ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่รู้เพระาอะไรถึงรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกนัก เพราะสืออีสือซานก็ล้วนมองนางอย่างกังวลสืออียังกำข้าวสารมากำหนึ่ง โปรยให้กับนกพิราบสื่อสารทั้งสองตัวนางมองเลื่อนลงไปอีกประโยคที่สอง: ข้าหลายวันนี้อยู่แต่นจวนอ๋อง ไม่ได้ออกไปไหนเลย ปิดประตูไม่พบแขก อาบน้ำยาตามเวลา กินยาตรงเวลา นอนตามเวลาฟู่จาวหนิงมองไปทางนกพิราบสื่อสารที่กำลังก้มหน้าจิกข้าวสารอย่างเหนื่อยอ่อนทั้งสองตัวนั้น รู้สึกขึ้นมาฉับพลันว่าพวกมันน่าสงสารจริงๆส่งจดหมายตอนนี้ คำพูดเหล่านี้ไม่ต้องพูดก็ได้ แค่บอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีก็จบไหม?"ท่านผู้เฒ่ากับเสี่ยวเฟยกลับบ้านตระกูลฟู่ ข้าให้จงเจี้ยนติดตามไปอยู่ที่บ้านตระกูลฟู่แล้ว มีจงเจี้ยนอยู่ เชื่อว่าเจ้าคงจะวางใจได้หน่อย""แล้วก็ ในเมืองหลวงเนื่องจากองค์หญิงหนานฉือเดินสาย งานเลี้ยงมากมายจัดขึ้นไม่หยุดหย่อน คึกคักมาก แต่ข้าก็ไม่ได้สนใจ"อ่านถึงตรงนี้ก้ยังไม่เข้าเรื่องทางการเสียทีสืออีทนไม่ไหวแล้ว ถามขึ้น "พระชายา ท่านอ๋องเขียนอะไรหรือ?""...ตอนนี้ยังไม่เห็นสิ่งที่สำคัญเลย"ฟู่จาวหนิงตอบกลับไปคำหนึ่งเอาล่ะ ยังไม่พูดว่าสำคัญหรือไม่สำคัญ แต่คำพูดพวกนี้ข้ามไ
ฟู่จาวหนิงสุดท้ายก็สองจิตสองใจ เขียนไปอีกครึ่งแผ่นแล้วก็ยื่นส่งให้เขาเซียวหลันยวนได้รับจดหมายนาง ก็เห็นภาพดินสอถ่านรูปนั้นก่อน จากนั้นก็มองเห็นตัวหนังสือหลายบรรทัดข้างๆ"นี่เป็นหน้าตาของเก๋อชีซิงที่วาออกมาตามที่ไป๋หู่บรรยาย ท่านลองเทียบดูว่าใช่คนนี้ไหม ไป๋หู่บอกว่าตอนอยู่ที่ต้าชื่อไม่เคยรู้ว่าเก๋อชีซิงรู้วิชาแพทย์ ท่านลุงก็ไม่เคยให้เขารักษามาก่อน เรื่องนี้ทำให้คนผู้นี้น่าสงสัย ลองตรวจสอบดูได้"แค่นี้หรือ?เซียวหลันยวนพลิกจดหมายดูด้านหลัง ด้านหลังก็ไม่มีอะไรเขียนไว้เขามองชิงอี "หมดแล้วหรือ?"ชิงอีไม่เข้าใจ "ท่านอ๋อง น่าจะยังมีอีกอย่างนั้นหรือ?"พระชายาบอกว่าจะเขียนจดหมายหลายหน้าหรือ?เซียวหลันยวนเม้มริมฝีปากขึ้นทันที ไม่เบิกบานเสียแล้ว เขาเขียนไปตั้งมากมาย ฟู่จาวหนิงตอบมาแค่หน้าเดียว ยิ่งไปกว่านั้นด้านครึ่งจดหมายยังเป็นรูปของเก๋อชีซิงอีกด้วย แต่สักคำเดียวก็ไม่พูดถึงเขาเลย ไม่สนใจเขาเลยหรือว่าพวกเขาแยกกันเช่นนี้ ความรู้สึกก็จืดจางลงไปด้วย?"ไปถามชินอ๋องเซียวดูว่าเก๋อชีซิงคนนั้นหน้าตาเป็นแบบนี้หรือเปล่า" เขายื่นจดหมายส่งออกไป"ขอรับ" ชิงอีรับจดหมายมา เหลือบมองผาดหนึ่งที่แท
องค์จักรพรรดิตอนนี้จำเป็นต้องมีคนหนึ่งมาแทนที่ตำแหน่งของหมอเทวดาหลี่หมอเทวดาหลี่ตอนนี้กำเริบเสิบสานไปหน่อยจริงๆ ลูกสาวของเขาออกเรือนกับเซียวเหยียนจิ่งก็ถือว่าได้แต่งงานสูงเกินตัวแล้ว แต่พวกเขาพ่อลูกก็ยังอาละวาดอยู่ในจวนชินอ๋องเซียว ทำให้คนในเมืองหลวงต้องมาเห็นเรื่องตลกอยู่นานสองนานจวนชินอ๋องเซียวก็ถือเป็นครอบครัวของราชวงศ์นะพอเห็นเรื่องตลกของจวนชินอ๋องเซียวก้เท่ากับเห็นเรื่องตลกของราชวงศ์ชินอ๋องเซียวไม่ได้มาฟ้ององค์จักรพรรดแค่ครั้งเดียว แต่องค์จักรพรรดิไม่สามารถให้ความเป็นธรรมกับเขาได้ ใครทำให้พวกเขาต้องเอาแต่พึ่งหมอเทวดาหลี่กันล่ะ?แต่ก่อนหน้านี้พวกเขามีอาการป่วยบางอย่าง หมอเทวดาหลี่รักษาไม่ได้ พวกเขาแค่คิดว่าอาการป่วยนี้หนักมาก ถ้าไม่ใช่หมอใหญ่ไม่มีทางรักษาได้ จึงทำได้เพียงยอมรับไปหลังจากที่ฟู่จาวหนิงปรากฎตัว พวกเขาจึงพบว่า ที่แท้ยังมีอีกหนึ่งความเป็นไปได้คือวิชาแพทย์ของหมอเทวดาหลี่อันที่จริงก็ไม่ได้ดีสักเท่าไรตอนนี้องค์จักรพรรดิก็หวังว่าจะมีหมอใหญ่ที่วิชาแพทย์เก่งกว่าหมอเทวดาหลี่อีกสักคนหนึ่งปรากฏตัวขึ้นเก๋อชีซิงก็ปรากฏตัวขึ้นแล้วตอนนี้"ชินอ๋องเซียว เจ้าไปพบกับหมอเก
องค์จักรพรรดิฟังแล้วมึนหัวหน่อยๆนี่ทำไมเหมือนฟังเรื่องเหลือเชื่ออยู่เลย?"หลังจากนั้นล่ะ?""ของในห้องลับนั้นมีไม่น้อยเลย หลังจากข้าจัดการออกมาจึงพบถึงสถานที่ที่พ่อของข้าจากมา เขาบอกว่าตนเองไม่ใช่คนต้าชื่อ เป็นคนของตงฉิง ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นผู้สืบทอดตระกูลขุนนางแพทย์แห่งแคว้นตงฉิงด้วย ตอนนั้นเขากับปู่ของข้าติดตามใต้ฝ่าพระบาทไปทำการทูตที่ต้าชื่อ นำคัมภีร์ยาหนังสือแพทย์มาด้วยส่วนหนึ่ง คิดจะส่งมอบให้กับต้าชื่อ"ซู๊ดองค์จักรพรรดิฟังถึงตรงนี้แล้วอดสูดปากไม่ได้ตงฉิง!เป็นคนตงฉิงจริงหรือ?ได้ยินว่าแคว้นเจาตอนนั้นก็ได้รับของดีดีมาจากตงฉิงด้วยเหมือนกัน เรื่องนี้พูดขึ้นมาก็ไม่ค่อยน่าภูมิใจเท่าไร ประชาชนแคว้นเจาไม่รู้กัน ตัวเขาเองก็ยังไม่ค่อยชัดเจนเท่าไรนักน่าจะต้องเป็นพวกเหล่าขุนนางเก่าในราชวงศ์ที่แก่หง่อมจนฟันหลุดหมดปากแล้วเท่านั้นที่จะรู้อยู่บ้างแต่องค์จักรพรรดิก็ยังรู้ว่าไม่น่าภาคภูมิใจเท่าไร ดังนั้นเขาจึงไม่อยากจะไปถามให้ชัดเจน ตงฉิงหายไปนานแล้ว และไม่ใช่แคว้นเจาที่ทำให้มันล่มสลาย ใครจะยังไปสนใจอดีตกันว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น?เพียงแต่ตอนนี้พอเผชิญหน้ากับคนของตงฉิงคนหนึ่ง องค์จั
องค์จักรพรรดิก่อนหน้านี้ที่เห็นหมอเก๋อ ก็เป็นแค่ผู้เฒ่าที่มีวิชาแพทย์คนหนึ่ง แน่นอนว่าเป็นชายชราที่มีประโยชน์กับเขา แต่ตอนนี้พอมองหมอเก๋ออีกครั้ง กลับดูมีแสงประกายแห่งผู้วิเศษที่ดูเหมือนเซียนขึ้นมาเสียอย่างนั้น"หมอเก๋อ จะยืนพูดกันอยู่ทำไม? นั่งลงคุยกันเถิด"องค์จักรพรรดิร้องเรียกขึ้นทันที "ใครก็ได้ ยกน้ำชามา ยังต้องให้ข้าสอนพวกเจ้าทำงานอีกหรือ?"เก๋อชีซิงนั่งลง ดื่มชา และรู้สึกว่าที่ตนเองเลือกมาแคว้นเจาคือถูกต้องแล้ว หลังจากนี้เขาก็จะเป็นคนเหนือคนแล้วที่ต้าชื่อ เขากังวลว่าถ้าจักรพรรดิต้าชื่อถูกโค่นไป ของทั้งหมดคงถูกแย่งไปทั้งหมดราชวงศ์ต้าชื่อ เดิมทีก็มีสัญชาตญาณสัตว์ป่าแย่งชิงของชาวบ้านอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นต้าชื่อก่อนหน้านี้จะต้องทำเรื่องที่แม้แต่ฟ้าก็ยังรับไม่ได้กับตงฉิงอย่างแน่นอน พวกเขายิ่งต้อนรับคนรุ่นหลังของตงฉิงไม่ลง กลัวว่าความลับในอดีตจะถูกเปิดโปงออกมามากกว่าแคว้นเจาแน่นอนพวกเขาไม่มีทางให้รุ่นหลังของตงฉิงได้เห็นแสงเดือนแสงตะวันดังนั้นถ้าเขาเปิดเผยจุดนี้กับต้าชื่อ คงได้ตายแบบไม่มีหลุมฝังแน่นอนลองดูบทลงเอ่ยของตระกูลเสิ่นที่แต่เดิมโดดเด่นแต่ต้องมาตกอับเหมือนปัจจุบั
เกี่ยวกับจุดนี้ เขายังคิดๆ ว่าจะเอาตำแหน่งใดให้กับหมอเก๋อดี"เช่นนี้ จวนก็สำคัญ จะมอบให้ก่อน เจ้าเองก็เก็บกวาดแล้วย้ายเข้าไปแล้วกัน""เป็นพระมหากรุณาธิคุณ!" เก๋อชีซิงลิงโลดขึ้นมา คุกเข่าลงขอบคุณทันที"เพียงแต่ว่า" องค์จักรพรรดิเปลี่ยนน้ำเสียง "ข้าเองก็มอบให้เจ้าโดยไม่มีเหตุใดได้เสียด้วย ดังนั้น หมอเก๋อ เจ้าว่า...""ข้าน้อยเข้าใจแล้ว! กลับไปข้าจะเขียนตำรับยาล้ำค่าให้สิบรายการ มอบให้แก่แคว้นเจา นี่เป็นแค่ความจริงใจอันดับแรกที่ข้าน้อยมอบให้"องค์จักรพรรดิต้องการคำพูดนี้ของเขาหลังผ่านไปหนึ่งชั่วยาม หมัวมัวจินก็พาสาวใช้วังสองคนออกจากวังไปซื้อของเล่นบางส่วนมาให้กับไทเฮาในจุดที่ไม่มีคนเห็น หมัวมัวจินก็หมุนตัวมุดเข้าไปในรถม้าอีกคันหนึ่ง แอบมายังจวนอ๋องเจวี้ยนเซียวหลันยวนเห็นหมัวมัวจินจากในห้องหนังสือหลังจากได้ยินคำพูดของหมัวมัวจินเขาก็รู้สึกเกินคาดขึ้นมา"หนังสือแพทย์หกสิบหกเล่ม?"นี่มันเป็นของที่ล่อตาล่อใจคนมากเลยนะ ถ้าหากหนังสือแพทย์เหล่านี้สามารถปรากฎขึ้นในงานประชุมหมอใหญ่ คนเหล่านั้นก็น่าจะแย่งกันอุตลุต"บอกว่าหมอเก๋อคนนั้นอาศัยหนังสือแพทย์เหล่านี้ ค้นคว้ามาหนึ่งปีก็กลายมาเ
ในเมืองเล็กที่ตระกูลเสิ่นตั้งอยู่เมืองนี้มีกลิ่นหอมลอยไปทั่วทุกหนแห่งพวกของไป่หูหลังจากเข้าเมืองก็ถอนใจโล่งมาถึงอย่างปลอดภัยแล้ว ในใจเองก็ไม่ตึงเครียดอีกแล้ว"คุณหนู ตอนนี้เป็นช่วงเทศกาลเจ็ดเพลิงของต้าชื่อ ทุกครัวเรือนที่นี่จะทำขนมนึ่งใบไผ่ประเภทหนึ่ง ให้ข้าซื้อแต่ละรสชาติมาให้ท่านดีไหม?" มีองครักษ์ถามขึ้นขนมนึ่งใบไผ่?ฟังแล้วน่าจะไม่เลว"ไม่รีบๆ ไปบ้านตระกูลเสิ่นกันก่อน"ฟู่จาวหนิงยังดูร้อนรนอยู่ ไม่รู้ว่าไท่ไท่อาวุโสเสิ่นเป็นอย่างไรบ้างแล้ว"คุณหนู ข้าส่งคนรีบไปส่งข่าวแล้ว ดูว่าในบ้านตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง ถ้านายท่านมารับท่านได้คงจะดีที่สุด" ไป๋หู่เอ่ยขึ้นเขาไม่อยากให้ฟู่จาวหนิงที่เต็มไปด้วยฝุ่นแบบนี้ไปปรากฎตัวต่อหน้าคนตระกูลเสิ่นตอนนี้เพราะคนในตระกูลเสิ่นตอนนี้ก็ซับซ้อนอยู่ คุณหนูจาวหนิงถ้าไปปรากฎตัวแบบนี้ที่หน้าประตูตระกูลเสิ่น คงได้ถูกคนไม่น้อยดูถูกเอาแน่ๆ ถึงตอนนั้นจะคิดว่าเป็นญาติจนๆ ที่ไหนเข้ามาอีกต่อให้ภายหลังจะมีอะไรเปลี่ยนแปลง ถึงตอนนั้นการไม่ได้รับความเป็นธรรมกับการต้อนรับที่เย็นชาก็เกิดขึ้นไปแล้วไป๋หู่รู้สึกว่า นายท่านเองก็คงไม่ยอมให้นางต้องได้รั
"ข้าบอกไปแล้ว ข้าไม่ได้อยู่ในสวนสี่ซิน พวกเจ้าเองก็รู้ว่าข้าอยู่ที่ไหน ทำไมถึงไม่เชื่อกันบ้าง?""ถ้าเจ้าไม่ได้เข้าไปพัก เช่นนั้นก็หลบไป พวกเราเข้าไปดูหน่อย""เอะอะอะไรกัน?"ไม่ห่างไปนัก เสิ่นเสวียนเดินเนบๆ เข้ามา ข้างกายมีหลิวหั่วตามมาด้วยแม่นางเหล่านี้พอเห็นเสิ่นเสวียน ก็วิ่งเฮโลหนีกระเจิดกระเจิง เหลืออยู่แค่ไม่กี่คนพวกนางหลายคนล้วนกลัวเสิ่นเสวียน"ท่านลุง พวกนางบอกว่าจะเข้าไปในสวนสี่ซินหลบร้อน ข้าอธิบายกับพวกนางแล้ว บอกว่าส่วนสี่ซินเป็นสถานที่ของท่านลุง พวกนางเข้าไปคงไม่สะดวกนัก" อวี๋อวี่เวยพอเห็นเสิ่นเสวียน น้ำเสียงก็อดเง้างอดขึ้นมาไม่ได้นางรู้สึกว่า สวนสี่ซินจัดสถานที่ใหม่แล้วแสะงว่าเสิ่นเสวียนคงจะเข้ามาอยู่เองเพราะผ่านมาตั้งนานก็ยังไม่เห็นว่ามีใครมาเลย"ใครก็ห้ามเข้าทั้งนั้น"เสิ่นเสวียนเอ่ยเรียบๆ ขึ้นมาไม่กี่คำมีแม่นางรวบรวมความกล้าถามขึ้น "ท่านลุง นั่นท่านจะเข้าไปพักหรือ?"ถ้าหากเป็นเขาเข้าไปพัก เช่นนั้นพวกนางก็คงจะเข้าไปไม่ได้จริงๆเสิ่นเสวียนส่ายหัว "ไม่ใช่"ไม่ใช่หรือ?อวี๋อวี่เวยตกตะลึง"นายท่าน!"เขาเหลือบมองไปที่ประตูเรือนที่ลั่นดาลไว้ หันหน้ามองไปทาง