"เซียวเหยียนจิ่งอยู่ที่หอจันทร์หยาดหรือ? ฟู่จาวหนิงเองก็ไปแล้ว?""ท่านอ๋อง ใช่แล้ว"ชิงอีไม่กล้าเงยหน้าตอนที่ได้ข่าวนี้พวกเขาเองเองก็คิดขึ้นมาตามสัญชาตญาณเลย ว่าฟู่จาวหนิงไปหอจันทร์หยาดเพื่อไล่ตามเซียวเหยียนจิ่งหรือไม่?ถึงอย่างไรพวกเขาก็รู้จากการตรวจสอบตัวฟู่จาวหนิงในช่วงสิบกว่าปีนี้มาว่า ฟู่จาวหนิงแต่ก่อนเคยไล่ตามเซียวเหยียนจิ่งไปถึงหอจันทร์หยาด"ข้าจำได้ ตอนนั้นที่ฟู่จาวหนิงถูกคนอื่นด่าว่า พูดออกมาคำหนึ่งกับคนที่ล้อมมุงอยู่อย่างชัดเจน"เซียวหลันยวนนั่งอยู่หลังโต๊ะหนังสือ ในมือก็ออกแรงกำโดยสัญชาตญาณ จนข้อมือขาวโพลนไปแล้วชิงอีเองก็ไม่กล้าต่อคำ"เหมือนนางจะบอกว่า นางจะไปหาเซียวเหยียนจิ่ง ถ้าหากไม่มใช่เพื่อเซียวเหยียนจิ่ง นางไม่มีทางไปเหยียบหอจันทร์หยาดแม้เพียงก้าวเดียว ใช่ไหม?"เซียวหลันยวนเติมเข้ามา พูดคำนี้ออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำชิงอีครั้งนี้ก็พูดไม่ออกแล้ว ทำไมความจำท่านอ๋องถึงได้ดีแบบนี้? ตอนที่ตรวจสอบพบเรื่องนี้วันนั้น ตอนที่คนอื่นเอาคำพูดนี้ของฟู่จาวหนิงมารายงานกับท่านอ๋องเขาก็พูดตามออกมา แต่ไม่คิดว่าท่านอ๋องจะความจำดีขนาดนี้"ขอ ขอรับ""ดังนั้นนางตอนนี้ไปที่หอจันทร
ฟู่จาวหนิงพาเสี่ยวเถากับสืออีเข้าไป ตอนที่เสี่ยวเถาบอกว่าเกรงว่ารัฐทายาทเซียวจะอยู่ที่นี่ ฟู่จาวหนิงก็คิดถึงภาพเซียวเหยียนจิ่งถูกเซียวหลันยวนซัดจนฟันร่วง จู่ๆ ก็อยากจะขำขึ้นมา"บอกกันว่าเซียวเหยียนจิ่งมีรสนิยมต่อชาไม่เลวเลย ไม่รู้ว่าพอฟันหายไปซี่หนึ่งแล้วจะส่งผลกระทบอะไรไหม?"สืออีพอได้ยินมุมปากก็กระตุก เกือบจะขำจนทนไม่ไหวเสี่ยวเถาเองก็ไม่กล้าหัวเราะ"คุณหนู แล้วถ้าเจอเขาล่ะ""วางใจเถอะ ถ้าเจอเขาข้าก็จะเลี่ยงออกมาทันที เจอหน้าเขาข้ารู้สึกเหมือนโชคร้าย"เสี่ยวรีบเหลือบมองไปทางสืออีหลักๆ คือนางกังวล สืออีเป็นคนของอ๋องเจวี้ยน อ๋องเจวี้ยนน่าจะสนใจเรื่องของรัฐทายาทเซียวอยู่กระมัง? ถึงอย่างไรก่อนหน้านี้คุณหนูของพวกเขาก็เคยไล่ตามเซียวเหยียนจิ่งจริงๆ มีสามีคนไหนบ้างที่จะไม่ใส่ใจกัน?สืออีสังเกตเห็นสายตาของเสี่ยวเถา จับจ้องไม่วางตาจงเจี้ยนเคยบอกเขาว่า แม้พวกเขาจะเป็นคนของท่านอ๋อง แต่ในเมื่อตอนนี้ติดตามพระชายาอยู่ ปากต้องปิดให้สนิท เรื่องที่พระชายาไม่ได้พูดก็อย่าเอาไปบอกท่านอ๋องทางนั้น ไม่เช่นนั้นพวกเขาก็จะกลายเป็นพวกสาวลิ้นยาวขี้นินทาสืออีจำจุดนี้ได้เป็นอย่างดีแต่ก็แปลก ตอนนี้เป
ฟู่จาวหนิงมองหลินอันห่าวตรงหน้า รู้สึกว่าไฟโกรธในใจก็พุ่งขึ้นไปเหนือศีรษะเสียแล้วนางโกรธมากเพราะหลินอันห่าวตอนนี้ใส่ชุดกระโปรงผ้าบางทั้งตัว กระโปรงสีชมพูท้อ ด้านนอกมีผ้าขาวบางเหมือนปีกจักจั่นคลุมอยุ่ ชายกระโปรงด้านหนึ่งเปิดเป็นช่อง ผ่าขึ้นมาถึงต้นขา ด้านในมีผ้าบางอีกชั้น หัวไหล่ท่อนแขน ครึ่งหน้าอก ต้นขาล้วนมองเห็นอย่างชัดเจนนางเท้าเปลือยเปล่า บนเท้าเปล่ายังมีเชือกแดงผูกกระดิ่งเอาไว้แม้สายตากับสีหน้าของหลินอันห่าวจะไร้เดียงสา แต่ใบหน้านางกลับถูกแต่งแต้ม แล้วยังมีไฝสีแดงที่หางตานางด้วยและมีดอกโบตั๋นสีแดงสอดอยู่ที่บริเวณขมับนางด้วยดอกหนึ่ง ที่หูมีต่างหูดอกโบตั๋นแบบเดียวกันห้อยอยู่ ริมฝีปากทาจนแดงแจ๋นี่เป็นชุดของพวกนางคณิกาอย่างชัดเจน พอขับกับความไร้เดียงสาบริสุทธิ์ของนาง ก็มีความขัดแย้งที่ยากจะพรรณนาได้ออกมาฟู่จาวหนิงรู้ ว่าจะต้องมีพวกผู้ชายใจคดบางส่วน ชื่นชอบเด็กสาวเช่นนี้แน่นอนเพียงแต่ หลินอันห่าวนางเพิ่งจะอายุสิบสองสิบสามปี!อาการป่วยของนาง จิตใจของนางก็เพิ่งจะสี่ห้าขวบเท่านั้น!ไม่ว่าจะร่างกายหรือว่าจิตใจ นางยังเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง!คนที่พานางมาที่นี่ แต่งตัวนางจนมีสภ
ฟู่จาวหนิงพ่นคำพูดที่ไม่เกรงใจแม้แต่น้อยออกมาเฮือก!ซ่งอวิ๋นเหยาเกือบจะสำลัก สายตาของนางเปลี่ยนไปเล็กน้อง มองไปทางซ่งหยวนหลินหยวนหลินบอกกับนางว่าฟู่จาวหนิงตอนนี้เปลี่ยนไปแล้ว นางเดิมทีคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร แต่พอฟู่จาวหนิงพูดมาเช่นนี้ก็ทำให้นางรู้สึกทันทีว่าฟู่จาวหนิงไม่เหมือนเดิมนี่มันคำหยาบที่หญิงสาวคนไหนพูดออกมากัน?นางเป็นถึงพระชายาอ๋องเจวี้ยนเลยนะ ทำไมถึงพูดคำหยาบคายเช่นนี้ออกมา?"ข้าเห็นแม่นางหลินอยู่ที่ริมบ่อน้ำแห่งหนึ่ง ตอนนั้นนางกำลังเล่นน้ำ เสื้อผ้าเองก็เปียกปอนไปหมด แล้วยังบอกไม่ถูกด้วยว่าบ้านของนางอยู่ที่ไหน ตอนนั้นข้างกายนางเองก็ไม่มีใครเลย ข้าจึงไม่มีทางเลือก ถึงต้องหานางกลับมาที่นี่"ซ่งอวิ๋นเหยาพูดออกมาอย่างอ่อนโยน"เพียงแต่เวลาแค่นี้จึงหาชุดที่เหมาะกับตัวนางไม่ได้ ดังนั้นจึงให้นางเปลี่ยนเป็นชุดนี้ คิดไม่ถึงว่าแม่นางหลินจะชอบชุดนี้มาก หลังจากใส่แล้วก็ฮัมเพลงออกมา ข้ากลัวว่านางกลัวว่าอยู่ที่นี่นางจะไม่คุ้นเคยแล้วก็หวาดกลัว ดังนั้นจึงร้องบอกนางว่าให้นางร้องเพลงให้จบท่านก็จะมารับนางไป"ซ่งอวิ๋นเหยา พูดถึงตรงนี้ก็ยังมีรอยยิ้มเชิงขอโทษ"เดิมทีข้าคิดจะนัดท่านออกมาพ
มือของซ่งหยวนหลินกำผ้าเช็ดมือจนแทบจะจิกนิ้วตนเองเจ็บอยู่แล้วนางเองก็อดทนเอาไว้อย่างเต็มที่ท่าทีที่ยกเข้ามาแต่เดิม จะมาถูกฟู่จาวหนิงทำให้โมโหจนพังไม่ได้"ฟู่จาวหนิง!"ซ่งหยวนหลินกลับร้องขึ้นมาอย่างอดไม่อยู่ฟู่จาวหนิงไม่สนใจนาง จากนั้นก็พูดต่อ ยกมุมปากยิ้ม "ผลลัพธ์ท่านลองเดาดูสิ? ยวนยวนของข้าบอกว่า เขาจำหน้าตาของซ่งอวิ๋นเหยาไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ เอาที่ไหนมาพูดว่าความสัมพันธ์เก่า? ที่เจอกันครั้งที่แล้ว เขายังเป็นเด็กอยู่เลย ซ่งอวิ๋นเหยาเองก็ยังเป็นแค่ถั่วงอกอยู่เลย ความสัมพันธ์เก่าหรือ?"ฟู่จาวหนิงชะงักไปครู่หนึ่ง หัวเราะขึ้นมาคำหนึ่ง "ความสัมพันธ์เก่าบ้าบ้อ""ฟู่จาวหนิง!"ซ่งหยวนหลินโมโหจนไฟสุมหัวอ๊าๆๆ น่าโมโหเหลือเกิน! ฟู่จาวหนิงทำไมพูดจาแบบนี้ นางทำไมถึงพูดจาแบบนี้!ไฟโกรธนี้ข่มไม่ลงเอาเสียเลยซ่งอวิ๋นเหยากัดเหงือกแน่น โมโหจนข้างหน้ามืดมัวไปหมดไม่ได้ นางจะต้องทนไว้แต่ว่า ถั่วงอก? ความสัมพันธ์เก่าบ้าบอ?นางเป็นถั่วงอก?นางไม่เชื่อว่าเซียวหลันยวนจะพูดเช่นนี้!ฟู่จาวหนิงเองก็ทำให้นางโมโหจนสมองขาวโพลนไปแล้ว ทำให้นางลืมไปเลยว่าจะก้าวต่อไปอย่างไร"ข้าเชื่อยวนยวนของข้านะ ถึ
หลินอันห่าวพูดซ้ำที่นางบอกมาอีกครั้งอย่างว่าง่าย"ใช่แล้ว พูดแบบนี้เลย เสี่ยวเถาเจ้ารู้จักใช่ไหม?""ใช่"ฟู่จาวหนิงยืนขึ้นมา ตะโกนเรียกไปด้านนอก"เสี่ยวเถาเข้ามา"เสี่ยวเถารีบวิ่งเข้ามา"ส่งอันห่าวไปอยู่ข้างกายน้าสะใภ้รองด้วย บอกไปว่าไม่มีอะไร ไม่ต้องให้นางกังวลมาก กลับไปแล้วข้าจะบอกนางอีกที" ฟู่จาวหนิงดึงหลินอันห่าว เอ่ยเสียงต่ำกับเสี่ยวเถาเสี่ยวเถาพอเห็นเครื่องสำอางบนหน้าหลินอันห่าวก็บื้อตึงไปแล้ว พอได้ยินคำของนางก็พยักหน้าอย่าเร่งร้อน"คุณหนู แล้วท่าน"คุณหนูอยู่ที่นี่จะมีปัญหาไหม?"ไม่เป็นไร ไปเถอะ"เสี่ยวเถาดึงหลินอันห่าวจะเดินออกไป ซ่งอวิ๋นเหยาตอนนี้จึงได้สติกลับมา "ห้ามไป!"นางเกือบจะถูกฟู่จาวหนิงลงไพ่ไม่ตรงหลักจนวุ่นวายไปหมดแล้ว ตั้งสติกลับมาไม่ทัน"เสี่ยวเถา พาอันห่าวออกไป"ฟู่จาวหนิงไม่สนใจนาง เอ่ยกับด้านนอกว่า "สืออี ปกป้องพวกนางออกไปด้วย ถ้าใครขวางก็สังหารทิ้งเสีย"ด้านนอก สืออีส่งเสียงเย็นขรึมเข้ามา"ขอรับ พระชายา"พระชายาคำเรียกนี้ ซัดลงไปบนหัวใจซ่งอวิ๋นเหยาทันที หน้าของนางขาวซีดไปนางจะต้องสัมผัสได้อย่างชัดเจนแล้วแน่ว่าตำแหน่งพระชายาอ๋องเจวี้ยนนั้นมีคน
"ข้ารู้เรื่องที่ฟู่หลินซื่อทำำกับอ๋องเจวี้ยนไว้ในอดีต ดังนั้นอ๋องเจวี้ยนตกลงแต่งงานกับเจ้า จะต้องไม่ได้อยากให้เจ้าเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนจริงๆ แน่ ข้ารู้สึกว่าเขาน่าจะมีแผนอะไรอยู่"ตอนที่ซ่งอวิ๋นเหยาพูดกับฟู่จาวหนิง ฟู่จาวหนิงก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อยเป็นเช่นนี้ ซ่งอวิ๋นเหยาน่าจะไม่ได้พูดโกหก และไม่ได้พูดเกินจริงด้วย นางน่าจะมีเส้นสายอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นคนเหล่านี้ก็คงจะยอมช่วยตรวจสอบเรื่องอะไรบางอย่างแทนนางจริงๆนางเพิ่งกลับมาไม่กี่วัน ก็ตรวจสอบได้มากขนาดนี้ เห็นได้ว่าซ่งอวิ๋นเหยาก็ไม่ใช่คนโง่ยิ่งไปกว่านั้น นางเองก็ยังเดาถูกถึงความคดของเซียวหลันยวนด้วย"ข้าอยากจะเตือนเจ้าอย่างจริงใจคำหนึ่ง อย่าคาดหวังอะไรจากอ๋องเจวี้ยน"ซ่งอวิ๋นเหยาพูดถึงจุดนี้อารมณ์ของตนเองก็จัดระเบียบเรียบร้อย เมื่อครู่ถูกฟู่จาวหนิงทำให้โมโหจัด ตอนนี้นางสามารถทำตัวเป็นพี่สาวที่รู้ใจได้แล้ว เหมือนกับคิดแทนฟู่จาวหนิงอย่างไรอย่างนั้นสำหรับจุดนี้ ฟู่จาวหนิงเองก็ยังรู้สึกนับถืออยู่ยิ่งไปกว่านั้นซ่งอวิ๋นเหยายังไม่ยอมให้ซ่งหยวนหลินโมโหเป็นฟืนไฟอีกครั้งด้วย"พวกเราแค่วิเคราะห์ความคิดของอ๋องเจวี้ยนนิดหน่อยก็รู้แล้ว ห
หลังจากตรวจสอบถึงจุดนี้ซ่งอวิ๋นเหยาก็รู้สึกว่าไม่น่าเชื่อจริงๆนางเคยพบกับเซียวเหยียนจิ่ง และเคยพบกับหลี่จื่อเหยา เพราะว่าสองคนนี้พูดได้ว่าเข้าใจตัวฟู่จาวหนิงมากที่สุดแต่เซียวเหยียนจิ่งกับหลี่จื่อเหยาล้วนบอกว่า ฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้มองไม่ออกเลยว่าแกล้งทำตัวไม่ได้เรื่อง!ก่อนหน้านี้ไม่ว่าจะมองอย่างไร ฟู่จาวหนิงก็เป็นคนที่ไม่มีความรู้ไม่มีวิชา ไม่เหมือนกับเสแสร้งทำตัวด้วยดังนั้นพวกเขาหลายคนหารือกันนานก็ยังไม่ได้ข้อสรุปเซียวเหยียนจิงค่อนข้างคิดไปว่าเบื้องหลังฟู่จาวหนิงจะต้องมีใครคอยสอนนางแน่ คนระดับปรมาจารย์อะไรแบบนั้น ซ่งอวิ๋นเหยาคิดๆ แล้วนี่ก็เป็นไปได้มากถึงอย่างไรขนาดอ๋องเจวี้ยนนางก็ยังปีนขึ้นไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังทำให้ผู้อาวุโสจี้รับนางเป็นศิษย์ได้อีก ถ้าจะพบคนที่ลึกลับอยู่เบื้องหลังนางอีกก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้แต่ว่าคนผู้นี้เป็นใครกัน?ซ่งอวิ๋นเหยารู้สึกว่าอาจจะมีความเป็นไปได้หนึ่ง นั่นก็คือคุณชายฟู่กับฟู่หลินซื่อกลับมาแล้วพ่อของฟู่จาวหนิง ขนาดซ่งอวิ๋นเหยาเองก็ยังเคยได้ยินชื่อเสียงเขามา นั่นก็เป็นยอดคนคนหนึ่งจริงๆครั้งนั้นถ้าไม่ใช่ฟู่หลินซื่อเกิดเรื่อง ไม่แน่ว่าตอ