Share

บทที่ 671

Author: จุ้ยหลิงซู
ฟู่จาวหนิงรู้ว่าถ้าไม่บอกว่าเฮ่อเหลียนเฟยเป็นอย่างไรบ้าง ท่านปู่คงไม่วางใจ

ดังนั้นนางจึงเลือกเล่าเรื่องราชาเฮ่อเหลียน จากนั้นก็บอกว่าจะไม่ให้เฮ่อเหลียนเฟยกลับไปแล้ว นี่จึงทำให้ผู้เฒ่าฟู่วางใจขึ้นมาได้บ้าง

"ใช่ๆๆ พ่อของเขาคนนั้นทำไมจึงไม่ได้เรื่องเช่นนี้? ทำความผิดอย่างสังหารล้างเผ่าด้วยตนเอง แล้วยังไม่คิดอีกว่าลูกชายอยู่ที่ไหน ไม่ยอมส่งคนมาปกป้อง ไม่บอกแจ้งกับเขา ไม่กลัวว่าเสี่ยวเฟยจะเกิดเรื่องเลยหรือ?"

ผู้เฒ่าฟู่มองใบหน้าขาวซีดของเฮ่อเหลียนเฟย ปวดใจขึ้นมา

สิ่งที่ฟู่จาวหนิงพุดมา ให้เฮ่อเหลียนเฟยอยู่ที่นี่ไม่ต้องกลับไปแล้ว ก็ตรงกับใจเขาพอดี

ตอนนี้ต่อให้เฮ่อเหลียนเฟยบอกว่าตนเองจะไป ผู้เฒ่าฟู่เองก็คงไม่ยอมให้เขาไปแล้ว

"ท่านปู่ ลุงของข้าเองก็อยู่ที่นี่ ท่านไปคุยกับเขาดีไหม?"

"ได้ได้ได้ เจ้าคงจะเหนื่อยมากแล้ว เจ้าไปพักผ่อนเถอะ ข้าจะไปหาเสิ่นเสวียนคุยด้วยเสียหน่อย"

รอจนผู้เฒ่าฟู่ออกไป เฮ่อเหลียนเฟยก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น

"พี่หญิง"

"ข้าอยู่นี่แล้ว"

ฟู่จาวหนิงไม่ขยับตัว

นางเหนื่อยมาก เจ็บแผลด้วย ไม่อยากจะขยับแล้ว

เฮ่อเหลียนเฟยลุกขึ้นนั่งทันที มองไปที่นาง ร้องไห้จ้าขึ้นมา

"พี่ พี่หญิงท่
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 672

    "คนของต้าชื่อ"เซียวหลันยวนหลังจากได้ยินก็นิ่งงันไปครู่หนึ่งฟู่จาวหนิงมองเขา รอจนเขาจัดการความคิดของเขาเสียหน่อย จากนั้นจึงถามขึ้นคำหนึ่ง "เจ้ารู้สึกว่าเรื่องเหล่านี้ต้องไปถามลุงของข้าไหม?"เสิ่นเสวียนถึงอย่างไรก็เป็นคนจากต้าชื่อ"เจ้าพักผ่อนก่อนเถอะ เรื่องนี้ข้าจัดการเอง ไม่ต้องคิดอะไรมาก" เซียวหลันยวนมองนาง ยื่นมือไปลูบหน้าผากนาง "เจ้าตัวร้อนหน่อยๆ นะ""จริงหรือ?"ฟู่จาวหนิงงงงัน จึงยกมือตนเองขึ้นอังหน้าผากนางเป็นไข้จริงๆ แล้วกลับไม่รุ้ตัวเลยเฮ่อเหลียนเฟยรีบเอ่ยขึ้น "พี่หญิง เช่นนั้นท่านต้องรีบกินยาแล้ว ไปจับไข้มาบนภูเขาหิมะใช่ไหม?""ให้คนจัดให้เสี่ยวเฟยพักที่นี่ก่อนได้ไหม?" ฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวน"พักที่นี่ไปก่อนทั้งหมดนั่นล่ะ" เซียวหลันยวนอุ้มนางขึ้นมา "ปู่ของเจ้าก็พักที่นี่ไปก่อน เจ้าไม่ต้องกังวลมาก ข้าจะอุ้มเจ้ากลับเรือนเจียนเจีย"เขาไม่รู้เลยว่าที่แท้นางจะมีนิสัยขี้กังวลขนาดนี้ ตัวเองเจ็บจนเป็นไข้แล้วแท้ๆ ในสมองกลับยังคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้เต็มไปหมด"ใช่ใช่ใช่ พี่หญิง ข้าจะตามพี่เขยไป ท่านไม่ต้องกังวล" เฮ่อเหลียนเฟยเอ่ยขึ้น"พี่เขย?"เซียวหลันยวนหันมามองเขาผา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 673

    เฮ่อเหลียนเฟยเองก็แปลกใจ อยู่ต่อหน้าคนอื่นก็ยังดีหน่อย แต่พออยู่ต่อหน้าเสิ่นเสวียนกลับปอดแหกขึ้นมาเสียอย่างนั้นเซียวหลันยวนมองพวกเขาอย่างละเอียด ตอนนี้ดูแล้วเฮ่อเหลียนเฟยไม่ได้คล้ายเสิ่นเสวียนเท่าไรน่าจะเพราะสังเกตได้ถึงการพิจารณาของเขา เสิ่นเสวียนก็เข้าใจขึ้นมาว่าเขากำลังมองอะไร"ข้าตอนนี้หน้าตาไม่ค่อยเหมือนสมัยเด็กๆ""ความหมายของท่านลุงคือ เสี่ยวเฟยดูคล้ายกับท่านตอนเด็กหรือ?" เซียวหลันยวนถามเฮ่อเหลียนเฟยมองเสิ่นเสวียนด้วยอาการตื่นเต้นและใจตุ้มต่อม รอคำตอบของเขาเสิ่นเสวียนไม่ทำให้เขาผิดหวัง พยักหน้ายอมรับ"ก็ดูคล้ายมากจริงๆ""เช่นนั้นข้า ข้า" จะเป็นหลานชายของเขาจริงไหม แล้วจะเป็นน้องชายแท้ๆ ของพี่หญิงจริงไหม?"เมื่อครู่ข้าถามเขาไปคำถามหนึ่ง เผ่าเฮ่อเหลียนเวลานี้มีเรื่อง เขาคิดจะกลับไปไหม" เสิ่นเสวียนบอกเซียวหลันยวน "เขายังพิจารณาอยู่"เซียวหลันยวนเองก็มองไปทางเฮ่อเหลียนเฟยเฮ่อเหลียนเฟยตึงเครียดขึ้นมา"ข้า ข้า ข้ากับท่านพ่อไม่มีความรู้สึกอะไรให้กัน เขาเองก็ไม่ได้รักข้าเท่าไร ถึงแม้คนนอกจะล้วนคิดว่าเขาน่าจะยกตำแหน่งราชาเฮ่อเหลียนให้ข้า แต่ข้ารู้ อันที่จริงเขาคิดจะให้ข้า

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 674

    "ไฝสีแดง" เสิ่นเสวียนกวักมือให้เขาเข้ามาดูเฮ่อเหลียนเฟยรีบให้เขาก้มหัวลงมาเสิ่นเสวียนแหวกเส้นผมของเขา เซียวหลันยวนเองก็เข้ามาด้วยเขาตกตะลึงมาก "ไฝสีแดง"บนกระหม่อมมีอยู่จริงๆ ด้วย!สายเลือดของเสิ่นเสวียนแปลกประหลาดขนาดนี้เชียวหรือ?"บนหัวจาวหนิงข้าไม่เคยไปดู แต่เท้าของนางไม่ใช่เช่นนี้ ดูดีกว่ามาก"เสิ่นเสวียนพอได้ยินคำพูดของเซียวหลันยวนก็พูดไม่ออกไปหน่อยๆ"เสี่ยวเชี่ยวเองก็ดูดี แต่นิ้วที่สองก็ยังยาวกว่านิ้วโป้งอยู่นิดหน่อย ใช่ไหม?"ฟู่จาวหนิงเป็นหญิงสาว แน่นอนว่าเท้าต้องดูดีกว่าเฮ่อเหลียนเฟย นี่เขาต้องเอามาพูดเทียบกันด้วยหรือ?แต่ว่า เขาไปเห็นเท้าของฟู่จาวหนิงตั้งแต่เมื่อไรกัน?ถ้าหากเขาเดาไม่ผิดล่ะก็ พวกเขาทั้งสองคนน่าจะยังเป็นสามีภรรยาปลอมๆ อยู่เสิ่นเสวียนเหลือบมองเซียวหลันยวนอีกผาดหนึ่ง ไม่พูดอะไรอีก"นี่ก็จริงอยู่" เซียวหลันยวนพยักหน้ายอมรับ แต่ก็อดเสริมขึ้นมาคำหนึ่งไม่ได้ "ก็ยาวกว่านิดหน่อย แต่เท้าของนางก็ดูดีอยู่"ชิงอีที่คุ้มกันอยู่ด้านนอกพอได้ยินคำพูดนี้ก็ปิดหูขึ้นมาท่านอ๋องตอนนี้ไร้เดียงสาขนาดนี้เชียว?มีใครพูดว่าเท้าของพระชายาไม่น่ามองบ้างกัน? แล้วทำไมถึง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 675

    "ต้าชื่อตอนนี้กำลังทะเยอทะยานมากเลยสินะ?"เซียวหลันยวนรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของกลุ่มสำนักหรือตระกูลเดียวแล้ว เบื้องหลังเรื่องนี้น่าจะเป็นเรื่องระหว่างแคว้นด้วยกัน"ดังนั้น ต้องกลับต้าชื่อ"เสิ่นเสวียนจะกลับไป ไม่ว่าจะเรื่องในบ้านหรือว่าเรื่องของเสิ่นเชี่ยว หรือจะเป็นเรื่องระหว่างแคว้นทั้งสองในตอนนี้ ก็ล้วนต้องกลับไปที่ต้าชื่อเท่านั้นจึงจะตรวจสอบได้ชัดเจน"พวกเขาหลายปีก่อนก็จัดวางคนตั้งมากมายเข้ามาในเมืองหลวงแคว้นเจาแล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีการเคลื่อนไหวอะไร"เสิ่นเสวียนมองเซียวหลันยวน "ท่านส่งคนไปลองตรวจสอบเถอะ""ข้ารู้แล้ว"เซียวหลันยวนรู้สึกว่าเบื้องหลังมีแผนร้ายอะไรบางอย่างอยู่"แล้วก็ลัทธิเทพทำลายล้างนั่น ก็เข้ามาผสมโรงอยู่ในนี้พอดี พวกเขาคิดจะทำอะไรกันแน่ ยังต้องตรวจสอบให้ละเอียด"ฟู่จาวหนิงหลับไปครั้งนี้ ก็หลับยาวต่อไปจนถึงวันถัดมาระหว่างนี้นางตื่นขึ้นมาสองครั้ง ดื่มยาลดไข้ของตนเองลงไปอย่างมึนๆ งงๆ จากนั้นก็เข้าห้องน้ำอีกครั้งหนึ่ง เวลาที่เหลือล้วนไม่รู้ว่าใครมาป้อนน้ำให้นาง แล้วก็หลับลึกไปยาวๆแต่ว่าร่างกายของนางก็ฟื้นฟูได้ดีมากจริงๆหลังจากตื่นมาในวันที่ส

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 676

    ฟู่จาวหนิงยอมรับเช่นนี้ก็เป็นการยอมรับว่าวิชาแพทย์ที่นางเรียนมานั้นล้ำหน้ากว่าเหล่าหมอในใต้หล้าปัจจุบันนี้แล้วพูดขึ้นมาเหมือนนางมีอะไรที่มหัศจรรย์อยู่จริงๆบนโลกมักมีผู้วิเศษอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นอารมณ์และนิสัยของพวกผู้วิเศษก็ล้วนจะแปลกประหลาดกันหมด ดังนั้นที่อาจารย์ของนางไม่มีชื่อเสียงเรียงนามก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร"ช่วงนี้เมืองหลวงมีคนคาดเดาว่าอาจารย์ของเจ้าเป็นใครกันแล้ว"เสิ่นเสวียนบอกเรื่องนี้กับฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงก็เคยได้ยินมา นั่นเป็นสิ่งที่ผู้อาวุโสจี้อาจารย์นางจัดวางเอาไว้เช่นนั้นเรื่องที่มาของวิชาแพทย์นางก็พอกล้อมแกล้มไปได้ตอนนี้ได้ยินว่าทุกคนก็เหมือนไม่ได้สงสัยอะไร ล้วนเชื่อกันหมด"มีคนบอกว่า เรื่องที่เจ้าทำก่อนหน้านี้ล้วนเป็นการเสแสร้งแกล้งทำทั้งหมด และยังมีคนพูดอีกว่า ตอนนั้นที่เจ้าคิดจะออกเรือนกับเซียวเหยียนจิ่งก็เป็นเรื่องโกหก ไม่เช่นนั้นเจ้าจะปิดบังเรื่องที่รู้วิชาแพทย์กับเขาทำไมกัน?"มีคนไม่น้อยหลังจากได้ยินข่าวก็ล้วนคาดเดากันเช่นนี้ตอนนั้นฟู่จาวหนิงพูดเรื่องที่วิชาแพทย์ตนเองยอดเยี่ยมเสียขนาดนี้ออกมา จวนชินอ๋องเซียวคงจะประคองนางไว้ในฝ่ามือแน่ ทำไมถึงจะไม่แ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 677

    "จริงหรือ?"เฮ่อเหลียนเฟย ไม่สิ หลังจากนี้ต้องเรียกว่าฟู่จาวเฟยแล้ว เขาตื่นเต้นจนกระโดดขึ้นมาทันที โหร้องดีใจไปทั่วทั้งจวนอ๋องผู้เฒ่าฟู่เองพอได้ยินข่าวนี้ น้ำตาคนแก่ก็อาบแก้ม"จาวหนิง เสี่ยวเฟนเป็นหลานชายข้าจริงๆ! เมื่อเป็นเช่นนี้ พ่อแม่ของเจ้าก็อาจจะยังมีชีวิตอยู่ พวกเขายังมีชีวิตอยู่!"ผู้เฒ่าฟู่ครั้งนี้ร้องจนหยุดไม่อยู่แล้วหลายปีมานี้เขาผ่านมาไม่ง่ายเลย กว่าจะชุบเลี้ยงลูกชายจนเติบโต แล้วลูกชายก็ยังเก่งกาจเสียขนาดนั้น เพิ่งจะมีชีวิตรุ่งโรจน์ในเมืองหลวง แล้วยังรับภรรยาที่ดีมา ตั้งครรภ์อย่างรวดเร็ว แล้วยังมีคุณความดีที่ช่วยชีวิตคนไว้อีกตอนนั้นพวกเขาเดิมทีรู้สึกว่าตระกูลฟู่กำลังจะโจนทะยานแล้วผู้เฒ่าฟู่ตอนนั้นก็มีความสุขที่สุด ขนาดคนในบ้านอื่นตอนนั้นก็ยังมีสีหน้าเช่นตอนนี้ เวลานั้นพวกเขาก็ยังคอยง้อเขาง้อฟู่จิ้นเชินอยู่เลยบ้านตระกูลฟู่คึกคัก แล้วยังดูมีอนาคตสดใสแต่แค่คืนเดียวก็เปลี่ยนไปทั้งหมดทั้งหมดกลายเป็นฟองสบูไปลูกชายและภรรยาเกือบถูกจับเข้าคุกราชวงศ์ แล้วต่อมาก็ยังหายสาบสูญ เหลือไว้แค่หลานสาวตัวน้อยที่อ่อนแอคนหนึ่ง วันวันเอาแต่ร้องไห้ ผู้เฒ่าฟู่รู้สึกเหมือนฟ้าถล่มลง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 678

    เสียงของเซียวหลันยวนดังลอดเข้ามาจากด้านนอก"ฝึกทหารมาปกป้องพี่สาวเจ้าหรือ? ปณิธานกว้างไกลเสียจริง"เซียวหลันยวนที่ไอเย็นวาบทั้งตัว คลุมด้วยผ้าคลุมขนจิ้งจอกขาว ยืนอยู่หน้าประตูเขามองมายังปู่หลานทั้งสามคนในห้อง ไม่เดินเข้ามาในใจเขาจะมากน้อยยังรู้สึกสับสนอยู่เห็นๆ อยู่ว่าเขากับฟู่จาวหนิงแต่งงานกันแล้ว เขาเป็นสามีของนาง ถึงอย่างไรเขาก็เป็นอ๋องของแคว้นเจานะ ในมือยังมีองครักษ์เงามังกรอยู่ด้วย แต่ปู่หลานตระกูลฟู่นี่กลับไม่นับเขาเข้าไป ยังคงรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงเป็นหญิงสาวโดดเดี่ยวไร้ที่พึ่งพาอีกหรือ?ความรู้สึกนี้ทำให้เขารู้สึกพ่ายแพ้หน่อยๆฟู่จาวหนิงมีเขาคอยคุ้มครองไม่ได้หรือไรกัน?ผู้เฒ่าฟู่พอได้ยินเสียงของเขาก็รีบใช้ชายเสื้อเช็ดน้ำตาทันที ยืดหลังตรง น้ำเสียงสงบลงอย่างชัดเจน"เรื่องนี้ต้องขอบคุณอ๋องเจวี้ยน ตระกูลฟู่ซาบซึ้งอย่างเหลือคณา"ผู้เฒ่าคนนี้ คิดจะขีดเส้นชัดเจนกับเขาหรือ? มาพักถึงในจวนอ๋องเจวี้ยนแล้วแท้ๆ แต่ยังจะมาเกรงอกเกรงใจแบบนี้อีก?นิสัยนี้ไม่น่ารักเอาเสียเลยน้ำเสียงเซียวหลันยวนเองก็เรียบนิ่ง "ท่านผู้เฒ่าเกรงใจไปแล้ว หนิงหนิงเป็นภรรยาของข้า พวกท่านเองก็เป็นครอบครัว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 679

    เซียวหลันยวนพูดกับเขาว่า "แต่ว่าจดหมายที่เจ้าเขียน จะต้องส่งเข้าวังผ่านตาองค์จักรพรรดิเสียก่อน ดังนั้นจะเขียนอะไรเจ้าต้องคิดให้ดี"ราชาเฮ่อเหลียนจะฟังคำของเขาไหม นี่ก็ยังพูดลำบาก"ขอรับ"ฟู่จาวเฟยอารมณ์ก็เหมือนจะหมดอาลัยตายอยากขึ้นมา ผู้เฒ่าฟู่ตบลงบนบ่าเขา "ไป ปู่จะไปเขียนจดหมายกับเจ้า""ขอรับ"พวกเขาตอนที่ผ่านข้างตัวเซียวหลันยวน ผู้เฒ่าฟู่ก็ยืนนิ่ง เอ่ยกับเซียวหลันยวนว่า "ขอโทษด้วยจริงๆ พวกเราปู่หลานสองคนอาจจะต้องอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยนอีกสักวันสองวัน"เรื่องราวยังไม่ได้จัดการเสร็จสิ้น เขาเองก็ไม่อยากให้ฟู่จาวหนิงต้องวิ่งไปวิ่งมาสองด้าน เเขาเองก็ปวดใจ ดังนั้นทางที่ดีคือให้พวกเขาพักอยู่ในจวนอ๋องเจวี้ยนไปก่อน จาวหนิงเองก็จะได้พักฟื้นอย่างวางใจด้วย"ไม่เป็นไร พักเถิด" เซียวหลันยวนเองก็ตอบกลับเสียงเรียบ"อืม เช่นนั้นก็ขอบใจมาก"รอจนผู้เฒ่าฟู่กับฟู่จาวเฟยออกไป เซียวหลันยวนจึงปลดหน้ากากลง มองฟู่จาวหนิง สีหน้าดูน้อยเนื้อต่ำใจอย่างชัดเจน"วันนี้ในวังเกือบจะลงไม้ลงมือกับจักรพรรดิเสียแล้ว เขาคิดจะส่งข้าเข้าคุกด้วย"พรวด"เกิดอะไรขึ้น?" ฟู่จาวหนิงเกือบจะสำลักดังนั้นเขาถึงหายไปครึ่งค่อ

Latest chapter

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1688

    "หมอเทวดาฟู่"ทุกคนราวกับเพิ่งตื่นจากฝัน ทำความเคารพฟู่จาวหนิงกันอย่างระมัดระวังพวกเขาอันที่จริงอยากจะคุกเข่าลงโขกศีรษะด้วยซ้ำ แต่พวกสืออีกประคองตัวไว้ เป็นสัญญาณว่าพวกเขายืนไว้ก็พอ"เรียท่านหมอฟู่ก็พอแล้ว"ฟู่จาวหนิงเองก็จนใจหน่อยๆ พวกเขาเหล่านี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากฏพวกนี้ตั้งขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ที่ว่าพอเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่ จะถูกเรียกว่าหมอเทวดาอันที่จริง เทวดาก็ไม่ได้เป็นเทวดาอะไร นางเองก็มีโรคที่รักษาไม่ได้เหมือนกัน"ทุกคนรู้จักกันไว้ก่อนก็พอ อีกเดี๋ยวข้าจะจับชีพจรให้พวกเจ้าทั้งสิบคน ถ้ามีตรงไหนไม่สบาย มีโรคระบาดอะไรให้บอกข้าไว้ก่อน"ในเมื่อต้องใช้พวกเขา ฟู่จาวหนิงก็ต้องตรวจอาการพวกเขาก่อน"ข้าไม่มีโรคอะไร ข้าชื่ออาเหอ ใต้เท้าอันให้ขาพาพวกเขามา แล้วต้องฟังการกำชับจากหมอ ท่านหมอฟู่"อาเหอมองฟู่จาวหนิง รู้สึกประหม่าหน่อยๆหมอเทวดาหญิงที่สูงส่งเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะรังเกียจพวกเขาไหม"ได้ ไม่ต้องเครียดนัก บอกชื่อของตัวเองมาหน่อย"อาเหออันที่จริงก็ไม่ค่อยเชื่อนักว่าพูดเพียงรอบเดียว ฟู่จาวหนิงก็จะจำชื่อพวกเขาได้ แต่ว่า ได้พูดชื่อของตนเองออกมารอบหนึ่งต่อหน้านาง พวกเขากลับรู้สึกว่า

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1687

    อันเหนียนเองก็เป็นคนมีความสามารถ ฟู่จิ้นเชินเองก็ด้วย สองวันต่อมาพวกเขาก็ไม่อยู่บนรถม้าแล้ว แต่ออกไปเดินกับพวกผู้ประสบภัยเวลาสองวัน พวกเขาสองคนก็เลือกผู้ประสบภัยมาสิบคน ถึงเวลาสามารถนำมาใช้งานได้เป็นพวกที่ซื่อๆ คล่องแคล่วไม่พูดมาก เนื่องจากในบ้านประสบภัยจนไปต่อไม่ไหวแล้วจึงตรงมาที่เมืองเจ้อ แต่พวกเขาก็ไม่อยากจะเอาแต่ขอความช่วยเหลือจากจวนทางการ แต่ยังคิดว่าหลังจากถึงเมืองเจ้อแล้วจะทำอะไรได้บ้าง เอามาแลกข้าวไปกินฤดูใบไม้ผลเมืองเจ้อหนาวเย็น พวกเขาอย่างน้อยยังต้องผ่านมันไปอีกสองเดือนภายใต้สิ่งแวดล้อมเช่นนี้ อากาศเย็นๆ เอาชีวิตพวกเขาไปได้ ถึงอย่างไรก็กลัวจะไม่มีที่คุ้มกะลาหัว กลัวไม่มีข้าวต้มร้อนๆ กิน และยิ่งไม่มีเงินที่จะหาหมอซื้อยาด้วยอันเหนียนกับฟู่จิ้นเชินเลือกผู้ประสบภัยมาสิบคน ว่าจ้างพวกเขาชั่วคราว ถึงเวลาถ้าช่วยเหลือได้ ก็รับประกันว่าได้กินอิ่ม เจ็บป่วยมียาให้สิ่งนี้ถือว่าดีมากๆ สำหรับพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นในใจก็เกิดความปลอดภัยขึ้นมาทันทีพวกเขาอย่างน้อยยังมีประโยชน์บ้าง ยังมีความรู้สึกพึ่งพาได้ ตอนมาถึงเมืองเจ้อก็ไม่ต้องชะเง้อซ้ายขวา ไม่รู้ว่าควรไปที่ไหน จะถูกจัดแจงที่พั

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1686

    "จาวหนิง พวกเราต้องเร่งเดินทางแล้วกระมัง?"ฟู่จิ้นเชินให้พวกสืออีไปตรวจสอบรถม้าแต่ละคันอีกหน่อย ดูว่าสัมภาระมัดแน่นดีหรือไม่เขาเองก็ไม่คิดจะเปลืองน้ำลายอธิบายเรื่องนี้ความจริงมันเกิดขึ้นแล้ว เมื่อครู่จูเฉียนเฉี่ยนก็พูดเรื่องที่พวกเขาเคยเจอกันออกมาชัดเจนแล้ว ไม่มีอะไรให้อธิบายอีกยิ่งไปกว่านั้น ปฏิกิริยากับการจัดการของฟู่จาวหนิงก็เด็ดขาดไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรอีก"รีบเดินทางเถอะ" ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่ติดใจกับเรื่องนี้อันที่จริง เรื่องราวก็แค่นี้เอง ทุกคนเข้าใจแล้ว พูดมากไปก็ไร้ประโยชน์ ต่อให้เป็นเซียวหลันยวนเองถ้าเจอกับเรื่องนี้ หลังจากนางชัดเจนแล้วก็จะปล่อยมันไปเหมือนกัน แล้วนี่ก็เป็นพ่อของนางด้วยนะเพียงไม่นาน ทุกหลังจากที่พวกเขาจัดขบวนเรียบร้อยก็เดินทางต่อ ทิ้งจูเฉียนเฉี่ยนทั้งขบวนไว้ด้านหลังจูเฉียนเฉี่ยนมองเงาของพวกเขาที่จากไป ยืนนิ่งอยู่ที่นั่น"แม่นาง ช่างมันดีกว่าไหม?" ไฉ่เอ๋อร์อดเตือนนางขึ้นมาไม่ได้ "คุณชายฟู่คนนั้น ดูแล้วก็ไม่ได้ต้องการให้แม่นางตอบแทนนี่นา แล้วก็แม่นางข้างๆ เขาคนนั้น ข้ากลัวอยู่หน่อยๆ ด้วย"ฟู่จาวหนิงหน้าตาสะสวย ดูแล้วยังอายุน้อย ไม่ได้ลงไม้ลงมืออะ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1685

    "ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ เช่นนั้นแม่นางจูก็มาตอบแทนบุญคุณด้วยการทำร้ายสินะ"อะไรนะ?จูเฉียนเฉี่ยนมองนางอย่างงงงัน"ข้า ข้าจะมาตอบแทนด้วยการทำร้ายได้อย่างไร?" นางยังไม่ได้เริ่มเลยนะ"เมื่อครู่ถ้าไม่ใช่คนของข้าลงมือ เจ้ารู้ไหมว่าจะมีผลลัพธ์อย่างไร?" ฟู่จาวหนิงเดิมทีก็ใช้ท่าทีคนแปลกหน้ากับนางอยู่แล้ว พอตอนนี้มารู้อดีตเข้า ท่าทีของนางก็ยิ่งเย็นชากว่าเดิมเสียอีก"ข้าเองก็ไม่ได้เจตนานี่นา ข้าไม่รู้จริงๆ ว่ายาที่คนคนนั้นขายให้ข้าจะรุนแรงขนาดนี้""เจ้าจะเจตนาหรือไม่มันเป็นเรื่องของเจ้า แต่พวกเรามองแค่ผลลัพธ์ เพราะไม่ว่าเจ้าจะมีหรือไม่มีเจตนา เรื่องราวสุดท้ายก็เป็นเจ้าที่ทำมันขึ้น ก่อนหน้าที่เจ้าจะทำเรื่องนี้ก็ได้พิจารณาที่จะไล่ตามมาไว้แล้ว ถ้าไม่พิจารณาเลยว่าจะส่งผลกระทบอะไรกับพวกเราบ้าง"ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอย่างไม่เกรงใจ "พวกเราตอนนี้เท่ากับช่วยชีวิตพวกเจ้าไว้แล้วครั้งหนึ่ง ครั้งที่แล้วเขาช่วยเจ้า สิ่งที่แลกมาคืออันตรายครั้งหนึ่ง ครั้งนี้พวกเราช่วยเจ้า ใครจะรู้ว่าครั้งต่อไปเจ้าจก่อเรื่องอะไรออกมาอีก? การเดินทางพวกเราตอนนี้ถูกเจ้าทำให้ล่าช้า ถ้าหากพวกเรามีเรื่องที่เร่งด่วนเกี่ยวกับชีวิตคน เช

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1684

    ข้ารู้ว่าท่านไม่น่าจะลืมข้าคำพูดนี้มันคลุมเครือเสียเหลือเกินฟู่จาวหนิงมองพ่อนาง สีหน้าเองก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกหน่อยๆฟู่จิ้นเชินรักหวานชื่นกับเสิ่นเชี่ยวมาตลอด แล้วยังมีภาพลักษณ์ที่ซ์่อสัตย์มั่นคงด้วย พวกเขาปกติตอนที่อยู่ด้วยกัน ก็มองออกได้ง่ายมากกว่ามีความรู้สึกให้กันดีมากๆอย่าให้จู่ๆ ก็มีเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ขึ้นมาเชียว ความสงบสุขที่ตระกูลฟู่ได้มาอย่างยากลำบากอาจจะพังทลายลงได้ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าเสิ่นเชี่ยวน่าจะไม่ใช่คนที่จะยอมรับหญิงสาวคนอื่นมาแบ่งสามีตัวเองไปได้ด้วยฟู่จิ้นเชินหลังจากได้ยินประโยคนั้นของจู่เฉียนเฉี่ยน ก็มองไปทางฟู่จาวหนิงทันทีพอสบกับสีหน้านาง เขาก็อธิบายออกมา แน่นอนว่าเป็นการอธิบายถึงเหตุการณ์ตอนนั้น"ตอนนั้นแม่ของเจ้าป่วย ไข้ขึ้นจนมึนไปหมด ข้าให้นางพักอยู่ในโรงเตี๊ยม ส่วนข้าเองก็ออกไปซื้อยา แล้วที่ด้านนอกร้านยานั้นก็เจอกับแม่นางคนนี้ โอ้ ตอนนั้นนางแต่งตัวเป็นชาย นางกำลังนำยาห่อหนึ่งให้กับหมอพเนจรคนหนึ่งดู""ตอนนั้นข้าก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นหมอพเนจรอะไร เขาบอกว่าเขาเป็นหมอเทวดาจากสมาคมหมอใหญ่" จูเฉียนเฉี่ยนอธิบายมาคำหนึ่ง"วัตถุดิบยาห่อนั้นของนางมองแล้วดูดีมีค

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1683

    จูเฉียนเฉี่ยนเห็นพวกเขาเข้ามา ก็ทำท่าทางน่าสงสารขึ้นหลักๆ คือมองไปทางฟู่จิ้นเชินอันเหนียนเพิ่งจะถามไปไม่กี่คำ พอเห็นท่าทางนางเช่นนี้จึงถอยออกไปสองก้าว ให้ฟู่จาวหนิงขึ้นหน้ามา"แม่นางจูสินะ?" ฟู่จาวหนิงยืนอยู่ด้านหน้าจูเฉียนเฉี่ยน สายตาเย็นเยียบ"ใช่แล้ว จูเฉียนเฉี่ยน" จูเฉียนเฉี่ยนรีบตอบ"พูดมา เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?"ฟู่จาวหนิงถามออกมาตรงๆ สายตามีอาการบีบคั้นเล็กน้อย ไม่ยอมให้นางได้มีโอกาสเลี่ยง"ข้า ข้า...""เจ้าคิดให้ดีแล้วค่อยตอบ ข้าไม่ยอมรับคำโกหก เพราะพวกเจ้าเมื่อครู่เกือบทำพวกเราแย่ไปด้วย" ฟู่จาวหนิงเห็นตาของนางหลุกไปหลิกมา จึงตัดบทคำพูดนางทันทีสายตานางเฉียบคมขนาดนี้เลยหรือ?จูเฉียนเฉี่ยนมองฟู่จาวหนิง รู้สึกแค่ว่าตนเองตอนอยู่ต่อหน้านางไม่เหลือความลับอะไรอยู่อีกแล้วอย่างไรอย่างนั้น สายตาฟู่จาวหนิงมองมาอย่างคมกริบ แล้วยังดูน่าเกรงขามอีกด้วยแม่นางคนนี้ดูแล้วเหมือนไม่ได้โตกว่านางเลย ทำไมถึงดูน่าเกรงขามขนาดนี้กัน?"ม้าของเจ้ากินยาแล้วคลั่งขึ้นมา เจ้าอย่าบอกข้า ว่าพวกเจ้าไม่รู้" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นมาให้ชัดเจนหน่อยไฉ่เอ๋อร์ถลึงตาโตอย่างตกใจ มองไปทางแม่นางของนางโดยสัญชา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1682

    จูเฉียนเฉี่ยนใจเย็นลงมา ก็รู้ว่าคงเลี่ยงไม่พ้นแล้ว เลิกม่านรถขึ้น สบตากับอันเหนียนคุณชายคนนี้เมื่อคืนก็ดูสุภาพเรียบร้อยดี แต่ตอนนี้กลับดูมีอำนาจน่าเกรงขาม ทำเอาเธอกลัวตัวสั่นจนไม่กล้าลงจากรถม้าเลย"แม่นางจูไม่เป็นไรใช่ไหม?"ใครจะคิด ว่าพออันเหนียนเอ่ยปากก็ถามไถ่อย่างเป็นห่วงจูเฉียนเฉี่ยนถอนใจโล่งออกมา "ยัง ยังไหว""ลงจากรถม้าก่อนดีไหม?"ถึงอย่างไรรถม้าาคันนี้ ม้าที่ลากรถก็ล้มไปแล้ว ตอนนี้คงเดินไม่ได้ ลงมาก่อนน่าจะดีกว่าคนใช้อีกสามคนของนางยังอยู่บนรถม้า อันเหนียนรู้สึกว่าคุยอะไรมากไม่ได้"พวกเราจะลงไปเดี๋ยวนี้"จูเฉียนเฉี่ยนนิ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วภายใต้ปฏิกิริยาที่สงบอ่อนโยนของอันเหนียนอดพูดไม่ได้เลย ท่าทีของอันเหนียนสามารถปลอบอารมณ์ให้เย็นได้ดีจริงๆพอนางลงจากรถม้า ยังยื่นมือมาประคองสาวใช้ไฉ่เอ๋อร์อีก แล้วยังประคองหญิงรับใช้กับไฉ่เอ๋อร์ลงมาด้วยกัน"ไปพักทางนั้นก่อนเถอะ"อันเหนียนตอนที่ลงจากรถพวกนางก็มองไปรอบๆ เห็นว่าไม่ไกลนักที่พื้นหญ้าที่ค่อนข้างสะอาดอยู่ ที่นั่งยังมีหินอีกหลายก้อน บางทีก่อนหน้านี้อาจจะมีคนผ่านทางมาพักตรงนั้น หินจึงค่อนข้างเรียบ"เสี่ยวเจียง ไปเอาพรมม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1681

    ฟู่จาวหนิงเองก็ได้ยินการเคลื่อนไหวด้านอกแล้ว ขบวนรถของพวกเขาหยุดลงมา องครักษ์ควบม้าเข้ามา เอ่ยขึ้นเสียงร้อนรน "พระชายา ม้าของพวกเขาเสียการควคุม ดูผิดปกติมาก"ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว กระโจนลงจากรถ เดินออกมาไม่กี่ก้าวมองไปด้านหลัง แล้วก็เห็นรถม้าหลายคันทะยานย่ำโคลนพุ่งเข้ามาจริงๆ"พวกเจ้ามั่นใจว่าช่วยได้ไหม?" นางถาม"ลองดูได้""เดี๋ยวก่อน" ฟู่จาวหนิงขึ้นไปบนรถม้าแล้วหยิบเข็มกำหนึ่งลงมาทันที "เข็มยาชา แทงใส่ม้า ระวังด้วย"พวกเขามีกำลังภายใน ใช้สิ่งนี้จะดูเก่งกาจกว่านางหน่อยองครักษ์รับเข็มไปทันที หลายคนหันม้าเข้าไปหาพวกของจูเฉียนเฉี่ยนคนใช้ของอีกฝ่ายลนลานไปแล้ว "หลีก หลีกไป! พวกเราหยุดไม่ได้!"ถ้าทั้งสองฝ่ายควบม้ามาชนกัน ต้องมีคนตายแน่การปะทะเช่นนี้ ถ้าล้มจากม้า จะต้องถูกเหยียบตายแหง"จับให้แน่น!" องครักษ์สองมือยกขึ้น เข็มก็พุ่งสาดออกไปราวห่าฝน แทงไปบนตัวม้าองครักษ์สองคนด้านหลังก็ไม่ลดความเร็ว พุ่งเข้าไปหาต่อ ควบม้าเอียงตัวหลบ จากนั้นยื่นมือไปคว้าอีกฝ่ายดึงขึ้นมาบนหลังม้าของตนเอง ยกเท้าเตะหัวม้า ให้ม้าเบนออกไปข้างทางส่วนม้าที่ลากรถม้าด้านหลังก็ถูกแทงไปหลายเข็ม ชั่วเวลาครู่เดียว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1680

    เพราะเมื่อคืนนี้ฝนตกทั้งคืน ตอนเช้าในช่วงเส้นทางนี้ ความเร็วขบวนรถจึงเน้นไปที่ความเสถียรเป็นหลักฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดว่าจากเมืองหลวงไปเมืองเจ้อน่าจะสามสี่วันก็ไปถึง แต่ต่อมาพอถามฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน จึงรู้ว่าที่เซียวหลันยวนบอกว่าสามสี่วันไปถึง นั่นคือความเร็วของการขี่ม้าคนเดียวแต่แบบพวกเขาที่ขนสัมภาระมากมายเช่นนี้ กลางคืนยังต้องเข้าพัก หยุดพักเพื่อกินข้าวสามมือ ก็ต้องใช้เวลาประมาณหกวัน บวกกับเรื่องฝนหรืออย่างอื่น ความเร็วก็จะยิ่งช้าลง อาจจะไปถึงเจ็ดแปดวันดังนั้นนางจึงส่งองครักษ์สองคนขี่ม้านำไปสำรวจทางข้างหน้าก่อนแล้ว ถึงแม้จะไม่ถึงในสามสี่วัน แต่ก็หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกและเพราะไปได้ช้า จึงถูกคนอื่นตามขึ้นมาแล้วรถม้าของอันเหนียนอยู่หน้าขบวน ฟู่จาวหนิงนั่งอยู่รถม้าคันกลาง เดิมทียังมีรถม้าของฟู่จิ้นเชินตามอยู่ด้านหลังอีก แต่เพราะระหว่างทางพวกเขาต้องรีบเรียนรู้ ดังนั้นฟู่จิ้นเชินจึงอยู่บนรถม้าฟู่จาวหนิงเป็นส่วนใหญ่ด้านหลังมีรถสัมภาระอีกหลายคัน ด้านหลังก็เป็นองครักษ์จวนอ๋องคุมท้ายเพราะล้วนเป็นคนที่ฝึกยุทธ์มา พวกเขาอยู่ท้ายขบวนจึงได้ยินการเคลื่อนไหวด้านหลัง ว่ามีคนไ

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status