หรือเมื่อวันใดที่เขาไม่ได้ออกไปทำงานนอกจวน นางก็จะทำอาหารหรือขนมหรือไม่ก็ผลไม้ที่เขาชื่นชอบยกมาให้เขาถึงที่ห้องหนังสือ หรือในห้องนั่งเล่นที่เขานั่งอยู่ พร้อมกับป้านน้ำชาที่นางรู้ว่าเขาชอบจิบมัน และนั่นทำให้เริ่มมีเสียงกระซิบกระซาบกันในหมู่สาวใช้และบ่าวบางคนว่าคุณหนูต้วนผู้นี้ทำตัวดังเช่นจะเข้ามาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพกระนั้น เพราะทุกคนต่างรู้ว่านางคือบุตรสาวของรองแม่ทัพต้วนที่หาชีวิตไม่แล้ว
ทำให้ท่านแม่ทัพจางรับบุตรสาวของเขามาอุปการะ แต่คุณหนูต้วนที่ทั้งงดงามปานจะล่มเมืองและอยู่ในวัยสาวสะพรั่งก็ทำตัวรู้คุณเกินหน้าที่ คล้ายกับว่านางอยากจะขยับฐานะจากหลานสาวมาเป็นภรรยาของแม่ทัพจางกระนั้น นางปรนนิบัติใกล้ชิดเขาจนเกินงาม และแม่ทัพหนุ่มก็ได้ยินเสียงซุบซิบนั่น และเขาเองก็รู้ดีแก่ใจว่าหลานสาวนอกไส้ผู้นี้ทำตัวเกินเลยไปจนเป็นที่ครหาของคนในจวน
แม่ทัพหนุ่่มนอนครุ่นคิดอยู่หลายคืน ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบการปรนนิบัติเช่นนี้ของหลานสาว นางทำได้ดีไม่มีที่ติ และดูแลเขาดีมากอย่างที่ไม่เคยมีสตรีใดดูแลเขาได้ดีเช่นนี้มาก่อน และนางทำให้เขาคิดถึงอวี้ชางขึ้นมาจับใจ และเขาคงจะปล่อยให้เป็นเช่นนี้ไม่ได้แล้ว แม่ทัพจางนั้นได้คบหากับคุณหนูเหลียนซิงซิงแต่ก็แค่ในแบบที่มากกว่าสหายไปเล็กน้อย ไม่ถึงกับยอมรับกับใครๆว่าเขานั้นคบหากับนางฉันท์คนรัก แต่เรื่องของเยว่ชิงทำให้เขากลับมาทบทวนเรื่องของซิงซิงเสียใหม่ หรือว่าเขาจะต้องเปิดตัวคบหากับซิงซิงฉันท์คนรัก และถ้าจะให้ดีกว่านั้นก็ควรจะหมั้นหมายกับนางเสีย เพื่อจะได้มีข้ออ้างว่าเขานั้นก็มีคู่หมั้นหมายที่อีกไม่นานก็จะแต่งงานกันแล้ว
จะได้ไม่มีผู้อื่นครหาหลานสาวในอุปการะของเขาว่ามีอะไรเกินเลยกับท่านอา แม้จะไม่ใช่อาจริงๆแต่ก็เป็นผู้ที่อุปการะนางฉะนั้นจึงไม่เหมาะสมสักนิดที่นางจะเหมือนคิดอะไรเกินเลยกับเขา แม่ทัพหนุ่มนั้นแม้จะยอมรับกับตนเองว่าเขานั้นเริ่มหวั่นไหว หวั่นไหวมากด้วย เพราะเยว่ชิงนั้นเหมือนกับอวี้ชางมากเกินไป และเขานั้นชอบสตรีเช่นเดียวกับอวี้ชาง แม้รูปลักษณ์ไม่ใช่ แต่นิสัยใจคอและสิ่งอื่นมันดูคล้ายกันจนเกินไป ทำให้เขาแม้จะตั้งป้อมกางกั้นนางเอาไว้เพียงใด
มันก็อดที่จะพังทะลายอย่างง่ายดายไม่ได้ และหลายวันมานี้มันพังทะลายไปหลายครั้งแล้ว เพียงแต่เขารักษากิริยาเอาไว้ ไม่ยอมแสดงออกให้ผู้อื่นรู้เพียงเท่านั้น
และเมื่อคิดถึงการคบหาหรือหมั้นหมายกับเหลียนซิงซิงฉันท์คนรักเพื่อกันข้อครหาแล้ว พร้อมกันนั้นเขาก็จะมองหาบุรุษดีๆให้กับหลานสาวอีกด้วย นางจะได้รู้จักกับบุรุษหลายๆคนเผื่อเอาไว้ เพราะนางเป็นสตรีในห้องหอที่ยังอ่อนเยาว์ ไม่ประสายังไม่เคยพบปะกับบุรุษมากมายนัก นางอาจจะหวั่นไหวไปกับเขา เกิดหลงรักเขาเพราะเห็นว่าเขาดีกับนางเพียงเท่านั้น และอีกอย่างนางคงจะว้าเหว่เพราะบิดาเพิ่งจะเสียไปไม่นานนัก นางจึงคิดจะยึดถือเขาไว้ แม้เขาเองไม่ได้รังเกียจนางแต่ด้วยวัยและด้วยฐานะนั้นไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง และเขานั้นก็เกรงคำครหาอีกด้วย
“ เยว่เอ๋อ อาจะพาเจ้าไปงานเลี้ยงที่บ้านสหายของอานะ แต่จะเรียกว่าสหายก็คงไม่ถูกต้องนัก นางเป็นสตรีที่อากำลังคบหาดูใจเพื่อจะหมั้นหมายนางในอีกไม่นานนี้ นางเป็นคนกว้างขวางไม่น้อย หากอาพาเจ้าไปงานเลี้ยงบ้านนาง คุณหนูเหลียนซิงซิงผู้นี้ก็คงจะแนะนำสหายใหม่ๆให้เจ้าได้รู้จัก และเจ้าเองก็จะได้พบปะสหายวัยเดียวกันกับเจ้ามากมายอีกด้วย ดีไหม ต่อไปจะได้ไม่เงียบเหงาอยู่แต่ในจวน ” แม่ทัพจางหย่งเล่อเอ่ยขึ้นในเช้าวันหนึ่งที่นั่งกินอาหารเช้าด้วยกัน ทำเอาเยว่ชิงชะงักมือที่กำลังจะคีบอาหารใส่ชามข้าวของตนเอง
นางนิ่งคิดครู่หนึ่ง พี่หย่งเล่อกำลังคบหาดูใจกับสตรีอื่นอยู่เช่นนั้นหรือ และเขากำลังจะหมั้นหมายคุณหนูเหลียนผู้นั้น คนที่นางเองก็รู้จักเพราะสตรีผู้นั้นเป็นน้องสาวของสหายของพี่ชายของนางหรืออวี้ชางในอดีต นางอยู่กับแม่ทัพหนุ่่มมาหลายเดือนแล้วแล้วไม่เคยเห็นสตรีใดเข้ามาหาเขาในจวน จึงคิดว่าเขายังไม่ได้เปิดใจคบหากับผู้ใดเสียอีก แต่ที่จริงแล้วเขาคบหาสตรีอื่นแล้วเช่นนั้นหรือ ใบหน้างดงามของเยว่ชิงหมองลงเล็กน้อย และนั่นยังไม่เท่ากับสิ่งที่ได้ยินต่อมา เขากำลังจะหมั้นหมายกับสตรีผู้นั้นเช่นนั้นหรือ นางเงยหน้าจ้องใบหน้าของอดีตชายคนรักเพื่อค้นหาความรู้สึกของเขาว่าเป็นเช่นใด
แม้นางจะกลับมาเกิดใหม่แล้วก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะเลือกที่จะรักคนเดิม เยว่ชิงเดินเล่นอยู่ในสวนที่กว้างขวางของจวนแม่ทัพอย่างไม่มีจุดหมาย นางเดินไปเรื่อยๆ เพื่อครุ่นคิดทำใจเรื่องอดีตคนรักที่เขาเพิ่งบอกกับนางว่ากำลังจะหมั้นหมายกับสตรีอื่น เมื่อเดินวนเวียนอยู่ในสวนเพื่อครุ่นคิดทบทวนตัวเองจนคิดได้ และตกลงใจว่าจะเลิกทำตัววุ่นวายกับอดีตคนรักที่ปัจจุบันนางต้องยอมรับให้ได้ว่าเขาไม่ใช่คนรักของนางอีกต่อไปแล้ว และเมื่อเขาต้องการเริ่มต้นใหม่กับคนอื่น นางควรจะส่งเสริมให้เขาได้ทำเช่นที่ใจของเขาต้องการ นางก็เคยพบสตรีคนนั้นที่ดูแล้วก็เป็นสตรีที่ทันสมัย ปราดเปรียวน่ารัก และนิสัยก็คงจะดีไม่น้อย เยว่ชิงยืนพิงก้อนหินก้อนใหญ่ที่ใช้ตกแต่งในสวนแห่งนี้ แล้วค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งพิงมันเอาไว้ แล้วปล่อยโฮออกมาอย่างสุดที่จะกลั้นมันเอาไว้ นางอยากจะร้องไห้เสียให้พอ ร้องให้สาแก่ใจ เพื่อที่ต่อไปนางจะไม่ร้องไห้ให้กับอดีตคนรักที่ต่อไปนี้ไม่ใช่คนที่นางควรจะรักอีกแล้ว เยว่ชิงยกมือขึ้นเช็ดน้ำตาที่ไหลรินอยู่สองข้างแก้มแล้วก็พยายามหยุดสะอื้นไห้ นางคิดได้แล้ว ต่อไปนางจะทำตัวเสียใหม่ ทำตัวเป็นแค่หลานสาวในอุปการะของเ
เขาจึงได้ลุกออกไปเพื่อสอดส่องดูนางกับชายผู้นั้น แต่ไม่ได้เข้าไปในศาลา เพียงแอบมองอยู่ด้านนอก เพื่อจับผิดสตรีในศาลานั่นว่าทำตัวไม่เหมาะสมหรือไม่ ยิ่งเขาเห็นสายตาที่เจ้าหมอนั่นจ้องมองมาที่นี่นางมันดูแวววาวผิดปกติ หรือเจ้าหมอนั่นพึงใจนาง จึงได้หาเรื่องมาจ้างให้นางวาดภาพ จิตรกรอื่นก็มีออกจะมากมาย ใยจึงมาจ้างงานสตรีเช่นนางที่ไม่ได้มีชื่อเสียงมากมายอะไร เขาพลันรู้สึกไม่ค่อยพอใจนัก อาชีพอื่นก็มีออกจะมากมาย และนางนั้นก็ไม่จำเป็นต้องทำงานเลี้ยงชีพอีกด้วย เขาเองก็พอมีเงินทองเลี้ยงดูนางให้สุขสบายไม่ต้องทำงานสิ่งใดทั้งสิ้นเพียงอยู่เป็นคุณหนูในจวนแม่ทัพเช่นนี้ ทำไมต้องทำงานหาเงินด้วย เขาเองก็ไม่เข้าใจนางนัก แต่คงจะต้องเรียกมาพูดกันให้รู้เรื่องว่านางทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกัน เมื่อนางไม่ยอมเหยียบย่างมาที่เรือนของเขาเลย แม่ทัพหนุ่มจึงจำต้องไปหานางที่เรือนของนางแทน “ เยว่เอ๋อ เหตุใดถึงไม่ไปกินข้าวกับอาที่เรือน แล้วหมู่นี่เจ้าทำตัวแปลกๆไปนะ ทำไมไม่ไปที่เรือนของอาบ้าง หรือเคยทำสิ่งใดก็ทำไปจะมีใครกล้าปากมากมาว่าเจ้า หากผู้ใดในจวนนี้ว่ากล่าวเจ้าก็บอกอามา อาจะจัดการให้ ” เขาบอกกับนางเช่นนั้
“ ขอบคุณท่านอามาก แต่ข้าขึ้นเองได้เจ้าค่ะ ” แล้วเย่ว์ชิงก็พยายามเดินขึ้นไปด้วยตนเอง นางไม่อยากจะให้มือของนางสัมผัสกับมือของเขา เพราะตอนนี้นางทำใจเรื่องของเขาได้มากแล้ว นางไม่อยากจะรื้อฟื้นความรู้สึกเจ็บปวดนั่นขึ้นมาอีก แม่ทัพหนุ่มรู้สึกเสียหน้าเล็กน้อยที่หลานสาวไม่ยอมส่งมือของนางมาวางบนมือของเขาเพื่อช่วยพยุงตัวของนางขึ้นไปบนรถม้า นางรังเกียจเขาถึงขนาดนี้เลยหรือ แม่ทัพหนุ่มครุ่นคิดขณะที่เขาเดินตามหลังนางเข้าไปนั่งในรถม้า และทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับนาง แต่แม่ทัพหนุ่มก็ไม่ปริปากอะไร เขาเพียงชำเลืองนางเล็กน้อยวันนี้นางงามมาก งามจนเขาตะลึง เขาแน่ใจมากว่านับจากวันนี้จวนแม่ทัพของเขาคงจะไม่ว่างเว้นจากแม่สื่ออย่างแน่นอน รถม้ายังคงแล่นไปเรื่อยๆ มุ่งตรงไปจวนคหบดีเหลียนที่อยู่ค่อนไปทางนอกเมืองเล็กน้อย เพราะจวนนี้เป็นจวนใหม่ที่สร้างขึ้นมาใหม่อีกหลังของเขา ที่หลังใหญ่กว่าเดิมพื้นที่กว้างขวางกว่าเดิมมาก คุณหนูเหลียนบุตรสาวเพียงคนเดียวของเขามักจะใช้ที่นี่เป็นที่จัดงานเลี้ยงรื่นเริงเพราะบรรยากาศดี สวนกว้างขวางที่ตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงามมากนั้น เหมาะแก่การจัดเลี้ยงในสวนทั้งยามบ่ายและยามค่ำคืนที่มองเห็น
“ อ้าว !! นั่นคุณชายเสิ่นใช่หรือไม่ ท่านมาตั้งแต่เมื่อใดกัน ไม่ได้พบกันเสียนาน ท่านพ่อบ่นคิดถึงท่านมาก หากว่างแล้วก็แวะไปหาท่านพ่อที่จวนบ้างนะเจ้าคะ ” คุณหนูเหลียนหันไปเห็นสหายรุ่นน้องของบิดา เขาแม้จะหนุ่มแน่นมีวัยมากกว่านางเพียงแค่ไม่กี่ปี แต่ก็เก่งกาจทางการค้าหาตัวจับยาก แม้แต่บิดาก็ชมเชยเขาอยู่บ่อยครั้ง คุณชายเสิ่นเดินเข้ามาร่วมวงสนทนาเขายิ้มกว้างให้กับคุณหนูเหลียนซิงซิง แล้วหันไปคารวะท่านอ๋องกับพระชายาและทักทายแม่ทัพจางและหันมาจ้องมองคุณหนูต้วนเยว่ชิงอย่างพินิจและจ้องมองนางอย่างตะลึงงันไปครู่หนึ่ง ใบหน้าคร้ามคมของเขามีสีแดงระเรื่อเมื่อรู้สึกกว่าตนเองนั้นจ้องมองนางนานไปหน่อย “ คุณหนูผู้นี้มีนามว่าอะไร เราเคยพบกันหรือไม่ ” เขาถามนาง พร้อมกับสายตาที่เปลี่ยนเป็นหวานฉ่ำยามจ้องมองใบหน้าหวานของเยว่ชิงอย่างพึงใจ เยว่ชิงยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร “ คงไม่เคยพบกันหรอกเจ้าค่ะ ข้ามีนามว่าต้วนเยว่ชิง เป็นบุตรสาวของรองแม่่ทัพต้วน แต่บิดาของข้าเสียชีวิตไปแล้ว ” นางบอกกับเขาไปตามตรง“ เจ้าพักอยู่ในเมืองหลวงนี้หรือ เหตุใดข้าถึงไม่เคยพบเจ้าเลย ” เขายังคงใคร่รู้เรื่องของนาง “ คุณชายเสิ่น ข้าคิดว่า
คืนนั้นแม่ทัพหนุ่มมาดักรอหลานสาวกาฝากของเขาที่ทางเดินระหว่างสวนเพราะนางจะต้องเดินผ่านมาทางนี้เพื่อจะไปที่เรือนของนาง เขายืนอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีร่มเงาของใบไม้บดบังแสงสว่าง ผู้ที่เดินมาตามทางเดินจะไม่ทันสังเกตุเห็นเขาอย่างแน่นอน ผ่านไปครู่ใหญ่นางก็เดินตรงมาทางเขาอย่างไม่รู้ชะตากรรมตนเอง ขณะนี้แม่ทัพหนุ่มเมามายไม่น้อยเพราะเมื่อกลับมาถึงที่จวนแม่ทัพ เขาให้สาวใช้ยกสุรามานั่งดื่มที่หน้าเรือนของเขา เพื่อเฝ้ารอแม่หลานสาวตัวดีให้กลับมา แต่เฝ้ารออยู่นานนางก็ไม่กลับมาเส่ียท่ี เขาจึงได้เดินมารอนางที่ริมทางเดินนี้ คืนนี้หากเขาไม่ได้พูดกับนางให้รู้เรื่อง เขาจะต้องบ้าอย่างแน่นอน ยิ่งเขาเห็นนางใกล้ชิดกับเจ้าคหบดีเสิ่นนั่นหัวใจของเขามันร้อนรุ่มอยากจะตรงไปกระชากนางให้ออกมาจากเจ้าหมอนั่น แต่คงจะทำอย่างนั้นต่อหน้าผู้อื่นมิได้ เขากลั้นใจอดทนไว้ ยิ่งนางมาหายไปที่ใดก็ไม่รู้กับเจ้าหมอนั่น คนที่เพิ่งพบกันเสียด้วยซ้ำ โดยไม่มาขออนุญาติเขาก่อนอีกด้วย หากแม่หลานสาวตัวดีมาถึงจวนเมื่อไหร่เขาจะคิดทบต้นทบดอกกับนางอย่างขั้นเด็ดขาดจนนางไปหาบุรุษที่ไหนอีกไม่ได้เลย เมื่ออยากจะได้สามีนัก เขาก็จะเป็นสามีใ
คืนนั้นทั้งคืนแม่ทัพหนุ่มสุขสมยิ่งนัก ยิ่งกว่าที่เคยกับหญิงคณิกาที่เขาเคยผ่านมา และนางคล้ายกับอดีตคนรักของเขามาก มากจนแทบจะเป็นคนเดียวกัน ทั้งลีลารักที่มีเพียงเขาที่เป็นสามีของนางที่รู้ เขาจะเก็บเยว่ชิงไว้เป็นเมียบำเรอลับ ๆ ของเขา แม้อาจจะดูเห็นแก่ตัวเหลือเกินที่คิดเช่นนี้ แต่เขากับเยว่ชิงนั้นมีวัยที่ต่างกันถึงสิบกว่าหนาว เขาเป็นบุรุษที่เคร่งขรึมและหมกมุ่นกับการงาน จนมิเคยมีตาไว้สนใจสตรีใด เมื่อครั้งได้ใกล้ชิดกับท่านหญิงอวี้ชางจนก่อเกิดเป็นความรักต้องห้าม ที่พวกเขามิอาจหักห้ามใจไม่ให้รักกันได้ จึงได้หนีตามกันไปนั้น เพราะเขารักนางจริงๆ รักนางเพียงผู้เดียว แต่เมื่อสูญเสียนางไป เขาก็เหมือนคนไร้หัวใจไปเลย จนน้องสาวของเขามาพูดเตือนสติเขา จึงได้เริ่มเปิดใจให้กับคุณหนูเหลียนที่นางเป็นฝ่ายเข้ามาหาเขาก่อน และเขาก็รู้สึกผิดที่เป็นฝ่ายทำเหมือนเขามีนางเพียงผู้เดียว ทำให้นางมีความหวัง ทำให้นางปักใจคิดว่าเขาจะต้องไปสู่ขอนางมาเป็นฮูหยินของเขาอย่างแน่นอน แม้มีชายอื่นมาสู่ขอนางก็ปฏิเสธไปเสียหมด แล้วเขาจะทำเช่นไรได้ เมื่อครั้งนี้เขากลับเปิดหัวใจที่เคยบอบช้ำจนมันแทบไม่อาจรักใครได้อีกนั้นใ
หลายวันต่อมาเหลียนซิงซิงมาเยี่ยมแม่ทัพหนุ่มที่จวน ขณะที่แม่ทัพจางหย่งเล่อกับภรรยาในความลับที่มีเพียงบ่าวไพร่ในจวนที่เห็นความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปนี้ แต่เบื้องหน้าก็คือหลานสาวในอุปการะของแม่ทัพจาง กำลังนั่งกินอาหารเช้ากันในห้องโถงหน้าเรือนของแม่ทัพหนุ่ม ทั้งสองต่างผลัดกันคีบอาหารให้แก่กัน บรรยากาศนั้นอวลไปด้วยความรักทั้งสองส่งสายตาหวานฉ่ำให้แก่กัน จนสาวใช้ในเรือนต่างก็พากันรับรู้หมดแล้วว่าบัดนี้ความสัมพันธ์ของอาหนุ่มและหลานสาวบุญธรรมที่งดงามปานจะล่มเมืองผู้นี้ พัฒนากลายมาเป็นยิ่งกว่าคนรักแล้ว เพราะบางวันนางก็เข้ามานอนในห้องนอนของท่านแม่ทัพจาง หากนางไม่มาเมื่อเขาอาบน้ำแล้วก็มักจะสวมเสื้อคลุมที่เขามักจะสวมตอนเข้านอน เดินไปที่เรือนหลังเล็กของหลานสาวคนงามและหายเข้าไปในนั้นทั้งคืน จะเดินกลับมาเข้าเรือนของเขาก็เมื่อฟ้าเริ่มจะสางแล้ว และตอนนั้นก็มีแสงแดดส่องรำไรในสวนกว้างหน้าจวนแม่ทัพแล้ว เขาไม่ได้คิดจะปิดบังซ่อนเร้นแต่อย่างใด บ่าวไพร่ในจวนก็ต่างเห็นประจักษ์ด้วยตาของตนเองแต่ไม่มีใครกล้าปริปากพูดอะไรมาก ได้แต่แอบซุบซิบกันเบาๆ ระหว่างกันเท่านั้นเอง และการแสดงออกต่อคุณหนูต้วนก็เปลี่ย
แถมเมื่อครู่ที่นางออกปากเรื่องการแต่งงานกับเขา พี่หย่งเล่อก็นิ่งฟังอย่างเงียบเฉย ไม่เอ่ยคัดค้านเลยสักคำ เหมือนกับว่าเขาเองก็คิดเช่นเดียวกับคุณหนูผู้นั้น ที่อีกไม่นานก็จะแต่งงานกับนาง รับนางมาเป็นฮูหยินของเขาอย่างถูกต้อง แล้วข้าล่ะ เยว่ชิงผู้นี้ คนที่กลายเป็นของเขาแล้ว ข้าจะกลายเป็นอะไร เมื่อสตรีผู้นั้นเข้ามาเป็นฮูหยินของเขาอย่างถูกต้อง อนุ หรือหญิงอุ่นเตียงเช่นนั้นหรือ ข้าคือท่านหญิงอวี้ชาง แม้กายจะไม่ใช่แต่จิตวิญญาณของข้าคือท่านหญิงอวี้ชาง ไม่ลดตัวลงไปเป็นเพียงอนุหรือหญิงอุ่นเตียงของชายใดหรอก เยว่ชิงยืดตัวขึ้น นางนั่งหลังตรงอย่างมีสง่า ด้วยท่าทีของท่านหญิงคนงามผู้สูงศักดิ์ แล้วก็เอ่ยขึ้นว่า “ ข้าก็ยินดีจะคบหาคุณชายเสิ่นเอาไว้เจ้าค่ะ ข้าคิดว่าเขาเองก็น่าสนใจไม่น้อย และหากคุณหนูเหลียนมีบุรุษคนอื่นที่น่าสนใจก็รบกวนคุณหนูเหลียนช่วยแนะนำกับข้าได้นะเจ้าค่ะ เพราะว่าตอนนี้ข้าเองก็เพิ่งพ้นวัยปักปิ่นมาไม่นานนัก คงจะพอมีโอกาสเลือกอีกสักเล็กน้อย ข้าเป็นสตรีกำพร้า บิดาของข้าก็สิ้นชีวิตไปแล้ว คงต้องเลือกบุรุษที่ดูแลปกป้องข้าได้ แต่ข้าไม่ยอมเป็นอนุหรือหญิงอุ่นเตียงของชายใดหรอกนะเจ้าค่ะ
สองปีผ่านไปเจ้าตัวน้อยๆ ก็เริ่มเติบใหญ่วิ่งวุ่นไปมาในจวนและเผลอเป็นมิได้ต้องวิ่งออกไปนอกสนามและคอยจะวิ่งออกไปที่ประตูจวนตลอดเหมือนอยากจะออกไปเที่ยวเล่นข้างนอก แต่พี่เลี้ยงที่มีสองคนต้องคอยจับตาเอาไว้ มิเช่นนั้นคุณหนูตัวน้อยๆจะวิ่งเร็วจี๋ไปทันที และเขาชอบปีนต้นไม้เป็นชีวิตจิตใจเหมือนได้พันธุกรรมของบิดามาไม่น้อย เขาทำดังเช่นผู้มีวรยุทธ์ที่สามารถปีนป่ายขึ้นไปบนต้นไม้สูงๆ ได้ทั้งๆ ที่ตัวนิดเดียว มารดาต้องคอยห้ามปรามจนเหนื่อยอ่อน ต้องให้ชุ่ยเอ๋อคอยมองและให้พี่เลี้ยงจับตาดูไว้ให้ดี แม่ทัพตัวน้อยนั้นโปรดปรานการเล่นกับองครักษ์ของบิดามาก วิ่งเล่นไล่กันสนุกสนาน และองครักษ์ก็สอนวรยุทธ์ให้แม่ทัพน้อยไปด้วย มารดาที่ตอนนี้จะวิ่งตามเจ้าตัวน้อยก็ไม่ไหวเพราะนางก็ท้องโย้ใหญ่มากใกล้้คลอดอีกคนแล้ว ท่านแม่ทัพจางลุ้นกันอย่างมาก เขาอยากจะได้บุตรสาวตัวอ้วนๆ ที่ผูกผมแกละสองข้าง มาวิ่งเล่นกับพี่ชายของนาง ส่วนพระชายาจาง พาบุตรฝาแฝดสองคนที่โตกว่า และมักจะพามาวิ่งเล่นกันน้องชายที่จวมแม่ทัพจางหลายๆครั้ง เพื่อให้เด็ก ๆ ได้สนิทสนมกันไว้หลังๆ มานี้พระชายากับเยว่ชิงสนิทสนมกันมากขึ้น มักจะนั่งคุยถึงอดีตแ
คุณหนูสาวที่เบื้องหน้าเป็นสตรีในชนชั้นสูง ฐานะร่ำรวย เป็นบุตรสาวของคหบดีที่ร่ำรวยที่สุดในเมืองหลวง เป็นที่หมายปองของบุรุษในวงสังคมชั้นสูงหลายๆคน นางเป็นสตรีที่งดงามเพียบพร้อมคนหนึ่งที่ชายหลายคนไม่อาจจะมองข้ามไปได้ง่ายๆ แต่เบื้องหลังไม่ใช่สาวไร้เดียงสาและบริสุทธิ์ผุดผ่อง นางผ่านชายมาหลายคนแล้ว และยังใช้ความสาวความสวยของนางในการต่อรองผลประโยชน์ทางการค้ามานับครั้งไม่ถ้วน และครั้งนี้ก็เช่นกัน แต่นางก็อดจะยอมรับไม่ได้ว่าครั้งนี้มันช่างสุขสมเหลือเกิน เหลียนซิงซิงพบว่านางหลงรักคุณชายหนุ่มที่แสนจะมีชั้นเชิงชายที่แพรวพราวกว่าบุรุษที่นางเคยผ่านมาไปเสียแล้ว ตอนแรกนางเพียงจะมายั่วเย้าเขาเล่นๆ เห็นเขาคลั่งไคล้อยากได้สตรีผู้นั้นนัก เพราะนางฟังเขารำพันถึงสตรีที่งามปานจะล่มเมืองผู้นั้นจนเบื่อหน่าย ครั้งนี้นางจึงอยากทดสอบเสน่ห์ของตนเองว่าจะสู้สาวน้อยผู้นั้นได้หรือไม่แต่มันกลับกลายเป็นว่านางชักจะหลงรักเสือร้ายอย่างเขาเข้าแล้ว ลีลารักของเขาทำเอานางติดใจเหลือเกิน คุณหนูสาวสวย ผลักคุณชายหนุ่มใหญ่ที่ตอนนี้กลายเป็นสามีหมาดๆ ของนางอีกคน ลงไปใต้ร่างของนางแล้วขึ้นโยกขย่มเขาอย่างเร่าร้อน ทั้งสอ
เมื่อทั้งสองก้าวเข้าไปในห้องที่กว้างขวางไม่น้อย ใหม่เอี่ยมและดูหรูหรามาก ในห้องนี้มีโต๊ะกลมตัวใหญ่และมีเก้าอี้ล้อมรอบประมาณห้าตัว คงจะเอาไว้นั่งทานอาหารและสังสรรค์กันยามที่มีสหายมาเยี่ยมเยือน ชุดโต๊ะกลมนี้ตั้งอยู่ตรงหน้าพวกเขาเมื่อเดินเข้าไป ส่วนลึกเข้าไปเป็นโต๊ะบัญชีที่อยู่ริมหน้าต่างบานหนึ่ง ด้านหลังโต๊ะบัญชีเป็นชั้นวางของที่ดูแล้วน่าจะเป็นของที่ล้ำค่าราคาแพงที่น่าจะเป็นของสะสมของคุณชายเสิ่นวางเรียงกันเอาไว้บนชั้น ส่วนด้านขวามืออีกด้านมีม่านสีเงินยาวหนาหนักที่ยาวจากเพดานจรดพื้นกั้นเอาไว้ เป็นสัดส่วนน่าจะเป็นห้องนอนของคุณชายเสิ่น ส่วนอีกด้านเป็นตั่งไม้ตัวใหญ่ที่วางเกือบจะชิดผนังและมีหมอนใบใหญ่ปักลวดลายดอกไม้วางเรียงรายอยู่บนตั่งนั่น ข้างตั่งไม้มีโต๊ะเล็กที่วางชุดป้านน้ำชาและแจกันดอกไม้“ ข้ามีสุราชั้นดีติดมาด้วย เจ้ามาลองชิมดูสักหน่อยว่าใช้ได้หรือไม่ หากรสดี ข้าจะสั่งให้เขานำเข้ามาขายที่เมืองนี้ ” คุณชายเสิ่นเดินนำคุณหนููเหลียนตรงไปที่โต๊ะกลมตัวใหญ่ที่มีกาสุราและถ้วยหลายใบวางเอาไว้ในถาดใบเล็กใกล้ๆกัน คุณหนูเหลียนทรุดตัวลงนั่ง ที่เก้าอี้ข้างๆคุณชายเสิ่นแล้วยกกาสุรานั้นเทลงในถ
ทั้งสองร้องครวญครางผสานกันดังก้องในห้องนั้น “ อวี้ชาง เมียรักของผัว พี่รักเจ้าเหลือเกิน เมียรัก อ๊าก อ๊าก อ๊าาก ” แม่ทัพหนุ่มสารภาพความในใจของเขาที่มันอัดแน่นอยู่ในนี้ตลอดมาออกไป ให้นางได้รับรู้นับครั้งไม่ถ้วนมาแล้วในค่ำคืนนี้ ขณะนีี้สตรีใต้ร่างของเขานี้คือเมียรักของเขาเพียงผู้เดียว ในที่สุดเขาและนางก็ได้แต่งงานกันอย่างถูกต้อง นางคือฮูหยินหนึ่งเดียวของเขา เขารักนาง และสุขสมยิ่งนักเมื่อได้สมรักกับนางเพียงผู้เดียวเท่านั้น ทั้งสองต่างหลงลืมเรื่องอื่นๆ ไปสิ้นโลกของพวกเขา มีเพียงกันและกัน ต่างโยกสะโพกเข้าหากันเป็นจังหวะเดียวกัน เพราะพบคู่ที่ตามหากันมานาน ในที่สุดก็ได้สมรักกัน เสียงเตียงกระแทกผนังดังสนั่น และมันโยกไหวใต้ร่างของทั้งสอง เสียงครวญครางผสานกันเสียงดังอย่างมิสนใจสิ่งใดแล้ว เพราะตอนนี้โลกของพวกเขามีเพียงกันและกันเพียงเท่านั้น ทั้งสองต่างก็ปลดปล่อยตัวตนออกมาอย่างเต็มที่เพราะบัดนี้รู้แล้วว่าทั้งสองคือสามีภรรยากันอย่างถูกต้อง ไม่มีสิ่งใดต้องค้างคาใจกันอีกแล้ว ทั้งเขาและนางต่างก็เป็นของกันและกัน ไม่มีผู้ใดมากั้นกลางระหว่างพวกเขาทั้งสองอีกแล้ว เสียงแห่งความสุขสมทั้งหมดดังออก
แม่ทัพหนุ่มทั้งดูดดื่มทั้งไล้เลียผลอิงเถาของนาง เขาฟอนเฟ้นอกอวบใหญ่ของนางจนพอใจ จึงได้ไล้เลียลงไปจนทั่วร่างอวบของนาง ไม่มีส่วนไหนในร่างกายขาวผ่องนี้ที่เขายังไม่ได้สัมผัส โม่โฉวจดจำได้ทุกรายละเอียดบนเรือนร่างขาวผ่องของเมียรัก ที่ตอนนี้เขายอมรับอย่างเต็มปากแล้วว่านางคือเมียของเขา เมื่อไล้เลียร่างอวบจนพอใจแล้ว จึงได้เลื่อนตัวลงไปที่เนินอวบของนาง เขาขย้ำมันอย่างมันมือ มันอวบใหญ่จนล้นมือของเขา แม่ทัพหนุ่มฟอนเฟ้นมันจนพอใจแล้วจึงได้สอดนิ้วแกร่งของเขาเข้าไปทีละนิด เขาหยอกเย้านางด้วยการสอดนิ้วถูไถที่ปากทางเข้าและครูดผ่านเมล็ดดอกไม้ของนางไปมา ส่งผลให้ร่างอวบดิ้นพล่านด้วยความเสียวซ่าน นางทั้งดิ้นพล่านไปมาและโยกสะโพกอวบเข้าหานิ้วแกร่งของเขาเพราะนางเองก็เสียวจนเกินจะทนแล้ว แม่ทัพหนุ่มชักนิ้วแกร่งของเขาเข้าออกช้าๆแต่ไม่ยอมเร่งจังหวะเสียทีจนเยว่ซินโยกสะโพกอวบเข้าหานิ้วแกร่งของเขาอย่างบ้าคลั่งเพราะนางเสียวเหลือเกิน เสียวจนเกินจะทนแล้ว“ อ๊า อ๊าา ท่านพี่ ได้โปรด ข้าเสียว เสียวเหลือเกินอ๊ายย อ๊าา อ๊า ท่านพี่ รักข้า เดี๋ยวนี้ รักข้า ได้โปรด อ๊าา อ๊าา อ๊าย อ๊าาย ” นางตัดสินใจอ้อนวอนเขาเพราะนางเส
ถึงเวลาส่งตัวเข้าหอแม่สื่อก็ประคองเจ้าสาวหมาดๆ เดินไปส่งถึงที่ห้องหอแล้วก็ให้นางนั่งรอเจ้าบ่าวอยู่บนเตียงวิวาห์เพียงผู้เดียว ชุ่ยเอ๋อเข้ามาพร้อมกับถาดไม้ที่มีขนมสองสามชิ้นกับน้ำชา เพื่อให้เจ้าสาวหมาดๆรองท้องก่อนที่เจ้าบ่าวจะมาเข้าหอ “ ตอนนี้ เจ้าบ่าวคงยังไม่มาเข้าหอหรอกเจ้าค่ะ ข้างนอกยังครึกครื้นกันอยู่เลย ”ชุ่ยเอ๋อบอกกับคุณหนูของนางที่ดูเหม่ยลอยเซื่อมซึม นางไม่ได้สดใสดังเช่นคนที่กำลังเป็นเจ้าสาวเลย เพราะนางไม่ได้รักเจ้าบ่าว นางให้พี่ชายของนางคือท่านอ๋องรุ่ยหยางเป็นคนตัดสินใจเลือกเจ้าบ่าวให้นาง หากเขาเห็นว่าดีนางก็ตกลง และยอมแต่งงานอย่างง่ายดายดังเช่นตอนนี้นางไม่มีหัวใจ ชุ่ยเอ๋อจ้องมองใบหน้างามที่เหม่อลอยอย่างเห็นได้ชัด แล้วถอนใจออกมา “ คุณหนูเจ้าค่ะ ในเมื่อตัดสินใจแต่งงานแล้ว วันนี้คือวันดีนะเจ้าค่ะ วันเริ่มชีวิตใหม่ ชุ่ยเอ๋ออยากให้คุณหนูมีความสุข ชุ่ยเอ๋อรับรองว่าเจ้าบ่าวหล่อเหลามาก ร่ำรวยมาก และเป็นชายที่แสนดีเจ้าค่ะ คุณหนูจะต้องรักเขาอย่างแน่นอน ” ชุ่ยเอ๋อนั้นได้รับคำสั่งจากพระชายาจางไม่ให้บอกกับคุณหนูของตนเรื่องเจ้าบ่าวที่แต่งงานกับนางในวันนี้ ปล่อยให้ทั้งสองปรับความเข้าใจกั
“ ท่านอ๋อง นี่ม้ันหมายความว่าอย่างไรกัน กระหม่อมไม่เข้าใจ น้องสาวของท่านมีสามีแล้ว แต่ไฉนยังตอบรับการมาดูตัวอีก ” เถ้าแก่เกายังสงสัยหันไปถามไถ่ท่านอ๋องรุ่ยหยาง เขานั้นเสียดายนัก กำลังจะได้ดองเป็นญาติกับท่านอ๋องรุ่ยหยางอยู่แล้ว หากน้องสาวของเขาเป็นแม่หม้าย ไม่มีลูกติดและหย่าขาดแล้ว เขาก็ยังจะพอทำใจรับได้ แต่นี่นางยังไม่ได้หย่าขาด แถมยังมีลูกติดหลายคนอีกด้วย เขารับไม่ได้จริงๆ ท่านอ๋องรุ่ยหยางพูดไม่ออก เลยได้แต่อ้ำๆอึึ้ง ๆ ส่วนพระชายาจางนั้นก็ไม่รู้จะทำเช่นไร และนางก็คาดเอาไว้แล้วว่าพี่รองต้องลงมือทำอะไรสักอย่างเป็นแน่ เขาคงไม่ยอมปล่อยให้เยว่ชิงแต่งงานออกไปง่ายๆหรอก “ ท่านพี่ ไม่ต้องไปถามไถ่ให้มากความอีกแล้ว เราไปกันเถอะ ค่าอาหารนี่เราไม่จ่ายนะ เพราะถือว่าพวกท่านหลอกลวงเราให้เสียเวลาเดินทางมาตั้งไกล ไปๆกันเถอะ อาเจิ้งไปเดี๋ยวนี้ อย่าชักช้า ” ฮูหยินเกาลากบุตรชายที่ยังพะวักพะวงอยู่ไปทันที ส่วนเถ้าแก่เกาบิดาของเขาก็ก้าวตามออกไปทันที เขาไม่แม้แต่จะร่ำลาท่านอ๋องเลยด้วยซ้ำ เพราะหัวเสียอย่างมาก และรู้สึกเหมือนถูกหลอก จึงไม่คิดจะรักษามารยาทอีกต่อไปแล้ว สามพ่อแม่ลูกลุกเดินออกไปจากห้องอ
เมื่อรถม้าจอดลงที่หน้าภัตตาคาร ทั้งสามก็ลงจากรถม้าแล้วพากันเดินเข้าไปในภัตตาคารแล้วขึ้นไปบนชั้นสามที่ได้นัดหมายกันไว้ล่วงหน้าแล้ว คุณชายเกาว่าที่คู่หมั้นของเยว่ชิงนั้นได้จองห้องพิเศษเอาไว้แล้วเป็นห้องอาหารส่วนตัว ท่านอ๋องรุ่ยหยางเดินนำหน้าชายาและน้องสาวบุญธรรมตรงไปที่ห้องอาหารนั้น เมื่อทั้งสามเข้าไปในห้องอาหารแล้ว ก็พบกับครอบครัวของคุณชายเกา อันมีบิดาและมารดาของเขาที่เริ่มเข้าสู่วัยชราแล้ว ผมของทั้งสองเป็นสีดอกเลา ใบหน้านั้นเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มกว้างขวาง บิดาของเขาหน้าตาใจดียิ้มแย้ม อัธยาศัยดีสมกับเป็นคนที่ทำการค้ามาทั้งชีวิต ส่วนฮูหยินของเขาที่มีวัยใกล้เคียงกัน ใบหน้าอวบอูมผ่องใสดังเช่นคนมีอันจะกินทั่วไป นางมีใฝอยู่ที่ริมฝีปากด้านซ้ายเห็นได้ชัดเจน นางยิ้มแย้มอย่างเป็นมิตรให้กับคนทั้งสามที่เพิ่งเดินเข้ามา“ ขอคารวะท่านอ๋องรุ่ยหยางและพระชายาจางพะยะคะ ” ทั้งเถ้าแก่เกาและฮูหยินรวมถึงคุณชายเกาต่างก็ลูกขึ้นทำความเคารพท่านอ๋องรุ่ยหยางและพระชายาจาง ท่านอ๋องโบกมือให้กับพวกเขาเป็นเชิงว่าตามสบาย พวกเขาจึงหันมาจ้องมองคุณหนูต้วนเยว่ชิงที่ยิ้มให้กับพวกเขาพร้อมกับย่อกายทำความเคารพคนทั้งสาม
“ จะแต่งงานกันได้อย่างไร ท่านมีว่าที่คู่หมั้นแล้ว และอีกไม่นานท่านจะต้องแต่งงานกับคุณหนูเหลียน หรือท่านจะปฏิเสธนางไป แล้วหันมาเลือกข้าแทน ท่านบอกข้าได้หรือไม่ ว่าท่านจะแต่งงานรับข้าเป็นฮูหยินของท่านเพียงผู้เดียว ข้าบอกกับท่านไว้ก่อนนะ ว่าข้าไม่ยินยอมให้สามี มีสตรีอื่นนอกจากข้า ท่านทำได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็ควรจะกลับไปเสีย ” เยว่ชิงตัดสินใจยื่นคำขาดกับเขา หากเขาทำไม่ก็ไม่ควรจะมายุ่งเกี่ยวกับนางอีก แม้นางรักเขามาก รักเขาเต็มหัวใจ แต่นางยอมรับว่านางเห็นแก่ตัวเกินไป เกินกว่าที่จะยอมให้เขามีสตรีอื่นอยู่ร่วมจวน เพราะนางเจ็บ เจ็บเหลือเกินที่เห็นสามีคลอเคลียกับสตรีอื่นให้เห็นตำตา แม้นางจะทำเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่ข้างในของนางมันแทบจะแหลกสลาย และนางยอมรับว่านางทนให้สามีของนางมีสตรีอื่นไปพร้อมๆกันไม่ได้จริงๆ แม่ทัพจางอยากจะบอกนางเหลือเกิน อยากจะบอกแทบจะขาดใจว่าเขาเลือกนาง เลือกนางอยู่แล้ว และมันคือนางมาเสมอตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังเป็นนาง อวี้ชางข้ารักเพียงเจ้า แต่…บัดนี้ ข้าไม่ใช่องครักษ์หนุ่มน้อยที่ชีวิตมีเพียงแค่เจ้าอีกแล้ว ข้ายังมีคนในความรับผิดชอบ มีบ้านเมือง มีกองทัพ มีทหารในสังก