อาเพียนพอเห็นสายตานางก็ร้องเฮอะหันหน้าออกไป ไม่พูดอะไรอีกเขาก่อนหน้านี้เป็นพวกชอบด่าตามอำเภอใจ แต่ก็ถูกคุณชายลงโทษอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะหลังจากที่ไม่เคารพต่อพระชายาอ๋องเจวี้ยน คุณชายขนาดไม่อยากจะพาเขามาด้วยแล้ว ดังนั้นตอนนี้เขาจึงไม่กล้าฟู่จาวหนิงพอเห็นการกระทำของผู้นำน้อยตระกูลชิ่ง ก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้นางต่อให้มองออก ผู้นำน้อยตระกูลชิ่งครั้งนี้ยืนอยู่ฝั่งนาง ยิ่งไปกว่านั้นยังดูจะเอาคืนหนี้แค้นก่อนหน้านี้ของนางให้อีกด้วยและไม่รู้ว่าผู้นำน้อยตระกูลชิ่งไปเห็นอาเพียนดุด่านางตอนไหนนางอันที่จริงก็แค่ขี้เกียจจะคิดเล็กคิดน้อยกับอาเพียน แค่ก็คำไม่กี่คำ สำหรับนางแล้วไม่เจ็บไม่คันเลยสักนิด แล้วก็ไม่แค้นไม่เคืองด้วย"อาจารย์ข้าตอนนั้นได้อะไรกลับมาบ้างไหม?" ฟู่จาวหนิงถามต่อ "ท่านรู้ไหมว่าเขาตอนนั้นเตรียมจะออกไปอยู่แล้ว หรือว่ามาเปลี่ยนความคิดตอนหลัง""บนตัวพวกผู้อาวุโสจี้แบกของอยู่เหมือนกัน ดูแล้วน่าจะได้อะไรมาพอควร แต่ว่าเพื่อจะเลี่ยงการรังเกียจ ข้าเลยไม่ได้ไปถามว่าได้อะไรมาบ้าง ตอนนั้นเห็นว่าพวกเขาตั้งค่ายกันที่ริมๆ เทือกเขาสระเมฆาด้วย น่าจะอยู่ที่นั่นอีกหลายวัน"ซือถูไป๋เองก็ไม่ได้ปิ
ซือถูไป๋หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย แขนเสื้อกว้างสะบัดออกมาทันที คิดจะใวช้กำลังภายในเข้าขวางน้ำชาเหล่านั้นแต่เพราะผู้นำน้อยตระกูลชิ่งลงมือกะทันหัน ใครก็คิดไม่ถึงว่าเขาจะทำแบบนี้ ดังนั้นจึงช้าไปก้าวหนึ่ง น้ำชาถ้วยนั้นทั้งหมดสาดเข้าไปบนหน้าอาเพียนอาเพียนถูกสาดไปเต็มหน้า แข็งทื่อไปทั้งตัวเขาติดตามซือถูไป๋มาตลอด ซือถูไป๋เองก็มีชื่อเสียงมากในยุทธจักรพ ชื่อเสียงโรงยาทงฝูเอาก็ดีมาก ปกติไม่ค่อยมีใครที่สายตาไม่กว้างใกล้มารังแกพวกเขาสักเท่าไรต่อให้ตัวตนฐานะจะสูงกว่าพวกเขา ก็ยังไม่ไม่มาคิดเล็กคิดน้อย ไม่พูดอะไรมาก อย่างมากก็แค่ทำเป็นไม่สนใจเขาเพิ่งเคยถูกสาน้ำชาใส่เป็นครั้งแรก!โชคดีที่อากาศตอนนี้เย็น พอลมหนาวพัดมาน้ำชาก็ไม่ร้อนจนลวก และชาถ้วยนั้นก็วางไว้พักหนึ่งแล้ว มันจึงแค่อุ่นๆแต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ อาเพียนก็ยังถูกสาดจนมึนไปแล้ว ในสมองขาวโพลนไปหมด"คนใช้ข้างกายคุณชายซือถูคนนี้น่ารังเกียจเสียจริง ข้าได้ยินว่าเขาพูดว่าร้ายแม่นางหญิงก่อนหน้านี้ไปไม่น้อยเลย ใช่ไหม?"ผู้นำน้อยตระกูลชิ่งยังยิ้มเจิดจ้าอย่างสง่างาม แต่ในดวงตากลับเผยประกายคมกริบออกมาพอสมควร"เขาน่าจะถูกคุณชายซือถูตามใจจนนิสัยเส
ผู้นำน้อยตระกูลชิ่งออกมาเดินได้ไม่กี่ก้าว ก็เห็นพวกฟู่จาวหนิงยืนอยู่ไม่ไกล เขาก็งงงัน พอเห็นฟู่จาวหนิงกำลังกวักมือมาทางเขา ก็เลยวิ่งออกไปทันที"แม่นางฟู่ วางใจได้ ข้าสั่นสอนอาเพียนคนนั้นแทนท่านไปแล้ว จากที่ข้าเห็น ท่านนี่เป็นคนดีใจดีเกินไปแล้ว"ทำไมถึงให้อาเพียนคนนั้นมาคอยขี่หัวอยู่ได้"ขอบคุณท่านมาก"ถึงแม้ฟู่จาวหนิงจะรู้สึกว่าตนเองไม่จำเป็นต้องไปคิดเล็กคิดน้อยกับเด็กวัยต่อต้านคนนั้น แต่คนอื่นก็ช่วยเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนางแล้ว นางจะทำตัวเป็นคนไม่รู้จักผิดชอบชั่วดีแล้วพูดว่าไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ไม่ได้"ฮ่าๆ ไม่ต้องขอบคุณหรอก"เป็นไปตามคาด พอได้ยินคำขอบคุณของฟู่จาวหนิง ผู้นำน้อยตระกูลชิ่งก็หัวเราะร่าขึ้นมาอย่างเบิกบานเป็นพิเศษ"แม่นางฟู่พักอยู่ในบ้านพวกเขาหรือ มีอะไรไม่สะดวกไหม ต้องการให้ช่วยอะไรก็บอกได้เลย"ผู้นำน้อยตระกูลชิ่งมองมองอาสะใภ้เสิ่นกับเสิ่นฟางเสิ่นฟางเมื่อครู่เห็นเขาสาดน้ำใส่คนติดตามคุณชายซือถูอย่างกล้าหาญ จึงรู้สึกอยากรู้อยากเห็นต่อตัวเขาแต่ก็ไม่กล้าสบตามองตรงๆ"ใช่ ข้าพักอยู่ในบ้านตระกูลเสิ่น ไม่มีอะไรไม่สะดวกสบายหรอก ว่าแต่ผู้นำน้อยตระกูลชิ่ง" ฟู่จาวหนิง
"ถุงยานี้ข้าห่อไว้นานแล้ว สายรัดนี้ข้าให้เสี่ยวชิ่นเย็บมาให้ หลังจากนี้สามารถเอาห่อยาที่อุ่นแล้ววางไว้บนสายรัดแล้วมัดไว้บนเข่าของท่านผู้เฒ่าได้ ไท่ไท่อาวุโสถ้าหน้าหนาวรู้สึกปวดขา อันที่จริงก็ใช้ได้เช่นกัน""นี่นี่นี่ นี่มันดีมากเลย นี่มันดีมากจริงๆ ขอบคุณมากจาวหนิง!" ตาไท่ไท่อาวุโสแดงก่ำขึ้นมา รีบกุมมือฟู่จาวหนิงไว้ รู้สึกดีใจยิ่งกว่าที่รักษาตนเองเสียอีกขาของท่านผู้เฒ่าพอไม่สะดวกนัก ตนเองก็จมดิ่งไปไม่น้อย รู้สึกว่าตนเองกลายเป็นภาระยิ่งไปกว่นั้นยังไปเดินเล่นกับนางด้วยไม่ได้ ทั้งสองคนจึงทำได้แค่ทำกิจกรรมอยู่แต่ในเรือนจิ้งชิวถ้าหากเขาสามารถดีขึ้นมา เขาหลังจากนี้ก็ยังสามารถช่วยเหลือเสิ่นเสวียนได้ด้วย"วิชาแพทย์ของจาวหนิงนี่ยอดเยี่ยมเหลือจะกล่าวจริงๆ"ท่านผู้เฒ่าเสิ่นเองก็แอบหันมาปาดน้ำตา"เดิมทีข้าคิดว่าพวกเราสองเฒ่าเหยียบอยู่บนเส้นทางยมโลก ชีวิตนี้เหลืออยู่แค่ไม่กี่วันแล้วเสียอีก..."คำพูดของไท่ไท่อาวุโสทำให้ฟู่จาวหนิงต้องตัดบท"ท่านผู้เฒ่ากับไท่ไท่อาวุโสเพิ่งจะหกสิบต้นๆ เอง ขอแค่สุขภาพดีเข้าไว้ บำรุงร่างกายดีดี จิตใจปล่อยวาง ใช้ชีวิตให้มีความสุขหน่อย กินให้ดีพักผ่อนให้เพียงพอ
"ท่านลุงคนโตไม่รู้ตัวตนฐานะของเขาหรือ?""ไม่รู้ เพราะคนคนนั้นอันที่จริงก็ทำการค้าในเมืองหลวงมานานแล้ว ก่อนนี้หน้าก็ไปมาเป็นประจำ ถือว่าคุ้นเคยเลยทีเดียว หลังจากเกิดเรื่องนี้ คนผู้นั้นก็หายตัวไป เหลือไว้แค่อักษรบนกำแพง ตัวหนังสือเขียนไว้ให้ลุงคนโตของเจ้า แล้วยังมีคำเตือนมาคำหนึ่ง และเพราะประโยคนั้นบอกตัวตนฐานะออกมาว่าลุงคนโตของเจ้าเป็นเจ้าแท่นบูชา ทำให้เขาดิ้นไม่หลุด""เมื่อเป็นเช่นนี้ ลุงคนโตจึงถูกคนอื่นใส่ร้ายไปแล้ว""อืม แต่ไม่มีใครหาคนผู้นั้นพบเลย""ท่านลุงหลายปีนี้ก็หามาโดยตลอดใช่ไหม?""หามาตลอดเลย แต่อีกฝ่ายก็เหมือนสลายหายไปจากโลกนี้แล้วอย่างไรอย่างนั้น ไม่มีร่องเลยเลยแม้แต่น้อย" เสิ่นเสวียนถอนหายใจ "ต่อมาข้าก็ป่วย จึงไม่ได้สนใจเรื่องนี้อีก อื๋อ?"เสิ่นเสวียนจู่ๆ ก็เหมือนคิดอะไรออก เขานั่งตัวตรง มองฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงพอเห็นเขาเป็นเช่นนี้ก็เดาว่าเขาน่าจะคิดอะไรออก จึงไม่ได้ส่งเสียงทำให้ความคิดเขาสับสน รอให้เขาจัดระเบียบเสร็จแล้วพูดออกมาอีกครั้ง"ตอนนั้นเหมือนตรวจเจออะไรแล้ว ต่อมาข้ารู้สึกไม่สบาย การตรวจสอบจึงขาดช่วงไป ตอนนี้พอมาคิดดู มันจะเป็นเพราะข้าตรวจสอบมาถูกทางแล้วหร
เมืองหลวงจักรพรรดิขอต้าชื่อ หอเมืองมองไกลๆ แล้วดูยิ่งใหญ่เป็นพิเศษแตกต่างกับความโบราณของแคว้นเจา สิ่งปลูกสร้างของต้าชื่อดูสง่างามอหังการกว่าอย่างเห็นได้ชัด กำแพงเมืองก็สูงมาก ด้านบนมีทหารคุ้มครองเมืองลาดตระเวณไปมาประตูเมืองเปิดอยู่ คนที่เข้าเมืองเข้าแถวเป็นขบวนยาวพอใกล้ถึงเทศกาลอวยพรสารทฤดู คนที่เข้าเมืองหลวงจึงมากขึ้นจริงๆยิ่งไปกว่านั้น ยังมีอยู่ทุกรูปแบบ รถม้าเองก็แตกต่างกันออกไปด้วย"ระวังหน่อย! อย่าเบียดกัน!"ทหารชั้นสูงที่ประตูเมืองทางนั้นตะโกนขึ้นเสียงดัง เพื่อรักษาความเป็นระเบียบเรียบร้อยไป๋หู่ขับรถม้า พูดกับฟู่จาวหนิงที่กำลังเลิกม่านรถขึ้นว่า "คุณหนูจาวหนิง ดูท่าจะต้องเข้าแถวอีกนานเลย ไปซื้อขนมมาให้ท่านกินก่อนดีไหม?"ไม่ไกลจากประตูเมือง มีพ่อพวกค้ามากางแผงอยู่ คอยค้าขายให้กับคนที่เข้าแถวเข้าเมืองที่นี่เพราะคนเข้าเมืองมีเยอะมาก ขบวนจึงเคลื่อนตัวได้ช้า มีแขกทางไกลบางส่วนที่เร่งเดินทางมานาน ตอนนี้ก็ทั้งหิวทั้งกระหาย ดังนั้นจึงมีคนไม่น้อยส่งคนออกไปหาของกินที่แผงพ่อค้าข้างๆนอกประตูเมืองก็ยังคึกคักกันขนาดนี้แล้ว"ไม่ต้อง ข้ายังไม่ค่อยหิว เดี๋ยวเข้าเมืองแล้วค่อยไปกิน
"หลานหรงน่าจะส่งคนไปคุ้มครองพระชายาที่ประตูเมืองแล้วกระมัง? คิดว่าพระชายาเองก็น่าจะมาถึงเมืองหลวงจักรพรรดิแล้ว ไม่แน่อีกเดี๋ยวคงได้เจอกับพระชา"ชิงอีรู้สึกว่าท่านอ๋องจะต้องคิดถึงพระชายามากแน่ ถึงอย่างไรก็แยกกันไปตั้งนานนี่นา"อืม"แต่เสียงของเซียวหลันยวนดูไม่มีเรี่ยวแรงเอาเลย ตอบกลับอย่างกลัดกลุ้มพวกเขามาถึงเรือนเล็กเรือนนั้นแล้ว พอเข้าประตู เซียวหลันยวนก็ลงจากรถม้า เงยหน้ามองไปข้างหน้าทันทีหลานหรงขึ้นหน้ามา "ท่านอ๋องเหน็ดเหนื่อยเสียแล้ว"เซียวหลันยวนไม่ตอบ สายตาหมุนไปหมุนมา กวาดมองเรือนหลังนี้ ยังไม่มีใครอยู่ฟู่จาวหนิงล่ะ?หลานหรงมาถึงต้าชื่อก่อน หรือว่ายังไม่ได้ไปรับฟู่จาวหนิงเข้ามา?"ท่านอ๋อง?"หลานหรงไม่ค่อยเข้าใจว่าเขากำลังหาอะไร"พระชายาล่ะ?" ชิงอีถามขึ้นทันที ท่านอ๋องจะต้องหาพระชายาอยู่แน่"พระชายาน่าจะเข้าเมืองหลวงจักรพรรดิวันนี้ ข้าน้อยส่งคนไปรอที่ประตูเมืองแล้วขอรับ"พอสิ้นเสียงของหลานหรง ก็มีคนรีบเดินเข้ามา"ท่านอ๋อง ไม่พบตัวพระชายา แต่พอหาข่าวดูจึงรู้ว่า พระชายาตอนที่เข้าเมืองก่อนหน้า ถูกคนของคุณชายซือถูรับตัวไปแล้ว"กร๊อบเซียวหลันยวนบีบมือ โครงประตูที่เ
"ไม่ใช่ว่านายท่านหลิวหาข้าหรอกหรือ?"นายท่านหลิวหลิวเฉิง ไป๋หู่เองก็พยักหน้าให้นางว่ารู้จักแต่นายท่านหลิวจะพบนาง จะมาเจอในเรือนที่เป็นส่วนตัวและเงียบสงบแบบนี้หรือ?"จาวหนิง"เสียงหนึ่งดังขึ้น มีคนออกมาจากด้านในฟู่จาวหนิงแหงนตามองซือถูไป๋ที่สง่างามดุจไม้หยกอวี้หลานค่อยๆ ย่างเดินออกมา รู้สึกจำใจขึ้นมาทันที"คุณชายซือถู"ทำไมถึงเป็นซือถูไป๋อีกแล้ว?นางยังคิดว่าผ่านเรื่องครั้งที่แล้วไป ซือถูไป๋ก็ไม่น่าจะยินดีมาเจอนางแล้วเสียอีกถึงอย่างไรชิ่งอวิ๋นเซียวแม้จะไม่ใช่คนที่นางต้องดูแล แต่นางเองก็ไ่ได้ห้ามพฤติกรรมของชิ่งอวิ๋นเซียว กระทั่งยังแสดงความขอบคุณต่อชิ่งอวิ๋นเซียวด้วย นั่นก็เท่ากับเป็นการยอมรับกลายๆ ว่าการกระทำของเขานางพอใจที่จะเห็นแล้วสาดน้ำชาใส่หน้าอาเพียน ก็เกือบจะเท่ากับตบฉาดเข้าที่หน้าซือถูไป๋แล้ว"ท่านอย่าเพิ่งโกรธ" ซือถูไป๋รู้สึกขอโทษ ดูจริงจังอย่างมาก "ข้ารู้ว่าวันนี้คนเข้าแถวที่ประตูเมืองเยอะมาก เข้าแถวจนท่านเหน็ดเหนื่อยเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นถ้าไม่ทัน รอจนประตูเมืองปิด คืนนี้ต้องไปพักอยู่ด้านนอกอีก"เขาพูดขนาดนี้แล้ว ฟู่จาวหนิงยังพูดอะไรได้อีก"เช่นนั้นก็ขอบคุณ
หยวนอี้ตอนที่เข้ามาก็เห็นกับภาพที่ 'สับสนอลหม่าน' นี้เขาประกายตาแล่นวาบ กำลังจะเข้าไปในประตูวงกลม ไป๋หู่ก็หมุนตัวมามองเขา "ช้าก่อน"หยวนอี้โบกไม้โบกมือ "สหายไป๋หู่""อย่าเข้าใกล้นัก เหมือนข้าเคยบอกท่านไว้แล้ว ที่นี่ท่านห้ามเข้าไป" ไป๋หู่เอ่ยขึ้นฟู่จิ้นเชินออกมาจัดการความวุ่นวายนี้ ให้ป้าหนิวป้าหลี่มาช่วยประคององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเข้าไปในห้องเฉินเซียงกลับไม่มีใครสนใจ"พวกเจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว..."เฉินเซียงดิ้นรนอยู่พักหนึ่งถึงลุกขึ้นมาได้ นางรู้สึกว่าอวัยวะภายในตนเองปวดร้าวไปหมดเท้าของฟู่จาวหนิงแรงหนักขนาดนี้เชียว!นางไม่เป็นวรยุทธ์เลยจริงหรือ?แต่ว่าฟู่จาวหนิงทำไมถึงกล้า กล้าเตะนางขนาดนี้!สายตาของหยวนอี้เก็บกลับมาจากตัวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ถูกประคองเข้าห้อง หันไปตกอยู่บนตัวเฉินเซ๊ยงแทน ใต้ตาเกิดความสนใจขึ้นมา"แม่นางไปยั่วหมอฟู่อย่างไรกันเนี่ย?"ฟู่จาวหนิงมองเขา ถามไป๋หู่ว่า "นี่ใครหรือ?""บอกว่าชื่อหยวนอี้ ติดตามหมอหลวงคนหนึ่งเข้ามา อยากจะมาช่วยเหลือที่เมืองเจ้อขอรับ" ไป๋หู่บอกกับฟู่จาวหนิงฟู่จิ้นเชินเดินมาอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง กดเสียงลงต่ำ "รู้สึกเหมือนเขาน่าสงสัย
เซียวหลันยวนหมุนตัวจากไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองแผ่นเหลังเขา จะอย่างไรก็ตั้งสติกลับมาไม่ได้เฉินเซียงเห็นว่าการสนทนาขององค์หญิงใหญ่พังทลายลงแล้ว สีหน้าก็ลนลานขึ้นมา รีบลุกขึ้นมาไล่ตามเซียวหลันยวนไป"อ๋องเจวี้ยน! ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้!" หมอเทวดาฟู่วางยาอะไรใส่ท่านใช่ไหม ท่านทำไมถึงได้ใจดำขนาดนี้?นางยังไม่ทันพุ่งออกจากประตูวงกลม ก็ถูกไป๋หู่ฟาดกลับมาไป๋หู่ยังใช้แค่กำลังภายในด้วย แต่ห้ามไม่ให้นางออกไป ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายนางแต่เฉินเซียงก็ทรุดตัวลงบนพื้น แค่รู้สึกว่าเจ็บเข่าเจ็บก้น มือก็เจ็บ หัวก็ปวดไปหมดนางร้องไห้ออกมา "พวกเจ้าจะมารังแกองค์หญิงใหญ่ของพวกเราแบบนี้ไม่ได้ นางเป็นองค์หญิงใหญ่ที่มีโชคมากที่สุดในต้าชื่อนะ"เซียวหลันยวนเดินไปไกลแล้ว ไม่หันหลังกลับมาไป๋หู่ยืนอยู่ที่ประตูวงกลม มององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่นั่งเหม่อลอยอยู่บนพื้น เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ "องค์หญิงใหญ่กลับห้องไปเถิด"จะว่าไปเขาเองก็เป็นคนต้าชื่อเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินเรื่ององค์หญิงใหญ่มามากตอนนี้พอเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกต่ำจนน้ำตานองหน้า เขาก็รู้สึกซับซ้อนขึ้นมาหน่อยๆแต่ว่า องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ
หญิงสาวที่น่าสงสาร ตอนเด็กๆ เขาเห็นในวังหลังมาแล้วไม่น้อย มีภูมิคุ้มกันไปนานแล้ว"ข้าไม่ได้จะแย่งชิงอะไรกับหมอเทวดาฟู่ ถ้าเราแต่งกันหลอกๆ ได้ไหม? ข้าแค่ต้องการหาที่ไปเท่านั้น แค่อยากให้ท่านคอยปกป้องข้าไม่กี่ปี ถ้าห้าปีไม่ได้ล่ะก็ สามปีก็พอ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเห็นเซียวหลันยวนไม่พูดจา จึงหดเวลาลงมาอีก"สามปีนี้ ข้าแค่แบกชื่อพระชายารองไว้ในนามเท่านั้น พออยู่ภายนอกก็ขอให้ท่านอ๋องเล่นละครกับข้าหน่อย แสร้งเป็นสามีภรรยา สามารถปกป้องข้าได้ ในจวนอ๋อง ข้ารับรองว่าจะทำตามหน้าที่ตนเอง เลี่ยงท่านอ๋องให้ห่าง ไม่คิดอะไรเกินเลย""เป็นถึงองค์หญิงใหญ่ต้าชื่อ แต่คิดจะเอาตัวเองไปไว้ในจุดต่ำตมหรือ?" เซียวหลันยวนถาม"อ๋องเจวี้ยนโปรดเมตตา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน้ำตาไหลพราก "ข้าไม่มีทางเลือกแล้ว ข้าเอาของให้ท่านได้ ยิ่งไปกว่านั้น โชคของข้าก็ดีมาโดยตลอด ถ้าเป็นพระชายารองอ๋องเจวี้ยนในนาม จะต้องช่วยเหลือท่านอ๋องได้แน่ ไม่ว่าท่านอ๋องจะทำอะไร ก็จะยิ่งราบรื่น ผลลัพธ์สมปรารถนา""องค์หญิงใหญ่มั่นใจกับโชคของตนเองขนาดนี้เชียว?" เซียวหลันยวนได้ยินคำนี้ก็อดนึกขันขึ้นมาไม่ได้"โชคจุดนี้ข้ามีอยู่ ท่านเองก็เชื่อข้าได
เซียวหลันยวนมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นและไม่รู้ว่านางทำไมถึงพูดว่า 'เขาเอามาเองไม่ได้' ออกมา"แล้วของนั่นมันคืออะไรกัน?" เขาถามขึ้นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลนลานขึ้นมานางรู้ที่ไหนว่าสิ่งนั้นคืออะไร? มันคือกล่องที่เปิดไม่ได้ แล้วก็มองไม่เห็นว่าด้านในมีอะไรนี่นา?"ตอนนี้ข้ายังบอกท่านไม่ได้ แต่สำคัญกับท่านมากแน่นอน""เจ้าไม่บอกว่าคืออะไร แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจริงหรือไม่จริง? จะว่าไป เจ้าบอกว่าเจ้าฝันเห็นอนาคตได้ นี่มันก็ดูเหลวไหลเกินไปนะ ข้าควรจะเชื่อเรื่องนี้ด้วยไหม?""เรื่องจริงนะ เพราะข้าฝันเห็นแบบนั้น ตอนเด็กๆ ได้พบกับเจ้าอารามยอดเขาโยวชิง เขาบอกว่า ข้าเป็นตัวเลือกที่เหมาะจะเป็นพระชายาของท่านมาก! แล้วยังชี้แนะข้า ให้ข้าเติบโตอย่างดีในสุสานจักรพรรดิ ถ้ายังไม่ถึงเวลาสำคัญอย่าเพิ่งกลับเมืองหลวง"เซียวหลันยวนก็เชื่อคำพูดของนางอยู่ เจ้าอารามยอดเขาโยวชิงอาจจะพูดเหล่านี้กับนางก็ได้ยิ่งไปกว่านั้น ท่านหูที่คุยถ่ายทอดคำพูดเจ้าอารามมาตลอดก็พูดอะไรทำนองนี้แต่เขาไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องไปผูกอยู่บนตัวหญิงสาวคนหนึ่งเลยบางทีอาจจะได้ แต่คนคนนั้นก็อาจจะไม่ใช่คนที่เขากำหนด อย่างจาวหนิง
นางอยากจะให้เซียวหลันยวนไม่พอใจตัวฟู่จาวหนิงเสียเหลือเกินแต่พอสิ้นเสียงนาง เซียวหลันยวนก็หันมามองนาง แม้จะสวมหน้ากากอยู่ แต่เฉินเซียงจู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่านางถูกสายตาที่เย็นเยียบแหลมคนฆ่าตายไปแล้วนางใจสั่นวาบ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดเมื่อครู่ที่พูดไป แต่ก็สายไปแล้วนางได้ยินคำพูดเย็นชาของเซียวหลันยวนว่า"องค์หญิงใหญ่ถ้าหากมีเรื่องจะคุยกับข้า ก็ให้ทาสของเจ้าไปคุกเข่าอยู่ตรงนั้นก่อน"เซียวหลันยวนชี้ไปที่กลางสวนคุกเข่าที่นั่น คนป่วยทั้งหมดในห้องข้างฝั่งตะวันตกจะมองเห็นเฉินเซียงถลึงตาโตใส่อย่างไม่อยากเชื่อ"อ๋องเจวี้ยน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกตะลึงไป "เฉินเซียงก็แค่ปกป้องข้ามากเกินไปเท่านั้น นางไม่ได้มีความคิดไม่ดี...""ให้นางคุกเข่า ข้าถึงจะฟังเจ้าพูด ถ้านางไม่ทำ ข้าก็จะไปแล้ว" เซียวหลันยวนตัดบทนางเฉินเซียงบอกว่าฟู่จาวหนิงแอบมีชู้กับอันเหนียน เขาจดจำมาโดยตลอด"อ๋องเจวี้ยน เฉินเซียงนางเองก็ป่วย ถ้าไปตากลมหนาวบนพื้น นางจะ...""เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"เซียวหลันยวนพูดจบก็หมุนตัวกลับทันทีเฉินเซียงลนลานขึ้นมา "อ๋องเจวี้ยน ข้าจะไปคุกเข่าเดี๋ยวนี้! ท่านโปรดรอก่อน!""เฉินเ
สิ่งที่ทำให้ตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นขุ่นเคืองคือ ฟู่จาวหนิงคล้องแขนอ๋องเจวี้ยนเดินเข้ามา"พวกเขาทำไมถึงคล้องแขนกันเดินแบบนั้นล่ะ?"เฉินเซียงถลึงตาโตนางไม่เคยเห็นสามีภรรยาเดินกันแบบนี้เลย ปกติแล้ว ภรรยาจะเดินอยู่ด้านหลังสามีประมาณครึ่งก้าวนี่ หรืออย่างมากก็ไหล่ชนไหล่แต่พออยู่ภายนอกก็ต้องคอยระวังเรื่องมารยาท มีใครเขามาคล้องแขนเดินกันแบบนี้บ้าง?ยิ่งไปกว่านั้นตัวฟู่จาวหนิงเองก็ยังเอนมาเบียดแขนอ๋องเจวี้ยนด้วย"นางเดินแบบนี้มันดูสง่างามตรงไหน บิดๆ เบียดๆ เงอะงะงุ่มง่ามเหมือนอะไรล่ะนั่น?" เฉินเซียงกดเสียงต่ำ พูดแบบไม่พอใจกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น "นี่มันดูเป็นพระชายาตรงไหนกัน?"เหมือนพวกอนุภรรยาที่เอาแต่เบียดเสียดชายหนุ่มมากกว่าพระชายาตัวจริงต้องมีท่าทีสง่างาม มีคุณธรรม บุคลิกภาพโดดเด่นสิทำตัวออดอ้อนแบบนี้ มันเหมือนกับปีศาจสาวที่อยากจะสูบพลังหยางจากชายหนุ่มจนตัวสั่นอย่างไรอย่างนั้น เหมือนพวกอนุภรรยาที่ไร้เกียรติเฉินเซียงถึงอย่างไรก็ไม่ชินตาแต่ไม่รู้เพราะอะไร องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับรู้สึกอิจฉาจนควบคุมไม่อยู่ชายหนุ่มที่เย็นชาขนาดนั้นแบบอ๋องเจวี้ยน ก็ยังตามใจให้ฟู่จาวหนิง แล้วยังปร
"ข้ารู้แล้ว อีกเดี๋ยวข้าจะออกไป" เซียวหลันยวนพยักหน้าฟู่จิ้นเชินเงียบไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า "นางน่าจะมีเรื่องมาขอร้องท่าน แต่ว่า เรื่องที่นางจะขอร้องข้าเองก็พอจะนึกออก"เขาอยากบอกว่า เรื่องแบบนี้ ถ้าหากรับปากไป ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์สามีภรรยากับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหรือไม่ แต่การที่พานางเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ถือเป็นการทรยศและทำร้ายจาวหนิงแต่ก็ไม่อยากพูดออกมาตอนนี้เขาอยากจะเห็นว่าเซียวหลันยวนจะเลือกอย่างไร ที่สำคัญที่สุดคือ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเงื่อนไขที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นงัดออกมาได้คืออะไร ถ้าเผื่อมันสำคัญอย่างมากกับเซียวหลันยวนจริงๆ ล่ะ?"ท่านพ่อตาอยากพูดอะไรหรือ?" เซียวหลันยวนย้อนถามเขา"อ๋า?"ฟู่จิ้นเชินถูกคำเรียก 'ท่านพ่อตา' ที่มาอย่างกะทันหันนี้ทำเอางงงันไปหมด ตั้งตัวกลับมาไม่ได้ชั่วขณะหนึ่งเซียวหลันยวนก็พูดต่อมาอีก "วางใจเถิด ข้าไม่ทำเรื่องที่ผิดกับหนิงหนิงแน่นอน"พูดจบเขาก็หมุนตัวเตรียมเข้าห้อง ""หากไม่มีเรื่องอะไร คนป่วยทางนั้นรบกวนท่านดูไว้หน่อย ให้หนิงหนิงได้กินข้าวเช้าก่อนพอเซียวหลันยวนเข้าห้องไป ประตูก็ปิดลงมา ฟู่จิ้นเชินมองไปทางชิงอีที่อยู่ข้างๆ ช้าๆชิงอีเองก็
องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกคนเหล่านี้พูดจนตาแทบแดงก่ำนางไม่ยอมให้เป็นแบบนี้!นางเองก็มีเกียรตินะ นางเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ เดิมทีควรจะล้ำค่าสูงส่ง สามารถเลือกราชบุตรเขยดีดีได้แต่ตอนนี้นางมีทางเลือกอะไรล่ะ?ถ้าไม่ใช่เพราะนางมีพระเชษฐาแบบนั้น นางคงไม่ต้องทำให้มาถึงจุดนี้หรอกนางแค่อยากจะช่วยตนเองเท่านั้น แล้วมันผิดตรงไหน? ถ้าหากทำได้ นางก็ไม่อยากไปทำร้ายใครทั้งนั้น นางเป็นคนที่มดแค่ตัวเดียวก็ยังทำใจเหยียบไม่ลงด้วยซ้ำ"รบกวนท่านลุงฟู่ด้วย ข้ามีเรื่องสำคัญจริงๆ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง ถอยไปที่ประตูวงกลมทางนั้นเฉินเซียงถลึงตาใส่ห้องนั้น คารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง "รบกวนท่านลุงฟู่ช่วยเหลือด้วย องค์หญิงใหญ่พวกรเาจะไปรออ๋องเจวี้ยนที่นั่น"พูดจบนางก็รีบเดินไปหาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นฟู่จิ้นเชินส่ายหัวเขาก็เหมือนรู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกอยู่ในสภาพไหน มาเจอกับฝ่าบาทต้าชื่อแบบนั้น นางเองอันที่จริงก็น่าสงสารแต่ว่า ท้ายสุดแล้วนางก็ยังไม่ฉลาดพอ เส้นทางที่เดินได้ นางกลับเดินอย่างสะเปะสะปะแต่พูดมาก็ถูก นางเติบโตมาที่สุสานจักรพรรดิ ไม่ค่อยได้พบเจอกับผู้คนสักเท่าไร และย
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ