เซียวหลันยวนเหลือบมองฟู่จาวหนิงเรื่องนี้ถ้าให้นางที่เป็นหมอมาพูดก็ยังดูมีน้ำหนักหน่อยฟู่จาวหนิงจึงทำได้แค่เล่าเรื่องที่พูดกับจักรพรรดิออกไปอีกรอบหนึ่งไทเฮาน้ำตาร่วงลงมาเสียแล้ว"เรื่องนี้เจ้าลำบากเสียแล้ว อายวน""ไม่เป็นไร" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นเสียงเรียบฟู่จาวหนิงมองมองไทเฮาตอนนี้มองออกแล้วว่าไทเฮาเป็นห่วงเซียวหลันยวนจริงๆ แต่ก่อนหน้านี้ไม่ใช่เช่นนี้นี่นาไทเฮาเห็นเซียวหลันยวนเย็นชากับตนเองขนาดนี้ ในใจก็รู้สึกเสียใจอยู่"จาวหนิง สิ่งนี้รักษาได้ไหม?"ฟู่จาวหนิงคิดคิด คิดจะเอาเรื่องที่ตนเองอีกไม่กี่วันจะออกจากเมืองหลวงบอกกับไท่เฮาพอดี เซียวหลันยวนเองอาจจะต้องให้ไทเฮาคอยปกป้อง แต่ถ้าหากมีใครมาพูดอะไรถึงนาง หรือว่ามีข่าวลืออะไรขึ้นมา ไม่แน่ว่าไทเฮาอาจจะสามารถออกโรงได้ถึงอย่างไรเขาตอนนี้ก็รู้สึกว่าไทเฮาเหมือนจะกังวลเซียวหลันยวนจริงๆนางมองคนแม่นอยู่ ลางสังหรณ์เองก็แม่นด้วย"พูดความจริงนี่ยากอยู่" ฟู่จาวหนิงประโยคนี้พูดออกมาจริงๆตัวนางตอนนี้ไม่ค่อยจะมั่นใจนัก พูดได้แค่ว่ามีความหวังอยู่ห้าหกส่วนเท่านั้น ยังต้องออกไปหาวัตถุดิบยาอีก ลองดูว่าจะหาเอ็นมังกรหยกเจอหรือไม่ หลังจา
"ใช่แล้ว ข้าจะไปหายา ยิ่งไปกว่านั้นอาจารย์ของข้ายังไปหายาอีกที่หนึ่งด้วย ข้าได้ยินว่าทางนั้นเจอกับยาดีดีมากมาย ข้าต้องไปหาเขาเสียหน่อย ถ้าสามารถหายาที่มีประโยชนืกับการฟื้นฟูผิวหนังได้ หลังจากนี้ก็อาจจะรักษาหน้าตาของอายวนจนสมบูรณ์ได้ก็เป็นได้""นั่น เช่นนั้นก็ต้องไป สมควรไปน่ะสิ""เพียงแต่ไปครั้งนี้คงไม่ได้กลับมาเร็วนัก""เจ้าไปเถอะ อายวนทางนี้ ข้าจะคอยดูแลให้ แต่ว่า เขาตอนนี้เป็นเช่นนี้ เจ้าเองก็ไม่อยู่ในเมืองหลวงด้วย มันจะ..."มีอันตรายไหม?ถ้าเผื่อมีเรื่องอะไรขึ้นมา ฟู่จาวหนิงไม่อยู่ ใครจะควบคุมสุขภาพของเขาได้?"จะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นชั่วคราว"ขอแค่เขาคอยอาบน้ำยาให้ดี ไม่กระตุ้นวิชายุทธ์ อย่าเอาร่างกายไปทำเรื่องนั่นเรื่องนี่ คอยพักฟื้นดีดีก็พอแล้วไทเฮาจะน้อยจะมากก็ยังวางใจไม่ลง"บางที ถ้าลองให้คนอื่นออกไปหายา?" นางลองถามหยั่งเชิง"มีใครจะรู้จักยาดีกว่าข้าหรือ?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นอย่างไม่เกรงใจ "ยิ่งไปกว่านั้นข้ายังรู้อาการป่วยของอายวนดีที่สุดด้วย รู้ว่ายาไหนเหมาะกับเขาที่สุด เป็นสิ่งที่เขาต้องการมากที่สุด เรื่องนี้ต้องเป็นตอนที่เจอยาเท่านั้นจึงจะรู้ ตอนนี้เองยังนึกไม่ออก ถ
หลังจากฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนออกไปแล้ว นางเองก็ยังถามเกี่ยวกับเรื่องนี้"นางอยากจะทำอย่างไรก็เป็นเรื่องของนาง"เซียวหลันยวนพูดมาประโยคหนึ่ง เขาไม่ค่อยสนใจว่าท่าทีของไทเฮาต่อตัวเขาจะเปลี่ยนหรือไม่"ข้ากลับรู้สึกว่านางตอนนี้ดูจริงใจมาก คิดว่าไทเฮาก่อนหน้านี้คงจะจงใจทำเช่นนั้น ให้ดูเหมือนใจเดียวกับองค์จักรพรรดิฮองเฮา เช่นนี้อาจสามารถทำให้นางไม่รู้สึกโดดเดี่ยว ทำให้องค์จักรพรรดิไม่รู้สึกเกรงกลัวท่านมากนัก ทำให้เขารู้สึกอดกลั้นกับท่านในตอนเด็กๆ ได้"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าเรื่องราวน่าจะเป็นเช่นนี้ถึงอย่างไรไทเฮาเองก็เป็นหญิงสาวที่พยายามปีนป่ายในวังหลังมากว่าครึ่งชีวิต หญิงสาวของที่นี่ก็น่าจะไม่ใช่คนธรรมดาเซียวหลันยวนตอนเด็กๆ ในมือก็มีสิ่งของอยู่มากมาย แล้วร่างกายก็ยังอ่อนแออีก ถ้าหากเบื้องหลังไม่มีคนคอยปกป้อง ก็ไม่น่าจะรอดมาจนถึงปัจจุบันรอจนเขารู้ความจนตนเองสามารถวางแผนการอย่างหลักแหลมได้ นั่นเป็นเรื่องในภายหลังแล้วตอนที่เขายังเด็กมากล่ะ?เซียวหลันยวนไม่พูดอะไรฟู่จาวหนิงเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง "ไทเฮามีอาการปวดหัวอยู่ เมื่อครู่ข้ามองนาง เปลือกตาใต้ตาคล้ำเทาไปหน่อย ตอนแรกข้าพิจารณา
พอได้ยินเสียงองครักษ์ลับ สาวใช้วังสองคนหน้าขาวซีดไปแล้ว ทั้งสองคนหมอบลงบนพื้น รีบร้อนโขกหัว"อ๋องเจวี้ยนไว้ชีวิตด้วย!""พระชายา ช่วยข้าน้อยด้วย"ฟู่จาวหนิงจุ๊ปาก และเดินเข้ามาอีก ยื่นมือเชิดหน้าสาวใช้วังคนหนึ่งขึ้นมา เป็นสาวชาววังที่หน้าตาสดใสเอามากๆ ดูแล้วอายุน่าจะเพิ่งสิบสี่สิบห้าเท่านั้นใบหน้าขาวซีด ตกใจขึ้นมาแต่ว่าร่างกายของพวกนางก็ดูจะแดงระเรื่อขึ้นมา ผิวหนังดูร้อนๆ ตอนนี้สายตาดูสับสนหน่อยๆสาวใช้วังคนหนึ่งรีบหยิกขาของตนเอง"อายวน พวกนางทำอะไรน่ะ?"เซียวหลันยวนถูกฟู่จาวหนิงถามเช่นนี้ ทั้งโกรธทั้งน้อยใจทั้งรู้สึกไม่ได้ทำผิด "เมื่อครู่เจ้าบอกให้ข้านอนก่อน ข้าก็เลยขึ้นไปนอนบนเตียงก่อน แต่ครู่หนึ่ง พวกนางก็แอบเข้ามา บอกว่าจะมาวางน้ำแข็งให้สองถังในตำหนัก กลัวเจ้าจะนอนแล้วร้อน"นี่ยังฉลาดอยู่ รู้จักยกฟู่จาวหนิงออกมาพูดด้วยเซียวหลันยวนตอนนั้นรู้สึกว่าอากาศเช่นนี้ ตัวเขาเพราะปัญหาที่สุขภาพอ่อนแอจึงไม่น่ารู้สึกร้อน แต่ฟู่จาวหนิงที่เป็นคนเลือดลมแข็งแรง ไม่แน่ว่าอาจจะรู้สึกร้อนขึ้นมาเขาเองก็อยากจะให้พวกนางเอาน้ำแข็งสองถังมาวางไว้ก็ดีเหมือนกัน ก็เลยให้พวกนางสองคนเข้ามา"คิดไม่
ฟู่จาวหนิงคิดๆ จากนั้นจึงเดินไปทางสาวใช้วังสองคนผ่านไปพักหนึ่ง พวกนางก็นอนแผ่ไปบนพื้นแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังลูบร่างกายตัวเองอีกด้วยเซียวหลันยวนแค่เหลือบตามอง ขมวดคิ้ว "ให้คนมาหิ้วพวกนางออกไป"จะมามองอยู่ที่นี่ทำไมกัน?ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าเซียวหลันยวนเองก็มีความเย็นชาไร้ปราณีของคนในราชวงศ์อยู่ สาวใช้วังสองคนนี้บางทีอาจจะร่างกายอาจจะไม่เป็นตัวของตัวเองด้วยกระมัง?ตัวตนฐานะเช่นนี้ พวกนางจะไปทำอะไรได้?ต่อให้ใจของพวกนางจะพังไปแล้ว ฟู่จาวหนิงในฐานะที่เป็นหญิงสาวเหมือนกัน ก็ทนดูพวกนางถูกทิ้งไว้ในสภาพนี้ไม่ได้เหมือนกัน"ข้าจะแก้พิษนี้ให้พวกนาง"นางเองก็รังเกียจการใช้ยาเช่นนี้กับคนมากด้วยนางหยิบเข็มเงินออกมา ปักฉึกๆ ลงไปบนตัวพวกนางคนละเล่ม ทำให้พวกเนางสงบลงมา การเคลื่อนไหวจึงหยุดลง"กินยานี้ลงไปเสีย" นางยัดยาให้พวกนางคนละเม็ดอย่างไม่ค่อยจะอ่อนโยนนัก มองชุดกระโปรงผ้าบางบนตัวพวกนาง เดินไปข้างๆ ยื่นมือดึงม่านสองชิ้นลงมาปิดไว้บนตัวพวกนางเซียวหลันยวนจัดระเบียบเสื้อผ้า พิงตัวบนเตียง เพียงแต่หูฟังการเคลื่อนไหวตรงนี้ ไม่หันมามองแม้แต่ผาดหนึ่งจนกระทั่งฟู่จาวหนิงโยนผ้าลงมาปิดบนตัวนาง เขาจ
"หยุดก่อน!"ฟู่จาวหนิงเองก็เอ่ยขึ้นบ้าง นางคิดจะห้ามพวกนาง แต่สาวใช้วังสองคนนี้กลับเป็นวิชายุทธ์ ยิ่งไปกว่านั้นนางเองก็คิดไม่ถึงเลย ดังนั้นจึงช้าไปก้าวหนึ่งสาวใช้วังสองคนตบไปที่หัวของอีกฝ่ายอย่างรุนแรงพร้อมกันเสียงโพละดังขึ้น ทั้งสองคนล้มลงพื้นพร้อมกันฟู่จาวหนิงคิดจะไปเข้าไปช่วยทันที แต่เซียวหลันยวนเหลือบมาผาดหนึ่ง น้ำเสียงขรึมเล็กน้อย ห้ามนางเอาไว้"ไม่มีประโยชน์แล้ว"สาวใช้วังสองคนนี้ทำใจเตรียมตัวตายไว้เรียบร้อย ดังนั้นจึงลงมือหนักมาก พวกนางเดิมทีไม่คิดจะมีชีวิตรอดอยู่แล้ว หรือก็คือ พวกนางเข้าใจอย่างดีว่าถ้าตนเองออกจากที่นี่ไปก็คงไม่รอดยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นไปได้ว่ายังต้องเจอโทษที่หนักยิ่งกว่าอีกเจ้านายไม่มีทางปล่อยพวกนางแน่ฟู่จาวหนิงยืนอยู่ที่นั่นรู้สึกใจเย็นวาบแม้ว่าสาวใช้วังสองคนนี้ได้รับคำสั่งให้มาลงมือกับเซียวหลันยวน แต่นางก็ยังรู้สึกใจเย็นวาบขึ้นมามองดูสภาพพวกนางที่หมดลมหายใจล้มอยู่บนพื้นแล้ว นางรู้สึกว่าชีวิตคนมันช่างเล็กจ้อยเหลือเกิน"ชิงอี"เซียวหลันยวนออกคำสั่ง เพียงไม่นานชิงอีก็พาคนมาแบกสาวใช้วังสองคนนี้ออกไป"อยากจะเปลี่ยนสถานที่นอนไหม?" เซียวหลันยวนถ
"ไม่ต้องสนใจพวกเขา"เซียวหลันยวนยังนอนอยู่บนเตียงไม่ขยับ"อ๋องเจวี้ยน องค์จักรพรรดิเชิญท่านไปเข้าร่วมประชุมเช้า" ด้านนอกมีแหลมของคนในวังดังลอดเข้ามาที่นี่ถึงอย่างไรก็เป็นวังจักรพรรดิ พวกของชิงอีไม่กล้าไม่กล้าสะกดจุดชีพจรให้พวกเขาพูดไม่ได้ ถึงอย่างไรนี่ก็มาส่งพระประสงค์ขององค์จักรพรรดิการจะก่อกบฎซึ่งๆ หน้า ทำไม่ได้อยู่แล้วพอได้ยินขันทีเรียกเช่นนี้ สีหน้าชิงอีก็ย่ำแย่ไปแล้วเมื่อคืนส่งสาวใช้สองคนเข้ามา วุ่นวายกันกลางดึกจนท่านอ๋องกับพระชายาไม่ได้หลับไม่ได้นอน แล้ววันนี้ฟ้ายังไม่ทันสาง ก็ยังส่งคนเข้ามาเอะอะอีกอยากทำให้ท่านอ๋องกับพระชายาไม่ได้หลับไม่ได้นอนสิกระมัง?"กงกง ตอนนี้ใกล้ประชุมเช้าแล้วหรือ" ชิงอีเข้าขวางเบื้องหน้าขันที ไม่เช่นนั้นอีกฝ่ายคงดึงดันจะเข้ามาอีก"ยัง ยัง วันนี้องค์จักรพรรดิบอกกับทุกคนว่ายังจะต้องหารือเรื่องภัยพิบัติทางหอไป่กุย อยากจะฟังความเห็นของอ๋องเจวี้ยน แล้วก็องค์หญิงหนานฉือควรจะอภิเษกเพื่อสันติกับใคร ก็อยากจะถามอ๋องเจวี้ยนด้วย"หอไป่กุย?ในห้อง ฟู่จาวหนิงพอได้ยินก็ถามไปทางเซียวหลันยวนหอไป่กุยนางไม่เคยได้ยินมาก่อน และไม่รู้ว่าเป็นสถานที่แบบไหน"หอ
แต่วว่าฟู่จาวหนิงตอนนี้ก็ไม่ได้คิดจะโต้เถียงกับเขา"ให้หงจั๋วเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ท่านไหม?""เจ้ามาช่วยนั่นล่ะ" เซียวหลันยวนส่ายหัว "แค่ช่วยข้ารวบผมก็พอ เสื้อผ้าเดี๋ยวข้าเปลี่ยนเอง"ตอนที่เขานอนหลับอย่างสงบ สามารถนอนนิ่งไม่ขยับได้ทั้งคืน เสื้อผ้าก็ไม่ได้ยับยู่ยี่ด้วยฟู่จาวหนิงเอียงตามองเขา "ได้เลย ท่านอ๋อง"ขันทีด้านนอกเรียกขึ้นมาอีกครั้ง "อ๋องเจวี้ยน!""ข้าจะไปเดี๋ยวนี้"เสียงของเซียวหลันยวนดังลอดออกมาจากในห้อง ขันทีตอนนี้จึงเพิ่งจะผ่อนลมโล่งลงมาถ้าเขาเรียกอ๋องเจวี้ยนออกมาไม่ได้ กลับไปก็คงอธิบายกับองค์จักรพรรดิลำบาก ถึงตอนนั้นเข้าคงถูกดุด่าอีก ไม่แน่อาจจะไม่ใช่แค่ด่าด้วยเซียวหลันยวนเพียงไม่นานก็ให้คนเข้ามาองครักษ์ประคองเขาไปที่เกี้ยวเบาแล้วยกแบกเขานั่งอยู่บนเกี้ยวเหลือบมองขันทีคนนั้น "วันนี้อยู่ต่อหน้าข้าเจ้าอย่าได้ส่งเสียง ข้าฟังเสียงเจ้าแล้วปวดหูเหลือเกิน"ขันทีอ้าปากพะงาบๆ แต่ก็รีบปิดลงไปทันทีเขาไม่กล้าขัดคำสั่งอ๋องเจวี้ยนหรอกอ๋องเจวี้ยนถูกเขาเอะอะจนโมโหขึ้นแล้วจริงๆฟู่จาวหนิงเองก็เดินออกมาแล้ว "ให้คนหยิบของว่างมาให้กินด้วย ท่านต้องกินยา จะให้หิวไส้กิ่วไม่