ยามที่หรงหรงยืนมองใบหน้าลั่วลั่ว จู่จู่ความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมพลันผุดขึ้นมาในหัวอย่างมากมาย ทำให้หรงหรงรับรู้ถึงเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ตั้งแต่ตอนที่นางจำความได้ จนถึงตอนที่นางได้หมอลมหายใจไป ภาพแต่ละเหตุการณ์....มักจะมีลั่วลั่วเกี่ยวข้องอยู่ในนั้น ยิ่งคิดหรงหรงก็ยิ่งรู้สึกโมโหเจ้าของร่างเดิ
"ไม่ต้องๆ แม่ทำเสร็จหมดแล้ว เจ้ารีบไปล้างเนื้อล้างตัวก่อนเสียเถิด ส่วนที่เหลือเพียงแค่ตักใส่จานก็เป็นอันเสร็จ เจ้าแค่รอมาตั้งสำรับก็พอ...." นางเมิงรีบบอกบุตรสาวด้วยความห่วงใย แค่นี้บุตรสาวก็เหนื่อยมากพอแล้ว "อืม ถ้าเช่นนั้น....ก็ได้เจ้าคะ " หรงหรงรีบเดินไปอาบน้ำจนสะอาดสะอ้านอย่างหมดจด แล้วเดินกลับ
โม่เฉินยกยิ้มที่มุมปาก เขานั่งมองดูทุกการกระทำอย่างจดจ่อ หรงหรงหยุดชะงักในทันที เมื่อมองเห็นรอยยิ้มที่กำลังยั่วยวนนางอยู่ในขณะนี้ "ไม่ต้องเป่าแล้ว ไม่เจ็บแล้ว..." โม่เฉินส่งยิ้มออกมาให้หรงหรงอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเอื้อมมือไปสัมผัสที่แก้มของนางอย่างเผลอไผล ......................................
ท่ามกลางบรรยากาศยามค่ำคืน หรงหรงรู้สึกอ่อนเพลียจากการขึ้นเขาไปล่าสัตว์เมื่อตอนกลางวันอยู่ไม่น้อย โดยนิสัยของนางควรจะหลับสนิทไปตั้งแต่หัวค่ำ แต่ลางสังหรณ์ของนางบอกว่า วันนี้จะต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นมาแน่ๆ หรงหรงจึงได้หลับๆตื่นๆ และลุกขึ้นออกมาสูดอากาศในกลางดึกเพียงลำพัง สตรีร่างบางใช้วิชาตัวเบาดีดต
ชายฉกรรจ์ที่เดินตามหลังอีกหลายคนต่างรีบหันซ้ายมองขวา อย่างอกสั่นขวัญแขวน เหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้น ต่างสร้างความตื่นตกใจให้พวกเขาอยู่ไม่มากก็น้อย หรงหรงมองดูเหตุการณ์จากมุมสูง นางเอามือปิดปากตนเองหัวเราะเสียงเบาอย่างตลกขบขัน นี้เพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้น....คิก....คิก ทั้งหมู่บ้านล้วนรู้ว่าเรือนข
"ยังไม่ถึงเวลา แต่หากไม่มีเขา ก็คงไม่มีท่านในวันนี้ หากมีเวลา...ข้าควรจะต้องไปขอบคุณเขาสักหน่อย..." คำพูดนางแฝงไปด้วยความนัย "ก็จริง.." โม่เฉินยิ้มให้สตรีตรงหน้าอย่างอ่อนโยน เขาเห็นด้วยกับคำพูดของสตรีตรงหน้า "ดึกมากแล้ว รีบนอนเถอะ หากอยู่นานไป ประเดี่ยวข้าจะอดใจไม่ไหว...? หรงหรงมองไปที่ใบหน้าของ
ลั่วลั่วที่กำลังซักผ้าใกล้เสร็จ เมื่อพวกนางสามคนเห็นว่าหรงหรงกำลังเดินถือตระกร้าผ้า เพื่อมุ่งหน้ามาทางลำธารที่พวกนางทั้งสามคนกำลังนั่งอยู่ พวกนางต่างหันไปมองหรงหรง ราวกับเห็นศัตรูตัวฉกาจ ชิงหยวนและชิงผิง พวกนางสองคนเป็นลูกพี่ลูกน้องที่อายุไล่เลี่ยกันกับลั่วลั่ว พ่อแม่ของพวกนางเป็นเพื่อนบ้านที่สนิท
ชาวบ้านทุกคนต่างมองไปที่หรงหรงอย่างพร้อมเพรียงกัน "ใช่...ลั่วลั่ว เจ้าพูดถูก แต่ก่อนนางมิใช่คนเช่นนี้" แม่เฒ่าอิ๋นรีบตะโกนเสริมทัพอย่างไม่รีรอ *.....* หรงหรงเมื่อได้ยินเรื่องไร้สาระที่ลั่วลั่วเป็นคนกุขึ้น นางกลับไม่ได้โต้ตอบอันใด นางปล่อยให้สองย่าหลานแสดงละครต่อไป "ห้ะ....น้องหรงหรงของข้าคงไ
"เชิญท่านหมอและน้องชายทั้งสามตามสบาย...อาหารทุกอย่างถูกจัดวางเอาไว้เรียบร้อย ประเดี๋ยวข้าจะกลับมาใหม่ในภายหลัง.." กล่าวจบอู่ถงก็ขอตัวลาอย่างรู้หน้าที่ และยังกำชับสาวใช้ให้คอยบริการพวกเขา อย่างได้ขาดตกบกพร่อง หรงหรงไม่ได้ตอบกลับ นางเพียงเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ พร้อมกับจิบน้ำชาที่สาวใช้พึ่งจะเทให้นาง
ยังไม่ทันที่พวกเขาสี่คนจะเก็บสัมภาระเสร็จ กลับมีบุรุษสูงวัยคนหนึ่งแต่งตัวดูมีภูมิฐาน กำลังยืนประจันหน้ากับพวกเขาทั้งสี่คนอยู่ ด้านหลังบุรุษสูงวัยยังมีข้ารับใช้อีกสามคนร่างกายกำยำยืนประกบอยู่ด้วย "พวกเจ้าในที่นี้.....ใครที่คือท่านหมอ...? เสียงบุรุษสูงวัยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสุภาพ หรงหรงฟังจากน
"ขอบคุณท่านหมอกับพ่อหนุ่มทั้งสามมากเจ้าคะ.." ยายเฒ่ารีบขอบคุณอย่างจริงใจ ก่อนจะเดินจากไป "คนต่อไป..." น้ำเสียงเจ้าหนึ่งดูกระตือรือร้นดูตั้งอกตั้งใจทำหน้าที่เป็นอย่างมาก นี้เป็นครั้งแรกที่เขาถือว่าตัวเองทำตัวมีประโยชน์ขึ้นมา "เสียงไอสั่นและมีกลิ่นสาบ เสมหะข้นมาก น่าจะเป็นไข้หวัดร้อนชื้น เอายากลับไ
หรงหรงเริ่มจัดเเจงกับห่อยาสมุนไพร แยกออกเป็นหมวดหมู่ เพื่อให้หยิบจับได้ง่ายเวลาแจกจ่ายยา นี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของนาง ตั้งแต่ได้ข้ามภพมา ลุงหมิ่งพึ่งจะกลับมาจากจ่ายตลาด เขาเดินถือของพะรุงพะรังเข้ามาในเรือน เมื่อสายตาพลันเหลือบไปเห็นหรงหรงกำลังจัดเตรียมสิ่งของอยู่ เขาจึงรีบเอ่ยถามอย่างดีใจ
"เจ้าหนึ่ง...เจ้าน่าจะอายุมากสุด ต่อไปเรื่องการซื้อจ่ายอาหารการกิน รวมถึงสิ่งของทุกอย่างต้องผ่านมือเจ้าเป็นคนแรก และรวมไปถึงค่าใช้จ่ายทุกอย่างภายในเรือน เจ้าต้องเป็นคนดูแลเองทั้งหมด" หรงหรงเอ่ยออกไปเมื่อคิดขึ้นมาได้ "แต่....ข้า.....ไม่รู้หนังสือ..." เจ้าหนึ่งพูดจาตะกุกตะกักขึ้น "เรื่องนั่นมิใช่ป
แสงแดดเริ่มสาดส่องในยามสาย บรรยากาศยังคงเย็นอยู่ไม่จางหาย ไม่นานเกวียนรถก็มาหยุดอยู่ที่หน้าประตูเมืองอีกครั้ง "นางหนู....ตื่นได้แล้ว พวกเรามาถึงหน้าประตูแล้ว" ลุงจางตะโกนปลุกหรงหรงทันที่เมื่อจอดเทียบเกวียน "หือ.....ฮ้าววว.....ถึงแล้วรึเจ้าค่ะท่านลุง...? หรงหรงตื่นขึ้นมานั่งก่อน นางหาวออกมาสองสาม
"โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง" เสี่ยวเพ้ารีบเห่าขึ้นมา ท่าทีมันเหมือนกำลังตอบโต้กลับ ยิงทำให้หรงหรงรู้สึกขบขัน "พวกท่านทำราวกับเป็นคู่กัดกันมาแต่ชาติปางก่อน.." "เจ้าไม่เห็นมันทำท่าขู่ข้าหรอกหรือ ข้าก็เป็นเจ้านายมันครึ่งหนึ่งเหมือนกัน แต่ดูมันทำกับข้าสิ ทำราวกับข้าเป็นโจรผู้ร้าย ที่กำลังจะมาลักพาตัวเจ้าไป..."
เมื่อได้ยินบุตรสาวเอ่ยคำขอร้อง มารดาจึงยอมรับปากแต่โดยดี ก่อนจะเอ่ยบอกกับบุตรสาวขึ้นต่อ "หรงเอ๋อร์....ลูกนำเอาบุรุษที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าที่ไหนก็ไม่รู้ เข้ามาอยู่ในเรือนของเรา แม่ก็ว่าแย่แล้ว แต่นี้ยังจะเอาตัวอันตรายเข้ามาอยู่ในเรือนเพิ่ม เจ้าอยากจะเห็นแม่ตายก่อนวัยอันควรไปก่อนอย่างนั้นหรือ...
"เจ้าจะเอานมวัวไปทำอะไร...? ลุงเหย้ามองมาที่นาง ด้วยแววตาที่สงสัย "ข้าจะเอาไปให้ลูกแมวป่าที่พึ่งเกิดใหม่นะเจ้าคะ พอดีว่าแม่มันพึ่งจะตายจากไป จึงไม่มีนมให้ลูกแมวป่ากิน... " หรงหรงพูดออกไปด้วยท่าทีที่น่าสงสาร "ถ้าเช่นนั้น เจ้ารอลุงสักประเดี๋ยว" ลุงเหย้ารีบเดินหายไปจากทางหลังบ้าน ไม่นานเขาเดินกลับม