หญิงชราเห็นว่าบุตรสาวเหนื่อยจากการเดินทางเมื่อวานนี้ วันนี้นางจึงปล่อยให้บุตรสาวตื่นสายเป็นกรณีพิเศษ เมื่อถึงเวลางาน ช่างไม้ฉู่กับลูกมือทั้งสี่ก็ไม่รอช้า เมื่อวานพวกเขาได้รื้อเรือนออกจนแล้วเสร็จ และเริ่มขุดหลุมลงเสาเรือนเป็นที่เรียบร้อย วันนี้ทุกคนจึงเริ่มขึ้นโครงสร้างเรือน เพื่อทำตามแบบร่างที่หรง
หรงหรงเริ่มเข้าสู่โหมดจริงจังขึ้นมา มีเพียงโม่เฉินเท่านั้น ที่ทำให้หรงหรงกลับไปเป็นเด็กได้อีกครั้ง ตลอดชีวิตที่ผ่านมา หรงหรงจะต้องเข้มขรึมอยู่ตลอดเวลา เพราะด้วยตำแหน่งหน้าที่ที่ต้องแบกรับ กับภาระอันหนักอึ้ง นางจึงไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายแบบนี้มานานแล้ว หรงหรงหันกลับมาขยิบตาให้โม่เฉินเป็นครั้งคราว ก่อ
ลูกธนูไม้ไผ่ในมือโม่เฉิน พุ่งปักไปที่หัวเข่าของหัวโจกอันธพาลผู้นั้นอย่างรวดเร็ว ตามไปด้วยก้อนหินอีกสี่ก้อน ล้วนถูกดีดไปตามจุดสำคัญต่างๆ อย่างหนักหน่วง ทำให้หัวโจกอันธพาลมีสภาพที่ยับเยินย่ำแย่ อย่างมิมีชิ้นดี "หึ....ว่าอย่างไร ยังจะจัดการกับข้าอีกหรือไม่.....? โม่เฉินมองไปที่หัวโจกอันธพาลอย่างเย็นช
"เพล้ง...!!!! เสียงสิ่งของล่วงหล่นไปกองอยู่ที่พื้นอย่างฉับพลัน "ใครช่างกล้าดี....ทำให้ท่านย่าของข้า โกรธเป็นฟืนเป็นไฟได้ถึงเพียงนี้เจ้าคะ....? เสียงลั่วลั่วดังแว่วมาจากทางด้านหลังของแม่เฒ่าอิ๋น "หึ....เจ้ามาก็ดีแล้ว หลานรัก...เจ้ารีบมานั่งลงตรงนี้เร็วเข้า ย่ามีเรื่องสำคัญจะให้เจ้าช่วยไปจัดการ...
*.......* นางเมิงยังคงมึนงงในท่าทีของหญิงสาวตรงหน้าอยู่ชั่วขณะ.... "ไม่เจอกันนานหลายปี ลั่วลั่ว...เจ้าโตเป็นสาวแล้วหรือนี้ อีกหน่อยคงได้มีข่าวดี..." "ข้ายังไม่รีบออกเรือนหรอกเจ้าคะท่านป้า.." "จู่จู่เจ้ามากระทันหันเช่นนี้ มีธุระสำคัญอันใดอย่างนั้นหรือ...? นางเมิงรีบถามออกไปอย่างสงสัย หลังจ
"ข้าชื่อลั่วลั่ว เป็นญาติผู้พี่ของน้องหรงหรง คุณชายน่าจะพึ่งมาที่หมู่บ้านนี้เป็นครั้งแรกสินะเจ้าคะ หากไม่รู้จักข้า ก็มิใช่เรื่องแปลกหรอกเจ้าคะ...? ลั่วลั่วพูดจาอย่างเหนียมอาย "แต่เท่าที่ข้ารู้ ข้าไม่เคยเห็นหรงเอ๋อร์เล่าเรื่องของเจ้าให้ข้าฟัง ว่านางนั้นมีญาติผู้พี่ หรงเอ๋อร์บอกแต่เพียงว่า นางไม่มีญ
ยามที่หรงหรงยืนมองใบหน้าลั่วลั่ว จู่จู่ความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมพลันผุดขึ้นมาในหัวอย่างมากมาย ทำให้หรงหรงรับรู้ถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ตอนที่นางจำความได้ จนถึงตอนที่นางได้หมอลมหายใจไป ภาพแต่ละเหตุการณ์....มักจะมีลั่วลั่วเกี่ยวข้องอยู่ในนั้น ยิ่งคิดหรงหรงก็ยิ่งรู้สึกโมโหเจ้าของร่างเดิ
"ไม่ต้องๆ แม่ทำเสร็จหมดแล้ว เจ้ารีบไปล้างเนื้อล้างตัวก่อนเสียเถิด ส่วนที่เหลือเพียงแค่ตักใส่จานก็เป็นอันเสร็จ เจ้าแค่รอมาตั้งสำรับก็พอ...." นางเมิงรีบบอกบุตรสาวด้วยความห่วงใย แค่นี้บุตรสาวก็เหนื่อยมากพอแล้ว "อืม ถ้าเช่นนั้น....ก็ได้เจ้าคะ " หรงหรงรีบเดินไปอาบน้ำจนสะอาดสะอ้านอย่างหมดจด แล้วเดินกลับ
"เชิญท่านหมอและน้องชายทั้งสามตามสบาย...อาหารทุกอย่างถูกจัดวางเอาไว้เรียบร้อย ประเดี๋ยวข้าจะกลับมาใหม่ในภายหลัง.." กล่าวจบอู่ถงก็ขอตัวลาอย่างรู้หน้าที่ และยังกำชับสาวใช้ให้คอยบริการพวกเขา อย่างได้ขาดตกบกพร่อง หรงหรงไม่ได้ตอบกลับ นางเพียงเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ พร้อมกับจิบน้ำชาที่สาวใช้พึ่งจะเทให้นาง
ยังไม่ทันที่พวกเขาสี่คนจะเก็บสัมภาระเสร็จ กลับมีบุรุษสูงวัยคนหนึ่งแต่งตัวดูมีภูมิฐาน กำลังยืนประจันหน้ากับพวกเขาทั้งสี่คนอยู่ ด้านหลังบุรุษสูงวัยยังมีข้ารับใช้อีกสามคนร่างกายกำยำยืนประกบอยู่ด้วย "พวกเจ้าในที่นี้.....ใครที่คือท่านหมอ...? เสียงบุรุษสูงวัยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสุภาพ หรงหรงฟังจากน
"ขอบคุณท่านหมอกับพ่อหนุ่มทั้งสามมากเจ้าคะ.." ยายเฒ่ารีบขอบคุณอย่างจริงใจ ก่อนจะเดินจากไป "คนต่อไป..." น้ำเสียงเจ้าหนึ่งดูกระตือรือร้นดูตั้งอกตั้งใจทำหน้าที่เป็นอย่างมาก นี้เป็นครั้งแรกที่เขาถือว่าตัวเองทำตัวมีประโยชน์ขึ้นมา "เสียงไอสั่นและมีกลิ่นสาบ เสมหะข้นมาก น่าจะเป็นไข้หวัดร้อนชื้น เอายากลับไ
หรงหรงเริ่มจัดเเจงกับห่อยาสมุนไพร แยกออกเป็นหมวดหมู่ เพื่อให้หยิบจับได้ง่ายเวลาแจกจ่ายยา นี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของนาง ตั้งแต่ได้ข้ามภพมา ลุงหมิ่งพึ่งจะกลับมาจากจ่ายตลาด เขาเดินถือของพะรุงพะรังเข้ามาในเรือน เมื่อสายตาพลันเหลือบไปเห็นหรงหรงกำลังจัดเตรียมสิ่งของอยู่ เขาจึงรีบเอ่ยถามอย่างดีใจ
"เจ้าหนึ่ง...เจ้าน่าจะอายุมากสุด ต่อไปเรื่องการซื้อจ่ายอาหารการกิน รวมถึงสิ่งของทุกอย่างต้องผ่านมือเจ้าเป็นคนแรก และรวมไปถึงค่าใช้จ่ายทุกอย่างภายในเรือน เจ้าต้องเป็นคนดูแลเองทั้งหมด" หรงหรงเอ่ยออกไปเมื่อคิดขึ้นมาได้ "แต่....ข้า.....ไม่รู้หนังสือ..." เจ้าหนึ่งพูดจาตะกุกตะกักขึ้น "เรื่องนั่นมิใช่ป
แสงแดดเริ่มสาดส่องในยามสาย บรรยากาศยังคงเย็นอยู่ไม่จางหาย ไม่นานเกวียนรถก็มาหยุดอยู่ที่หน้าประตูเมืองอีกครั้ง "นางหนู....ตื่นได้แล้ว พวกเรามาถึงหน้าประตูแล้ว" ลุงจางตะโกนปลุกหรงหรงทันที่เมื่อจอดเทียบเกวียน "หือ.....ฮ้าววว.....ถึงแล้วรึเจ้าค่ะท่านลุง...? หรงหรงตื่นขึ้นมานั่งก่อน นางหาวออกมาสองสาม
"โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง" เสี่ยวเพ้ารีบเห่าขึ้นมา ท่าทีมันเหมือนกำลังตอบโต้กลับ ยิงทำให้หรงหรงรู้สึกขบขัน "พวกท่านทำราวกับเป็นคู่กัดกันมาแต่ชาติปางก่อน.." "เจ้าไม่เห็นมันทำท่าขู่ข้าหรอกหรือ ข้าก็เป็นเจ้านายมันครึ่งหนึ่งเหมือนกัน แต่ดูมันทำกับข้าสิ ทำราวกับข้าเป็นโจรผู้ร้าย ที่กำลังจะมาลักพาตัวเจ้าไป..."
เมื่อได้ยินบุตรสาวเอ่ยคำขอร้อง มารดาจึงยอมรับปากแต่โดยดี ก่อนจะเอ่ยบอกกับบุตรสาวขึ้นต่อ "หรงเอ๋อร์....ลูกนำเอาบุรุษที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าที่ไหนก็ไม่รู้ เข้ามาอยู่ในเรือนของเรา แม่ก็ว่าแย่แล้ว แต่นี้ยังจะเอาตัวอันตรายเข้ามาอยู่ในเรือนเพิ่ม เจ้าอยากจะเห็นแม่ตายก่อนวัยอันควรไปก่อนอย่างนั้นหรือ...
"เจ้าจะเอานมวัวไปทำอะไร...? ลุงเหย้ามองมาที่นาง ด้วยแววตาที่สงสัย "ข้าจะเอาไปให้ลูกแมวป่าที่พึ่งเกิดใหม่นะเจ้าคะ พอดีว่าแม่มันพึ่งจะตายจากไป จึงไม่มีนมให้ลูกแมวป่ากิน... " หรงหรงพูดออกไปด้วยท่าทีที่น่าสงสาร "ถ้าเช่นนั้น เจ้ารอลุงสักประเดี๋ยว" ลุงเหย้ารีบเดินหายไปจากทางหลังบ้าน ไม่นานเขาเดินกลับม