"หลานหรงน่าจะส่งคนไปคุ้มครองพระชายาที่ประตูเมืองแล้วกระมัง? คิดว่าพระชายาเองก็น่าจะมาถึงเมืองหลวงจักรพรรดิแล้ว ไม่แน่อีกเดี๋ยวคงได้เจอกับพระชา"ชิงอีรู้สึกว่าท่านอ๋องจะต้องคิดถึงพระชายามากแน่ ถึงอย่างไรก็แยกกันไปตั้งนานนี่นา"อืม"แต่เสียงของเซียวหลันยวนดูไม่มีเรี่ยวแรงเอาเลย ตอบกลับอย่างกลัดกลุ้มพวกเขามาถึงเรือนเล็กเรือนนั้นแล้ว พอเข้าประตู เซียวหลันยวนก็ลงจากรถม้า เงยหน้ามองไปข้างหน้าทันทีหลานหรงขึ้นหน้ามา "ท่านอ๋องเหน็ดเหนื่อยเสียแล้ว"เซียวหลันยวนไม่ตอบ สายตาหมุนไปหมุนมา กวาดมองเรือนหลังนี้ ยังไม่มีใครอยู่ฟู่จาวหนิงล่ะ?หลานหรงมาถึงต้าชื่อก่อน หรือว่ายังไม่ได้ไปรับฟู่จาวหนิงเข้ามา?"ท่านอ๋อง?"หลานหรงไม่ค่อยเข้าใจว่าเขากำลังหาอะไร"พระชายาล่ะ?" ชิงอีถามขึ้นทันที ท่านอ๋องจะต้องหาพระชายาอยู่แน่"พระชายาน่าจะเข้าเมืองหลวงจักรพรรดิวันนี้ ข้าน้อยส่งคนไปรอที่ประตูเมืองแล้วขอรับ"พอสิ้นเสียงของหลานหรง ก็มีคนรีบเดินเข้ามา"ท่านอ๋อง ไม่พบตัวพระชายา แต่พอหาข่าวดูจึงรู้ว่า พระชายาตอนที่เข้าเมืองก่อนหน้า ถูกคนของคุณชายซือถูรับตัวไปแล้ว"กร๊อบเซียวหลันยวนบีบมือ โครงประตูที่เ
"ไม่ใช่ว่านายท่านหลิวหาข้าหรอกหรือ?"นายท่านหลิวหลิวเฉิง ไป๋หู่เองก็พยักหน้าให้นางว่ารู้จักแต่นายท่านหลิวจะพบนาง จะมาเจอในเรือนที่เป็นส่วนตัวและเงียบสงบแบบนี้หรือ?"จาวหนิง"เสียงหนึ่งดังขึ้น มีคนออกมาจากด้านในฟู่จาวหนิงแหงนตามองซือถูไป๋ที่สง่างามดุจไม้หยกอวี้หลานค่อยๆ ย่างเดินออกมา รู้สึกจำใจขึ้นมาทันที"คุณชายซือถู"ทำไมถึงเป็นซือถูไป๋อีกแล้ว?นางยังคิดว่าผ่านเรื่องครั้งที่แล้วไป ซือถูไป๋ก็ไม่น่าจะยินดีมาเจอนางแล้วเสียอีกถึงอย่างไรชิ่งอวิ๋นเซียวแม้จะไม่ใช่คนที่นางต้องดูแล แต่นางเองก็ไ่ได้ห้ามพฤติกรรมของชิ่งอวิ๋นเซียว กระทั่งยังแสดงความขอบคุณต่อชิ่งอวิ๋นเซียวด้วย นั่นก็เท่ากับเป็นการยอมรับกลายๆ ว่าการกระทำของเขานางพอใจที่จะเห็นแล้วสาดน้ำชาใส่หน้าอาเพียน ก็เกือบจะเท่ากับตบฉาดเข้าที่หน้าซือถูไป๋แล้ว"ท่านอย่าเพิ่งโกรธ" ซือถูไป๋รู้สึกขอโทษ ดูจริงจังอย่างมาก "ข้ารู้ว่าวันนี้คนเข้าแถวที่ประตูเมืองเยอะมาก เข้าแถวจนท่านเหน็ดเหนื่อยเลยทีเดียว ยิ่งไปกว่านั้นถ้าไม่ทัน รอจนประตูเมืองปิด คืนนี้ต้องไปพักอยู่ด้านนอกอีก"เขาพูดขนาดนี้แล้ว ฟู่จาวหนิงยังพูดอะไรได้อีก"เช่นนั้นก็ขอบคุณ
"ขอรับ"ไป๋หู่ก็เตรียมออกไปทันทีเรื่องนี้เขายังต้องรีบแจ้งนายท่านอีก นายท่านจะต้องยังไม่รู้แน่ ไม้นี้ขององค์จักรพรรดิมาแบบกะทันหัน ใครก็คาดไม่ถึงองค์จักรพรรดิจะต้องจงใจแน่ เพื่อทำให้พวกเขาตั้งตัวกันไม่ทันน่ารังเกียจเสียจริง"จาวหนิง" ซือถูไป๋รีบร้องเรียกฟู่จาวหนิงทันที สีหน้าเขาดูเจ็บปวด ด้วยใบหน้างามราวหยกนี้ ทำให้คนสงสารได้ง่ายๆ"ตอนนี้ที่หาได้ก็มีแต่โรงเตี๊ยมที่ไม่สะอาดหรือน่าอึดอัดทั้งนั้น คนตั้งมากมายเบียดอัดอยู่ด้วยกัน เตียงผ้าห่มเองก้ไม่สะอาด"ไป๋หู่ได้ยินคำพูดเขา ก็ชะงักนิ่งไปพวกเขาก็ไม่อยากให้คุณหนูฟู่ต้องไปพักในโรงเตี๊ยมที่แย่ขนาดนั้น แบบนั้นมันน่าอดสูเกินไปยิ่งไปกว่านั้นด้วยหน้าตาแบบคุณหนูจาวหนิง ต้องไปอยู่ในสถานที่ที่คนมากมายแบบนั้น มันจะเกิดเรื่องได้ง่ายเอานะ"เรือนนี้ข้าเหลือไว้ให้ท่าน ข้าจะไปพักอยู่กับนายท่านหลิวทางนั้น ดังนั้นท่านก็วางใจได้เลย"ซือถูไป๋ดูจริงใจมาก กำชับแล้วกำชับอีก"ข้าหวังให้ท่านสามารถพักได้สบายและปลอดภัยหน่อยเท่านั้นจริงๆ เรือนรับรองแขกแห่งนี้ข้าก็ให้คนเก็บกวาดไว้อย่างดีแล้ว ผ้าห่มเป็นของใหม่ทั้งหมด เครื่องเรือนเองก็เช็ดทำความสะอาดหมด
เซียวหลันยวนมาแล้วหรือ!เขาเดินได้แล้ว?ต้าชื่อไกลขนาดนี้ องค์จักรพรรดิยอมให้เขาออกมาหรือ? ยิ่งไปกว่านั้นใบหน้าของเขาเดิมทีคิดมาตลอดว่าตอนที่ทั้งคู่แยกกันต่างฝ่ายต่างเย็นชาใส่กัน ฟู่จาวหนิงยังคิดเลย ว่าหลังจากนี้คงอีกนานมากๆ กว่าจะได้เจอเซียวหลันยวนนางกระทั่งรู้สึกว่า หลังจากนี้ระหว่างพวกเขาอาจจะเปลี่ยนเป็นคนไม่รู้จักกันก็ได้แต่คิดไม่ถึงเลยว่าตอนที่นางยังไม่ทันได้เตรียมใจ เขากลับมาที่ต้าชื่อนี้แล้ว!"เขาอยู่ที่ไหน?""ข้าน้อยจะพาพระชายาไป แต่เนื่องจากท่านอ๋องเข้ามาแบบปิดบังองค์จักรพรรดิ ดังนั้นจะเอิกเกริกมิได้""ได้"ตอนนี้เอง ฟู่จาวหนิงก็ไม่ลังเล หมุนตัวให้คนเตรียมออกไปทันทีนางใจเต้นตึกตักขึ้นมา และพบว่าตนเองนั้นคิดถึงเซียวหลันยวนอย่างมาก"คุณชายซือถู ขอบคุณท่านมาก แต่ว่าตอนนี้ข้ามีสถานที่พักแล้ว คงไม่ต้องรบกวนท่านอีก ขอตัว"ซือถูไป๋มองฟู่จาวหนิงออกไป มือค่อยๆ กำหมัดไม่สบอารมณ์จริงๆการใจเต้นครั้งแรกในชีวิตนี้ของเขาอาเพียนตอนนี้จึงเดินออกมาจากเงามืด มองเขาอย่างรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ"คุณชาย ครั้งนี้ข้าหลบเข้ามาแล้ว ไม่พูดอะไรเลยสักคำ แต่พระชายาอ๋องเจวี้ยนก็ยังจากไป
"อืม ได้"องครักษ์ที่ไปรายกลับเข้ามา คารวะแก่ฟู่จาวหนิง ดูลังเลหน่อยๆ แต่ก็พูดออกมา"พระชายา ท่านอ๋องบอกว่าปวดหัวนิดหน่อย ขอตัวพักผ่อน รอตอนอาหารค่ำแล้วจะออกมาอีกครั้ง ให้ท่านได้พักผ่อนเสียก่อน"ฟู่จาวหนิงพอได้ยินก็เหมือนถูกสาดน้ำเย็นใส่ ทำเอานางเปียกโชกตั้งแต่หัวจรดเท้า"อย่างนั้นหรือ? ปวดหัวสินะ?"นางมองชิงอี ชิงอีเล่นละครไม่เป็น พอเจอกับสายตาของนางก็ดูจะหลบหน่อยๆนางเองก็มองเข้าใจแล้วปวดหัวอะไรกัน หลอกกันทั้งเพขี้เกียจจะออกมารับนางมากกว่า หรือก็คือ ไปเจออะไรเข้าจนรู้สึกว่าต้องขีดเส้นกั้นกับนางแล้วกระมัง?หรืออาจจะไม่ซับซ้อนขนาดนั้น ก็แค่เพราะแยกกันไประยะหนึ่ง ความรู้สึกก็จืดจางลงไปแล้วหรือ?"เขาให้ข้าไปพักผ่อนก่อนใช่ไหม?""ขอรับ ขอรับ" องครักษ์ลนลานขึ้นมา รุ้สึกวา่กลิ่นอายของพระชายาดูเย็นวาบลงมาทันที ทำเอาพวกเขายังรู้สึกเสียวสันหลังวาบท่านอ๋องเล่นอะไรอีกล่ะเนี่ย?"เช่นนั้นก็รบกวนด้วย นำทางเถิด"ฟู่จาวหนิงบอกกับสืออี "พวกเจ้าไปจัดแจงให้กับไป๋หู่ด้วย เสี่ยวชิ่นไปกับข้า""ขอรับ"ห้องที่จัดให้ฟู่จาวหนิงนั้นเงียบและดูสง่างามมาก มองออกว่าทำความสะอาดอย่างละเอียด ไม่มีฝุ่
"ตอนนั้นคุณชายซือถูกำลังพูดกับพระชายาอยู่ในเรือน คุณชายซือถูพบตัวข้าน้อย หลังจากข้าน้อยปรากฏตัวเขาก็เข้าขวางพระชายาไว้ข้างหลังทันที"เซียวหลันยวนพอได้ยินตรงนี้ ก็รุ้สึกใจดิ่งขึ้นมาอีกทีดังนั้น พวกเขาเข้ากันได้ดีอยู่หรือ?"เพราะเรื่องที่ท่านอ๋องมายังเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อจะเอิกเกริกไม่ได้ ดังนั้นข้าน้อยจึงเชิญให้พระชายาเข้ามาพุดคุยด้วย บอกว่าท่านอ๋องมาที่นี่แล้ว พระชายาก็ตามข้าน้อยออกมาทันที"เขาพยายามบรรยายเรื่องให้เรียบง่ายที่สุดแล้วก็น่าจะประมาณนี้"เรียกสืออีกับสือซานเข้ามา" เซียวหลันยวนหลังจากได้ยินก็รู้สึกว่าเหมือนแช่อยู่ในไหน้ำส้มความรู้สึกนี้รุนแรงเป็นพิเศษ เขาก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดรุนแรงขนาดนี้มาก่อน"คารวะท่านอ๋อง"สืออีกับสือซานเหมือนรู้ว่าเซียวหลันยวนจะถามอะไรพวกเขา จึงเล่าเรื่องของพวกเขาที่เกิดขึ้นในต้าชื่อออกมาจนหมด"พระชายารักษาไท่ไท่อาวุโสตระกูลเสิ่น ตอนนี้ก็รักษาขาของท่านผู้เฒ่าเสิ่นด้วย ผู้อาวุโสทั้งสองชอบนางมาก""พระชายาไม่ได้ปิดบังเรื่องที่ตนเองแต่งงานแล้วในบ้านตระกูลเสิ่นเลย บอกกับคนในบ้านตระกูลเสิ่นตลอดว่าตนเองแต่งงานแล้ว แต่ไม่รู้ทำไม คนบ้
"บังอาจนัก!"ชิงอีโมโหขึ้นมานี่มาแตะต้องเกล็ดย้อนของพวกเขาเข้าเสียแล้วระหว่างทาง พวกเขาได้ยินว่าข่าวลือที่ท่านอ๋องหน้าเหมือนผีร้ายติดปีกบินทะยานไปแล้ว กำลังแผ่เป็นวงกว้างด้วยความเร็วสูงถ้าจะบอกว่าไม่ใช่ฝีมือขององค์จักรพรรดิพวกเขาก็ไม่มีทางเชื่อแน่นอนแต่ท่านอ๋องตอนที่ได้ยินการวิพากษ์วิจารณ์นั่นจิตใจก็กดดันอยู่มากแล้ว คิดไม่ถึงเลย ว่าในเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อ สาวใช้จะถูกใบหน้ของท่านอ๋องพวกเขาทำให้ตกใจจนพับไปกับพื้น!สภาพนางเช่นนี้สำหรับท่านอ๋องแล้วถือเป็นการสร้างผลกระทบมหาศาลครั้งหนึ่งแน่นอนชิงอีชักกระบี่ยาวออกมาทันที พาดไว้บนคอของเสี่ยวชิ่นมันน่านัก มันน่านักจริงๆ! ทำไมต้องมาทำร้ายจิตใจท่านอ๋องของพวกเขาเช่นนี้ด้วย?เสี่ยวชิ่นตกใจจนหน้าขาวซีด เหงื่อไหลอาบนางหมอบอยู้บนพื้นสั่นไปทั้งตัวแต่สถานเช่นนี้จากที่เซียวหลันยวนเห็น ก็เป็นเพราะหวาดกลัวเขานั่นล่ะ ถูกเขาทำให้ตกใจเข้าเสียแล้วเขาน่ากลัวถึงระดับนี้แล้วหรือ?"ข้าน้อย ข้าน้อยมิกล้าแล้ว ข้าน้อยไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น" เสียงของเสี่ยวชิ่นสั่นระริก ร้องห่มร้องไห้ออกมาแล้วนางจู่ๆ ก็เข้าใจขึ้นมา เพราะอะไรคุณหนูจาวหนิงแต่งงาน
ฟู่จาวหนิงเหนื่อยแล้วจริงๆ เดิมทีก็แค่อยากจะหลับตาสงบลงสักครู่ แต่นี่กลับหลับไปเลยจริงๆจนตอนที่นางสะดุ้งตื่น ลุกขึ้นนั่ง ก็พบว่าบนโต๊ะไม่มีน้ำชา เสี่ยวชิ่นเองก็ไม่อยู่เกิดอะไรขึ้น เสี่ยวชิ่นไม่ใช่บอกว่าไปหาน้ำมาต้มชาหรอกหรือ? นางน่าจะหลับไปประมาณหนึ่งชั่วก้านธูปแล้ว แต่เสี่ยวชิ่นกลับยังไม่มกลับมาอีก"คุณหนูจาวหนิง"ด้านนอกมีเสียงไป๋หู่ดังขึ้น"ไป๋หู่หรือ? เข้ามา"นางไม่ได้ให้สืออีกับสือซานจัดการให้กับไป๋หู่แล้วหรอกหรือ?เรือนนี้ในเมื่อหลานหรงเป็นคนจัดหา เช่นนั้นก็เท่ากับเป็นพื้นที่ของพวกสืออีด้วย พวกเขาเป็นเจ้าบ้าน ต้องต้อนรับไป๋หู่ที่มาจากตระกูลเสิ่นให้ดีเหมือนกับตอนที่สืออีกับสือซานไปที่บ้านตระกูลเสิ่น ไป๋หูเองก็จัดแจงให้พวกเขา"คุณหนู ข้างกายท่านไม่มีสาวใช้แล้วเกรงว่าจะไม่สะดวก ที่นี่เป็นเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อ แตกต่างกับตอนที่พวกเราเร่งเดินทางด้านนอกนั้น"หลายครั้ง ต่อให้ไม่ใช่สาวใช้ แต่ถ้าข้างกายมีหญิงสาวคอยช่วยเหลือก็ถือว่าสะดวกอยู่อย่างเช่นกันแต่งหน้า เขารู้ว่าฟู่จาวหนิงรู้จักแค่การรวบผมง่ายๆ พวกทรงผมซับซ้อนเหล่านั้นของหญิงสาวนางทำไม่เป็นหรอกแล้วถ้าถึงช่วงเทศก
ถ้าประตูวังปิดแล้ว คืนนี้น่าจะยังไม่ได้พบองค์จักรพรรดิเช่นนั้นพรุ่งนี้ช่วงประชุมเช้าก็น่าจะได้พบ ห่างจากตอนนี้ไม่ถึงสามชั่วยามเซียวหลันยวนไม่พูดอะไรอีกหลังจากเขาได้ข่าวไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องส่งคนไปคุ้มครองนอกวังแน่ เก๋อมู่กวงคืนนี้เข้าวังไม่ได้ ไม่ได้พบองค์จักรพรรดิ ดังนั้นจะต้องรอจนถึงประชุมเช้าแน่นอนช่วงหลายชั่วยามนี้เพียงพอแล้วพวกเขาได้ยินเสียงของฟู่จิ้นเชินแล้วฟู่จิ้นเชินกำลังพูดภาษาเฮ่อเหลียนอยู่"พี่เขย ท่านพ่อกำลังพูดว่า..." ฟู่จาวเฟยคิดจะแปลให้เซียวหลันยวนก่อนอย่างฉลาดเฉลียวรู้ความ แต่คิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนจะโบกไม้โบกมือ"ข้าฟังออกน่ะ""อ๋า?"ฟู่จาวเฟยตกตะลึง"ลืมบอกไป ว่าข้าเป็นภาษาเฮ่อเหลียน" เซียวหลันยวนน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กจ้อยที่ธรรมดามากๆ เรื่องหนึ่งหัวหน้าคุกเองก็เหลือบมองเขาอย่างตกตะลึง"ถ้าข้าน้อยจำไม่ผิดล่ะก็ ท่านอ๋องยังพูดภาษาหนานฉือได้ด้วย?""ใช่"หัวหน้าคุกกับฟู่จาวเฟยสบตากันผาดหนึ่ง ทั้งสองคนล้วนเห็นความตกตลึงในดวงตาของอีกฝ่ายอ๋องเจวี้ยนทำไมถึงพูดได้หลายภาษานัก?เขาไม่ใช่ว่าพักฟื้นอยู่ในยอดเขาโยวชิงตลอดหรือไรกัน? คนทั้ง
เซียวหลันยวนรู้สึกนับถือฟู่จิ้นเชินจริงๆเขาเองก็ไม่ได้มีตัวตนฐานะพิเศษอะไร แต่กลับใช้ความสามารถตนเองเข้าไปในคุกใหญ่ได้ เข้าคุกใหญ่ไปยังพอทำเนา แต่นี่ยังได้พบกับโป๋จีด้วยนี่ร้ายกาจมากจริงๆ"พวกเจ้าให้เขาเข้าไปแบบนี้เลยหรือ?" เซียวหลันยวนรู้สึกแปลกใจจริงๆ"เรื่องนี้ เพราะโป๋จีพูดภาษาเราได้แค่นิดหน่อย คุณชายฟู่เขาพูดภาษาเฮ่อเหลียนได้"หัวหน้าคุกกังวลนิดหน่อย เขาเองก็ไม่รู้ว่าอ๋องเจวี้ยนยกโทษให้กับสามีภรรยาตระกูลฟู่แล้วหรือยังคนไม่น้อยในเมืองหลวงก็ยังมองความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาไม่ออกถ้าหากอ๋องเจวี้ยนโกรธ แล้วหันมาระบายบนตัวเขาจะทำอย่างไรกัน"ท่านอ๋อง ท่านเองก็จะเข้าไปพบโป๋จีคนนั้นหรือ?" เขาถามขึ้นอย่างระมัดระวังอ๋องเจวี้ยนออกมาได้อีกครั้ง แสดงว่าไม่ได้ติดโรคระบาดนั้นมาพวกผู้คุมในคุกใหญ่หลายวันนี้ยังไม่ได้ดื่มยาน้ำของพระชายาอ๋องเจวี้ยน ทุกคนกินอาหารกันวันละสามมื้อ แต่ก็ยังไม่มีใครติดโรคชนิดนั้นเลยดังนั้นพวกเขาเชื่อมั่นในยาขอพระชายาอ๋องเจวี้ยน แน่นอนว่าเชื่อมั่นว่าอ๋องเจวี้ยนไม่ได้เป็นโรคระบาดด้วย"ข้าเข้าไปไม่ได้หรือ?""ไม่ใช่เช่นนั้น ไม่ใช่แน่นอน ท่านอ๋องเข้าไปได้" หัว
เซียวหลันยวนมองเสิ่นเชี่ยวผาดหนึ่ง"ก็แค่ไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมาเท่านั้น"มีแผนอะไรเสียที่ไหน?เรื่องเช่นนี้ ต่อให้พวกเขาลงมือตรวจสอบชัดเจน ก็ไม่ใช่อะไรที่จำทำเสร็จในชั่วครู่องค์จักรพรรดิจะต้องหยิบยืมเรื่องนี้แน่นอนใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าทางนี้คงทานได้อีกไม่นานแล้ว อีกเดี๋ยวก็จะมีคนมาพาฟู่จาวเฟยไปคุกใหญ่ฟู่จาวหนิงกลับเข้าใจความหมายของเซียวหลันยวนขึ้นมา"พวกเราตอนนี้ส่งไปเอง ยังพอจะเลือกห้องขังได้อยู่""ข้าฟังพวกเจ้านั่นล่ะ" เสิ่นเชี่ยวเอ่ยขึ้นทันทีนางต้องเรียนรู้ที่จะเชื่อลูกสาว ไม่ต้องถามให้ชัดเจนนัก ลูกสาวจะต้องไม่ทำร้ายน้องชายแน่ๆ แค่ฟังนางไว้ก็พอเรื่องในเมืองหลวง พวกเขาจะต้องเข้าใจชัดเจนกว่านางแน่นอน"เรื่องนั้นไม่ควรชักช้าไปกันตอนนี้เลย" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นหมุนตัวออกไปก่อนฟู่จาวหนิงกวักมือให้เสี่ยวเฟย "ไปกัน"ฟู่จาวเฟยเองก็เดิมตามนางไปอย่างเชื่อมั่นทันทีเสิ่นเชี่ยวเดินมาถึงด้านหลัง คารวะให้กับใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้า "ขอบคุณใต้เท้าที่ดูแล""เกรงใจเกินไปแล้ว..."ใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าตอบกลับด้วยสัญชาตญาณ จากนั้นก็รู้สึกว่าตนเองในตอนนี้ก็เหมือนจะเกรงใจมากเกินไปเขายังกลายเป
ท่านพี่ในที่สุดก็กลับมาแล้ว ใจของเขาสงบลงมาได้ไม่น้อยเลย"จาวหนิง นี่มาจากในภูเขาหรือ? เหนื่อยแย่เลยสิ?" เสิ่นเชี่ยวยกถ้วยชาบนโต๊ะขึ้นทันที "เจ้าดื่มชาร้อนนี่ก่อนเถอะ เพิ่งต้มใหม่เลย ยังไม่ได้ดื่ม"นางเห็นฟู่จาวหนิงมีรอยคล้ำใต้ตาจางๆ ในภูเขาคงต้องเหนื่อยมากแน่ๆ และคงไม่ได้พักผ่อนดีนักแต่พอยกถ้วยชาขึ้นมา เสิ่นเชี่ยวก็ยังรู้สึกกระวนกระวายอยู่บ้าง ไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงจะรับน้ำใจของนางไหมฟู่จาวหนิงรับมา ดื่มไปอึกหนึ่ง ผ่อนคลายลงมาได้"เรื่องจดหมายนี่อย่างไรกัน? ก่อนหน้านี้มีอะไรผิดปกติบ้างไหม หรือมีคนมาหาเจ้าบ้างหรือเปล่า?"เสิ่นเชี่ยวถอนใจโล่ง ในใจก็ลิงโลดขึ้นมาแม้ว่าฟู่จาวหนิงตอนนี้อยู่กับพวกเขาจะไม่ค่อยคล้ายกับพ่อแม่ลูกเท่าไรนัก แต่นางเชื่อว่าในด้านความรู้สึกก็ยังพอเห็นได้บ้าง เดิมทีก็ยังมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกันอยู่ฟู่จาวเฟยส่ายหัว รีบร้อนรับประกันอย่างขันแข็งขึ้นมา "ท่านพี่ ไม่มีอะไรผิดปกติเลย ไม่มีคนมาหาข้าด้วย แล้วก็ไม่ได้รับจดหมายอะไรอีก ข้าเองก็ไม่ได้เขียนจดหมายไปด้านนอก""ช่วยนี้มีใครมาที่บ้านไหม?""ไม่มี มีแต่ท่านพ่อที่ออกไปบ่อยๆ ข้าอยู่ในแต่บ้านฝึกยุทธ์" ฟู่จาวเฟ
"อ๋องเจวี้ยนมาถึงแล้ว"ข้าราชการชั้นผู้น้อยคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามา รู้ว่าใต้เท้าร้อนรนมาก จึงรีบ เข้ามารายงาน"เร็ว"เขาทางนี้แทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว คุกใหญ่ทางนั้นถ้าถามออกมาได้ว่าจดหมายอยู่ที่ไหน ก็คงจะให้เขาเอาฟู่จาวเฟยส่งเข้าคุกใหญ่แน่แต่อ๋องเจวี้ยนก่อนหน้านี้กำชับว่า ก่อนหน้าที่เขาจะกลับมา ฟู่จาวเฟยต้องอยู่ที่นี่ก่อน ห้ามส่งไปคุกใหญ่เขาเองก็ทานไม่ไหวแล้ว เดิมทีฟู่จาวเฟยไม่ได้จะส่งมาที่เขาทางนี้ แต่เป็นจดหมายด่วนของอ๋องเจวี้ยนที่ให้เข้าเข้ามารับช่วงไว้ก่อนแต่เขาเองก็ร้อนรนด้วย เขาเองก็กลัวนี่ ถึงตอนนั้นถ้าค้นเจอจดหมายอะไรเข้า แล้วเกี่ยวข้องกับฟู่จาวเฟยจริง เขาก็จัดการลำบากแล้วถึงอย่างไรฟู่จาวเฟยก็อยู่กับเขาทางนี้ ไม่ได้ลงตรวน ไม่ได้ตี ไม่ได้ขังอีกต่างหาก ยังคงนั่งรออยู่ที่โถงข้างๆแล้วยังมีฮูหยินฟู่ด้วย นั่งอยู่กับลูกชายด้วยกันเขาทำเช่นนี้ ถ้าหากถูกองค์จักรพรรดิรู้เข้า องค์จักรพรรดิคงไม่ละเว้นเขาแน่พอเขาออกไป เสิ่นเชี่ยวกับฟู่จาวเฟยก็ลุกขึ้นยืนทันที ขณะเดียวกันก็มองมาทางเขา"ใต้เท้า?""คุณชายฟู่ไปที่ไหนแล้วกันแน่?"ใต้เท้าหยินจิงเจ้ามองพวกเขา และคิดถึงเรื่องที่เมื่อคร
"องค์จักรพรรดิทนแ่รงกดดันของกลุ่มขุนนางไม่ไหว วันนี้ในที่สุดก็กลับมาประชุมเช้าแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ยังส่งคนไปที่จวนอ๋องเจวี้ยน ต้องการจะเห็นข้าให้ได้ ข้าก็เลยโผล่หน้าออกมาเสียหน่อย" เซียวหลันยวนเอ่ยอย่างใจเย็น"สวมหน้ากากไว้หรือ?"เซียวหลันยวนยิ้มๆ ตัวเองเหมือนจะสนุกขึ้นมาหน่อยแล้วเขาส่ายหัว "ไม่ใช่ จำใบหน้าที่เจ้าทำขึ้นก่อนหน้านั้นได้ไหม?""ท่านหมายถึง ที่หนังหน้าแผลเป็นที่เอามาใช้ค้นคว้าการกำจัดแผลเป็นนั่นน่ะนะ?" ฟู่จาวหนิงประหลาดใจ"ใช่ ข้าแปะเจ้านั่นออกไปพบคน""พรวด"ฟู่จาวหนิงยอมเขาจริงๆ เพราะหน้ากากหนังหน้านั้น คือสิ่งที่นางทำขึ้นมาตอนค้นคว้าการรักษา เป็นหลุมเป็นบ่อขรุขระ มีแผลเป็นปลอมบางส่วนที่นางใช้วัสดุทำปลอมขึ้นมา แปะไปบนหน้าหน้าจะดูไม่ค่อยสนิทนัก แล้วยังดูบวมออกมาอีกชั้นหนึ่งด้วยแล้วก็หนังหน้านั้นพอแปะบนหน้า ก็เหมือนว่าทั้งใบหน้านั่นน่าเวทนาจนทนดูไม่ได้เลยทีเดียว ดูจะคล้ายๆ กับตอนที่เซียวหลันยวนยังรักษาไม่หายก่อนหน้านี้ ถึงอย่างไรก็น่าตกใจและน่ากลัวอยู่"คนในวังคงมองไม่ออกว่าเป็นของปลอมหรอกนะ?" ฟู่จาวหนิงประหลาดใจหน่อยๆ หน้ากากนั่นทำมาไม่สมจริงนัก มองหลายๆ ครั้งหน่
เซียวหลันยวนปลดหน้ากากลง"มีคนส่งจดหมายด่วนเข้ามา บอกว่าจับตัวโป๋จีแม่ทัพบู๊ที่ราชาเฮ่อเหลียนไว้วางใจที่สุดได้ บนตัวโป๋จีมีจดหมายลับที่จะส่งให้เสี่ยวเฟยอยู่ คนในที่ว่าการส่งคนไปยังจวนตระกูลฟู่ พาตัวเสี่ยวเฟยไปแล้ว"เซียวหลันยวนเดิมทียังคิดจะรีบบอกนางเรื่องนี้ เพียงแต่ไม่อยากให้นางที่เหนื่อยล้าต้องตกใจเกินไปให้นางสบายขึ้นมาหน่อย แล้วค่อยเล่าเรื่องนี้ออกมาดีกว่าฟู่จาวหนิงลุกขึ้นนั่งตัวตรง"แล้วเสี่ยวเฟยตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?"ต้องเป็นเรื่องที่เร่งด่วนมากแน่ ก่อนหน้านี้เซียวหลันยวนถึงได้กลับไปจัดการเอง"อยูในจวนทางการ พ่อของเจ้าเองก็ตามไปแล้ว พาจงเจี้ยนไปด้วย ยังไม่ต้องร้อนใจ ข้าให้คนคอยเฝ้าจวนทางการไว้แล้ว ก่อนที่พวกเราจะกลับถึงจะไม่มีใครพาพวกเขาไปไหน"เขาลงมือจัดการเอง ไม่อย่างนั้นเสี่ยวเฟยคงเกิดเรื่องเข้า ฟู่จาวหนิงคงร้อนใจไม่ไหวแน่นอนพอได้ยินคำนี้ ใจของฟู่จาวหนิงจึงค่อยๆ นิ่งลงมา "โป๋จีเป็นคนสำคัญข้างกายราชาเฮ่อเหลียนหรือ? เป็นแม่ทัพบู๊? แล้ววรยุทธ์ดีไหม?"นางไม่เคยได้ยินเสี่ยวเฟยเอ่ยถึงเรื่องนี้แต่ว่าก็จริง เสี่ยวเฟยเองก็รู้สึกไม่ค่อยดีกับคนของราชาเฮ่อเหลียนอยู่หลายคน
อ๋องฉยงแอบกัดฟัน"ข้าอยู่ที่นี่รอฟ้าสางแล้วค่อยเข้าภูเขาก้ได้..." อ๋องฉยงยังคิดจะดิ้นรนเซียวหลันยวนจะยอมให้เขาดิ้นรนได้อย่างไร?"เช่นนั้นได้อย่างไร? ใครก็ได้ เก็บกระโจมเสีย"พอเขาสั่งคำสั่ง ก็มีองครักษ์ออกไปทันที เคลื่อนไหวจัดการเก็บกระโจมเหล่านั้นอย่างคล่องแคล่วว่องไว"เอาคบไฟให้อ๋องฉยงไปส่องทางด้วย""ขอรับ"กองไฟที่กำลังลุกไหม้อยู่ ถูกคนนำกิ่งไปจุดเพื่อทำเป็นคบไฟหลายๆ อัน ส่วนไฟที่เหลือก็ดับทิ้ง สาดโคลนลงไป เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น"กระโจมนี้ข้าให้คนกางมันขึ้น กองไฟเองข้าก็เป็นคนสั่งให้จุดขึ้นมา ตอนนี้ข้าจัดการเก็บกวาดไป คงไม่มีปัญหาใช่ไหม?"เซียวหลันยวนมองอ๋องฉยง น้ำเสียงสงบนิ่งมากจะไปมีปัญหาอะไรได้?เดิมทีหลังจากที่อ๋องฉยงมาเห็นกระโจมชั่วคราวก็อยากจะครองเป็นของตัวเอง แล้วมารอฟู่จาวหนิงที่นี่ใครจะคิดว่าเซียวหลันยวนจะวกกลับมากัน?ตอนนี้ถ้าเขาบอกว่าจะค้างคืนที่นี่พรุ่งนี้ค่อยขึ้นเขาก็คงไม่ได้แล้ว ถ้าไม่มีกระโจมแต่ยังคิดจะอยู่ค้างคืนที่นี่ ต่อให้ก่อไฟก็ยังหนาวตายได้เขาเองก็ไม่ได้มีกำลังภายในลึกล้ำคอยป้องกันตัวด้วย"อ๋องฉยงเมื่อครู่ไม่ใช่บอกว่าจะขึ้นเขาหรือ
อ๋องฉยงพอเห็นเซียวหลันยวนเข้ามา ใจก็ขรึมลงมาแล้ว ขณะเดียวกันก็ยังแอบเคืองกับองค์จักรพรรดิไม่ใช่บอกว่าจะขวางเซียวหลันยวนไว้หรือไรกัน? ไม่ใช่ว่ามีเรื่องที่จะขังเซียวหลันยวนไว้ได้สามวันหรือ?ทำไมยังไม่ทันถึงชั่วยาม เขาก็รีบกลับมาแล้วกัน?ไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย!เซียวหลันยวนหันตัวกลับมาอ๋องฉยงรู้สึกใจสั่นวาบกับหน้ากากของเขาเจ้าเด็กที่เหมือนจะตายแหล่มิตายแหล่ตอนนั้น ดันโตขึ้นมาได้อย่างยากลำบาก แล้วยังดีมีท่วงท่าทรงพลังเสียด้วย"หลันยวน เมื่อครู่เจ้าหมายความว่าอย่างไร?" อ๋องฉยงเสียงขรึม ตัดสินใจลงมือก่อน "นี่เจ้ายิงธนูใส่ข้ารึ!""เจ้าไม่รู้หรือว่าหมายความว่าอะไร?"เซียวหลันยวนเสียงเย็นเยียบ "แน่นอนว่าสั่งสอนเจ้าน่ะสิ""เจ้า! เจ้าบังอาจ! ถ้าข้าเป็นอะไรไป บาดเจ็บหรือว่าตายไป เจ้าก็ไม่ต้องมีชีวิตอยู่แล้ว!""จะลองดูไหมล่ะ?" น้ำเสียงเซียวหลันยวนขรึมเย็นชา"ลองอะไร?""ลองว่าถ้าข้าสังหารเจ้าแล้ว จะยังมีชีวิตต่อไปได้ไหม"พอพูดจบ จิตสังหารบนตัวเขาก็พุ่งเข้ามาอย่างแรงกล้า แม้จะไม่มีลม ไม่มีการขยับ แต่อ๋องฉยงกับองครักษ์ข้างกายเขาก็ยังถอยออกไปก้าวหนึ่งพร้อมกันพวกเขาล้วนสัมผัสได้ถึงแรง