ไท่ไท่อาวุโสนึกออกแล้ว"ข้ารู้แล้ว ตอนนั้นหลังจากเจ้ากลับมาก็บอกกับข้าอยู่ บอกว่าเจ้าอารามบอกเจ้ามาคำหนึ่ง ตอนนั้นพวกเรายังนึกไม่ออกว่าว่าโอกาสรอดนี้จะเพิ่มขึ้นมาได้อย่างไร""ใช่ ข้าตอนนั้นเองก็ไม่เข้าใจ จึงถามเขา ว่าเพราะอะไรโอกาสรอดจึงยังต่ำ? เข้าจะทำให้โอกาสรอดสูงขึ้นได้อย่างไร? เจ้าอารามก็ยิ้มๆ ตอบมาคำหนึ่ง บอกว่าให้รอ รอให้โอกาสรอดมันเติบโตขึ้นมาเสียก่อน"หืม?เสิ่นเสวียนตอนนี้เองก็เหมือนฟังอะไรออกแล้ว เขามองไปทางฟู่จาวหนิง"ดังนั้นตอนนี้ท่านจึงคิดว่า โอกาสรอดที่ว่านี้หมายถึงคนหรือ?""ใช่" ท่านผู้เฒ่าพยักหน้า "ยิ่งไปกว่านั้นฟู่จาวหนิงถ้าคำนวณเรื่องอายุแล้ว ตอนนั้นนางก็น่าจะยังเล็กมากใช่ไหม?"ฟู่จาวหนิงกล้าพูดเสียที่ไหนว่าตนเองจะเป็นโอกาสรอดของบ้านตระกูลเสิ่น?"ข้าก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง""ไม่ธรรมดาเลย พิเศษและยอดเยี่ยมเอามากๆ เจ้าลองดูสิ เจ้าช่วยชีวิตอาเสวียนไว้ นี่เท่ากับช่วยตระกูลเสิ่นไว้แล้วนะ อาเสวียนเองถ้าไม่อยู่แล้ว เขาจะหาโอกาสไหนมาเชิญเจ้ามาตรวจภรรยาของข้า? แล้วถ้าพวกเราตายกันหมด ตระกูลเสิ่นก็แตกกระเจิงกันไปหมดแล้วไม่ใช่หรือ?"ท่านผู้เฒ่าเสิ่นยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกว่าก
"เจ้าพูดเองเลยแล้วกัน เซียวหลันยวนดีกับเจ้าไหม" เสิ่นเสวียนเอ่ยกับฟู่จาวหนิง"เขา..."ฟู่จาวหนิงอึกอักขึ้นมาดีไหมนะ?"เจ้าดูสิ ถ้าเขาดีกับเจ้าจริง ยังต้องมาคิดอีกหรือ? มันต้องตอบออกมาได้อย่างไม่ลังเลไม่ใช่หรือ?"ไท่ไท่อาวุโสดึงมือฟู่จาวหนิง ปวดใจจะแย่"จาวหนิงเอ๋ย ไม่ว่าเจ้าจะมีตัวตนฐานะอะไร ต่อให้เป็นท่านอ๋องจากแคว้นเจา ถ้าหากไม่ดีกับเจ้า พวกเราก็ไม่แปลกใจหรอก เจ้าจะแยกกับเขาตอนไหน พวกเราก็จะสนับสนุนเจ้า ตระกูลเสิ่นแม้ว่าตอนนี้จะดูแล้วไม่เท่าไร แต่การกินการอยู่สำหรับเจ้าไม่ต้องกังวล""ไท่ไท่อาวุโส ข้า...""ใช้ พวกเราสามารถเป็นที่พึ่งของเจ้าได้" ท่านผู้เฒ่าเองก็พูดขึ้นมา "ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ยอมรับอาเสวียนเป็นพ่อเลี้ยงเลยสิ พวกเราจะเปิดผังตระกูลให้เอง เขียนชื่อเจ้าไปบนผังตระกูลเสิ่น พวกเราก็สามารถเป็นปู่กับย่าเจ้าได้แล้ว เจ้าก็จะไม่ใช่คนโดดเดี่ยวอีก"เขาตอนนี้ในใจเชื่อว่า "โอกาสรอด" ที่เจ้าอารามพูดถึงคือฟู่จาวหนิงแต่ต่อให้นางไม่ใช่โอกาสรอด พวกเขาเองก็ชอบนาง อยากจะให้นางอยู่ในตระกูลเสิ่นอย่างจริงใจก่อนหน้านี้ยังบอกว่าจะแนะนำนางให้กับเด็กในบ้านอยู่เลย ตอนนี้พอคิดๆ มีอะไรจะดีไ
"หมอหวาง ไปดูด้วยกัน"เสิ่นเสวียนเรียกหมอหวางทันทีหมอถังเขาไม่ได้เจอมาระยะหนึ่งแล้ว ใครก็ไม่รู้ว่าตอนนี้หมอถังยังยืนอยู่ด้านความยุติธรรมไหมถึงอย่างไรลูกไม้ขององค์จักรพรรดิก็มีไม่น้อยมาตลอด"ท่านลุง ข้าเองก็จะไปด้วย" ฟู่จาวหนิงในห้องพอได้ยิน ก็รีบวิ่งออกมา"ก็ดี เอาผ้าคลุมให้คุณหนูด้วย" เสิ่นเสวียนรีบบอกกับเสี่ยวชิ่นเสี่ยวชิ่นรีบพุ่งไปหยิบผ้าคลุมมา และสะพายกล่องยาของฟู่จาวหนิงมาด้วยเสิ่นหยางมองฟู่จาวหนิงอย่างอยากรู้อยากเห็นเขาช่วงนี้ได้ยินชื่อฟู่จาวหนิงบ่อยมาก ได้ยินคนอื่นในตระกูลเสิ่นพูดเรื่องของนาง แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้พบดูดีกว่าที่พวกเขาพูดเสียอีกเสิ่นหย้าหน้าร้อนผ่าวเล็กน้อย เขารีบย้ายสายตาออกไปด้านนอก ไม่กล้าเข้าไปนั่งในรถม้าพร้อมพวกเขา"เจ้าชื่อเสิ่นหยางใช่ไหม?"ใครจะรู้ว่าฟู่จาวหนิงกลับเลิกม่านมาพูดกับเขาก่อน"เขาอายุพอพอกับเจ้า เรียกชื่อเลยก็ได้" เสิ่นเสวียนเอ่ยขึ้น"เช่นนั้นก็เรียกชื่อเลยนะ เสิ่นหยาง บอกข้าถึงแขกคนนั้นหน่อย อายุ รูปร่าง ตอนที่เข้าไปมีอะไรผิดปกติไหม ขั้นตอนระหว่างที่พูดทำอะไรอยู่ถึงได้เป็นลม ตอนเป็นลมลงไปกระแทกที่ไหนบ้างหรือเปล่า สิ้นสต
"ที่นี่ ห้องโถงทางนี้มีแคร่ตัวหนึ่ง พวกเราประคองเขาอย่างระวังไปบนแคร่แล้ว หลังจากนั้นก็ไม่กล้าแตะต้องเขาอีกเลย"ลุงตงพาคนเข้าไปฟู่จาวหนิงพาเสี่ยวชิ่นตามอยู่ด้านหลังหมอหวางสืออีสือซานก็ตามนางมา ดังนั้นจึงบังเขาได้บ้าง ไม่ใช่คนทั้งหมดจะมองเห็นนางตอนนี้ความสนใจของทุกคนล้วนอยู่บนตัวเสิ่นเสวียนแล้วก็แขกที่สลบไปแล้วคนนั้น"นี่คือท่านโม่ ท่านโม่ก่อนหน้านี้มาซื้อของในโถงป๋ออวี้สองครั้ง ถือว่าเป็นลูกค้าเก่าแล้ว สองครั้งก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้มีเรื่องไม่น่ายินดีอะไร"ลุงตงพาคนมาถึงข้างแคร่ตัวนั้น หมอหวางเข้าไปตรวจสอบร่างกายท่านโม่ก่อนฟู่จาวหนิงยืนอยู่ข้างๆ เขา สังเกตไปด้วยฟังลุงตงพูดไปด้วยเสิ่นเสวียนถาม "คนในครอบครัวเขาหรือผู้ติดตามล่ะ?"คนใช้รูปร่างกำยำสองคนลุกขึ้นยืน"พวกเราคือคนรับใช้ของท่านโม่ มีคนไปแจ้งกับฮูหยินของพวกเราแล้ว พวกเราไม่ว่าสนว่าโถงป๋ออวี้จะมีอำนาจแค่ไหน ถึงอย่างไรวันนี้นายท่านของพวกเรากลายเป็นแบบนี้พวกท่านก็อย่าคิดหนีเชียว""ใช่! พวกเราจะเรียกร้องความยุติธรรม!"เสิ่นเสวียนเหลือบมองพวกเขาผาดหนึ่งคนใช้สองคนนี้ถูกเสิ่นเสวียนเหลือบมองก็ตกใจจนหดคอลง แต่พวกเขาก็เหมื
"ให้ตายเถอะ นายท่าน ท่านตายไม่ได้นะ ท่านตายแล้วพวกเราแม่ม่ายลูกกำพร้าจะทำอย่างไรกัน!"หญิงสาวคนนั้นพูดแล้วก็โถมไปทางท่านโม่ ตอนนี้เอง ฟู่จาวหนิงก็ขึ้นหน้ามา ยื่นมมือคว้าแขนของนางไว้ จากนั้นก็ประคองนางถอยออกมาสองก้าวหมอหวางถูกทำให้ตกใจสะดุ้งโหยง รีบเอ่ยขึ้นว่า "ฮูหยิน ท่านโม่กำลังสลบอยู่ จะบุ่มบ่ามไม่ได้!"หญิงสาวคนนี้ก็รุนแรงเหลือเกิน ถ้าโถมขึ้นไปบนตัวท่านโม่ ใครจะรู้ว่าจะกลายเป็นทำร้ายเขาอีกรอบหรือเปล่า"นายท่านของพวกเราไม่ใช่ว่าไม่อยู่แล้วหรือ?" ฮูหยินโม่ถลึงตาที่น้ำตาคลอเบ้า มองพวกเขาอย่างตกตะลึง"ยังมีลมหายใจยังมีลมหายใจอยู่ ตอนนี้ต้องรีบดูอาการ" หมอหวางมองไปทางฟู่จาวหนิงอีกครั้งเมื่อครู่โชคดีที่ปฏิกิริยาของฟู่จาวหนิงรวดเร็ว สามารถขวางฮูหยินโม่ไว้ทัน"พ่อของข้าถ้าเกิดอะไรขึ้น พวกท่านต้องรับผิดชอบ! ตระกูลโม่ของพวกเราจะไม่ปล่อยพวกท่านแน่!" ชายหนุ่มคนหนึ่งวิ่งเข้ามา เอะอะมะเทิ่งขึ้นมาเหมือนกันเขาถูกสืออีขวางไว้"ตอนนี้พวกเจ้าถ้ายังอาละวาดต่อไปเท่าไร ก็ยิ่งทำให้รักษาช้าขึ้นเท่านั้น" เสิ่นเสวียนพูดมาคำหนึ่ง "ทุกคนต้องเป็นพยานด้วย พวกเรารีบจะรักษาท่านโม่ แต่พวกเขาเอาแต่อาละวา
หมอหวางยืนขึ้นดึงเขาไว้ทันทีตลกเถอะ เขาตาเปล่งประกายมาขนาดนี้แล้ว อยากจะเรียนรู้สิ่งนี้จากฟู่จาวหนิง ตาเฒ่าถังคิดจะขวางหรือ?"ตาเฒ่าถัง เจ้าอย่ามาเกะกะ แม่นางฟู่เป็นหมอเทวดา! นางทำเช่นนี้คือการช่วยชีวิต มีหนักเบาอยู่แล้ว!""คนผู้นี้คือหมอเทวดาฟู่คนนั้นของตระกูลเสิ่นหรือ?"ดูท่าเรื่องที่ตระกูลเสิ่นหาหมอหญิงคนหนึ่งมารักษาอาการไท่ไท่อาวุโสเสิ่นจะลือกันออกไปแล้ว"ถูกต้อง""ท่านโม่หายใจแล้ว!"ลุงซูเห็นปฏิกิริยาของท่านโม่ก่อน เขาผ่อนใจโล่งออกมาทันที"จริงหรือ? ตื่นขึ้นมา ตื่นขึ้นมาแล้ว!"คนข้างๆ เองก็ร้องลั่นขึ้นมาฟู่จาวหนิงผ่อนมือลง "สืออีพักก่อนเถอะ"สืออีถอยไปอยู่ข้างๆฟู่จาวหนิงจับชีพจรท่านโม่อีกครั้งชีพจรชัดขึ้นมาแล้ว แต่ยังสับสนอยู่"หมอหวาง ถัดจากนี้ท่านมาเถอะ" ฟู่จาวหนิงถอยออกมาทันที ให้หมอหวางรับช่วงต่อ"ได้"หมอหวางไม่มีความเห็นอะไรทั้งนั้น เข้าไปรับช่วงต่อทันทีฟู่จาวหนิงเดินไปข้างๆ เสี่ยวชิ่นรีบช่วยเปิดกล่องยา หยิบกระดาษพู่กันจากด้านในออกมา"คุณหนู จะเปิดรายการยาหรือ?""ยังไม่ต้องเปิดรายการยาชั่วคราว" ฟู่จาวหนิงคิดๆ หยิงกระเป๋าเข็มออกมา "ต้องฝังเข็มเสียหน่อย
ที่นี่เปลี่ยนเป็นละครชายแก่ไล่ทุบลูกชายไปทันทีคุณชายน้อยโม่กุมหัววิ่งหัวซุกหัวซุนคนอื่นๆ ยังไม่ทันตั้งตัวฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว ร้องขึ้นมาทันควัน "ถ้ายังไม่อยากตายก็หยุดมือก่อน!"พอเสียงของนางดังขึ้น ท่านโม่ก็หยุดเท้าลงทันทีท่านโม่เองก็ตกตะลึง ยังยกมือค้างไว้อยู่ แต่กลับหันหน้ามาทางนาง มองนางอย่างสงสัย"เมื่อครู่ท่านสลบไปไม่รู้หรือ? ตื่นขึ้นมาได้คิดว่าไม่เป็นไรแล้วหรือไรกัน? นอนลงไป!"ฟู่จาวหนิงน้ำเสียงเข้มงวด สีหน้าจริงจัง พลังเต็มเปี่ยมขนาดที่ท่านโม่ร่างกำยำสูงใหญ่เห็นท่าทางของนางเช่นนี้ก็ยังรู้สึกเสียววาบ ยังไม่ทันตั้งตัวดี แต่ร่างกายกลับซื่อตรง เดินกลับมานอนลงไปบนแคร่แล้วคนอื่นเองก็มองฟู่จาวหนิงอย่างตกตะลึง"คำพูดที่ท่านโม่พูดเมื่อครู่ คิดว่าทุกคนคงได้ยินกันแล้ว"เสิ่นเสวียนตอนนี้จึงลุกขึ้นมาอย่างได้จังหวะเหมาะ"เรื่องนี้คิดว่าคงเป็นเรื่องเข้าใจผิด ดังนั้นทุกคนก็แยกย้ายเถอะ โถงป๋ออวี้เน้นหนักเรื่องความเชื่อใจมาโดยตลอด ไม่มีทางทำเรื่องอย่างการเอาของปลอมมาแอบอ้างเป็นของจริงแน่ ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งของต่างๆ ที่แขกต้องการมาสั่งทำก็ล้วนใช้วัสดุกับฝีมือชั้นยอด ถ้าต้องการสามารถ
นางอันที่จริงก็ดีใจอยู่ เพราะสามีก็หลงใหลการลงหมากรุกกับขบคิดกลยุทธ์หมากจริงๆ ไม่ค่อยจะออกไปสรวญเสเฮฮากับคนอื่น เวลาส่วนใหญ่จึงอยู่แต่ในบ้านแต่ตอนนี้ดูท่าเหมือนมีอะไรไม่ถูกต้องหรือ?ฟู่จาวหนิงให้ท่านโม่นอนคว่ำ"เพราะท่านนั่งระยะยาวไม่ถูกต้อง แล้วยังก้มหน้าอยู่ตลอดอีก กระดูกสันหลังส่วนคอมีแรกกดทับมาก จึงป่วยเป็นโรคกระดูกคอ"ฟู่จาวหนิงพูดไปด้วยพลางกดลงไปที่กระดูกสันหลังคอของท่านโม่ พอออกแรงหน่อย ท่านโม่ก็ร้องเจ็บออกมา"กระดูกสันหลังคอนี้พอถูกกดทับ เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพ จึงเกิดอันตรายอย่างการเป็นลมเมื่อครู่ได้ แต่เส้นเลือดสมองของท่านโม่น่าจะอุดตันอยู่บ้าง ดังนั้นเมื่อครู่หมอหวางหมอถังพวกเขาจึงเกือบจับชีพจรไม่ได้"อันที่จริงเมื่อครู่นี้ที่ทำการผายปอดช่วยหายใจเมื่อครู่ไม่ใช่วิธีการรักษาโรคกระดูกสันหลังส่วนคอแต่นางสงสัยว่าส่วนสมองของท่านโม่ยังมีปัญหาอยู่"ท่านต้องนอนพักผ่อนหลายวันหน่อย ขณะเดียวก็ต้องตรวจส่วนสมองอย่างละเอียดด้วย"ฟู่จาวหนิงพูดจนพวกเขาถลึงตาอ้าปากค้างเพราะนางพูดเรื่องการฆ่าเวลาในยามปกติของท่านโม่ได้ถูกต้อง ทำเอาคนในบ้านของท่านโม่ไม่อาจคัดค้านได้เลยกระทั่งเส