"ข้าไม่ได้จะมาซื้อผ้า แต่เป็นแม่นางน้อยท่านนี้ต่างหาก นางสนใจเสื้อผ้าร้านเจ้า.....? หนานเฟิงชี้นิ้วไปที่หรงหรงทันที "เช่นนั้น แม่นางท่านนี้ เชิญเลือกซื้อได้ตามสบาย ผ้าร้านข้ามีเยอะแยะมากมาย แม่นางต้องการเสื้อผ้าแบบไหนหรือขอรับ...? "ข้าอยากได้ชุดสีขาวที่แขวนอยู่แบบตัวนี้ แต่ขอเป็นแบบเรียบๆธรรมดาท
หรงหรงแวะซื้อขนมไปฝากมารดา และเป็ดย่างอีกตัว นางให้คนขายแบ่งเป็ดย่างออกเป็นสองห่อตามสัดส่วน แสงแดดเริ่มอ่อนลง พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน หรงหรงรีบเดินกลับไปที่เกวียนอย่างเหนื่อยหอบ "ท่านลุงจางข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ..." หรงหรงวางของที่ซื้อมา ลงไปไว้ในเกวียนอย่างระมัดระวัง "อ้าว...หรงเอ๋อร์ หากว่าเจ้า
"เป็นของราคาแพงซะด้วย ไม่ได้หรอกนางหนู ลุงรับเงินค่าแรงมาแล้ว ไหนเจ้าจะซื้อทั้งเหล้า ทั้งอาหาร และขนมให้ลุงอีกตั้งเยอะแยะ เจ้าเก็บเอาไว้ให้นางเมิงกินเสียเถอะ นี้มันมากเกินไปสำหรับลุง..." ท่านลุงจางรู้สึกได้รับของมาเยอะแล้ว เขาจึงรู้สึกละอายใจไม่อยากรับของเอาไว้อีก "ส่วนของท่านแม่ข้าเก็บเอาไว้ให้นา
"เจ้าคะ เจ้าคะ คิก...คิก..." หรงหรงแค่แกล้งพูดไปเพื่อฆ่าเวลา ไม่นึกเลยว่าท่านลุงจางจะคิดว่านี้เป็นเรื่องจริง ยามซวี(19.00-21.00)...... เกวียนได้ขับเคลื่อนมาจอดเทียบที่หน้าเรือนของนางเมิงอย่างช้าๆ เมื่อโม่เฉินเหลือบไปเห็นถึงความเคลื่อนไหว เขาจึงมองเห็นว่าเกวียนกำลังจอดเทียบอยู่ทางเข้าด้านหน้าเรือ
"ท่านแม่ ว่าแต่เหตุใดลูกถึงไม่เห็นหน้าอาเฉินเลยละเจ้าคะ....? "อ้าว...เมื่อครู่แม่ยังเห็นเขาอยู่ตรงนี้อยู่เลย..." หญิงชราชี้นิ้วหันไปมอง เห็นเพียงความว่างเปล่า "ถ้าเช่นนั้น เดี๋ยวลูกออกไปดูเขาเองเจ้าคะ..." หรงหรงเตรียมตั้งท่าจะลุกออกไป "หรงเอ๋อร์.....? "ว่าอย่างไรเจ้าคะท่านแม่....? พอได้ยินเส
"ไม่มีนี้ เจ้ารีบกินข้าวต่อเถอะ.." โม่เฉินรีบกล่าวตัดบทสนทนา "ต้องมีแน่ๆ บอกมา....ข้าไปทำสิ่งใดผิดต่อท่าน ท่าทีของท่านเช่นนี้ ข้ามิชอบใจเลยสักนิด.." หรงหรงปัดมือที่เปรอะเปื้อนด้วยอาภรณ์ที่นางสวมาใส่ ก่อนจะลุกขึ้นยืน แล้วหันไปจับแก้มทั้งสองข้างของโม่เฉิน ราวกับกำลังซักถามนักโทษ ด้วยน้ำเสียงที่แข็งก
"อาเฉิน...ข้าจะช่วยท่านเปลี่ยนอาภรณ์ดีหรือไม่....? หรงหรงไม่รอช้า นางรีบเข็นรถเข็นเข้าไปในเพิงพักอีกหลัง ที่ได้ช่างไม้ฉู่เป็นคนปลูกสร้างเอาไว้พักชั่วคราว หรงหรงรีบอุ้มโม่เฉินไปวางลงที่เตียงนอนอย่างทะนุถนอม จากนั้นก็ช่วยเขาผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ออกอย่างชำนาญ และคล่องแคล่วว่องไว ตั้งแต่โม่เฉินบาดเจ็บ
หญิงชราเห็นว่าบุตรสาวเหนื่อยจากการเดินทางเมื่อวานนี้ วันนี้นางจึงปล่อยให้บุตรสาวตื่นสายเป็นกรณีพิเศษ เมื่อถึงเวลางาน ช่างไม้ฉู่กับลูกมือทั้งสี่ก็ไม่รอช้า เมื่อวานพวกเขาได้รื้อเรือนออกจนแล้วเสร็จ และเริ่มขุดหลุมลงเสาเรือนเป็นที่เรียบร้อย วันนี้ทุกคนจึงเริ่มขึ้นโครงสร้างเรือน เพื่อทำตามแบบร่างที่หรง
"ยินดีด้วย..." "ยินดีด้วยนะหรงหรง..." "ยินดีด้วยขอรับท่านหมอ.." "หรงหรง...ป้าขอแสดงความยินดีด้วยนะ.." "ยินดีด้วยนะขอรับพี่สาว.." "พวกข้าทุกคน ขอแสดงความยินดีด้วยนะลูกพี่ใหญ่..." เสียงแขกเหรื่อในงาน ต่างแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวกันอย่างคับคั่ง ตอนนี้บรรยากาศภายในงานเริ่มคึกครื้น ด้วยเสีย
"ข้า...จะเฝ้ารอวันนั้น..." โม่เฉินก้มลงไปใกล้เพื่อกระซิบบอกหรงหรง คำพูดเขาไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวนางเลยสักนิด "ชิ....เหตใดข้าถึงรู้สึกว่า ข้าเสียเปรียบท่านอยู่ฝ่ายเดียว" หรงหรงพูดไปตามที่คิด "เสียเปรียบ ข้าต่างหากที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ทั่วทั้งร่างกายของข้า มีแต่ฝีมือของหรงเอ๋อร์ทั้งสิ้น มิใช่รึ....
ช่วงสายของอีกวัน หรงหรงตื่นออกมาพร้อมกับโม่เฉิน ทำให้อี้ฟูที่กำลังจะเดินผ่านไปอีกทาง หันไปเห็นเข้าพอดี เขาจึงรีบเอ่ยออกไปอย่างหมั่นไส้ "เฮ้ออ....พวกเจ้าสองคนจะตัวติดกันไปถึงไหน เห็นใจคนโสดอย่างข้าบ้างเถอะ ข้าเห็นแล้วจะอ้วก..." อี้ฟูทำท่าทีราวกับคนแพ้ท้อง "หุบปาก..." โม่เฉินหันไปกล่าวเสียงแข็งใส่
แววตาของบุรุษร่างสูง มองดูสตรีทั้งสองตรงหน้าอย่างขบขัน หากบุตรสาวของหญิงชรารู้ว่าตนเองยังบริสุทธิ์อยู่ นางคงต้องหาเรื่องละเลยทิ้งเขาไปอีกเป็นแน่ โม่เฉินจึงทำเพียงแค่ไหลไปตามน้ำ ปล่อยให้หรงหรงคิดแบบนั้นไป นี้ถือว่าเป็นเรื่องดีที่สุดสำหรับโม่เฉิน "เอาละๆ แม่ก็หลงดีใจว่าแม่จะได้อุ้มหลานซะอีก..." "แต่
หรงหรงและโม่เฉิน ทั้งสองคนนั่งคุกเข่าลงไปพร้อมกัน ก่อนที่หญิงชราจะหันไปมองโม่เฉิน ที่กำลังวางกล่องสี่เหลี่ยมที่ถืออยู่ในมือ วางลงไว้ ณ เบื้องหน้าของหญิงชราด้วยสีหน้าจริงจัง หญิงชราเมื่อเห็นทั้งสองคนกำลังคุกเข่าหันมาทางนาง หญิงชราก็ได้แต่ขมวดคิ้วเป็นปมเข้าหากันอย่างนึกแปลกใจ "ท่านแม่ นี้คือเงินค่
"ไม่ได้!!!...รีบกลับไปพักผ่อนเถิด อย่าได้ทำให้ข้าต้องเป็นห่วงเลยนะ.." กล่าวจบโม่เฉินรีบใช้วิชาตัวเบา อุ้มสตรีตรงหน้าหายไปกลางอากาศอย่างว่องไว "ว้ายยย....นับวันท่านช่างมีนิสัยคล้ายคลึงกับท่านแม่ของข้า กังวลไม่เข้าเรื่อง...." ถึงปากจะบ่นออกไป แต่หรงหรงก็ใช้มือกอดคอโม่เฉินเอาไว้แน่น "สำหรับข้า ร่าง
หมอหญิงคนงามรีบสวมใส่อาภรณ์แล้วเดินจั้มฝีเท้าตามอี้ฟูออกไปอย่างร้อนใจ แต่พอเดินไปถึงจุดเกิดเหตุ นางถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างขุ่นเคือง เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้า กับสิ่งที่คิดในหัว ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว *......* "นี้มันอะไรกันเจ้าอ้วน เจ้ากลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปตั้งแต่เมื่อไหร่....? "ปัดโธ่...
โม่เฉินเงียบไปชั่วขณะ ก็จะเอ่ยออกมาเพื่อให้สตรีตรงหน้าคลายกังวล "ข้าก็อยู่แต่ในห้องตำรา จะออกไปที่ไหนได้ หมู่บ้านแห่งนี้ข้าไม่รู้จักมักคุ้นกับใครเลยสักคน เจ้าเองก็น่าจะรู้ดี..." "ให้มันจริงเถอะ อาเฉิน....หากท่านกล้าโกหกข้า ท่านก็น่าจะรู้ผลที่จะตามมาว่าเป็นเช่นไร...? หรงหรงจดจ้องมองปฎิกริยาของคนตร
ฤดูเหมันต์ผ่านพ้นไป ฤดูกาลใหม่หมุนเปลี่ยนเข้ามาแทนที่ หมอหญิงคนงามกำลังนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำภายในห้องอย่างสบายใจ "หรงเอ๋อร์...อยู่หรือไม่...? เสียงเรียกแผ่วเบาตะโกนเข้ามา แต่อีกคนภายในห้องกับกำลังนอนหลับตาพริ้มแช่อยู่ในอ่างน้ำอย่างผ่อนคลาย พร้อมทั้งกำลังฮัมเพลง โดยที่ไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง เ