"เจ้ามิใคร่รู้หรือ ว่าข้าเป็นผู้ใด และมาจากไหน...? "ทำไมต้องอยากรู้ด้วยเล่า หากท่านอยากบอก สักวันหนึ่ง..ท่านก็คงจะบอกข้าเองโดยที่ข้าไม่ต้องเอ่ยถาม..." หรงหรงกล่าวออกไปด้วยความสัตย์จริง "แล้วถ้าเช่นนั้น ใบหน้าข้ายังมีสิ่งใดติดอยู่อีก ใยหรงเอ๋อร์ถึงได้จดจ้องมองข้าอีกด้วยเล่า....? "เปล่า ข้าก็แค่
"ในอดีต...ข้าเคยมีคนรัก และเพื่อนสนิทที่รักมากอยู่คนหนึ่ง แต่ถูกพวกเขาสองคนสวมเขาให้ข้า ข้าจึงยังไม่อยากเปิดใจคบกับใครอีกแล้ว...." หรงหรงพูดมาถึงตรงนี้ นางพลันมีสีหน้าที่เศร้าหมอง "หากข้าเป็นบุรุษผู้นั้น ข้าจักต้องดีต่อเจ้าอย่างแน่นอน ทุกคำที่ข้าพูดล้วนเป็นความจริง หรงเอ๋อร์...เจ้าจะให้โอกาสสุดท้า
หรงหรงไม่ได้คิดที่จะเอาเปรียบเขา นางค่อยๆ สัมผัสขาทั้งสองข้างของเขาอย่างพินิจพิเคราะห์ แม้ว่าขาทั้งสองข้างจะดูเรียวงาม แต่ก็กระดูกหักเหมือนกันทั้งสองข้าง ก่อนจะใช้มือบีบไปที่น่องขาทั้งสองข้างของเขาอย่างช้าๆ แล้วจึงเอ่ยขึ้น "รู้สึกหรือไม่....? หรงหรงบีบไปที่น่องขาซ้าย "รู้สึก..." โม่เฉินพยักหน้าท
หรงหรงตื่นตั้งแต่เช้าตรู่ นางรีบเร่งฝีเท้าเดินไปที่ร้านค้าในหมู่บ้านเพื่อหวังจะซื้อเหล้ารสชาติดีหนึ่งไหกับไก่อีกหนึ่งตัว ก่อนจะหิ้วสัมภาระที่พึ่งจะซื้อมา เดินฮัมเพลงไปตลอดทั้งทาง เพื่อไปหาท่านลุงฉู่ที่ท้ายหมู่บ้านอย่างอารมณ์ดี ท่านลุงฉู่....ถือเป็นช่างไม้ฝีมือดีอันดับหนึ่งอีกหนึ่งคนของหมู่บ้าน เขา
"ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า...นางหนูคนนี้ ไม่เจอตั้งนาน เจ้าช่างรู้จักประจบประแจงคนแก่เสียจริงเชียว...ฮ่าๆๆ...ไม่เลว ไม่เลว..." ช่างไม้ฉู่หัวเราะเสียงดังอย่างชอบอกชอบใจเช่นกัน นานมากแล้วที่เขาไม่ได้อารมณ์ดีหัวเราะเสียงดังเช่นนี้ "คริ คริ..." หรงหรงเอามือปิดปากหัวเราะเสียงเบา "ว่าแต่....นางหนู เจ้าจะใช้ไม้ช
หรงหรงอยู่พูดคุยกับช่างไม้ฉู่ หลังจากร่างสัญญาเสร็จสิ้น ทั้งสองคนก็ลงลายมือประทับตราทันที เวลาล่วงเลยมาถึงยามพลบค่ำ หรงหรงจึงได้ขอตัวลากลับเรือนในเวลาต่อมา "หรงเอ๋อร์....เจ้าหายไปไหนมาทั้งวัน...? นางเมิงรีบไถ่ถามเมื่อเห็นใบหน้าบุตรสาว นางหายตัวไปตั้งแต่เช้าตรู จนตอนนี้หรงหรงพึ่งจะเดินกลับมาถึงเรือ
ปกติคนธรรมดาทั่วไป จะไม่สามารถสัมผัสถึงกำลังภายในของฝ่ายตรงข้ามได้ แต่นางกลับสัมผัสได้อย่างง่ายดาย โม่เฉินจึงไม่ได้ตอบกลับ เขาเพียงมองสตรีตรงหน้าด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว หรงหรงยังคงคลำหากระดูกส่วนที่เหลืออย่างต่อเนื่อง เมื่อสัมผัสได้ว่ามีกระดูกงอกออกมาเพิ่ม นางก็ไม่รอช้า รีบกำจัดทุบกระดูกส่วนที่เกินอ
พอนึกถึงเหตุการณ์ทุกอย่างขึ้นมา หรงหรงรู้สึกว่าบุรุษตรงหน้าไม่ได้ไร้เดียงสาอย่างที่นางคิด แต่ตรงกันข้าม บุรุษผู้นี้กลับเจ้าแผนการ จัดการได้ยากยิ่ง นี้นางหลงกลเขาตั้งแต่แรกได้อย่างไร มิน่าละ....มารดาของนางถึงได้พรำบอกทุกวี่วัน ว่าบุรุษหน้าตาดี ล้วนแล้วแต่เชื่อใจไม่ได้ ยิ่งคิดนางก็ยิ่งแค้นใจ "อีกไม่
"เชิญท่านหมอและน้องชายทั้งสามตามสบาย...อาหารทุกอย่างถูกจัดวางเอาไว้เรียบร้อย ประเดี๋ยวข้าจะกลับมาใหม่ในภายหลัง.." กล่าวจบอู่ถงก็ขอตัวลาอย่างรู้หน้าที่ และยังกำชับสาวใช้ให้คอยบริการพวกเขา อย่างได้ขาดตกบกพร่อง หรงหรงไม่ได้ตอบกลับ นางเพียงเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ พร้อมกับจิบน้ำชาที่สาวใช้พึ่งจะเทให้นาง
ยังไม่ทันที่พวกเขาสี่คนจะเก็บสัมภาระเสร็จ กลับมีบุรุษสูงวัยคนหนึ่งแต่งตัวดูมีภูมิฐาน กำลังยืนประจันหน้ากับพวกเขาทั้งสี่คนอยู่ ด้านหลังบุรุษสูงวัยยังมีข้ารับใช้อีกสามคนร่างกายกำยำยืนประกบอยู่ด้วย "พวกเจ้าในที่นี้.....ใครที่คือท่านหมอ...? เสียงบุรุษสูงวัยกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงสุภาพ หรงหรงฟังจากน
"ขอบคุณท่านหมอกับพ่อหนุ่มทั้งสามมากเจ้าคะ.." ยายเฒ่ารีบขอบคุณอย่างจริงใจ ก่อนจะเดินจากไป "คนต่อไป..." น้ำเสียงเจ้าหนึ่งดูกระตือรือร้นดูตั้งอกตั้งใจทำหน้าที่เป็นอย่างมาก นี้เป็นครั้งแรกที่เขาถือว่าตัวเองทำตัวมีประโยชน์ขึ้นมา "เสียงไอสั่นและมีกลิ่นสาบ เสมหะข้นมาก น่าจะเป็นไข้หวัดร้อนชื้น เอายากลับไ
หรงหรงเริ่มจัดเเจงกับห่อยาสมุนไพร แยกออกเป็นหมวดหมู่ เพื่อให้หยิบจับได้ง่ายเวลาแจกจ่ายยา นี้ถือว่าเป็นประสบการณ์ครั้งแรกของนาง ตั้งแต่ได้ข้ามภพมา ลุงหมิ่งพึ่งจะกลับมาจากจ่ายตลาด เขาเดินถือของพะรุงพะรังเข้ามาในเรือน เมื่อสายตาพลันเหลือบไปเห็นหรงหรงกำลังจัดเตรียมสิ่งของอยู่ เขาจึงรีบเอ่ยถามอย่างดีใจ
"เจ้าหนึ่ง...เจ้าน่าจะอายุมากสุด ต่อไปเรื่องการซื้อจ่ายอาหารการกิน รวมถึงสิ่งของทุกอย่างต้องผ่านมือเจ้าเป็นคนแรก และรวมไปถึงค่าใช้จ่ายทุกอย่างภายในเรือน เจ้าต้องเป็นคนดูแลเองทั้งหมด" หรงหรงเอ่ยออกไปเมื่อคิดขึ้นมาได้ "แต่....ข้า.....ไม่รู้หนังสือ..." เจ้าหนึ่งพูดจาตะกุกตะกักขึ้น "เรื่องนั่นมิใช่ป
แสงแดดเริ่มสาดส่องในยามสาย บรรยากาศยังคงเย็นอยู่ไม่จางหาย ไม่นานเกวียนรถก็มาหยุดอยู่ที่หน้าประตูเมืองอีกครั้ง "นางหนู....ตื่นได้แล้ว พวกเรามาถึงหน้าประตูแล้ว" ลุงจางตะโกนปลุกหรงหรงทันที่เมื่อจอดเทียบเกวียน "หือ.....ฮ้าววว.....ถึงแล้วรึเจ้าค่ะท่านลุง...? หรงหรงตื่นขึ้นมานั่งก่อน นางหาวออกมาสองสาม
"โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง" เสี่ยวเพ้ารีบเห่าขึ้นมา ท่าทีมันเหมือนกำลังตอบโต้กลับ ยิงทำให้หรงหรงรู้สึกขบขัน "พวกท่านทำราวกับเป็นคู่กัดกันมาแต่ชาติปางก่อน.." "เจ้าไม่เห็นมันทำท่าขู่ข้าหรอกหรือ ข้าก็เป็นเจ้านายมันครึ่งหนึ่งเหมือนกัน แต่ดูมันทำกับข้าสิ ทำราวกับข้าเป็นโจรผู้ร้าย ที่กำลังจะมาลักพาตัวเจ้าไป..."
เมื่อได้ยินบุตรสาวเอ่ยคำขอร้อง มารดาจึงยอมรับปากแต่โดยดี ก่อนจะเอ่ยบอกกับบุตรสาวขึ้นต่อ "หรงเอ๋อร์....ลูกนำเอาบุรุษที่ไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าที่ไหนก็ไม่รู้ เข้ามาอยู่ในเรือนของเรา แม่ก็ว่าแย่แล้ว แต่นี้ยังจะเอาตัวอันตรายเข้ามาอยู่ในเรือนเพิ่ม เจ้าอยากจะเห็นแม่ตายก่อนวัยอันควรไปก่อนอย่างนั้นหรือ...
"เจ้าจะเอานมวัวไปทำอะไร...? ลุงเหย้ามองมาที่นาง ด้วยแววตาที่สงสัย "ข้าจะเอาไปให้ลูกแมวป่าที่พึ่งเกิดใหม่นะเจ้าคะ พอดีว่าแม่มันพึ่งจะตายจากไป จึงไม่มีนมให้ลูกแมวป่ากิน... " หรงหรงพูดออกไปด้วยท่าทีที่น่าสงสาร "ถ้าเช่นนั้น เจ้ารอลุงสักประเดี๋ยว" ลุงเหย้ารีบเดินหายไปจากทางหลังบ้าน ไม่นานเขาเดินกลับม