แถมเมื่อครู่ที่นางออกปากเรื่องการแต่งงานกับเขา พี่หย่งเล่อก็นิ่งฟังอย่างเงียบเฉย ไม่เอ่ยคัดค้านเลยสักคำ เหมือนกับว่าเขาเองก็คิดเช่นเดียวกับคุณหนูผู้นั้น ที่อีกไม่นานก็จะแต่งงานกับนาง รับนางมาเป็นฮูหยินของเขาอย่างถูกต้อง แล้วข้าล่ะ เยว่ชิงผู้นี้ คนที่กลายเป็นของเขาแล้ว ข้าจะกลายเป็นอะไร เมื่อสตรีผู้นั้นเข้ามาเป็นฮูหยินของเขาอย่างถูกต้อง อนุ หรือหญิงอุ่นเตียงเช่นนั้นหรือ ข้าคือท่านหญิงอวี้ชาง แม้กายจะไม่ใช่แต่จิตวิญญาณของข้าคือท่านหญิงอวี้ชาง ไม่ลดตัวลงไปเป็นเพียงอนุหรือหญิงอุ่นเตียงของชายใดหรอก เยว่ชิงยืดตัวขึ้น นางนั่งหลังตรงอย่างมีสง่า ด้วยท่าทีของท่านหญิงคนงามผู้สูงศักดิ์ แล้วก็เอ่ยขึ้นว่า “ ข้าก็ยินดีจะคบหาคุณชายเสิ่นเอาไว้เจ้าค่ะ ข้าคิดว่าเขาเองก็น่าสนใจไม่น้อย และหากคุณหนูเหลียนมีบุรุษคนอื่นที่น่าสนใจก็รบกวนคุณหนูเหลียนช่วยแนะนำกับข้าได้นะเจ้าค่ะ เพราะว่าตอนนี้ข้าเองก็เพิ่งพ้นวัยปักปิ่นมาไม่นานนัก คงจะพอมีโอกาสเลือกอีกสักเล็กน้อย ข้าเป็นสตรีกำพร้า บิดาของข้าก็สิ้นชีวิตไปแล้ว คงต้องเลือกบุรุษที่ดูแลปกป้องข้าได้ แต่ข้าไม่ยอมเป็นอนุหรือหญิงอุ่นเตียงของชายใดหรอกนะเจ้าค่ะ
ตอนบ่ายวันนั้น ทางออกที่เยว่ชิงกำลังมองหาก็มาหานางถึงที่ โดยที่ไม่ต้องดิ้นรนอันใด พระชายาจางมาเยี่ยมพี่ชายของนาง ตอนนั้นเขากำลังอ่านรายงานทางทหารอยู่ในห้องหนังสือ หลังจากที่คุณหนูเหลียนกลับไปแล้ว ตอนแรกเขาก็คิดจะไปง้องอนเมียในความลับของเขา แต่มีหนังสือด่วนมาให้เขาลงนามเสียก่อน เขาจึงได้เข้าไปทำงานในห้องหนังสือและคิดว่าตอนกลางคืนเขาค่อยไปหานางที่เรือน แล้วค่อยพูดกับนางเรื่องนี้ก็ได้ ตอนนี้เยว่เอ๋อกลายเป็นเมียของเขาแล้ว นางก็คงจะแต่งให้ใครไม่ได้อีก เพียงแต่เขาคงจะรับนางเป็นอนุหลังจากที่แต่งงานกับคุณหนูเหลียนซิงซิงแล้ว เพราะเขามาใคร่ครวญดูแล้ว คุณหนูเหลียนก็ไม่ได้ผิดอะไรนางนั้นเทียวไปเทียวมาหาเขาที่จวนแม่ทัพ จนผู้อื่นต่างก็รับรู้กันจนทั่วไปแล้ว ว่านางกับเขานั้นคบหาดูใจกัน หากเขาบอกกับนางไปตามตรงในตอนนี้ชื่อเสียงของนางก็คงจะเสียหายมาก ความเสียใจและผิดหวังนั่นยังไม่เท่าไหร่ แต่นางจะอับอายขายหน้าผู้อื่น และอีกอย่างบิดาของนางนั้นเป็นคหบดีใหญ่ที่มีบุญคุณกับกองทัพไม่น้อย เขาบริจาคเสบียงให้กับกองทัพคราวละมากๆ หากหักหาญน้ำใจกัน เขาก็เกรงว่าจะเกิดปัญหาขึ้น จึงได้แต่นั่งอึดอัดไม่รู้จะทำเช่น
พระชายาจางเห็นท่าไม่ดี เพราะถ้าทำเช่นนั้นแผนการณ์ที่อุตส่าห์วางไว้ก็อาจจะสูญเปล่า “ ท่านอ๋องต้องการจ้างครูไปสอนกิริยามารยาท การศึกษาและศาสตร์ทั้งสี่ของสตรีด้วยเจ้าค่ะ ท่านอ๋องได้ยินว่าคุณหนูต้วนเก่งกาจเรื่องเรื่องศิลปะด้วย เขาก็อยากจะให้หนิงเอ๋อนั้นได้ร่ำเรียนศิลปะเอาไว้ตั้งแต่ยังเล็กจะได้เรียนรู้ได้เร็วเจ้าค่ะ พี่รอง และท่านอ๋องยังเห็นว่ากิริยามารยาทและท่าทางของคุณหนูต้วนผู้นั้นน่ารักนัก อยากจะให้หนิงเอ๋อของเราเติบโตมาเป็นเช่นนั้นบ้าง จึงจะว่าจ้างนางไปสอนหนิงเอ๋อน่ะเจ้าค่ะ หวังว่าท่านพี่คงจะอนุญาตินะเจ้าค่ะ ข้าจะไปรับนางไปพำนักที่ตำหนักในวันนี้เลย ให้นางพักที่เรือนเล็กที่ว่างอยู่ในตำหนักจะได้ใกล้ชิดกับหนิงฮวาเพคะ ” แม่ทัพจางขมวดคิ้ว ถ้าทำเช่นนั้นก็แปลว่าเมียของเขาจะต้องไปพักที่ตำหนักของท่านอ๋องรุ่ยหยางล่ะสิ คงจะไม่ได้หรอก อยู่ๆจะให้นอนไปนอนค้างที่อื่นเขาไม่เห็นด้วย ขณะนั้นคุณหนูต้วนเยว่ชิงก็เคาะประตูห้องหนังสือพอดี เพราะสาวใช้ไปตามนางว่าพระชายาจางมาพบนางต้องการสอบถามเรื่องการว่าจ้างนางไปสอนท่านหญิงหนิงฮวา ซึ่งเยว่ชิงเห็นว่าเป็นทางออกที่ดีมาก ที่นางกำลังคิดหาหนทางปลีกตัวไปจากจ
เมื่อรถม้ารับจ้างมาแล้ว ก็พอดีข้าวของที่บ่าวชายไปช่วยกันขนมาจากเรือนหลังเล็กของคุณหนูต้วนก็มากองอยู่หน้าประตูพอดี “ พวกเจ้าช่วยกันขนใส่รถม้ารับจ้างดีกว่า ขนใส่ให้มากที่สุดนะ ที่เหล่ือหากไม่พอก็ค่อยขนใส่รถม้าของพระชายา ” ชุ่ยเอ๋อบอกกับบ่าวชายที่มาช่วยกันขนข้าวของ ส่วนเยว่ชิงก็เดินมาตามทางเดินเพื่อจะมารอพระชายาจางที่ยังไม่ออกมาจากห้องหนังสือของพี่ชายของนาง “ เจ้าจะมาพาคนของพี่ไปง่ายๆเช่นนี้เลยหรือ ” แม่ทัพจางถามน้องสาวอย่างทนไม่ไหว “ ที่ข้าทำเช่นนี้ก็เพื่อพี่รองนะเจ้าค่ะ หลานสาวของพี่รองนั้นงามเกินไป และนางก็ถึงวัยที่กำลังสาวสะพรั่งแล้ว หากมาอยู่ใกล้ชิดพี่รองในจวนแม่ทัพที่ส่วนมากมีแต่บุรุษมันคงไม่เหมาะสม และอีกอย่างพี่รองก็กำลังจะแต่งงานกับคุณหนูเหลียนซิงซิงแล้ว ยิ่งไม่เหมาะใหญ่ที่จะให้เยว่ชิงอยู่ในจวนนี้ ผู้อื่นจะครหาเอาได้ว่าไม่เหมาะสม รวมถึงคุณหนูเหลียนซิงซิงก็คงไม่สบายใจนักที่มีสตรีที่งดงามปานนี้อยู่ใกล้กับว่าที่สามีของนาง ” น้องสาวบอกกับพี่ชายด้วยความหวังดี แต่พี่ชายนั้นรู้สึกว่าอยากจะบ้าตายอยู่แล้ว เขาอ้ำๆอึ้งๆ อยากจะโพล่งออกไปใจจะขาดว่าคงไม่ต้องมาห่วงเรื่องนั้นแล้วเพราะนางกล
นับจากท่านหญิงอวี้ชางจากไปแล้ว รองแม่ทัพจางหย่งเล่อหรือตอนนี้ได้รับการเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นแม่ทัพแล้ว เขาแยกจวนออกมาตัั้งจวนใหม่เองอยู่อีกฟากหนึ่งของเมือง เพราะเขาได้รับการเลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นแม่ทัพ ดูแลเขตภาคตะวันออก มีทหารในบังคับบัญชาหนึ่งแสนห้าหมื่นนาย เพราะฝีมือที่เก่งกาจที่เขานั้นได้ออกรบเคียงข้างบิดาของเขา จนชนะศึกที่ยากยิ่งมาได้ ทำให้ได้รับการปูนบำเหน็จมากมาย เขาได้รับพระราชทานจวนหลังใหม่ที่ใหญ่โตโอ่อ่าไม่น้อย บิดาของเขาจึงได้บอกให้เขาออกไปตั้งจวนใหม่ของตนเอง เพราะเขาก็ถึงวัยที่ควรจะแต่งงานมีเหย้ามีเรือนแล้ว ท่านแม่ทัพจางแนะให้เขามองหาสตรีที่เหมาะเพื่อแต่งงานรับนางเป็นฮูหยินเสีย จะได้มีคนช่วยดูแลจวน แต่ชายผู้ที่ช้ำรักเหลือเกิน ก็ไม่มีใจคิดจะมองหาสตรีใดทั้งนั้น เพราะทุกวันนี้เขาก็ยังรักปักใจในท่านหญิงอวี้ชางอดีตคนรักที่ตอนนี้เสียชีวิตไปได้หลายปีแล้ว จนตอนนี้หลานๆของเขาที่เกิดจากน้องสาวของเขากับพีี่ชายของอดีตคนรักนั้นเติบโตมากแล้ว แถมยังมีบุตรแทบจะหัวปีท้ายปีอีกด้วย หลังจากที่ได้คำแนะนำจากน้องสาวของเขาที่ตอนนี้กลายเป็นพระชายาของท่านอ๋องรุ่ยหยางพี่ชายของอดีตคนรักของเขาไปแล้วนั้
อวี้ชางจ้องมองใบหน้าอดีตคนรักนิ่ง นางนั้นได้มาเกิดใหม่ในร่างคุณหนูต้วนผู้นี้ได้สองปีมาแล้ว นับจากนางเสียชีวิตลงไปไม่นานนัก อยู่ๆวัหนึ่งนขณะที่นางกำลังเดินวนเวียนในหมอกควันสีขาวอยู่นั้น ก็มีลำแสงที่สว่างมากพวยพุ่งเข้ามาหานางและนางก็วูบหมดสติไป แต่เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็มาอยู่ในร่างของคุณหนูต้วนเย่วชิงผู้นี้ ที่นางนั้นร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก วันหนึ่งนางเป็นไข้และเป็นลมชักโดยที่ไม่มีใครเห็น ทำให้ชักจนหมดสติไป และวิญญาณของท่านหญิงอวี้ชางที่อธิษฐานจิตขอให้ได้พบกับคนรักของนางอีกครั้งก็มาเข้าร่างคุณหนูผู้นี้ในทันที โดยที่ความทรงจำครั้งอดีตชาติที่เป็นท่านหญิงอวี้ชางยังอยู่ครบ แต่ไม่มีความทรงจำของคุณหนูต้วนอยู่เลย และนับจากที่นางได้มาเข้าร่างของคุณหนูต้วนผู้นี้ นางก็ปรับตัวและใช้ชีวิตเป็นคุณหนูผู้นี้จนเคยชินแล้ว นางมีโอกาสได้พบบิดาของคุณหนูผู้นี้เพียงไม่นานนัก แต่นางก็พยายามทำตัวให้เป็นบุตรสาวที่ดี เพราะนางสงสารเขามากที่ไม่รู้ว่าบุตรสาวตัวจริงของเขานั้นเสียชีวิตไปแล้ว และนางก็ไม่อาจจะบอกใครถึงเรื่องนี้ได้ เพราะแม้บอกไปแล้วใครจะเชื่อนางกัน แต่แล้วหลังจากบิดากลับไปทำงานที่จวน
“ คุณหนูเจ้าคะ ท่านตื่นแล้วหรือ ชุ่ยเอ๋อเตรียมน้ำอุ่นเอาไว้แล้วนะเจ้าค่ะ กำลังอุ่นพอดีเลย อาบน้ำกันเลยดีกว่านะเจ้าคะ จะได้รีบแต่งตัว รีบไปสถานศึกษากัน " ร่างอวบอิ่มงดงามของคุณหนูต้วนจึงได้ลุกจากเตียงอันแสนอุ่นของนาง แล้วก็เดินเข้าไปหลังฉากกั้นเพื่ออาบน้ำแต่งกาย เตรียมตัวไปสถานศึกษาที่อีกไม่นานนางก็จะจบการศึกษาแล้วเหลือเพียงแค่ไม่กี่เดือนเท่านั้น การย้ายมาอยู่จวนแม่ทัพจางนี้ ทำให้นางไม่ต้องตื่นแต่เช้าเช่นเดิมนัก เพราะว่าสถานศึกษากับจวนแม่ทัพจางนั้นอยู่ไม่ไกลกันมาก นางจึงไม่ต้องเร่งรีบดังเช่นเดิมอีก มีเวลาแต่งกายและกินอาหารตามสบายแล้วค่อยออกไปขึ้นรถม้าที่หน้าประตูจวนเพื่อไปยังสถานศึกษาเมื่ออาบน้ำแต่งกายจนเรียบร้อยแล้ว เยว่ชิงก็กินอาหารเช้าที่เรือนเล็กของนาง โดยมีชุ่ยเอ๋อสาวใช้คนสนิทที่ตามมาจากจวนของบิดาไปยกจากโรงครัวมาให้นาง ตอนเช้านางเร่งรีบจะไปสถานศึกษาจึงคิดว่าจะไม่แวะไปกินอาหารเช้ากับท่านอาหนุ่มหมาดๆของนาง แต่จะไปกินอาหารร่วมกับเขาที่เรือนในตอนเย็นแทนจะได้มีเวลาอยู่กับเขาให้มากขึ้น พี่หย่งเล่อท่านรอข้าหน่อยนะ ข้าจะเรียนจบแล้ว และจะเกี้ยวท่านกลับมาเป็นคนรักของข้าให้ได้ แค่คิดถึงใ
หรือเมื่อวันใดที่เขาไม่ได้ออกไปทำงานนอกจวน นางก็จะทำอาหารหรือขนมหรือไม่ก็ผลไม้ที่เขาชื่นชอบยกมาให้เขาถึงที่ห้องหนังสือ หรือในห้องนั่งเล่นที่เขานั่งอยู่ พร้อมกับป้านน้ำชาที่นางรู้ว่าเขาชอบจิบมัน และนั่นทำให้เริ่มมีเสียงกระซิบกระซาบกันในหมู่สาวใช้และบ่าวบางคนว่าคุณหนูต้วนผู้นี้ทำตัวดังเช่นจะเข้ามาเป็นฮูหยินท่านแม่ทัพกระนั้น เพราะทุกคนต่างรู้ว่านางคือบุตรสาวของรองแม่ทัพต้วนที่หาชีวิตไม่แล้ว ทำให้ท่านแม่ทัพจางรับบุตรสาวของเขามาอุปการะ แต่คุณหนูต้วนที่ทั้งงดงามปานจะล่มเมืองและอยู่ในวัยสาวสะพรั่งก็ทำตัวรู้คุณเกินหน้าที่ คล้ายกับว่านางอยากจะขยับฐานะจากหลานสาวมาเป็นภรรยาของแม่ทัพจางกระนั้น นางปรนนิบัติใกล้ชิดเขาจนเกินงาม และแม่ทัพหนุ่มก็ได้ยินเสียงซุบซิบนั่น และเขาเองก็รู้ดีแก่ใจว่าหลานสาวนอกไส้ผู้นี้ทำตัวเกินเลยไปจนเป็นที่ครหาของคนในจวนแม่ทัพหนุ่่มนอนครุ่นคิดอยู่หลายคืน ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบการปรนนิบัติเช่นนี้ของหลานสาว นางทำได้ดีไม่มีที่ติ และดูแลเขาดีมากอย่างที่ไม่เคยมีสตรีใดดูแลเขาได้ดีเช่นนี้มาก่อน และนางทำให้เขาคิดถึงอวี้ชางขึ้นมาจับใจ และเขาคงจะปล่อยให้เป็นเช่นนี้ไม่ได้แล้ว แม่ท
เมื่อรถม้ารับจ้างมาแล้ว ก็พอดีข้าวของที่บ่าวชายไปช่วยกันขนมาจากเรือนหลังเล็กของคุณหนูต้วนก็มากองอยู่หน้าประตูพอดี “ พวกเจ้าช่วยกันขนใส่รถม้ารับจ้างดีกว่า ขนใส่ให้มากที่สุดนะ ที่เหล่ือหากไม่พอก็ค่อยขนใส่รถม้าของพระชายา ” ชุ่ยเอ๋อบอกกับบ่าวชายที่มาช่วยกันขนข้าวของ ส่วนเยว่ชิงก็เดินมาตามทางเดินเพื่อจะมารอพระชายาจางที่ยังไม่ออกมาจากห้องหนังสือของพี่ชายของนาง “ เจ้าจะมาพาคนของพี่ไปง่ายๆเช่นนี้เลยหรือ ” แม่ทัพจางถามน้องสาวอย่างทนไม่ไหว “ ที่ข้าทำเช่นนี้ก็เพื่อพี่รองนะเจ้าค่ะ หลานสาวของพี่รองนั้นงามเกินไป และนางก็ถึงวัยที่กำลังสาวสะพรั่งแล้ว หากมาอยู่ใกล้ชิดพี่รองในจวนแม่ทัพที่ส่วนมากมีแต่บุรุษมันคงไม่เหมาะสม และอีกอย่างพี่รองก็กำลังจะแต่งงานกับคุณหนูเหลียนซิงซิงแล้ว ยิ่งไม่เหมาะใหญ่ที่จะให้เยว่ชิงอยู่ในจวนนี้ ผู้อื่นจะครหาเอาได้ว่าไม่เหมาะสม รวมถึงคุณหนูเหลียนซิงซิงก็คงไม่สบายใจนักที่มีสตรีที่งดงามปานนี้อยู่ใกล้กับว่าที่สามีของนาง ” น้องสาวบอกกับพี่ชายด้วยความหวังดี แต่พี่ชายนั้นรู้สึกว่าอยากจะบ้าตายอยู่แล้ว เขาอ้ำๆอึ้งๆ อยากจะโพล่งออกไปใจจะขาดว่าคงไม่ต้องมาห่วงเรื่องนั้นแล้วเพราะนางกล
พระชายาจางเห็นท่าไม่ดี เพราะถ้าทำเช่นนั้นแผนการณ์ที่อุตส่าห์วางไว้ก็อาจจะสูญเปล่า “ ท่านอ๋องต้องการจ้างครูไปสอนกิริยามารยาท การศึกษาและศาสตร์ทั้งสี่ของสตรีด้วยเจ้าค่ะ ท่านอ๋องได้ยินว่าคุณหนูต้วนเก่งกาจเรื่องเรื่องศิลปะด้วย เขาก็อยากจะให้หนิงเอ๋อนั้นได้ร่ำเรียนศิลปะเอาไว้ตั้งแต่ยังเล็กจะได้เรียนรู้ได้เร็วเจ้าค่ะ พี่รอง และท่านอ๋องยังเห็นว่ากิริยามารยาทและท่าทางของคุณหนูต้วนผู้นั้นน่ารักนัก อยากจะให้หนิงเอ๋อของเราเติบโตมาเป็นเช่นนั้นบ้าง จึงจะว่าจ้างนางไปสอนหนิงเอ๋อน่ะเจ้าค่ะ หวังว่าท่านพี่คงจะอนุญาตินะเจ้าค่ะ ข้าจะไปรับนางไปพำนักที่ตำหนักในวันนี้เลย ให้นางพักที่เรือนเล็กที่ว่างอยู่ในตำหนักจะได้ใกล้ชิดกับหนิงฮวาเพคะ ” แม่ทัพจางขมวดคิ้ว ถ้าทำเช่นนั้นก็แปลว่าเมียของเขาจะต้องไปพักที่ตำหนักของท่านอ๋องรุ่ยหยางล่ะสิ คงจะไม่ได้หรอก อยู่ๆจะให้นอนไปนอนค้างที่อื่นเขาไม่เห็นด้วย ขณะนั้นคุณหนูต้วนเยว่ชิงก็เคาะประตูห้องหนังสือพอดี เพราะสาวใช้ไปตามนางว่าพระชายาจางมาพบนางต้องการสอบถามเรื่องการว่าจ้างนางไปสอนท่านหญิงหนิงฮวา ซึ่งเยว่ชิงเห็นว่าเป็นทางออกที่ดีมาก ที่นางกำลังคิดหาหนทางปลีกตัวไปจากจ
ตอนบ่ายวันนั้น ทางออกที่เยว่ชิงกำลังมองหาก็มาหานางถึงที่ โดยที่ไม่ต้องดิ้นรนอันใด พระชายาจางมาเยี่ยมพี่ชายของนาง ตอนนั้นเขากำลังอ่านรายงานทางทหารอยู่ในห้องหนังสือ หลังจากที่คุณหนูเหลียนกลับไปแล้ว ตอนแรกเขาก็คิดจะไปง้องอนเมียในความลับของเขา แต่มีหนังสือด่วนมาให้เขาลงนามเสียก่อน เขาจึงได้เข้าไปทำงานในห้องหนังสือและคิดว่าตอนกลางคืนเขาค่อยไปหานางที่เรือน แล้วค่อยพูดกับนางเรื่องนี้ก็ได้ ตอนนี้เยว่เอ๋อกลายเป็นเมียของเขาแล้ว นางก็คงจะแต่งให้ใครไม่ได้อีก เพียงแต่เขาคงจะรับนางเป็นอนุหลังจากที่แต่งงานกับคุณหนูเหลียนซิงซิงแล้ว เพราะเขามาใคร่ครวญดูแล้ว คุณหนูเหลียนก็ไม่ได้ผิดอะไรนางนั้นเทียวไปเทียวมาหาเขาที่จวนแม่ทัพ จนผู้อื่นต่างก็รับรู้กันจนทั่วไปแล้ว ว่านางกับเขานั้นคบหาดูใจกัน หากเขาบอกกับนางไปตามตรงในตอนนี้ชื่อเสียงของนางก็คงจะเสียหายมาก ความเสียใจและผิดหวังนั่นยังไม่เท่าไหร่ แต่นางจะอับอายขายหน้าผู้อื่น และอีกอย่างบิดาของนางนั้นเป็นคหบดีใหญ่ที่มีบุญคุณกับกองทัพไม่น้อย เขาบริจาคเสบียงให้กับกองทัพคราวละมากๆ หากหักหาญน้ำใจกัน เขาก็เกรงว่าจะเกิดปัญหาขึ้น จึงได้แต่นั่งอึดอัดไม่รู้จะทำเช่น
แถมเมื่อครู่ที่นางออกปากเรื่องการแต่งงานกับเขา พี่หย่งเล่อก็นิ่งฟังอย่างเงียบเฉย ไม่เอ่ยคัดค้านเลยสักคำ เหมือนกับว่าเขาเองก็คิดเช่นเดียวกับคุณหนูผู้นั้น ที่อีกไม่นานก็จะแต่งงานกับนาง รับนางมาเป็นฮูหยินของเขาอย่างถูกต้อง แล้วข้าล่ะ เยว่ชิงผู้นี้ คนที่กลายเป็นของเขาแล้ว ข้าจะกลายเป็นอะไร เมื่อสตรีผู้นั้นเข้ามาเป็นฮูหยินของเขาอย่างถูกต้อง อนุ หรือหญิงอุ่นเตียงเช่นนั้นหรือ ข้าคือท่านหญิงอวี้ชาง แม้กายจะไม่ใช่แต่จิตวิญญาณของข้าคือท่านหญิงอวี้ชาง ไม่ลดตัวลงไปเป็นเพียงอนุหรือหญิงอุ่นเตียงของชายใดหรอก เยว่ชิงยืดตัวขึ้น นางนั่งหลังตรงอย่างมีสง่า ด้วยท่าทีของท่านหญิงคนงามผู้สูงศักดิ์ แล้วก็เอ่ยขึ้นว่า “ ข้าก็ยินดีจะคบหาคุณชายเสิ่นเอาไว้เจ้าค่ะ ข้าคิดว่าเขาเองก็น่าสนใจไม่น้อย และหากคุณหนูเหลียนมีบุรุษคนอื่นที่น่าสนใจก็รบกวนคุณหนูเหลียนช่วยแนะนำกับข้าได้นะเจ้าค่ะ เพราะว่าตอนนี้ข้าเองก็เพิ่งพ้นวัยปักปิ่นมาไม่นานนัก คงจะพอมีโอกาสเลือกอีกสักเล็กน้อย ข้าเป็นสตรีกำพร้า บิดาของข้าก็สิ้นชีวิตไปแล้ว คงต้องเลือกบุรุษที่ดูแลปกป้องข้าได้ แต่ข้าไม่ยอมเป็นอนุหรือหญิงอุ่นเตียงของชายใดหรอกนะเจ้าค่ะ
หลายวันต่อมาเหลียนซิงซิงมาเยี่ยมแม่ทัพหนุ่มที่จวน ขณะที่แม่ทัพจางหย่งเล่อกับภรรยาในความลับที่มีเพียงบ่าวไพร่ในจวนที่เห็นความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนไปนี้ แต่เบื้องหน้าก็คือหลานสาวในอุปการะของแม่ทัพจาง กำลังนั่งกินอาหารเช้ากันในห้องโถงหน้าเรือนของแม่ทัพหนุ่ม ทั้งสองต่างผลัดกันคีบอาหารให้แก่กัน บรรยากาศนั้นอวลไปด้วยความรักทั้งสองส่งสายตาหวานฉ่ำให้แก่กัน จนสาวใช้ในเรือนต่างก็พากันรับรู้หมดแล้วว่าบัดนี้ความสัมพันธ์ของอาหนุ่มและหลานสาวบุญธรรมที่งดงามปานจะล่มเมืองผู้นี้ พัฒนากลายมาเป็นยิ่งกว่าคนรักแล้ว เพราะบางวันนางก็เข้ามานอนในห้องนอนของท่านแม่ทัพจาง หากนางไม่มาเมื่อเขาอาบน้ำแล้วก็มักจะสวมเสื้อคลุมที่เขามักจะสวมตอนเข้านอน เดินไปที่เรือนหลังเล็กของหลานสาวคนงามและหายเข้าไปในนั้นทั้งคืน จะเดินกลับมาเข้าเรือนของเขาก็เมื่อฟ้าเริ่มจะสางแล้ว และตอนนั้นก็มีแสงแดดส่องรำไรในสวนกว้างหน้าจวนแม่ทัพแล้ว เขาไม่ได้คิดจะปิดบังซ่อนเร้นแต่อย่างใด บ่าวไพร่ในจวนก็ต่างเห็นประจักษ์ด้วยตาของตนเองแต่ไม่มีใครกล้าปริปากพูดอะไรมาก ได้แต่แอบซุบซิบกันเบาๆ ระหว่างกันเท่านั้นเอง และการแสดงออกต่อคุณหนูต้วนก็เปลี่ย
คืนนั้นทั้งคืนแม่ทัพหนุ่มสุขสมยิ่งนัก ยิ่งกว่าที่เคยกับหญิงคณิกาที่เขาเคยผ่านมา และนางคล้ายกับอดีตคนรักของเขามาก มากจนแทบจะเป็นคนเดียวกัน ทั้งลีลารักที่มีเพียงเขาที่เป็นสามีของนางที่รู้ เขาจะเก็บเยว่ชิงไว้เป็นเมียบำเรอลับ ๆ ของเขา แม้อาจจะดูเห็นแก่ตัวเหลือเกินที่คิดเช่นนี้ แต่เขากับเยว่ชิงนั้นมีวัยที่ต่างกันถึงสิบกว่าหนาว เขาเป็นบุรุษที่เคร่งขรึมและหมกมุ่นกับการงาน จนมิเคยมีตาไว้สนใจสตรีใด เมื่อครั้งได้ใกล้ชิดกับท่านหญิงอวี้ชางจนก่อเกิดเป็นความรักต้องห้าม ที่พวกเขามิอาจหักห้ามใจไม่ให้รักกันได้ จึงได้หนีตามกันไปนั้น เพราะเขารักนางจริงๆ รักนางเพียงผู้เดียว แต่เมื่อสูญเสียนางไป เขาก็เหมือนคนไร้หัวใจไปเลย จนน้องสาวของเขามาพูดเตือนสติเขา จึงได้เริ่มเปิดใจให้กับคุณหนูเหลียนที่นางเป็นฝ่ายเข้ามาหาเขาก่อน และเขาก็รู้สึกผิดที่เป็นฝ่ายทำเหมือนเขามีนางเพียงผู้เดียว ทำให้นางมีความหวัง ทำให้นางปักใจคิดว่าเขาจะต้องไปสู่ขอนางมาเป็นฮูหยินของเขาอย่างแน่นอน แม้มีชายอื่นมาสู่ขอนางก็ปฏิเสธไปเสียหมด แล้วเขาจะทำเช่นไรได้ เมื่อครั้งนี้เขากลับเปิดหัวใจที่เคยบอบช้ำจนมันแทบไม่อาจรักใครได้อีกนั้นใ
คืนนั้นแม่ทัพหนุ่มมาดักรอหลานสาวกาฝากของเขาที่ทางเดินระหว่างสวนเพราะนางจะต้องเดินผ่านมาทางนี้เพื่อจะไปที่เรือนของนาง เขายืนอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ที่มีร่มเงาของใบไม้บดบังแสงสว่าง ผู้ที่เดินมาตามทางเดินจะไม่ทันสังเกตุเห็นเขาอย่างแน่นอน ผ่านไปครู่ใหญ่นางก็เดินตรงมาทางเขาอย่างไม่รู้ชะตากรรมตนเอง ขณะนี้แม่ทัพหนุ่มเมามายไม่น้อยเพราะเมื่อกลับมาถึงที่จวนแม่ทัพ เขาให้สาวใช้ยกสุรามานั่งดื่มที่หน้าเรือนของเขา เพื่อเฝ้ารอแม่หลานสาวตัวดีให้กลับมา แต่เฝ้ารออยู่นานนางก็ไม่กลับมาเส่ียท่ี เขาจึงได้เดินมารอนางที่ริมทางเดินนี้ คืนนี้หากเขาไม่ได้พูดกับนางให้รู้เรื่อง เขาจะต้องบ้าอย่างแน่นอน ยิ่งเขาเห็นนางใกล้ชิดกับเจ้าคหบดีเสิ่นนั่นหัวใจของเขามันร้อนรุ่มอยากจะตรงไปกระชากนางให้ออกมาจากเจ้าหมอนั่น แต่คงจะทำอย่างนั้นต่อหน้าผู้อื่นมิได้ เขากลั้นใจอดทนไว้ ยิ่งนางมาหายไปที่ใดก็ไม่รู้กับเจ้าหมอนั่น คนที่เพิ่งพบกันเสียด้วยซ้ำ โดยไม่มาขออนุญาติเขาก่อนอีกด้วย หากแม่หลานสาวตัวดีมาถึงจวนเมื่อไหร่เขาจะคิดทบต้นทบดอกกับนางอย่างขั้นเด็ดขาดจนนางไปหาบุรุษที่ไหนอีกไม่ได้เลย เมื่ออยากจะได้สามีนัก เขาก็จะเป็นสามีใ
“ อ้าว !! นั่นคุณชายเสิ่นใช่หรือไม่ ท่านมาตั้งแต่เมื่อใดกัน ไม่ได้พบกันเสียนาน ท่านพ่อบ่นคิดถึงท่านมาก หากว่างแล้วก็แวะไปหาท่านพ่อที่จวนบ้างนะเจ้าคะ ” คุณหนูเหลียนหันไปเห็นสหายรุ่นน้องของบิดา เขาแม้จะหนุ่มแน่นมีวัยมากกว่านางเพียงแค่ไม่กี่ปี แต่ก็เก่งกาจทางการค้าหาตัวจับยาก แม้แต่บิดาก็ชมเชยเขาอยู่บ่อยครั้ง คุณชายเสิ่นเดินเข้ามาร่วมวงสนทนาเขายิ้มกว้างให้กับคุณหนูเหลียนซิงซิง แล้วหันไปคารวะท่านอ๋องกับพระชายาและทักทายแม่ทัพจางและหันมาจ้องมองคุณหนูต้วนเยว่ชิงอย่างพินิจและจ้องมองนางอย่างตะลึงงันไปครู่หนึ่ง ใบหน้าคร้ามคมของเขามีสีแดงระเรื่อเมื่อรู้สึกกว่าตนเองนั้นจ้องมองนางนานไปหน่อย “ คุณหนูผู้นี้มีนามว่าอะไร เราเคยพบกันหรือไม่ ” เขาถามนาง พร้อมกับสายตาที่เปลี่ยนเป็นหวานฉ่ำยามจ้องมองใบหน้าหวานของเยว่ชิงอย่างพึงใจ เยว่ชิงยิ้มให้เขาอย่างเป็นมิตร “ คงไม่เคยพบกันหรอกเจ้าค่ะ ข้ามีนามว่าต้วนเยว่ชิง เป็นบุตรสาวของรองแม่่ทัพต้วน แต่บิดาของข้าเสียชีวิตไปแล้ว ” นางบอกกับเขาไปตามตรง“ เจ้าพักอยู่ในเมืองหลวงนี้หรือ เหตุใดข้าถึงไม่เคยพบเจ้าเลย ” เขายังคงใคร่รู้เรื่องของนาง “ คุณชายเสิ่น ข้าคิดว่า
“ ขอบคุณท่านอามาก แต่ข้าขึ้นเองได้เจ้าค่ะ ” แล้วเย่ว์ชิงก็พยายามเดินขึ้นไปด้วยตนเอง นางไม่อยากจะให้มือของนางสัมผัสกับมือของเขา เพราะตอนนี้นางทำใจเรื่องของเขาได้มากแล้ว นางไม่อยากจะรื้อฟื้นความรู้สึกเจ็บปวดนั่นขึ้นมาอีก แม่ทัพหนุ่มรู้สึกเสียหน้าเล็กน้อยที่หลานสาวไม่ยอมส่งมือของนางมาวางบนมือของเขาเพื่อช่วยพยุงตัวของนางขึ้นไปบนรถม้า นางรังเกียจเขาถึงขนาดนี้เลยหรือ แม่ทัพหนุ่มครุ่นคิดขณะที่เขาเดินตามหลังนางเข้าไปนั่งในรถม้า และทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามกับนาง แต่แม่ทัพหนุ่มก็ไม่ปริปากอะไร เขาเพียงชำเลืองนางเล็กน้อยวันนี้นางงามมาก งามจนเขาตะลึง เขาแน่ใจมากว่านับจากวันนี้จวนแม่ทัพของเขาคงจะไม่ว่างเว้นจากแม่สื่ออย่างแน่นอน รถม้ายังคงแล่นไปเรื่อยๆ มุ่งตรงไปจวนคหบดีเหลียนที่อยู่ค่อนไปทางนอกเมืองเล็กน้อย เพราะจวนนี้เป็นจวนใหม่ที่สร้างขึ้นมาใหม่อีกหลังของเขา ที่หลังใหญ่กว่าเดิมพื้นที่กว้างขวางกว่าเดิมมาก คุณหนูเหลียนบุตรสาวเพียงคนเดียวของเขามักจะใช้ที่นี่เป็นที่จัดงานเลี้ยงรื่นเริงเพราะบรรยากาศดี สวนกว้างขวางที่ตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงามมากนั้น เหมาะแก่การจัดเลี้ยงในสวนทั้งยามบ่ายและยามค่ำคืนที่มองเห็น