"ไม่มีแล้ว สิ่งที่จำเป็นต้องใช้....เจ้าก็เตรียมเอาไว้ให้แม่หมดแล้ว หรงเอ๋อร์....นี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เจ้าเข้าไปในตัวเมือง เจ้าจะต้องระวังตัวให้มาก อย่าได้เชื่อใจคนแปลกหน้าเป็นอันขาด...." "ข้ารู้แล้วเจ้าคะ ว่าแต่ท่านเเม่เถอะ..ท่านเคยเข้าไปในตัวเมืองมาแล้วหรือเจ้าค่ะ.....? "แม่เคยเข้าไปในยามที่
โม่เฉินฟังนางอธิบายอย่างตั้งใจฟัง ยิ่งพอได้ยินว่านางสั่งทำเก้าอี้รถเข็นขึ้นมาสำหรับเขาโดยเฉพาะ ในใจเขาพลันรู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างมาก "มีสตรีเพรียบพร้อมเช่นนี้ ข้ายังจะไปไหนได้อีก" *....* คำพูดนี้ทำให้หรงหรงขมวดคิ้วเป็นปมเข้าหากัน ฟังดูจากคำพูดของบุรุษตรงหน้า เขาคงไม่คิดที่จะไปจากที่นี้อย่างแน
ท่านลุงจางเตรียมพร้อมในการออกเดินทางเป็นที่เรียบร้อย เมื่อเห็นเงาที่กำลังเดินมาว่าเป็นผู้ใด ท่านลุงจางก็ไม่รอช้า เขาเริ่มออกเดินทางพร้อมกับหรงหรงทันทีอย่างไม่รีรอ "หรงเอ๋อร์...หากว่าเจ้าง่วง ก็นอนต่อได้เลยนะ อีกตั้งนานกว่าจะถึงในตัวเมือง ประเดี๋ยวพอใกล้ถึงตัวเมือง ลุงจะช่วยปลุกให้เจ้าตื่นเอง..."
บุรุษตรงหน้ามองดูนางตั้งแต่หัวจรดเท้า สำรวจดูอยู่สักพัก "การจะพบกับเถ้าแก่เนี๊ยะ มิใช่ว่าใครจะมาพบได้ง่ายๆ แม่นางน้อย...ข้าไม่เคยเห็นหน้าค่าตาเจ้ามาก่อน เจ้ามีธุระสำคัญอันใด ถึงต้องการจะพบกับเถ้าแก่ของข้า....? ชายหนุ่มมองไปที่หญิงสาวตรงหน้าอย่างสงสัย "หากคุยกับพี่ชายเรื่องโสมพันปี ท่านให้คำตอบข้
"ได้สิเจ้าค่ะ...ขอบคุณนายท่านทั้งสาม เช่นนั้น...ข้าขอตัวลาก่อนเจ้าคะ..." เมื่อหรงหรงได่รับเงินมาเป็นที่เรียบร้อย นางจึงรีบขอตัวลา เพราะนางยังต้องทำเวลาในการซื้อของอย่างอื่นต่อ หรงหรงได้ถุงเงินก้อนใหญ่มาไว้ในครอบครอง และได้กลายเป็นเศรษฐีนีคนใหม่ขึ้นมาเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว นางเดินฮัมเพลงตลอดทั้งทา
"หยุดนะ...ส่งสิ่งของมีค่าออกมาให้หมด หากไม่อยากตาย...เสียงเข้มเอ่ยขึ้นเพื่อเป็นการข่มขวัญคู่ต่อสู้ หรงหรงยืนบุ้ยปาก ถอนหายใจออกมาราวกับรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ว่าจะมีเรื่องนี้เกิดขึ้นกับนาง นางมิได้มีท่าทีหวั่นวิตกแม้แต่นิดเดียว "วันนี้สวรรค์เข้าข้างพวกเราแล้ว พวกเจ้ารีบจัดการนางเสียให้ไว ในตัวแม่น
หรงหรงถือไม้ในมือฟาดไปที่หลังของขอทานทั้งสี่อย่างสุดแรง "เพลี้ยะ..." "โอ้ย.....แม่นางน้อย พวกข้ายอมแพ้แล้ว ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะมีวรยุทธที่เก่งกาจถึงเพียงนี้...? ขอทานอีกคนกล่าว "หุบปาก พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์พูด...? หรงหรงตะคอกใส่ขอทานทั้งสี่อย่างเกรี้ยวกราด ขอทานทั้งสี่ได้แต่ร้องโอดครวญเสียงเบา อย
เมื่อหรงหรงมองดูตราหมึกที่ประทับไว้ในโฉนดที่ดินอย่างชัดเจน นางจึงสันนิษฐานว่านี้คงเป็นโฉนดจริงแน่นอน แต่นางยังคงนึกแปลกใจ ในเมื่อราคาที่ดินไม่สูงมาก เหตุใดถึงไม่มีใครสนใจซื้อที่ดินแปลงนี้แม้แต่คนเดียว "เรื่องนี้ข้าก็ไม่ค่อยเเน่ใจ ที่ดินแปลงนี้ถูกขายให้กับนายท่านของข้า และมีคนมารับซื้อต่อถึงหกครั้ง
"ยินดีด้วย..." "ยินดีด้วยนะหรงหรง..." "ยินดีด้วยขอรับท่านหมอ.." "หรงหรง...ป้าขอแสดงความยินดีด้วยนะ.." "ยินดีด้วยนะขอรับพี่สาว.." "พวกข้าทุกคน ขอแสดงความยินดีด้วยนะลูกพี่ใหญ่..." เสียงแขกเหรื่อในงาน ต่างแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวกันอย่างคับคั่ง ตอนนี้บรรยากาศภายในงานเริ่มคึกครื้น ด้วยเสีย
"ข้า...จะเฝ้ารอวันนั้น..." โม่เฉินก้มลงไปใกล้เพื่อกระซิบบอกหรงหรง คำพูดเขาไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวนางเลยสักนิด "ชิ....เหตใดข้าถึงรู้สึกว่า ข้าเสียเปรียบท่านอยู่ฝ่ายเดียว" หรงหรงพูดไปตามที่คิด "เสียเปรียบ ข้าต่างหากที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ทั่วทั้งร่างกายของข้า มีแต่ฝีมือของหรงเอ๋อร์ทั้งสิ้น มิใช่รึ....
ช่วงสายของอีกวัน หรงหรงตื่นออกมาพร้อมกับโม่เฉิน ทำให้อี้ฟูที่กำลังจะเดินผ่านไปอีกทาง หันไปเห็นเข้าพอดี เขาจึงรีบเอ่ยออกไปอย่างหมั่นไส้ "เฮ้ออ....พวกเจ้าสองคนจะตัวติดกันไปถึงไหน เห็นใจคนโสดอย่างข้าบ้างเถอะ ข้าเห็นแล้วจะอ้วก..." อี้ฟูทำท่าทีราวกับคนแพ้ท้อง "หุบปาก..." โม่เฉินหันไปกล่าวเสียงแข็งใส่
แววตาของบุรุษร่างสูง มองดูสตรีทั้งสองตรงหน้าอย่างขบขัน หากบุตรสาวของหญิงชรารู้ว่าตนเองยังบริสุทธิ์อยู่ นางคงต้องหาเรื่องละเลยทิ้งเขาไปอีกเป็นแน่ โม่เฉินจึงทำเพียงแค่ไหลไปตามน้ำ ปล่อยให้หรงหรงคิดแบบนั้นไป นี้ถือว่าเป็นเรื่องดีที่สุดสำหรับโม่เฉิน "เอาละๆ แม่ก็หลงดีใจว่าแม่จะได้อุ้มหลานซะอีก..." "แต่
หรงหรงและโม่เฉิน ทั้งสองคนนั่งคุกเข่าลงไปพร้อมกัน ก่อนที่หญิงชราจะหันไปมองโม่เฉิน ที่กำลังวางกล่องสี่เหลี่ยมที่ถืออยู่ในมือ วางลงไว้ ณ เบื้องหน้าของหญิงชราด้วยสีหน้าจริงจัง หญิงชราเมื่อเห็นทั้งสองคนกำลังคุกเข่าหันมาทางนาง หญิงชราก็ได้แต่ขมวดคิ้วเป็นปมเข้าหากันอย่างนึกแปลกใจ "ท่านแม่ นี้คือเงินค่
"ไม่ได้!!!...รีบกลับไปพักผ่อนเถิด อย่าได้ทำให้ข้าต้องเป็นห่วงเลยนะ.." กล่าวจบโม่เฉินรีบใช้วิชาตัวเบา อุ้มสตรีตรงหน้าหายไปกลางอากาศอย่างว่องไว "ว้ายยย....นับวันท่านช่างมีนิสัยคล้ายคลึงกับท่านแม่ของข้า กังวลไม่เข้าเรื่อง...." ถึงปากจะบ่นออกไป แต่หรงหรงก็ใช้มือกอดคอโม่เฉินเอาไว้แน่น "สำหรับข้า ร่าง
หมอหญิงคนงามรีบสวมใส่อาภรณ์แล้วเดินจั้มฝีเท้าตามอี้ฟูออกไปอย่างร้อนใจ แต่พอเดินไปถึงจุดเกิดเหตุ นางถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างขุ่นเคือง เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้า กับสิ่งที่คิดในหัว ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว *......* "นี้มันอะไรกันเจ้าอ้วน เจ้ากลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปตั้งแต่เมื่อไหร่....? "ปัดโธ่...
โม่เฉินเงียบไปชั่วขณะ ก็จะเอ่ยออกมาเพื่อให้สตรีตรงหน้าคลายกังวล "ข้าก็อยู่แต่ในห้องตำรา จะออกไปที่ไหนได้ หมู่บ้านแห่งนี้ข้าไม่รู้จักมักคุ้นกับใครเลยสักคน เจ้าเองก็น่าจะรู้ดี..." "ให้มันจริงเถอะ อาเฉิน....หากท่านกล้าโกหกข้า ท่านก็น่าจะรู้ผลที่จะตามมาว่าเป็นเช่นไร...? หรงหรงจดจ้องมองปฎิกริยาของคนตร
ฤดูเหมันต์ผ่านพ้นไป ฤดูกาลใหม่หมุนเปลี่ยนเข้ามาแทนที่ หมอหญิงคนงามกำลังนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำภายในห้องอย่างสบายใจ "หรงเอ๋อร์...อยู่หรือไม่...? เสียงเรียกแผ่วเบาตะโกนเข้ามา แต่อีกคนภายในห้องกับกำลังนอนหลับตาพริ้มแช่อยู่ในอ่างน้ำอย่างผ่อนคลาย พร้อมทั้งกำลังฮัมเพลง โดยที่ไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง เ