Share

บทที่ 878

Author: จุ้ยหลิงซู
ท่านผู้เฒ่าได้สติกลับมา จับมือภรรยาไว้แน่น เอ่ยกับนางว่า "ฮูหยิน เจ้าได้ยินไหม? จาวหนิงเด็กคนนั้นมาแล้ว อาเสวียนเชื่อมั่นในวิชาแพทย์ของนางขนาดนั้น เจ้าต้องรออีกหน่อยนะ ต้องให้โอกาสเด็กคนนั้นเสียหน่อยใช่ไหม?"

"จะว่าไป อาเสวียนบอกว่า เด็กคนนั้นมีที่มาเช่นเดียวกับพวกเรา อีกเดี๋ยวข้าจะบอกตัวตนของนางกับพวกเรา เจ้าไม่อยากรู้หรือ? เจ้าต้องรอนางนะ"

เสิ่นเสวียนรีบออกจากบ้านตระกูลเสิ่น ทำให้คนของบ้านตระกูลเสิ่นเหล่านั้นตกตกลึงทันที

ท่านลุงรองเสิ่นหลังจากได้ยินก็หรี่ตาลง

"ไม่แน่อาจจะมีเรื่องอะไร หลายวันนี้เขาก็ไม่ใช่ว่าออกไปข้างนอกบ่อยๆ หรือ?"

ออกไปหาคนหายา หาพวกตำรับอาหารบำรุงอะไรพวกนี้

สะใภ้เสิ่นสองเอ่ยขึ้นอย่างหมดความอดทน "ทำเอาข้าลงแรงเปล่าๆ จ่ายเงินไปเปล่าๆ เลย"

คนอื่นเองก็ยอมรับ "เดิมทีตระกูลเสิ่นก็กำลังเดินลงต่ำ ถ้าใช้เงินไปจนหมด กลัวว่าจะตกต่ำไม่เร็วพอหรือไรกัน? พวกเราหลายปีนี้การค้าอะไรก็ถูกกดเอาไว้หมด เจ้าคนพวกนั้นก็ฉลาดกันเป็นกรด รู้ว่าองค์จักรพรรดิมีท่าทีอย่างไรกับตระกูลเสิ่นของพวกเรา พวกเขาจึงไม่เห็นพวกเราอยู่ในสายตาเลย"

พวกเขาถูกราชวงศ์กดดันมานานแล้ว

ตอนนี้ทำอะไรก็ไม่ง่าย ม
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 879

    ในโรงเตี๊ยม ฟู่จาวหนิงรีบแต่งเนื้อตัว เปลี่ยนเสื้อผ้า จัดการตนเองให้สะอาดสะอ้านหลักๆคืออีกเดี๋ยวต้องไปพบไท่ไท่อาวุโส ถึงอย่างไรการไปพบผู้ป่วย นางจะสกปรกไปด้วยฝุ่นทั้งตัวก็คงไม่ดีเท่าไรแต่นางเองก็ไวมาก หลังจากจัดการตัวเองก็ให้พวกของสืออีเตรียมตัวออกเดินทางไว้ตลอดเวลาไป๋หู่ถึงแม้จะให้นางรออยู่ที่นี่ แต่ความเร็วเองก็ไวมาก ใช้วิชาตัวเบาให้ลูกน้องไปซื้อขนมนึ่ง ทุกคนล้วนกินรองท้องเข้าไปคนละสองชิ้นแล้วตอนหลังวันนี้เพื่อเร่งเดินทาง พวกเขาแทบไม่ได้กินอะไรเลย ดื่มแต่น้ำให้ฟู่จาวหนิงกินอะไรเสียก่อนที่นี่ เพระาไป๋หู่ก็กลัวว่าถ้าพอเข้าเรือนไป ก็จะมากเรื่องมากความ เดี๋ยวถ้าเกิดเรื่องขึ้นมา ฟู่จาวหนิงคงไม่ได้กินอะไรแน่ถ้าเผื่อต้องดูอาการไข้ให้ไท่ไท่อาวุโสพอดี ต่อให้ในจวนตระกเตรียมอาหารไว้ นางก็คงไม่สนใจอยู่ดีพวกเขาหิวกันจนไม่ไหวแล้ว อย่างว่าแต่ฟู่จาวหนิงเลยเร่งเดินทางกันมาขนาดนี้ พวกของไป๋หู่ก็นับถือฟู่จาวหนิงเอามากๆ ทั้งนับถือและก็เป็นห่วงนางฟู่จาวหนิงหิวมากจริงๆ หลังจากซื้อขนมนึ่งใบไผ่มานางก็ไม่เกรงใจ กินเข้าไปถึงสามชิ้นมีทั้งที่ไม่มีไส้ มีทั้งไส้ทั่วแดง แล้วยังมีไส้เนื้อด้วย หว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 880

    นี่มันไร้สาระไปไหม!อวี๋อวี่เวยเหมือนตนเองโดนเล่นงาน นางตัวโยนจนแทบจะยืนไม่อยู่"ท่านลุง นาง นางคือ..."นางรู้ว่าว่าเพราะอะไรตนเองก่อนหน้านี้ถึงดูโหวงๆฟู่จาวหนิงได้ยินนางเรียกลุง เหลือบมองนางผาดหนึ่ง นี่คือหลานสาวของเสิ่นเสวียนหรือ?แต่นางเหลือบมองเช่นนี้ กลับทำให้อวี๋อวี่เวยรู้สึกได้รับการท้าทาย"จาวหนิง ไป!"เสิ่นเสวียนไม่ได้สนใจอวี๋อวี่เวยเลย และไม่สนใจคนอื่นๆ ด้วย มือกระทั่งยังไม่ทันปล่อย แต่ดึงฟู่จาวหนิงรีบเดินเข้าประตูไปไม่มีใครกล้าขวางเขาฟู่จาวหนิงแค่เหลือบมองกลุ่มคนที่หน้าประตูใหญ่ทันวูบหนึ่งเท่านั้น แต่เพราะนางต้องรีบเข้าไปกับเสิ่นเสวียน จึงไม่ทันได้มองชัดเจน ยังคิดว่าคนตระกูลเสิ่นเหล่านี้ล้วนออกมารับนางเสียอีกมารยาทเองก็ดีอยู่นะนางพยักหน้าให้พวกเขา จากนั้นก็ถูกเสิ่นเสวียนพาเข้าไปแล้วคนกลุ่มใหญ่ที่หน้าประตู ล้วนตะลึงอยู่จนยังตั้งตัวไม่ทันเสิ่นเสวียนในสายตาพวกเขาเป็นคนที่ใจเย็นหยิ่งทะนงไม่น่าเข้าใกล้มาโดยตลอด ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะรู้สึกว่าอย่างอวี๋อวี่เวยนั่นถือว่าใกล้ชิดกับเสิ่นเสวียนมากแล้วได้อย่างไรกัน?ยิ่งไปกว่านั้นข้างกายเสิ่นเสวียนจึงไม่เคยเข้าใกล้หญิง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 881

    ฟู่จาวหนิงกระทั่งไม่สนใจท่านผู้เฒ่าที่อยู่ข้างเตียงพอนางเข้ามา สายตาก็ตกไปอยู่บนตัวไท่ไท่อาวุโสบนเตียงทันทีหมอหวางพอเห็นนาง ก็เข้าใจตัวตนฐานะนางทันที มองความสาวความสวยของนางอย่างตกตะลึง พลางรีบส่งพื้นที่ให้กับนาง"จาวหนิง เร็ว" เสิ่นเสวียนตอนนี้ก็เพิ่งจะปล่อยมือฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงเองก็ไม่พูดอะไรไร้สาระ รีบเดินเข้าไปทันที ยื่นมือไปจับที่หัวใจของไท่ไท่อาวุโส มืออีกข้างเปิดหนังตาของนางออกเพื่อตรวจสอบ"หมอหวางใช่ไหม?" นางตรวจสอบไปถ้วยถามหมอหวางไปด้วย "คนป่วยเมื่อครู่มีอาการอะไรบ้าง? ท่านรักษานางอย่างไร ใช้ยาอะไร?"พอนางพูดออกมา น้ำเสียงก็ตั้งใจเคร่งขรึม ทำเอาหมอหวางใจสั่นวาบ เก็บอาการตกตะลึงต่อตัวฟู่จาวหนิงลงด้วยสัญชาตญาณ แล้วตอบคำถามนางออกไปอย่างละเอียด"...เดิมทีข้าจะฝังเข็มให้กับไท่ไท่อาวุโส ให้ชีพจรหัวใจของนางเคลื่อนไหวขึ้นมา แต่ตัวนางชักกระตุก ผิวเนื้อลั่นตึง จนฝังเข็มลงไปไม่ได้""เมื่อครู่จึงใช้ยาลดความตระหนก แต่กรอกลงไปไม่ทันไร ไท่ไท่อาวุโสก็กลืนลงไปด้วยตนเองไม่ได้แล้ว"หมอหวางอยากจะบอกว่า ตอนนี้ชีพจรของไท่ไท่อาวุโสอ่อนแอจนเขาจับไม่โดนแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นใบหน้ายังซีดเผือ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 882

    "หมอหวางเติมผงเครือฝ้ายลงไปด้วยใช่ไหม?" ฟู่จาวหนิงถามต่อ"ใช่ ใช่""ยานี้มีประสิทธิภาพอยู่ รบกวนหมอหวางเตรียมผงเครือฝ้ายอีกสักสิบสลึงด้วย" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"ได้!"หมอหวางพอจู่ๆ ถูกชมมา ก็ยืดหลังตรงด้วยสัญชาตญาณ รีบไปพลิกค้นกล่องยาของตนเอง เขาเริ่มเข้าใจว่าต้องมาเป็นลุกมือให้ฟู่จาวหนิงแล้วหลักๆ คือ พลังของฟู่จาวหนิงทำเอาเขาต้องศิโรราบให้อย่างแทบไม่ต้องคิดฟู่จาวหนิงเปิดเสื้อผ้าของไท่ไท่อาวุโสออกนางนำเข็มของตนเองออกมา กางออกหมอหวางเพิ่งหยิบยาออกมา ก็เห็นฟู่จาวหนิงยกเข็มขึ้น"แทงไม่เข้า แล้วยังแทงชีพจรได้ไม่แม่นยำด้วย..."หมอหวางเดิมทีคิดจะเตือนฟู่จาวหนิง แต่คำพูดของเขายังไม่ทันจบ ก็เห็นฟู่จาวหนิงแทงลงไปอย่างรวดเร็วแล้วหนึ่งเข็ม บิดๆ ที่ปลายเข็ม จากนั้นก็หยิบเข็มที่สองดูเอาเถิด หลังจากนางแทงเข็มเล่มแรกเข้าไป ร่างกายที่กระตุกของไท่ไท่อาวุโสก็นิ่งลงทันทีตอนนี้เอง ฟู่จาวหนิงจึงรีบแทงเข็มที่สองพวกเขาทั้งหมดล้วนเห็นว่าร่างกายของไท่ไท่อาวุโสผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด"ผงยาละลายน้ำ แค่น้ำอุ่นครึ่งชามก็พอ อีกเดี๋ยวข้าจะป้อนเอง"ฟู่จาวหนิงฝังเข็มไปด้วย พลางเอ่ยขึ้นโดยไม่เงยหน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 883

    หมอหวางไม่รู้เวลาจึงเข้าไปอยู่ข้างกายนางแล้วเห็นวิธีการนี้ของฟู่จาวหนิง เขารู้สึกว่าการกระพริบตามากครั้งจะเป็นการไม่เคารพต่อนาง และจะสิ้นเปลืองโอกาสการเรียนรู้ของตนเองไปตอนแรกที่เขาได้ยินเสิ่นเสวียนเอ่ยถึงหมอหญิงก็รู้สึกว่าไม่น่าจะเป็นจริงได้เลยต่อมาพอยิ่งฟังลหลักการการรักษาของนางมากเข้า ก็รู้สึกว่านี่เป็นหญิงสาวที่มีวิชาแพทย์เก่งกาจมาก และดูมีความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาด้วยแต่จินตนาการเหล่านี้ก็ยังสู้ตอนที่เขาเห็นกับตาไม่ได้!เดิมทีที่เขาเห็นฟู่จาวหนิงปักเข็มลงไปอย่างรวดเร็ว ยังกังวลว่านางอาจจะแทงผิดจุดชีพจร ถ้าเช่นนั้นก็จะไม่มีผลอะไร แต่ตอนนี้พอเข้ามาดู ทุกรูล้วนแทงลงไปบนจุดชีพจรอย่างแม่นยำถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าเพราะอะไรจึงต้องแทงที่จุดชีพจรเหล่านี้ แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขามองไม่ออกหมอหวางยิ่งรู้สึกตกตะลึงมากขึ้น"เอ่อ แม่นางฟู่ เข็มเล่มนี้ทำไมจึงแทงลงไปลึกเป็นพิเศษกัน?" หมอหวางมองอยู่พักหนึ่งก็ถามขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ตรงนั้นมีเข็มหนึ่งแทงไว้ลึกมาก"เส้นประสาทของจุดชีพจรนี้ค่อนข้างลึก ถ้าแทงไว้ตื้นจะกระตุ้นไม่ได้ ดังนั้นจึงต้องแทงลงไปลึกหน่อย"ฟู่จาวหนิงไม่ได้มีความคิดแปลกประหล

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 884

    นี่ก็เป็นสิ่งที่นางเตรียมการไว้แล้ว"ทำได้แค่ช้าๆ ช้าให้มากที่สุด"นางพูดไปด้วยพลางตกยาใส่ช้อนเล็ก ยื่นชามไปให้กับหมอหวาง "รบกวนท่านถือให้ข้าหน่อย"หมอหวางรีบรับไป ดวงตาจ้องมองการกระทำของฟู่จาวหนิงไม่วางตาฟู่จาวหนิงบีบไปที่แก้มของไท่ไท่อาวุโส นำช้อนใส่เข้าไปในปากนาง แล้วยื่นส่งเข้าไปลึกยิ่งกว่าการป้อนยาแบบทั่วไป ใช้ก้นช้อนกดลง กรอกยาเข้าไปมืออีกข้างก็ช่วยกดนวดลงไปและเห็นไท่ไท่อาวุโสมีท่าทางกลืนยาเล็กๆ ลงไปแล้วถึงอย่างไรขอแค่จะเป็นยาแค่เล็กน้อย ตอนที่กลืนแม้จะอ่อนแอ แต่ก็ถือว่ากลืนลงไปแล้วหมอหวางยินดีขึ้นมาทันที "กลืนลงไปแล้ว!""อืม ตอนนี้ขอแค่อดทนเพียงพอ ค่อยป้อนลงไป" ฟู่จาวหนิงอธิบาย ป้อนคำที่สองช้อนเล็กคันนั้นสามารถตักยาได้นิดหน่อย ป้อนลงไปเหมือนป้อนทารก ยาหนึ่งชามถ้าหากจะป้อนลงไปให้หมดก็ใช้เวลาไม่น้อยเลยแต่นางก็ไม่ได้รู้สึกรำคาญ และป้อนยาทีละช้อนๆ อย่างไม่เร่งไม่ร้อนท่านผู้เฒ่ามองฟู่จาวหนิง และไม่รู้ว่าน้ำตาไหลอาบออกมาตั้งแต่เมื่อไรหญิงสาวคนนี้เข้ามาอยู่ในปลายดวงใจของเขาทันทีทำไมจึงทำให้คนชื่นชอบมากขนาดนี้?รอจนฟู่จาวหนิงป้อนยาเสร็จ พวกเขาก็ล้วนรู้สึกว่าเวลา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 885

    "ไป๋รื่อ แม่นางคนนั้นเป็นใครกันแน่?" อวี๋อวี่เวยร้อนรนขึ้นมาไป๋รื่อไม่สนใจนาง เตรียมจะรีบออกไป และพอดีกับที่ไป๋หู่พาพวกสืออีเข้ามา"ไป๋รื่อ นายท่านล่ะ?""อยู่ในสวนจิ้งชิว พวกเจ้าเข้าไปเถอะ" ไป๋รื่อพยักหน้าให้กับสืออีและสือซานเป็นการทักทายนี่เป็นองครักษ์ที่คุณหนูจาวหนิงพามาจากแคว้นเจา ก็เท่ากับว่าเป็นพวกเดียวกันไป๋หู่พาสืออีกับสือซานเข้าไปทันทีพวกเขาเมื่อครู่ตามมาไม่ทัน จึงช้าไปหน่อย หลังจากมาถึงจวนเสิ่นไป๋หู่ก็จัดคนเอาของของฟู่จาวหนิงส่งไปที่สวนสี่ซินเพราะพอเขากลับมาก็มีการพูดคุยกับองครักษ์ บอกว่านายท่านจัดไว้เสร็จสรรพแล้ว ให้ฟู่จาวหนิงเข้าไปพักที่สวนสี่ซินและคนเหล่านี้ทั้งหมดก็หวางอยู่ที่สวนจิ้งชิวพอดี จึงไม่เห็ฯพวกเขาย้ายของเข้าไปพอย้ายของเสร้๗จึงพาสืออีสือซานมาหาฟู่จาวหนิงอวี๋อวี่เวยพวกนางเองก็เคยเห็นไป๋หู่มาแล้ว รู้ว่าเป็นคนของเสิ่นเสวียน แต่สืออีกับสือซานพวกนางรู้สึกไม่คุ้นอย่างมาก แต่พวกเขาจะเข้าไป ก็ไม่มีใครกล้าพูดอะไรไป๋รื่อให้พวกเขาเข้าไปแล้วตนเองก็รีบออกไปหาคนทำช้อน"อวี่เวย เจ้าเองก็พักอยู่ในจวนเสิ่นมาตลอดนี่? แล้วทำไมคนใช้พวกนี้แต่ละคนถึงไม่เห็นเจ้าในสา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 886

    อวี๋อวี่เวยพอเห็นพี่ใหญ่ ในใจก็ลนลานขึ้นมาพี่ใหญ่ครั้งที่แล้วให้นางออกจากเรือนตระกูลเสิ่น แต่นางก็ไม่ยอมกลับไปมาตลอดอวี๋เสิ่นจือมองลูกสาว รุ้สึกว่านางเปลี่ยนไปจนดูแปลกหน้า ปกติจะดูอ่อนหวานไร้เดียงสา แต่อาการโมโหเกรี้ยวกราดที่ตะคอกใส่เหล่าพี่น้องป้าๆ ตระกูลเสิ่นเมื่อครู่ นางที่เป็นแม่ก็ไม่เคยเห็นมาก่อนเลย"อาหว่าน เจ้ามาได้อย่างไรกัน" สะใต้รองเสิ่นมองอวี๋เสิ่นจือเสินหว่าน แลดูถูกอยู่หน่อยๆเสินหว่านคนนี้หลายปีก่อนทำตัวหงออยู่แต่ในบ้านสามีมาโดยตลอด ขนาดคลอดลูกชายลูกสาวออกมาคู่หนึ่งแท้ๆ แต่ก็ยังต้องมาชอกช้ำในบ้านสามี ลูกสาวตอนยังเด็กเพราะได้รับความชื่นชอบจากฮูหยินอาวุโส จึงส่งนางกลับมาเลี้ยงที่บ้านฝ่ายหญิง เป็นแบบนี้เสียที่ไหน?ถึงอย่างไรสะใภ้รองเสิ่นก็ยังรู้สึกดูถูกหลานสาวของบ้านสามีคนนี้และในช่วงนี้เอง ท่านแม่ก็ป่วยจนำแทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว เสินหว่านยังไม่กล้าพูดเลยว่าจะกลับมาปรนนิบัติในช่วงเวลานี้ สู้พวกนางก็ไม่ได้เสินหว่านยิ้มขืน "สุขภาพท่านยายไม่ดีเท่าไร ยังไปไหนไม่ได้พักหนึ่ง""แม่ของเจ้าแทบจะไม่ไหวอยู่แล้ว ตอนนี้เจ้าก็ยังเอาแต่ปรนนิบัติท่านยายอยู่อีก" อาสะใภ้สามเสิ่นเอ่ยแข

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1884

    และมีเหล่าขุนนางใหญ่แอบคุยกันถึงเรื่องนี้องค์จักรพรรดิโมโหจนล้มป่วยส่วนเหล่าทูตจากแคว้นหมิ่นก็ไม่ได้อยู่ในเมืองหลวง หลังจากหยวนอี้กลับมา ก็บอกกับภายนอกว่าไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อม แล้วจึงอยู่แต่ในวังราชนิเวศน์ไม่ออกไปพบใครตอนนี้ยังออกไปลำบากแต่ความเป็นจริงคือเนื่องจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นบาดเจ็บ จำเป็นต้องหลบเพื่อพักฟื้นก่อนองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็แต่งตัวเป็นสาวใช้วังซ่อนอยู่ในวังราชนิเวศน์ระหว่างทางจากเมืองเจ้อกลับเมืองหลวง นางเองก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด เฉินเซียวตายไปแล้ว องครักษ์ของนางก็ตาย เหลือแค่นางคนเดียว ตอนนี้จึงจำใจต้องพึ่งพาหยวนอี้ไปก่อนไม่ใช่แค่หยวนอี้ที่บาดเจ็บ นางเองก็บาดเจ็บด้วยก่อนหน้านี้ป่วยไปรอบหนึ่ง บวกกับการบาดเจ็บครั้งนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นผอมลงไปมากเมืองเจ้อเองก็สงบไปอีกหลายวันครึ่งเดือนต่อมา ฟู่จาวหนิงในที่สุดก็ควบคุมโรคระบาดเอาไว้ได้ทั้งหมด เมืองเจ้อยกเลิกการปิดเมืองคนทั้งเมืองล้วนดีใจกันอย่างบ้าคลั่งวันที่ฟู่จาวหนิงจะออกจากเมืองเจ้อ ประชาชนทั้งเมืองก็มาล้อมส่งที่ถนนอยู่ในเมืองเจ้อนานขนาดนี้ ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกผูกพันกับเมืองเจ้อขึ้นมาแล้ว แต่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1883

    โจวติ้งเจินถูกผลักออกไปจากเมืองเจ้อมาได้ครึ่งทางเขาก็ได้สติขึ้นมา พอรู้ว่าตนเองต้องถอนกำลังแบบนี้ ก็โมโหจนแทบจะเป็นลมไปอีกรอบแต่เขาก็ถ่ายหนักจนตัวโยน ตอนนี้แค่แรงจะด่าก็ยังไม่มีเพราะในป่าในเขา เขากระทั่งไม่มีกระดาษแล้ว ดังนั้นจึงต้องใช้ใบไม้กับกิ่งไม้มาจัดการ ตอนนี้รูทวารเองก็เต็มไปด้วยแผล ขยับทีก็เจ็บเหลือแสน"กลับ กลับไป..."รองขุนพลเห็นสภาพแบบนี้ของเขา ก็เอ่ยขึ้นอย่างลำบากใจว่า "ท่านขุนพล ครั้งนี้พวกเราช่างมันเถอะ อ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนร่วมมือกัน วิธีการก็ชั้นต่ำมาก ไม่รู้ว่ายาพวกนั้นของพวกเขาจัดการมาอย่างไร ถ้าพวกเรายังไปอีก ไม่รู้ว่าต้องติดยากันอีกกี่รอบนะ"ยิ่งไปกว่านั้น พวกเขาทางนั้นก็ไม่มีอะไรกินกันแล้ว เดิมทีคิดว่าวันสองวันก็น่าจะจัดการเรื่องนี้เสร็จแล้ว ใครจะคิดว่าอ๋องเจวี้ยนจะไร้เหตุผล ถึงกับใช้วิธีการแบบนี้แล้ววรยุทธ์ของอ๋องเจวี้ยนก็ห่างชั้นกับพวกเขา ตราบใดที่ไม่ต้องปะทะกับท่านขุนพล เขาก็แฝงเข้ามาในกลุ่มพวกเขาได้ ถ้าหากเข้ามาก็ไม่มีใครขวางอยู่หรอกพวกเขาถ้ายังอยู่ที่นี่ต่อ ยังไม่รู้ว่าจะมีจุดจบอย่างไร ต่อให้ไม่ตายชีวิตก็น่าจะหายไปซักครึ่งอยู่"ท่านขุน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1882

    โจวติ้งเจินไม่อยากจะออกไปไกลหน่อยเสียที่ไหน?แต่เขาทำไม่ไหวน่ะสิ!ท้องเสียครั้งนี้ ลากยาวไปถึงสามวัน!คืนวันที่สอง พวกทหารที่เรี่ยวแรงหายไปก็ฟื้นกลับมาพอควรแล้ว โจวติ้งเจินกลับล้มลงไปแทนเขาถ่ายออกมาจนทั้งเนื้อตัวซีดไปหมด ไม่มีแรงจะพูดจาเลยทีเดียวตอนที่เขาเตรียมจะรองขุนพลเตรียมเข้าไปตีเมือง รองขุนพลก็เริ่มท้องเสียบ้างแล้ววันที่สาม เขาออกคำสั่งอย่างอ่อนแรงให้ทหารเข้าไปโจมตีเมือง ให้รองขุนพลน้อยหลายคนนำทหารออกไป เหล่าทหารก็ไม่มีแรงกันขึ้นมาอีก!ทหารกว่าครึ่งล้มลงไปนอนระเนระนาดอีกครั้ง ลุกกันไม่ขึ้นแผนการโจมตีเมืองถูกบีบให้หยุดชะงักอีกครั้งโจวติ้งเจินโมโหจนเกือบจะเส้นเลือดในสมองแตกเขาตอนนี้ยังมองไม่ออกที่ไหนว่าเป็นฝีมือเซียวหลันยวน?แต่เขาก็คิดไม่ออกว่าอีกฝ่ายวางยามาได้อย่างไร! ยาพวกนั้นทำไมถึงไม่มีสีมีกลิ่นเลย"ต้องเป็นฟู่จาวหนิงแน่ๆ ต้องเป็นยาที่นางทำขึ้นมา..."สุดท้ายโจวติ้งเจินคิดออกถึงจุดนี้ แต่ตอนนี้เขาก็ถ่ายออกมาจนตัวโหวง ลุกไม่ขึ้นที่นี่ไม่มีอะไรที่กินได้แล้ว ต่อให้ล่าสัตว์มา ตอนนี้เขาก็กลืนไม่ลงถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป โจวติ้งเจินรู้สึกว่าตัวเองต้องตายแน่รองขุนพ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1881

    อันเหนียนรู้สึกว่า สามีภรรยาอย่างพวกเขาทั้งสองคนถ้าอยู่ด้วยกันนานอีกหน่อย อาจจะมีอะไรใหม่ๆ ออกมาอีกก็ได้ดังนั้น พวกเขาจึงเป็นคู่สวรรค์สร้าง ใครก็แทรกกลางเข้าไปไม่ได้เซียวหลันยวนเดินเข้ามา เห็นอันเหนียนกำลังคุยอยู่กับฟู่จาวหนิงเขาชะงักไปเล็กน้อย แล้วจึงเดินเข้ามา ยืนอยู่ข้างๆ ฟู่จาวหนิง แต่มองไปทางอันเหนียน"คุยอะไรกัน?"คุยกันสนุกเชียวนะ? เหมือนจะเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าอันเหนียนด้วยฟู่จาวหนิงเองก็สีหน้ามีชีวิตชีวาเหมือนกันเอาอีกแล้ว อันเหนียนก่นด่าในใจ เจอเข้ากับสายตาของเซียวหลันยวน "กำลังคุยกับพระชายา ว่าพวกท่านตอนนี้นิสัยคล้ายคลึงกันเรื่อยๆ แล้ว""อย่างนั้นหรือ? พวกเราเป็นสามีภรรยา จะคล้ายกันมันก็เรื่องปกตินี่" เซียวหลันยวนบีบแขนฟู่จาวหนิง"มือทำไมเย็นนักล่ะ?" ฟู่จาวหนิงโดนความเย็นของมือเขาดึงความสนใจไปทันที นางพลิกกลับมากุมมือเซียวหลันยวน มืออีกข้างก็ปลดหน้ากากของเขาลงมาพอปลดหน้ากากถึงจะเห็นสีหน้าของเขาดูแล้วยังดีอยู่"ฝนตกลงมาครู่หนึ่ง แล้วนอกเมืองก็อากาศเย็นมาก" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น ดึงนางมาไว้ในอ้อมกอด "หนิงหนิงให้ข้ากอดหน่อย เดี๋ยวก็อุ่นขึ้นแล้ว"แค่กๆอันเหนียน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1880

    ยาครั้งนี้ มีประสิทธิภาพมากจริงๆพอถึงตอนฟ้าสาง มีคนป่วยหนักแต่เดิมหลายคน มีอาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเดิมทีที่ป่วยจนไม่รู้สึกตัวแล้ว วันนี้ตอนเช้าก็สามารถประคองตัวลุกขึ้นนั่งมากินข้าวต้มได้นี่ทำให้คนทั้งหมดดีใจกันมากมีผลลัพธ์เช่นนี้ ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวรู้สึกว่าตนเองวันนี้เดินเชิดหน้ายืดหลังตรงได้เสียทีนี่อธิบายได้ว่ามีความหวังแล้วจริงๆ! ไม่สิ พูดว่าเป็นความหวังไม่ได้แล้ว มันมีผลลัพธ์ที่ดีแล้วต่างหากตอนที่ฟู่จาวหนิงวุ่นอยู่ทั้งคืน เซียวหลันยวนเองก็ออกไปทั้งคืนไม่ได้กลับมาตอนที่ฟู่จาวหนิงได้พัก ได้กินข้าวเช้า จึงเพิ่งนึกได้ว่าเซียวหลันยวนไม่รู้หายไปไหนนางถามสืออี สืออีก็ดูจะตื่นเต้นขึ้นมารางๆ"ท่านอ๋องออกเมืองไปแล้วขอรับ"ออกเมือง?เซียวหลันยวนออกจากเมือง แล้วทำไมสืออีถึงดูตื่นเต้น?"หรือจะออกไปหาโจวติ้งเจิน?" ฟู่จาวหนิงตกตะลึงถึงแม้ทหารส่วนใหญ่จะโดนพิษที่ทำให้เสียกำลังในการต่อสู้ไป แต่ก็มีส่วนน้อยที่ไม่ได้โดนพิษ หรืออาจจะมีคนที่โดนพิษไปน้อยมาก นั่นก็ยังสู้ได้อยู่นะองครักษ์ของเซียวหลันยวนส่วนใหญ่ยังอยู่ที่นี่ เพราะเมื่อคืนตอนที่นางวิ่งไปดูแลคนป่วยตรงนั้นตรงนี้ ย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1879

    แต่ว่านางเองก็เห็นว่าฝนเองก็ตกอย่างที่ฟู่จิ้นเชินคำนวณไว้จริงๆตอนนี้พอเห็นสีหน้าของฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน ก็รู้ว่าน่าจะเรียบร้อยดี"ให้ใต้เท้าอันเล่าเถอะ เขาเล่านิทานเก่งกว่าข้า" เซียวหลันยวนไม่ค่อยชินที่ต้องพูดอะไรยาวๆ สถานการณ์แบบนี้ให้อันเหนียนพูดดีที่สุดอันเหนียนเองก็ดูจนใจ นี่มองเขาเป็นพวกนักเล่านิทานหรือไรกัน?ปกติเขากับพูดกับพระชายามากหน่อย อ๋องเจวี้ยนก็จะหึงหวงขึ้นมา แล้วมาใช้เขาแบบนี้ ไม่หึงแล้วเรอะ?ถึงแม้จะไม่ค่อยพอใจ แต่ตอนที่สายตาคาดหวังของฟู่จาวหนิงหันมา อันเหนียนก็เล่าฉากเมื่อครู่ออกมาอย่างมีชีวิตชีวาฟู่จาวหนิงหลังจากฟังก็อดขำขึ้นมาไม่ได้"ดูท่าขุนพลโจวคืนนี้คงจะน่าเวทนาเอาเรื่อง ฤทธิ์ของผงยานั่น ก็ทำให้พวกเขากระทั่งแรงจะตั้งค่ายก็ยังไม่มีจริงๆ นั่นล่ะ"ยิ่งไปกว่นั้นพวกเขายังไม่มีแรงจะเดินไปไหนไกลได้ด้วยถ้าหากฝนตกทั้งคืน เช่นนั้นพวกเขาก็อาจจะต้องตากฝนกันทั้งคืนและคืนนี้ โจวติ้งเจินก็ซมซานจนต้องด่าพ่อล่อแม่ออกมาเลยทีเดียวแต่ว่าคนมากมายแค่แรงจะด่าก็ยังไม่มียังดีที่ฝนห่านี้ไม่ได้มีฟ้าผ่า พวกเขาถอยลงไปตีนเขากันอย่างยากลำบาก ที่นั่นมีต้นกล้วยอยู่ผืนใหญ่ แล

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1878

    เหล่าทหารถ้าให้บอกว่าตัวเองไม่สบายตรงไหน แล้วยังไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียน หรือปวดท้องปวดบิดปวดหัวหรืออยากถ่ายอะไรทำนองนั้นเลยพวกเขาแค่รู้สึกไม่มีเรี่ยวแรงอย่างเดียวเท่านั้น!"แม่งเอ๊ยจู่ๆ ก็มาอ่อนแรงเป็นผู้หญิงได้ยังไงกัน!" มีคนอดก่นด่าตัวเองขึ้นมาไม่ได้ คิดจะยกมือขึ้นทุบตัวเองก็ยังไม่มีแรงเลยตอนนี้จู่ๆ ก็สัมผัสได้ว่าอะไรคืออ่อนแอดั่งหลิวต้องลม ปวกเปียกจนดูแลตัวเองไม่ได้มีคนลงไปนอนบนพื้นขนาดแค่จะปีนขึ้นมาก็ยังไม่มีแรง"ลุกขึ้นมา!""บอกให้พวกเจ้าลุกขึ้นมา ไม่ได้ยินรึ? อย่าบีบให้ข้าต้องซัดพวกเจ้านะ!"โจวติ้งเจินโมโหจนมึนงง ตะโกนขึ้นดังลั่น กระโจนลงมาจากม้า สาวเท้าเดินเข้าไปข้างตัวทหารที่อยู่ใกล้เขาที่สุด ยกเท้าขึ้นเตะคนที่นอนอยู่บนพื้น"ลุกขึ้นมาได้ยินไหม? พวกเจ้าดูซิพวกเหมือนตัวอะไรกันไปแล้ว?"มาตีเมืองกันแท้ๆ แต่ตอนนี้ดันมานอนบนพื้น! มานอนกันจนทำให้คนบนหอเมืองหัวเราะเยาะ! ดูแล้วยังเป็นเขาด้วยที่กลายเป็นเรื่องตลก!"พวกเจ้าสภาพแบบนี้ ขุนพลอย่างข้าก็เหมือนเข้ามาเป็นตัวตลกให้เขาดูแล้ว!"เข้ามาเป็นตัวตลกให้เซียวหลันยวน!และตอนนี้ บนหอเมืองก็มีเสียงของเซียวหลันยวนลอดเข้ามา"ข

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1877

    มีคนตกใจมีคนร้องโหยหวนมีคนมีคนที่กระโดดโลดเต้นและมีคนที่จะกระโดดก็ยังกระโดดไม่ขึ้น หลังจากล้มลงบนพื้นก็ถูกคนข้างๆ ล้มทับกันเข้ามาอีกชั่วขณะหนึ่ง ท่วงท่าที่องอาจน่าเกรงขามแต่เดิมของทหาร ก็ดูสับสนโกลาหลเหมือนสุนัขเหมือนไก่ขึ้นมาแม้เอาทหารมากมายไปเทียบกับสุนัขกับไก่จะไม่ค่อยเหมาะสม แต่สภาพเช่นนี้ก็ค่อนข้างใกล้เคียงกัน เพราะเดิมทีเหล่าทหารก็เตรียมพร้อมจะโจมตี จัดกระบวนกันเรียบร้อยแล้ว จู่ๆ ก็หมดเรี่ยวแรงกัน จึงควบคุมไว้ไม่อยู่โจวติ้งเจินพอเห็นสถานการณ์ก็ยิ่งโกรธยิ่งร้อนรนชั่วขณะหนึ่งก็ไม่แน่ใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ยิ่งไปกว่านั้นฤทธิ์ยาของคนเหล่านี้ก็ไม่เหมือนกันด้วย มีพวกที่อยู่ใกล้หน่อยสูดกันเข้าไปก่อน มีบางส่วนสูดเข้าไปช้าหน่อย บางคนก็สูดเข้าไปมาก บางคนก็สูดเข้าไปน้อยแล้วยังต้องดูกำลังภายในคุณสมบัติร่างกายของแต่ละคนด้วยอย่างโจวติ้งเจิน วรยุทธ์ของเขาแข็งแกร่งที่สุด กำลังภายในลึกล้ำ ดังนั้นเขาตอนนี้ยังไม่รู้สึกไม่สบายเท่าไรนักและเพราะเขาที่อยู่ตรงนี้ ตัวเขาไม่สังเกตเห็นความผิดปกติในร่างกาย จึงยิ่งไม่เข้าใจว่าเหล่าทหารเกิดอะไรกันขึ้น"วันนี้กินอะไรกันเข้าไป? โดนพิษอะไรเข้าหร

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1876

    ฟู่จาวหนิงมั่นใจอย่างมากต่อยาที่ตนเองสกัดขอแค่องครักษ์เหล่านั้นสามารถสาดยาออกไปตามทิศทางลมได้ อย่างน้อยก็ต้องทำลายพลังต่อสู้ของทหารได้ครึ่งหนึ่งยิ่งไปกว่านั้นประสิทธิภาพของยานี้ก็อยู่ได้ถึงเกือบหนึ่งวันเต็มจึงจะอ่อนกำลัง เวลาหนึ่งวัน เพียงพอจะให้โจวติ้งเจินลนลานจนทำอะไรไม่ถูกอยู่ทหารจำนวนมากขนาดนี้ล้อมเมืองอยู่ อยู่ดีดีก็ไม่มีเรี่ยวแรง แค่ไปหาสาเหตุก็แทบแย่แล้วโจวติ้งเจินตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เขาเห็นว่าหนึ่งชั่วยามที่กำหนดให้กับโหยวจางเหวิน อีกฝ่ายกลับไม่ยอมเปิดประตูเมืองส่งคนป่วยออกมา ก็รู้ว่าโหยวจางเหวินต้องคิดจะปกป้องคนป่วยเหล่านั้นแน่นอน"โง่เขลาเสียจริง โหยวจางเหวินคิดว่าตัวเองเป็ฯคนใจบุญมากนักหรือไรกัน? เขาคิดว่าตัวเองจะปกป้องคนมากขนาดนี้ในเมืองเจ้อได้เรอะ? ยังคิดว่าอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนจะมาคอยหนุนเขาได้หรือไรกัน?"โจวติ้งเจินกัดฟัน เรียกรองขุนพลออกมา "เตรียมโจมตีด้วยไฟ แล้วก็เตรียมบุกประตูเมือง"พวกเขาเดิมทียังมีแผนสำรองแบบนี้ไว้ด้วยต่อให้ไม่คิดจะโจมตีเข้าเมืองจริงๆ แต่ก็ยังจะทำท่าทีแบบนั้น ใช้ไม้ซุงทลายประตูโจมตีเข้ามาที่ประตูเมือง ทำให้เกิ

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status