หน้าหลัก / โรแมนติก / เกาะขังรัก NC-25 / เกาะขังรัก - สถานที่กักขัง

แชร์

เกาะขังรัก - สถานที่กักขัง

ผู้แต่ง: C
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-22 19:10:19

สิงหาจอดรถคันเก่าแต่คุณภาพยังคับแน่นเข้าในที่ประจำ เวลาเย็นแบบนี้คนงานและชาวประมงที่ทำงานตรงนี้ทุกวันต่างแยกย้ายกันกลับบ้านหมดแล้ว และที่สิงหาเลือกมาถึงที่นี่ในตอนนี้ก็เพราะต้องการความเป็นส่วนตัวจากสายตาสอดรู้สอดเห็นของคนอื่น

 คนที่นี่ไม่ใช่คนที่เกาะของเขา แม้ทุกคนจะไม่มายุ่งวุ่นวาย แต่คงไม่แคล้วได้เป็นขี้ปากอยู่ดี

 แปะ!

 “ตื่น”

 มือหยาบกร้านตามประสาคนทำงานแตะลงบนแขนเรียวเล็กด้วยแรงที่ไม่เบานัก สิงหาทำงานหนักมาทั้งชีวิต ไม่เคยต้องถนอมใคร เพราะฉะนั้นเขาจึงกะแรงกับผู้หญิงที่ตัวผอมจนแทบจะปลิวได้แบบนี้ไม่ถูก

 คนถูกตีสะดุ้งตื่นทันที สิ่งแรกที่ณัฐรินีย์เห็นคือความมืด เธอตกใจเล็กน้อย ก่อนจะระลึกได้ว่าตัวเองถูกจับตัวมาและตาก็ถูกปิดไว้ ดังนั้นเธอจึงผ่อนจังหวะหายใจให้กลับมาเป็นปกติ รวมถึงบังคับหัวใจที่เต้นแรงให้สงบลง

 “ตื่นแล้วก็ลง” สิงหาเดินอ้อมไปอีกฝั่ง เขาเปิดประตูรถให้คนที่ถูกปิดกั้นการมองเห็น แต่อีกฝ่ายกลับนั่งนิ่งไม่ยอมขยับจนเขาเผลอจิ๊ปาก “ทำไมไม่ลงอีก?”

 “ที่นี่ที่ไหน?”

 “ถ้าฉันบอก ฉันจะปิดตาเธอทำไม?”

 คำพูดของอีกฝ่ายทำให้ณัฐรินีย์รู้สึกว่าตัวเองช่างโง่เง่าเหลือเกิน เธอพยักหน้าเข้าใจ ก่อนจะก้าวลงจากรถคันสูงโดยที่มีมือหยาบกร้านคอยประคองไม่ห่าง

 สิงหาไม่ได้อยากถูกเนื้อต้องตัวผู้หญิงคนนี้นัก แต่ถ้าปล่อยให้เธองมทางเองวันนี้คงไม่ได้กลับเกาะ นี่ก็เย็นมากแล้ว ถ้ากลับดึกกว่านี้จะอันตราย เขาไม่ได้พาเธอมาตายกลางทะเลหรอกนะ

 “เดินไป”

 “ดะ...เดี๋ยวสิ”

 “อะไรอีก?” สิงหาขมวดคิ้ว เขารู้สึกหงุดหงิดใจที่ผู้หญิงคนนี้เรื่องเยอะเหลือเกิน แต่ก็สมกับเป็นลูกผู้ดีตีนแดง พ่อแม่ตามใจจนกลายเป็นคนไร้ความรับผิดชอบแบบนี้

 “ฉัน... อยากเข้าห้องน้ำ”

 “กลั้นไว้ก่อน อีกครึ่งชั่วโมงค่อยเข้า”

 “ไม่ได้!” หญิงสาวปฏิเสธเสียงดังลั่น ไม่ได้แล้วจริงๆ เธอไม่สามารถอดทนไปอีกครึ่งชั่วโมงได้อีกแล้ว “ให้ฉันเข้าเถอะนะ ฉันไม่ไหวแล้ว”

 “เธอนี่มัน...”

 สิงหาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พื้นฐานของชายหนุ่มเป็นคนทำอะไรรวดเร็ว คติประจำใจของคนที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำแบบเขาคือเวลามันไม่เคยคอยท่า เพราะฉะนั้นสิงหาไม่เคยปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเปล่าประโยชน์เลยซักครั้ง

 ยกเว้นช่วงเวลาสามปีนั้นที่เขาต้องใช้ชีวิตอย่างคนพิการ 

 “โอ้ย!”

 สิงหาคลายมือออก หลังจากได้ยินเสียงร้องจากเจ้าของแขนเล็กที่เขาบีบอยู่

 พอคิดถึงเรื่องนั้นทีไรสิงหามักจะใจร้อนและอารมณ์รุนแรงกว่าปกติ เขาเกลียดตระกูลนั้นเป็นที่สุด ตระกูลที่ทำให้เขาเสียเวลาไปสามปีเต็มๆ อนาคตที่กำลังสดใสดับวูบลงเพราะความประมาทจากผู้หญิงคนนี้ และที่น่าเจ็บใจที่สุด... คือการที่กฎหมายแสนศักด์สิทธิ์ทำอะไรครอบครัวนี้ไม่ได้เลย เพราะพวกเขามีเงินล้นฟ้า

 และนี่คือแรงจูงใจในการใช้ศาลเตี้ยของสิงหา ในเมื่อกฎหมายทำอะไรไม่ได้ เขาก็จะพิจารณาโทษให้คนพวกนั้นเอง

 “โอ้ย! อย่าบีบ ฉันเจ็บ!”

 เธอร้อง เพราะเขาเผลอบีบแขนเล็กๆ นั่นอีกครั้ง

 ใจเย็นสิงหา ชายหนุ่มบอกตัวเองในใจ พลางคลายมือที่บีบแน่นยิ่งกว่าคีมเหล็กออก ยังไงตอนนี้เขาก็ได้ตัวผู้หญิงคนนี้มาแล้ว ป่านนี้คนที่บ้านของเธอคงนั่งไม่ติด ส่งคนตามหาลูกสาวสุดที่รักกันให้วุ่น แต่อย่าคิดว่าจะเจอได้ง่ายๆ เพราะเขาจะไม่ปล่อยตัวณัฐรินีย์กลับไป จนกว่าจะเห็นความทรมานของครอบครัวนั้น อย่างน้อยก็ต้องเทียบเท่ากับช่วงเวลาสามปีที่เขาทรมานเพราะเดินไม่ได้

 “จะไปไหน?”

 เสียงใสเอ่ยถาม เมื่อแขนที่ยังไม่หายเจ็บถูกลากแถ่ดๆ ไปตามทางที่มืดมน เธอไม่รู้เหนือรู้ใต้ ไม่รู้อะไรเลยนอกจากเสียงคลื่นน้ำตีกับฝั่งที่ทำให้รู้ว่าตอนนี้คงอยู่ใกล้กับทะเลมากๆ อาจจะห่างกันไม่ถึงสิบเมตรด้วยซ้ำ

 “จะเยี่ยวไม่ใช่หรือไง?”

 “ฉี่! ฉันจะฉี่!” ณัฐรินีย์แก้ เธอยังกระดากปากที่จะพูดแบบนั้น แต่คำพูดของเธอกลับไม่ได้เข้าไปในหูของผู้ชายที่จับแขนเธออยู่เลย

 “จะเยี่ยวก็ตามมา”

 หรือหนวดที่ขึ้นมันปิดกั้นการได้ยินของเขาไปหมดแล้วนะ?

 ณัฐรินีย์ถูกเปิดตาครั้งแรกในรอบหกชั่วโมง เธอกวาดตามองห้องน้ำแคบๆ ที่ไม่สะอาดเท่าไหร่ด้วยใบหน้าที่บอกอารมณ์ไม่ถูก สมัยอยู่ที่อเมริกา เธอไม่ได้อยู่อย่างหรูหราก็จริง แต่ก็ไม่เคยแย่ขนาดนี้มาก่อน

 “เข้าไปสิ อย่าตุกติกนะ ไม่งั้นฉันฆ่าเธอแน่”

 “เหอะ!” คิดว่าคนอย่างณัฐรินีย์กลัวตายหรือไง ถ้ากลัว เธอไม่ยอมตามมาถึงที่นี่หรอก

 หญิงสาวสะบัดผมใส่ผู้ชายหนวดยาว ก่อนจะก้าวอาดๆ เข้าไปในห้องน้ำที่มีเพียงห้องเดียว คนที่จับเธอมารออยู่ด้านนอกห่างกันแค่ประตูกั้น เขาคงกลัวว่าเธอหนี แต่เธอจะหนีไปไหนได้นอกจากแปลงร่างเป็นแมลงสาบแล้วมุดท่อออกไป

 ใช้เวลาเพียงไม่นานหญิงสาวก็จัดการธุระส่วนตัวเสร็จ โชคดีที่แม้ภายนอกจะดูแย่ แต่ภายในห้องน้ำก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ ไม่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ และดูสะอาดสะอ้านเหมือนถูกทำความสะอาดวันละหลายครั้ง

 ปัง! ปัง! ปัง!

 “เสร็จหรือยัง!!”

 ณัฐรินีย์สะดุ้ง เธอเผลอส่งค้อนให้คนหลังประตูทั้งๆ ที่มองไม่เห็นอีกฝ่าย ผู้ชายอะไรใจร้อน เสียงดัง กักขฬะ และไร้อารยธรรมได้ขนาดนี้

 หญิงสาวผลักประตูให้เปิดออกแรงๆ ตั้งใจจะให้โดนหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดยาวๆ นั่นด้วยซ้ำ แต่อีกฝ่ายดันรู้ทันและหลบได้ก่อน ตาคมจ้องมองมาอย่างคาดโทษแต่หญิงสาวกลับไม่สนใจ เสียงดังมาเธอก็รุนแรงกลับ แค่นี้ก็หายกันแล้ว

 “ไปได้แล้ว”

 ผ้าสีดำคาดปิดที่ตาอีกครั้ง โลกของณัฐรินีย์กลับมามืดสนิท ต้นแขนของเธอถูกจับไว้แน่น เธอทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินตามสิงหาไปโดยไม่รู้ชะตากรรมต่อจากนี้ของตัวเอง

 “นายครับ...” สิงหาถลึงตาใส่ลูกน้องที่รออยู่ที่เรือ เพราะอีกฝ่ายเผลอเรียกเหมือนที่เรียกเขาทุกครั้งต่อหน้าผู้หญิงคนนี้ “เอ่อ... นายสิงห์ เรือเรียบร้อยแล้ว”

 "ขอบใจ”

 “เรืออะไร นายจะพาฉันไปไหน?”

 “ไม่ต้องถามได้ไหม?” สิงหาเอ่ยเสียงเย็น เธอทำให้เขาสายไปเกือบสิบนาที ทั้งยังถามมากจนน่ารำคาญ “ถอดของมีค่าทุกอย่างออกมาให้หมด โดยเฉพาะของที่สามารถติดตามตัวเธอได้ ถ้าฉันรู้ว่าเธอตุกติกฉันจะโยนเธอลงไปในทะเล ให้ที่บ้านเธอตามหาเธอในทะเลก็แล้วกัน แต่ฉันไม่รับปากนะว่าจะเจอเธอในสภาพไหน”

 ณัฐรินีย์ลังเลอยู่ซักพัก แต่ในที่สุดเธอก็ยอมถอดเครื่องประดับทุกอย่างออก มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงเธอก็ยื่นมันให้เขา

 “หมดหรือยัง?”

 “หมดแล้ว?”

 “แน่ใจ?”

 “จะค้นไหมล่ะ?” หญิงสาวอ้าแขนออกเปิดทางให้เขาเข้ามาค้นหา เธอไม่เหลืออะไรติดตัวแล้ว เขาจะเอาอะไรกับเธออีก

 สิงหามองสิ่งที่ผู้หญิงตรงหน้าทำแล้วก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา ไม่มีผู้หญิงดีๆ ที่ไหนยอมให้ผู้ชายสัมผัสร่างกายง่ายๆ แบบเธอ มุมปากหลังหนวดยาวยกยิ้มเยาะ ไปอยู่ที่อเมริกาลูกสาวคนโปรดของตระกูลดังคงใจแตกน่าดู

 “ฉันฝากลุงเอาไปทิ้งอีกจังหวัดหน่อยนะ อย่าให้พวกมันตามมาที่นี่ได้”

 “ครับ... ได้ เดี๋ยวลุงจัดการให้”

 “ขอบคุณ”

 สิงหามองตามจนร่างของลุงมิ่ง คนที่ชายหนุ่มให้ความไว้ใจเป็นอันดับต้นๆ เดินจากไปจนลับสายตา เมื่อกลับมาอยู่กันสองต่อสองอีกครั้ง สิงหาก็ออกคำสั่งเสียงดุ

 “ลงไป”

 “ลงอะไร ฉันมองไม่เห็น”

 “จิ๊! เธอนี่มันตัวปัญหาจริงๆ” สิงหาปล่อยมือจากต้นแขนเล็ก เขากระโดดเพียงครั้งเดียวก็ลงไปยืนเด่นเป็นสง่าอยู่กลางสปีดโบ๊ท

 “ใครใช้ให้นายจับฉันมาล่ะ อ๊ะ!”

 เถียงไม่ทันจบ ร่างของเธอก็เหมือนถูกดึงให้ตกลงไปในหลุมอะไรซักอย่าง ณัฐรินีย์เผลอหลับตาปี๋ คิดในใจว่าคงเจ็บหรือไม่ก็ตกน้ำแล้วแน่ๆ แต่สิ่งที่เธอรับรู้ได้กลับกลายเป็นแค่อ้อมแขนอุ่นๆ และแผ่นอกแข็งๆ ของใครบางคนที่เธอซบอยู่

 “จะซบอีกนานไหม?”

 “โอ๊ะ!” หญิงสาวรีบถอยห่าง และนั่นก็ทำให้เธอรู้ว่าเขาคลายอ้อมแขนอุ่นๆ ออกไปตั้งนานแล้ว มีแต่เธอที่เผลอซบอกกว้างๆ ของเขาด้วยความลืมตัวอยู่คนเดียว “โทษที”

 สิงหาไม่สนใจ เขาดันร่างบางให้ไปนั่งลงเรียบร้อย

 “นั่งตรงนี้ อย่าตุกติก เพราะฉันไม่รับปากว่าเธอจะตกทะเลหรือเปล่า”

 ขู่เก่งเหลือเกิน

 ณัฐรินีย์นินทาอีกฝ่ายในใจ ตั้งแต่เจอกันจนถึงตอนนี้เขาขู่เธอไปกี่ครั้งแล้ว แต่ก็ไม่เห็นจะทำจริงซักครั้ง 

 แต่หลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาทีณัฐรินีย์ก็เข้าใจว่าครั้งนี้เขาไม่ได้ขู่ ความเร็วที่ไม่กล้าประเมินว่ากี่กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เธอต้องรีบคว้าที่จับไว้ เพราะไม่อย่างนั้นเธอคงตกลงไปในทะเลจริงๆ

 กว่าครึ่งชั่วโมงที่หญิงสาวต้องนั่งเกร็งอยู่แบบนั้น เธอรู้สึกขอบคุณเขาเป็นครั้งแรกที่ปิดตาเธอไว้ เพราะถ้าได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เธอคงเป็นลมอยู่บนสปีดโบ๊ทลำนี้ไปแล้ว

 “เปิดตาแล้วยังจะเดินช้าอีก”

 สิงหาหันไปบ่น เขาเปิดตาให้เธอตั้งแต่มาถึงเกาะแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องถูกเนื้อต้องตัวของเธออีก แต่กลับกลายเป็นว่าพอเปิดตาณัฐรินีย์กลับเดินช้ากว่าเดิมจนน่ารำคาญ

 วันนี้เขารำคาญผู้หญิงคนนี้ไปกี่ครั้งแล้วไม่อยากจะนับเลย

 “ฉันก็รีบอยู่นี่ไง!” แต่ขาเธอมันสั่น แค่เดินช้าๆ ยังยาก นับประสาอะไรกับการเดินตามผู้ชายขายาวๆ นั่นให้ทัน

 “เป็นอะไร กลัว?”

 สิงหายิ้มเยาะ ถ้าไม่กลัวที่นี่คงใจแข็งน่าดู เกาะนี้เป็นเกาะที่สวยและสมบูรณ์มากในเวลากลางวัน แต่พอมาในเวลากลางคืนความสมบูรณ์ของเกาะก็ทำให้บรรยากาศดูน่ากลัว ทั้งต้นไม้ใหญ่ ทั้งบรรดาสัตว์เล็กใหญ่ที่ส่งเสียงร้องเป็นระยะๆ ชวนให้ขนลุก

 ณัฐรินีย์ไม่ได้ตอบอะไร เธอพยายามเดินตามคนที่เดินอยู่ตรงหน้าจนทัน ไม่รู้ว่าเธอคิดไปเองหรือเปล่า... แต่เหมือนว่านายสิงหาคนนี้จะเดินช้าลงเพื่อรอเธอ

 เป็นผู้ชายที่ปากร้ายแต่ใจดีสินะ...

บทที่เกี่ยวข้อง

  • เกาะขังรัก NC-25   เกาะขังรัก - พ่ายแพ้

    สิงหาพาคนมาใหม่เดินอ้อมไปอีกด้านของเกาะที่ไม่มีใครใช้เดินทางหรืออยู่อาศัย เขาไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนนี้พบเจอกับผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้มากนัก มีเพียงไม่แค่กี่คนเท่านั้นที่สิงหาอนุญาตให้เธอได้เจอ “นายสิงห์!” เดินมาถึงด้านตะวันตกของเกาะ สิงหาก็ได้ยินเสียงเรียกที่แสดงถึงความดีใจและโล่งใจปะปนกันไป ก่อนที่เจ้าของเสียงจะปรากฎตัวจากความมืดให้ทั้งสองคนได้เห็น “มาเสียที ป้ากังวลไปสารพัด” “กังวลทำไมป้าผ่อง ทำเหมือนว่าฉันไม่เคยข้ามฝั่งไปได้” “ก็ทะเลมันน่ากลัวนี่ เดาอารมณ์ไม่เคยได้ บางวันดีแต่บางวันก็ร้ายนายสิงห์ก็รู้” คนอายุมากกว่าส่งค้อนใส่นายสิงห์ ก่อนจะหันไปมองผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ยืนเยื้องออกไปด้วยสายตาใคร่รู้ “คนนี้หรือที่นายสิงห์บอก?” “บ้านที่ให้เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วใช่ไหม?” สิงหาตั้งคำถามแทนคำตอบ แต่คนที่คุ้นเคยกันมานานอย่างป้าผ่องกลับเข้าใจได้ทันที ถามมาแบบนี้ แปลว่าคนนี้นี่แหละ ผู้หญิงที่นายสิงห์ว่า “เรียบร้อยแล้วจ้ะ ให้ป้าพาคุณเขาไปเลยไหม?” “ไม่ต้องหรอก” สิงหาปฎิเสธเสียงเรียบ เขาปรายตามองคนที่ยืนปิดปากเงียบแล้วหันไปตอบป้าผ่องอีกครั้ง “เดี๋ยวฉันไปส่งเอง ป้าไปพักผ่อนเถอะ ลุงมิ่ง

  • เกาะขังรัก NC-25   เกาะขังรัก - บทนำ

    สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิคราคร่ำไปด้วยผู้คนมากมายหลายเชื้อชาติ เสียงพูดคุยหลากภาษาดังไปทั่วบริเวณ โดยเฉพาะบริเวณหน้าทางออกที่มีผู้คนครึ่งร้อยถือป้ายใหญ่น้อยโบกสะบัดไปมาเรียกสายตาจากใครหลายคน ณัฐรินีย์ เองก็มองไปที่ป้ายเหล่านั้น ดวงตาคู่สวยมองไล่ผ่านป้ายทุกใบไม่มีขาดตก แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีป้ายที่เป็นชื่อเธอเลย... ทั้งๆ ที่รู้ว่าวันนี้เธอจะกลับมาเพราะขัดคำสั่งไม่ได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอไม่ได้กลับประเทศบ้านเกิดมาร่วมห้าปีแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่แม้แต่จะส่งคนมารับเธอ หญิงสาวยักไหล่ ชินเสียแล้วกับอะไรแบบนี้ ในเมื่อเธอเป็นลูกที่ไม่ได้เรื่อง พวกเขาจะไม่สนใจเธอเลยก็ไม่คงไม่ผิด ร่างเพรียวบางเดินออกจากบริเวณนั้นไป เธอเลือกเดินไปตรงส่วนที่มีรถแท็กซี่มากมายจอดนิ่งเพื่อรอรับผู้โดยสารที่ไม่มีใครมารับเช่นเธอ ขาเรียวเกือบจะเดินเข้าไปหาแท็กซี่คันแรกแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะนึกอะไรบางอย่างได้เสียก่อน เธอเกือบลืมส่งข้อความไปบอกคนที่อยู่อีกซีกโลกว่ามาถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพเสียแล้ว คิดได้ดังนั้นณัฐรินีย์ก็หยิบมือถือขึ้นมา กดเชื่อมต่อกับวายฟายของสนามบิน แต่เพราะตรงนี้สัญญาณไม่ค่อยดี เธอจึงต้องเดินกลับเข้าไปด้า

  • เกาะขังรัก NC-25   เกาะขังรัก - เดินทาง

    ณัฐรินีย์ถูกพาตัวมาที่รถยนต์คันหนึ่ง เพียงแค่กวาดสายตาดูคร่าวๆ ก็รู้แล้วว่ารถรุ่นเก่าตรงหน้าผ่านการใช้งานมาหนักหนาแค่ไหน และบนป้ายทะเบียนที่สีหลุดไปบางส่วนก็บอกให้เธอรู้ว่ารถคันนี้มาจากจังหวัดหนึ่งที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศ... “ขึ้นไป อย่าลีลา” อะไรเล่า! หญิงสาวโวยวายอยู่ในใจ เธอไม่ได้ลีลาเลยด้วยซ้ำ แค่แอบมองสภาพรถนิดเดียวเอง เขานั่นแหละที่ใจร้อนไปแล้วมาโทษคนอื่น อ้อ... เขาจะใจร้อนก็คงไม่แปลก ผู้ชายคนนี้ลักพาตัวคนๆ หนึ่งกลางสนามบินกลางวันแสกๆ เขาคงกลัวว่าครอบครัวของเธอจะรู้และตามมาช่วยได้ทันท่วงทีละมั้ง... แต่ดีใจด้วย เพราะครอบครัวเธอไม่ได้สนด้วยซ้ำว่าเธอมาถึงเมื่อไหร่ ไฟลท์ไหน และเดินทางอย่างไร พวกเขาสนแค่ว่าเธอจะยอมทำตามคำสั่งของพวกเขาหรือเปล่าก็เท่านั้น ลองเธอได้หายไปแบบนี้ ขี้คร้านพ่อกับแม่จะคิดแค่ว่าเธอมันดื้อรั้น ไม่ยอมกลับมาบ้านทั้งๆ ที่แม่อุตส่าห์เล่นละครตบตาว่าสุขภาพไม่ค่อยดีแบบนั้น แต่โทษเธอไม่ได้หรอกนะ เพราะถ้าพวกเขาส่งคนมารับเธอซักนิดเรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้ “ขึ้นไปสิ!” “รู้แล้วล่ะน่า!” หญิงสาวตอบเสียงห้วนเล็กน้อย ก่อนจะมุดตัวขึ้นไปนั่งบนรถแต่โดยดี เธอไม่ได้กลัวผู้ชา

บทล่าสุด

  • เกาะขังรัก NC-25   เกาะขังรัก - พ่ายแพ้

    สิงหาพาคนมาใหม่เดินอ้อมไปอีกด้านของเกาะที่ไม่มีใครใช้เดินทางหรืออยู่อาศัย เขาไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนนี้พบเจอกับผู้คนที่อาศัยอยู่บนเกาะนี้มากนัก มีเพียงไม่แค่กี่คนเท่านั้นที่สิงหาอนุญาตให้เธอได้เจอ “นายสิงห์!” เดินมาถึงด้านตะวันตกของเกาะ สิงหาก็ได้ยินเสียงเรียกที่แสดงถึงความดีใจและโล่งใจปะปนกันไป ก่อนที่เจ้าของเสียงจะปรากฎตัวจากความมืดให้ทั้งสองคนได้เห็น “มาเสียที ป้ากังวลไปสารพัด” “กังวลทำไมป้าผ่อง ทำเหมือนว่าฉันไม่เคยข้ามฝั่งไปได้” “ก็ทะเลมันน่ากลัวนี่ เดาอารมณ์ไม่เคยได้ บางวันดีแต่บางวันก็ร้ายนายสิงห์ก็รู้” คนอายุมากกว่าส่งค้อนใส่นายสิงห์ ก่อนจะหันไปมองผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่ยืนเยื้องออกไปด้วยสายตาใคร่รู้ “คนนี้หรือที่นายสิงห์บอก?” “บ้านที่ให้เตรียมไว้เรียบร้อยแล้วใช่ไหม?” สิงหาตั้งคำถามแทนคำตอบ แต่คนที่คุ้นเคยกันมานานอย่างป้าผ่องกลับเข้าใจได้ทันที ถามมาแบบนี้ แปลว่าคนนี้นี่แหละ ผู้หญิงที่นายสิงห์ว่า “เรียบร้อยแล้วจ้ะ ให้ป้าพาคุณเขาไปเลยไหม?” “ไม่ต้องหรอก” สิงหาปฎิเสธเสียงเรียบ เขาปรายตามองคนที่ยืนปิดปากเงียบแล้วหันไปตอบป้าผ่องอีกครั้ง “เดี๋ยวฉันไปส่งเอง ป้าไปพักผ่อนเถอะ ลุงมิ่ง

  • เกาะขังรัก NC-25   เกาะขังรัก - สถานที่กักขัง

    สิงหาจอดรถคันเก่าแต่คุณภาพยังคับแน่นเข้าในที่ประจำ เวลาเย็นแบบนี้คนงานและชาวประมงที่ทำงานตรงนี้ทุกวันต่างแยกย้ายกันกลับบ้านหมดแล้ว และที่สิงหาเลือกมาถึงที่นี่ในตอนนี้ก็เพราะต้องการความเป็นส่วนตัวจากสายตาสอดรู้สอดเห็นของคนอื่น คนที่นี่ไม่ใช่คนที่เกาะของเขา แม้ทุกคนจะไม่มายุ่งวุ่นวาย แต่คงไม่แคล้วได้เป็นขี้ปากอยู่ดี แปะ! “ตื่น” มือหยาบกร้านตามประสาคนทำงานแตะลงบนแขนเรียวเล็กด้วยแรงที่ไม่เบานัก สิงหาทำงานหนักมาทั้งชีวิต ไม่เคยต้องถนอมใคร เพราะฉะนั้นเขาจึงกะแรงกับผู้หญิงที่ตัวผอมจนแทบจะปลิวได้แบบนี้ไม่ถูก คนถูกตีสะดุ้งตื่นทันที สิ่งแรกที่ณัฐรินีย์เห็นคือความมืด เธอตกใจเล็กน้อย ก่อนจะระลึกได้ว่าตัวเองถูกจับตัวมาและตาก็ถูกปิดไว้ ดังนั้นเธอจึงผ่อนจังหวะหายใจให้กลับมาเป็นปกติ รวมถึงบังคับหัวใจที่เต้นแรงให้สงบลง “ตื่นแล้วก็ลง” สิงหาเดินอ้อมไปอีกฝั่ง เขาเปิดประตูรถให้คนที่ถูกปิดกั้นการมองเห็น แต่อีกฝ่ายกลับนั่งนิ่งไม่ยอมขยับจนเขาเผลอจิ๊ปาก “ทำไมไม่ลงอีก?” “ที่นี่ที่ไหน?” “ถ้าฉันบอก ฉันจะปิดตาเธอทำไม?” คำพูดของอีกฝ่ายทำให้ณัฐรินีย์รู้สึกว่าตัวเองช่างโง่เง่าเหลือเกิน เธอพยักหน้าเข้าใจ ก่อ

  • เกาะขังรัก NC-25   เกาะขังรัก - เดินทาง

    ณัฐรินีย์ถูกพาตัวมาที่รถยนต์คันหนึ่ง เพียงแค่กวาดสายตาดูคร่าวๆ ก็รู้แล้วว่ารถรุ่นเก่าตรงหน้าผ่านการใช้งานมาหนักหนาแค่ไหน และบนป้ายทะเบียนที่สีหลุดไปบางส่วนก็บอกให้เธอรู้ว่ารถคันนี้มาจากจังหวัดหนึ่งที่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศ... “ขึ้นไป อย่าลีลา” อะไรเล่า! หญิงสาวโวยวายอยู่ในใจ เธอไม่ได้ลีลาเลยด้วยซ้ำ แค่แอบมองสภาพรถนิดเดียวเอง เขานั่นแหละที่ใจร้อนไปแล้วมาโทษคนอื่น อ้อ... เขาจะใจร้อนก็คงไม่แปลก ผู้ชายคนนี้ลักพาตัวคนๆ หนึ่งกลางสนามบินกลางวันแสกๆ เขาคงกลัวว่าครอบครัวของเธอจะรู้และตามมาช่วยได้ทันท่วงทีละมั้ง... แต่ดีใจด้วย เพราะครอบครัวเธอไม่ได้สนด้วยซ้ำว่าเธอมาถึงเมื่อไหร่ ไฟลท์ไหน และเดินทางอย่างไร พวกเขาสนแค่ว่าเธอจะยอมทำตามคำสั่งของพวกเขาหรือเปล่าก็เท่านั้น ลองเธอได้หายไปแบบนี้ ขี้คร้านพ่อกับแม่จะคิดแค่ว่าเธอมันดื้อรั้น ไม่ยอมกลับมาบ้านทั้งๆ ที่แม่อุตส่าห์เล่นละครตบตาว่าสุขภาพไม่ค่อยดีแบบนั้น แต่โทษเธอไม่ได้หรอกนะ เพราะถ้าพวกเขาส่งคนมารับเธอซักนิดเรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้ “ขึ้นไปสิ!” “รู้แล้วล่ะน่า!” หญิงสาวตอบเสียงห้วนเล็กน้อย ก่อนจะมุดตัวขึ้นไปนั่งบนรถแต่โดยดี เธอไม่ได้กลัวผู้ชา

  • เกาะขังรัก NC-25   เกาะขังรัก - บทนำ

    สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิคราคร่ำไปด้วยผู้คนมากมายหลายเชื้อชาติ เสียงพูดคุยหลากภาษาดังไปทั่วบริเวณ โดยเฉพาะบริเวณหน้าทางออกที่มีผู้คนครึ่งร้อยถือป้ายใหญ่น้อยโบกสะบัดไปมาเรียกสายตาจากใครหลายคน ณัฐรินีย์ เองก็มองไปที่ป้ายเหล่านั้น ดวงตาคู่สวยมองไล่ผ่านป้ายทุกใบไม่มีขาดตก แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มีป้ายที่เป็นชื่อเธอเลย... ทั้งๆ ที่รู้ว่าวันนี้เธอจะกลับมาเพราะขัดคำสั่งไม่ได้ ทั้งๆ ที่รู้ว่าเธอไม่ได้กลับประเทศบ้านเกิดมาร่วมห้าปีแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่แม้แต่จะส่งคนมารับเธอ หญิงสาวยักไหล่ ชินเสียแล้วกับอะไรแบบนี้ ในเมื่อเธอเป็นลูกที่ไม่ได้เรื่อง พวกเขาจะไม่สนใจเธอเลยก็ไม่คงไม่ผิด ร่างเพรียวบางเดินออกจากบริเวณนั้นไป เธอเลือกเดินไปตรงส่วนที่มีรถแท็กซี่มากมายจอดนิ่งเพื่อรอรับผู้โดยสารที่ไม่มีใครมารับเช่นเธอ ขาเรียวเกือบจะเดินเข้าไปหาแท็กซี่คันแรกแล้ว ถ้าไม่ใช่เพราะนึกอะไรบางอย่างได้เสียก่อน เธอเกือบลืมส่งข้อความไปบอกคนที่อยู่อีกซีกโลกว่ามาถึงประเทศไทยโดยสวัสดิภาพเสียแล้ว คิดได้ดังนั้นณัฐรินีย์ก็หยิบมือถือขึ้นมา กดเชื่อมต่อกับวายฟายของสนามบิน แต่เพราะตรงนี้สัญญาณไม่ค่อยดี เธอจึงต้องเดินกลับเข้าไปด้า

DMCA.com Protection Status