"ไม่มีนี้ เจ้ารีบกินข้าวต่อเถอะ.." โม่เฉินรีบกล่าวตัดบทสนทนา "ต้องมีแน่ๆ บอกมา....ข้าไปทำสิ่งใดผิดต่อท่าน ท่าทีของท่านเช่นนี้ ข้ามิชอบใจเลยสักนิด.." หรงหรงปัดมือที่เปรอะเปื้อนด้วยอาภรณ์ที่นางสวมาใส่ ก่อนจะลุกขึ้นยืน แล้วหันไปจับแก้มทั้งสองข้างของโม่เฉิน ราวกับกำลังซักถามนักโทษ ด้วยน้ำเสียงที่แข็งก
"อาเฉิน...ข้าจะช่วยท่านเปลี่ยนอาภรณ์ดีหรือไม่....? หรงหรงไม่รอช้า นางรีบเข็นรถเข็นเข้าไปในเพิงพักอีกหลัง ที่ได้ช่างไม้ฉู่เป็นคนปลูกสร้างเอาไว้พักชั่วคราว หรงหรงรีบอุ้มโม่เฉินไปวางลงที่เตียงนอนอย่างทะนุถนอม จากนั้นก็ช่วยเขาผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ออกอย่างชำนาญ และคล่องแคล่วว่องไว ตั้งแต่โม่เฉินบาดเจ็บ
หญิงชราเห็นว่าบุตรสาวเหนื่อยจากการเดินทางเมื่อวานนี้ วันนี้นางจึงปล่อยให้บุตรสาวตื่นสายเป็นกรณีพิเศษ เมื่อถึงเวลางาน ช่างไม้ฉู่กับลูกมือทั้งสี่ก็ไม่รอช้า เมื่อวานพวกเขาได้รื้อเรือนออกจนแล้วเสร็จ และเริ่มขุดหลุมลงเสาเรือนเป็นที่เรียบร้อย วันนี้ทุกคนจึงเริ่มขึ้นโครงสร้างเรือน เพื่อทำตามแบบร่างที่หรง
หรงหรงเริ่มเข้าสู่โหมดจริงจังขึ้นมา มีเพียงโม่เฉินเท่านั้น ที่ทำให้หรงหรงกลับไปเป็นเด็กได้อีกครั้ง ตลอดชีวิตที่ผ่านมา หรงหรงจะต้องเข้มขรึมอยู่ตลอดเวลา เพราะด้วยตำแหน่งหน้าที่ที่ต้องแบกรับ กับภาระอันหนักอึ้ง นางจึงไม่ได้รู้สึกผ่อนคลายแบบนี้มานานแล้ว หรงหรงหันกลับมาขยิบตาให้โม่เฉินเป็นครั้งคราว ก่อ
ลูกธนูไม้ไผ่ในมือโม่เฉิน พุ่งปักไปที่หัวเข่าของหัวโจกอันธพาลผู้นั้นอย่างรวดเร็ว ตามไปด้วยก้อนหินอีกสี่ก้อน ล้วนถูกดีดไปตามจุดสำคัญต่างๆ อย่างหนักหน่วง ทำให้หัวโจกอันธพาลมีสภาพที่ยับเยินย่ำแย่ อย่างมิมีชิ้นดี "หึ....ว่าอย่างไร ยังจะจัดการกับข้าอีกหรือไม่.....? โม่เฉินมองไปที่หัวโจกอันธพาลอย่างเย็นช
"เพล้ง...!!!! เสียงสิ่งของล่วงหล่นไปกองอยู่ที่พื้นอย่างฉับพลัน "ใครช่างกล้าดี....ทำให้ท่านย่าของข้า โกรธเป็นฟืนเป็นไฟได้ถึงเพียงนี้เจ้าคะ....? เสียงลั่วลั่วดังแว่วมาจากทางด้านหลังของแม่เฒ่าอิ๋น "หึ....เจ้ามาก็ดีแล้ว หลานรัก...เจ้ารีบมานั่งลงตรงนี้เร็วเข้า ย่ามีเรื่องสำคัญจะให้เจ้าช่วยไปจัดการ...
*.......* นางเมิงยังคงมึนงงในท่าทีของหญิงสาวตรงหน้าอยู่ชั่วขณะ.... "ไม่เจอกันนานหลายปี ลั่วลั่ว...เจ้าโตเป็นสาวแล้วหรือนี้ อีกหน่อยคงได้มีข่าวดี..." "ข้ายังไม่รีบออกเรือนหรอกเจ้าคะท่านป้า.." "จู่จู่เจ้ามากระทันหันเช่นนี้ มีธุระสำคัญอันใดอย่างนั้นหรือ...? นางเมิงรีบถามออกไปอย่างสงสัย หลังจ
"ข้าชื่อลั่วลั่ว เป็นญาติผู้พี่ของน้องหรงหรง คุณชายน่าจะพึ่งมาที่หมู่บ้านนี้เป็นครั้งแรกสินะเจ้าคะ หากไม่รู้จักข้า ก็มิใช่เรื่องแปลกหรอกเจ้าคะ...? ลั่วลั่วพูดจาอย่างเหนียมอาย "แต่เท่าที่ข้ารู้ ข้าไม่เคยเห็นหรงเอ๋อร์เล่าเรื่องของเจ้าให้ข้าฟัง ว่านางนั้นมีญาติผู้พี่ หรงเอ๋อร์บอกแต่เพียงว่า นางไม่มีญ
"ยินดีด้วย..." "ยินดีด้วยนะหรงหรง..." "ยินดีด้วยขอรับท่านหมอ.." "หรงหรง...ป้าขอแสดงความยินดีด้วยนะ.." "ยินดีด้วยนะขอรับพี่สาว.." "พวกข้าทุกคน ขอแสดงความยินดีด้วยนะลูกพี่ใหญ่..." เสียงแขกเหรื่อในงาน ต่างแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวกันอย่างคับคั่ง ตอนนี้บรรยากาศภายในงานเริ่มคึกครื้น ด้วยเสีย
"ข้า...จะเฝ้ารอวันนั้น..." โม่เฉินก้มลงไปใกล้เพื่อกระซิบบอกหรงหรง คำพูดเขาไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวนางเลยสักนิด "ชิ....เหตใดข้าถึงรู้สึกว่า ข้าเสียเปรียบท่านอยู่ฝ่ายเดียว" หรงหรงพูดไปตามที่คิด "เสียเปรียบ ข้าต่างหากที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ทั่วทั้งร่างกายของข้า มีแต่ฝีมือของหรงเอ๋อร์ทั้งสิ้น มิใช่รึ....
ช่วงสายของอีกวัน หรงหรงตื่นออกมาพร้อมกับโม่เฉิน ทำให้อี้ฟูที่กำลังจะเดินผ่านไปอีกทาง หันไปเห็นเข้าพอดี เขาจึงรีบเอ่ยออกไปอย่างหมั่นไส้ "เฮ้ออ....พวกเจ้าสองคนจะตัวติดกันไปถึงไหน เห็นใจคนโสดอย่างข้าบ้างเถอะ ข้าเห็นแล้วจะอ้วก..." อี้ฟูทำท่าทีราวกับคนแพ้ท้อง "หุบปาก..." โม่เฉินหันไปกล่าวเสียงแข็งใส่
แววตาของบุรุษร่างสูง มองดูสตรีทั้งสองตรงหน้าอย่างขบขัน หากบุตรสาวของหญิงชรารู้ว่าตนเองยังบริสุทธิ์อยู่ นางคงต้องหาเรื่องละเลยทิ้งเขาไปอีกเป็นแน่ โม่เฉินจึงทำเพียงแค่ไหลไปตามน้ำ ปล่อยให้หรงหรงคิดแบบนั้นไป นี้ถือว่าเป็นเรื่องดีที่สุดสำหรับโม่เฉิน "เอาละๆ แม่ก็หลงดีใจว่าแม่จะได้อุ้มหลานซะอีก..." "แต่
หรงหรงและโม่เฉิน ทั้งสองคนนั่งคุกเข่าลงไปพร้อมกัน ก่อนที่หญิงชราจะหันไปมองโม่เฉิน ที่กำลังวางกล่องสี่เหลี่ยมที่ถืออยู่ในมือ วางลงไว้ ณ เบื้องหน้าของหญิงชราด้วยสีหน้าจริงจัง หญิงชราเมื่อเห็นทั้งสองคนกำลังคุกเข่าหันมาทางนาง หญิงชราก็ได้แต่ขมวดคิ้วเป็นปมเข้าหากันอย่างนึกแปลกใจ "ท่านแม่ นี้คือเงินค่
"ไม่ได้!!!...รีบกลับไปพักผ่อนเถิด อย่าได้ทำให้ข้าต้องเป็นห่วงเลยนะ.." กล่าวจบโม่เฉินรีบใช้วิชาตัวเบา อุ้มสตรีตรงหน้าหายไปกลางอากาศอย่างว่องไว "ว้ายยย....นับวันท่านช่างมีนิสัยคล้ายคลึงกับท่านแม่ของข้า กังวลไม่เข้าเรื่อง...." ถึงปากจะบ่นออกไป แต่หรงหรงก็ใช้มือกอดคอโม่เฉินเอาไว้แน่น "สำหรับข้า ร่าง
หมอหญิงคนงามรีบสวมใส่อาภรณ์แล้วเดินจั้มฝีเท้าตามอี้ฟูออกไปอย่างร้อนใจ แต่พอเดินไปถึงจุดเกิดเหตุ นางถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างขุ่นเคือง เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้า กับสิ่งที่คิดในหัว ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว *......* "นี้มันอะไรกันเจ้าอ้วน เจ้ากลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปตั้งแต่เมื่อไหร่....? "ปัดโธ่...
โม่เฉินเงียบไปชั่วขณะ ก็จะเอ่ยออกมาเพื่อให้สตรีตรงหน้าคลายกังวล "ข้าก็อยู่แต่ในห้องตำรา จะออกไปที่ไหนได้ หมู่บ้านแห่งนี้ข้าไม่รู้จักมักคุ้นกับใครเลยสักคน เจ้าเองก็น่าจะรู้ดี..." "ให้มันจริงเถอะ อาเฉิน....หากท่านกล้าโกหกข้า ท่านก็น่าจะรู้ผลที่จะตามมาว่าเป็นเช่นไร...? หรงหรงจดจ้องมองปฎิกริยาของคนตร
ฤดูเหมันต์ผ่านพ้นไป ฤดูกาลใหม่หมุนเปลี่ยนเข้ามาแทนที่ หมอหญิงคนงามกำลังนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำภายในห้องอย่างสบายใจ "หรงเอ๋อร์...อยู่หรือไม่...? เสียงเรียกแผ่วเบาตะโกนเข้ามา แต่อีกคนภายในห้องกับกำลังนอนหลับตาพริ้มแช่อยู่ในอ่างน้ำอย่างผ่อนคลาย พร้อมทั้งกำลังฮัมเพลง โดยที่ไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง เ