หรงหรงตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ นางรีบเร่งฝีเท้าเดินไปที่ร้านค้าในหมู่บ้านเพื่อหวังจะซื้อเหล้ารสชาติดีหนึ่งไหกับไก่อีกหนึ่งตัว ก่อนจะหิ้วสัมภาระที่พึ่งจะซื้อมา เดินฮัมเพลงไปตลอดทั้งทาง เพื่อไปหาท่านลุงฉู่ที่ท้ายหมู่บ้านอย่างอารมณ์ดี ท่านลุงฉู่....ถือเป็นช่างไม้ฝีมือดีอันดับหนึ่งอีกหนึ่งคนของหมู่บ้าน เขา
"ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า...นางหนูคนนี้ ไม่เจอตั้งนาน เจ้าช่างรู้จักประจบประแจงคนแก่เสียจริงเชียว...ฮ่าๆๆ...ไม่เลว ไม่เลว..." ช่างไม้ฉู่หัวเราะเสียงดังอย่างชอบอกชอบใจเช่นกัน นานมากแล้วที่เขาไม่ได้อารมณ์ดีหัวเราะเสียงดังเช่นนี้ "คริ คริ..." หรงหรงเอามือปิดปากหัวเราะเสียงเบา "ว่าแต่....นางหนู เจ้าจะใช้ไม้ช
หรงหรงอยู่พูดคุยกับช่างไม้ฉู่ หลังจากร่างสัญญาเสร็จสิ้น ทั้งสองคนก็ลงลายมือประทับตราทันที เวลาล่วงเลยมาถึงยามพลบค่ำ หรงหรงจึงได้ขอตัวลากลับเรือนในเวลาต่อมา "หรงเอ๋อร์....เจ้าหายไปไหนมาทั้งวัน...? นางเมิงรีบไถ่ถามเมื่อเห็นใบหน้าบุตรสาว นางหายตัวไปตั้งแต่เช้าตรู จนตอนนี้หรงหรงพึ่งจะเดินกลับมาถึงเรือ
ปกติคนธรรมดาทั่วไป จะไม่สามารถสัมผัสถึงกำลังภายในของฝ่ายตรงข้ามได้ แต่นางกลับสัมผัสได้อย่างง่ายดาย โม่เฉินจึงไม่ได้ตอบกลับ เขาเพียงมองสตรีตรงหน้าด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว หรงหรงยังคงคลำหากระดูกส่วนที่เหลืออย่างต่อเนื่อง เมื่อสัมผัสได้ว่ามีกระดูกงอกออกมาเพิ่ม นางก็ไม่รอช้า รีบกำจัดทุบกระดูกส่วนที่เกินอ
พอนึกถึงเหตุการณ์ทุกอย่างขึ้นมา หรงหรงรู้สึกว่าบุรุษตรงหน้าไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่นางคิด แต่ตรงกันข้าม บุรุษผู้นี้กลับเจ้าแผนการ จัดการได้ยากยิ่ง นี้นางหลงกลเขาตั้งแต่แรกได้อย่างไร มิน่าละ....มารดาของนางถึงได้พรำบอกทุกวี่วัน ว่าบุรุษหน้าตาดี ล้วนแล้วแต่เชื่อใจไม่ได้ ยิ่งคิดนางก็ยิ่งแค้นใจ "อีกไม่
"ไม่มีแล้ว สิ่งที่จำเป็นต้องใช้....เจ้าก็เตรียมเอาไว้ให้แม่หมดแล้ว หรงเอ๋อร์....นี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เจ้าเข้าไปในตัวเมือง เจ้าจะต้องระวังตัวให้มาก อย่าได้เชื่อใจคนแปลกหน้าเป็นอันขาด...." "ข้ารู้แล้วเจ้าคะ ว่าแต่ท่านเเม่เถอะ..ท่านเคยเข้าไปในตัวเมืองมาแล้วหรือเจ้าค่ะ.....? "แม่เคยเข้าไปในยามที่
โม่เฉินฟังนางอธิบายอย่างตั้งใจฟัง ยิ่งพอได้ยินว่านางสั่งทำเก้าอี้รถเข็นขึ้นมาสำหรับเขาโดยเฉพาะ ในใจเขาพลันรู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างมาก "มีสตรีเพรียบพร้อมเช่นนี้ ข้ายังจะไปไหนได้อีก" *....* คำพูดนี้ทำให้หรงหรงขมวดคิ้วเป็นปมเข้าหากัน ฟังดูจากคำพูดของบุรุษตรงหน้า เขาคงไม่คิดที่จะไปจากที่นี้อย่างแน
ท่านลุงจางเตรียมพร้อมในการออกเดินทางเป็นที่เรียบร้อย เมื่อเห็นเงาที่กำลังเดินมาว่าเป็นผู้ใด ท่านลุงจางก็ไม่รอช้า เขาเริ่มออกเดินทางพร้อมกับหรงหรงทันทีอย่างไม่รีรอ "หรงเอ๋อร์...หากว่าเจ้าง่วง ก็นอนต่อได้เลยนะ อีกตั้งนานกว่าจะถึงในตัวเมือง ประเดี๋ยวพอใกล้ถึงตัวเมือง ลุงจะช่วยปลุกให้เจ้าตื่นเอง..."
"ไม่ได้!!!...รีบกลับไปพักผ่อนเถิด อย่าได้ทำให้ข้าต้องเป็นห่วงเลยนะ.." กล่าวจบโม่เฉินรีบใช้วิชาตัวเบา อุ้มสตรีตรงหน้าหายไปกลางอากาศอย่างว่องไว "ว้ายยย....นับวันท่านช่างมีนิสัยคล้ายคลึงกับท่านแม่ของข้า กังวลไม่เข้าเรื่อง...." ถึงปากจะบ่นออกไป แต่หรงหรงก็ใช้มือกอดคอโม่เฉินเอาไว้แน่น "สำหรับข้า ร่าง
หมอหญิงคนงามรีบสวมใส่อาภรณ์แล้วเดินจั้มฝีเท้าตามอี้ฟูออกไปอย่างร้อนใจ แต่พอเดินไปถึงจุดเกิดเหตุ นางถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างขุ่นเคือง เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้า กับสิ่งที่คิดในหัว ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว *......* "นี้มันอะไรกันเจ้าอ้วน เจ้ากลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปตั้งแต่เมื่อไหร่....? "ปัดโธ่...
โม่เฉินเงียบไปชั่วขณะ ก็จะเอ่ยออกมาเพื่อให้สตรีตรงหน้าคลายกังวล "ข้าก็อยู่แต่ในห้องตำรา จะออกไปที่ไหนได้ หมู่บ้านแห่งนี้ข้าไม่รู้จักมักคุ้นกับใครเลยสักคน เจ้าเองก็น่าจะรู้ดี..." "ให้มันจริงเถอะ อาเฉิน....หากท่านกล้าโกหกข้า ท่านก็น่าจะรู้ผลที่จะตามมาว่าเป็นเช่นไร...? หรงหรงจดจ้องมองปฎิกริยาของคนตร
ฤดูเหมันต์ผ่านพ้นไป ฤดูกาลใหม่หมุนเปลี่ยนเข้ามาแทนที่ หมอหญิงคนงามกำลังนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำภายในห้องอย่างสบายใจ "หรงเอ๋อร์...อยู่หรือไม่...? เสียงเรียกแผ่วเบาตะโกนเข้ามา แต่อีกคนภายในห้องกับกำลังนอนหลับตาพริ้มแช่อยู่ในอ่างน้ำอย่างผ่อนคลาย พร้อมทั้งกำลังฮัมเพลง โดยที่ไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง เ
หลังจากพูดคุยกับหญิงชรานานพอสมควร โม่เฉินก็มุ่งหน้าเดินกลับไปห้องของตนเอง แต่เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป เขาก็เห็นสตรีร่างบาง กำลังนั่งรอเขาพร้อมกับสัตว์เลี้ยงตัวน้อย อย่างใจจดใจจ่อ "ตกลงท่านคุยเรื่องอะไรตั้งครึ่งค่อนวันกับท่านแม่กันแน่...? โม่เฉินยังไม่ทันจะปิดประตูห้อง สตรีร่างบางก็ยิงคำถามขึ้นอย่า
หรงหรงเดินนำหน้าเข้ามาก่อน ยังไม่ทันที่นางจะเอ่ยปากพูด หญิงชราก็รีบออกคำสั่ง ด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวขึ้นทันที "คุกเข่า..." บุตรสาวทำตามคำสั่งมารดาโดยไม่ปริปาก พร้อมกับบุรุษต้นเรื่อง ทั้งสองคนคุกเข่าลงพร้อมกัน โดยไม่ปริปากแม้แต่คนเดียว..... "ท่านพี่ ท่านจงมองดูลูกสาวตัวดีของท่านเอาเถิด พวกเขาส
"ไปเถอะน๊า....เดี๋ยวพอถึงก็รู้เองแหละ..." เสียงถกเถียงของทั้งสองคนดังอยู่ภายในห้อง พลันมีเสียงเคาะประตูแทรกขึ้นมา ทำให้ทั้งสองคนหันไปมองทางเดียวกัน อย่างลุ้นระทึก พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา..... "หรงเอ๋อร์...นั้นลูกตื่นแล้วรึ....? เสียงหญิงชราตะโกนเรียก เมื่อเห็นว่าได้เวลาไปตรวจคนไข้ แต่ยังไม่เห็นแม
"ยังจะมีหน้ามายิ้มอีก ท่านเกิดปีหมาหรืออย่างไร ร่องรอยพวกนี้ท่านจงใจฝากไว้บนเรือนร่างข้าชัดๆ...." หรงหรงค่อยๆเลื่อนสายตามองไปทั่วเรือนรางของตนเองอย่างอ่อนระทวย ก่อนจะหันไปมองโม่เฉิน ฉายแววตาเขียวปั๊ดใส่เขา "ข้าเกิดปีกระต่าย มิได้เกิดปีหมาเสียหน่อย..." "โม่เฉิน....นี้ท่านกำลังยอกย้อนคำพูดข้าอยู่ส
"อ่ะ...." หรงเอ๋อร์ส่งเสียงร้องครางออกมาเบาๆด้วยความเจ็บ ริมฝีปากหนาเลื่อนลงจากคอไปที่กระดูกไหปลาร้า ร่างกายหรงหรงเหมือนถูกกระตุ้น ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างกอดรัดเขาเอาไว้แน่น "หรงเอ๋อร์ รีบปล่อยมือออกบัดเดี๋ยวนี้.." โม่เฉินกำลังจะพูดต่อ แต่ถูกหรงหรงดึงเขาลงมาจูบแทน พลันมุมปากของบุรุษยกยิ้มขึ้นม