ฟู่จาวหนิงตอนที่แก้พิษให้เฮ่อเหลียนเฟย ก็สังเกตได้แผนการชั่วร้ายของพวกเขา วางยาต่ำช้าเช่นนี้ให้กับเฮ่อเหลียนเฟย เป้าหมายแค่คิดก็รู้แล้วพวกเขาเองก็คิดจะล่อนางออกไปด้วย..."จ้าวเฉินเจ้ามันสมควรตาย"ฟู่จาวหนิงก่นด่าออกมาคำหนึ่งความคิดนี้จะต้องเป็นของจ้าวเฉินแน่เซียวหลันยวนนอนมองอยู่บนเตียงข้างๆ "จ้าวเฉินเองก็ติดพิษด้วย""ท่านคิดจะช่วยเขาหรือ? คิดจะไต่สวนเขาไหม?" ฟู่จาวหนิงถาม"ไม่"เซียวหลันยวนส่ายหัวอย่างไม่ต้องคิด เขาไม่มีความคิดจะช่วยชีวิตจ้าวเฉิน"ที่ข้าคิดก็คือ จะทำอย่างไรให้เขาต้องเจ็บปวดแสนสาหัสที่สุดก่อนตาย" น้ำเสียงเซียวหลันยวนมีจิตสังหารอยู่ด้วย "ถ้าจะให้ตายไปง่ายๆ ก็ดูจะง่ายเกินไปสำหรับเขา""เช่นนั้นก็ไม่ต้องไปสนใจเขาแล้ว" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น "พวกเขาทางนั้นเองก็วางพิษไปไม่น้อย แล้วพิษก็ยังซับซ้อนมากด้วย แต่ว่าจ้าวเฉินน่าจะติดโดนไปทุกชนิดเลย ถัดจากนี้ไม่ต้องไปสนใจเขา เขาก็จะได้รับโทษทัณฑ์มหาศาลไปเอง"ไม่ต้องสนใจเขาหรือ แค่นั้นจะพอได้อย่างไร?เซียวหลันยวนสั่งองครักษ์เงามังกรให้ไปจับคนอื่นในตระกูลจ้าวมาแล้วเขาจะปล่อยจ้าวเฉินตายไปง่ายๆ ได้อย่างไรกัน? ขณะที่บนร่างกาย
"ข้าให้องครักษ์เงามังกรค้นหาทั้งเส้นทางอีกรอบ ทิศทางนั้นถ้าหากตรงไปเรื่อยๆ จะสามารถผ่านไปถึงเมืองชายแดน พวกเขาเป็นไปได้มากว่าจะลอบกลับไปยังต้าชื่อ"ต้าชื่อส่งคนมากมายขนาดนี้ลอบเข้ามาในเมืองหลวงแคว้นเจา พวกเขาจะทำอะไรกัน?"ข้าจะส่งคำสั่งกลับไป""ท่านลุง ท่านไม่ต้องรีบร้อน ร่างกายของท่านยังต้องพักฟื้นให้ดีอีก" ฟู่จาวหนิงกังวลว่าเขาจากนี้จะไม่สนใจร่างกายที่เจ็บป่วยของตนเอง"วางใจเถอะ""ท่านลุงสู้พักผ่อนเสียก่อนดีกว่า ทั้งหมดรอพรุ่งนี้แล้วค่อยว่ากัน " เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นพอคำพูดส่งออกมา สายตาของเสิ่นเสวียนกับฟู่จาวหนิงก็ตกไปอยู่บนหน้าเขาทันทีทำไมถึงมาเรียกท่านลุงตามกันล่ะ?ฟู่จาวหนิงมองไปทางเสิ่นเสวียน และไม่รู้ว่าเสิ่นเสวียนจะด่าเขาว่าหน้าไม่อายหรือไม่?เสิ่นเสวียนชะงักไปครู่หนึ่ง จึงร้องอืมขึ้นมาเสียงหนึ่ง หมุนตัวเดินออกไปพอประตูปิดลงอีกครั้ง เซียวหลันยวนก็กระพริบตาปริบใส่ฟู่จาวหนิง "ท่านลุงนาจะยอมรับแล้ว""ท่านทำไมจู่ๆ ก็หน้าด้านขึ้นมาเสียอย่างนั้น"ฟู่จาวหนิงหมุนตัวออกไป ฝังเข็มแก้พิษต่อให้เฮ่อเหลียนเฟย"เรียกท่านลุงตามภรรยา มีอะไรผิดแปลกกัน?" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้น"ท่า
ฟู่จาวหนิงรู้ว่าถ้าไม่บอกว่าเฮ่อเหลียนเฟยเป็นอย่างไรบ้าง ท่านปู่คงไม่วางใจดังนั้นนางจึงเลือกเล่าเรื่องราชาเฮ่อเหลียน จากนั้นก็บอกว่าจะไม่ให้เฮ่อเหลียนเฟยกลับไปแล้ว นี่จึงทำให้ผู้เฒ่าฟู่วางใจขึ้นมาได้บ้าง"ใช่ๆๆ พ่อของเขาคนนั้นทำไมจึงไม่ได้เรื่องเช่นนี้? ทำความผิดอย่างสังหารล้างเผ่าด้วยตนเอง แล้วยังไม่คิดอีกว่าลูกชายอยู่ที่ไหน ไม่ยอมส่งคนมาปกป้อง ไม่บอกแจ้งกับเขา ไม่กลัวว่าเสี่ยวเฟยจะเกิดเรื่องเลยหรือ?"ผู้เฒ่าฟู่มองใบหน้าขาวซีดของเฮ่อเหลียนเฟย ปวดใจขึ้นมาสิ่งที่ฟู่จาวหนิงพุดมา ให้เฮ่อเหลียนเฟยอยู่ที่นี่ไม่ต้องกลับไปแล้ว ก็ตรงกับใจเขาพอดีตอนนี้ต่อให้เฮ่อเหลียนเฟยบอกว่าตนเองจะไป ผู้เฒ่าฟู่เองก็คงไม่ยอมให้เขาไปแล้ว"ท่านปู่ ลุงของข้าเองก็อยู่ที่นี่ ท่านไปคุยกับเขาดีไหม?""ได้ได้ได้ เจ้าคงจะเหนื่อยมากแล้ว เจ้าไปพักผ่อนเถอะ ข้าจะไปหาเสิ่นเสวียนคุยด้วยเสียหน่อย"รอจนผู้เฒ่าฟู่ออกไป เฮ่อเหลียนเฟยก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น"พี่หญิง""ข้าอยู่นี่แล้ว"ฟู่จาวหนิงไม่ขยับตัวนางเหนื่อยมาก เจ็บแผลด้วย ไม่อยากจะขยับแล้วเฮ่อเหลียนเฟยลุกขึ้นนั่งทันที มองไปที่นาง ร้องไห้จ้าขึ้นมา"พี่ พี่หญิงท่
"คนของต้าชื่อ"เซียวหลันยวนหลังจากได้ยินก็นิ่งงันไปครู่หนึ่งฟู่จาวหนิงมองเขา รอจนเขาจัดการความคิดของเขาเสียหน่อย จากนั้นจึงถามขึ้นคำหนึ่ง "เจ้ารู้สึกว่าเรื่องเหล่านี้ต้องไปถามลุงของข้าไหม?"เสิ่นเสวียนถึงอย่างไรก็เป็นคนจากต้าชื่อ"เจ้าพักผ่อนก่อนเถอะ เรื่องนี้ข้าจัดการเอง ไม่ต้องคิดอะไรมาก" เซียวหลันยวนมองนาง ยื่นมือไปลูบหน้าผากนาง "เจ้าตัวร้อนหน่อยๆ นะ""จริงหรือ?"ฟู่จาวหนิงงงงัน จึงยกมือตนเองขึ้นอังหน้าผากนางเป็นไข้จริงๆ แล้วกลับไม่รุ้ตัวเลยเฮ่อเหลียนเฟยรีบเอ่ยขึ้น "พี่หญิง เช่นนั้นท่านต้องรีบกินยาแล้ว ไปจับไข้มาบนภูเขาหิมะใช่ไหม?""ให้คนจัดให้เสี่ยวเฟยพักที่นี่ก่อนได้ไหม?" ฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวน"พักที่นี่ไปก่อนทั้งหมดนั่นล่ะ" เซียวหลันยวนอุ้มนางขึ้นมา "ปู่ของเจ้าก็พักที่นี่ไปก่อน เจ้าไม่ต้องกังวลมาก ข้าจะอุ้มเจ้ากลับเรือนเจียนเจีย"เขาไม่รู้เลยว่าที่แท้นางจะมีนิสัยขี้กังวลขนาดนี้ ตัวเองเจ็บจนเป็นไข้แล้วแท้ๆ ในสมองกลับยังคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้เต็มไปหมด"ใช่ใช่ใช่ พี่หญิง ข้าจะตามพี่เขยไป ท่านไม่ต้องกังวล" เฮ่อเหลียนเฟยเอ่ยขึ้น"พี่เขย?"เซียวหลันยวนหันมามองเขาผา
เฮ่อเหลียนเฟยเองก็แปลกใจ อยู่ต่อหน้าคนอื่นก็ยังดีหน่อย แต่พออยู่ต่อหน้าเสิ่นเสวียนกลับปอดแหกขึ้นมาเสียอย่างนั้นเซียวหลันยวนมองพวกเขาอย่างละเอียด ตอนนี้ดูแล้วเฮ่อเหลียนเฟยไม่ได้คล้ายเสิ่นเสวียนเท่าไรน่าจะเพราะสังเกตได้ถึงการพิจารณาของเขา เสิ่นเสวียนก็เข้าใจขึ้นมาว่าเขากำลังมองอะไร"ข้าตอนนี้หน้าตาไม่ค่อยเหมือนสมัยเด็กๆ""ความหมายของท่านลุงคือ เสี่ยวเฟยดูคล้ายกับท่านตอนเด็กหรือ?" เซียวหลันยวนถามเฮ่อเหลียนเฟยมองเสิ่นเสวียนด้วยอาการตื่นเต้นและใจตุ้มต่อม รอคำตอบของเขาเสิ่นเสวียนไม่ทำให้เขาผิดหวัง พยักหน้ายอมรับ"ก็ดูคล้ายมากจริงๆ""เช่นนั้นข้า ข้า" จะเป็นหลานชายของเขาจริงไหม แล้วจะเป็นน้องชายแท้ๆ ของพี่หญิงจริงไหม?"เมื่อครู่ข้าถามเขาไปคำถามหนึ่ง เผ่าเฮ่อเหลียนเวลานี้มีเรื่อง เขาคิดจะกลับไปไหม" เสิ่นเสวียนบอกเซียวหลันยวน "เขายังพิจารณาอยู่"เซียวหลันยวนเองก็มองไปทางเฮ่อเหลียนเฟยเฮ่อเหลียนเฟยตึงเครียดขึ้นมา"ข้า ข้า ข้ากับท่านพ่อไม่มีความรู้สึกอะไรให้กัน เขาเองก็ไม่ได้รักข้าเท่าไร ถึงแม้คนนอกจะล้วนคิดว่าเขาน่าจะยกตำแหน่งราชาเฮ่อเหลียนให้ข้า แต่ข้ารู้ อันที่จริงเขาคิดจะให้ข้า
"ไฝสีแดง" เสิ่นเสวียนกวักมือให้เขาเข้ามาดูเฮ่อเหลียนเฟยรีบให้เขาก้มหัวลงมาเสิ่นเสวียนแหวกเส้นผมของเขา เซียวหลันยวนเองก็เข้ามาด้วยเขาตกตะลึงมาก "ไฝสีแดง"บนกระหม่อมมีอยู่จริงๆ ด้วย!สายเลือดของเสิ่นเสวียนแปลกประหลาดขนาดนี้เชียวหรือ?"บนหัวจาวหนิงข้าไม่เคยไปดู แต่เท้าของนางไม่ใช่เช่นนี้ ดูดีกว่ามาก"เสิ่นเสวียนพอได้ยินคำพูดของเซียวหลันยวนก็พูดไม่ออกไปหน่อยๆ"เสี่ยวเชี่ยวเองก็ดูดี แต่นิ้วที่สองก็ยังยาวกว่านิ้วโป้งอยู่นิดหน่อย ใช่ไหม?"ฟู่จาวหนิงเป็นหญิงสาว แน่นอนว่าเท้าต้องดูดีกว่าเฮ่อเหลียนเฟย นี่เขาต้องเอามาพูดเทียบกันด้วยหรือ?แต่ว่า เขาไปเห็นเท้าของฟู่จาวหนิงตั้งแต่เมื่อไรกัน?ถ้าหากเขาเดาไม่ผิดล่ะก็ พวกเขาทั้งสองคนน่าจะยังเป็นสามีภรรยาปลอมๆ อยู่เสิ่นเสวียนเหลือบมองเซียวหลันยวนอีกผาดหนึ่ง ไม่พูดอะไรอีก"นี่ก็จริงอยู่" เซียวหลันยวนพยักหน้ายอมรับ แต่ก็อดเสริมขึ้นมาคำหนึ่งไม่ได้ "ก็ยาวกว่านิดหน่อย แต่เท้าของนางก็ดูดีอยู่"ชิงอีที่คุ้มกันอยู่ด้านนอกพอได้ยินคำพูดนี้ก็ปิดหูขึ้นมาท่านอ๋องตอนนี้ไร้เดียงสาขนาดนี้เชียว?มีใครพูดว่าเท้าของพระชายาไม่น่ามองบ้างกัน? แล้วทำไมถึง
"ต้าชื่อตอนนี้กำลังทะเยอทะยานมากเลยสินะ?"เซียวหลันยวนรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของกลุ่มสำนักหรือตระกูลเดียวแล้ว เบื้องหลังเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องระหว่างแคว้นด้วยกัน"ดังนั้น ต้องกลับต้าชื่อ"เสิ่นเสวียนจะกลับไป ไม่ว่าจะเรื่องในบ้านหรือว่าเรื่องของเสิ่นเชี่ยว หรือจะเป็นเรื่องระหว่างแคว้นทั้งสองในตอนนี้ ก็ล้วนต้องกลับไปที่ต้าชื่อเท่านั้นจึงจะตรวจสอบได้ชัดเจน"พวกเขาหลายปีก่อนก็จัดวางคนตั้งมากมายเข้ามาในเมืองหลวงแคว้นเจาแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร"เสิ่นเสวียนมองเซียวหลันยวน "ท่านส่งคนไปลองตรวจสอบเถอะ""ข้ารู้แล้ว"เซียวหลันยวนรู้สึกว่าเบื้องหลังมีแผนร้ายอะไรบางอย่างอยู่"แล้วก็ลัทธิเทพทำลายล้างนั่น ก็เข้ามาผสมโรงอยู่ในนี้พอดี พวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่ ยังต้องตรวจสอบให้ละเอียด"ฟู่จาวหนิงหลับไปครั้งนี้ ก็หลับยาวต่อไปจนถึงวันถัดมาระหว่างนี้นางตื่นขึ้นมาสองครั้ง ดื่มยาลดไข้ของตนเองลงไปอย่างมึนๆ งงๆ จากนั้นก็เข้าห้องน้ำอีกครั้งหนึ่ง เวลาที่เหลือล้วนไม่รู้ว่าใครมาป้อนน้ำให้นาง แล้วก็หลับลึกไปยาวๆแต่ว่าร่างกายของนางก็ฟื้นฟูได้ดีมากจริงๆหลังจากตื่นมาในวันที่ส
ฟู่จาวหนิงยอมรับเช่นนี้ก็เป็นการยอมรับว่าวิชาแพทย์ที่นางเรียนมานั้นล้ำหน้ากว่าเหล่าหมอในใต้หล้าปัจจุบันนี้แล้วพูดขึ้นมาเหมือนนางมีอะไรที่มหัศจรรย์อยู่จริงๆบนโลกมักมีผู้วิเศษอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นอารมณ์และนิสัยของพวกผู้วิเศษก็ล้วนจะแปลกประหลาดกันหมด ดังนั้นที่อาจารย์ของนางไม่มีชื่อเสียงเรียงนามก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร"ช่วงนี้เมืองหลวงมีคนคาดเดาว่าอาจารย์ของเจ้าเป็นใครกันแล้ว"เสิ่นเสวียนบอกเรื่องนี้กับฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงก็เคยได้ยินมา นั่นเป็นสิ่งที่ผู้อาวุโสจี้อาจารย์นางจัดวางเอาไว้เช่นนั้นเรื่องที่มาของวิชาแพทย์นางก็พอกล้อมแกล้มไปได้ตอนนี้ได้ยินว่าทุกคนก็เหมือนไม่ได้สงสัยอะไร ล้วนเชื่อกันหมด"มีคนบอกว่า เรื่องที่เจ้าทำก่อนหน้านี้ล้วนเป็นการเสแสร้งแกล้งทำทั้งหมด และยังมีคนพูดอีกว่า ตอนนั้นที่เจ้าคิดจะออกเรือนกับเซียวเหยียนจิ่งก็เป็นเรื่องโกหก ไม่เช่นนั้นเจ้าจะปิดบังเรื่องที่รู้วิชาแพทย์กับเขาทำไมกัน?"มีคนไม่น้อยหลังจากได้ยินข่าวก็ล้วนคาดเดากันเช่นนี้ตอนนั้นฟู่จาวหนิงพูดเรื่องที่วิชาแพทย์ตนเองยอดเยี่ยมเสียขนาดนี้ออกมา จวนชินอ๋องเซียวคงจะประคองนางไว้ในฝ่ามือแน่ ทำไมถึงจะไม่แ
พระชายาเยว่รู้สึกว่า แม่นมเยว่อดทนอยู่ในวังมายี่สิบปี คงวางแผนงานใหญ่อะไรอยู่นางถึงแม้จะเคยเห็นฝีมือแม่นมเยว่มาบ้างแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกว่าแม่นมเยว่เองก็ไม่ได้มีฝีมือมากขนาดนั้น ถ้าหากนางร้ายกาจจริง จำเป็นต้องมาซุ่มอยู่ในวังหลวงยี่สิบปี แต่ก็ยังทำเรื่องไม่เสร็จแบบนี้หรือ?แม่นมเยว่น่าจะเป็นยอดฝืมือในการใช้ยา ยิ่งไปกว่านั้นยังยอดเยี่ยมในด้านการสกัดยาชนิดนั้น ยาที่ไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจเท่าไร ถึงอย่างไรก็ทำให้แค่ผู้ชายมีความสุขล่องลอยได้มากเท่านั้น ทำเรื่องใหญ่โตอะไรให้สำเร็จไม่ได้ตอนนี้ นางได้รับความโปรดปรานจากองค์จักรพรรดิแล้ว ยังต้องคอยฟังแม่นมเยว่อยู่อีกหรือ?แต่ถ้าแม่นมเยว่ก็มีวิธีการที่จะให้องค์จักรพรรดิรับมือกับอ๋องเจวี้ยนจริงล่ะ?จะว่าไป ยาชนิดนั้นของแม่นมเยว่ ถ้าหากใช้กับอ๋องเจวี้ยน ไม่รู้ว่าจะมีประสิทธิผลไหมชั่วขณะหนึ่ง พระชายาเยว่คิดไปร้อยแปดจากนั้นนางก็ไปที่ครัวเล็ก ลงมือทำของว่างขึ้นมาถาดหนึ่ง เปลี่ยนเสื้อผ้า แต่งเนื้อแต่งตัวอย่างประณีต ยกของว่างเข้าไปในห้องหนังสือหลวงองค์จักรพรรดิเพิ่งฟังรายงานลับจบเขาให้คนจับตาดูคอยจับตาดูการเคลื่อนไหวของคนหลายคนในเมืองหลวง
"จุ๊ๆ เรื่องนี้..." พระชายาเยว่คิดๆ ยังไม่รู้จะจัดการอย่างไรก่อนดีชั่วคราว"เจ้ากลับไปอยู่ข้างๆ เฉินฮ่าวปิงก่อนแล้วกัน คอยจับตาดูนางไว้ มีเรื่องอะไรก็มาบอกกับข้า" พระชายาเยว่รู้สึกว่าตอนนี้ใช้งานชิวอวิ๋นไปก่อนแล้วกัน ถึงอย่างไรนางก็ไม่มีตัวเลือกอื่นแล้ว"่เจ้าค่ะ"รอจนชิวอวิ๋นออกไป พระชายาเยว่ก็เรียกคนเข้ามาคนคนนี้ดูแล้วปกติดี แต่ว่าการเดินเหินในวังนั้นไม่ถูกใครสังเกตหรือสนใจเลยเป็นแม่นมที่หน้าตาธรรมดาคนหนึ่ง"แม่นมเยว่ เมื่อครู่เจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม?"แม่นมเยว่คนนี้ก้มหน้าต่ำเล็กน้อย เอ่ยขึ้นน้ำเสียงราบเรียบ"ได้ยินแล้วพะย่ะค่ะ""เรื่องนี้ ควรจะเผยกับองค์จักรพรรดิไหม?""ได้พะย่ะค่ะ""แต่ถ้าองค์จักรพรรดิรู้ อาจจะกริ้วอย่างรุนแรงได้ อ๋องฉยงที่มีความคิดไม่ดีกับพระชายาอ๋องเจวี้ยน เรื่องนี้ถ้าลือออกไปจะไม่ดีกับราชวงศ์""เรื่องนี้มีประโยชน์กับการที่พวกเราจะสืบค้นระดับความอดทนของจักรพรรดิต่ออ๋องฉยงได้ว่าอยู่ที่ไหน เพราะอะไรอ๋องฉยงจึงยังอยู่ในเมืองหลวง เรื่องนี้ยังต้องตรวจสอบให้ชัดเจน""เนื้อหาการคุยกันของอ๋องฉยงกับองค์จักรพรรดิทำไมจึงเปิดเผยไม่ได้" พระชายาเยว่ถอนหายใจ"ดังนั้น
"อะไรนะ?!"พระชายาเยว่พอได้ยินประโยคนั้นของชิวอวิ๋น ทิ้งมารยาทอะไรไปเกือบหมดจนแทบกระโจนขึ้นมา"เจ้าอย่ามาพูดมั่วซั่วนะ! ถ้าให้คนอื่นได้ยินข้าเองก็ช่วยเจ้าไม่ได้!"อันที่จริงนางเองก็ไม่อยากได้ชิวอวิ๋นแล้ว ดูแล้วเหมือนทำเรื่องอะไรก็ไม่สำเร็จ ไร้ประโยชน์สิ้นดีแต่ว่าตอนนี้พอได้ยินชิวอวิ๋นพูดประโยคนี้ออกมา ก็ทำเอานางลืมเรื่องที่จะโยนชิวอวิ๋นทิ้งไปทันที"เป็นเรื่องจริง พระชายา เรื่องนี้ถ้าไม่ได้ยินเองกับหู ข้าน้อยจะกล้าแต่งขึ้นมาได้อย่างไรกัน?" ชิวอวิ๋นรีบพูด"อ๋องฉยงชอบพระชายาอ๋องเจวี้ยนรึ?""พะย่ะค่ะ ตอนที่ออกมาจากวังราชนิเวศน์ ข้าไปเจอที่หน้าประตูใหญ่"พระชายาเยว่คิดถึงใบหน้า รูปร่างของฟู่จาวหนิง ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เชื่อ"ได้ยินว่าอ๋องฉยงเป็นพวกชื่นชอบสาวงาม ไม่เช่นนั้นพระชายาอ๋องฉยงคงไม่คุมเขาไว้อย่างเข้มงวด ราวกับอยู่ในคุกแน่นอน"เพราะพอหย่อนยาน ไม่ทันระวังหน่อย อ๋องฉยงก็อาจจะไปหลับนอนกับสาวสวยคนไหนแล้วก็คอยเลี้ยงไว้ด้านนอกแต่พระชายาอ๋องฉยงเข้มงวดเสียขนาดนั้นแล้ว อ๋องฉยงก็ยังมีอวิ๋นจูกับเฉินฮ่าวปิงลูกนอกสมรสสองคนนี้ได้ที่โตแล้วมีอยู่สองคน แล้วที่ยังไม่โตล่ะ? อธิบายได้ว่าอ๋อง
"ข้าต้องการวัตถุดิบยาเหล่านี้เดิมทีก็จะให้นางส่งไปที่เมืองเจ้อ แล้วนางปฏิเสธเอง เดิมทีนี่เป็นความคิดของข้า! ท่านบอกว่าข้ารับมือไม่ไหว นางเองก็ไม่ใช่ว่าพึ่งพาคนอื่นหรือ ก็แค่เพราะนางแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยนที่มีอำนาจ! ท่านให้นางเอาอ๋องเจวี้ยนให้ข้าสิ! ถ้าหากข้าเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน ข้าเองยังทำได้ดีกว่านางเสียอีก!"ต่งฮ่วนจือถูกเสียงแหลมของนางแผดใส่จนปวดหูไปหมดแล้วเขามองอย่างตกตะลึงไปทางเฉินฮ่าวปิง ก่อนหน้านี้ไม่เคยรู้มาก่อนว่านางเป็นคนแบบนี้"เจ้าคิดว่าที่ศิษย์น้องหญิงมีความสามารถขนาดนี้ เป็นเพราะแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยนหรือไรกัน?""แล้วไม่ใช่หรือ? นางก็แค่พึ่งพาอ๋องเจวี้ยนเหมือนกัน ด้านหลังมีต้นไม้ใหญ่ให้พักพิงร่มเย็น! ถ้าหากไม่ใช่อ๋องเจวี้ยน ตอนนั้นที่นางถอนหมั้นกับรัฐทายาทเซียวไปก็คงจะเอาตัวไม่รอดแล้ว ต่อมานางจะได้ไปฝากตัวเป็นศิษย์เรียนหมอจนเข้าพันธมิตรโอสถได้อย่างไรกัน?!"ต่งฮ่วนจือมองนางลึกๆ ส่ายหัวถอนหายใจ"บนโลกนี้ไม่มีรัฐทายาทเซียวอีกแล้ว"ขนาดรัฐทายาทเซียวไม่อยู่แล้ว ก็ยังไม่รู้หรือ?"ช่างเถอะ วันนี้เจ้าเป็นท่านหญิงไปแล้ว ข้าก็แค่ประชาชนธรรมดา ช่วยอะไรไม่ได้หรอก ขอตัวแค่นี้
พอเห็นสีหน้าเฉินฮ่าวปิง ใจของต่งฮ่วนจือก็เย็นลงมาทันทีทั้งที่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับฟู่จาวหนิงแล้วแท้ๆ แต่ว่าตอนนี้ เฉินฮ่าวปิงก็ยังใช้ประโยชน์จากเขา คิดจะให้เขาขัดขวางศิษย์น้องหญิงต่อให้เป็นเรื่องที่เหลวไหลแบบนี้ นางก็ยังพูดออกมาโดยไม่หนักใจ แล้วขอให้เขาทำตามสิ่งที่นางต้องการต่งฮ่วนจือมองไปทางฮูหยินเฉิน เขายังดูคาดหวังอยู่ถึงอย่างไรฮูหยินเฉินก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว น่าจะรู้จักขอบเขตบ้างกระมัง?"เจ้าเองก็คิดแบบนี้หรือ? จะให้ข้าเก็บวัตถุดิบยาไว้จนกว่าฮ่าวปิงจะรวมเงินได้?"ฟังเอาเถอะ เขาพูดซ้ำออกมาอีกรอบหนึ่งก็ยังรู้สึว่าเป็นเรื่องไร้สาระเลยฮูหยินเฉินขมวดคิ้ว มองนางด้วยสายตาเศร้าๆแต่ก่อนพอเห็นสีหน้าเช่นนี้ของนาง ต่งฮ่วนจือก็จะรู้สึกปวดใจ อยากจะปกป้องนางขึ้นมา เขารู้ ว่านางเป็นผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง มีลูกสาวติดหนึ่งคน คอยหนีคนตามล่าอยู่ตลอด มันลำบากแค่ไหนถ้าหากเป็นไปได้ เขาเองก็อยากจะยืนบังลมบังฝนให้นาง เพราะแรกสุดเขารู้สึกชื่นชมนาง ชื่นชมความแข็งแกร่งและความรักของแม่จากตัวนางแต่สีหน้าต่อตัวเขาของฮูหยินเฉินตอนนี้ ต่งฮ่วนจือจู่ๆ ก็คิดขึ้นมาว่า อ๋องฉยงถึงอย่างไรก็หาพวกนางเจอแ
เฉินฮ่าวปิงมองต่งฮ่วนจือนางสามารถใช้วัตถุดิบยาของพันธมิตรโอสถทำการกุศลต่อได้ และยังพังแผนการของฟู่จาวหนิงได้อีก ทำให้นางไม่ได้รับวัตถุดิบยาหลังจากเฉินฮ่าวปิงกลับมาพูดเรื่องวันนี้กับฮูหยินเฉิน ฮูหยินเฉินโกรธมากดังนั้นนางจึงคิดวิธีนี้ออกมา รู้สึกว่าพวกนางตอนนี้รับมือฟู่จาวหนิงไม่ไหว แต่ถ้าลงแรงกับต่งฮ่วนจือทางนี้สักหน่อย สร้างความลำบากให้กับฟู่จาวหนิงได้บ้างก็ยังดีมีสิทธิ์อะไรที่จะยอมให้ฟู่จาวหนิงทำทุกอย่างได้ราบรื่นขนาดนั้น?ต่งฮ่วนจือถ้าหากขัดฟู่จาวหนิงได้ ไม่ใช่แค่ฟู่จาวหนิงจะไม่ชอบใจ แต่ผู้อาวุโสจี้ก็จะโกรธด้วย ถ้าผู้อาวุโสจี้โกรธ ฟู่จาวหนิงก็จะอารมณ์ไม่ดีดังนั้น ขอแค่กล่อมต่งฮ่วนจือ ก็จะทำได้ฟู่จาวหนิงอึดอัดได้ ดีจะตาย?ดังนั้น จึงได้เห็นเฉินฮ่าวปิงที่มาแสดงความอ่อนแอออดอ้อนต่งฮ่วนจือในตอนนี้นางรู้สึกว่า ความรักทีต่งฮ่วนจือมีให้นาง เรื่องนี้ไม่ใช่จะทำไม่สำเร็จแต่ตอนได้ยินคำพูดของนาง ต่งฮ่วนจือก็งงงันไปครู่หนึ่ง"ลุงต่ง..." เฉินฮ่าวปิงดึงแขนเสื้อของเขา "ได้ไหม?"ต่งฮ่วนจือดึงแขนเสื้อในมือนางกลับมา"เรื่องนี้ไม่ได้""ทำไมล่ะ?""อันดับแรก วัตถุดิบยาที่เจ้าคิดจะเอาไ
หลายปีก่อนที่เขาช่วยพวกนางแม่ลูกไว้ เฉินฮ่าวปิงยังเป็นเด็กสาวร่างผ่อนอ่อนแอ หลายปีนี้ยังถือว่าเขาเลี้ยงดูมาจนโต เขาแทบจะมองเฉินฮ่าวปิงเป็นลูกสาวตนเองไปแล้วแม้ตอนนี้นางเจอกับพ่อแท้ๆ แล้ว แต่พ่อแท้ๆ คนนั้นก็ไม่ใช่จะได้เรื่องกระมัง ต่งฮ่วนจือยังรู้สึกเป็นห่วงอยู่เขาคิดคิด ยังคิดจะไปบ้านเล็กในซอยนั่นเพื่อหาเฉินฮ่าวปิงหลายวันนี้เฉินฮ่าวปิงก็ไม่ยอมพบเขา ทุกครั้งที่เขามา คนใช้ก็จะบอกว่าท่านหญิงไม่อยู่วันนี้เขามา แต่เฉินฮ่าวปิงกลับอยู่ และยังยอมพบเขาด้วยพอเข้ามาในบ้าน มาถึงเรือนหน้า ฮูหยินเฉินก็อยู่ด้วยแม่ลูกหันมามองนางพร้อมกัน สายตาของคนทั้งคู่ล้วนแดงก่ำ ดูแล้วน่าสงสารมาก เฉินฮ่าวปิงพอเห็นเขาก็ร้องไห้โฮออกมา"ลุงต่ง!"นางพุ่งเข้ามาหาต่งฮ่วนจือ สองมือดึงแขนเสื้อเขา ร้องไห้ตัวโยน "ท่านมาได้เสียที!"ก่อนหน้านี้เขาเข้ามาตั้งหลายครั้ง ก็ไม่ยอมออกมาเจอ ไม่ได้ว่าเขาไม่เคยมาเสียหน่อยแต่ต่งฮ่วนจือก็ไม่ได้พูดออกมา มองสภาพเฉินฮ่าวปิงแล้วเขาก็ยังคงปวดใจอยู่"ทำไมหรือ? เกิดอะไรขึ้น? อ๋อง อ๋องฉยงไม่ได้ช่วยเจ้าหรือ?"พอพูดถึงอ๋องฉยง เฉินฮ่าวปิงก็รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจขึ้นมาเพราะวันนี้อ๋อง
ก่อนค่ำวันเดียวกันฟู่จาวหนิงให้สืออีไปเก็บตั๋วเงินพวกนี้มาแล้วกระทั่งองค์หญิงเจ็ดก็ยังไม่กล้าที่จะไม่ให้หลังจากให้สามพันตำลึงมาแล้ว คนเหล่านี้ก็ล้วนรู้สึกเหมือนเสียปราณชี่ขนานใหญ่ไป ไม่มีทั้งหน้าไม่มีทั้งเงิน แล้วยังหวาดผวา ไม่รู้หลังจากนี้จะมีเรื่องอะไรอีกถ้าเผื่อพระชายาอ๋องเจวี้ยนเอาเรื่องนี้ไปฟ้องอ๋องเจวี้ยน อ๋องเจวี้ยนมาหาเรื่องบ้านพวกเขาอีกจะทำอย่างไร?โดยเฉพาะคุณหนูสี่หลิน หลังจากกลับมาก็ได้ยินพี่สาวคนโตกับคนรองพูดถึงเฉินฮ่าวปิง จึงได้รู้ว่าพวกนางเดิมทีก็ดูถูกท่านหญิงปิงอวี้อยู่แล้วพ่อของนางกับพี่สาวนางเองก็กำลังเดาว่าอ๋องฉยงทำไมจึงยังอยู่ในเมืองหลวง ยังพูดอีกว่า ไม่ว่าจะเพราะเรื่องอะไร การที่องค์จักรพรรดิให้อ๋องฉยงอยู่ในเมืองต่อโดยไม่สนกฏ ต้องไม่ใช่เรื่องดี พวกเขากำลังพูดว่า หลังจากนี้จะต้องเกิดความวุ่นวายขึ้นแน่อ๋องฉยงอาจจะก่อความวุ่นวายอะไรขึ้น ไม่ต้องพูดถึงลูกสาวบ้านน้อยของเขาคนนั้นเลย?ในคำพูด คืออ๋องฉยงทำเรื่องไม่ถูกต้อง ลูกสาวบ้านน้อย ยังไม่ได้ทำเรื่องอะไรดีดีเลย แต่ดันไปขอยศท่านหญิงมาองค์จักรพรรดิก็ยังรับปากอีก ดูจะเลอะเลือนหน่อยๆแน่นอน พวกเขาแอบคุยเรื่องน
เซียวหลันยวนพูดพลางหัวเราะเสียงต่ำฟู่จาวหนิงเองก็ตกตะลึงไป "ผู้ตรวจการอันไปคุกคามองค์จักรพรรดิหรือ?"ถ้าหากผู้ประสบภัยทะลักเข้าเมืองหลวง เมืองหลวงก็จะวุ่นวาย องค์จักรพรรดิไม่อยากจะสนใจก็คงต้องสนใจแล้วแค่โรคระบาด องค์จักรพรรดิก็ยังกลัวจนไม่ประชุมเช้า ไม่ต้องพูดเรื่องผู้ประสบภัยนับหมื่นเลย? เขาได้ตกใจจนตายกันพอดี"ก็จริงนั่นล่ะ แต่นี่ก็เป็นเรื่องจริง แต่รายละเอียดด้านในที่นำไปปฏิบัติได้ก็มีเยอะมาก""แล้วองค์จักรพรรดิให้เงินบรรเทาภัยมาเท่าไร?""หนึ่งหมื่นตำลึง""ขี้เหนียว" ฟู่จาวหนิงเบ้ปากนางเองก็ยอมแล้ว ผู้ประสบภัยนับหมื่น แต่ให้เงินบรรเทาภัยมาหมื่นตำลึง? นางเค้นจากตัวพวกองค์หญิงเจ็ดยังได้มาตั้งสามหมื่นตำลึง"คลังหลวงว่างเปล่าแล้วจริงๆ""เอาเถะ พวกเราเองก็ลองไปเตรียมตัวดูก่อน ถ้าเงินไม่พอจริง ค่อยให้ผู้ตรวจการชิงกลับไปปล้นองค์จักรพรรดิอีก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นถ้ายังไม่เห็นสถานการณ์เมืองเจ้อกับตา ใต้เท้าอันหากคิดจะปล้นก็ปล้นลำบาก"อันเหนียนบอกว่าสามวันนั้นรีบไปหน่อย ขอเลื่อนไปวันหนึ่ง ข้าส่งคนไปดูลาดเลาก่อน ตอนพวกเจ้าไปถึงจะมีคนรอรับอยู่"เอาของไปด้วยตั้งมากมาย ตอนไปถึงต้อง