เกี่ยวกับจุดนี้ เขายังคิดๆ ว่าจะเอาตำแหน่งใดให้กับหมอเก๋อดี"เช่นนี้ จวนก็สำคัญ จะมอบให้ก่อน เจ้าเองก็เก็บกวาดแล้วย้ายเข้าไปแล้วกัน""เป็นพระมหากรุณาธิคุณ!" เก๋อชีซิงลิงโลดขึ้นมา คุกเข่าลงขอบคุณทันที"เพียงแต่ว่า" องค์จักรพรรดิเปลี่ยนน้ำเสียง "ข้าเองก็มอบให้เจ้าโดยไม่มีเหตุใดได้เสียด้วย ดังนั้น หมอเก๋อ เจ้าว่า...""ข้าน้อยเข้าใจแล้ว! กลับไปข้าจะเขียนตำรับยาล้ำค่าให้สิบรายการ มอบให้แก่แคว้นเจา นี่เป็นแค่ความจริงใจอันดับแรกที่ข้าน้อยมอบให้"องค์จักรพรรดิต้องการคำพูดนี้ของเขาหลังผ่านไปหนึ่งชั่วยาม หมัวมัวจินก็พาสาวใช้วังสองคนออกจากวังไปซื้อของเล่นบางส่วนมาให้กับไทเฮาในจุดที่ไม่มีคนเห็น หมัวมัวจินก็หมุนตัวมุดเข้าไปในรถม้าอีกคันหนึ่ง แอบมายังจวนอ๋องเจวี้ยนเซียวหลันยวนเห็นหมัวมัวจินจากในห้องหนังสือหลังจากได้ยินคำพูดของหมัวมัวจินเขาก็รู้สึกเกินคาดขึ้นมา"หนังสือแพทย์หกสิบหกเล่ม?"นี่มันเป็นของที่ล่อตาล่อใจคนมากเลยนะ ถ้าหากหนังสือแพทย์เหล่านี้สามารถปรากฎขึ้นในงานประชุมหมอใหญ่ คนเหล่านั้นก็น่าจะแย่งกันอุตลุต"บอกว่าหมอเก๋อคนนั้นอาศัยหนังสือแพทย์เหล่านี้ ค้นคว้ามาหนึ่งปีก็กลายมาเ
ในเมืองเล็กที่ตระกูลเสิ่นตั้งอยู่เมืองนี้มีกลิ่นหอมลอยไปทั่วทุกหนแห่งพวกของไป่หูหลังจากเข้าเมืองก็ถอนใจโล่งมาถึงอย่างปลอดภัยแล้ว ในใจเองก็ไม่ตึงเครียดอีกแล้ว"คุณหนู ตอนนี้เป็นช่วงเทศกาลเจ็ดเพลิงของต้าชื่อ ทุกครัวเรือนที่นี่จะทำขนมนึ่งใบไผ่ประเภทหนึ่ง ให้ข้าซื้อแต่ละรสชาติมาให้ท่านดีไหม?" มีองครักษ์ถามขึ้นขนมนึ่งใบไผ่?ฟังแล้วน่าจะไม่เลว"ไม่รีบๆ ไปบ้านตระกูลเสิ่นกันก่อน"ฟู่จาวหนิงยังดูร้อนรนอยู่ ไม่รู้ว่าไท่ไท่อาวุโสเสิ่นเป็นอย่างไรบ้างแล้ว"คุณหนู ข้าส่งคนรีบไปส่งข่าวแล้ว ดูว่าในบ้านตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง ถ้านายท่านมารับท่านได้คงจะดีที่สุด" ไป๋หู่เอ่ยขึ้นเขาไม่อยากให้ฟู่จาวหนิงที่เต็มไปด้วยฝุ่นแบบนี้ไปปรากฎตัวต่อหน้าคนตระกูลเสิ่นตอนนี้เพราะคนในตระกูลเสิ่นตอนนี้ก็ซับซ้อนอยู่ คุณหนูจาวหนิงถ้าไปปรากฎตัวแบบนี้ที่หน้าประตูตระกูลเสิ่น คงได้ถูกคนไม่น้อยดูถูกเอาแน่ๆ ถึงตอนนั้นจะคิดว่าเป็นญาติจนๆ ที่ไหนเข้ามาอีกต่อให้ภายหลังจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง ถึงตอนนั้นการไม่ได้รับความเป็นธรรมกับการต้อนรับที่เย็นชาก็เกิดขึ้นไปแล้วไป๋หู่รู้สึกว่า นายท่านเองก็คงไม่ยอมให้นางต้องได้รั
"ข้าบอกไปแล้ว ข้าไม่ได้อยู่ในสวนสี่ซิน พวกเจ้าเองก็รู้ว่าข้าอยู่ที่ไหน ทำไมถึงไม่เชื่อกันบ้าง?""ถ้าเจ้าไม่ได้เข้าไปพัก เช่นนั้นก็หลบไป พวกเราเข้าไปดูหน่อย""เอะอะอะไรกัน?"ไม่ห่างไปนัก เสิ่นเสวียนเดินเนบๆ เข้ามา ข้างกายมีหลิวหั่วตามมาด้วยแม่นางเหล่านี้พอเห็นเสิ่นเสวียน ก็วิ่งเฮโลหนีกระเจิดกระเจิง เหลืออยู่แค่ไม่กี่คนพวกนางหลายคนล้วนกลัวเสิ่นเสวียน"ท่านลุง พวกนางบอกว่าจะเข้าไปในสวนสี่ซินหลบร้อน ข้าอธิบายกับพวกนางแล้ว บอกว่าส่วนสี่ซินเป็นสถานที่ของท่านลุง พวกนางเข้าไปคงไม่สะดวกนัก" อวี๋อวี่เวยพอเห็นเสิ่นเสวียน น้ำเสียงก็อดเง้างอดขึ้นมาไม่ได้นางรู้สึกว่า สวนสี่ซินจัดสถานที่ใหม่แล้วแสะงว่าเสิ่นเสวียนคงจะเข้ามาอยู่เองเพราะผ่านมาตั้งนานก็ยังไม่เห็นว่ามีใครมาเลย"ใครก็ห้ามเข้าทั้งนั้น"เสิ่นเสวียนเอ่ยเรียบๆ ขึ้นมาไม่กี่คำมีแม่นางรวบรวมความกล้าถามขึ้น "ท่านลุง นั่นท่านจะเข้าไปพักหรือ?"ถ้าหากเป็นเขาเข้าไปพัก เช่นนั้นพวกนางก็คงจะเข้าไปไม่ได้จริงๆเสิ่นเสวียนส่ายหัว "ไม่ใช่"ไม่ใช่หรือ?อวี๋อวี่เวยตกตะลึง"นายท่าน!"เขาเหลือบมองไปที่ประตูเรือนที่ลั่นดาลไว้ หันหน้ามองไปทาง
"หมอหวาง!"เสิ่นเสวียนรีบเดินเข้ามา พอเห็นภาพตรงหน้า จิตใจก็ดำดิ่งชายชราคนนั้นคือหมอหวางร่างกายของไท่ไท่อาวุโสสั่นจนไม่สามารถฝังเข็มได้แล้ว นี่มันฝังผิดได้ทุกเมื่อหมอหวางมองไปทางเสิ่นเสวียน เอ่ยขึ้นอย่างจำใจ "ท่านเสวียน ทำอะไรไม่ได้เลย ไท่ไท่อาวุโสสั่นไปทั้งตัว แล้วยังตึงอย่างมาก ฝังเข็มต่อไม่ได้แล้ว ยาเองก็ป้อนลงไปไม่ได้"ผู้อาวุโสเสิ่นที่นั่งอยู่ข้างๆ สองมือกุมภรรยาชราของเขา น้ำตาก็อาบท่วมอันที่จริงคนในบ้านตระกูลเสิ่นอายุยืนมาแต่ไหนแต่ไร ยิ่งไปกว่านั้นสุขภาพทั้งสองคนก่อนหน้านี้ก็ดีมาโดยตลอด ถ้าไม่ใช่ปีที่แล้วเข้าวังจนโดนพิษ ตอนนี้ยังกินได้ดื่มได้นอนได้ คิดไม่ถึงเลยว่าแค่ครู่เดียวก็เป็นเช่นนี้แล้ว"อาเสวียน พอแค่นี้เถอะ" เขาเอ่ยขึ้นเสียงแหบพร่าพูดจบประโยคนี้ก็ถอนหายใจยาวออกมาให้เขาพูดคำว่าพอแค่นี้เถอะออกมาเอง ใจก็เหมือนมีดกรีดแทงนี่เป็นภรรยาที่อยู่กับตนเองมาครึ่งชีวิตเลยนะ พวกเขาทั้งสองคนเดิมทีก็ล้วนมีความคาดหวังร่วมกัน คืออยากจะเห็นวันที่เสิ่นฉยงลูกชายคนโตกลับมาที่บ้านเขาอยากเห็นร่างกายของเสิ่นเสวียนสุขภาพดีขึ้นมา บนใบหน้าปรากฎความยอดเยี่ยมในวัยหนุ่มขึ้นมาอีกครั้ง
ท่านผู้เฒ่าได้สติกลับมา จับมือภรรยาไว้แน่น เอ่ยกับนางว่า "ฮูหยิน เจ้าได้ยินไหม? จาวหนิงเด็กคนนั้นมาแล้ว อาเสวียนเชื่อมั่นในวิชาแพทย์ของนางขนาดนั้น เจ้าต้องรออีกหน่อยนะ ต้องให้โอกาสเด็กคนนั้นเสียหน่อยใช่ไหม?""จะว่าไป อาเสวียนบอกว่า เด็กคนนั้นมีที่มาเช่นเดียวกับพวกเรา อีกเดี๋ยวข้าจะบอกตัวตนของนางกับพวกเรา เจ้าไม่อยากรู้หรือ? เจ้าต้องรอนางนะ"เสิ่นเสวียนรีบออกจากบ้านตระกูลเสิ่น ทำให้คนของบ้านตระกูลเสิ่นเหล่านั้นตกตกลึงทันทีท่านลุงรองเสิ่นหลังจากได้ยินก็หรี่ตาลง"ไม่แน่อาจจะมีเรื่องอะไร หลายวันนี้เขาก็ไม่ใช่ว่าออกไปข้างนอกบ่อยๆ หรือ?"ออกไปหาคนหายา หาพวกตำรับอาหารบำรุงอะไรพวกนี้สะใภ้เสิ่นสองเอ่ยขึ้นอย่างหมดความอดทน "ทำเอาข้าลงแรงเปล่าๆ จ่ายเงินไปเปล่าๆ เลย"คนอื่นเองก็ยอมรับ "เดิมทีตระกูลเสิ่นก็กำลังเดินลงต่ำ ถ้าใช้เงินไปจนหมด กลัวว่าจะตกต่ำไม่เร็วพอหรือไรกัน? พวกเราหลายปีนี้การค้าอะไรก็ถูกกดเอาไว้หมด เจ้าคนพวกนั้นก็ฉลาดกันเป็นกรด รู้ว่าองค์จักรพรรดิมีท่าทีอย่างไรกับตระกูลเสิ่นของพวกเรา พวกเขาจึงไม่เห็นพวกเราอยู่ในสายตาเลย"พวกเขาถูกราชวงศ์กดดันมานานแล้วตอนนี้ทำอะไรก็ไม่ง่าย ม
ในโรงเตี๊ยม ฟู่จาวหนิงรีบแต่งเนื้อตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า จัดการตนเองให้สะอาดสะอ้านหลักๆคืออีกเดี๋ยวต้องไปพบไท่ไท่อาวุโส ถึงอย่างไรการไปพบผู้ป่วย นางจะสกปรกไปด้วยฝุ่นทั้งตัวก็คงไม่ดีเท่าไรแต่นางเองก็ไวมาก หลังจากจัดการตัวเองก็ให้พวกของสืออีเตรียมตัวออกเดินทางไว้ตลอดเวลาไป๋หู่ถึงแม้จะให้นางรออยู่ที่นี่ แต่ความเร็วเองก็ไวมาก ใช้วิชาตัวเบาให้ลูกน้องไปซื้อขนมนึ่ง ทุกคนล้วนกินรองท้องเข้าไปคนละสองชิ้นแล้วตอนหลังวันนี้เพื่อเร่งเดินทาง พวกเขาแทบไม่ได้กินอะไรเลย ดื่มแต่น้ำให้ฟู่จาวหนิงกินอะไรเสียก่อนที่นี่ เพระาไป๋หู่ก็กลัวว่าถ้าพอเข้าเรือนไป ก็จะมากเรื่องมากความ เดี๋ยวถ้าเกิดเรื่องขึ้นมา ฟู่จาวหนิงคงไม่ได้กินอะไรแน่ถ้าเผื่อต้องดูอาการไข้ให้ไท่ไท่อาวุโสพอดี ต่อให้ในจวนตระกเตรียมอาหารไว้ นางก็คงไม่สนใจอยู่ดีพวกเขาหิวกันจนไม่ไหวแล้ว อย่างว่าแต่ฟู่จาวหนิงเลยเร่งเดินทางกันมาขนาดนี้ พวกของไป๋หู่ก็นับถือฟู่จาวหนิงเอามากๆ ทั้งนับถือและก็เป็นห่วงนางฟู่จาวหนิงหิวมากจริงๆ หลังจากซื้อขนมนึ่งใบไผ่มานางก็ไม่เกรงใจ กินเข้าไปถึงสามชิ้นมีทั้งที่ไม่มีไส้ มีทั้งไส้ทั่วแดง แล้วยังมีไส้เนื้อด้วย หว
นี่มันไร้สาระไปไหม!อวี๋อวี่เวยเหมือนตนเองโดนเล่นงาน นางตัวโยนจนแทบจะยืนไม่อยู่"ท่านลุง นาง นางคือ..."นางรู้ว่าว่าเพราะอะไรตนเองก่อนหน้านี้ถึงดูโหวงๆฟู่จาวหนิงได้ยินนางเรียกลุง เหลือบมองนางผาดหนึ่ง นี่คือหลานสาวของเสิ่นเสวียนหรือ?แต่นางเหลือบมองเช่นนี้ กลับทำให้อวี๋อวี่เวยรู้สึกได้รับการท้าทาย"จาวหนิง ไป!"เสิ่นเสวียนไม่ได้สนใจอวี๋อวี่เวยเลย และไม่สนใจคนอื่นๆ ด้วย มือกระทั่งยังไม่ทันปล่อย แต่ดึงฟู่จาวหนิงรีบเดินเข้าประตูไปไม่มีใครกล้าขวางเขาฟู่จาวหนิงแค่เหลือบมองกลุ่มคนที่หน้าประตูใหญ่ทันวูบหนึ่งเท่านั้น แต่เพราะนางต้องรีบเข้าไปกับเสิ่นเสวียน จึงไม่ทันได้มองชัดเจน ยังคิดว่าคนตระกูลเสิ่นเหล่านี้ล้วนออกมารับนางเสียอีกมารยาทเองก็ดีอยู่นะนางพยักหน้าให้พวกเขา จากนั้นก็ถูกเสิ่นเสวียนพาเข้าไปแล้วคนกลุ่มใหญ่ที่หน้าประตู ล้วนตะลึงอยู่จนยังตั้งตัวไม่ทันเสิ่นเสวียนในสายตาพวกเขาเป็นคนที่ใจเย็นหยิ่งทะนงไม่น่าเข้าใกล้มาโดยตลอด ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะรู้สึกว่าอย่างอวี๋อวี่เวยนั่นถือว่าใกล้ชิดกับเสิ่นเสวียนมากแล้วได้อย่างไรกัน?ยิ่งไปกว่านั้นข้างกายเสิ่นเสวียนจึงไม่เคยเข้าใกล้หญิง
ฟู่จาวหนิงกระทั่งไม่สนใจท่านผู้เฒ่าที่อยู่ข้างเตียงพอนางเข้ามา สายตาก็ตกไปอยู่บนตัวไท่ไท่อาวุโสบนเตียงทันทีหมอหวางพอเห็นนาง ก็เข้าใจตัวตนฐานะนางทันที มองความสาวความสวยของนางอย่างตกตะลึง พลางรีบส่งพื้นที่ให้กับนาง"จาวหนิง เร็ว" เสิ่นเสวียนตอนนี้ก็เพิ่งจะปล่อยมือฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงเองก็ไม่พูดอะไรไร้สาระ รีบเดินเข้าไปทันที ยื่นมือไปจับที่หัวใจของไท่ไท่อาวุโส มืออีกข้างเปิดหนังตาของนางออกเพื่อตรวจสอบ"หมอหวางใช่ไหม?" นางตรวจสอบไปถ้วยถามหมอหวางไปด้วย "คนป่วยเมื่อครู่มีอาการอะไรบ้าง? ท่านรักษานางอย่างไร ใช้ยาอะไร?"พอนางพูดออกมา น้ำเสียงก็ตั้งใจเคร่งขรึม ทำเอาหมอหวางใจสั่นวาบ เก็บอาการตกตะลึงต่อตัวฟู่จาวหนิงลงด้วยสัญชาตญาณ แล้วตอบคำถามนางออกไปอย่างละเอียด"...เดิมทีข้าจะฝังเข็มให้กับไท่ไท่อาวุโส ให้ชีพจรหัวใจของนางเคลื่อนไหวขึ้นมา แต่ตัวนางชักกระตุก ผิวเนื้อลั่นตึง จนฝังเข็มลงไปไม่ได้""เมื่อครู่จึงใช้ยาลดความตระหนก แต่กรอกลงไปไม่ทันไร ไท่ไท่อาวุโสก็กลืนลงไปด้วยตนเองไม่ได้แล้ว"หมอหวางอยากจะบอกว่า ตอนนี้ชีพจรของไท่ไท่อาวุโสอ่อนแอจนเขาจับไม่โดนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นใบหน้ายังซีดเผือ
หยวนอี้ตอนที่เข้ามาก็เห็นกับภาพที่ 'สับสนอลหม่าน' นี้เขาประกายตาแล่นวาบ กำลังจะเข้าไปในประตูวงกลม ไป๋หู่ก็หมุนตัวมามองเขา "ช้าก่อน"หยวนอี้โบกไม้โบกมือ "สหายไป๋หู่""อย่าเข้าใกล้นัก เหมือนข้าเคยบอกท่านไว้แล้ว ที่นี่ท่านห้ามเข้าไป" ไป๋หู่เอ่ยขึ้นฟู่จิ้นเชินออกมาจัดการความวุ่นวายนี้ ให้ป้าหนิวป้าหลี่มาช่วยประคององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเข้าไปในห้องเฉินเซียงกลับไม่มีใครสนใจ"พวกเจ้ารังแกกันเกินไปแล้ว..."เฉินเซียงดิ้นรนอยู่พักหนึ่งถึงลุกขึ้นมาได้ นางรู้สึกว่าอวัยวะภายในตนเองปวดร้าวไปหมดเท้าของฟู่จาวหนิงแรงหนักขนาดนี้เชียว!นางไม่เป็นวรยุทธ์เลยจริงหรือ?แต่ว่าฟู่จาวหนิงทำไมถึงกล้า กล้าเตะนางขนาดนี้!สายตาของหยวนอี้เก็บกลับมาจากตัวองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ถูกประคองเข้าห้อง หันไปตกอยู่บนตัวเฉินเซ๊ยงแทน ใต้ตาเกิดความสนใจขึ้นมา"แม่นางไปยั่วหมอฟู่อย่างไรกันเนี่ย?"ฟู่จาวหนิงมองเขา ถามไป๋หู่ว่า "นี่ใครหรือ?""บอกว่าชื่อหยวนอี้ ติดตามหมอหลวงคนหนึ่งเข้ามา อยากจะมาช่วยเหลือที่เมืองเจ้อขอรับ" ไป๋หู่บอกกับฟู่จาวหนิงฟู่จิ้นเชินเดินมาอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง กดเสียงลงต่ำ "รู้สึกเหมือนเขาน่าสงสัย
เซียวหลันยวนหมุนตัวจากไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นมองแผ่นเหลังเขา จะอย่างไรก็ตั้งสติกลับมาไม่ได้เฉินเซียงเห็นว่าการสนทนาขององค์หญิงใหญ่พังทลายลงแล้ว สีหน้าก็ลนลานขึ้นมา รีบลุกขึ้นมาไล่ตามเซียวหลันยวนไป"อ๋องเจวี้ยน! ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้!" หมอเทวดาฟู่วางยาอะไรใส่ท่านใช่ไหม ท่านทำไมถึงได้ใจดำขนาดนี้?นางยังไม่ทันพุ่งออกจากประตูวงกลม ก็ถูกไป๋หู่ฟาดกลับมาไป๋หู่ยังใช้แค่กำลังภายในด้วย แต่ห้ามไม่ให้นางออกไป ไม่ได้มีเจตนาจะทำร้ายนางแต่เฉินเซียงก็ทรุดตัวลงบนพื้น แค่รู้สึกว่าเจ็บเข่าเจ็บก้น มือก็เจ็บ หัวก็ปวดไปหมดนางร้องไห้ออกมา "พวกเจ้าจะมารังแกองค์หญิงใหญ่ของพวกเราแบบนี้ไม่ได้ นางเป็นองค์หญิงใหญ่ที่มีโชคมากที่สุดในต้าชื่อนะ"เซียวหลันยวนเดินไปไกลแล้ว ไม่หันหลังกลับมาไป๋หู่ยืนอยู่ที่ประตูวงกลม มององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่นั่งเหม่อลอยอยู่บนพื้น เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ "องค์หญิงใหญ่กลับห้องไปเถิด"จะว่าไปเขาเองก็เป็นคนต้าชื่อเหมือนกัน ก่อนหน้านี้ก็เคยได้ยินเรื่ององค์หญิงใหญ่มามากตอนนี้พอเห็นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกต่ำจนน้ำตานองหน้า เขาก็รู้สึกซับซ้อนขึ้นมาหน่อยๆแต่ว่า องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ
หญิงสาวที่น่าสงสาร ตอนเด็กๆ เขาเห็นในวังหลังมาแล้วไม่น้อย มีภูมิคุ้มกันไปนานแล้ว"ข้าไม่ได้จะแย่งชิงอะไรกับหมอเทวดาฟู่ ถ้าเราแต่งกันหลอกๆ ได้ไหม? ข้าแค่ต้องการหาที่ไปเท่านั้น แค่อยากให้ท่านคอยปกป้องข้าไม่กี่ปี ถ้าห้าปีไม่ได้ล่ะก็ สามปีก็พอ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเห็นเซียวหลันยวนไม่พูดจา จึงหดเวลาลงมาอีก"สามปีนี้ ข้าแค่แบกชื่อพระชายารองไว้ในนามเท่านั้น พออยู่ภายนอกก็ขอให้ท่านอ๋องเล่นละครกับข้าหน่อย แสร้งเป็นสามีภรรยา สามารถปกป้องข้าได้ ในจวนอ๋อง ข้ารับรองว่าจะทำตามหน้าที่ตนเอง เลี่ยงท่านอ๋องให้ห่าง ไม่คิดอะไรเกินเลย""เป็นถึงองค์หญิงใหญ่ต้าชื่อ แต่คิดจะเอาตัวเองไปไว้ในจุดต่ำตมหรือ?" เซียวหลันยวนถาม"อ๋องเจวี้ยนโปรดเมตตา"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน้ำตาไหลพราก "ข้าไม่มีทางเลือกแล้ว ข้าเอาของให้ท่านได้ ยิ่งไปกว่านั้น โชคของข้าก็ดีมาโดยตลอด ถ้าเป็นพระชายารองอ๋องเจวี้ยนในนาม จะต้องช่วยเหลือท่านอ๋องได้แน่ ไม่ว่าท่านอ๋องจะทำอะไร ก็จะยิ่งราบรื่น ผลลัพธ์สมปรารถนา""องค์หญิงใหญ่มั่นใจกับโชคของตนเองขนาดนี้เชียว?" เซียวหลันยวนได้ยินคำนี้ก็อดนึกขันขึ้นมาไม่ได้"โชคจุดนี้ข้ามีอยู่ ท่านเองก็เชื่อข้าได
เซียวหลันยวนมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นและไม่รู้ว่านางทำไมถึงพูดว่า 'เขาเอามาเองไม่ได้' ออกมา"แล้วของนั่นมันคืออะไรกัน?" เขาถามขึ้นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นลนลานขึ้นมานางรู้ที่ไหนว่าสิ่งนั้นคืออะไร? มันคือกล่องที่เปิดไม่ได้ แล้วก็มองไม่เห็นว่าด้านในมีอะไรนี่นา?"ตอนนี้ข้ายังบอกท่านไม่ได้ แต่สำคัญกับท่านมากแน่นอน""เจ้าไม่บอกว่าคืออะไร แล้วข้าจะรู้ได้อย่างไรว่ามันจริงหรือไม่จริง? จะว่าไป เจ้าบอกว่าเจ้าฝันเห็นอนาคตได้ นี่มันก็ดูเหลวไหลเกินไปนะ ข้าควรจะเชื่อเรื่องนี้ด้วยไหม?""เรื่องจริงนะ เพราะข้าฝันเห็นแบบนั้น ตอนเด็กๆ ได้พบกับเจ้าอารามยอดเขาโยวชิง เขาบอกว่า ข้าเป็นตัวเลือกที่เหมาะจะเป็นพระชายาของท่านมาก! แล้วยังชี้แนะข้า ให้ข้าเติบโตอย่างดีในสุสานจักรพรรดิ ถ้ายังไม่ถึงเวลาสำคัญอย่าเพิ่งกลับเมืองหลวง"เซียวหลันยวนก็เชื่อคำพูดของนางอยู่ เจ้าอารามยอดเขาโยวชิงอาจจะพูดเหล่านี้กับนางก็ได้ยิ่งไปกว่านั้น ท่านหูที่คุยถ่ายทอดคำพูดเจ้าอารามมาตลอดก็พูดอะไรทำนองนี้แต่เขาไม่เคยรู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องไปผูกอยู่บนตัวหญิงสาวคนหนึ่งเลยบางทีอาจจะได้ แต่คนคนนั้นก็อาจจะไม่ใช่คนที่เขากำหนด อย่างจาวหนิง
นางอยากจะให้เซียวหลันยวนไม่พอใจตัวฟู่จาวหนิงเสียเหลือเกินแต่พอสิ้นเสียงนาง เซียวหลันยวนก็หันมามองนาง แม้จะสวมหน้ากากอยู่ แต่เฉินเซียงจู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่านางถูกสายตาที่เย็นเยียบแหลมคนฆ่าตายไปแล้วนางใจสั่นวาบ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดเมื่อครู่ที่พูดไป แต่ก็สายไปแล้วนางได้ยินคำพูดเย็นชาของเซียวหลันยวนว่า"องค์หญิงใหญ่ถ้าหากมีเรื่องจะคุยกับข้า ก็ให้ทาสของเจ้าไปคุกเข่าอยู่ตรงนั้นก่อน"เซียวหลันยวนชี้ไปที่กลางสวนคุกเข่าที่นั่น คนป่วยทั้งหมดในห้องข้างฝั่งตะวันตกจะมองเห็นเฉินเซียงถลึงตาโตใส่อย่างไม่อยากเชื่อ"อ๋องเจวี้ยน" องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกตะลึงไป "เฉินเซียงก็แค่ปกป้องข้ามากเกินไปเท่านั้น นางไม่ได้มีความคิดไม่ดี...""ให้นางคุกเข่า ข้าถึงจะฟังเจ้าพูด ถ้านางไม่ทำ ข้าก็จะไปแล้ว" เซียวหลันยวนตัดบทนางเฉินเซียงบอกว่าฟู่จาวหนิงแอบมีชู้กับอันเหนียน เขาจดจำมาโดยตลอด"อ๋องเจวี้ยน เฉินเซียงนางเองก็ป่วย ถ้าไปตากลมหนาวบนพื้น นางจะ...""เช่นนั้นก็ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว"เซียวหลันยวนพูดจบก็หมุนตัวกลับทันทีเฉินเซียงลนลานขึ้นมา "อ๋องเจวี้ยน ข้าจะไปคุกเข่าเดี๋ยวนี้! ท่านโปรดรอก่อน!""เฉินเ
สิ่งที่ทำให้ตาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นขุ่นเคืองคือ ฟู่จาวหนิงคล้องแขนอ๋องเจวี้ยนเดินเข้ามา"พวกเขาทำไมถึงคล้องแขนกันเดินแบบนั้นล่ะ?"เฉินเซียงถลึงตาโตนางไม่เคยเห็นสามีภรรยาเดินกันแบบนี้เลย ปกติแล้ว ภรรยาจะเดินอยู่ด้านหลังสามีประมาณครึ่งก้าวนี่ หรืออย่างมากก็ไหล่ชนไหล่แต่พออยู่ภายนอกก็ต้องคอยระวังเรื่องมารยาท มีใครเขามาคล้องแขนเดินกันแบบนี้บ้าง?ยิ่งไปกว่านั้นตัวฟู่จาวหนิงเองก็ยังเอนมาเบียดแขนอ๋องเจวี้ยนด้วย"นางเดินแบบนี้มันดูสง่างามตรงไหน บิดๆ เบียดๆ เงอะงะงุ่มง่ามเหมือนอะไรล่ะนั่น?" เฉินเซียงกดเสียงต่ำ พูดแบบไม่พอใจกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น "นี่มันดูเป็นพระชายาตรงไหนกัน?"เหมือนพวกอนุภรรยาที่เอาแต่เบียดเสียดชายหนุ่มมากกว่าพระชายาตัวจริงต้องมีท่าทีสง่างาม มีคุณธรรม บุคลิกภาพโดดเด่นสิทำตัวออดอ้อนแบบนี้ มันเหมือนกับปีศาจสาวที่อยากจะสูบพลังหยางจากชายหนุ่มจนตัวสั่นอย่างไรอย่างนั้น เหมือนพวกอนุภรรยาที่ไร้เกียรติเฉินเซียงถึงอย่างไรก็ไม่ชินตาแต่ไม่รู้เพราะอะไร องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นกลับรู้สึกอิจฉาจนควบคุมไม่อยู่ชายหนุ่มที่เย็นชาขนาดนั้นแบบอ๋องเจวี้ยน ก็ยังตามใจให้ฟู่จาวหนิง แล้วยังปร
"ข้ารู้แล้ว อีกเดี๋ยวข้าจะออกไป" เซียวหลันยวนพยักหน้าฟู่จิ้นเชินเงียบไปครู่หนึ่งจึงเอ่ยว่า "นางน่าจะมีเรื่องมาขอร้องท่าน แต่ว่า เรื่องที่นางจะขอร้องข้าเองก็พอจะนึกออก"เขาอยากบอกว่า เรื่องแบบนี้ ถ้าหากรับปากไป ไม่ว่าจะมีความสัมพันธ์สามีภรรยากับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นหรือไม่ แต่การที่พานางเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ถือเป็นการทรยศและทำร้ายจาวหนิงแต่ก็ไม่อยากพูดออกมาตอนนี้เขาอยากจะเห็นว่าเซียวหลันยวนจะเลือกอย่างไร ที่สำคัญที่สุดคือ เขาเองก็ไม่รู้ว่าเงื่อนไขที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นงัดออกมาได้คืออะไร ถ้าเผื่อมันสำคัญอย่างมากกับเซียวหลันยวนจริงๆ ล่ะ?"ท่านพ่อตาอยากพูดอะไรหรือ?" เซียวหลันยวนย้อนถามเขา"อ๋า?"ฟู่จิ้นเชินถูกคำเรียก 'ท่านพ่อตา' ที่มาอย่างกะทันหันนี้ทำเอางงงันไปหมด ตั้งตัวกลับมาไม่ได้ชั่วขณะหนึ่งเซียวหลันยวนก็พูดต่อมาอีก "วางใจเถิด ข้าไม่ทำเรื่องที่ผิดกับหนิงหนิงแน่นอน"พูดจบเขาก็หมุนตัวเตรียมเข้าห้อง ""หากไม่มีเรื่องอะไร คนป่วยทางนั้นรบกวนท่านดูไว้หน่อย ให้หนิงหนิงได้กินข้าวเช้าก่อนพอเซียวหลันยวนเข้าห้องไป ประตูก็ปิดลงมา ฟู่จิ้นเชินมองไปทางชิงอีที่อยู่ข้างๆ ช้าๆชิงอีเองก็
องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกคนเหล่านี้พูดจนตาแทบแดงก่ำนางไม่ยอมให้เป็นแบบนี้!นางเองก็มีเกียรตินะ นางเป็นถึงองค์หญิงใหญ่ เดิมทีควรจะล้ำค่าสูงส่ง สามารถเลือกราชบุตรเขยดีดีได้แต่ตอนนี้นางมีทางเลือกอะไรล่ะ?ถ้าไม่ใช่เพราะนางมีพระเชษฐาแบบนั้น นางคงไม่ต้องทำให้มาถึงจุดนี้หรอกนางแค่อยากจะช่วยตนเองเท่านั้น แล้วมันผิดตรงไหน? ถ้าหากทำได้ นางก็ไม่อยากไปทำร้ายใครทั้งนั้น นางเป็นคนที่มดแค่ตัวเดียวก็ยังทำใจเหยียบไม่ลงด้วยซ้ำ"รบกวนท่านลุงฟู่ด้วย ข้ามีเรื่องสำคัญจริงๆ"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง ถอยไปที่ประตูวงกลมทางนั้นเฉินเซียงถลึงตาใส่ห้องนั้น คารวะให้ฟู่จิ้นเชินอีกครั้ง "รบกวนท่านลุงฟู่ช่วยเหลือด้วย องค์หญิงใหญ่พวกรเาจะไปรออ๋องเจวี้ยนที่นั่น"พูดจบนางก็รีบเดินไปหาองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นฟู่จิ้นเชินส่ายหัวเขาก็เหมือนรู้ว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตกอยู่ในสภาพไหน มาเจอกับฝ่าบาทต้าชื่อแบบนั้น นางเองอันที่จริงก็น่าสงสารแต่ว่า ท้ายสุดแล้วนางก็ยังไม่ฉลาดพอ เส้นทางที่เดินได้ นางกลับเดินอย่างสะเปะสะปะแต่พูดมาก็ถูก นางเติบโตมาที่สุสานจักรพรรดิ ไม่ค่อยได้พบเจอกับผู้คนสักเท่าไร และย
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ