หรงหรงไม่ได้คิดที่จะเอาเปรียบเขา นางค่อยๆ สัมผัสขาทั้งสองข้างของเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ แม้ว่าขาทั้งสองข้างจะดูเรียวงาม แต่ก็กระดูกหักเหมือนกันทั้งสองข้าง ก่อนจะใช้มือบีบไปที่น่องขาทั้งสองข้างของเขาอย่างช้าๆ แล้วจึงเอ่ยขึ้น "รู้สึกหรือไม่....? หรงหรงบีบไปที่น่องขาซ้าย "รู้สึก..." โม่เฉินพยักหน้าท
หรงหรงตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ นางรีบเร่งฝีเท้าเดินไปที่ร้านค้าในหมู่บ้านเพื่อหวังจะซื้อเหล้ารสชาติดีหนึ่งไหกับไก่อีกหนึ่งตัว ก่อนจะหิ้วสัมภาระที่พึ่งจะซื้อมา เดินฮัมเพลงไปตลอดทั้งทาง เพื่อไปหาท่านลุงฉู่ที่ท้ายหมู่บ้านอย่างอารมณ์ดี ท่านลุงฉู่....ถือเป็นช่างไม้ฝีมือดีอันดับหนึ่งอีกหนึ่งคนของหมู่บ้าน เขา
"ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า...นางหนูคนนี้ ไม่เจอตั้งนาน เจ้าช่างรู้จักประจบประแจงคนแก่เสียจริงเชียว...ฮ่าๆๆ...ไม่เลว ไม่เลว..." ช่างไม้ฉู่หัวเราะเสียงดังอย่างชอบอกชอบใจเช่นกัน นานมากแล้วที่เขาไม่ได้อารมณ์ดีหัวเราะเสียงดังเช่นนี้ "คริ คริ..." หรงหรงเอามือปิดปากหัวเราะเสียงเบา "ว่าแต่....นางหนู เจ้าจะใช้ไม้ช
หรงหรงอยู่พูดคุยกับช่างไม้ฉู่ หลังจากร่างสัญญาเสร็จสิ้น ทั้งสองคนก็ลงลายมือประทับตราทันที เวลาล่วงเลยมาถึงยามพลบค่ำ หรงหรงจึงได้ขอตัวลากลับเรือนในเวลาต่อมา "หรงเอ๋อร์....เจ้าหายไปไหนมาทั้งวัน...? นางเมิงรีบไถ่ถามเมื่อเห็นใบหน้าบุตรสาว นางหายตัวไปตั้งแต่เช้าตรู จนตอนนี้หรงหรงพึ่งจะเดินกลับมาถึงเรือ
ปกติคนธรรมดาทั่วไป จะไม่สามารถสัมผัสถึงกำลังภายในของฝ่ายตรงข้ามได้ แต่นางกลับสัมผัสได้อย่างง่ายดาย โม่เฉินจึงไม่ได้ตอบกลับ เขาเพียงมองสตรีตรงหน้าด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว หรงหรงยังคงคลำหากระดูกส่วนที่เหลืออย่างต่อเนื่อง เมื่อสัมผัสได้ว่ามีกระดูกงอกออกมาเพิ่ม นางก็ไม่รอช้า รีบกำจัดทุบกระดูกส่วนที่เกินอ
พอนึกถึงเหตุการณ์ทุกอย่างขึ้นมา หรงหรงรู้สึกว่าบุรุษตรงหน้าไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่นางคิด แต่ตรงกันข้าม บุรุษผู้นี้กลับเจ้าแผนการ จัดการได้ยากยิ่ง นี้นางหลงกลเขาตั้งแต่แรกได้อย่างไร มิน่าละ....มารดาของนางถึงได้พรำบอกทุกวี่วัน ว่าบุรุษหน้าตาดี ล้วนแล้วแต่เชื่อใจไม่ได้ ยิ่งคิดนางก็ยิ่งแค้นใจ "อีกไม่
"ไม่มีแล้ว สิ่งที่จำเป็นต้องใช้....เจ้าก็เตรียมเอาไว้ให้แม่หมดแล้ว หรงเอ๋อร์....นี้ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เจ้าเข้าไปในตัวเมือง เจ้าจะต้องระวังตัวให้มาก อย่าได้เชื่อใจคนแปลกหน้าเป็นอันขาด...." "ข้ารู้แล้วเจ้าคะ ว่าแต่ท่านเเม่เถอะ..ท่านเคยเข้าไปในตัวเมืองมาแล้วหรือเจ้าค่ะ.....? "แม่เคยเข้าไปในยามที่
โม่เฉินฟังนางอธิบายอย่างตั้งใจฟัง ยิ่งพอได้ยินว่านางสั่งทำเก้าอี้รถเข็นขึ้นมาสำหรับเขาโดยเฉพาะ ในใจเขาพลันรู้สึกปลื้มปิติเป็นอย่างมาก "มีสตรีเพรียบพร้อมเช่นนี้ ข้ายังจะไปไหนได้อีก" *....* คำพูดนี้ทำให้หรงหรงขมวดคิ้วเป็นปมเข้าหากัน ฟังดูจากคำพูดของบุรุษตรงหน้า เขาคงไม่คิดที่จะไปจากที่นี้อย่างแน
"ยินดีด้วย..." "ยินดีด้วยนะหรงหรง..." "ยินดีด้วยขอรับท่านหมอ.." "หรงหรง...ป้าขอแสดงความยินดีด้วยนะ.." "ยินดีด้วยนะขอรับพี่สาว.." "พวกข้าทุกคน ขอแสดงความยินดีด้วยนะลูกพี่ใหญ่..." เสียงแขกเหรื่อในงาน ต่างแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาวกันอย่างคับคั่ง ตอนนี้บรรยากาศภายในงานเริ่มคึกครื้น ด้วยเสีย
"ข้า...จะเฝ้ารอวันนั้น..." โม่เฉินก้มลงไปใกล้เพื่อกระซิบบอกหรงหรง คำพูดเขาไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวนางเลยสักนิด "ชิ....เหตใดข้าถึงรู้สึกว่า ข้าเสียเปรียบท่านอยู่ฝ่ายเดียว" หรงหรงพูดไปตามที่คิด "เสียเปรียบ ข้าต่างหากที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ทั่วทั้งร่างกายของข้า มีแต่ฝีมือของหรงเอ๋อร์ทั้งสิ้น มิใช่รึ....
ช่วงสายของอีกวัน หรงหรงตื่นออกมาพร้อมกับโม่เฉิน ทำให้อี้ฟูที่กำลังจะเดินผ่านไปอีกทาง หันไปเห็นเข้าพอดี เขาจึงรีบเอ่ยออกไปอย่างหมั่นไส้ "เฮ้ออ....พวกเจ้าสองคนจะตัวติดกันไปถึงไหน เห็นใจคนโสดอย่างข้าบ้างเถอะ ข้าเห็นแล้วจะอ้วก..." อี้ฟูทำท่าทีราวกับคนแพ้ท้อง "หุบปาก..." โม่เฉินหันไปกล่าวเสียงแข็งใส่
แววตาของบุรุษร่างสูง มองดูสตรีทั้งสองตรงหน้าอย่างขบขัน หากบุตรสาวของหญิงชรารู้ว่าตนเองยังบริสุทธิ์อยู่ นางคงต้องหาเรื่องละเลยทิ้งเขาไปอีกเป็นแน่ โม่เฉินจึงทำเพียงแค่ไหลไปตามน้ำ ปล่อยให้หรงหรงคิดแบบนั้นไป นี้ถือว่าเป็นเรื่องดีที่สุดสำหรับโม่เฉิน "เอาละๆ แม่ก็หลงดีใจว่าแม่จะได้อุ้มหลานซะอีก..." "แต่
หรงหรงและโม่เฉิน ทั้งสองคนนั่งคุกเข่าลงไปพร้อมกัน ก่อนที่หญิงชราจะหันไปมองโม่เฉิน ที่กำลังวางกล่องสี่เหลี่ยมที่ถืออยู่ในมือ วางลงไว้ ณ เบื้องหน้าของหญิงชราด้วยสีหน้าจริงจัง หญิงชราเมื่อเห็นทั้งสองคนกำลังคุกเข่าหันมาทางนาง หญิงชราก็ได้แต่ขมวดคิ้วเป็นปมเข้าหากันอย่างนึกแปลกใจ "ท่านแม่ นี้คือเงินค่
"ไม่ได้!!!...รีบกลับไปพักผ่อนเถิด อย่าได้ทำให้ข้าต้องเป็นห่วงเลยนะ.." กล่าวจบโม่เฉินรีบใช้วิชาตัวเบา อุ้มสตรีตรงหน้าหายไปกลางอากาศอย่างว่องไว "ว้ายยย....นับวันท่านช่างมีนิสัยคล้ายคลึงกับท่านแม่ของข้า กังวลไม่เข้าเรื่อง...." ถึงปากจะบ่นออกไป แต่หรงหรงก็ใช้มือกอดคอโม่เฉินเอาไว้แน่น "สำหรับข้า ร่าง
หมอหญิงคนงามรีบสวมใส่อาภรณ์แล้วเดินจั้มฝีเท้าตามอี้ฟูออกไปอย่างร้อนใจ แต่พอเดินไปถึงจุดเกิดเหตุ นางถึงกับขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างขุ่นเคือง เมื่อภาพที่เห็นตรงหน้า กับสิ่งที่คิดในหัว ช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว *......* "นี้มันอะไรกันเจ้าอ้วน เจ้ากลายเป็นเด็กเลี้ยงแกะไปตั้งแต่เมื่อไหร่....? "ปัดโธ่...
โม่เฉินเงียบไปชั่วขณะ ก็จะเอ่ยออกมาเพื่อให้สตรีตรงหน้าคลายกังวล "ข้าก็อยู่แต่ในห้องตำรา จะออกไปที่ไหนได้ หมู่บ้านแห่งนี้ข้าไม่รู้จักมักคุ้นกับใครเลยสักคน เจ้าเองก็น่าจะรู้ดี..." "ให้มันจริงเถอะ อาเฉิน....หากท่านกล้าโกหกข้า ท่านก็น่าจะรู้ผลที่จะตามมาว่าเป็นเช่นไร...? หรงหรงจดจ้องมองปฎิกริยาของคนตร
ฤดูเหมันต์ผ่านพ้นไป ฤดูกาลใหม่หมุนเปลี่ยนเข้ามาแทนที่ หมอหญิงคนงามกำลังนอนแช่น้ำอยู่ในอ่างอาบน้ำภายในห้องอย่างสบายใจ "หรงเอ๋อร์...อยู่หรือไม่...? เสียงเรียกแผ่วเบาตะโกนเข้ามา แต่อีกคนภายในห้องกับกำลังนอนหลับตาพริ้มแช่อยู่ในอ่างน้ำอย่างผ่อนคลาย พร้อมทั้งกำลังฮัมเพลง โดยที่ไม่ได้สนใจเสียงรอบข้าง เ