แชร์

บทที่ 594

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
ฟู่จาวหนิงไม่ได้ให้คนไปช่วย ตนเองใช้เวลาหนึ่งวันใช้ยาฆ่าเชื้อในห้องเภสัชจัดการฆ่าเชื้อเรือนเล็กนี้ทั้งนอกและในเสียรอบหนึ่ง แล้วยังฆ่าพวกมดแมลงอีกด้วย

ในห้องกั้นเป็นห้องเดี่ยวเล็กออกมาห้องหนึ่ง วางไว้เพียงโต๊ะยาวตัวเดียว ถึงเวลาถ้าหากมีงานอะไรจำเป็นต้องผ่าตัดหรือแยกชิ้นส่วน ก็ยังพอนำมาบังหูบังตาได้

แต่ว่า ถ้าต้องทำการผ่าตัดจริงๆ นางก็ยังต้องกลับไปในห้องเภสัชแน่นอน ปลอดภัยกว่า ไม่ต้องกลัวใครมาขัดในช่วงจังหวะสำคัญด้วย

นางบอกว่าที่นี่ต้องสว่างหน่อย เซียวหลันยวนก็ไม่รู้ว่าไปหาตะเกียงวังเคลือบเงาที่ดูซับซ้อนหลายใบมาจากไหน ตอกไว้บนเสาบนกำแพง เพิ่มเชิงเทียนเข้าไป ยิ่งไปกว่านั้นเชิงเทียนก็ยังทำมาจากสิ่งเคลือบเงาด้วย หลังจากที่จุดไฟขึ้นมาก็จะสะท้อนให้สว่างได้มากขึ้น

ทั้งสี่ด้านแขวนกระจกไว้บางส่วน และบางส่วนมีไว้สำหรับรวมแสงด้วย

สิ่งเหล่านี้ยังไม่แน่ว่าจะเพียงพอ แต่ว่าในห้องเภสัชของนางก็ยังมีตะเกียงแสงอาทิตย์อยู่

พอทำสิ่งเหล่านี้เสร็จ ฟู่จาวหนิงก็ทำให้คนแบกแม่นางเจี๋ยเข้ามา

เซียวหลันยวนอยากจะพูดว่าจะหาลูกมือให้นาง แต่ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าตอนนี้คงยังไม่มีคนที่จะยอมรับพฤตกรรมการหั่นศพของนางไหว
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 595

    "ท่านเองก็กินไม่ลงหรือ?" ฟู่จาวหนิงพิจารณาตัวเขา"ก็ไม่ขนาดนั้น แค่ไม่ค่อยอยากอาหาร"เซียวหลันยวนไม่ได้อธิบาย ว่าพอเขาคิดถึงฟู่จาวหนิงที่หมกตัววุ่นอยู่ในห้อง ขนาดข้าวปลาก็ยังไม่มีเวลาออกมากิน เขาก็รู้สึกว่าตนเองไม่อยากกินเหมือนกัน"ให้คนแบกนางออกไปฝังเถอะ" ฟู่จาวหนิงชี้ไปในห้อง นางจัดการเก็บกวาดทั้งหมดแล้ว แค่ยกคนออกไปก็พอ"ได้""ท่านเองก็ออกไปเถอะ ที่นี่กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อแรง ข้าจะไปอาบน้ำสระผมหน่อย อีกเดี๋ยวจะไปกินข้าว"ฟู่จาวหนิงพูดพลางรีบวิ่งออกจากเรือนไปบนตัวนางเต็มไปด้วยกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อเซียวหลันยวนถอยออกไป เพียงไม่นานก็ให้ทหารมาแบกคนออกไปหลังจากออกมา ทหารก็บอกกับเขา "ท่านอ๋อง ที่นี่เก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว บนโต๊ะก็ไม่มีหยดเลือดอยู่ มีเพียงกลิ่นประหลาดๆ แต่ก็ไม่มีกลิ่นเน่าเหม็นหรือกลิ่นคาวเลือด"พวกเขาเดิมทีคิดว่าด้านในจะระเกะระกะ แต่หลังจากเข้ามากลับเห็นว่าสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อย"ศพล่ะ?""เสื้อผ้าใส่เรียบร้อย ครบถ้วนดีด้วยขอรับ" ทหารพูดต่อไปไม่ไหว หรือต้องบอกว่าพวกเขาเดิมทีคิดว่าจะเป็นศพที่ไม่เรียบร้อยศพหนึ่ง ถูกเปิดผ่าหน้าท้องอะไรแบบนั้น? แล้วยังให้พวกเขาต้องฝืนม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 596

    รอจนเซียวหลันยวนลงมือเช็ดผมให้ฟู่จาวหนิง นางก็พบความพิเศษแล้วผ้าฝ้ายยิ่งเช็ดยิ่งอุ่น บางครั้งตอนที่ลูบผ่านคอนางก็สัมผัสได้ ร้อนวูบวาบ"ผ้าฝ้ายทำไมถึงได้ร้อนล่ะ?"ฟู่จาวหนิงหันหน้ามองเขาอย่างประหลาดเซียวหลันยวนยิ้มๆ ยื่นมือข้างหนึ่งออกมานางเองไม่เข้าใจ แต่ก็ยังยื่นมือไปสัมผัสมือของเขาด้วยสัญชาตญาณ "มือท่านร้อนขนาดนี้เลยหรือ?""กำลังภายในน่ะ"เซียวหลันยวนกุมนิ้วของนาง จากนั้นจึงปล่อยแล้วไปเช็ดผมต่อ"กระตุ้นกำลังภายใน เลือดก็จะอุ่นขึ้น ตอนนี้อากาศเย็นมากแล้ว ต้องรีบเช็ดให้แห้ง ไม่เช่นนั้นจะเป็นหวัดเอา"ผมของนางดีกว่าก่อนหน้าอย่างเห็นได้ชัดแม่นางคนนี้เปลี่ยนไปมากเซียวหลันยวนแม้ในใจจะมีข้อสงสัยมากมาย แต่ก็ยังไม่ได้ถามออกมา"เสร็จแล้ว""ขอบคุณมาก! ไปไปไป รีบไปกินข้าว หิวเหลือเกิน" ฟู่จาวหนิงดึงผ้ามาเส้นหนึ่งแล้วมัดเส้นผม ยกชายกระโปรงออกวิ่ง"เจ้าช้าหน่อย เดี๋ยวก็หกล้ม""รีบๆ มา ไม่งั้นข้าจะกินของอร่อยให้เรียบเลย!"เซียวหลันยวนมองแผ่นหลังนาง จู่ๆ ก็เหม่อลอยตอนนี้มีฟู่จาวหนิงอยู่ข้างกาย เขาก็เหมือนรู้สึกว่าบ้านคึกคักขึ้นมา ชีวิตก็น่าสนใจขึ้นมา ในใจเองก็เต็มเต็มไม่เหมือ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 597

    อ๊าๆๆ! ท่านอ๋องตอนนี้พูดกับพระชายาเช่นนี้แล้วหรือ? นี่มันใช้สารภาพรักหรือเปล่านะ? พระชายาตอบรับเลย!ฟู่จาวหนิงหูร้อนผะผ่าวผ่านไปพักหนึ่ง นางจึงก้มหน้า คีบเนื้อหมักเห็ดหอมเข้ากัดคำใหญ่ ตอบกลับอย่างคลุมเครือ "วิชาแพทย์ข้าดีมาก!"ดังนั้นความหมายของคำพูดนี้ก็คือ นางจะช่วยรักษาเขาให้หายแน่นอน!เซียวหลันยวนยิ้มๆ และเริ่มกินข้าวด้วยเช่นกันองครักษ์ลับที่คุ้มกันวังหลวงคุ้มกันอยู่สามวันพวกเขาไม่เห็นฮู่เจียไท่เลยแต่ว่าเซียวหลันยวนยังยืนยันว่าฮู่เจียไท่จะต้องมาเข้าวังเพียงแต่ตอนนี้ให้การให้องครักษ์เงามังกรค้นหาในเมืองดูจะเคลื่อนไหวใหญ่ไปหน่อย ถ้าเขาสั่งองครักษ์เงามังกรถี่เกินไป จะยิ่งทำให้องค์จักรพรรดิหวาดกลัวเขาดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ให้ทหารแอบคอยสืบค้นในเมือง"ไม่รีบ เขาเองก็ซ่อนได้อีกไม่นานหรอก" ฟู่จาวหนิงไม่เคร่งเครียดผู้นำตระกูลฮู่เองก็ดูจะได้สติกลับมาแล้วพอเห็นว่าตนเองเก็บชีวิตกลับมาได้ ฮู่โม่เองก็อยู่ข้างกาย เขาเสียใจกับตระกูลฮู่ที่มีลูกชายโง่ๆ อย่างฮู่เจียไท่ที่คิดจะทำร้ายคนในครอบครัว พลางผ่อนลมหายใจโล่ง อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังถือว่าพอจัดการได้อยู่"เสี่ยวโม่ ปู่อายุมากแล้ว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 598

    อันชิงตอนนั้นเกือบจะถูกโหวอาวุโสน้อยทำลายพรหมจรรย์ไป อันเหนียนไปจวนอ๋องเจวี้ยนเพื่อขอความช่วยเหลือจากอ๋องเจวี้ยน พอมาตอนท้ายก็มีฟู่จาวหนิงช่วยนางไว้พอดีและหลังจากนั้น อันชิงก็รู้สึกมาตลอดว่าฟู่จาวหนิงเป็นคนที่ดีที่สุดในโลกเพราะมีฟู่จาวหนิงอยู่ นางจึงยังมีชีวิตต่อมาได้ ไม่เช่นนั้นถ้ามาเจอกับคนอย่างโหวอาวุโสน้อยจี้แล้วมีหรือจะหนีรอด?ครั้งนั้นที่เขาเมฆอรุณนางเองก็เกือบต้องตายแล้ว ถึงอย่างไรหากแค่ได้รับความอัปยศ พอกลับมาเมืองหลวงก็ใช้ชีวิตต่อไม่ได้แล้ว ข่าวลือกับความอัปยศทั่วทั้งเมืองนี้คงทำให้นางตายแน่ต่อให้นางโชคดีรอดไปได้ แต่ก็คงไม่กล้าพบหน้าผู้คนอีกแล้ว แล้วอาจจะจมอยู่กับแต่น้ำตาในห้องทุกวันก็เป็นได้ ถ้าเป็นเช่นนี้คนทั้งคนก็อาจจะพังทลายลงเช่นกันฟู่จาวหนิงช่วยเหลือนางไว้จริงๆ"เจ้าเองก็รำพันมาหลายครั้งแล้ว ข้าไม่ใช่อธิบายกับเจ้าไปแล้วหรือ?" อันเหนียนเอ่ยขึ้นอันชิงดึงแขนเสื้อเขา "ข้าไม่ลืมสิ่งที่ท่านพูด" อันชิงกดเสียงลงต่ำ "แต่ว่าท่านพี่ อ๋องเจวี้ยนช่วงนี้มีเรื่องอยู่ แล้วไปเกี่ยวข้องอะไรกับพระชายาอ๋องเจวี้ยนกันเล่า? พระชายาอ๋องเจวี้ยนอาจจะไม่สนใจเรื่องเหล่านั้นก็ได้"นางเค

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 599

    พอเห็นฉากนี้ อันเหนียนก็สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อยเขารีบเดินกลับไปในรถม้าตนเอง หลังจากขึ้นรถม้าก็พูดกับคนขับรถว่า "ตามรถม้าจวนโหวไป"ระหว่างทาง อันเหนียนตอนที่มองไปด้านนอกก็เห็นเข้ากับคนรู้่จักกำลังซื้อของว่างอยู่ข้างทาง จึงร้องเรียกขึ้นทันที"สหายซุน"อีกฝ่ายหันกลับมา"ผู้ตรวจการอัน?""ข้ามีเรื่องด่วนต้องให้เจ้าช่วย""ผู้ตรวจการอันมีเรื่องอะไรกำชับได้เลย!" คุณชายซุนดูตกตะลึงที่ได้รับการเอ็นดูอันเหนียนเป็นผู้ตรวจการที่อายุน้อยที่สุดในราชสำนัก ยิ่งไปกว่านั้นตระกูลอันก็ยังเป็นตระกูลขุนนางมือสะอาดมาแต่ไหนแต่ไร อันชิงเองก็ภาคภูมิใจมาโดยตลอด ปกติไม่ค่อยได้ร่วมเสวนากับพวกเขาเท่าไรนัก ตอนนี้อันเหนียนกลับมีเรื่องให้เขาช่วยเหลือ?คุณชายซุนตื่นเต้นขึ้นมา"ท่านตอนนี้ไปที่จวนอ๋องเจวี้ยนให้รอบหนึ่ง" อันเหนียนรีบเขียนกระดาษขึ้นมาแผ่นหนึ่ง พับเสร็จก็ส่งให้เขา "เอาสิ่งนี้ส่งให้อ๋องเจวี้ยน อ๋องเจวี้ยนถ้าหากไม่อยู่ ก็ส่งให้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยน รีบไป รบกวนด้วย เรื่องนี้จะต้องทำให้ได้!"พูดจบเขาก็ควบรถม้าตรงต่อไปคุณชายซุนบีบกระดาษแผ่นนั้นแบบยังตั้งตัวไม่ค่อยติด"ไม่สิ ผู้ตรวจการอัน สหายอันเห

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 600

    "ลูกพี่หนิง!"ลู่ทงพอเห็นนางก็รีบหยุดม้า กระโจนตัวลงมา ตรงไปเบื้องหน้านางอย่างดีอกดีใจ"เจ้าไปอย่างไรมาอย่างไรนี่?"ฟู่จาวหนิงหลังจากกลับมาจากงานเลี้ยงวังครั้งที่แล้วก็ไม่เจอพวกลู่ทงอีกเลย ตอนนี้พอเห็นเขาก็รู้สึกเกินคาดหน่อยๆ"ข้ามาส่งจดหมายน่ะ!"ลู่ทงกลัวว่าอันเหนียนส่งเรื่องเร่งด่วนอะไรมา จึงไม่กล้าพูดมากนัก รีบยื่นกระดาษในมือส่งออกไปให้นางถึงอย่างไรก็บอกว่าไว้ว่าถ้าไม่เจออ๋องเจวี้ยนก็ให้มอบให้พระชายาอ๋องเจวี้ยน ตอนนี้เขาเองก็เจอกับพระชายาก่อน เช่นนั้นที่ส่งให้นางเลยก็ถูกต้องอยู่"นี่เป็นสิ่งที่ผู้ตรวจการอันส่งมาให้ เขาเจอคนคุ้นเคยระห่างทางจึงให้เขาเอามาส่ง คนผู้นั้นสกุลซุน แต่ว่าเขาน่าจะกลัวอ๋องเจวี้ยนมาก ดังนั้นจึงไม่กล้ามา ข้าจึงรับงานนี้มาระหว่างทางพอดี ลูกพี่หนิง ข้ายังไม่ได้เปิดอ่านกระดาษแผ่นนี้นะ"ตอนที่ฟู่จาวหนิงมองกระดาษแผ่นนี้ ลู่ทงก็เอ่ยขึ้นมาอย่างชัดเจน"นายท่านผังดูผิดปกติ ไปที่จวนโหวจวิ้นอัน เปลี่ยนรถม้าโหวจวิ้นอันแล้วออกไป ข้าตอนนี้กำลังติดตาม ทิศทางที่พวกเขาไป คือวังหลวง"ข้อความบนกระดาษเขียนไว้ลวกๆ มาก มองออกว่าน่าจะรีบเขียนออกมา"เข้ามา"ฟู่จาวหนิงหมุนต

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 601

    "่ลูกพี่หนิง พวกเราตอนไหนไปเขาเมฆอรุณด้วยกันอีกดี? ก่อนที่หิมะจะมาข้ากับพวกเจิ้งหยางอยากจะไปกันอีกสักรอบ ไปล่าสัตว์ ถึงตอนนั้นช่วงสิ้นปีก็มีเนื้อสัตว์เอาไว้ส่งเป็นของขวัญ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเราถ้าล่าได้มาก ผู้อาวุโสที่บ้านต้องดีใจแน่"ก่อนหน้านี้ลู่ทงกับพวกเจิ้งหยางหารือกันเรื่องนี้แล้ว ว่าก่อนหิมะจะมาจะไปอีกสักรอบหนึ่งยิ่งไปกว่านั้นยังอยากจะดึงฟู่จาวหนิงไปด้วย เพราะพวกเขารู้สึกว่าขอแค่พาฟู่จาวหนิงไป สิ่งที่ได้รับจะต้องมากล้นแน่นอน"ขึ้นเขา?"ฟู่จาวหนิงเองก็หวั่นไหวเล็กๆ นางอยากไปหาสมุนไพรแต่ว่าพอคิดๆ นางก็ล้มเลิกแล้ว "ข้าน่าจะไม่มีเวลาว่างเลย"นางเกือบจะลืมว่าอีกไม่นานก็ต้องไปเขาอวี้เหิงกับเซียวหลันยวน เรื่องหายา ระหว่างทางไปเขาอวี้เหิง หรือบางทีบนเขาอวี้เหิงเองก็น่าจะมีอยู่"อ๋า? เช่นนั้นก็ได้" ลู่ทงดูผิดหวังหน่อยๆ "แต่ว่าครั้งหน้ามีเวลาถ้าจะมานัดลูกพี่หนิงไปด้วยกันก็คงได้ใช่ไหม?""แน่นอน ถ้ามีเวลาว่างจะไปแน่"ฟู่จาวหนิงพูดเช่นนี้ ลู่ทงก็ดีอีกดีใจขึ้นมา"จริงด้วย ลูกพี่หนิง ข้าเกือบลืมว่ามีอีกเรื่อง ข้าอยากให้ท่านไปดูท่านยายคนหนึ่งของข้าหน่อย""อื๋อ?""ก่อนหน้าที่ไทเฮาจะเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 602

    สถานการณ์ของเฟิงจวิน ทำให้ฟู่จาวหนิงรู้สึกตกตะลึงไปบ้างตอนที่พวกเขารีบไปยังเรือนเฟิงจวิน ด้านในกำลังมีเสียงกรีดร้องดังติดกันออกมา จะบอกว่าเสียงกรีดร้องก็ไม่ค่อยคล้าย นั่นเป็นเสียงร้องคำรามที่ดูเสียแรงเปล่าและสิ้นหวังหลังจากผ่านไปหลายเสียง ก็มีเสียงครวญครางเหนื่อยล้าตามมา"ไอ๊...โยว.."ด้านในมีคนกำลังเตือน กำลังร้องไห้เสียงต่อ"อาซูเพิ่งจะวิ่งออกไปหาคนเข้าวังเชิญหมอหลวงมา ไม่รู้ว่าจะเจ้าเด็กนั่นจะเชิญหมอหลวงมาได้ไหม"มีคนเอ่ยขึ้นอย่างกลั้นน้ำตาไม่อยู่ "คนในวังอาจจะกลัวว่าอาการป่วยของเฟิงจวินจะระบาดสู่คน ฮองเฮาเองคงกดดันไม่ให้หมอหลวงเข้ามา นี่ทำเกินไปแล้ว""เจ้าอย่าพูดส่งเดช ฮองเฮาเป็นคนที่เจ้าพาดพิงได้หรือ?""ฮูหยินใหญ่ นั่นมันเรื่องจริงนี่นา เช่นนั้นพวกเราหาคนส่งจดหมายให้ไทเฮาดีกว่า ไทเฮาถ้าลงมือก็น่าจะเชิญหมอหลวงมาได้""ข้าบอกแล้ว ว่าห้ามไปหาไทเฮา" เฟิงจวินยังไม่ทันพูดจบ ก็ครวญครางออกมาอย่างดไม่อยู่ ฟังเสียงของนางแล้วเจ็บปวดอย่างมาก"เฟิงจวิน ข้าเชิญหมอเทวดามาแล้ว!" โม่อิงซูพาคนเข้ามา"หมอเทวดา? หมอเทวดาหลี่หรือ? เฟิงจวินเคยบอกว่าว่าไม่ต้องเชิญเขา"หญิงสาวในห้องหลายคนเสี

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1688

    "หมอเทวดาฟู่"ทุกคนราวกับเพิ่งตื่นจากฝัน ทำความเคารพฟู่จาวหนิงกันอย่างระมัดระวังพวกเขาอันที่จริงอยากจะคุกเข่าลงโขกศีรษะด้วยซ้ำ แต่พวกสืออีกประคองตัวไว้ เป็นสัญญาณว่าพวกเขายืนไว้ก็พอ"เรียท่านหมอฟู่ก็พอแล้ว"ฟู่จาวหนิงเองก็จนใจหน่อยๆ พวกเขาเหล่านี้ก็ไม่รู้เหมือนกันว่ากฏพวกนี้ตั้งขึ้นตั้งแต่เมื่อไร ที่ว่าพอเข้าร่วมสมาคมหมอใหญ่ จะถูกเรียกว่าหมอเทวดาอันที่จริง เทวดาก็ไม่ได้เป็นเทวดาอะไร นางเองก็มีโรคที่รักษาไม่ได้เหมือนกัน"ทุกคนรู้จักกันไว้ก่อนก็พอ อีกเดี๋ยวข้าจะจับชีพจรให้พวกเจ้าทั้งสิบคน ถ้ามีตรงไหนไม่สบาย มีโรคระบาดอะไรให้บอกข้าไว้ก่อน"ในเมื่อต้องใช้พวกเขา ฟู่จาวหนิงก็ต้องตรวจอาการพวกเขาก่อน"ข้าไม่มีโรคอะไร ข้าชื่ออาเหอ ใต้เท้าอันให้ขาพาพวกเขามา แล้วต้องฟังการกำชับจากหมอ ท่านหมอฟู่"อาเหอมองฟู่จาวหนิง รู้สึกประหม่าหน่อยๆหมอเทวดาหญิงที่สูงส่งเช่นนี้ ไม่รู้ว่าจะรังเกียจพวกเขาไหม"ได้ ไม่ต้องเครียดนัก บอกชื่อของตัวเองมาหน่อย"อาเหออันที่จริงก็ไม่ค่อยเชื่อนักว่าพูดเพียงรอบเดียว ฟู่จาวหนิงก็จะจำชื่อพวกเขาได้ แต่ว่า ได้พูดชื่อของตนเองออกมารอบหนึ่งต่อหน้านาง พวกเขากลับรู้สึกว่า

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1687

    อันเหนียนเองก็เป็นคนมีความสามารถ ฟู่จิ้นเชินเองก็ด้วย สองวันต่อมาพวกเขาก็ไม่อยู่บนรถม้าแล้ว แต่ออกไปเดินกับพวกผู้ประสบภัยเวลาสองวัน พวกเขาสองคนก็เลือกผู้ประสบภัยมาสิบคน ถึงเวลาสามารถนำมาใช้งานได้เป็นพวกที่ซื่อๆ คล่องแคล่วไม่พูดมาก เนื่องจากในบ้านประสบภัยจนไปต่อไม่ไหวแล้วจึงตรงมาที่เมืองเจ้อ แต่พวกเขาก็ไม่อยากจะเอาแต่ขอความช่วยเหลือจากจวนทางการ แต่ยังคิดว่าหลังจากถึงเมืองเจ้อแล้วจะทำอะไรได้บ้าง เอามาแลกข้าวไปกินฤดูใบไม้ผลเมืองเจ้อหนาวเย็น พวกเขาอย่างน้อยยังต้องผ่านมันไปอีกสองเดือนภายใต้สิ่งแวดล้อมเช่นนี้ อากาศเย็นๆ เอาชีวิตพวกเขาไปได้ ถึงอย่างไรก็กลัวจะไม่มีที่คุ้มกะลาหัว กลัวไม่มีข้าวต้มร้อนๆ กิน และยิ่งไม่มีเงินที่จะหาหมอซื้อยาด้วยอันเหนียนกับฟู่จิ้นเชินเลือกผู้ประสบภัยมาสิบคน ว่าจ้างพวกเขาชั่วคราว ถึงเวลาถ้าช่วยเหลือได้ ก็รับประกันว่าได้กินอิ่ม เจ็บป่วยมียาให้สิ่งนี้ถือว่าดีมากๆ สำหรับพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นในใจก็เกิดความปลอดภัยขึ้นมาทันทีพวกเขาอย่างน้อยยังมีประโยชน์บ้าง ยังมีความรู้สึกพึ่งพาได้ ตอนมาถึงเมืองเจ้อก็ไม่ต้องชะเง้อซ้ายขวา ไม่รู้ว่าควรไปที่ไหน จะถูกจัดแจงที่พั

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1686

    "จาวหนิง พวกเราต้องเร่งเดินทางแล้วกระมัง?"ฟู่จิ้นเชินให้พวกสืออีไปตรวจสอบรถม้าแต่ละคันอีกหน่อย ดูว่าสัมภาระมัดแน่นดีหรือไม่เขาเองก็ไม่คิดจะเปลืองน้ำลายอธิบายเรื่องนี้ความจริงมันเกิดขึ้นแล้ว เมื่อครู่จูเฉียนเฉี่ยนก็พูดเรื่องที่พวกเขาเคยเจอกันออกมาชัดเจนแล้ว ไม่มีอะไรให้อธิบายอีกยิ่งไปกว่านั้น ปฏิกิริยากับการจัดการของฟู่จาวหนิงก็เด็ดขาดไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรอีก"รีบเดินทางเถอะ" ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่ติดใจกับเรื่องนี้อันที่จริง เรื่องราวก็แค่นี้เอง ทุกคนเข้าใจแล้ว พูดมากไปก็ไร้ประโยชน์ ต่อให้เป็นเซียวหลันยวนเองถ้าเจอกับเรื่องนี้ หลังจากนางชัดเจนแล้วก็จะปล่อยมันไปเหมือนกัน แล้วนี่ก็เป็นพ่อของนางด้วยนะเพียงไม่นาน ทุกหลังจากที่พวกเขาจัดขบวนเรียบร้อยก็เดินทางต่อ ทิ้งจูเฉียนเฉี่ยนทั้งขบวนไว้ด้านหลังจูเฉียนเฉี่ยนมองเงาของพวกเขาที่จากไป ยืนนิ่งอยู่ที่นั่น"แม่นาง ช่างมันดีกว่าไหม?" ไฉ่เอ๋อร์อดเตือนนางขึ้นมาไม่ได้ "คุณชายฟู่คนนั้น ดูแล้วก็ไม่ได้ต้องการให้แม่นางตอบแทนนี่นา แล้วก็แม่นางข้างๆ เขาคนนั้น ข้ากลัวอยู่หน่อยๆ ด้วย"ฟู่จาวหนิงหน้าตาสะสวย ดูแล้วยังอายุน้อย ไม่ได้ลงไม้ลงมืออะ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1685

    "ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ เช่นนั้นแม่นางจูก็มาตอบแทนบุญคุณด้วยการทำร้ายสินะ"อะไรนะ?จูเฉียนเฉี่ยนมองนางอย่างงงงัน"ข้า ข้าจะมาตอบแทนด้วยการทำร้ายได้อย่างไร?" นางยังไม่ได้เริ่มเลยนะ"เมื่อครู่ถ้าไม่ใช่คนของข้าลงมือ เจ้ารู้ไหมว่าจะมีผลลัพธ์อย่างไร?" ฟู่จาวหนิงเดิมทีก็ใช้ท่าทีคนแปลกหน้ากับนางอยู่แล้ว พอตอนนี้มารู้อดีตเข้า ท่าทีของนางก็ยิ่งเย็นชากว่าเดิมเสียอีก"ข้าเองก็ไม่ได้เจตนานี่นา ข้าไม่รู้จริงๆ ว่ายาที่คนคนนั้นขายให้ข้าจะรุนแรงขนาดนี้""เจ้าจะเจตนาหรือไม่มันเป็นเรื่องของเจ้า แต่พวกเรามองแค่ผลลัพธ์ เพราะไม่ว่าเจ้าจะมีหรือไม่มีเจตนา เรื่องราวสุดท้ายก็เป็นเจ้าที่ทำมันขึ้น ก่อนหน้าที่เจ้าจะทำเรื่องนี้ก็ได้พิจารณาที่จะไล่ตามมาไว้แล้ว ถ้าไม่พิจารณาเลยว่าจะส่งผลกระทบอะไรกับพวกเราบ้าง"ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นอย่างไม่เกรงใจ "พวกเราตอนนี้เท่ากับช่วยชีวิตพวกเจ้าไว้แล้วครั้งหนึ่ง ครั้งที่แล้วเขาช่วยเจ้า สิ่งที่แลกมาคืออันตรายครั้งหนึ่ง ครั้งนี้พวกเราช่วยเจ้า ใครจะรู้ว่าครั้งต่อไปเจ้าจก่อเรื่องอะไรออกมาอีก? การเดินทางพวกเราตอนนี้ถูกเจ้าทำให้ล่าช้า ถ้าหากพวกเรามีเรื่องที่เร่งด่วนเกี่ยวกับชีวิตคน เช

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1684

    ข้ารู้ว่าท่านไม่น่าจะลืมข้าคำพูดนี้มันคลุมเครือเสียเหลือเกินฟู่จาวหนิงมองพ่อนาง สีหน้าเองก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกหน่อยๆฟู่จิ้นเชินรักหวานชื่นกับเสิ่นเชี่ยวมาตลอด แล้วยังมีภาพลักษณ์ที่ซ์่อสัตย์มั่นคงด้วย พวกเขาปกติตอนที่อยู่ด้วยกัน ก็มองออกได้ง่ายมากกว่ามีความรู้สึกให้กันดีมากๆอย่าให้จู่ๆ ก็มีเรื่องรักๆ ใคร่ๆ ขึ้นมาเชียว ความสงบสุขที่ตระกูลฟู่ได้มาอย่างยากลำบากอาจจะพังทลายลงได้ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าเสิ่นเชี่ยวน่าจะไม่ใช่คนที่จะยอมรับหญิงสาวคนอื่นมาแบ่งสามีตัวเองไปได้ด้วยฟู่จิ้นเชินหลังจากได้ยินประโยคนั้นของจู่เฉียนเฉี่ยน ก็มองไปทางฟู่จาวหนิงทันทีพอสบกับสีหน้านาง เขาก็อธิบายออกมา แน่นอนว่าเป็นการอธิบายถึงเหตุการณ์ตอนนั้น"ตอนนั้นแม่ของเจ้าป่วย ไข้ขึ้นจนมึนไปหมด ข้าให้นางพักอยู่ในโรงเตี๊ยม ส่วนข้าเองก็ออกไปซื้อยา แล้วที่ด้านนอกร้านยานั้นก็เจอกับแม่นางคนนี้ โอ้ ตอนนั้นนางแต่งตัวเป็นชาย นางกำลังนำยาห่อหนึ่งให้กับหมอพเนจรคนหนึ่งดู""ตอนนั้นข้าก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นหมอพเนจรอะไร เขาบอกว่าเขาเป็นหมอเทวดาจากสมาคมหมอใหญ่" จูเฉียนเฉี่ยนอธิบายมาคำหนึ่ง"วัตถุดิบยาห่อนั้นของนางมองแล้วดูดีมีค

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1683

    จูเฉียนเฉี่ยนเห็นพวกเขาเข้ามา ก็ทำท่าทางน่าสงสารขึ้นหลักๆ คือมองไปทางฟู่จิ้นเชินอันเหนียนเพิ่งจะถามไปไม่กี่คำ พอเห็นท่าทางนางเช่นนี้จึงถอยออกไปสองก้าว ให้ฟู่จาวหนิงขึ้นหน้ามา"แม่นางจูสินะ?" ฟู่จาวหนิงยืนอยู่ด้านหน้าจูเฉียนเฉี่ยน สายตาเย็นเยียบ"ใช่แล้ว จูเฉียนเฉี่ยน" จูเฉียนเฉี่ยนรีบตอบ"พูดมา เจ้าคิดจะทำอะไรกันแน่?"ฟู่จาวหนิงถามออกมาตรงๆ สายตามีอาการบีบคั้นเล็กน้อย ไม่ยอมให้นางได้มีโอกาสเลี่ยง"ข้า ข้า...""เจ้าคิดให้ดีแล้วค่อยตอบ ข้าไม่ยอมรับคำโกหก เพราะพวกเจ้าเมื่อครู่เกือบทำพวกเราแย่ไปด้วย" ฟู่จาวหนิงเห็นตาของนางหลุกไปหลิกมา จึงตัดบทคำพูดนางทันทีสายตานางเฉียบคมขนาดนี้เลยหรือ?จูเฉียนเฉี่ยนมองฟู่จาวหนิง รู้สึกแค่ว่าตนเองตอนอยู่ต่อหน้านางไม่เหลือความลับอะไรอยู่อีกแล้วอย่างไรอย่างนั้น สายตาฟู่จาวหนิงมองมาอย่างคมกริบ แล้วยังดูน่าเกรงขามอีกด้วยแม่นางคนนี้ดูแล้วเหมือนไม่ได้โตกว่านางเลย ทำไมถึงดูน่าเกรงขามขนาดนี้กัน?"ม้าของเจ้ากินยาแล้วคลั่งขึ้นมา เจ้าอย่าบอกข้า ว่าพวกเจ้าไม่รู้" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นมาให้ชัดเจนหน่อยไฉ่เอ๋อร์ถลึงตาโตอย่างตกใจ มองไปทางแม่นางของนางโดยสัญชา

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1682

    จูเฉียนเฉี่ยนใจเย็นลงมา ก็รู้ว่าคงเลี่ยงไม่พ้นแล้ว เลิกม่านรถขึ้น สบตากับอันเหนียนคุณชายคนนี้เมื่อคืนก็ดูสุภาพเรียบร้อยดี แต่ตอนนี้กลับดูมีอำนาจน่าเกรงขาม ทำเอาเธอกลัวตัวสั่นจนไม่กล้าลงจากรถม้าเลย"แม่นางจูไม่เป็นไรใช่ไหม?"ใครจะคิด ว่าพออันเหนียนเอ่ยปากก็ถามไถ่อย่างเป็นห่วงจูเฉียนเฉี่ยนถอนใจโล่งออกมา "ยัง ยังไหว""ลงจากรถม้าก่อนดีไหม?"ถึงอย่างไรรถม้าาคันนี้ ม้าที่ลากรถก็ล้มไปแล้ว ตอนนี้คงเดินไม่ได้ ลงมาก่อนน่าจะดีกว่าคนใช้อีกสามคนของนางยังอยู่บนรถม้า อันเหนียนรู้สึกว่าคุยอะไรมากไม่ได้"พวกเราจะลงไปเดี๋ยวนี้"จูเฉียนเฉี่ยนนิ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วภายใต้ปฏิกิริยาที่สงบอ่อนโยนของอันเหนียนอดพูดไม่ได้เลย ท่าทีของอันเหนียนสามารถปลอบอารมณ์ให้เย็นได้ดีจริงๆพอนางลงจากรถม้า ยังยื่นมือมาประคองสาวใช้ไฉ่เอ๋อร์อีก แล้วยังประคองหญิงรับใช้กับไฉ่เอ๋อร์ลงมาด้วยกัน"ไปพักทางนั้นก่อนเถอะ"อันเหนียนตอนที่ลงจากรถพวกนางก็มองไปรอบๆ เห็นว่าไม่ไกลนักที่พื้นหญ้าที่ค่อนข้างสะอาดอยู่ ที่นั่งยังมีหินอีกหลายก้อน บางทีก่อนหน้านี้อาจจะมีคนผ่านทางมาพักตรงนั้น หินจึงค่อนข้างเรียบ"เสี่ยวเจียง ไปเอาพรมม

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1681

    ฟู่จาวหนิงเองก็ได้ยินการเคลื่อนไหวด้านอกแล้ว ขบวนรถของพวกเขาหยุดลงมา องครักษ์ควบม้าเข้ามา เอ่ยขึ้นเสียงร้อนรน "พระชายา ม้าของพวกเขาเสียการควคุม ดูผิดปกติมาก"ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว กระโจนลงจากรถ เดินออกมาไม่กี่ก้าวมองไปด้านหลัง แล้วก็เห็นรถม้าหลายคันทะยานย่ำโคลนพุ่งเข้ามาจริงๆ"พวกเจ้ามั่นใจว่าช่วยได้ไหม?" นางถาม"ลองดูได้""เดี๋ยวก่อน" ฟู่จาวหนิงขึ้นไปบนรถม้าแล้วหยิบเข็มกำหนึ่งลงมาทันที "เข็มยาชา แทงใส่ม้า ระวังด้วย"พวกเขามีกำลังภายใน ใช้สิ่งนี้จะดูเก่งกาจกว่านางหน่อยองครักษ์รับเข็มไปทันที หลายคนหันม้าเข้าไปหาพวกของจูเฉียนเฉี่ยนคนใช้ของอีกฝ่ายลนลานไปแล้ว "หลีก หลีกไป! พวกเราหยุดไม่ได้!"ถ้าทั้งสองฝ่ายควบม้ามาชนกัน ต้องมีคนตายแน่การปะทะเช่นนี้ ถ้าล้มจากม้า จะต้องถูกเหยียบตายแหง"จับให้แน่น!" องครักษ์สองมือยกขึ้น เข็มก็พุ่งสาดออกไปราวห่าฝน แทงไปบนตัวม้าองครักษ์สองคนด้านหลังก็ไม่ลดความเร็ว พุ่งเข้าไปหาต่อ ควบม้าเอียงตัวหลบ จากนั้นยื่นมือไปคว้าอีกฝ่ายดึงขึ้นมาบนหลังม้าของตนเอง ยกเท้าเตะหัวม้า ให้ม้าเบนออกไปข้างทางส่วนม้าที่ลากรถม้าด้านหลังก็ถูกแทงไปหลายเข็ม ชั่วเวลาครู่เดียว

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1680

    เพราะเมื่อคืนนี้ฝนตกทั้งคืน ตอนเช้าในช่วงเส้นทางนี้ ความเร็วขบวนรถจึงเน้นไปที่ความเสถียรเป็นหลักฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดว่าจากเมืองหลวงไปเมืองเจ้อน่าจะสามสี่วันก็ไปถึง แต่ต่อมาพอถามฟู่จิ้นเชินกับอันเหนียน จึงรู้ว่าที่เซียวหลันยวนบอกว่าสามสี่วันไปถึง นั่นคือความเร็วของการขี่ม้าคนเดียวแต่แบบพวกเขาที่ขนสัมภาระมากมายเช่นนี้ กลางคืนยังต้องเข้าพัก หยุดพักเพื่อกินข้าวสามมือ ก็ต้องใช้เวลาประมาณหกวัน บวกกับเรื่องฝนหรืออย่างอื่น ความเร็วก็จะยิ่งช้าลง อาจจะไปถึงเจ็ดแปดวันดังนั้นนางจึงส่งองครักษ์สองคนขี่ม้านำไปสำรวจทางข้างหน้าก่อนแล้ว ถึงแม้จะไม่ถึงในสามสี่วัน แต่ก็หวังว่าจะไม่เกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกและเพราะไปได้ช้า จึงถูกคนอื่นตามขึ้นมาแล้วรถม้าของอันเหนียนอยู่หน้าขบวน ฟู่จาวหนิงนั่งอยู่รถม้าคันกลาง เดิมทียังมีรถม้าของฟู่จิ้นเชินตามอยู่ด้านหลังอีก แต่เพราะระหว่างทางพวกเขาต้องรีบเรียนรู้ ดังนั้นฟู่จิ้นเชินจึงอยู่บนรถม้าฟู่จาวหนิงเป็นส่วนใหญ่ด้านหลังมีรถสัมภาระอีกหลายคัน ด้านหลังก็เป็นองครักษ์จวนอ๋องคุมท้ายเพราะล้วนเป็นคนที่ฝึกยุทธ์มา พวกเขาอยู่ท้ายขบวนจึงได้ยินการเคลื่อนไหวด้านหลัง ว่ามีคนไ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status