดิมแล้ว เห็นเสิ่นหรูโจวแย้มยิ้มราวสุนัขจิ้งจอกตัวน้อย ประกอบกับท่าทางอมพะนำเช่นนั้นขององค์หญิงใหญ่ เพียงครู่เดียวก็เดาได้ว่ายานี้ต้องไม่ใช่ของดีอะไรอย่างแน่นอน“อย่าได้ปล่อยไว้นานจนสูญเสียประสิทธิภาพไป ฝ่าบาท ทรงย้ายไปประทับที่ตำหนักกุ้ยเฟยในยามนี้เถิดพ่ะย่ะค่ะ จะได้ไม่ผิดต่อความตั้งใจขององค์หญิง” ฮ่องเต้หย่งอันกล่าวอย่างพึงพอใจว่า “จิ่นซีเด็กคนนี้เป็นพวกภายนอกเย็นชาแต่จิตใจอบอุ่น ไปไปไป ตามข้าไปเยี่ยมกุ้ยเฟยด้วยกัน” สีหน้าของเซียวจิ่นซีซีดขาวเหมือนกระดาษ เหงื่อไหลไม่หยุด รีบยับยั้งว่า “เสด็จพ่อ จะทรงไปเยี่ยมกุ้ยเฟยก็ไม่จำเป็นต้องรีบไปเวลานี้ ทรงเพิ่งมาถึงตำหนักเสด็จแม่ จะอย่างไรก็ควรประทับที่นี่สักครู่นะเพคะ” เมี่อได้ยินเช่นนั้น ฮ่องเต้หย่งอันก็ลังเลเล็