"ได้สิเจ้าค่ะ...ขอบคุณนายท่านทั้งสาม เช่นนั้น...ข้าขอตัวลาก่อนเจ้าคะ..." เมื่อหรงหรงได่รับเงินมาเป็นที่เรียบร้อย นางจึงรีบขอตัวลา เพราะนางยังต้องทำเวลาในการซื้อของอย่างอื่นต่อ หรงหรงได้ถุงเงินก้อนใหญ่มาไว้ในครอบครอง และได้กลายเป็นเศรษฐีนีคนใหม่ขึ้นมาเพียงแค่ชั่วพริบตาเดียว นางเดินฮัมเพลงตลอดทั้งทา
"หยุดนะ...ส่งสิ่งของมีค่าออกมาให้หมด หากไม่อยากตาย...เสียงเข้มเอ่ยขึ้นเพื่อเป็นการข่มขวัญคู่ต่อสู้ หรงหรงยืนบุ้ยปาก ถอนหายใจออกมาราวกับรู้เหตุการณ์ล่วงหน้า ว่าจะมีเรื่องนี้เกิดขึ้นกับนาง นางมิได้มีท่าทีหวั่นวิตกแม้แต่นิดเดียว "วันนี้สวรรค์เข้าข้างพวกเราแล้ว พวกเจ้ารีบจัดการนางเสียให้ไว ในตัวแม่น
หรงหรงถือไม้ในมือฟาดไปที่หลังของขอทานทั้งสี่อย่างสุดแรง "เพลี้ยะ..." "โอ้ย.....แม่นางน้อย พวกข้ายอมแพ้แล้ว ไม่คาดคิดว่าเจ้าจะมีวรยุทธที่เก่งกาจถึงเพียงนี้...? ขอทานอีกคนกล่าว "หุบปาก พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์พูด...? หรงหรงตะคอกใส่ขอทานทั้งสี่อย่างเกรี้ยวกราด ขอทานทั้งสี่ได้แต่ร้องโอดครวญเสียงเบา อย
เมื่อหรงหรงมองดูตราหมึกที่ประทับไว้ในโฉนดที่ดินอย่างชัดเจน นางจึงสันนิษฐานว่านี้คงเป็นโฉนดจริงแน่นอน แต่นางยังคงนึกแปลกใจ ในเมื่อราคาที่ดินไม่สูงมาก เหตุใดถึงไม่มีใครสนใจซื้อที่ดินแปลงนี้แม้แต่คนเดียว "เรื่องนี้ข้าก็ไม่ค่อยเเน่ใจ ที่ดินแปลงนี้ถูกขายให้กับนายท่านของข้า และมีคนมารับซื้อต่อถึงหกครั้ง
"สิบตำลึง...ถือว่าเป็นราคาที่ไม่เลว งั้นตกลงตามนี้เจ้าคะ ฝากขอบคุณนายท่านของคุณชายมู๋ด้วยนะเจ้าคะ..." พอตกลงได้ราคาตามที่หรงหรงต้องการ นางจึงนั่งอ่านหนังสือสัญญาในการซื้อขาย และลงลายนิ้วมือประทับตรา พร้อมทั้งจ่ายเงินให้แก่คุณชายมู๋เต็มจำนวน การซื้อขายก็เป็นอันเสร็จสิ้น หลังจากนั้นไม่นาน หรงหรง
ทางด้านนางเมิง.... หญิงชราจัดเตรียมหุงหาอาหารให้คนงานอย่างรู้หน้าที่ ส่วนช่างไม้ฉู่กับคนงานอีกสี่คน ได้เริ่มทำการรื้อถอนบ้านออกเป็นที่เรียบร้อยในเวลาเพียงไม่นาน จากนั้นจึงได้ทำการมุงเพิงเล็กๆข้างลานบ้าน เพื่อให้นางเมิงและบุตรสาว ได้เอาไว้พักอาศัยไปก่อนชั่วคราว หลังจากรื้อเรือนและนำเศษไม้ออกไปทิ
"นี้เจ้าหนุ่ม....ในเมื่อเจ้ามีนางหนูหรงเป็นว่าที่ภรรยา เจ้าก็ต้องถนอมรักษาน้ำใจนางเอาไว้ให้ดีๆเชียว สตรีเช่นนาง...ทั้งชีวิตนี้ เจ้าคงหาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว...." ช่างไม้เหลี่ยงหันไปบอกโม่เฉินด้วยความหวังดี ภายในใจก็นึกเสียดายลูกสะใภ้คนนี้อยู่ไม่น้อย "ขอรับท่านลุง" โม่เฉินตอบรับทันที *.....*
"ข้าไม่ได้จะมาซื้อผ้า แต่เป็นแม่นางน้อยท่านนี้ต่างหาก นางสนใจเสื้อผ้าร้านเจ้า.....? หนานเฟิงชี้นิ้วไปที่หรงหรงทันที "เช่นนั้น แม่นางท่านนี้ เชิญเลือกซื้อได้ตามสบาย ผ้าร้านข้ามีเยอะแยะมากมาย แม่นางต้องการเสื้อผ้าแบบไหนหรือขอรับ...? "ข้าอยากได้ชุดสีขาวที่แขวนอยู่แบบตัวนี้ แต่ขอเป็นแบบเรียบๆธรรมดาท
"ไม่ได้!!!...รีบกลับไปพักผ่อนเถิด อย่าได้ทำให้ข้าต้องเป็นห่วงเลยนะ.." กล่าวจบโม่เฉินรีบใช้วิชาตัวเบา อุ้มสตรีตรงหน้าหายไปกลางอากาศอย่างว่องไว "ว้ายยย....นับวันท่านช่างมีนิสัยคล้ายคลึงกับท่านแม่ของข้า กังวลไม่เข้าเรื่อง...." ถึงปากจะบ่นออกไป แต่หรงหรงก็ใช้มือกอดคอโม่เฉินเอาไว้แน่น "สำหรับข้า ร่าง
หมอหญิงคนงามรีบสวมใส่อาภรณ์แล้วเดินจั้มฝีเท้าตามอี้ฟูออกไปอย่างร้อนใจ แต่พอเดินไปถึงจุดเกิดเหตุ นางถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างขุ่นเคือง เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้า กับสิ่งที่คิดในหัว ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว *......* "นี้มันอะไรกันเจ้าอ้วน เจ้ากลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปตั้งแต่เมื่อไหร่....? "ปัดโธ่...
โม่เฉินเงียบไปชั่วขณะ ก็จะเอ่ยออกมาเพื่อให้สตรีตรงหน้าคลายกังวล "ข้าก็อยู่แต่ในห้องตำรา จะออกไปที่ไหนได้ หมู่บ้านแห่งนี้ข้าไม่รู้จักมักคุ้นกับใครเลยสักคน เจ้าเองก็น่าจะรู้ดี..." "ให้มันจริงเถอะ อาเฉิน....หากท่านกล้าโกหกข้า ท่านก็น่าจะรู้ผลที่จะตามมาว่าเป็นเช่นไร...? หรงหรงจดจ้องมองปฎิกริยาของคนตร
ฤดูเหมันต์ผ่านพ้นไป ฤดูกาลใหม่หมุนเปลี่ยนเข้ามาแทนที่ หมอหญิงคนงามกำลังนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำภายในห้องอย่างสบายใจ "หรงเอ๋อร์...อยู่หรือไม่...? เสียงเรียกแผ่วเบาตะโกนเข้ามา แต่อีกคนภายในห้องกับกำลังนอนหลับตาพริ้มแช่อยู่ในอ่างน้ำอย่างผ่อนคลาย พร้อมทั้งกำลังฮัมเพลง โดยที่ไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง เ
หลังจากพูดคุยกับหญิงชรานานพอสมควร โม่เฉินก็มุ่งหน้าเดินกลับไปห้องของตนเอง แต่เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไป เขาก็เห็นสตรีร่างบาง กำลังนั่งรอเขาพร้อมกับสัตว์เลี้ยงตัวน้อย อย่างใจจดใจจ่อ "ตกลงท่านคุยเรื่องอะไรตั้งครึ่งค่อนวันกับท่านแม่กันแน่...? โม่เฉินยังไม่ทันจะปิดประตูห้อง สตรีร่างบางก็ยิงคำถามขึ้นอย่า
หรงหรงเดินนำหน้าเข้ามาก่อน ยังไม่ทันที่นางจะเอ่ยปากพูด หญิงชราก็รีบออกคำสั่ง ด้วยน้ำเสียงที่แข็งกร้าวขึ้นทันที "คุกเข่า..." บุตรสาวทำตามคำสั่งมารดาโดยไม่ปริปาก พร้อมกับบุรุษต้นเรื่อง ทั้งสองคนคุกเข่าลงพร้อมกัน โดยไม่ปริปากแม้แต่คนเดียว..... "ท่านพี่ ท่านจงมองดูลูกสาวตัวดีของท่านเอาเถิด พวกเขาส
"ไปเถอะน๊า....เดี๋ยวพอถึงก็รู้เองแหละ..." เสียงถกเถียงของทั้งสองคนดังอยู่ภายในห้อง พลันมีเสียงเคาะประตูแทรกขึ้นมา ทำให้ทั้งสองคนหันไปมองทางเดียวกัน อย่างลุ้นระทึก พูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา..... "หรงเอ๋อร์...นั้นลูกตื่นแล้วรึ....? เสียงหญิงชราตะโกนเรียก เมื่อเห็นว่าได้เวลาไปตรวจคนไข้ แต่ยังไม่เห็นแม
"ยังจะมีหน้ามายิ้มอีก ท่านเกิดปีหมาหรืออย่างไร ร่องรอยพวกนี้ท่านจงใจฝากไว้บนเรือนร่างข้าชัดๆ...." หรงหรงค่อยๆเลื่อนสายตามองไปทั่วเรือนรางของตนเองอย่างอ่อนระทวย ก่อนจะหันไปมองโม่เฉิน ฉายแววตาเขียวปั๊ดใส่เขา "ข้าเกิดปีกระต่าย มิได้เกิดปีหมาเสียหน่อย..." "โม่เฉิน....นี้ท่านกำลังยอกย้อนคำพูดข้าอยู่ส
"อ่ะ...." หรงเอ๋อร์ส่งเสียงร้องครางออกมาเบาๆด้วยความเจ็บ ริมฝีปากหนาเลื่อนลงจากคอไปที่กระดูกไหปลาร้า ร่างกายหรงหรงเหมือนถูกกระตุ้น ก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างกอดรัดเขาเอาไว้แน่น "หรงเอ๋อร์ รีบปล่อยมือออกบัดเดี๋ยวนี้.." โม่เฉินกำลังจะพูดต่อ แต่ถูกหรงหรงดึงเขาลงมาจูบแทน พลันมุมปากของบุรุษยกยิ้มขึ้นม