ไท่ไท่อาวุโสเสิ่นพอได้ยินเรื่องที่เสิ่นเสวียนพูดถึง ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมา"เอ๋? นั่นก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้นะ จาวหนิงโดดเด่นเสียขนาดนี้ แม้ว่าข้าจะอยากให้นางกลายเป็นคนของตระกูลเสิ่นก็ตาม แต่ถ้ามีคนที่ดีกว่าตระกูลเสิ่นพวกเรา เหมาะกับฟู่จาวหนิงมากกว่า แล้วเป็นคนที่นางชอบมากกว่า พวกเราก็จะเห็นแก่ตัวไม่ได้"ไท่ไท่อาวุโสมองไปทางฟู่จาวหนิง "จาวหนิง ถ้าอย่างนั้นเจ้าลองบอกมาหน่อยว่าเจ้าชอบแบบไหน?"ไม่รอให้ฟู่จาวหนิงตอบ นางก็รีบเอ่ยขึ้น "อย่าบอกว่าเป็นแบบอาเสวียนนะ เขาอายุมากแล้วไหม?"พรวดฟู่จาวหนิงทนไม่ไหว หัวเราะพรวดออกมา"ฮ่าๆๆ!" นางมองไปทางเสิ่นเสวียน หัวเราะไปด้วยพูดไปด้วย "ท่านลุง ทุกครั้งที่ข้าบอกว่าชอบท่านไม่ใช่ชอบแบบนั้น ไม่มีใครเชื่อเลยรึ!"คนตระกูลเสิ่นเหล่านี้ก็ไม่รู้ว่าเป็นอะไรกัน แต่ละคนคิดว่านางกับเสิ่นเสวียนมีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากันยิ่งไปกว่านั้นยังรู้สึกว่าเสิ่นเสวียนก็รู้สึกพิเศษกับนางด้วยฟู่จาวหนิงเองก็ไม่รู้ ว่าก่อนหน้านี้เสิ่นเสวียนไม่ให้ใครเข้ามาพักในสวนสี่ซินเลย ยิ่งไปกว่านั้นเขามีชื่อเสียงตั้งแต่อายุยังน้อย อันที่จริงก็มีความเย่อหยิ่งอยู่หลายปีมานี้ต่อให้ถูกอง
เสิ่นเสวียนไม่ใช่คนที่มีปัญหาเรื่องนิสัย บอกว่ามองเป็นลูกสาว เช่นนั้นก็คือไม่คิดอะไรเกิดเลยกับฟู่จาวหนิงแน่นอนถ้าหากบอกว่าเป็นลูกสาว เช่นนั้นก็ยังพอเข้าใจได้ถึงอย่างไรเสิ่นเสวียนก็อายุมากขนาดนี้แล้ว แล้วยังไม่ได้แต่งงาน การอยากจะยอมรับลูกสาวสักคนก็ไม่ได้ผิดอะไรไท่ไท่อาวุโสตอนนี้ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกขึ้นมาเสียแล้ว"อาเสวียน เจ้าบอกมาหน่อยว่าเกิดอะไรขึ้น นี่มันก็เรื่องดีนี่นา ทำไมไม่รีบพุดออกมากัน?""แล้วยังมีอีกเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับตัวตนฐานะของฟู่จาวหนิง" เสิ่นเสวียนรู้สึกว่าในเมื่อพูดแล้ว เช่นนั้นก็พูดให้เข้าใจขึ้นมาดีกว่า"ฟู่จาวหนิงแต่งงานแล้วจริงๆ สามีของนางคือเซียวหลันยวนอ๋องเจวี้ยนแห่งแคว้นเจา""อะไรนะ?"ท่านผู้เฒ่าเสิ่นร้องเสียงหลงออกมา"อ๋องเจวี้ยน ท่านพ่อ ท่านไม่ได้ฟังผิด นางเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนที่แคว้นเจา" เสิ่นเสวียนเอ่ยต่อ"เซียวหลันยวนข้ารู้จัก!" ท่านผู้เฒ่าเสิ่นหน้าเปลี่ยนสี "แต่เขาไม่ได้ว่าสุขภาพย่ำแย่จนต้องพักฟื้นอยู่แต่ที่ยอดเขาโยวชิงหรอกหรือ?"ฟู่จาวหนิงรู้สึกเกินคาดขึ้นมาเหมือนกัน"ท่านผู้เฒ่ารู้สถานการณ์ของเขาด้วยหรือ?""รู้สิ ตอนเขายังเล็กข้ายังเค
ไท่ไท่อาวุโสนึกออกแล้ว"ข้ารู้แล้ว ตอนนั้นหลังจากเจ้ากลับมาก็บอกกับข้าอยู่ บอกว่าเจ้าอารามบอกเจ้ามาคำหนึ่ง ตอนนั้นพวกเรายังนึกไม่ออกว่าว่าโอกาสรอดนี้จะเพิ่มขึ้นมาได้อย่างไร""ใช่ ข้าตอนนั้นเองก็ไม่เข้าใจ จึงถามเขา ว่าเพราะอะไรโอกาสรอดจึงยังต่ำ? เข้าจะทำให้โอกาสรอดสูงขึ้นได้อย่างไร? เจ้าอารามก็ยิ้มๆ ตอบมาคำหนึ่ง บอกว่าให้รอ รอให้โอกาสรอดมันเติบโตขึ้นมาเสียก่อน"หืม?เสิ่นเสวียนตอนนี้เองก็เหมือนฟังอะไรออกแล้ว เขามองไปทางฟู่จาวหนิง"ดังนั้นตอนนี้ท่านจึงคิดว่า โอกาสรอดที่ว่านี้หมายถึงคนหรือ?""ใช่" ท่านผู้เฒ่าพยักหน้า "ยิ่งไปกว่านั้นฟู่จาวหนิงถ้าคำนวณเรื่องอายุแล้ว ตอนนั้นนางก็น่าจะยังเล็กมากใช่ไหม?"ฟู่จาวหนิงกล้าพูดเสียที่ไหนว่าตนเองจะเป็นโอกาสรอดของบ้านตระกูลเสิ่น?"ข้าก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง""ไม่ธรรมดาเลย พิเศษและยอดเยี่ยมเอามากๆ เจ้าลองดูสิ เจ้าช่วยชีวิตอาเสวียนไว้ นี่เท่ากับช่วยตระกูลเสิ่นไว้แล้วนะ อาเสวียนเองถ้าไม่อยู่แล้ว เขาจะหาโอกาสไหนมาเชิญเจ้ามาตรวจภรรยาของข้า? แล้วถ้าพวกเราตายกันหมด ตระกูลเสิ่นก็แตกกระเจิงกันไปหมดแล้วไม่ใช่หรือ?"ท่านผู้เฒ่าเสิ่นยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่าก
"เจ้าพูดเองเลยแล้วกัน เซียวหลันยวนดีกับเจ้าไหม" เสิ่นเสวียนเอ่ยกับฟู่จาวหนิง"เขา..."ฟู่จาวหนิงอึกอักขึ้นมาดีไหมนะ?"เจ้าดูสิ ถ้าเขาดีกับเจ้าจริง ยังต้องมาคิดอีกหรือ? มันต้องตอบออกมาได้อย่างไม่ลังเลไม่ใช่หรือ?"ไท่ไท่อาวุโสดึงมือฟู่จาวหนิง ปวดใจจะแย่"จาวหนิงเอ๋ย ไม่ว่าเจ้าจะมีตัวตนฐานะอะไร ต่อให้เป็นท่านอ๋องจากแคว้นเจา ถ้าหากไม่ดีกับเจ้า พวกเราก็ไม่แปลกใจหรอก เจ้าจะแยกกับเขาตอนไหน พวกเราก็จะสนับสนุนเจ้า ตระกูลเสิ่นแม้ว่าตอนนี้จะดูแล้วไม่เท่าไร แต่การกินการอยู่สำหรับเจ้าไม่ต้องกังวล""ไท่ไท่อาวุโส ข้า...""ใช้ พวกเราสามารถเป็นที่พึ่งของเจ้าได้" ท่านผู้เฒ่าเองก็พูดขึ้นมา "ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ยอมรับอาเสวียนเป็นพ่อเลี้ยงเลยสิ พวกเราจะเปิดผังตระกูลให้เอง เขียนชื่อเจ้าไปบนผังตระกูลเสิ่น พวกเราก็สามารถเป็นปู่กับย่าเจ้าได้แล้ว เจ้าก็จะไม่ใช่คนโดดเดี่ยวอีก"เขาตอนนี้ในใจเชื่อว่า "โอกาสรอด" ที่เจ้าอารามพูดถึงคือฟู่จาวหนิงแต่ต่อให้นางไม่ใช่โอกาสรอด พวกเขาเองก็ชอบนาง อยากจะให้นางอยู่ในตระกูลเสิ่นอย่างจริงใจก่อนหน้านี้ยังบอกว่าจะแนะนำนางให้กับเด็กในบ้านอยู่เลย ตอนนี้พอคิดๆ มีอะไรจะดีไ
"หมอหวาง ไปดูด้วยกัน"เสิ่นเสวียนเรียกหมอหวางทันทีหมอถังเขาไม่ได้เจอมาระยะหนึ่งแล้ว ใครก็ไม่รู้ว่าตอนนี้หมอถังยังยืนอยู่ด้านความยุติธรรมไหมถึงอย่างไรลูกไม้ขององค์จักรพรรดิก็มีไม่น้อยมาตลอด"ท่านลุง ข้าเองก็จะไปด้วย" ฟู่จาวหนิงในห้องพอได้ยิน ก็รีบวิ่งออกมา"ก็ดี เอาผ้าคลุมให้คุณหนูด้วย" เสิ่นเสวียนรีบบอกกับเสี่ยวชิ่นเสี่ยวชิ่นรีบพุ่งไปหยิบผ้าคลุมมา และสะพายกล่องยาของฟู่จาวหนิงมาด้วยเสิ่นหยางมองฟู่จาวหนิงอย่างอยากรู้อยากเห็นเขาช่วงนี้ได้ยินชื่อฟู่จาวหนิงบ่อยมาก ได้ยินคนอื่นในตระกูลเสิ่นพูดเรื่องของนาง แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้พบดูดีกว่าที่พวกเขาพูดเสียอีกเสิ่นหย้าหน้าร้อนผ่าวเล็กน้อย เขารีบย้ายสายตาออกไปด้านนอก ไม่กล้าเข้าไปนั่งในรถม้าพร้อมพวกเขา"เจ้าชื่อเสิ่นหยางใช่ไหม?"ใครจะรู้ว่าฟู่จาวหนิงกลับเลิกม่านมาพูดกับเขาก่อน"เขาอายุพอพอกับเจ้า เรียกชื่อเลยก็ได้" เสิ่นเสวียนเอ่ยขึ้น"เช่นนั้นก็เรียกชื่อเลยนะ เสิ่นหยาง บอกข้าถึงแขกคนนั้นหน่อย อายุ รูปร่าง ตอนที่เข้าไปมีอะไรผิดปกติไหม ขั้นตอนระหว่างที่พูดทำอะไรอยู่ถึงได้เป็นลม ตอนเป็นลมลงไปกระแทกที่ไหนบ้างหรือเปล่า สิ้นสต
"ที่นี่ ห้องโถงทางนี้มีแคร่ตัวหนึ่ง พวกเราประคองเขาอย่างระวังไปบนแคร่แล้ว หลังจากนั้นก็ไม่กล้าแตะต้องเขาอีกเลย"ลุงตงพาคนเข้าไปฟู่จาวหนิงพาเสี่ยวชิ่นตามอยู่ด้านหลังหมอหวางสืออีสือซานก็ตามนางมา ดังนั้นจึงบังเขาได้บ้าง ไม่ใช่คนทั้งหมดจะมองเห็นนางตอนนี้ความสนใจของทุกคนล้วนอยู่บนตัวเสิ่นเสวียนแล้วก็แขกที่สลบไปแล้วคนนั้น"นี่คือท่านโม่ ท่านโม่ก่อนหน้านี้มาซื้อของในโถงป๋ออวี้สองครั้ง ถือว่าเป็นลูกค้าเก่าแล้ว สองครั้งก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีเรื่องไม่น่ายินดีอะไร"ลุงตงพาคนมาถึงข้างแคร่ตัวนั้น หมอหวางเข้าไปตรวจสอบร่างกายท่านโม่ก่อนฟู่จาวหนิงยืนอยู่ข้างๆ เขา สังเกตไปด้วยฟังลุงตงพูดไปด้วยเสิ่นเสวียนถาม "คนในครอบครัวเขาหรือผู้ติดตามล่ะ?"คนใช้รูปร่างกำยำสองคนลุกขึ้นยืน"พวกเราคือคนรับใช้ของท่านโม่ มีคนไปแจ้งกับฮูหยินของพวกเราแล้ว พวกเราไม่ว่าสนว่าโถงป๋ออวี้จะมีอำนาจแค่ไหน ถึงอย่างไรวันนี้นายท่านของพวกเรากลายเป็นแบบนี้พวกท่านก็อย่าคิดหนีเชียว""ใช่! พวกเราจะเรียกร้องความยุติธรรม!"เสิ่นเสวียนเหลือบมองพวกเขาผาดหนึ่งคนใช้สองคนนี้ถูกเสิ่นเสวียนเหลือบมองก็ตกใจจนหดคอลง แต่พวกเขาก็เหมื
"ให้ตายเถอะ นายท่าน ท่านตายไม่ได้นะ ท่านตายแล้วพวกเราแม่ม่ายลูกกำพร้าจะทำอย่างไรกัน!"หญิงสาวคนนั้นพูดแล้วก็โถมไปทางท่านโม่ ตอนนี้เอง ฟู่จาวหนิงก็ขึ้นหน้ามา ยื่นมมือคว้าแขนของนางไว้ จากนั้นก็ประคองนางถอยออกมาสองก้าวหมอหวางถูกทำให้ตกใจสะดุ้งโหยง รีบเอ่ยขึ้นว่า "ฮูหยิน ท่านโม่กำลังสลบอยู่ จะบุ่มบ่ามไม่ได้!"หญิงสาวคนนี้ก็รุนแรงเหลือเกิน ถ้าโถมขึ้นไปบนตัวท่านโม่ ใครจะรู้ว่าจะกลายเป็นทำร้ายเขาอีกรอบหรือเปล่า"นายท่านของพวกเราไม่ใช่ว่าไม่อยู่แล้วหรือ?" ฮูหยินโม่ถลึงตาที่น้ำตาคลอเบ้า มองพวกเขาอย่างตกตะลึง"ยังมีลมหายใจยังมีลมหายใจอยู่ ตอนนี้ต้องรีบดูอาการ" หมอหวางมองไปทางฟู่จาวหนิงอีกครั้งเมื่อครู่โชคดีที่ปฏิกิริยาของฟู่จาวหนิงรวดเร็ว สามารถขวางฮูหยินโม่ไว้ทัน"พ่อของข้าถ้าเกิดอะไรขึ้น พวกท่านต้องรับผิดชอบ! ตระกูลโม่ของพวกเราจะไม่ปล่อยพวกท่านแน่!" ชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งเข้ามา เอะอะมะเทิ่งขึ้นมาเหมือนกันเขาถูกสืออีขวางไว้"ตอนนี้พวกเจ้าถ้ายังอาละวาดต่อไปเท่าไร ก็ยิ่งทำให้รักษาช้าขึ้นเท่านั้น" เสิ่นเสวียนพูดมาคำหนึ่ง "ทุกคนต้องเป็นพยานด้วย พวกเรารีบจะรักษาท่านโม่ แต่พวกเขาเอาแต่อาละวา
หมอหวางยืนขึ้นดึงเขาไว้ทันทีตลกเถอะ เขาตาเปล่งประกายมาขนาดนี้แล้ว อยากจะเรียนรู้สิ่งนี้จากฟู่จาวหนิง ตาเฒ่าถังคิดจะขวางหรือ?"ตาเฒ่าถัง เจ้าอย่ามาเกะกะ แม่นางฟู่เป็นหมอเทวดา! นางทำเช่นนี้คือการช่วยชีวิต มีหนักเบาอยู่แล้ว!""คนผู้นี้คือหมอเทวดาฟู่คนนั้นของตระกูลเสิ่นหรือ?"ดูท่าเรื่องที่ตระกูลเสิ่นหาหมอหญิงคนหนึ่งมารักษาอาการไท่ไท่อาวุโสเสิ่นจะลือกันออกไปแล้ว"ถูกต้อง""ท่านโม่หายใจแล้ว!"ลุงซูเห็นปฏิกิริยาของท่านโม่ก่อน เขาผ่อนใจโล่งออกมาทันที"จริงหรือ? ตื่นขึ้นมา ตื่นขึ้นมาแล้ว!"คนข้างๆ เองก็ร้องลั่นขึ้นมาฟู่จาวหนิงผ่อนมือลง "สืออีพักก่อนเถอะ"สืออีถอยไปอยู่ข้างๆฟู่จาวหนิงจับชีพจรท่านโม่อีกครั้งชีพจรชัดขึ้นมาแล้ว แต่ยังสับสนอยู่"หมอหวาง ถัดจากนี้ท่านมาเถอะ" ฟู่จาวหนิงถอยออกมาทันที ให้หมอหวางรับช่วงต่อ"ได้"หมอหวางไม่มีความเห็นอะไรทั้งนั้น เข้าไปรับช่วงต่อทันทีฟู่จาวหนิงเดินไปข้างๆ เสี่ยวชิ่นรีบช่วยเปิดกล่องยา หยิบกระดาษพู่กันจากด้านในออกมา"คุณหนู จะเปิดรายการยาหรือ?""ยังไม่ต้องเปิดรายการยาชั่วคราว" ฟู่จาวหนิงคิดๆ หยิงกระเป๋าเข็มออกมา "ต้องฝังเข็มเสียหน่อย
ฟู่จิ้นเชินอันที่จริงก็เตรียมใจไว้แล้วตอนนั้นพวกเขาออกจากเมืองไปแบบนั้น หลายๆ เรื่องยังคงอยู่ ทั้งที่เกี่ยวกับราชวงศ์ท่านอ๋อง ทั้งที่เกี่ยวข้องกับองค์จักรพรรดิ และไม่มีทางที่จะลืมเลือนจากเวลาที่ไหลผ่านไปกระทั่งองค์จักรพรรดิก็ไม่แน่ว่าจะลืมพวกเขาถ้าหากไม่ใช่เพราะลูสาวของพวกเขาจับพลัดจับผลู พบบุพเพมหัศจรรย์จนไปแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยน ตอนนี้พวกเขายังไม่ทันเข้าเมืองหลวงก็คงถูกคนของอ๋องเจวี้ยนจับไปแล้วสิ่งที่รอพวกเขาก็คือการจำคุกและการไต่สวนหรือบางที คนที่รู้เรื่องเบื้องหลังในตอนนั้น หรือคนที่สงสัยว่าพวกเขาไปรู้ความลับอะไรเข้า ตอนนี้อาจจะเปิดเผยตัวกันออกมาถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่มีทางเป็นแบบตอนนี้ ที่ยังเข้าเมืองมาได้อย่างปลอดภัย กลับมาที่บ้านกระทั่งว่า บ้านตระกูลฟู่เองก็อาจจะไม่อยู่แล้วด้วย บ้านหลังนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะยังอยู่ที่นี่เพื่อรอพวกเขากลับบ้านกลับบ้าน ใช่แล้ว พวกเขาในที่สุดก็กลับมาบ้านแล้วและทั้งหมดนี้ เป็นเพราะจาวหนิงเป็นจาวหนิงที่ให้พวกเขากลับมาบ้านได้ฟู่จิ้นเชินเข้าใจจุดนี้ได้ดียิ่งกว่าใครรอจนอารมณ์ของทุกคนนิ่งลงมาแล้ว เขาจึงถามถึงผู้เฒ่าฟู่กับฟู่จาวหนิ
ฟู่จาวหนิง! พระชายาอ๋องเจวี้ยน! พวกเขาล้วนได้ยินเรื่องของนางมาไม่น้อย นั่นไม่ใช่คนที่ไปยั่วยุได้เลยนะ นางกระทั่งองค์จักรพรรดิก็ยังกล้าไปต่อปากต่อคำด้วย พวกเขาในสายตาฟู่จาวหนิงไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น!ถ้าถูกจับจ้องไว้ล่ะก็ พวกเขาหลังจากนี้ได้เดือดร้อนแน่!คนเหล่านี้ล้วนขวัญเสียกันหมดแล้วคนที่ให้พวกเขาเข้ามาเอะอะบอกไว้ว่า ถ้าเอาคนมาเยอะๆ แล้วบวกกับเรื่องเมื่อสิบแปดปีก่อนเข้าไป ฟู่จิ้นเชินจะต้องนึกพวกเจ้าไม่ออก จำพวกเจ้าไม่ได้แน่ขอแค่เอาคนมามากพอ สถานการณ์วุ่นวายพอ แค่พวกเขาสร้างความวุ่นวายแล้วหนีไป ตระกูลฟู่ก็จับมือใครดมไม่ได้หรอกแต่ใครจะคิดว่าฟู่จิ้นเชินจะมาไม้นี้?"ฟู่ สหายฟู่ ไม่ต้องจดหรอก พวกเราก็แค่เจอพวกเจ้าบนถนนเท่านั้น...""ใช่ๆๆ ไม่มีใครมาแจ้งพวกเรา""พวกเรามีที่มาแหล่งข่าวเสียที่ไหน เข้าใจผิดแล้ว..."พวกเขาคิดจะถอย ถ้าหากไปถึงฟู่จาวหนิงคงวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นแน่"ในเมื่อมากันแล้ว เช่นนั้นก็มาคุยเรื่องเก่ากันก่อนเถิด อย่าเพิ่งรีบไปกัน" ฟู่จิ้นเชินเอ่ยขึ้นอย่างสงบ "พวกเจ้าไม่ใช่มาหาสหายเก่าอย่างข้าหรอกหรือ?""เจ้ากับฮูหยินเพิ่งกลับมา น่าจะเหนื่อยกันแล้ว พวกเราเอาไว้ค่อ
พวกของเซี่ยซื่อยังไม่ทันได้พูดเรื่องอ๋องเจวี้ยน ด้านนอกก็มีคนออกแรงตบประตูบ้านตระกูลฟู่ขึ้นเสียงดังเฉินซานออกไปเปิดประตู คนกลุ่มหนึ่งก็ทะลักเข้ามาคนเหล่านี้ เฉินซานคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่ ก่อนหน้านี้ตอนที่เขายังเป็นนักเลงหัวไม้อยู่ในเมืองหลวง จริงๆ ก็ให้ความสนใจกับพวกพ่อค้าขุนนางระดับล่างเหล่านี้อยู่คนเหล่านี้ล้วนอายุราวสามสี่สิบปี อายุประมาณฟู่จิ้นเชิน"คุณชายใหญ่ฟู่!""เร็ว ได้ยินว่าอัจฉริยะใหญ่ฟู่กลับมาแล้วหรือ?""คุณชายฟู่กลับมาแล้วจริงหรือ?"คนกลุ่มหนึ่งทะลักเข้ามา ล้วนมองอย่างตื่นเต้นมาที่ฟู่จิ้นเชินขณะที่ยังตกใจกับความหล่อเหลาราววัยหนุ่มของฟู่จิ้นเชิน กับความสวยสะพรั่งของเสิ่นเชี่ยว พวกเขาลืมเป้าหมายที่มายังบ้านตระกูลฟู่นี้แล้วพวกเขาแย่งกันพูดขึ้นมา"สหายฟู่ ให้ตายเถอะ เจ้ายังไม่ตายจริงๆ!""คุณชายฟุ่ ยังจำข้าได้ไหม? ข้าต่งฮั่น ตอนนั้นที่เคยสนุกด้วยกันกับเจ้าที่โรงน้ำชา!""จิ้นเชิน ข้าเหอจาวหลิน พวกเราตอนนั้นเกือบจะได้เป็นศิษย์ของอาจารย์คนเดียวกันแล้ว!""อัจฉริยะใหญ่ฟู่ ตอนนั้นพวกเราเดิมพันงานเขียนกันหลายครั้ง พอเจ้าหายตัวไปสิบแปดปีข้าก็คิดถึงเจ้าตลอดเลย เจ้ากลับมาได
ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายยังดูยังสับสนอยู่ ยังไม่มีใจจะไปคิดเล็กคิดน้อยนัก"นี่คือลูกสาวของข้าอันห่าว นางตอนนี้ใช้สกุลเซี่ยเหมือนข้า" เซี่ยซื่อปาดน้ำตาเอ่ยขึ้นเสิ่นเชี่ยวประคองเซี่ยอันห่าวลุกขึ้นดูแล้วเซี่ยซื่อน่าจะมีเรื่องบางอย่างกับตระกูลหลิน ยิ่งไปกว่านั้นในนี้จะต้องเป็นฝีมือของจาวหนิงแน่"ต้องขอบคุณจาวหนิง นางเก็บแม่ลูกอย่างพวกเรามา ไม่เช่นนั้นพวกเราคงไม่รอดกันแล้ว" เซี่ยซื่อเอ่ยขึ้นทั้งน้ำตา ได้สติขึ้นอีกครั้ง "รีบเข้าห้องเร็ว หิมะตกแล้ว ด้านนอกหนาวมาก"คนที่เหมือนแมลงกาฝากในตระกูลฟู่พวกนั้นก็ถูกฟู่จาวหนิงกวาดออกไปแล้ว เรื่องนี้สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินรู้แล้วพวกเขาเข้ามาในโถงใหญ่ ลุงจงป้าจงกับหู่จือล้วนได้ยินการเคลื่อนไหว ทั้งหมดจึงวิ่งเข้ามา"คุณชาย คุณชายใหญ่กับฮูหยินน้อยกลับมาแล้วหรือ?""คุณชาย!"ป้าจงกับลุงจงวิ่งเข้ามาก่อน พอเห็นฟู่จิ้นเชินชัดๆ พวกเขาก็น้ำตาไหลอาบทันที ทิ้งตัวลงคุกเข่า"คุณชาย ฮูหยินน้อย พวกท่านกลับมาได้เสียที พวกท่านยังมีชีวิตอยู่ ข้าน้อยรู้อยู่แล้ว ว่าพวกท่านจะต้องมีโชคที่ดีแน่นอน..."พวกเขาล้วนร้องไห้กันออกมาตอนนั้นที่พวกเขาออกไป หู่จือยังเป็นเด็กน้อยอย
แม้จะผ่านไปเกือบสิบแปดปีแล้ว แต่สามีภรรยาฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวก็ยังเป็นคนที่กาลเวลารักใคร่อยู่พวกเขาแม้จะอายุมากแล้ว หน้าตาก็ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นบ้าง แต่พอเทียบกับสมัยก่อนแล้ว ก็เปลี่ยนแปลงไปไม่เยอะมากมองหลายๆ ครั้งก็มองออกได้คนที่เซียวเหยียนจิ่งเตรียมไว้ยังมองออก ไม่ต้องพูดถึงเซี่ยซื่อเลยเซี่ยซื่อเคยเป็นครอบครัวของพวกเขาด้วยนะหลังจากนางจำได้แล้วยังสงสัยว่าตาตนเองฝาดไปหรือไม่ ยังสงสัยว่าตนเองคงตาลาย ดังนั้นเลยนวดตาทันที จากนั้นจึงมองพวกเขาอย่างละเอียดอีกครั้งไม่เปลี่ยน ยังคงเป็นสองคนนั้นเสิ่นเชี่ยวเองก็จำเซี่ยซื่อได้ แม้ว่านางจะรู้ตัวตนฐานะของตนเองแล้ว แต่ยังคงโพล่งออกมาว่า "พี่สะใภ้รอง!"เซี่ยซื่อคือภรรยาของผู้เฒ่ารองตระกูลหลินและเป็นคนเดียวในตระกูลหลินที่อ่อนโยนเป็นห่วงเสิ่นเชี่ยว ดังนั้นเสิ่นเชี่ยวพอเห็นนาง ดวงตาจึงแดงรื้นขึ้นมาคำว่าพี่สะใภ้รอง ก็ทำเอาเซี่ยซื่อใจสั่นระริกเช่นกันรีบวางตะกร้าที่หิ้วไว้ลงมา เดินตรงไปหานาง"ให้ตายเถอะ อา อาเล็กหรือ?"ไม่ ไม่ใช่อาเล็กชองนางแล้วสิ เซี่ยซื่อยืนอยู่หน้าเสิ่นเชี่ยว ถลึงตาโตอ้าปากค้าง"พี่สะใภ้รอง ข้าข้าเจอครอบครัวของข้าแ
ฟู่จาวหนิงสีหน้าขรึมลงเล็กน้อย "ดูท่า น่าจะมีคนไม่น้อยที่ยังไม่ลืมพวกเขา คอยจับตาดูจนถึงทุกวันนี้""ข้าเตรียมการเสร็จแล้ว รอบบ้านตระกูลฟู่วางองครักษ์ลับเอาไว้แล้ว วางใจเถอะ" เซียวหลันยวนพานางเข้ามา สองมือโอบข้างเอวนาง จ้องมองนาง "องค์จักรพรรดิน่าจะลงมือกับพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นพ่อลูกชินอ๋องเซียวยังคอยจับตาดูพวกเขาขนาดนี้ มันดูแปลกไปหน่อย""ตรวจสอบดูก็รู้ พวกเขาถ้าหากมีความคิดอะไร มีแผนอะไร มีเป้าหมายอะไร เดี๋ยวก็ได้รู้เอง"ฟู่จาวหนิงไม่ได้ใส่ใจนักเซียวหลันยวนพยักหน้าสายตาเขามองออกไปไกลๆ ถัดจากนี้ต้องดูว่าสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินจะรับมืออย่างไร เมืองหลวงยังมีคนที่มีเป้าหมายต่างๆ อยู่ และยังมีขั้วอำนาจที่ใช้วิธีการต่างๆ อยู่อีกด้วยเขาถึงแม้จะเชื่อว่าครั้งนั้นไม่ใช่เสิ่นเชี่ยวที่วางยาพิษ แต่ว่าพวกเขาตอนนั้นถูกใครบางคนหรือเรื่องบางอย่างหนีบเอาไว้ตรงกลาง ไม่มีทางดึงตัวออกมาอย่างหมดจดได้ พวกเขาเองก็เป็นคนในเหตุการณ์ตอนนี้พอมีความสัมพันธ์เช่นนี้กับเขา เซียวหลันยวนก็ยังพิจารณานาว่าพวกเขาจะแบกรับไหวไหม หลังจากนี้จะไม่ถ่วงแข้งขาฟู่จาวหนิงได้จริงไหม จะไม่ทำร้ายนางจริงไหมเซียวหลันยวนไม่ได้
"หนิงหนิง มีเรื่องอะไรถึงคุยกันนานสองนาน?"ในห้องขังมีเสียงเซียวหลันยวนดังออกมา"มาแล้ว"ฟู่จาวหนิงขานรับคำหนึ่ง เตรียมจะกลับห้องขังเซียวเหยียนจิ่งไม่อยากเชื่อ "เจ้าไม่ไปกับข้าจริงหรือ? เจ้าไม่สนใจพ่อแม่เจ้าหรือไรกัน?"ปฏิกิริยาของฟู่จาวหนิงเกินจากที่เขาคาดไว้เขาเดิมทีคิดว่าพอได้ยินว่าพ่อแม่ไม่เป็นไร แล้วยังกลับมาแล้ว ฟู่จาวหนิงอย่างน้อยต้องตาแดงรื้นบ้าง ไม่ก็ร้องไห้ออกมา รีบร้อนตามเขาออกไปอย่างตื่นเต้น เพื่อรีบไปพบพ่อแม่ของนาง"อ๋องเจวี้ยนถึงอย่างไรก็ยังต้องอยู่ในห้องขัง ไม่มีอะไรหรอก เจ้าจัดที่นี่จนดูอยู่สบายไปแล้ว แล้วเขาทำไมยังต้องให้เจ้ามาอยู่ด้วยกันอีก?""ข้ามาอยู่เอง เขาเป็นสามีข้า ข้าไม่อยู่กับเขาแล้วใครจะอยู่กัน?"ฟู่จาวหนิงหลังจากที่รู้เจตนาการมาของเขาก็ขี้เกียจจะคุยกับเขาแล้ว ผลักเขาออก แล้วเดินไปทางห้องขังเซียวเหยียนจิ่งนี่ก็จุ้นจ้านเสียจริง"เจ้าทำไมถึงต้องทำร้ายตัวเองแบบนี้" เซียวเหยียนจิ่งตะโกนใส่หลังนาง "เจ้าเข้าร่วมกับสมาคมหมอใหญ่แล้ว ถ้าเจ้ายินยอม มีคนตั้งมากมายที่ยินดีจะรักและเอ็นดูเจ้า ทำไมต้องมาอยู่ในคุกกับเขาแบบนี้ด้วย"เดิมทีหญิงสาวคนนี้ควรจะควรจะม
"ใช่ พ่อแม่ของเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังกลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว" เซียวเหยียนจิ่งจ้องมองฟู่จาวหนิง "เป็นอย่างไร เจ้าอยากรีบกลับบ้านไหม? ได้ยินว่าปู่ของเจ้ากับเด็กที่ชื่อเสี่ยวเฟยก็อยู่กันที่จวนอ๋องเจวี้ยนนี่? ถ้าเจ้าไม่กลับไป พ่อแม่ของเจ้าคงจะหาคนไม่เจอแน่"ฟู่จาวหนิงทำท่าทางตกตะลึงอย่างมาก"เจ้าไม่ได้โกหกข้าใช่ไหม? พวกเขากลับมาแล้วจริงหรือ?""ข้าจะโกหกเจ้าทำไมกัน? ไม่เชื่อข้าตอนนี้เจ้าก็ไปกับข้าสิ ข้าจะพาเจ้าไปหาพวกเขา"เซียวเหยียนจิ่งพูด มือเองก็คันยุบยิบ เขาอยากจะยื่นมือไปจูงนางเหลือเกิน จูงนางออกจากคุกใหญ่ถ้าเขาสามารถจูงมือนางออกไปได้ เซียวหลันยวนคงได้กระอักเลือดตายกระมัง?แต่เขาเพิ่งจะขยับ ฟู่จาวหนิงก็ถอยออกไปแล้วสองก้าว"พวกเขาถ้ากลับมาแล้วจริง เช่นนั้นก็ต้องกลับไปที่บ้านตระกูลฟู่ ที่บ้านตระกูลฟู่มีคนอยู่ พวกเขาจะหาคนไม่เจอได้อย่างไรกัน?""เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ?""เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องให้เจ้าวิ่งแจ้นเข้ามาบอกข้าหรอกกระมัง? พวกเขาถ้ากลับมาแล้วจริง คนใช้บ้านตระกูลฟู่อีกเดี๋ยวก็คงเข้ามาบอกข้าเอง""เจ้าลืมอ๋องเจวี้ยนไปแล้วหรือ?""เขาก็อยู่ที่นี่ ลืมอะไรกัน?""ความ
ฟู่จาวหนิงอยู่ในคุกเองก็เบื่อหน่อยๆ แล้วนางเหลือบมองเซียวเหยียนจิ่งผาดหนึ่ง จากนั้นจึงตรงไปด้าหน้าเซียวหลันยวน "ข้าออกไปฟังหน่อยได้ไหม?""ไปเถอะ" เซียวหลันยวนพยักหน้า"เอ๋ ไม่หึงแล้วหรือ?" ฟู่จาวหนิงร้องชิชะเซียวหลันยวนหัวเราะเสียงทุ้ม "อย่าไปไกลนักล่ะ ข้าได้ยินอยู่"ถึงอย่างไรนางก็เบื่อๆ ถ้าเซียวเหยียนจิ่งพูดเรื่องอะไรที่ทำให้นางฆ่าเวลาได้ เช่นนั้นเขาก็ควรจะใจกว้างหน่อยแต่ว่า พวกเขาเดินไปไกลมากไม่ได้ ต้องอยู่ในระยะที่เขาสามารถได้ยิน"รู้อยู่แล้วว่าท่านจะใจกว้างหลอกๆ"ฟู่จาวหนิงวางพู่กัน ปรบๆ มือ จากนั้นจึงเดินออกจากห้องขัง"คิดจะพูดอะไร?"เซียวเหยียนจิ่งเดิมทีคิดจะให้เซียวหลันยวนหึงหวง ดังนั้นจึงไม่คิดจะเดินไปไกลนัก"มานี่หน่อย" เซียวเหยียนจิ่งเดินออกมาข้างๆ ไม่กี่ก้าว รู้สึกว่าระยะนี้เซียวหลันยวนน่าจะได้ยินเหมือนคนคุยกันแต่ไม่ได้ยินเนื้อหาด้านในเช่นนี้ก็พอดีฟู่จาวหนิงร้องเชอะในใจ น่าจะเข้าใจความคิดของเขาเพียงแต่เซียวเหยียนจิ่งก็ยังโง่อยู่ เขาคิดว่าระยะนี้เซียวหลันยวนไม่ได้ยินหรือไรกัน?นางเดินออกไปเซียวเหยียนจิ่งบอกกับผู้คุมข้างๆ คำหนึ่ง ให้เขาออกไปก่อนผู้คุม