ตอนที่โหวอาวุโสน้อยอี้พูดประโยคนี้น้ำเสียงก็อึมครึมขึ้นมา ระงับความโกรธเอาไว้เขามองอันชิงเป็นเหมือนของเล่นบนฝ่ามือตนเอง และตอนนี้ก็พบว่าอันชิงน่าจะเป็นของอ๋องเจวี้ยนไปแล้ว ความริษยาจึงทำให้ใจเขาเจ็บปวดขึ้นมา"เซียว เซียวหลันยวน"อันชิงคุณสมบัติยากำเริบ หัวสมองเองก็มึนงงขึ้นมาแล้ว แต่ว่าร่างกายกลับยิ่งร้อนขึ้นเรื่อยๆ นางปล่อยผ้าคลุมออกอย่างควบคุมไม่อยู่เดิมทีคิดอยากจะถามว่าเซียวหลันยวนเป็นใคร แต่นางถ้าพูดตอนนี้ กลับจะยิ่งเหมือนเป็นการร้องเรียกเซียวหลันยวนแทน"เจ้าจะเรียกเขามาช่วยเจ้าหรือ?"โหวอาวุโสอี้ยื่นมือออกมาฉับพลัน จับผ้าคลุมของนางออกแรงสะบัดออกอันชิงมองเขา สายตาเหม่อลอยไม่ว่าคนที่เขาเตรียมมาจะไปอยู่ไหน ถึงอย่างไรตอนนี้โหวอาวุโสน้อยอี้ก็มองออกแล้ว ว่าอันชิงถูกกรอกยาไป ยิ่งไปกว่านั้นยากำลังออกฤทธิ์ผู้ชมที่เขาเตรียมไว้ก็ใกล้จะมาแล้ว จะมาเสียเวลาไม่ได้อีกโหวอาวุโสน้อยอี้ยื่นมือไปกดบ่าของอันชิง"เสี่ยวชิงชิง ไม่ต้องเซียวหลันยวนหรอก เจ้ามองข้านี่ ข้ามีตรงไหนที่ดูไม่ดีหรือ? ข้าชอบเจ้ามาตั้งหลายปีแล้ว ถ้าเป็นหญิงสาวคนอื่น ข้าจะยังทนต่อไปได้อย่างไร? ตีให้สลบแล้วลากเข้าไปเ
"วันนี้ซวยเสียจริง"ฟู่จาวหนิงยืดตัวตรง ถึงอย่างไรก็ถูกผลักออกมาแล้ว นางเองก็ซ่อนต่อไม่ได้เหมือนกันยิ่งไปกว่านั้นเดิมทีก็ทนไม่ไหวอยู่แล้วด้วย จะมองดูอันชิงถูกคนอื่นข่มเหงต่อหน้าต่อตาได้อย่างไรกัน?"เจ้ามาทำอะไรที่นี่? อยู่แค่คนเดียวหรือ?"โหวอาวุโสน้อยอี้คิดไม่ถึงว่าฟู่จาวหนิงจะอยู่ที่นี่แต่ว่าเขาก็ไม่เห็นคนอื่นด้วยเช่นกัน ตอนนี้มีแค่ฟู่จาวหนิงคนเดียว น่าเสียดาย เขาเองเดิมทีก็สนใจตัวฟู่จาวหนิงอยู่ แต่ตอนนี้ก็รู้แล้วว่านางเอป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนต่อให้มีความกล้าสักแค่ไหน โหวอาวุโสน้อยอี้ก็ไม่มีทางลงมือกับพระชายาคนหนึ่งแน่ดังนั้นตอนนี้ฟู่จาวหนิงปรากฎตัวขึ้นที่นี่ ทำให้เขารู้สึกตึงมือขึ้นมา"ทำไมหรือ ที่นี่เป็นที่ดินของเจ้าหรือไร? ข้าถึงมาที่นี่ไม่ได้? ข้ามาหาแม่นางอันน่ะ""มานานาง?""แน่นอน" ฟู่จาวหนิงพูดไปด้วยพลางเดินไปทางอันชิงเมื่อครู่เพราะอันชิงกัดลิ้นตนเอง ความเจ็บปวดทำให้นางได้สติขึ้นมา แต่ยาที่นางถูกกรอกลงไปก็รุนแรงเกินไป การได้สตินี้คงอยู่ไม่นานนักตอนนี้นางมองโหวอาวุโสน้อยอี้ จากนั้นก็เกิดอาการทนไม่ไหวอยากจะพุ่งตัวไปหาเขาอันชิงเดินออกไปหาเขาก้าวหนึ่งโหวอาวุโส
เซียวหลันยวนพอเห็นนางตรงมาหาตนเอง ก็ถอยออกไปสองก้าวทันที"รีบพานางออกไป"ฟู่จาวหนิงรีบดึงตัวอันชิงที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ เหลือบตามองเขาผาดหนึ่ง นางจู่ๆ ก็พบกับปัญหาเข้าแล้ว"ที่นี่ส่งให้ท่านเลย"นางดึงตัวอันชิงออกไปทันที"หยุดนะ เจ้าจะพานางไปไหน?"โหวอาวุโสน้อยอี้หน้าเปลี่ยนสี รีบเดินจะเข้าไปขวางฟู่จาวหนิงแต่เซียวหลันยวนพอสับเท้า ก็เข้ามาขวางหน้าเขาไว้แล้ว"บังอาจ""อ๋องเจวี้ยน ข้ากับอันชิงรู้จักกันมาแล้วหลายปี นางจะต้องเชื่อใจข้าแน่ พวกท่านจู่ๆ ก็มาดึงนางไป ข้าไม่วางใจเอาเสียเลย!""รู้จักมาหลายปี?""แน่นอน ข้าคิดจะไปสู่ขอที่ตระกูลอันแล้วด้วย อันชิงจะช้าเร็วก็ต้องเป็นภรรยาข้า แล้วข้าก็ไม่ได้ทำร้ายนางเสียหน่อย"โหวอาวุโสน้อยอี้สองมือกำหมัด อยากจะเหวี่ยงใส่หน้าเซียวหลันยวนเสียเหลือเกิน แต่เขาก็ไม่กล้า"แต่อ๋องเจวี้ยนอย่างท่านต่างออกไป ท่านมีพระชายาแล้ว ตอนนี้ยังคิดจะเอาตัวอันชิงอีก ท่านหมายความว่าอย่างไรกันแน่? หรือว่าท่านจะไม่รู้ ว่าหญิงสาวจากตระกูลอันไม่มีทางจะไปเป็นนางสนมแน่?"อ๋องเจวี้ยนร้องเฮอะตอนนี้ ด้านหน้ามีคนกลุ่มหนึ่งตรงเข้ามาเห็นได้ชัดว่าเป็นคนที่โหวอาวุโสน้อ
ฟู่จาวหนิงดึงอันชิงเดินมาพักหนึ่งเพราะอันชิงไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว บิดตัวไปมาอยู่ในอ้อมกอดนาง แล้วยังครางว่าร้อนอยู่ตลอดด้วย คอยดึงแต่เสื้อผ้าของตนเองผิวหนังของนางแดงจนไม่ปกติ อุณหภูมิในร่างกายร้อนขึ้นเรื่อยๆ สายตาเองก็ดูหย่อนยานฟู่จาวหนิงพอเห็นว่านางสถานการณ์ไม่ปกติ จึงไม่กล้าเดินต่อแล้ว ใช้มือข้างหนึ่งฟาดนางจนสลบ จากนั้นก็แบกเข้าไปด้านหลังพงหญ้าหินผาแห่งหนึ่ง"นี่กรอกยามาเท่าไรกันนะ?"นางมองอันชิงที่แดงไปทั้งตัวแล้วขมวดคิ้วด้านหน้ามีเสียงกลุ่มคนพูดคุยหัวเราะลอดเข้ามา ฟังออกว่าเป็นผู้ชายหลายคนฟู่จาวหนิงไม่รู้ว่าเป็นใคร เกรงว่าพวกเขาคงเข้ามาหาอันชิง อันชิงตอนนี้ก็ดึงเสื้อผ้าตนเองจนยู่ยี่ไปหมด ตอนที่ดึงตัวมา กระโปรงเองก็ถูกเกี่ยวจนขาด ตอนนี้ถ้าให้ผู้ชายมาเห็นนางสภาพนี้ กลับไปคงนางคงรับไม่ไหวแน่ฟู่จาวหนิงถอนหายใจอีกครั้ง หยิบถุงเข็มออกมา"เอาล่ะ ช่วยคนแล้วก็ต้องช่วยให้สุด"นางเดิมทีไม่อยากจะเข้ามายุ่งความสัมพันธ์ของเซียวหลันยวนกับอันชิง แต่ตอนนี้เห็นเด็กสาวถูกกรอกยาชั่วร้ายลงไปไม่น้อย นางเองก็ทนไม่ไหวเช่นกันฟู่จาวหนิงดึงเสื้อผ้าของอันชิงออก รีบฝังเข็มให้กับนางเข็มชุดนี้คื
เซียวหลันยวนกับชิงอีหาฟู่จาวหนิงเจอเร็วกว่าพวกเขาก้าวหนึ่งพวกเขาเพิ่งตามมาถึง ฟู่จาวหนิงก็กดฟันประคองตัวอันชิงมาเบื้องหน้าเซียวหลันยวนแล้ว เตรียมจะผลักไปยังอกเขา"ที่เหลือต้องเป็นท่านมาดูแลเองแล้วใช่ไหม?"พอเห็นอันชิงล้มมาที่อ้อมกอดตนเอง เซียวหลันยวนก็หน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดึงชิงอีเข้ามาขวางไว้ชิงอีรีบประคองตัวอันชิงท่านอ๋อง ท่านจะหลบทำไมเนี่ย?ถ้าแม่นางอันล้มลงไปบาดเจ็บบนพื้นจะทำอย่างไรกัน?เซียวหลันยวนมองฟู่จาวหนิง ระงับความโกรธไว้ "เจ้าผลักนางมาหาข้านี่หมายความว่าอย่างไรกัน?""คนของท่าน ข้าช่วยรักษาแทนท่านไปแล้ว หรือว่าหลังจากนี้ไม่ควรส่งต่อให้ท่านกัน? ท่านคงไม่คิดจะให้ข้าช่วยดูแลนางต่อหรอกนะ?"ฟู่จาวหนิงเองก็ถลึงตากลับมา "นางเอาแต่เรียกชื่อของท่าน!"ดังนั้น เขาน่าจะเป็นคนที่อันชิงเชื่อใจ นางเอาแต่เรียกชื่อเขาตลอด แล้วยังไม่ส่งให้เขาได้หรือ?"นาง? เรียกชื่อของข้าหรือ?"เซียวหลันยวนไม่อยากจะเชื่อ ว่าอันชิงจะกล้าหาญขนาดนี้"แน่นอนสิ!ข้าจะโกหกท่านทำไมกัน?""แล้วนางเรียกขึ้นมาอย่างไร?""ก็ต้องเรียกว่าเซียวหลันยวนน่ะสิ!ท่านลืมชื่อตัวเองไปแล้วรึ?" ฟู่จาวหนิงร้องเชอะขึ้นม
ฟู่จาวหนิงด่าเซียวหลันยวนจนเลือดไหลซิบ มองดูอาการป่วยของอันชิง ถอนหายใจออกมา"เช็ดเนื้อตัวแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นางเสีย ข้าจะไปที่พักนางเอาเสื้อผ้านางกลับมาเสียหน่อย นางยังต้องกินยาอีก เฉินซาน เจ้าไปหาคนต้มข้าวต้มเข้ามาด้วย""ขอรับ""เช่นนั้นให้สาวใช้ข้าไปช่วยเสี่ยวเถาแล้วกัน" ฟางซือฉิงเห็นสภาพอันชิงแล้วก็ใจอ่อนขึ้นมาแม้ว่านางจะยืนอยู่ข้างฟู่จาวหนิงแน่นอน ถ้าหากอันชิงมาแย่งอ๋องเจวี้ยนจากนาง ก็ควรจะมีความสัมพันธ์ฉันท์ศัตรูจึงจะถูกแต่ตอนนี้พอเห็นอันชิงน่าสงสารเช่นนี้ ก็ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ไปเจออะไรมาก นางเองก็ทนไม่ไหวเช่นกันฟู่จาวหนิงพยักหน้า หิ้วตะเกียงเดินออกไปเดินไปพักหนึ่ง ชิงอีก็หมุนตัวเข้ามาพอดี ยื่นส่งห่อผ้าห่อหนึ่งให้กับนาง"พระชายา นี่คือสิ่งของของแม่นางอัน""เฮอะ" ฟู่จาวหนิงรับมา "ท่านอ๋องของพวกเจ้าไปเอามาหรือไร?""อ่า ไม่ใช่ ท่านอ๋องสั่งให้คนอื่นเข้าไปเอามา"พวกเขาจะเข้าไปในห้องที่หญิงสาวพักอยู่ได้อย่างไร? ท่านอ๋องสั่งคนเข้าไปหยิบ คิดว่าอันชิงตอนนี้คงไม่มีทางกลับไปพักในที่พักเดิมแน่ จึงได้ส่งมาให้กับฟู่จาวหนิง"ข้าไม่เคยเห็นพระชายาคนไหนต้องมาดูแลคนที่จะแย่งตำแหน่
เฮ่อเหลียนเฟยเองก็ลุกขึ้นมาแล้ว เพียงแต่เขายังขยับตัวไม่ได้ นั่งอยู่ในห้องเรียกหาฟู่จาวหนิง"พี่หญิง พวกเราวันนี้จะลงจากเขาไหม?""ใช่ พวกเราจะลงจากเขาแล้ว"ฟู่จาวหนิงถอนหายใจ และไม่คิดจะหยุดอยู่ที่นี่ด้วย หลังจากบอกลากับผู้เฒ่าซุน กลุ่มคนก็เก็บสัมภาระออกจากเขาเมฆอรุณวันนี้คนลงจากเขาไม่น้อย ตลอดทางยังเจอกับรถม้าอีกหลายคันดูท่าคนเหล่านี้ล้วนจะกลับไปเมืองหลวง และไม่รู้ว่าในเมืองหลวงจะมีเรื่องอึกทึกอะไรขึ้นมาอีกอันชิงถูกส่งไปจวนตระกูลอันอันเหนียนออกมารับคนที่ประตูใหญ่ พอเห็นอันชิงถูกประคองตัวลงมา ดวงตาเขาก็ร้อนวูบวาบ รีบเดินเข้ามาประคองตัวนาง"เสี่ยวชิง เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?"อันชิงตุ้มต่อมอยู่บนรถม้ามาตลอดทางเพราะไม่มีคนบอกนางว่าเกิดอะไรขึ้น บอกแค่ว่าจะส่งนางกลับบ้าน บนรถม้าเองก็มีนางเพียงคนเดียว ตอนนี้พอเห็นพี่ชาย นางจึงวางใจลงมา"ข้าไม่เป็นไร ท่านพี่ เซียวหลันยวนคือใครกัน?"อันชิงถามออกไป อันที่จริงในเมืองหลวงคนที่นามสกุลเซียวก็คือคนในราชวงศ์ แต่ว่านางไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลยน ดังนั้นนางจึงอยากรู้คำตอบนี้ตอนนี้พอเห็นพี่ชาย นางจึงถามขึ้นมาทันทีอันเหนียนตกตะลึง จากนั้นก็
ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าท่านปู่คิดจะให้เฮ่อเหลียนเฟยอยู่ที่นี่ดูแปลกๆแต่ว่าก็ไม่ใช่จะเข้าใจไม่ได้ ผู้เฒ่าฟู่แต่ไหนแต่ไรก็เป็นคนจิตใจดีมีเมตตามาตลอด และเป็นคนใจกว้างด้วย ไม่เช่นนั้นก่อนหน้านี้เขาะคงไม่ให้บ้านสองบ้านสามบ้านสี่เข้ามาพักในนี้"เช่นนั้นก็ให้เขาพักที่นี่ชั่วคราวแล้วกัน"ฟู่จาวหนิงเองก็รู้สึกว่าอย่างน้อยก็ต้องดูแลจนขาของเฮ่อเหลียนเฟยฟื้นฟูมาระดับหนึ่งก่อนจึงจะดี ไม่เช่นนั้นเขาตอนนี้ที่ไม่รู้จักใครเลย ร่างกายก็ไม่มีใครดูแล ตกลงมาจากเตียงก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร"หลังจากนี้เขาจะเปลี่ยนชื่อเป็นฟู่เสี่ยวเฟย ท่านปู่ ท่านเองก็อย่าบอกใครถึงตัวตนของเขานะ""ฟู่เสี่ยวเฟย? ใช้สกุลเดียวกับพวกเราหรือ?" ผู้เฒ่าฟู่นึกถึงชื่อนี้ รู้สึกว่าไม่ได้ดูองอาจอะไรเลย แต่ว่านี่ก็แค่ชื่อปลอมนี่นา บวกกับว่าเด็กคนนี้ก็ยังเล็ก ถ้าเรียกว่าเสี่ยวเฟยเสี่ยวเฟย ยังจะดูสนิทสนมยิ่งกว่า"ถูกต้อง ความต้องกายของเขา บอกว่าอยากจะใช้นามสกุลพวกเราไปก่อน""ได้ ได้ได้"ผู้เฒ่าฟู่เองก็ดูดีใจมากเฮ่อเหลียนเฟยพอได้ยินว่าฟู่จาวหนิงยอมรับตนเองไว้ ก็ดีใจจนไม่รู้จะทำอย่างไรดี"ถ้าไม่ใช่ว่าข้าขาหักอยู่ ข้าคงได้กระโดดสูงสา
ฟางซือฉิงกลัดกลุ้มหน่อยๆ "ถึงอย่างไรก็เป็นท่านหญิง พวกเราเองก็ไม่กล้าปฏิเสธ ดังนั้นข้าจึงตอบรับเข้าร่วม แต่ก็ยังกังวลอยู่บ้าง""ข้าเองก็จะไปด้วย"ฟู่จาวหนิงหยิบเทียบเชิญที่นางได้รับมา "ดูสิ""เจ้าเองก็ได้หรือ?""ใช่เลย ก่อนหน้าที่เจ้าจะมาก็เพิ่งได้รับ ดูท่าท่านหญิงปิงอวี้จะเอาข้าวางไว้หลังสุดเลย"ฟู่จาวหนิงรู้สึกน่าขำ ดูท่า เฉินฮ่าวปิงยังคง 'ให้ความสำคัญ' กับนางมากที่สุดอยู่ หลังจากเชิญทุกคนหมดแล้ว ถึงเพิ่งส่งเทียบเชิญมาให้นาง แบบนี้ถึงจะรู้สึกปลอดภัยกว่าหน่อยหรือ?พอมีองค์หญิงหนานฉืออันชิงกับฟางซือฉิง เฉินฮ่าวปิงถึงรู้สึกว่านางน่าจะไปสินะหรือก็คือ เฉินฮ่าวปิงยังลงความคิดมาทำความเข้าใจกับนางอีก ถึงอย่างไรก็ยังรู้สถานการณ์เพื่อนๆ นางบางส่วนอยู่"เจ้ากับท่านหญิงปิงอวี้คนนี้ ไม่ค่อยญาติดีกันเท่าไรสินะ?" ฟางซือฉิงถามขึ้นตรงๆเพราะได้ยินน้ำเสียงของฟู่จาวหนิง เหมือนจะรู้จักท่านหญิงคนนี้ แต่ว่าความสัมพันธ์คงไม่เท่าไร"ความสัมพันธ์ไม่ค่อยดีจริงๆ นั่นล่ะ เหมือนางจะเคียดแค้นข้าอยู่""หา? ถ้าอย่างนั้นท่านหญิงปิงอวี้คนนั้นก็คงไม่ใช่พวกดีเด่อะไรสินะ" ฟางซือฉิงพูดออกมาอย่างหนักแน่นทันที
เขาไปแล้วก็ดีเหมือนกัน ฟางซือฉิงตอนเผชิญหน้ากับเขาก็ดูกลัวอยู่ อยู่ต่อหน้าเขาก็ดูจะไม่ค่อยกล้าพูด นางเมื่อครู่ก็กล้ามองแค่ฟู่จาวหนิง กระทั่งเหลือบมองเซียวหลันยวนสักหน่อยก็ยังไม่กล้าเลยเพียงแต่พอเซียวหลันยวนออกไปแล้ว ในใจฟางซือฉิงกลับรู้สึกประหลาด เมื่อครู่อ๋องเจวี้ยนไม่ได้ใส่หน้ากากใช่ไหม? น่าจะไม่ได้ใส่กระมัง?แต่ใบหน้าไม่ใช่ว่าต้องน่ากลัวหรอกหรือ?นางหันหน้ามองออกไป ก็เห็นเพียงแผ่นหลังของเซียวหลันยวนที่ยืดตรงเท่านั้น"ซือฉิง?"ฟู่จาวหนิงเรียกนางขึ้นมาฟางซือฉิงรีบดึงสติกลับมา "ข้าไม่ได้คิดจะมองอ๋องเจวี้ยนนะ..."นางอธิบายขึ้นมาด้วยสัญชาตญาณฟู่จาวหนิงหัวเราะ กวักมือ "มานั่งนี่มา"หงจั๋วรีบเข้ามารินชา"ไม่เจอกันนานเลย ขอโทษด้วยนะ หลังจากกลับมาแล้วเรื่องก็เยอะมาก เลยไม่ได้ออกเมืองไปเล่นกับเจ้าเลย"ฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็รู้สึกเชิงขอโทษหน่อยๆ ฟางซือฉิงจะอย่างไรก็ถือเป็นเพื่อนคนแรกในแคว้นเจาของนาง นางออกไปต้าชื่อกว่าครึ่งปี หลังจากกลับมาก็ไม่ได้ไปหานางเลยแต่ว่า นางก็ให้คนส่งของขวัญไปที่บ้านตระกูลฟางแล้ว ของดีที่นำมาจากต้าชื่อฟางซือฉิงได้ยินนางขอโทษอย่างใจกว้างขนาดนี้ กลับรู
เฉินฮ่าวปิง?ฟู่จาวหนิงงงงันไปแล้วนางหลายวันนี้ยุ่งแต่เรื่องหมอเทวดาหลี่กับเซียวเหยียนจิ่ง บวกกับเรื่องผู้ประสบภัย ก็เกือบจะลืมไปแล้วว่ายังมีเฉินฮ่าวปิงนี่อีกคน"นางส่งเทียบเชิญให้ข้า? เชิญข้าเนี่ยนะ?"นางไม่อยากจะเชื่อเลยเดิมทีก็คิดว่าเฉินฮ่าวปิงคนนี้พอได้ตัวตนฐานะท่านหญิงไป น่าจะพยายามไม่โผล่มาตรงหน้านาง แล้วรีบไปจัดการเรื่องเส้นสายของตัวนางเอง จัดงานแต่งดีดีขึ้นมา ใครจะคิดว่าแค่ไม่กี่วัน เฉินฮ่าวปิงก็โผล่มาตรงหน้านางแล้วหงจั๋วส่งชาร้อนเข้ามา และได้ยินเรื่องนี้พอดี จึงพูดขึ้นอย่างอดไม่อยู่ "ข้าน้อยได้ยินคนพูดเรื่องนี้มาบ้างเหมือนกัน แม่นางเฉินช่วงนี้พยายามหาเพื่อนใหม่อย่างเต็มที่ แล้วยังไปซื้อของบ่อยด้วย ข้างกายมักจะมีคุณหนูอยู่ด้วยคนสองคน""โอ๋?" ฟู่จาวหนิงสนใจขึ้นมา "นางมีเงินขนาดนั้นเชียว?""ไม่ทราบเจ้าค่ะ แต่ได้ยินว่า คุณหนูเหล่านั้นล้วนได้รับงานปักของพวกนางแม่ลูกด้วย นอกจานี้เวลาออกไปกินข้าวดื่มน้ำชา แม่นางเฉินเองก็ช่วยจ่ายเงินอยู่บ่อยครั้ง""งานปักของพวกนางนั้นก็ไม่เลวจริงๆ นั่นล่ะ"อันที่จริง ถ้าแม่ลูกฮูหยินเฉินอยากจะอยู่ในเมืองนี้จริงๆ ก็ไม่ใช่จะทำไม่ได้ งานปักขอ
ถ้าไม่ใช่ว่าป่วย จะพูดวิธีการสมองกลับแบบนี้ออกมาได้หรือ?"บังอาจ!"แค่องค์จักรพรรดิได้ยินคำนี้ กลับมีปฏิกิริยาเร็วเหลือเกิน แค่พริบตาก็เข้าใจว่าเขากำลังกังขาตนเองขุนนางที่ปรึกษารีบโค้งเอวลงทันที "กระหม่อมผิดไปแล้ว""เจ้าเองก็ไม่คิดดูหน่อย ไม่ใช่แค่เมืองเจ้อที่มีผู้ประสบภัย ยังมีอีกหลายที่ที่มีผู้ประสบภัย ถ้าหากทั้งหมดต้องให้ข้าควักเงินมาเลี้ยงพวกเขา เช่นนั้นคลังหลวงก็ว่างเปล่าน่ะสิ!""องค์จักรพรรดิ ภาษีจากประชาชนก็ต้องใช้ที่ประชาชน""เหอะๆ" องค์จักรพรรดิหัวเราะเย็นชา "จะให้ข้าส่งคนไปตรวจบ้านของเจ้าไหม?"ขุนนางที่ปรึกษาพูดมาเหมือนจะน่าฟัง เหมือนเขาเป็นขุนนางที่ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ถ้าภาษีที่เก็บมาทั้งหมดต้องเอาไปใช้บนตัวประชาชน แล้วพวกขุนนางที่ปรึกษาจะไม่ละโมบกันหรือ?คนอื่นคิดว่าเขาไม่รู้ ขุนนางที่ปรึกษามีอยู่เยอะจะตาย!เพียงแต่เขารู้สึกมาตลอด น้ำใสเกินไปก็ไม่มีปลา คนเราเองก็เช่นกัน การจะหาขุนนางที่ซื่อสัตย์สุจริตจริงๆ เป็นเรื่องยากมาก มันก็มีพวกแบบที่พูดอะไรทำอะไรก็น่ารังเกียจไม่เป็นที่พอใจ อย่างเช่นอันเหนียน เขารังเกียจมาก! ดังนั้นนี่จึงจะทำให้ขุนนางที่ปรึกษานั่งอยู่ใ
เมืองเจ้อทางนั้นใกล้จะคลั่งแล้วหนังสือราชการขอความช่วยเหลือทั้งหมดส่งไปที่เมืองหลวงอยู่ตลอดบนโต๊ะขององค์จักรพรรดิมีหนังสือราชการกองอยู่เต็ม แต่ก็ยังไม่กลับมาประชุมเช้าขุนนางที่ปรึกษาก็รู้สึกไม่ดี เข้าไปหาองค์จักรพรรดิเพื่อเสนอความเห็นอ้อมๆ"องค์จักรพรรดิ ผู้ประสบภัยมีมากขึ้นเรื่อยๆ เมืองเจ้อทางนั้นไม่อาจจัดหาที่พักได้อีกแล้ว เราควรจะประชุมเช้ากับเหล่าขุนนางเพื่อหารือเรื่องนี้แล้วกระมัง?""ข้ายังไปประชุมเช้าไม่ได้"องค์จักรพรรดิไม่สนใจ"องค์จักรพรรดิ ต่อให้ไม่หารือเรื่องผู้ประสบภัย ต้าชื่อก็จะมีทูตเข้ามาแล้ว แคว้นหมิ่นทางนั้นก็จะมีทูตมาอีก ถึงตอนนั้นถ้าระหว่างทางเจอเข้ากับกลุ่มผู้ประสบภัยจะทำอย่างไรกัน? เรื่องนี้ต้องมาหารือกันให้ดีนะ""พวกเขาคงมาไม่ถึงเร็วขนาดนั้นกระมัง? ต้าชื่อน่าจะต้องอีกเป็นเดือน แคว้นหมิ่นทางนั้นยิ่งไกลเข้าไปใหญ่ รอพวกเขามา ผู้ลี้ภัยพวกนั้นคงไม่อยู่บนถนนแล้ว"ขุนนางที่ปรึกษาแทบจะโมโหจนเป็นลมไม่มีคนไปช่วยจัดแจงที่พักให้ผู้ประสบภัย แล้วผู้ประสบภัยพวกนั้นช่วงนี้จะหายไปหรือ?องคฺ์จักรพรรดิไม่กลัวว่าถึงตอนนั้นบนถนนจะมีพวกหิวตายหรือ? บนถนนไม่มีผู้ประสบภัยเด
ฟู่จาวหนิงรีบปลอบประโลมเขา"การช่วยเหลือผู้ประสบภัย? เจ้าเข้าใจหรือ?"ดวงตาของเซียวหลันยวนเปล่งประกายเล็กๆ อดทวนประโยคนี้ขึ้นมาไม่ได้คำพูดนี้น่าสนใจจริงๆ เรื่องแบบนี้ นางไปเข้าใจมาจากที่ไหนกัน?ฟู่จาวหนิงใจสั่นกึกมัวแต่สนใจเรื่องปลอบ จนหลุดปากไปเสียแล้วนางน่าจะไม่มีประสบการใดๆ เลยจึงจะถูกสิ?พอเห็นสายตาเซียวหลันยวนผิดปกติ นางก็ชดเชยเข้ามาทันที "ตอนอยู่ที่ต้าชื่อเคยมีประสบการณ์ครั้งสองครั้ง ยิ่งไปกว่านั้นตอนที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกลอบโจมตีบนถนนเมืองหลวงนั่นก็ด้วย สถานการณ์ที่สับสนวุ่นวายแบบนั้น ข้าเองก็มีประสบการณ์อยู่นะ"นางทำได้แค่เอาเรื่องตอนต้าชื่อออกมาพูดเท่านั้นถึงอย่างไรก็มีแค่ตอนนี้ที่เซียวหลันยวนไม่รู้และไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนเชื่อหรือไม่นางลุกขึ้นยืน พุ่งเข้าไปในอ้อมกอดเขา เงยหน้ามองเขา น้ำเสียงออดอ้อน "ข้าเป็นหมอ ข้าเองก็มีหน้าที่ของข้านะ"เซียวหลันยวนมองเห็นการยืนหยัดในตาของนางช่วงนี้เขารู้เรื่องของผู้ประสบภัยมาไม่น้อยเลยจริงๆ เมืองเจ้อทางนั้นเองก็ขอความช่วยเหลือไปทางเมืองหลวงแล้วหลายครั้ง ผู้บริหารท้องถิ่นเมืองเจ้อเป็นศิษย์พี่คนหนึ่งของอันเหนียน อันเหนีย
เซียวหลันยวนเองก็ได้ยินว่ามีผู้ประสบภัย จึงไปตรวจสอบทันทีว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรผลคือพอไปตรวจสอบก็นำเรื่องที่ชินอ๋องเซียวทำไว้สองปีก่อนมาเทียบกันได้พอดี"บนโลกนี้มีเรื่องกรรมตามสนองหรือไม่ ข้าเองก็ไม่รู้ แต่เรื่องนี้ก็เหมือนจะมีอะไรบางอย่างมาเชื่อมโยงกันอย่างลึกลับอยู่กระมัง?""ตอนนั้นเหล่าประชาชนที่ถนนจ้าจี๋บ่นไม่พอใจชินอ๋องเซียวกันหมด เกลียดชังอย่างที่สุด เพียงเพราะเขาเป็นชินอ๋อง ข้าราชการที่นั่นมีคนหนึ่งเป็นคนจากบ้านฝ่ายหญิงของพระชายาชินอ๋องเซียว ถือว่าชินอ๋องเซียวทิ้งตาข้างหนึ่งไว้ทางนั้น เหล่าประชาชนถ้าหากกล้าเคลื่อนไหวอะไรขึ้นมา ชินอ๋องเซียวก็จะรู้""ดังนั้นพวกเขาคิดจะร้องทุกข์ก็ยังลำบาก มีประชาชนที่กล้าหน่อยถูกเลือกออกมาจะไปเรียกร้องความเป็นธรรมที่เมืองหลวง ก็ถูกฆ่าตายกลางทาง โดนเอาศพไปทิ้งที่ทุ่งร้างทั้งหมด เรื่องนี้พอมีขึ้นสักสองสามครั้ง เหล่าประชาชนก็ไม่มีใครกล้าเสนอหน้าแล้ว"เซียวหลันยวนถอนหายใจมาทีหนึ่ง "ดังนั้น ข้าสงสัยว่าในกลุ่มผู้ประสบภัยเหล่านั้น ต้องมีคนที่จำตัวตนฐานะของเซียวเหยียนจิ่งได้ พวกเขาเดิมทีคือคิดจะฆ่าเขา ไม่เช่นนั้น แค่คนในที่ว่าการคุมตัวนักโทษไปเนรเทศ
เซียวหลันยวนกำลังคุยเรื่องนี้กับฟู่จาวหนิงเพระาคนที่ช่วยคนในที่ว่าการไว้ คือลุกน้องของหลานหรงหลานหรงสั่งคนส่งจดหมายกลับเมืองหลวง แล้วเจอกับพวกผู้ประสบภัยก่อเรื่องขึ้น ช่วยออกมาอย่างหวุดหวิดได้แค่คนเดียว"ให้ตายเถอะ" ฟู่จาวหนิงอยากรู้อยากเห็นขึ้นมา "องครักษ์ตอนนั้นช่วยเซียวเหยียนจิ่งไม่ทันหรือ? ลูกน้องของหลานหรงน่าจะรู้จักเซียวเหยียนจิ่งกระมัง?"พอได้ยินนางถามเช่นนี้ เซียวหลันยวนจึงเอียงตัวเข้ามา มองนางนิ่งๆ"ทำอะไรน่ะ? ทำไมถึงมองข้าแบบนั้น..." ฟู่จาวหนิงถอยหลัง เขาก็ยังบีบชิดเข้ามา มือรองไปที่หลังขาเธอ ไม่ได้เธอหกล้อม"เจ้าอยากจะช่วยชีวิตเซียวเหยียนจิ่งหรือ?""ทำไมข้าต้องอยากช่วยชีวิตเขา? ข้าก็แค่อยากรู้อยากเห็นเท่านั้น ถึงอย่างไรเขาก็เป็นสายเลือดราชวงศ์คนหนึ่ง จะว่าไป ลูกน้องของเขาก็ไม่น่าจะยืนมองเขาถูกผู้ประสบภัยไปนี่นา เพราะว่าหลานหรงทางนั้นยังไม่รู้ว่าช่วงนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?"ฟู่จาวหนิงเห็นสภาพของเซียวหลันยวนก็รู้ว่าเขาหึงเสียแล้ว อดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้"ถ้าข้าอยากช่วยชีวิตเซียวเหยียนจิ่ง วันนั้นข้าแค่ขวางท่านไม่ให้ไปแจ้งทางการก็พอแล้วไหม? ถ้าตอนนั้นพวกเราไม่แ
จวนชินอ๋องเซียวล้มหายไปอย่างรวดเร็วและกะทันหัน คนของเมืองหลวงล้วนไม่ทันได้ตั้งตัวยังจำได้ดีที่จวนชินอ๋องเซียวตอนนั้นดูถูกฟู่จาวหนิง ในวันพิธีสร้างความอับอายขนาดนั้นให้กับนาง ตอนนั้นคนทั้งหมดยังรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงไม่คู่ควรกับเซียวเหยียนจิ่งจริงๆ ล้วนคิดกันว่าหลังจากที่นางถอนหมั้นกลางถนนแล้ว นางจะยังแต่งงานกับใครได้อีก ที่จะดีไปกว่าเซียวเหยียนจิ่งใครจะรู้ ว่าตอนนี้จวนชินอ๋องเซียวจะพังไม่เป็นท่าไปแล้วแบบนี้ ชินอ๋องเซียวตายแล้ว เซียวเหยียนจิ่งก็ถูกเนรเทศสามพันลี้ยิ่งไปกว่านั้น ตอนแรกหลี่จื่อเหยายังมีพ่อเป็นหมอเทวดา กำเริบเสิบสานต่อหน้าฟู่จาวหนิงเสียขนาดนั้นแล้วใครจะรู้ ว่าตอนนี้หมอเทวดาหลี่จะถูกสังหาร ตัวนางเองจะถูกหย่าจนหกล้มแล้วตายไป แต่ฟู่จาวหนิงกลับยังเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนอย่างสบายไร้กังวล ยิ่งไปกว่านั้นยังเข้าร่วมกับสมาคมหมอใหญ่แล้วด้วยหลังจากหมอเทวดาหลี่ตาย ในเมืองหลวงก็เหลือคนของสมาคมหมอใหญ่แค่คนเดียวแล้ว ตัวตนฐานะของฟู่จาวหนิงก็สูงขึ้นไปอีกหลังจากนี้ถ้าเจอโรคยากๆ ก็ทำได้แค่ต้องมาหานางแล้ว ไม่มีหมอเทวดาหลี่อีกแล้วประชาชนต่างก็รู้สึกเศร้าเสียใจกับการจากไปของหมอเทวดาหล