"คุณหนู!"สืออีในที่สุดก็ตามมาทัน อันที่จิรงก็ไม่ได้นานนักคำนวณดูแล้วเขาก็มาช้าแค่นิดเดียว เพราะก่อนหน้านี้ถูกเล่นงานจนบาดเจ็บภายใน ตอนที่ใช้งานกำลังภายในจึงมีอุปสรรคอยู่บ้างตอนที่เข้ามาเขาก็เห็นฟู่จาวหนิงกำลังใช้ปลายเท้าเตะไปที่คนชุดเขียว นี่มันน่าตกตะลึงเสียเหลือเกิน"ไม่เป็นไร เขาแค่สลบไปน่ะ น่าจะหลับไปสักสองวันถึงตื่นขึ้นมา"ฟู่จาวหนิงดูมั่นอกมั่นใจกับยาที่ตนเองสกัดขึ้นมาก"อาวุธลับที่ท่านใช้หรือ?" สืออี ตกตะลึงอย่างมากเขากับสือซษนล้วนรับมือคนชุดเขียวนี้ไม่ไหว ฟู่จาวหนิงคนเดียวกลับรับมือเขาไว้แล้ว อาวุธลับของนางร้ายกาจขนาดนี้เลยหรือ?"ใช่แล้ว"ฟู่จาวหนิงโค้งตัวลงดึงเข็มยาชาบนแผ่นหลังคนชุดเขียวโยนเข้าไปในห้องมิติเรียบร้อยต้องกลบร่องรอยให้มิด"เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?"ฟู่จาวหนิงลุกขึ้นมา ค้นยาออกมาเม็ดหนึ่งยื่นออกไป "กินลงไป"สืออีไม่ลังเลแม้แต่น้อย รับแล้วกลืนลงไปทันทีพอยาลูกกลอนเม็ดหนึ่งลงไป เพียงไม่นานในตันเถียนก็มีความอุ่นวาบ ทำให้เขาอบอุ่นขึ้นมาซู๊ดยานี้ของคุณหนูดีต่ออาการบาดเจ็บภายใน ฤทธิ์ของยานี้ดีมากจริงๆ!แม้เวลาสถานที่จะไม่ถูกต้อง แต่สืออีก็อดถามขึ้นมาไ
ชายหนุ่มคนนี้มีวรยุทธ์ทั้งตัว แต่กลับยอมเป็นทหารอยู่ข้างกายซ่งอวิ๋นเหยา สวมเครื่องแต่งกายก็ไม่ใช่องครักษ์ของจวนตระกูลซ่งนางเดาว่าคนผู้นี้ยอมติดตามมาคุ้มครองข้างกายซ่งอวิ๋นเหยาเอง สิ่งที่เขาพูดเมื่อครู่ ก็ยกซ่งอวิ๋นเหยาเหมือนเป็นนางฟ้าในสายตาไปแล้ว ต่อให้จะชอบนางหลงนาง แต่ก็แค่คิดจะทำให้ความปรารถนาของนางเป็นจริงเท่านั้น ช่วยนางทำสิ่งที่อยากทำทั้งหมดคนเช่นนี้ อาจจะรู้ความลับขอซ่งอวิ๋นเหยาอยู่ไม่น้อย ซ่งอวิ๋นเหยาเองจะต้องเชื่อใจตัวเขาอย่างแน่นอนดังนั้น คนผู้นี้ส่งมาหน้าประตูแล้ว ก็อย่าเห็นว่าข้าไม่เกรงใจนางก็แล้วกัน จะต้องง้างของจากปากเขาออกมาให้ได้!จวนซ่งหลังจากซ่งอวิ๋นเหยาบอกเรื่องราวที่ตนเองรู้ออกมาจนหมดแล้ว เซียวหลันยวนก็เตรียมจะออกไป"หลันยวน"ซ่งอวิ๋นเหยาเรียกเขาอย่างร้อนรนในใจนางร้อนราวกับไฟสุม เห็นๆ อยู่ว่าพูดอะไรไปตั้งมากมาย เขาเองก็ยืนอยู่ตรงหน้าต่างนั่นพักหนึ่งแล้ว ทำไมเขาจึงไม่รู้สึกมึนหัวหรืออะไรเลย?"ข้าเคยบอกกับเจ้าแล้ว พวกเราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น ดังนั้นเจ้าอย่าเรียกชื่อข้าตรงๆ อีก ข้ากลัวว่าพระชายาจะหึงหวงเอา"คำพูดของเซียวหลันยวนทำให้ซ่งอวิ๋นเหยาเหมือนถูก
ต่อให้เซียวหลันยวนไปแล้ว นางก็ยังทำเป็นเหมือนเขายังอยู่ในนี้ รอเซี่ยวจวินกลับมาก่อน นางจะให้เขาแต่งตัวเป็นเซียวหลันยวน แล้วค่อยล่อฟู่จาวหนิงให้มาเห็นฉากนี้ นางวางแผนไว้หมดแล้ว จะมาพ่ายแพ้ก่อนได้รับชัยไม่ได้!เพียงแต่เดิมทีนางอยากจะถวายตัวออกไปจริงๆ ตอนนี้เซียวหลันยวนไม่ติดกับ นางจึงทำได้แค่ให้เซี่ยวจวินมาร่วมมือเสแสร้งด้วยกันดังนั้นตอนที่สือซานเข้ามาหาเซียวหลันยวนก็คิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนจะพาองครักษ์ลับออกไปพอดี ซ่งอวิ๋นเหยาเองก็เรียกองครักษ์เข้ามาแล้ว ปิดประตูจุดเทียนในห้องสร้างภาพว่านางกับเซียวหลันยวนยังอยู่ด้วยกันขึ้นมาสือซานมองเห็นเซียวหลันยวน กลัวว่าสืออีกับฟู่จาวหนิงจะเกิดปัญหา จากนั้นก็หมุนตัวไล่ตามพวกเขาออกไปเซียวหลันยวนหลังจากออกจากจวนซ่งก็กลับจวนอ๋องทันที รีบเดินตรงไปยังเรือนเจียนเจียเพื่อหาฟู่จาวหนิงในเรือนมืดมิดเงียบสนิท เขาตบประตู"ฟู่จาวหนิง เปิดประตู"ประตูเรือนข้างเปิดออก หงจั๋วรีบเดินออกมา "ท่านอ๋อง?"กลางค่ำกลางคืนเช่นนี้ ท่านอ๋องทำไมจึงมาเคาะประตูพระชายา? หรือว่าดวงตาของหงจั๋วเปล่งประกายขึ้นทันที แต่เพียงพริบตาก็สลายไป พระชายาไม่อยู่นี่นา เคาะไปแล้วมีป
กลิ่นอายที่เขาหายใจออกมาก็มีอุณหภูมิร้อนหน่อยๆ ด้วยไม่รู้ว่าตอนไหน เขาก้าวเดินเบาๆ ตรงไปยังถังอาบน้ำอย่างไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัวตอนที่เขายืนอยู่ข้างถังอาบน้ำ ฟู่จาวหนิงที่แอบงีบไปจึงรู้ตัวขึ้นมา นางเบิกตาโพลง ขณะเดียวกันเข็มเงินเล่มหนึ่งก็พุ่งไปทางเซียวหลันยวนและเพราะพริบตานั้นที่นางยังไม่ทันลืมตาก็เคลื่อนไหวไปแล้ว ดังนั้นเซียวหลันยวนจึงตั้งตัวไม่ทัน ถูกเข็มนั้นแทงเข้าไปก่อนที่ร่างกายจะชาดิก เขาก็ปฏิกิริยาที่ทำออกมาจากใจของตนเองด้วยสัญชาตญาณ ร่างกายล้มพับไปในถังอาบน้ำซูม!ฟู่จาวหนิงเดิมทีคิดจะลุกขึ้น แต่ถูกเขาล้มลงมาเช่นนี้ ก็ถูกกดกลับลงไปในถังอาบน้ำอีกน้ำซ่านกระเซ็นทั้งสองคนล้วนแช่ลงไปในถังอาบน้ำเซียวหลันยวนกดทับบนตัวนาง"ข้าเอง"ประโยคนี้ เขาเองก็เพิ่งจะมีโอกาสพูดออกมาแต่ก็สายไปแล้วเข็มเองก็แทงไปแล้ว น้ำเองก็เป็นฟองไปแล้วเพียงแต่ตอนนี้ จังหวะนี้ เซียวหลันยวนกลับไม่รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องไม่ดีด้วย ต่อให้เขาตอนนี้จะชาไปทั้งตัว ทำให้ใช้แรงไม่ได้ และใช้กำลังภายในไม่ได้ด้วยและไม่รู้ว่าเข็มของนางฉาบพิษอะไรไว้แต่ว่านางตอนนี้ก็ยังถูกกดไว้ด้วยกันคิดแล้วนางก็ยังเสียเ
"ท่านเพิ่งไปจวนตระกูลซ่งมาไม่ใช่หรือ?"เซียวหลันยวนฟังถึงจุดนี้ก็เข้าใจแล้ว"ทำไม ประหม่าหรือไร?" ฟู่จาวหนิงออกแรงผลักเขาสายตาเซียวหลันยวนจ้องมองนาง พอเห็นไฟโกรธในดวงตานาง ก็เหมือนจะมองเห็นถึงความน้อยเนื้อต่ำใจฟู่จาวหนิงเดิมทีก็ไม่คิดจะอ่อนแอ ความอ่อนแอเองก็ไม่ใช่ความเคยชินกับนิสัยของนาง แต่ไม่รู้ว่าเพราะสถานที่ไม่ถูกต้องเวลาไม่ถูกต้องหรือไม่ หรือว่าตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนสถานการณ์ไม่ถูกต้อง ความรุ้สึกน้อยใจก็หลั่งทะลักออกมา สะกดอย่างไรก็ไม่อยู่เซียวหลันยวนเห็นดวงตานางรื้นแดง ในดวงตาที่สวยงามนั่นเหมือนมีหมอกน้ำคลุมขึ้นมาชั้นหนึ่ง หัวใจเจ็บปวดขึ้นมาทันทีเสียงเขาแหบพร่า "หลังจากนี้จะไม่เจอนางอีกแล้ว""ท่านเจอไม่เจอก็เรื่องของท่าน ท่านมีคนในใจ อยากจะปกป้องนางอีกสักกี่ปีมันก็เรื่องของท่าน แต่ว่าท่านไม่ควรโกหกข้า ตอนนั้นข้าถามไปชัดเจนแล้วไม่ใช่หรือ? ถ้าท่านมีคนในใจเช่นนี้อยู่แล้ว ข้ารับรองว่าจะไม่ไล่ตามไม่คิดจะมาร้องขออภิเษกกับท่านด้วย ข้าไปหาคนอื่นก็พอแล้ว...อุ๊บ!"ริมฝีปากฟู่จาวหนิงถูกเขาอุดไว้แล้วอุณหภูมิน้ำเดิมทีก็ค่อยๆ เย็นลง แต่ไม่รู้เพราะอุณหภูมิบนตัวเซียวหลันยวนสูงไปหรือ
"เด็กผู้หญิง?""ข้ารับปากว่าจะปกป้องนาง หลายปีมานี้ข้าทำให้แล้ว แต่ก็ยิ่งรู้สึกว่าซ่งอวิ๋นเหยานั้นไม่ใช่นาง นิสัยของพวกนางไม่เหมือนกันเลย"เขาคิดจะไปดูห้องนอนซ่งอวิ๋นเหยาตอนกลางคืน"ครั้งนั้นนางบอกว่า ในถ้ำภูเขาที่ขมุกขมัวนางเองก็ไม่กลัว เพราะนางอยู่คนเดียวมาตลอด มีอยู่ห้องเดียว โล่งๆและเรียบง่าย"ฟู่จาวนหิงพบว่าสมองฟู่จาวหนิงตอนนี้ไม่ค่อยชัดเจนแล้ว จึงพลิกฝ่ามือดึงเข็มเล่มหนึ่งออกมาจากในห้องมิติทันทีกัดฟันให้หัวของเขากดอยู่บนหลังคอนางเพื่อพิง"หลายวันนี้ รู้สึกว่าซ่งอวิ๋นเหยาดูไม่คล้ายนางเลย ดังนั้นจึงอยากจะไปดูห้องนางเสียหน่อย"เซียวหลันยวนเองก้ไม่รู้ว่าตนเองทำไมจึงพูดเรื่องนี้กับฟู่จาวหนิง ก็แค่อยากจะพูดให้ชัดเจนเท่านั้น"ไม่เหมือน ห้องของซ่งอวิ๋นเหยา มีแต่ความหรูหรา ตรงไหนที่วางของก็ได้ก็วางไว้หมด ไม่เห็นพื้นที่ว่างเลย"นั่นเป็นห้องนอนของหญิงสาวสูงศักดิ์คนหนึ่ง"ท่านตอนนั้น ไม่ได้ถามชื่อนางเอาไว้หรือ?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นด้วยสัญชาตญาณ"ถามแล้ว นางไม่บอก นางบอกว่า คนมากมายถ้ารรู้ว่านางเป็นใครก็จะมารังแกนาง"เซียวหลันยวนพิงอยู่ที่หลังคอนาง ริมฝีปากประทับอยู่ข้างคอนาง ฟู่จา
เซียวหลันยวนเปียกโชกไปทั้งตัว เสื้อผ้าหน้าผมเต็มไปด้วยน้ำ ทำเอาฟู่จาวหนิงเห็นแล้วต้องขมวดคิ้วขึ้นมา"แล้วข้าจะหาเสื้อผ้าจากไหนมาเปลี่ยนให้ท่านกัน?""อืม เช่นนั้นให้ข้ากลับจวนอ๋องอย่างนี้หรือ?" เซียวหลันยวนที่เปียกโชกไปทั้งตัวมองนาง ใบหน้าแดงแจ๋ สายตาร้อนผะผ่าว แผลเป็นพิษนั่นก็ดูเข้มลึกขึ้นมาก ดูแล้วงดงามอย่างประหลาดฟู่จาวหนิงกัดฟันเขาจงใจสินะ จงใจแน่!สภาพแบบนี้จะออกไปยังไงกัน?นางรีบออกไปหอบผ้าคลุมเข้ามา จากนั้นก็โยนผ้าแห้งให้เขาผืนหนึ่ง "ท่านถอดเสื้อเปียกออกเลย แล้วก็เช็ดผมให้แห้งเสีย ข้าจะไปหาเสื้อผ้าให้ท่าน!"พอเห็นร่างที่หมุนตัวพุ่งออกไปของนาง เซียวหลันยวนนิ้วจรดบนพริมฝีปาก ไอขึ้นมา"แค่กๆๆ..."เขาไออย่างรุนแรงฟู่จาวหนิงไปหาเสื้อผ้ามาชุดหนึ่ง เดิมทีเตรียมไว้ให้คนคุ้มครองเรือน เศรษฐีฟางเพิ่งหามาให้นางสองคน ที่เหลือยังไม่เข้ามา แต่นางก็ให้ป้าจงเตรียมเสื้อผ้าที่เหมือนกันไว้ให้แล้วเดิมทีคนคุ้มครองเรือนที่เลือกมาล้วนมีร่างสูงใหญ่กำยำ ดังนั้นเสื้อผ้าเองก็ถือว่าเหมาะสมอยู่ตอนที่กลับมา เซียวหลันยวนเช็ดผมแห้งไปกว่าครึ่งแล้ว หอตัวอยู่ในผ้าคลุมพิงแคร่นิ่มในห้องนาง ผิวหนังยัง
"แค่กๆๆ" เซียวหลันยวนไอออกมาอีกชุดหนึ่ง เงยหน้ามองนาง สนิทกันได้ขนาดนี้แล้ว ยังจะหย่าอีกหรือ?"นอนลงไป" เซียวหลันยวนถูกดวงตาที่ไฟลุกมองจนรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง จะให้เขานอนลงในทันทีเซียวหลันยวนไอนอนลงไปบนแคร่นิ่ม ผ้าคลุมถูกนางดึงลงไปที่เอวพอเห็นเอวของเขา ใบหน้าของนางก็ร้อนผ่าว หยิบเข็มออกมาปักลงไปฉึกๆๆ"ก่อนหน้านี้ตอนท่านไปหอจันทร์หยาดไม่ใช่ว่าระมัดระวังตัวอยู่หรอกหรือ? สามารถสัมผัสได้ว่ามียา แล้วครั้งนี้ไปห้องนอนซ่งอวิ๋นเหยาทำไมจึงสังเกตไม่เห็น? เชื่อใจนางขนาดนี้เชียว?"เรื่องที่ไปห้องนอนซ่งอวิ๋นเหยาทำไมจึงไม่ปล่อยผ่านไปเสียที?เซียวหลันยงยแอบถอนใจเขาเสียใจขึ้นมาผิดไปแล้วจริงๆ จะมีข้อมูลอะไร เขาจะหาโอกาสอื่นเพื่อไปฟังไม่ได้เลยหรือ? แค่คิดจะไปดูห้องนอนหญิงสาวว่าเป็นอย่างที่จินตนาการไว้ไหม รอตอนกลางวันที่ซ่งอวิ๋นเหยาไม่อยู่แล้วเข้าไปดูไม่ได้หรือไร?"ข้าไม่รอบคอบเอง ตอนนั้นข้ายืนอยู่ข้างหน้าต่างแล้ว"พูดถึงตอนนี้ เขาจู่ๆ ก็คิดขึ้นมาว่าหน้าต่างของซ่งอวิ๋นเหยาไม่ใช่ว่าวางอะไรอยู่หรือ?"นางคิดจะเล่นงานข้า"เซียวหลันยวนกัดฟัน ซ่งอวิ๋นเหยา ดีมาก ดีจริงๆ"เมื่อเป็นเช่นนี้ นา
ฟู่จาวหนิงอยู่ในคุกเองก็เบื่อหน่อยๆ แล้วนางเหลือบมองเซียวเหยียนจิ่งผาดหนึ่ง จากนั้นจึงตรงไปด้าหน้าเซียวหลันยวน "ข้าออกไปฟังหน่อยได้ไหม?""ไปเถอะ" เซียวหลันยวนพยักหน้า"เอ๋ ไม่หึงแล้วหรือ?" ฟู่จาวหนิงร้องชิชะเซียวหลันยวนหัวเราะเสียงทุ้ม "อย่าไปไกลนักล่ะ ข้าได้ยินอยู่"ถึงอย่างไรนางก็เบื่อๆ ถ้าเซียวเหยียนจิ่งพูดเรื่องอะไรที่ทำให้นางฆ่าเวลาได้ เช่นนั้นเขาก็ควรจะใจกว้างหน่อยแต่ว่า พวกเขาเดินไปไกลมากไม่ได้ ต้องอยู่ในระยะที่เขาสามารถได้ยิน"รู้อยู่แล้วว่าท่านจะใจกว้างหลอกๆ"ฟู่จาวหนิงวางพู่กัน ปรบๆ มือ จากนั้นจึงเดินออกจากห้องขัง"คิดจะพูดอะไร?"เซียวเหยียนจิ่งเดิมทีคิดจะให้เซียวหลันยวนหึงหวง ดังนั้นจึงไม่คิดจะเดินไปไกลนัก"มานี่หน่อย" เซียวเหยียนจิ่งเดินออกมาข้างๆ ไม่กี่ก้าว รู้สึกว่าระยะนี้เซียวหลันยวนน่าจะได้ยินเหมือนคนคุยกันแต่ไม่ได้ยินเนื้อหาด้านในเช่นนี้ก็พอดีฟู่จาวหนิงร้องเชอะในใจ น่าจะเข้าใจความคิดของเขาเพียงแต่เซียวเหยียนจิ่งก็ยังโง่อยู่ เขาคิดว่าระยะนี้เซียวหลันยวนไม่ได้ยินหรือไรกัน?นางเดินออกไปเซียวเหยียนจิ่งบอกกับผู้คุมข้างๆ คำหนึ่ง ให้เขาออกไปก่อนผู้คุม
ถ้าไม่ใช่ห้องขังรอบๆ ยังมีสภาพเดิมอยู่ เขาก็คงจะสงสัย ว่าฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนพักอยู่ในโรงเตี๊ยมอะไรกันคุกที่ไหนเขาจัดกันอบอุ่นแบบนี้บ้าง!"พระชายาอ๋องเจวี้ยน รบกวนออกมาหน่อย มีคนมาพบท่าน" ผู้คุมเปิดประตูยังต้องปรบมือเรียกคนม่านนั้นเลิกออก เซียวเหยียนจิ่งมองเข้าไปด้านใน และเห็นเซียวหลันยวนกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ที่ปูด้วยเบาะรองตัวหนึ่งพลิกเปิดอ่านหนังสือ บนโต๊ะข้างๆ ยังมีชาที่ร้อนกรุ่นอยู่อีกกาหนึ่งด้วยฟู่จาวหนิงยืนอยู่ข้างๆ เขา กำลังจรดพู่กันเขียนอักษรดูแล้วเหมือนกำลังใช้ชีวิตประจำวันอยู่เลย!เซียวหลันยวนมองออกมา สบเข้ากับสายตาของเซียวเหยียนจิ่งพอดีเซียวเหยียนจิ่งเดิมทีใจก็กระตุกวูบ เขาเกือบจะถอยหนีออกมาแล้ว แต่ตอนที่เห็นฟู่จาวหนิง ไฟริษยาก็ทำให้เขาลืมความกลัวไปไม่ได้เจอกันตั้งครึ่งค่อนปี ฟู่จาวหนิงกลับสวยขึ้นกว่าเดิมเสียอีกเธอเป็นสาวเต็มตัวแล้ว ความเขินอายแบบเด็กสาวก็หายไปใบหน้าเปล่งปลั่ง รูปร่างก็ได้สัดส่วน ไม่เหมือนแต่ก่อนที่ผมบาง แต่มีส่วนโค้งเว้าที่สวยเด่นแค่ชดกระโปรงสีเหลืองเรียบง่าย เห็นแล้วก็ยังรู้สึกเย้ายวนเป็นพิเศษหลี่จื่อเหยาเทียบกับนางได้เสียที่ไหน!
หมากก้าวแรกของพวกชินอ๋องเซียวในตอนนั้นก็เสี่ยงเหมือนกัน ไปบอกเรื่องที่พวกเขารู้กับองค์จักรพรรดิ แม้จะช่วยจัดการพยานสองคนนั้นไปแล้ว แต่องค์จักรพรรดิก็อาจจะยังไม่ละเว้นพวกเขาอยู่ถึงอย่างไรปากของคนตายนี่ล่ะที่ปิดสนิทที่สุด"ท่านพ่อ ความสัมพันธ์ของพวกเรากับองค์จักรพรรดิ จะไปเทียบกับตระกูลฟู่ได้อย่างไร?"เซียวเหยียนจิ่งไม่เห็นด้วยท่านพ่อกับองค์จักรพรรดิเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน พวกเขาล้วนสกุลเซียว ยิ่งไปกว่านั้นชินอ๋องเซียวก็ยังคุกคามองค์จักรพรรดิไม่ได้ จวนชินอ๋องเซียวเองก็ไม่ได้มีอำนาจสักเท่าไร ก็แค่อาศัยแต่พระมหากรุณาธิคุณของฝ่าบาทไปเท่านั้นดังนั้นองค์จักรพรรดิจึงเชื่อในความจริงใจที่พวกเขาส่งไปให้ เชื่อว่าพวกเขาต้องการแค่จะได้รับการให้ความสำคัญและการปกป้องจากฝ่าบาทเท่านั้น"ตระกูลฟู่จะไปมีอะไร? ฝ่าบาทไม่จำเป็นต้องเห็นพวกตระกูลฟู่อยู่ในสายตาเลย ส่วนเซียวหลันยวนก็เป็นหนามในสายตาองค์จักรพรรดิอีก องค์จักรพรรดิคิดจะรับมือกับเซียวหลันยวน ตอนนี้เซียวหลันยวนเองก็มีจุดอ่อนที่ใหญ่ที่สุดอยู่ นั่นก็คือฟู่จาวหนิง"พอพูดคำนี้ เซียวเหยียนจิ่งก็ดูไม่ค่อยสบายใจขึ้นมาที่ต้องให้เขายอมรับว่าเซียวหลันย
ก่อนหน้านี้ฟู่จิ้นเชินชื่อเสียงระบือเมืองหลวง และเคยขี่ม้าไปตามถนนสายยาว เคยเข้าไปในโรงสุราประชันโคลงกลอนกับผุ้อื่น เป็นช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์เหลือประมาณเพราะเขามีหน้าตาที่ไร้เทียมทาน คนที่ไปดูเขาโดยเฉพาะก็มีไม่น้อย ผ่านไปหลายปีเช่นนี้ คนที่ยังจดจำหน้าตาเขาได้ก็มีอยู่ไม่น้อยด้วยเช่นกันโดยเฉพาะแม้จะผ่านไปสิบกว่าปีแล้ว เขาก็แทบไม่ได้ดูแก่ลงเลย มีแค่ความสุขุมที่มากขึ้น คนที่เคยเจอเขาในครั้งนั้น พอคิดว่าแค่เหลือบมองแล้วจำเขาได้ก็คงไม่ใช่เรื่องที่ยากเย็นอะไรกลับกันตัวฟู่หลินซื่อ คนที่พบเจอมีไม่มากนัก"ตอนนั้นคนที่ส่งข่าวให้พวกเราบอกว่า รอให้ฟู่หลินซื่อกลับเมืองหลวง จึงสามารถคิดหาวิธีให้เรื่องเมื่อสิบแปดปีก่อนเกิดขึ้นอีกครั้ง"ชินอ๋องเซียวกดเสียงต่ำ "สิบแปดปีก่อน เรื่องที่ฟู่หลินซื่อถูกใส่ร้ายว่าวางยาพิษเซียวหลันยวนสินะ ตอนนี้นางกลับมาแล้ว จะมีคนยืมมือของนางลงมือวางยาพิษกับเซียวหลันยวนอีกครั้งหรือ?"เซียวเหยียนจิ่งในใจมีความตื่นเต้นที่ยากจะพรรณนาออกมาเขาช่วงนี้เฝ้าคอยเรื่องนี้อยู่ตลอดก่อนหน้านี้เขาถอยห่างฟู่จาวหนิง อยากจะหนีนางไปให้ไกลๆ แต่ตอนนี้เขาเสียใจขึ้นมาเสียแล้วนับตั้งแต่
ผู้อาวุโสจี้อยู่ในรถม้าด้านหลัง เขาเองก็เลิกม่านขึ้นมองด้านนอก พอเห็นร้านรวงสองฟากฝั่งถนนแขวนไว้ด้วยโคมแดงก็ถอนหายใจ"จะปีใหม่อีกแล้ว"ชายหนุ่มอายุราวสามสิบปีอีกหนึ่งคนที่นั่งอยู่ในรถม้าก็มองออกไปด้านนอก พอได้ยินเขาพูดเช่นนี้ก็มองไปทางผู้อาวุโสจี้ ถอนหายใจเอ่ยขึ้นว่า "ผู้อาวุโสจี้ นี่จะปีใหม่อยู่แล้ว เจ้าพันธมิตรเรียกท่านกลับไปรวมตัวที่สาขาหลัก ท่านทำไมจึงปฏิเสธล่ะ?"ผู้อาวุโสจี้ไม่ได้กลับสาขาหลักไปช่วงปีใหม่หลายปีแล้ว"ไม่อยากไป วุ่นวายเกิน" ผู้อาวุโสจี้ส่ายหัว ไม่สนใจอย่างเห็นได้ชัด"ผู้อาวุโสคนอื่นก็ล้วนอยู่ที่พันธมิตร แม้ว่าเวลาปกติจะไปที่นั่นที่นี่ แต่พอถึงช่วงไว้พระจันทร์กับปีใหม่ล้วนกลับไป ตอนที่พวกเขาอยู่ด้วยกันยังสามารถหารือเรื่องใหญ่ต่างๆ ในพันธมิตรได้ นอกจากนี้ทุกสิ้นปีฝ่ายบัญชีพันธมิตรโอสถก็จะตรวจสอบแบ่งปันเงิน ท่านไม่กลับไป เรื่องพวกนี้ก็ไม่รู้ว่าจัดการกันชัดเจนหรือไม่ชายคนนี้เพิ่งจะถูกย้ายมาเป็นผู้ดูแลพันธมิตรคนใหม่ของเมืองหลวง ซูเหอซูเหอเองก็ถือเป็นคนที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้อาวุโสจี้ เดิมทีด้วยอายุและประสบการณ์ของเขา ควรจะถูกจัดไปอยู่ประจำที่สาขาของพันธมิตรโอ
"หวานจัง"องค์หญิงนานฉือกินไปคำหนึ่ง ตาก็เป็นประกายขึ้นมา"ลูกชิ้นนี่เหนียวหนึบหนับดี เด้งและอ่อนนุ่ม น้ำแกงก็หวาดดี อร่อยจัง""ลูกชิ้นนี้ต้องใช้น้ำอุ่นที่อุณหภูมิพอดีมานวด ส่วนเวลาและแรงตอนที่นวดก็ต้องพิถีพิถันด้วย ท่านพี่เองก็ชอบกิน พีสะใภ้กินเยอะหน่อยๆ"องค์หญิงหนานฉือชอบกิน อันชิงจึงดีใจมากนางนั่งอยู่ตรงข้ามมององค์หญิงหนานฉือ รู้สึกว่านางดุมีเสน่ห์กว่าก่อนที่แต่งงานเสียอีก สวยจับใจจริงๆ"พี่ชายของเจ้า..."องค์หญิงหนานฉือหน้าร้อนขึ้นมาเดิมทีนางก็เป็นคนที่ค่อนข้างเปิดเผย แต่พอเจอกับเรื่องนี้ก็อดเขินอายขึ้นมาไม่ได้เหมือนักนพูดพูดถึงผู้ตรวจการอันเหนียน องค์หญิงหนานฉือก็รู้สึกปากร้อนขึ้นมาหน่อยๆ นางไม่เคยคิดเลยว่าผู้ตรวจการอันที่มีหน้าตางดงามอ่อนโยนมีการศึกษา จะเป็นชายหนุ่มที่มีอารมณ์หนักหน่วงคนหนึ่งแบบนี้!หลายวันนี้ ทุกวันตอนกลางคืนเขาก็จะมาทรมานนางสองครั้ง หลังจากเสร็จประชุมเช้า เขาก็ยังกลับมาทรมานนางอีกครั้งยิ่งไปกว่านั้นทุกครั้งก็ยังใช้เวลานาน นี่ทำเอานางหลายวันนี้มึนๆ งงๆ ร่างกายเมื่อยขบนอนไม่พอ ไม่ค่อยได้ออกจากห้องเลยทุกมื้อล้วนมีคนส่งอาหารเข้ามาในห้อง นางเองก็ขี
ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่สนใจว่าองค์จักรพรรดิจะถามพวกอวิ๋นจูอย่างไรนางกลับมาที่จวนอ๋องเจวี้ยนอีกครั้ง ครั้งนี้ย้ายของไปมากกว่าเดิม ถึงกับตกแต่งห้องขังนั้นขึ้นมาแล้วประตูห้องขังยังแขวนม่านเอาไว้ด้วย บนพื้นปูพรม บนเตียงยังมีฉากกั้นลมสูงครึ่งตัวคนอีก แล้วยังกั้นเป็นห้องเล็กๆ สามารถวางถังปลดทุกข์ใบหนึ่งได้ด้วยที่มุมยังมีแจกันดอกไม้ บนกำแพงติดเชิงเทียนเอาไว้ แล้วยังแขวนเครื่องหอมไว้อีกย้ายโต๊ะมาหนึ่งตัว เก้าอี้สองตัว แล้วยังมีเบาะรองนั่งอีกพู่กันหมึกกระดาษแท่นฝนหมึกก็ยังติดมา แล้วยังมีเตาเล็กสำหรับอุ่นชาอุ่นสุราอีกชุดหนึ่ง วางเครื่องลายครามที่ประณีตสวยงามเอาไว้องครักษ์จวนอ๋องเจวี้ยนหลังจากย้ายของพวกนี้เข้ามาจัดวางแล้ว ห้องขังนี้ก็เปลี่ยนไปอย่างมากหัวหน้าคุกกับผู้คุมมองจนตาตั้งพวกเขาไม่ใช่ว่าไม่ได้ห้ามปราม แต่ฟู่จาวหนิงพูดมาคำเดียวว่า "ข้าบอกกับองค์จักรพรรดิแล้วว่ามาอยู่เป็นเพื่อนท่านอ๋อง" พวกเขาก็ต้องก้มหน้ากลับไปหัวหน้าคุกรู้สึกว่าผิดปกติไปจริงๆ วิ่งไปรายงานกับหัวหน้า ตอนกลับมายังคิดจะรื้อของเหล่านี้ของฟู่จาวหนิงออก"พระชายาอ๋องเจวี้ยน องค์จักรพรรดิให้อ๋องเจวี้ยนมาทบทวนตนเองให้
"ที่แท้การขังเอาไว้ในคุกใหญ่ก็ไม่เรียกว่าการลงโทษสินะ?""ฟู่จาวหนิง วันนี้เจ้าคิดจะมาทำอะไรกันแน่? ข้ามีงานการอีกตั้งมาก ไม่มีเวลามาเสวนาไร้สาระกับเจ้านะ!" องค์จักรพรรดิรู้สึกว่าแค่เห็นฟู่จาวหนิงเขาก็ปวดหัวเสียแล้วเขาเองก็ไม่กล้าทำอะไรนางจริงๆวิชาแพทย์ของฟู่จาวหนิงสูงส่งมาก! ในใจเขายังรู้สึกว่าโชคดีมาก ถึงอย่างไรนางก็เป็นคนของแคว้นเจา ถึงอย่างไรนางก็ยังมีญาติอยู่ที่เมืองหลวง ถึงอย่างไรตระกูลฟู่ก็ไม่ได้มีรากฐานอะไร ดังนั้นตอนที่เขาต้องการนางจริงๆ เขายังมั่นใจว่าตนเองจะบีบจุดอ่อนของนาง แล้วนำนางมาใช้ประโยชน์เพื่อตนเองได้ใครให้วิชาแพทย์ต้องมาเจอกับหายนะเข้าในใต้หล้านี้กัน ปัจจุบันพวกหมอเก่งๆ ล้ำค่าจะตายไปก่อนหน้านี้แคว้นเจามีหมอเทวดาหลี่ พวกเขาก็รู้สึกมีความมั่นใจอยู่ แต่พอเทียบกับฟู่จาวหนิง วิชาแพทย์ของหมอเทวดาหลี่กลับห่างชั้นอยู่ไกลโขเลยทีเดียวเพื่อวิชาแพทย์ของนาง ขอแค่นางไม่มาเหยียบเส้นต่ำสุดที่ไม่ควรล้ำ องค์จักรพรรดิก็ยังมีความอ่อนข้อให้สูงลิบอยู่เพียงแต่ว่า นางนี่มันน่าโมโหเสียจริงองค์จักรพรรดิรู้สึกว่ายิ่งพูดกับฟู่จาวหนิงมากแค่ไหนชีวิตเขาก็สั้นลงไปอีกหลายปี"แค่อยากจ
องค์จักรพรรดิพอได้ยินคำของฟู่จาวหนิง หน้าผากก็มีเส้นเลือดปูดตึงขึ้นมา"อายวนเขามีอะไรต้องทุกข์ใจกัน? ไม่พอใจข้าที่ให้เขาไปนั่งทบทวนตนเองในคุกหรือ?"ถ้านางกล้าบอกว่าไม่พอใจล่ะก็...ในใจองค์จักรพรรดิยังกำลังคิด ว่าตอนที่นางพูดว่าไม่พอใจแล้วจะตอกนางกลับไปอย่างไร ก็ได้ยินฟู่จาวหนิงใช้น้ำเสียงแปลกประหลาดออกมาคำหนึ่ง"องค์จักรพรรดิ ใครบ้างที่ยินดีจะอยู่ในคุก?"องค์จักรพรรดิ: นี่ยังจะย้อนถามมาอีกหรือ?"แต่ต่อให้ไม่ยินดีก็มิอาจขัดราชโองการได้" ฟู่จาวหนิงผายสองมือออก ดูจำใจอย่างมาก "เขาเป็นทุกข์ก็คือพวกสาวงามที่องค์จักรพรรดิยัดเข้ไาปข้างกายนั่นมันน่าโมโหมาก องค์จักรพรรรดิให้พวกนางไปดูแลเขา ผลลัพธ์คือพวกนางทั้งหมดก็หนีไปกันเกลี้ยง!""หนีหรือ?"องค์จักรพรรดิเองก็เดินตามแนวคิดของนางโดยไม่รู้ตัว กระทั่งน้ำเสียงก็ยังเลียนเสียงนางขึ้นอย่างไม่รู้ตัวจากนั้นเขาจึงได้สติกลับมา อยากจะตบปากตัวเองเสียจริงๆ"ใช่ไหมล่ะ เกินไปจริงๆ องค์จักรพรรดิ อายวนอยู่ในคุำำใหญ่ออกมาไม่ได้ ดังนั้นเขาจึงให้ข้าเข้าวังมาบอกกับองค์จักรพรรดิ จวนอ๋องเจวี้ยนไม่ต้อนรับสาวงามพวกนี้ แต่เจอเรื่องครั้งนี้เข้าไปก็ส่งผลกระทบกั