เมื่อหรงหรงมองดูตราหมึกที่ประทับไว้ในโฉนดที่ดินอย่างชัดเจน นางจึงสันนิษฐานว่านี้คงเป็นโฉนดจริงแน่นอน แต่นางยังคงนึกแปลกใจ ในเมื่อราคาที่ดินไม่สูงมาก เหตุใดถึงไม่มีใครสนใจซื้อที่ดินแปลงนี้แม้แต่คนเดียว "เรื่องนี้ข้าก็ไม่ค่อยเเน่ใจ ที่ดินแปลงนี้ถูกขายให้กับนายท่านของข้า และมีคนมารับซื้อต่อถึงหกครั้ง
"สิบตำลึง...ถือว่าเป็นราคาที่ไม่เลว งั้นตกลงตามนี้เจ้าคะ ฝากขอบคุณนายท่านของคุณชายมู๋ด้วยนะเจ้าคะ..." พอตกลงได้ราคาตามที่หรงหรงต้องการ นางจึงนั่งอ่านหนังสือสัญญาในการซื้อขาย และลงลายนิ้วมือประทับตรา พร้อมทั้งจ่ายเงินให้แก่คุณชายมู๋เต็มจำนวน การซื้อขายก็เป็นอันเสร็จสิ้น หลังจากนั้นไม่นาน หรงหรง
ทางด้านนางเมิง.... หญิงชราจัดเตรียมหุงหาอาหารให้คนงานอย่างรู้หน้าที่ ส่วนช่างไม้ฉู่กับคนงานอีกสี่คน ได้เริ่มทำการรื้อถอนบ้านออกเป็นที่เรียบร้อยในเวลาเพียงไม่นาน จากนั้นจึงได้ทำการมุงเพิงเล็กๆข้างลานบ้าน เพื่อให้นางเมิงและบุตรสาว ได้เอาไว้พักอาศัยไปก่อนชั่วคราว หลังจากรื้อเรือนและนำเศษไม้ออกไปทิ
"นี้เจ้าหนุ่ม....ในเมื่อเจ้ามีนางหนูหรงเป็นว่าที่ภรรยา เจ้าก็ต้องถนอมรักษาน้ำใจนางเอาไว้ให้ดีๆเชียว สตรีเช่นนาง...ทั้งชีวิตนี้ เจ้าคงหาจากที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว...." ช่างไม้เหลี่ยงหันไปบอกโม่เฉินด้วยความหวังดี ภายในใจก็นึกเสียดายลูกสะใภ้คนนี้อยู่ไม่น้อย "ขอรับท่านลุง" โม่เฉินตอบรับทันที *.....*
"ข้าไม่ได้จะมาซื้อผ้า แต่เป็นแม่นางน้อยท่านนี้ต่างหาก นางสนใจเสื้อผ้าร้านเจ้า.....? หนานเฟิงชี้นิ้วไปที่หรงหรงทันที "เช่นนั้น แม่นางท่านนี้ เชิญเลือกซื้อได้ตามสบาย ผ้าร้านข้ามีเยอะแยะมากมาย แม่นางต้องการเสื้อผ้าแบบไหนหรือขอรับ...? "ข้าอยากได้ชุดสีขาวที่แขวนอยู่แบบตัวนี้ แต่ขอเป็นแบบเรียบๆธรรมดาท
หรงหรงแวะซื้อขนมไปฝากมารดา และเป็ดย่างอีกตัว นางให้คนขายแบ่งเป็ดย่างออกเป็นสองห่อตามสัดส่วน แสงแดดเริ่มอ่อนลง พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน หรงหรงรีบเดินกลับไปที่เกวียนอย่างเหนื่อยหอบ "ท่านลุงจางข้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ..." หรงหรงวางของที่ซื้อมา ลงไปไว้ในเกวียนอย่างระมัดระวัง "อ้าว...หรงเอ๋อร์ หากว่าเจ้า
"เป็นของราคาแพงซะด้วย ไม่ได้หรอกนางหนู ลุงรับเงินค่าแรงมาแล้ว ไหนเจ้าจะซื้อทั้งเหล้า ทั้งอาหาร และขนมให้ลุงอีกตั้งเยอะแยะ เจ้าเก็บเอาไว้ให้นางเมิงกินเสียเถอะ นี้มันมากเกินไปสำหรับลุง..." ท่านลุงจางรู้สึกได้รับของมาเยอะแล้ว เขาจึงรู้สึกละอายใจไม่อยากรับของเอาไว้อีก "ส่วนของท่านแม่ข้าเก็บเอาไว้ให้นา
"เจ้าคะ เจ้าคะ คิก...คิก..." หรงหรงแค่แกล้งพูดไปเพื่อฆ่าเวลา ไม่นึกเลยว่าท่านลุงจางจะคิดว่านี้เป็นเรื่องจริง ยามซวี(19.00-21.00)...... เกวียนได้ขับเคลื่อนมาจอดเทียบที่หน้าเรือนของนางเมิงอย่างช้าๆ เมื่อโม่เฉินเหลือบไปเห็นถึงความเคลื่อนไหว เขาจึงมองเห็นว่าเกวียนกำลังจอดเทียบอยู่ทางเข้าด้านหน้าเรือ
"เชิญท่านหมอและน้องชายทั้งสามตามสบาย...อาหารทุกอย่างถูกจัดวางเอาไว้เรียบร้อย ประเดี๋ยวข้าจะกลับมาใหม่ในภายหลัง.." กล่าวจบอู่ถงก็ขอตัวลาอย่างรู้หน้าที่ และยังกำชับสาวใช้ให้คอยบริการพวกเขา อย่างได้ขาดตกบกพร่อง หรงหรงไม่ได้ตอบกลับ นางเพียงเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ พร้อมกับจิบน้ำชาที่สาวใช้พึ่งจะเทให้นาง
ยังไม่ทันที่พวกเขาสี่คนจะเก็บสัมภาระเสร็จ กลับมีบุรุษสูงวัยคนหนึ่งแต่งตัวดูมีภูมิฐาน กำลังยืนประจันหน้ากับพวกเขาทั้งสี่คนอยู่ ด้านหลังบุรุษสูงวัยยังมีข้ารับใช้อีกสามคนร่างกายกำยำยืนประกบอยู่ด้วย "พวกเจ้าในที่นี้.....ใครที่คือท่านหมอ...? เสียงบุรุษสูงวัยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสุภาพ หรงหรงฟังจากน
"ขอบคุณท่านหมอกับพ่อหนุ่มทั้งสามมากเจ้าคะ.." ยายเฒ่ารีบขอบคุณอย่างจริงใจ ก่อนจะเดินจากไป "คนต่อไป..." น้ำเสียงเจ้าหนึ่งดูกระตือรือร้นดูตั้งอกตั้งใจทำหน้าที่เป็นอย่างมาก นี้เป็นครั้งแรกที่เขาถือว่าตัวเองทำตัวมีประโยชน์ขึ้นมา "เสียงไอสั่นและมีกลิ่นสาบ เสมหะข้นมาก น่าจะเป็นไข้หวัดร้อนชื้น เอายากลับไ
หรงหรงเริ่มจัดเเจงกับห่อยาสมุนไพร แยกออกเป็นหมวดหมู่ เพื่อให้หยิบจับได้ง่ายเวลาแจกจ่ายยา นี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของนาง ตั้งแต่ได้ข้ามภพมา ลุงหมิ่งพึ่งจะกลับมาจากจ่ายตลาด เขาเดินถือของพะรุงพะรังเข้ามาในเรือน เมื่อสายตาพลันเหลือบไปเห็นหรงหรงกำลังจัดเตรียมสิ่งของอยู่ เขาจึงรีบเอ่ยถามอย่างดีใจ
"เจ้าหนึ่ง...เจ้าน่าจะอายุมากสุด ต่อไปเรื่องการซื้อจ่ายอาหารการกิน รวมถึงสิ่งของทุกอย่างต้องผ่านมือเจ้าเป็นคนแรก และรวมไปถึงค่าใช้จ่ายทุกอย่างภายในเรือน เจ้าต้องเป็นคนดูแลเองทั้งหมด" หรงหรงเอ่ยออกไปเมื่อคิดขึ้นมาได้ "แต่....ข้า.....ไม่รู้หนังสือ..." เจ้าหนึ่งพูดจาตะกุกตะกักขึ้น "เรื่องนั่นมิใช่ป
แสงแดดเริ่มสาดส่องในยามสาย บรรยากาศยังคงเย็นอยู่ไม่จางหาย ไม่นานเกวียนรถก็มาหยุดอยู่ที่หน้าประตูเมืองอีกครั้ง "นางหนู....ตื่นได้แล้ว พวกเรามาถึงหน้าประตูแล้ว" ลุงจางตะโกนปลุกหรงหรงทันที่เมื่อจอดเทียบเกวียน "หือ.....ฮ้าววว.....ถึงแล้วรึเจ้าค่ะท่านลุง...? หรงหรงตื่นขึ้นมานั่งก่อน นางหาวออกมาสองสาม
"โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง" เสี่ยวเพ้ารีบเห่าขึ้นมา ท่าทีมันเหมือนกำลังตอบโต้กลับ ยิงทำให้หรงหรงรู้สึกขบขัน "พวกท่านทำราวกับเป็นคู่กัดกันมาแต่ชาติปางก่อน.." "เจ้าไม่เห็นมันทำท่าขู่ข้าหรอกหรือ ข้าก็เป็นเจ้านายมันครึ่งหนึ่งเหมือนกัน แต่ดูมันทำกับข้าสิ ทำราวกับข้าเป็นโจรผู้ร้าย ที่กำลังจะมาลักพาตัวเจ้าไป..."
เมื่อได้ยินบุตรสาวเอ่ยคำขอร้อง มารดาจึงยอมรับปากแต่โดยดี ก่อนจะเอ่ยบอกกับบุตรสาวขึ้นต่อ "หรงเอ๋อร์....ลูกนำเอาบุรุษที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าที่ไหนก็ไม่รู้ เข้ามาอยู่ในเรือนของเรา แม่ก็ว่าแย่แล้ว แต่นี้ยังจะเอาตัวอันตรายเข้ามาอยู่ในเรือนเพิ่ม เจ้าอยากจะเห็นแม่ตายก่อนวัยอันควรไปก่อนอย่างนั้นหรือ...
"เจ้าจะเอานมวัวไปทำอะไร...? ลุงเหย้ามองมาที่นาง ด้วยแววตาที่สงสัย "ข้าจะเอาไปให้ลูกแมวป่าที่พึ่งเกิดใหม่นะเจ้าคะ พอดีว่าแม่มันพึ่งจะตายจากไป จึงไม่มีนมให้ลูกแมวป่ากิน... " หรงหรงพูดออกไปด้วยท่าทีที่น่าสงสาร "ถ้าเช่นนั้น เจ้ารอลุงสักประเดี๋ยว" ลุงเหย้ารีบเดินหายไปจากทางหลังบ้าน ไม่นานเขาเดินกลับม