"อืม อยากจะถามเรื่องของอาจารย์เสียหน่อย""เสิ่นหยาง ไปหาพี่สาวเจ้ากับอาสะใภ้ไปด้วยกัน พวกนางกำลังเรียนเรื่องของว่างชาพอดี ให้ไปเรียนรู้เสียหน่อย""ขอรับ"เสิ่นเสวียนพูดกับฟู่จาวหนิง "อาสะใภ้กับพี่สาวเขานิสัยดี ชอบทำกับข้าวทำของว่าง สองวันนี้ก็คอยติดตามท่านปู่อาของเจ้าเพื่อเรียนรู้อยู่ เจ้าเคยพบหรือยัง?"ผู้อาวุโสตู้ค่อนข้างเจ้าอารมณ์ คนที่ทำให้เขายอมให้เรียนรู้อยู่ข้างๆ ได้ แสดงว่าพวกนางก็ไม่เลวนัก ทำอะไรก็รู้วิธีการฟู่จาวหนิงเคยพบครั้งหนึ่ง พวกนางช่วยยกอาหารเข้ามายังสวนสี่ซิน แต่ว่าไม่ได้คุยกันสองคนนั้นหน้าตาดีทั้งคู่ ใบหน้ากลมเรียบ มองแล้วอ่อนโยน ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าบ้านตระกูลเสิ่นก็มีบางคนที่ใช้ได้อยู่"เคยพบแล้ว เช่นนั้นก็รบกวนพวกนางไปกับข้ารอบหนึ่งแล้วกัน""ข้าจะส่งคนไปรับพวกนางเดี๋ยวนี้" เสิ่นหยางลุกขึ้นหมุนตัวออกไปทันทีรอจนรรับคนมา ฟู่จาวหนิงก็พาพวกนางไปพบซือถูไป๋ด้วยกันสืออีสือซานแน่นอนว่าต้องตามไป"ถ้าตอนหลังท่านอ๋องรู้เข้า พวกเราก็ช่วยพระชายาอธิบายหน่อยแล้วกัน" สืออีกระซิบกับสือซานสือซษนเองไม่ค่อยเข้าใจ "อธิบายอะไรหรือ?"พระชายายังมีอะไรต้องอธิบายอีกหรือ? เขา
ฟู่จาวหนิงตอนที่เข้ามาก็เห็นชิ่งอวิ๋นเซียวนางประหลาดใจ"ทำไมผู้นำน้อยตระกูลชิ่งถึงแจ้นมาที่นี่ด้วยล่ะ?""บ้านตระกูลชิ่งอยู่ในเมืองชายแดนที่ไม่ห่างจากต้าชื่อเท่าไรนัก น่าจะมีการค้ากับต้าชื่อทางนี้ เทศกาลอวยพรสารทฤดูของต้าชื่อ บ้านตระกูลชิ่งน่าจะส่งคนเข้ามาจัดการเรื่องการค้า"สืออีรู้มาบางส่วน "ก่อนหน้านี้ผู้นำน้อยตระกูลชิ่งมีการสนับสนุนจากท่านอ๋อง กลับมาตระกูลชิ่งก็น่าจะชิงเอาการคุ้มครองจากผู้อาวุโสมาได้ไม่น้อย น่าจะพอลงรากได้อย่างมั่นคงแล้วกระมัง""บังเอิญเสียจริง ที่มาเจอเขาที่นี่"ซือถูไป๋เองก็เห็นนางแล้วส"จาวหนิง"เขาเข้าไปรับฟู่จาวหนิงผู้นำน้อยตระกูลชิ่งพอหมุนตัว ตอนที่เห็นฟู่จาวหนิงก็งงงันไปแล้วเขากำลังเตรียมจะร้องเรียกพระชายาอ๋องเจวี้ยน ฟู่จาวหนิงก็เตือนเขาขึ้นมาก่อนก้าวหนึ่ง "ผู้นำน้อยตระกูลชิ่งเรียกข้าว่าแม่นางฟู่ก็พอ""แม่ แม่นางฟู่!"ผู้นำน้อยตระกูลชิ่งถลึงตาโต "ท่านทำไมถึงมาอยู่ที่นี่กัน?""แน่นอนว่ามีธุระน่ะสิ""นี่ก็บังเอิญจริงๆ! ดังนั้น คุณชายซือถูบอกว่ารอคนอยู่ ที่แท้ก็รอท่านนี่เอง""ใช่แล้ว""เช่นนั้น เขาจึงมากับท่านหรือ?" ผู้นำน้อยตระกูลชิ่งมองไปด้า
เซียวหลันยวนนิ่งงันไปแล้วทำให้ตกใจหรือ?พวกเขาก่อนหน้านี้นี้ที่ผ่านเมือง หลังจากเข้ามาก็ได้ยินคนวิพากษ์วิจารณ์ถึงหน้าตาเขาแน่นอนว่ามีคนคอยกระพือคลื่นอยู่เบื้องหลัง ไม่เช่นนั้นคงไม่ลือมาเร็วขนาดนี้ ลือมาไกลถึงขนาดนี้ผู้คนล้วนกำลังวิพากษ์วิจารณ์ ว่าอ๋องเจวี้ยนหน้าพังไปแล้วครึ่งหนึ่ง น่าเกลียดอย่างมาก ราวกับเป็นผีร้ายไม่ใช่แค่น่าเกลียด แต่ยังน่ากลัวอย่างมากด้วย เห็นแล้วจะฝันร้ายเลยทีเดียวแล้วยังบอกอีก ว่าพอเห็นใบหน้าอ๋องเจวี้ยน ไม่ใช่แค่กินข้าวไม่ลง แต่ยังจะอาเจียนน้ำดีออกมาจนหมดด้วยหลังจากได้ยินครั้งนั้น พวกเขาก็ไม่เข้าไปพักในเมืองอีกเลยเซียวหลันยวนเดิมทีคิดว่าปณิธานตนเองแข็งแกร่งมาก น่าจะไม่สนใจสายตาของคนอื่นได้ แต่ว่าตอนนี้เขารู้สึกจะประเมินตนเองสูงเกินไปแล้วได้พอยินคนอื่นพูดเช่นนี้ เขาเองก็คิดขึ้นมาว่าฟู่จาวหนิงจะกลัวหรือรังเกียจใบหน้านี้ของเขาไหมบางทีอาจจะบอกว่าตอนนี้ยังไม่รังเกียจ แต่หลังจากนี้ล่ะ? ถ้ามันรักษาให้หายจริงๆ ไม่ได้ล่ะ?ลูกๆ ของเขาหลังจากนี้ล่ะ?คำพูดที่ผู้คนพูดกันเช่นนี้ จะส่งผลกระทบไปถึงนางไหม? ถ้าหากทุกคนล้วนกำลังพูด ทำไมถึงมาแต่งงานกับผุ้ชายที่น่
อาสะใภ้ตระกูลเสิ่นกับเสิ่นฟางพี่สาวเสิ่นหยางพอเจอกับซือถูไป๋กับชิ่งอวิ๋นเซียวทั้งสองคน ก็ไม่กล้าส่งเสียงอะไรมาตลอดอาสะใภ้บ้านตระกูลเสิ่นยังพอไหว นางเคยเห็นเสิ่นเสวียนตอนยังเด็กกับวัยหนุ่มมาแล้ว ตอนนั้นเสิ่นเสวียนเองก็มีชื่อว่าเป็นหนุ่มหล่อในต้าชื่อเช่นกัน ต่อให้ตอนนี้เป็นวัยกลางคนแล้วแต่ก็ยังคงดูดีราวกับดวงจันทราดังนั้นตอนที่เห็นซือถูไป๋กับชิ่งอวิ๋นเซียว นางที่อายุมากแล้ว จึงไม่ถึงกับมือไม้เป็นพัลวันหูของเสิ่นฟางหูแดงมาตลอดนั่งร่วมโต๊ะอยู่กับชายหนุ่มสองคนที่หน้าตาดีสะกดหญิงสาวส่วนใหญ่แบบนี้ นางยังไม่กล้าเงยหน้าด้วยซ้ำนับถือฟู่จาวหนิงจริง ที่ยังสุขใจร่าเริงได้แต่ว่า นี่อาจจะเพราะความงามของฟู่จาวหนิงเองก็ไม่ได้ด้อยกว่าพวกเขากระมัง?หลังจากของว่างน้ำชายกเข้ามา อาสะใภ้เสิ่นกับเสิ่นฟางก็รีบเอาความสนใจไปอยู่ที่การค้นคว้าของว่างน้ำชา ถึงอย่างไรพวกนางครั้งนี้ก็ตามมาแล้ว และยังกอดความคิดจะเรียนฝีมือของโรงน้ำชาแห่งนี้ด้วย"ตระกูลชิ่งคิดจะชิงโอกาสสุราพิธีกรรมในการอวยพรขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นในอีกไม่กี่วันนี้ด้วยหรือ?"ซือถูไป๋ถามผู้นำน้อยตระกูลชิ่ง"ไม่หรอก ข้าตอนนี้อายุยังน้อย ไม่ต้
อาเพียนพอเห็นสายตานางก็ร้องเฮอะหันหน้าออกไป ไม่พูดอะไรอีกเขาก่อนหน้านี้เป็นพวกชอบด่าตามอำเภอใจ แต่ก็ถูกคุณชายลงโทษอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะหลังจากที่ไม่เคารพต่อพระชายาอ๋องเจวี้ยน คุณชายขนาดไม่อยากจะพาเขามาด้วยแล้ว ดังนั้นตอนนี้เขาจึงไม่กล้าฟู่จาวหนิงพอเห็นการกระทำของผู้นำน้อยตระกูลชิ่ง ก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้นางต่อให้มองออก ผู้นำน้อยตระกูลชิ่งครั้งนี้ยืนอยู่ฝั่งนาง ยิ่งไปกว่านั้นยังดูจะเอาคืนหนี้แค้นก่อนหน้านี้ของนางให้อีกด้วยและไม่รู้ว่าผู้นำน้อยตระกูลชิ่งไปเห็นอาเพียนดุด่านางตอนไหนนางอันที่จริงก็แค่ขี้เกียจจะคิดเล็กคิดน้อยกับอาเพียน แค่ก็คำไม่กี่คำ สำหรับนางแล้วไม่เจ็บไม่คันเลยสักนิด แล้วก็ไม่แค้นไม่เคืองด้วย"อาจารย์ข้าตอนนั้นได้อะไรกลับมาบ้างไหม?" ฟู่จาวหนิงถามต่อ "ท่านรู้ไหมว่าเขาตอนนั้นเตรียมจะออกไปอยู่แล้ว หรือว่ามาเปลี่ยนความคิดตอนหลัง""บนตัวพวกผู้อาวุโสจี้แบกของอยู่เหมือนกัน ดูแล้วน่าจะได้อะไรมาพอควร แต่ว่าเพื่อจะเลี่ยงการรังเกียจ ข้าเลยไม่ได้ไปถามว่าได้อะไรมาบ้าง ตอนนั้นเห็นว่าพวกเขาตั้งค่ายกันที่ริมๆ เทือกเขาสระเมฆาด้วย น่าจะอยู่ที่นั่นอีกหลายวัน"ซือถูไป๋เองก็ไม่ได้ปิ
ซือถูไป๋หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย แขนเสื้อกว้างสะบัดออกมาทันที คิดจะใวช้กำลังภายในเข้าขวางน้ำชาเหล่านั้นแต่เพราะผู้นำน้อยตระกูลชิ่งลงมือกะทันหัน ใครก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะทำแบบนี้ ดังนั้นจึงช้าไปก้าวหนึ่ง น้ำชาถ้วยนั้นทั้งหมดสาดเข้าไปบนหน้าอาเพียนอาเพียนถูกสาดไปเต็มหน้า แข็งทื่อไปทั้งตัวเขาติดตามซือถูไป๋มาตลอด ซือถูไป๋เองก็มีชื่อเสียงมากในยุทธจักรพ ชื่อเสียงโรงยาทงฝูเอาก็ดีมาก ปกติไม่ค่อยมีใครที่สายตาไม่กว้างใกล้มารังแกพวกเขาสักเท่าไรต่อให้ตัวตนฐานะจะสูงกว่าพวกเขา ก็ยังไม่ไม่มาคิดเล็กคิดน้อย ไม่พูดอะไรมาก อย่างมากก็แค่ทำเป็นไม่สนใจเขาเพิ่งเคยถูกสาน้ำชาใส่เป็นครั้งแรก!โชคดีที่อากาศตอนนี้เย็น พอลมหนาวพัดมาน้ำชาก็ไม่ร้อนจนลวก และชาถ้วยนั้นก็วางไว้พักหนึ่งแล้ว มันจึงแค่อุ่นๆแต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ อาเพียนก็ยังถูกสาดจนมึนไปแล้ว ในสมองขาวโพลนไปหมด"คนใช้ข้างกายคุณชายซือถูคนนี้น่ารังเกียจเสียจริง ข้าได้ยินว่าเขาพูดว่าร้ายแม่นางหญิงก่อนหน้านี้ไปไม่น้อยเลย ใช่ไหม?"ผู้นำน้อยตระกูลชิ่งยังยิ้มเจิดจ้าอย่างสง่างาม แต่ในดวงตากลับเผยประกายคมกริบออกมาพอสมควร"เขาน่าจะถูกคุณชายซือถูตามใจจนนิสัยเส
ผู้นำน้อยตระกูลชิ่งออกมาเดินได้ไม่กี่ก้าว ก็เห็นพวกฟู่จาวหนิงยืนอยู่ไม่ไกล เขาก็งงงัน พอเห็นฟู่จาวหนิงกำลังกวักมือมาทางเขา ก็เลยวิ่งออกไปทันที"แม่นางฟู่ วางใจได้ ข้าสั่นสอนอาเพียนคนนั้นแทนท่านไปแล้ว จากที่ข้าเห็น ท่านนี่เป็นคนดีใจดีเกินไปแล้ว"ทำไมถึงให้อาเพียนคนนั้นมาคอยขี่หัวอยู่ได้"ขอบคุณท่านมาก"ถึงแม้ฟู่จาวหนิงจะรู้สึกว่าตนเองไม่จำเป็นต้องไปคิดเล็กคิดน้อยกับเด็กวัยต่อต้านคนนั้น แต่คนอื่นก็ช่วยเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนางแล้ว นางจะทำตัวเป็นคนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีแล้วพูดว่าไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ไม่ได้"ฮ่าๆ ไม่ต้องขอบคุณหรอก"เป็นไปตามคาด พอได้ยินคำขอบคุณของฟู่จาวหนิง ผู้นำน้อยตระกูลชิ่งก็หัวเราะร่าขึ้นมาอย่างเบิกบานเป็นพิเศษ"แม่นางฟู่พักอยู่ในบ้านพวกเขาหรือ มีอะไรไม่สะดวกไหม ต้องการให้ช่วยอะไรก็บอกได้เลย"ผู้นำน้อยตระกูลชิ่งมองมองอาสะใภ้เสิ่นกับเสิ่นฟางเสิ่นฟางเมื่อครู่เห็นเขาสาดน้ำใส่คนติดตามคุณชายซือถูอย่างกล้าหาญ จึงรู้สึกอยากรู้อยากเห็นต่อตัวเขาแต่ก็ไม่กล้าสบตามองตรงๆ"ใช่ ข้าพักอยู่ในบ้านตระกูลเสิ่น ไม่มีอะไรไม่สะดวกสบายหรอก ว่าแต่ผู้นำน้อยตระกูลชิ่ง" ฟู่จาวหนิง
"ถุงยานี้ข้าห่อไว้นานแล้ว สายรัดนี้ข้าให้เสี่ยวชิ่นเย็บมาให้ หลังจากนี้สามารถเอาห่อยาที่อุ่นแล้ววางไว้บนสายรัดแล้วมัดไว้บนเข่าของท่านผู้เฒ่าได้ ไท่ไท่อาวุโสถ้าหน้าหนาวรู้สึกปวดขา อันที่จริงก็ใช้ได้เช่นกัน""นี่นี่นี่ นี่มันดีมากเลย นี่มันดีมากจริงๆ ขอบคุณมากจาวหนิง!" ตาไท่ไท่อาวุโสแดงก่ำขึ้นมา รีบกุมมือฟู่จาวหนิงไว้ รู้สึกดีใจยิ่งกว่าที่รักษาตนเองเสียอีกขาของท่านผู้เฒ่าพอไม่สะดวกนัก ตนเองก็จมดิ่งไปไม่น้อย รู้สึกว่าตนเองกลายเป็นภาระยิ่งไปกว่นั้นยังไปเดินเล่นกับนางด้วยไม่ได้ ทั้งสองคนจึงทำได้แค่ทำกิจกรรมอยู่แต่ในเรือนจิ้งชิวถ้าหากเขาสามารถดีขึ้นมา เขาหลังจากนี้ก็ยังสามารถช่วยเหลือเสิ่นเสวียนได้ด้วย"วิชาแพทย์ของจาวหนิงนี่ยอดเยี่ยมเหลือจะกล่าวจริงๆ"ท่านผู้เฒ่าเสิ่นเองก็แอบหันมาปาดน้ำตา"เดิมทีข้าคิดว่าพวกเราสองเฒ่าเหยียบอยู่บนเส้นทางยมโลก ชีวิตนี้เหลืออยู่แค่ไม่กี่วันแล้วเสียอีก..."คำพูดของไท่ไท่อาวุโสทำให้ฟู่จาวหนิงต้องตัดบท"ท่านผู้เฒ่ากับไท่ไท่อาวุโสเพิ่งจะหกสิบต้นๆ เอง ขอแค่สุขภาพดีเข้าไว้ บำรุงร่างกายดีดี จิตใจปล่อยวาง ใช้ชีวิตให้มีความสุขหน่อย กินให้ดีพักผ่อนให้เพียงพอ