เซียวหลันยวนมองพวกเขาศิษย์อาจารย์สองคนนั่งยองหารือกันในกอหญ้าป่านี้อย่างออกรสออกชาติอยู่ข้างๆผู้อาวุโสจี้ตอนนี้ก็โยนเขาไปอยู่หลังสมองแล้วสมัยก่อนได้ยินคนบอกว่า ผู้อาวุโสจี้จากพันธมิตรโอสถใต้หล้าเป็นพวกบ้าสมุนไพร พอพูดถึงวัตถุดิบยาก็จะลืมไปหมดทุกสิ่งอย่าง มีคนไม่น้อยล้วนบอกว่าผู้อาวุโสจี้คนนี้น่าเบื่อสุดๆ เพราะสิ่งที่เขาพูดมามากที่สุดล้วนเป็นวัตถุดิบยาแต่ไม่ใช่คนทั้งหมดที่จะสนใจต่อวัตถุดิบยา ต่อให้ศิษย์ก่อนหน้าของเขาคนนั้นก็ยังรู้สึกอึดอัด เรียนรู้วัตถุดิบยาไปเองก็ไม่จบไม่สิ้นเสียทีแต่ว่าตอนนี้เขากลับพบว่าฟู่จาวหนิงนั้นฟังอย่างตั้งใจ กระทั่งบางครั้งที่ตามไม่ทันยังบอกให้ผู้อาวุโสจี้อธิบายอีกรอบด้วยคนหนึ่งสอนอย่างละเอียด อีกคนก็เรียนอย่างตั้งใจเซียวหลันยวนเองก็มองอยู่ข้างๆ จู่ๆ ที่หูก็กระดิกเล็กน้อย มีร่างแฉลบผ่านไปข้างกาย จากนั้นก็ใช้ฝ่ามือลมฟาดคนหนึ่งลอยออกมาจากด้านหลังกอหญ้าอาวุธลับในมือคนผู้นั้นยังไม่ทันขว้างออกมา ร่างกายก็ร่วงลงไปบนพื้นแล้ว และรีบกระโจนกลับออกมาอย่างรวดเร็ว มองไปทางเซียวหลันยวนอย่างขุ่นเคือง"อ๋องเจวี้ยน ทำไมถึงมาหลอกหลอนไม่หยุดแบบนี้?"ไห่ฉางจวิ้น"
ผู้อาวุโสจี้ถลึงตามองนาง"เขายังหาไม่เจอ ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ก็ไม่ได้มาขุดด้วยกันด้วย แล้วจะแบ่งให้เขาทำไมกัน? มีความจำเป็นอะไรที่ต้องแบ่ง? แล้วเขามีคุณสมบัติอะไรถึงจะได้รับการแบ่ง?"ถ้าหากหาเจอด้วยกัน ถ้าหากซือถูไป๋เข้ามาขุดด้วยกัน เช่นนั้นพวกเขาก็จำใจต้องหารือเรื่องแบ่งของอย่างเสียมิได้ ตอนนี้ซือถูไป๋ไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วยซ้ำ แล้วจะมาแบ่งอะไร?"อ๋องเจวี้ยน ท่านว่าจริงไหม?"ผู้อาวุโสจี้ถามเซียวหลันยวน"ผู้อาวุโสจี้พูดไว้ถูกต้อง" เซียวหลันยวนพยักหน้าโดยไม่ต้องคิด"ดูสิ อ๋องเจวี้ยนเองก็ยังเห็นด้วยกับข้า เอาล่ะเอาล่ะ เจ้ารีบขุดเข้า ระวังมือของเจ้าด้วย" ผู้อาวุโสจี้เร่งรัดฟู่จาวหนิงเขาไม่เพียงแต่ไม่อยากจะแบ่งวัตถุดิบยาให้ซือถูไป๋ แต่ยังกลัวว่าตอนนี้เขาจะเข้ามาด้วย"หญิงสาวอย่างเจ้าอะไรก็ดีไปหมด แต่บางครั้งจะใจอ่อนไปหรือไม่?"ผู้อาวุโสจี้นั่งบ่นกระปอดกระแปดอยู่ข้างๆ "อย่างที่รักษาอาการให้ผู้เฒ่าหวางนั่นด้วย เจ้าอย่าคิดว่าข้าไม่รู้ เรื่องนี้ไม่ง่ายเลย และจะต้องเสียเวลาอย่างมากอีก แต่เจ้ากลับไม่เก็บเงินสักแดงเดียว เจ้าเป็นเช่นนี้ หลังจากนี้อาชีพหมอคงจะเลี้ยงตนเองไม่ไหว""อาจารย์" ฟู
"แต่ว่าคุณชายถ้าออกไปหาดีดีก็คงจะหาพวกเขาพบนี่นา ถ้าแค่คุณชายไปขุดเถาขมเฝื่อนด้วยกัน ผู้อาวุโสจี้จะแย่งไปทั้งหมดได้หรือ?"อาเพียนมองซือถูไป๋อย่างกังวลเล็กๆ "คุณชาย คุณชายถังเอาแต่จ้องตำแหน่งนายน้อยของท่านเขม็ง เขาได้รับการช่วยเหลือจากต้าชื่อแล้วด้วย แล้วยังเอาใจนายท่านอย่างเอาเป็นเอาตายอยู่อีก ถ้าท่านมาเมืองหลวงรอบนี้แล้วรวบรวมตัวยามหัศจรรย์ไปไม่ครบ นายท่านคงจะผิดหวังมากแน่ๆ "ถึงตอนนั้นคุณชายถังถ้ายืนยันได้ว่าเป็นสายเลือดของนายท่าน ประคองตัวตนฐานะตนเองอย่างมั่นคงแล้ว ตำแหน่งของคุณชายจะรักษาไว้ไม่ได้เอานะนายท่านเดิมทีไม่ค่อยจะชัดเจนกับแม่ของคุณชายถังอยู่แล้ว คุณชายถังเองอาจจะเป็นลูกชายของนายท่านก็ได้"ไม่เป็นไร ไม่มีเถาขมเฝื่อนก็ยังหาอย่างอื่นได้""คุณชาย""เอาล่ะ อาเพียน เจ้าตอนนี้เริ่มพูดมากแล้วนะ"อาเพียนถูกตำหนิไปคำหนึ่ง ก็ปิดปากลงด้วยความรู้สึกน้อยใจฟู่จาวหนิงกลับมาถึงบ้านตระกูลฟู่ นำหินก้อนนั้นวางกลับไปที่เดิมของมัน จากนั้นก็เอาหินหยาบมรกตที่ซือมาจากผู้เฒ่ากู้สองก้อนวางไว้ในลานบ้าน จากนั้นก็ปลูกโกฐเหลืองที่ขุดกลับมาจากในภูเขาเอาไว้ข้างๆครั้งนี้ได้รับของกลับมาจากบนภูเข
"ไม่เป็นไรไม่เป็นไร ไม่ต้องร้อนรน"พอเห็นเสี่ยวเถาร้อนรนจนร้องไห้ ฟู่จาวหนิงก็เข้าประคองนาง"แต่ว่าคุณหนูเองก็ดมกลิ่นไม่ออกแล้วนี่" เสี่ยวเถารู้สึกแปลกหน่อยๆ "เอ๋ ไม่ใช่สิ คุณหนู แล้วทำไมตอนนี้ข้าถึงได้กลิ่นหอมของเทียบเชิญนั่นแล้วล่ะ?""เพราะไม่ใช่ว่าประสาทรับกลิ่นจะหายไปทั้งหมด เพียงแต่จะไม่ได้ไวเหมือนเมื่อก่อน ไม่ค่อยปกติเท่านั้น เจ้าตอนนี้ที่ได้กลิ่นหอมของเทียบเชิญไม่ได้หนักหน่วงเหมือนเมื่อวานใช่ไหม? นี่ก็เพราะประสาทรับกลิ่นเริ่มกลับมาแล้ว""ที่แท้ก็อย่างนี้นี่เอง ข้าคิดว่าวางทิ้งไว้สักวันกลิ่นหอมก็จะจางไป""ในนี้น่าจะยังมีตัวยาที่ทำให้กลิ่นคงไว้อยู่ ดังนั้นกลิ่มหอมจึงไม่จางหายไปไวนัก" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น "เจ้าอย่าลืมว่าคุณหนูของบ้านเจ้าทำอะไร พิษแค่นี้ข้าแก้ไขได้อยู่"ฟู่จาวหนิงให้นางรอก่อน ตนเองเข้าไปในห้อง เพียงไม่นานก็หยิบยาลูกกลอนที่ปั้นลวกๆ ออกมาเม็ดหนึ่ง"กินลงไปก็พอแล้ว"เสี่ยวเถารับยาลูกกลอนเม็ดนี้ ยัดลงไปในปากทันที"เจ้าเชื่อใจข้าขนาดนั้นเลยหรือ?""แน่นอนสิเจ้าคะ ท่านเป็นคุณหนูของข้านะ ยิ่งไปกว่านั้นวิชาแพทย์ของคุณหนูก็ยังยอดเยี่ยมมากด้วย" เสี่ยวเถากลืนยาลูกกลอนเม
"คุณหนู ท่านอย่าไปเชียว" เสี่ยวเถาเอ่ยเตือนนางอย่างกังวล"ข้าขอดูก่อน"ผลลัพธ์ผ่านไปไม่นานนัก ฟู่จาวหนิงก็รู้ว่าอีกฝ่ายทำไมจึงมั่นใจว่าตนเองจะไปยังหอจันทร์หยาด เพราะว่า มีคนส่งจดหมายเข้ามาอีก บอกว่าหลินอันห่าวไปตกอกตกใจอะไรอยู่ที่นั่น เอาแต่ร้องห่มร้องไห้หลินอันห่าวเป็นลูกสาวของพี่สะใภ้รองฟู่หลินซื่อ หรือก็คือน้าสะใภ้รองของฟู่จาวหนิงก่อนหน้าพิธีเดิมพันโอสถครั้งที่แล้วมีหมอสกุลเฉียนคิดจะให้นางเป็นคนไข้ตัวอย่างจึงยิงเข็มพิษใส่นาง ฟู่จาวหนิงรักษาอาการให้นางแล้วน้าสะใภ้รองเซี่ยซื่อเป็นเพียงคนเดียวในตระกูลหลินที่เคยช่วยเหลือผู้เฒ่าฟู่กับฟู่จาวหนิงเอาไว้ ตอนนี้พูดได้ว่าเป็นญาติที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมที่เหลืออยู่ของบ้านพวกนางแล้วฟู่จาวหนิงคิดถึงสภาพหวาดผวาของหลินอันห่าว ไฟโกรธก็แทบจะปะทุเผาไหม้ขึ้นมาเหนือหัวทันทีหลินอันห่าวเป็นเด็กที่มีปัญหาในสมอง อายุสิบสองสิบสามปี ตอนนี้สติปัญญาก็น่าจะแค่สี่ห้าขวบ ยิ่งไปกว่านั้นปฏิกิริยาเองก็ยังใสซื่ออย่างมาก ตอนนี้ทำไมจึงไปยังหอจันทร์หยาดเพียงคนเดียวล่ะ?ถ้าคนที่อยู่เบื้องหลังเพื่อจะล่อลวงนางไปหอจันทร์หยาดแล้วใช้หลินอันห่าวมาเป็นเครื่องมือ เช่
"เซียวเหยียนจิ่งอยู่ที่หอจันทร์หยาดหรือ? ฟู่จาวหนิงเองก็ไปแล้ว?""ท่านอ๋อง ใช่แล้ว"ชิงอีไม่กล้าเงยหน้าตอนที่ได้ข่าวนี้พวกเขาเองเองก็คิดขึ้นมาตามสัญชาตญาณเลย ว่าฟู่จาวหนิงไปหอจันทร์หยาดเพื่อไล่ตามเซียวเหยียนจิ่งหรือไม่?ถึงอย่างไรพวกเขาก็รู้จากการตรวจสอบตัวฟู่จาวหนิงในช่วงสิบกว่าปีนี้มาว่า ฟู่จาวหนิงแต่ก่อนเคยไล่ตามเซียวเหยียนจิ่งไปถึงหอจันทร์หยาด"ข้าจำได้ ตอนนั้นที่ฟู่จาวหนิงถูกคนอื่นด่าว่า พูดออกมาคำหนึ่งกับคนที่ล้อมมุงอยู่อย่างชัดเจน"เซียวหลันยวนนั่งอยู่หลังโต๊ะหนังสือ ในมือก็ออกแรงกำโดยสัญชาตญาณ จนข้อมือขาวโพลนไปแล้วชิงอีเองก็ไม่กล้าต่อคำ"เหมือนนางจะบอกว่า นางจะไปหาเซียวเหยียนจิ่ง ถ้าหากไม่มใช่เพื่อเซียวเหยียนจิ่ง นางไม่มีทางไปเหยียบหอจันทร์หยาดแม้เพียงก้าวเดียว ใช่ไหม?"เซียวหลันยวนเติมเข้ามา พูดคำนี้ออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำชิงอีครั้งนี้ก็พูดไม่ออกแล้ว ทำไมความจำท่านอ๋องถึงได้ดีแบบนี้? ตอนที่ตรวจสอบพบเรื่องนี้วันนั้น ตอนที่คนอื่นเอาคำพูดนี้ของฟู่จาวหนิงมารายงานกับท่านอ๋องเขาก็พูดตามออกมา แต่ไม่คิดว่าท่านอ๋องจะความจำดีขนาดนี้"ขอ ขอรับ""ดังนั้นนางตอนนี้ไปที่หอจันทร
ฟู่จาวหนิงพาเสี่ยวเถากับสืออีเข้าไป ตอนที่เสี่ยวเถาบอกว่าเกรงว่ารัฐทายาทเซียวจะอยู่ที่นี่ ฟู่จาวหนิงก็คิดถึงภาพเซียวเหยียนจิ่งถูกเซียวหลันยวนซัดจนฟันร่วง จู่ๆ ก็อยากจะขำขึ้นมา"บอกกันว่าเซียวเหยียนจิ่งมีรสนิยมต่อชาไม่เลวเลย ไม่รู้ว่าพอฟันหายไปซี่หนึ่งแล้วจะส่งผลกระทบอะไรไหม?"สืออีพอได้ยินมุมปากก็กระตุก เกือบจะขำจนทนไม่ไหวเสี่ยวเถาเองก็ไม่กล้าหัวเราะ"คุณหนู แล้วถ้าเจอเขาล่ะ""วางใจเถอะ ถ้าเจอเขาข้าก็จะเลี่ยงออกมาทันที เจอหน้าเขาข้ารู้สึกเหมือนโชคร้าย"เสี่ยวรีบเหลือบมองไปทางสืออีหลักๆ คือนางกังวล สืออีเป็นคนของอ๋องเจวี้ยน อ๋องเจวี้ยนน่าจะสนใจเรื่องของรัฐทายาทเซียวอยู่กระมัง? ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้คุณหนูของพวกเขาก็เคยไล่ตามเซียวเหยียนจิ่งจริงๆ มีสามีคนไหนบ้างที่จะไม่ใส่ใจกัน?สืออีสังเกตเห็นสายตาของเสี่ยวเถา จับจ้องไม่วางตาจงเจี้ยนเคยบอกเขาว่า แม้พวกเขาจะเป็นคนของท่านอ๋อง แต่ในเมื่อตอนนี้ติดตามพระชายาอยู่ ปากต้องปิดให้สนิท เรื่องที่พระชายาไม่ได้พูดก็อย่าเอาไปบอกท่านอ๋องทางนั้น ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็จะกลายเป็นพวกสาวลิ้นยาวขี้นินทาสืออีจำจุดนี้ได้เป็นอย่างดีแต่ก็แปลก ตอนนี้เป
ฟู่จาวหนิงมองหลินอันห่าวตรงหน้า รู้สึกว่าไฟโกรธในใจก็พุ่งขึ้นไปเหนือศีรษะเสียแล้วนางโกรธมากเพราะหลินอันห่าวตอนนี้ใส่ชุดกระโปรงผ้าบางทั้งตัว กระโปรงสีชมพูท้อ ด้านนอกมีผ้าขาวบางเหมือนปีกจักจั่นคลุมอยุ่ ชายกระโปรงด้านหนึ่งเปิดเป็นช่อง ผ่าขึ้นมาถึงต้นขา ด้านในมีผ้าบางอีกชั้น หัวไหล่ท่อนแขน ครึ่งหน้าอก ต้นขาล้วนมองเห็นอย่างชัดเจนนางเท้าเปลือยเปล่า บนเท้าเปล่ายังมีเชือกแดงผูกกระดิ่งเอาไว้แม้สายตากับสีหน้าของหลินอันห่าวจะไร้เดียงสา แต่ใบหน้านางกลับถูกแต่งแต้ม แล้วยังมีไฝสีแดงที่หางตานางด้วยและมีดอกโบตั๋นสีแดงสอดอยู่ที่บริเวณขมับนางด้วยดอกหนึ่ง ที่หูมีต่างหูดอกโบตั๋นแบบเดียวกันห้อยอยู่ ริมฝีปากทาจนแดงแจ๋นี่เป็นชุดของพวกนางคณิกาอย่างชัดเจน พอขับกับความไร้เดียงสาบริสุทธิ์ของนาง ก็มีความขัดแย้งที่ยากจะพรรณนาได้ออกมาฟู่จาวหนิงรู้ ว่าจะต้องมีพวกผู้ชายใจคดบางส่วน ชื่นชอบเด็กสาวเช่นนี้แน่นอนเพียงแต่ หลินอันห่าวนางเพิ่งจะอายุสิบสองสิบสามปี!อาการป่วยของนาง จิตใจของนางก็เพิ่งจะสี่ห้าขวบเท่านั้น!ไม่ว่าจะร่างกายหรือว่าจิตใจ นางยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง!คนที่พานางมาที่นี่ แต่งตัวนางจนมีสภ