เซียวหลันยวนพอเห็นนางตรงมาหาตนเอง ก็ถอยออกไปสองก้าวทันที"รีบพานางออกไป"ฟู่จาวหนิงรีบดึงตัวอันชิงที่ควบคุมตัวเองไม่ได้ เหลือบตามองเขาผาดหนึ่ง นางจู่ๆ ก็พบกับปัญหาเข้าแล้ว"ที่นี่ส่งให้ท่านเลย"นางดึงตัวอันชิงออกไปทันที"หยุดนะ เจ้าจะพานางไปไหน?"โหวอาวุโสน้อยอี้หน้าเปลี่ยนสี รีบเดินจะเข้าไปขวางฟู่จาวหนิงแต่เซียวหลันยวนพอสับเท้า ก็เข้ามาขวางหน้าเขาไว้แล้ว"บังอาจ""อ๋องเจวี้ยน ข้ากับอันชิงรู้จักกันมาแล้วหลายปี นางจะต้องเชื่อใจข้าแน่ พวกท่านจู่ๆ ก็มาดึงนางไป ข้าไม่วางใจเอาเสียเลย!""รู้จักมาหลายปี?""แน่นอน ข้าคิดจะไปสู่ขอที่ตระกูลอันแล้วด้วย อันชิงจะช้าเร็วก็ต้องเป็นภรรยาข้า แล้วข้าก็ไม่ได้ทำร้ายนางเสียหน่อย"โหวอาวุโสน้อยอี้สองมือกำหมัด อยากจะเหวี่ยงใส่หน้าเซียวหลันยวนเสียเหลือเกิน แต่เขาก็ไม่กล้า"แต่อ๋องเจวี้ยนอย่างท่านต่างออกไป ท่านมีพระชายาแล้ว ตอนนี้ยังคิดจะเอาตัวอันชิงอีก ท่านหมายความว่าอย่างไรกันแน่? หรือว่าท่านจะไม่รู้ ว่าหญิงสาวจากตระกูลอันไม่มีทางจะไปเป็นนางสนมแน่?"อ๋องเจวี้ยนร้องเฮอะตอนนี้ ด้านหน้ามีคนกลุ่มหนึ่งตรงเข้ามาเห็นได้ชัดว่าเป็นคนที่โหวอาวุโสน้อ
ฟู่จาวหนิงดึงอันชิงเดินมาพักหนึ่งเพราะอันชิงไม่มีเรี่ยวแรงแล้ว บิดตัวไปมาอยู่ในอ้อมกอดนาง แล้วยังครางว่าร้อนอยู่ตลอดด้วย คอยดึงแต่เสื้อผ้าของตนเองผิวหนังของนางแดงจนไม่ปกติ อุณหภูมิในร่างกายร้อนขึ้นเรื่อยๆ สายตาเองก็ดูหย่อนยานฟู่จาวหนิงพอเห็นว่านางสถานการณ์ไม่ปกติ จึงไม่กล้าเดินต่อแล้ว ใช้มือข้างหนึ่งฟาดนางจนสลบ จากนั้นก็แบกเข้าไปด้านหลังพงหญ้าหินผาแห่งหนึ่ง"นี่กรอกยามาเท่าไรกันนะ?"นางมองอันชิงที่แดงไปทั้งตัวแล้วขมวดคิ้วด้านหน้ามีเสียงกลุ่มคนพูดคุยหัวเราะลอดเข้ามา ฟังออกว่าเป็นผู้ชายหลายคนฟู่จาวหนิงไม่รู้ว่าเป็นใคร เกรงว่าพวกเขาคงเข้ามาหาอันชิง อันชิงตอนนี้ก็ดึงเสื้อผ้าตนเองจนยู่ยี่ไปหมด ตอนที่ดึงตัวมา กระโปรงเองก็ถูกเกี่ยวจนขาด ตอนนี้ถ้าให้ผู้ชายมาเห็นนางสภาพนี้ กลับไปคงนางคงรับไม่ไหวแน่ฟู่จาวหนิงถอนหายใจอีกครั้ง หยิบถุงเข็มออกมา"เอาล่ะ ช่วยคนแล้วก็ต้องช่วยให้สุด"นางเดิมทีไม่อยากจะเข้ามายุ่งความสัมพันธ์ของเซียวหลันยวนกับอันชิง แต่ตอนนี้เห็นเด็กสาวถูกกรอกยาชั่วร้ายลงไปไม่น้อย นางเองก็ทนไม่ไหวเช่นกันฟู่จาวหนิงดึงเสื้อผ้าของอันชิงออก รีบฝังเข็มให้กับนางเข็มชุดนี้คื
เซียวหลันยวนกับชิงอีหาฟู่จาวหนิงเจอเร็วกว่าพวกเขาก้าวหนึ่งพวกเขาเพิ่งตามมาถึง ฟู่จาวหนิงก็กดฟันประคองตัวอันชิงมาเบื้องหน้าเซียวหลันยวนแล้ว เตรียมจะผลักไปยังอกเขา"ที่เหลือต้องเป็นท่านมาดูแลเองแล้วใช่ไหม?"พอเห็นอันชิงล้มมาที่อ้อมกอดตนเอง เซียวหลันยวนก็หน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดึงชิงอีเข้ามาขวางไว้ชิงอีรีบประคองตัวอันชิงท่านอ๋อง ท่านจะหลบทำไมเนี่ย?ถ้าแม่นางอันล้มลงไปบาดเจ็บบนพื้นจะทำอย่างไรกัน?เซียวหลันยวนมองฟู่จาวหนิง ระงับความโกรธไว้ "เจ้าผลักนางมาหาข้านี่หมายความว่าอย่างไรกัน?""คนของท่าน ข้าช่วยรักษาแทนท่านไปแล้ว หรือว่าหลังจากนี้ไม่ควรส่งต่อให้ท่านกัน? ท่านคงไม่คิดจะให้ข้าช่วยดูแลนางต่อหรอกนะ?"ฟู่จาวหนิงเองก็ถลึงตากลับมา "นางเอาแต่เรียกชื่อของท่าน!"ดังนั้น เขาน่าจะเป็นคนที่อันชิงเชื่อใจ นางเอาแต่เรียกชื่อเขาตลอด แล้วยังไม่ส่งให้เขาได้หรือ?"นาง? เรียกชื่อของข้าหรือ?"เซียวหลันยวนไม่อยากจะเชื่อ ว่าอันชิงจะกล้าหาญขนาดนี้"แน่นอนสิ!ข้าจะโกหกท่านทำไมกัน?""แล้วนางเรียกขึ้นมาอย่างไร?""ก็ต้องเรียกว่าเซียวหลันยวนน่ะสิ!ท่านลืมชื่อตัวเองไปแล้วรึ?" ฟู่จาวหนิงร้องเชอะขึ้นม
ฟู่จาวหนิงด่าเซียวหลันยวนจนเลือดไหลซิบ มองดูอาการป่วยของอันชิง ถอนหายใจออกมา"เช็ดเนื้อตัวแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าให้นางเสีย ข้าจะไปที่พักนางเอาเสื้อผ้านางกลับมาเสียหน่อย นางยังต้องกินยาอีก เฉินซาน เจ้าไปหาคนต้มข้าวต้มเข้ามาด้วย""ขอรับ""เช่นนั้นให้สาวใช้ข้าไปช่วยเสี่ยวเถาแล้วกัน" ฟางซือฉิงเห็นสภาพอันชิงแล้วก็ใจอ่อนขึ้นมาแม้ว่านางจะยืนอยู่ข้างฟู่จาวหนิงแน่นอน ถ้าหากอันชิงมาแย่งอ๋องเจวี้ยนจากนาง ก็ควรจะมีความสัมพันธ์ฉันท์ศัตรูจึงจะถูกแต่ตอนนี้พอเห็นอันชิงน่าสงสารเช่นนี้ ก็ไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ไปเจออะไรมาก นางเองก็ทนไม่ไหวเช่นกันฟู่จาวหนิงพยักหน้า หิ้วตะเกียงเดินออกไปเดินไปพักหนึ่ง ชิงอีก็หมุนตัวเข้ามาพอดี ยื่นส่งห่อผ้าห่อหนึ่งให้กับนาง"พระชายา นี่คือสิ่งของของแม่นางอัน""เฮอะ" ฟู่จาวหนิงรับมา "ท่านอ๋องของพวกเจ้าไปเอามาหรือไร?""อ่า ไม่ใช่ ท่านอ๋องสั่งให้คนอื่นเข้าไปเอามา"พวกเขาจะเข้าไปในห้องที่หญิงสาวพักอยู่ได้อย่างไร? ท่านอ๋องสั่งคนเข้าไปหยิบ คิดว่าอันชิงตอนนี้คงไม่มีทางกลับไปพักในที่พักเดิมแน่ จึงได้ส่งมาให้กับฟู่จาวหนิง"ข้าไม่เคยเห็นพระชายาคนไหนต้องมาดูแลคนที่จะแย่งตำแหน่
เฮ่อเหลียนเฟยเองก็ลุกขึ้นมาแล้ว เพียงแต่เขายังขยับตัวไม่ได้ นั่งอยู่ในห้องเรียกหาฟู่จาวหนิง"พี่หญิง พวกเราวันนี้จะลงจากเขาไหม?""ใช่ พวกเราจะลงจากเขาแล้ว"ฟู่จาวหนิงถอนหายใจ และไม่คิดจะหยุดอยู่ที่นี่ด้วย หลังจากบอกลากับผู้เฒ่าซุน กลุ่มคนก็เก็บสัมภาระออกจากเขาเมฆอรุณวันนี้คนลงจากเขาไม่น้อย ตลอดทางยังเจอกับรถม้าอีกหลายคันดูท่าคนเหล่านี้ล้วนจะกลับไปเมืองหลวง และไม่รู้ว่าในเมืองหลวงจะมีเรื่องอึกทึกอะไรขึ้นมาอีกอันชิงถูกส่งไปจวนตระกูลอันอันเหนียนออกมารับคนที่ประตูใหญ่ พอเห็นอันชิงถูกประคองตัวลงมา ดวงตาเขาก็ร้อนวูบวาบ รีบเดินเข้ามาประคองตัวนาง"เสี่ยวชิง เจ้าไม่เป็นไรใช่ไหม?"อันชิงตุ้มต่อมอยู่บนรถม้ามาตลอดทางเพราะไม่มีคนบอกนางว่าเกิดอะไรขึ้น บอกแค่ว่าจะส่งนางกลับบ้าน บนรถม้าเองก็มีนางเพียงคนเดียว ตอนนี้พอเห็นพี่ชาย นางจึงวางใจลงมา"ข้าไม่เป็นไร ท่านพี่ เซียวหลันยวนคือใครกัน?"อันชิงถามออกไป อันที่จริงในเมืองหลวงคนที่นามสกุลเซียวก็คือคนในราชวงศ์ แต่ว่านางไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลยน ดังนั้นนางจึงอยากรู้คำตอบนี้ตอนนี้พอเห็นพี่ชาย นางจึงถามขึ้นมาทันทีอันเหนียนตกตะลึง จากนั้นก็
ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าท่านปู่คิดจะให้เฮ่อเหลียนเฟยอยู่ที่นี่ดูแปลกๆแต่ว่าก็ไม่ใช่จะเข้าใจไม่ได้ ผู้เฒ่าฟู่แต่ไหนแต่ไรก็เป็นคนจิตใจดีมีเมตตามาตลอด และเป็นคนใจกว้างด้วย ไม่เช่นนั้นก่อนหน้านี้เขาะคงไม่ให้บ้านสองบ้านสามบ้านสี่เข้ามาพักในนี้"เช่นนั้นก็ให้เขาพักที่นี่ชั่วคราวแล้วกัน"ฟู่จาวหนิงเองก็รู้สึกว่าอย่างน้อยก็ต้องดูแลจนขาของเฮ่อเหลียนเฟยฟื้นฟูมาระดับหนึ่งก่อนจึงจะดี ไม่เช่นนั้นเขาตอนนี้ที่ไม่รู้จักใครเลย ร่างกายก็ไม่มีใครดูแล ตกลงมาจากเตียงก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร"หลังจากนี้เขาจะเปลี่ยนชื่อเป็นฟู่เสี่ยวเฟย ท่านปู่ ท่านเองก็อย่าบอกใครถึงตัวตนของเขานะ""ฟู่เสี่ยวเฟย? ใช้สกุลเดียวกับพวกเราหรือ?" ผู้เฒ่าฟู่นึกถึงชื่อนี้ รู้สึกว่าไม่ได้ดูองอาจอะไรเลย แต่ว่านี่ก็แค่ชื่อปลอมนี่นา บวกกับว่าเด็กคนนี้ก็ยังเล็ก ถ้าเรียกว่าเสี่ยวเฟยเสี่ยวเฟย ยังจะดูสนิทสนมยิ่งกว่า"ถูกต้อง ความต้องกายของเขา บอกว่าอยากจะใช้นามสกุลพวกเราไปก่อน""ได้ ได้ได้"ผู้เฒ่าฟู่เองก็ดูดีใจมากเฮ่อเหลียนเฟยพอได้ยินว่าฟู่จาวหนิงยอมรับตนเองไว้ ก็ดีใจจนไม่รู้จะทำอย่างไรดี"ถ้าไม่ใช่ว่าข้าขาหักอยู่ ข้าคงได้กระโดดสูงสา
"เช่นนั้นเจ้าก็ไปดูพวกเขาแล้วกัน บอกับพวกเขาให้ชัดเจน ถ้ายินยอมแล้วก็พามาดู""ขอรับ"เฉินซานดีใจมากตระกูลฟู่คนยิ่งเยอะ ก็ยิ่งอธิบายว่าเจ้านายเป็นคนดี ในบ้านมีคนที่คุ้นเคยกันมากเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกเหมือนบ้านมากขึ้น ไม่รู้สึกอ้างว้างอีกแล้ววันต่อมา เฉินซานก็พอคนมาที่บ้านถึงสี่คน มีสองคนดูแล้วเป็นชายหนุ่มกำยำล่ำสัน แล้วก็ยังมีคู่สามีภรรยาอายุเกือบจะสามสิบอีกคู่หนึ่งพวกเขาพอเห็นฟู่จาวหนิงก็ใจเต้นตุ้มต่อมภรรยาที่ชื่อป้าซิ่งคนนั้นมองฟู่จาวหนิงอย่างระมัดระวัง"เจ้าเคยได้ยินเรื่องของข้ามาแล้วสินะ?" ฟู่จาวหนิงถามนางป้าซิ่งตะลึงงันไปครู่หนึ่ง รีบร้อนคุกเข่าลงทันที ฟุ่จาวหนิงยื่นมือไปประคองนาง "ยืนพูดเถอะ ข้าไม่ใช่พวกเคร่งกฎเกณฑ์ที่เอะอะก็ให้คุกเข่า"ประโยคนี้ของนางทำให้ในใจหลายคนนี้ผ่อนคลายลงมาพวกเขากลัวว่าหลังจากขายตัวเป็ฯทาศแล้วจะไม่เหลือเกียรติใดๆ อยู่อีก วันๆ เอาแต่ต้องคอยผงกหน้าโค้งตัวหรือไม่ก็คุกเข่าไม่หยุด"คุณหนู ท่าน วันที่ท่านแต่งงานวันนั้น ข้าเองก็อยู่บนถนนด้วย"ป้าซิ่งพูดจนรู้สึกผิดอย่างมากฟุ่จาวหนิงเองก็รู้สึกเกินคาด"ดังนั้นเจ้าก็เห็นทั้งหมดแล้วสิ? เห็นว่าข้า
ตระกูลฟู่พอคนเพิ่มขึ้น ก็คึกคักขึ้นมาทันทีฟู่จาวหนิงเองก็เอาคนที่อายุน้อยที่สุดพาไปหาเฮ่อเหลียนเฟยคนผุ้นี้ก่อนหน้าเรียกว่าเอ้อร์โก่ว ตอนที่นางเอ่ยชื่อตนเองต่อหน้าฟู่จาวหนิงก่อนหน้านี้ก็รู้สึกเขินๆและไม่รู้ว่าเพราะอะไร เรียกว่าเอ้อร์โก่วมาสิบเก้าปีแล้ว เขาก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้รู้สึกว่าขายหน้าอะไร แต่พอมาเรียกชื่อนี้ต่อหน้าคุณหนูที่หน้าตาสะสวยอย่างฟู่จาวหนิง เขาก็รู้สึกผิดต่อนางเล็กๆเอ้อร์โก่วรวบรวมความกล้าให้ฟู่จาวหนิงช่วยเปลี่ยนชื่อให้เขาในวันที่เขียนสัญญาเดิมทีก็ได้อยู่ เขาขายตนเองเข้ามาในบ้านตระกูลฟู่ ฟู่จาวหนิงมีคุณสมบัติตั้งชื่อใหม่ให้เขาฟู่จาวหนิงตอนที่รู้ว่าอีกคนหนึ่งชื่อว่าชิวเซิง อีกคนหนึ่งชื่อชุนเจิ้ง จึงตั้งชื่อให้เขาว่าตงสือ"เสี่ยวเฟย คนนี้ชื่อว่าตงสือ หลังจากนี้เขาจะมาดูแลเจ้า มีเรื่องอะไรก็เรียกเขานะ"ตงสือตอนนี้รู้สึกพอใจกับชื่อของตนเองจนแทบจะร้องไห้ออกมาแล้ว"คารวะคุณชาย""แล้วก็ตงสือ หลังจากนี้ทุกวันเจ้าก็แบกข้าไปหาท่านปู่ทางนั้นนะ ตอนกลางวันข้าจะอยู่คุยกับท่านปู่" เฮ่อเหลียนเฟยตาเป็นประกายขึ้นมาเขาเดิมทีคิดว่าตนเองจะต้องเอาแต่นอนอยู่ในห้องเพื่อรักษาตัว
พอได้ยินว่าคุกใต้ดินน้ำรั่ว หัวหน้าคุกก็ปวดหัวขึ้นมาเลยทีเดียวทำไมตอนนี้จู่ๆ ถึงน้ำรั่วเข้ามากัน?ไม่ว่าจะพูดอย่างไร สาวงามเหล่านี้เป็นคนจากที่ไหน เขาเองก็รู้อยู่ถึงอย่างไรคนเหล่านั้นก็ถูกยัดเข้าไปในจวนอ๋องเจวี้ยน ไม่มีทางที่จะมีใจปฏิพัทธ์กับอ๋องเจวี้ยนแต่ถ้าตอนนี้ให้พวกนางต้องมาเห็นว่าคุกอ๋องที่ขังอ๋องเจวี้ยนไว้เป็นเช่นไร คงจะยากที่พวกนางจะไม่พูดกันออกไปองค์จักรพรรดิแค่บอกว่าจะขังอ๋องเจวี้ยนสองเดือนให้เขาได้ไปนั่งทบทวนตนเอง แต่ไม่ได้บอกว่าอ๋องเจวี้ยนจะต้องถูกทรมานอยู่ในคุกเช่นนั้นองค์จักรพรรดิคงไม่เหลือหน้าอยู่เป็นแน่แท้"คุกใต้ดิน?"ฟู่จาวหนิงตอนนี้ก็เอ่ยขึ้นอย่างประหลาดใจ "พวกเราเมื่อครู่ดูห้องขังพวกนี้แล้วแต่ไม่เจอท่านอ๋องของข้าเลย เจ้าคงไม่ได้ขังเขาไว้ในคุกใต้ดินกระมัง? คุกใต้ดินที่น้ำรั่ว?"ยังไม่ทันที่หัวหน้าคุกจะพูดอะไร นางก็อุทานตกใจขึ้นมา "ให้ตายเถอะ! สุขภาพท่านอ๋องของพวกเรายังไม่หายดีนะ ห้องขังปกติตรงนี้ไม่มีใครอยู่ แล้วทำไมถึงเอาเขาไปขังไว้คุกใต้ดินกัน? สวรรค์โปรดพระโพธิสัตว์กวนอินเอ๋ย หรือความหมายขององค์จักรพรรดิ จะไม่ใช่ให้ท่านอ๋องไปคิดทบทวน แต่จะทรมานเขาอยู
"อ๊า!" อวิ๋นจูถูกทำให้ตกใจจนร้องเสียงแหลมขึ้นมา หลบไปข้างๆ อย่างรวดเร็ว จนไปกระแทกกับชิวอวิ๋นที่อยู่ข้างๆ นางชิวอวิ๋นถูกกระแทกจนไปโดนประตูห้องขังอีกห้อง เสียงดังปึงนางกำลังจะกรีดร้อง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าที่ข้างหูมีลมหายใจคาวๆ พ่นมาที่ต้นคอ ตกใจจนนางสะดุ้งโหยง ขนลุกชูชันไปทั้งตัวนางหันหน้าคอแข็งมองไป ก็เห็นว่าด้านหลังประตูห้องขังมีผู้เฒ่าคนหนึ่งประชิดเข้ามาอยู่ข้างตัวนาง สูดลมหายใจอย่างเคลิบเคลิ้ม"หญิงสาวนี่ตัวหอมจริง...""อ๊า!"พริบตาเดียว ชิวอวิ๋นก็กรีดร้องแหลมขึ้นมาด้วยเช่นกัน ดีดตัวออกห่างอย่างรวดเร็วผู้คุมพุ่งเข้ามา กระบองในมือก็ออกแรงฟาดไปที่ประตูห้องขัง"ถอยออกไป!""ทำอะไรน่ะ? ทำอะไร? อยากตายหรือไรกัน?"นักโทษเหล่านั้นล้วนถอยกลับไปในมุมของห้องขัง แต่ก็ยังมีคนที่จับจ้องมายังหญิงสาวเหล่านี้ ในดวงตามีประกายเหมือนหมาป่าชั่วร้ายอย่างไรอย่างนั้นขังอยู่ในนี้นานเกินไปแล้ว พวกเขาไม่เห็นหญิงสาวมาตั้งนาน แล้วยังเป็นหญิงสาวแรกแย้มที่สวยขนาดนี้อีกพวกของอวิ๋นจูถูกสายตาเช่นนี้จับจ้องจนตัวสั่น รู้สึกแย่ไปทั้งตัวแล้วพวกนางมองไปทางฟู่จาวหนิง แต่กลับเห็นฟู่จาวหนิงที่ไม่รู้ว่าสวมหน้
"พระชายาอ๋องเจวี้ยน ท่านกำลังล้อเล่นอยู่หรือเปล่า?" ผู้คุมถลึงตาโต สงสัยว่าหูของตนเองคงจะฝาดไป"ข้าแจ้นมาที่นี่เพื่อมาล้อเล่นอย่างนั้นหรือ?" ฟู่จาวหนิงสีหน้าแข็งขัน "ทำตามราชโองการ พวกเราก็รีบเข้ามาปรนนิบัติอ่องเจวี้ยนนี่อย่างไร อ๋องเจวี้ยนถ้าต้องอยู่ที่นี่สองเดือน พวกเราจะไปกเินดีอยู่ดีในจวนได้อย่างไรกัน? แน่นอนว่าต้องมาร่วมกันลำบากที่นี่ด้วยสิ""แต่ แต่ว่า..."ผู้คุมทั้งหมดล้วนเพิ่งเคยเจอเรื่องแบบนี้เป็นครั้งแรก ไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไร แต่ละคนใบ้กินกันไปหมดอ๋องเจวี้ยนอยู่ในคุกใต้ดินนะ แล้วยังเป็นคุกใต้ดินที่สิ่งแวดล้อมแย่ที่สุดห้องนั้นด้วย"พวกเจ้าไม่เชื่อก็ไปถามองค์จักรพรรดิเอา สายสวยพวกนี้ฝ่าบาทส่งมา บอกให้พวกนางดูแลอ๋องเจวี้ยนให้ดี ข้าจะให้พวกนางขัดราชโองการได้อย่างไรกัน?"ฟู่จาวหนิงผายสองมือออก แสดงออกว่าตนเองเป็นเด็กดีที่เชื่อฟังต่อราชโองการ"นี่นี่นี่ พวกนางควรจะรออยู่ที่จวนอ๋องเจวี้ยนถึงจะถูกสิ...""เช่นนั้นได้อย่างไรกัน? ท่านอ๋องพวกเราต้องอยู่ในคุกตั้งสองเดือนเชียวนะ นี่เดี๋ยวก็จะปีใหม่แล้วด้วย พวกเราจะปล่อยให้เขาติดคุกอยู่คนเดียว แต่ตนเองไปเสวยสุขอยู่ในจวนได้อย่างไ
เขาควรจะเขียนจดหมายบอกนายท่านหน่อยดีไหม ว่าจวนอ๋องเจวี้ยนตอนนี้ถูกยัดหญิงสาวเข้ามาถึงสามคน? ถ้ารับสามคนนี้เข้ามา หลังจากนี้ก็คงจะมีคนที่สี่ห้าหกเจ็ดอีกถ้าหากหญิงสาวเหล่านี้วันวันเอาแต่ลอยชายอยู่ข้างกายคุณหนูกับอาเขย ร้อยเล่ห์มารยา จะช้าเร็วคงได้ส่งผลกระทบกับความรักของคุณหนูกับอาเขยแน่ๆผู้เฒ่าฟู่กับฟู่จาวเฟยก็ได้ข่าวนี้แล้ว ปู่หลานทั้งสองคนก็รีบตรงเข้ามาและได้ยินคำพูดที่อวิ๋นจูกำลังเลือกเรือนกับฟู่จาวหนิงอยู่"พระชายา ข้าได้ยินว่าท่านอยู่ในเรือนเจียนเจีย เรือนนั้นห่างจากเรือนโยวหนิงไปหน่อย ข้าอยู่เรือนไหนถึงจะดีล่ะ? หรือให้ข้าเลือกเรือนที่อยู่ใกล้กับเรือนโยวหนิงหน่อยดี? อีกหน่อยท่านอ๋องถ้าจะไปหาข้าก็ไม่ต้องเดินทางไกลแล้ว"นิ้วมืออวิ๋นจูกำชายเสื้อตนเองไว้ ก้มหน้าต่ำนิดหน่อย ดูอ่อนโยนอ่อนแอ ทำให้คนอยากเข้ามาปกป้อง"ร่างกายของท่านอ๋องไม่ใช่เพิ่งดีขึ้นหรือ? หลังจากนี้หากจะต้องมาหาตอนกลางคืน ถ้าเดินไหกลมากคงไม่ดีกับสุขภาพเขาเท่าไร""หญิงสาวอย่างเจ้าไม่หน้าด้านไร้ยางอายไปหน่อยหรือ?!"ฟู่จาวเฟยพอได้ยินคำพูดนี้ก็ด่าลั่นออกมาอย่างโกรธเคืองยังไม่มีตัวตนฐานะอะไรกันเลย นี่คิดจะมาบีบคั้
ฟู่จาวหนิงดึงสติกลับมาที่นี่ยังไม่มีความคิดเรื่องที่ว่าเครือญาติแต่งงานกันไม่ได้สินะแล้วเรื่องที่ลูกพี่ลูกน้องแต่งงานกันก็มีอยู่มากมายจริงๆเซียวหลันยวนกับอวิ๋นจูเองก็ไม่ถือว่าเป็นญาติใกล้ๆ กันแล้ว จากที่พวกเขาเห็นก็ไม่ได้มีความผิดปกติอะไร"ท่านถามข้าว่าทำไมไม่เรียกเขาพี่ชาย ไม่ใช่คิดจะหยามหมิ่นข้าหรอกหรือ?" อวิ๋นจูเข้ามาใกล้นาง กดเสียงต่ำเอ่ยขึ้นว่า "แม่ของข้าเป็นเมียน้อยที่ไม่ได้เห็นแสงเดือนแสงตะวัน ราชวงศ์ไม่ยอมรับตัวตนฐานะของข้า พ่อของข้าก็ไม่ยอมเปิดเผยตัวตนข้าแล้วพาข้าไปพบเหล่าพี่น้องในราชวงศ์พวกนั้นอย่างผ่าเผย แล้วอ๋องเจวี้ยน จะมองข้าเป็นน้องสาวได้อย่างไรกัน?""ดังนั้นข้าจึงไม่คิดจะใช้ความสัมพันธ์ในชั้นนี้เข้าใกล้เขาตั้งแต่แรก"อวิ๋นจูดูแล้วเหมือนจะภูมิใจขึ้นมาหน่อย แต่พอฟังน้ำเสียงนางก็ยังมีความน้อยเนื้อต่ำใจอยู่เหมือนกันคนแม่เป็นเมียน้อย เป็นความเจ็บปวดในใจนางมาโดยตลอด"ข้าเชื่อว่า ด้วยตัวของข้า ข้าเองก็สามารารถทำให้อ๋องเจวี้ยนเอียงตามองข้าต่างออกไปได้"ฟู่จาวหนิงเหลือบมองพิจารณานางผาดหนึ่งท่ามกลางสายตาพิจารณาของนาง อวิ๋นจูก็ยืดอกขึ้นนางมั่นใจกับรูปร่างภายนอกของ
"องค์จักรพรรดิประกาศว่า...""โอ้ เจ้าพูดมา"คือเป็นพระราชโองการที่ไม่ค่อยจริงจังสินะ ฟู่จาวหนิงเอะใจขึ้นหน่อยๆขันทีกระแอม สายตาของพระชายาอ๋องเจวี้ยนเหมือนแสดงความหมายของนางออกมาอย่างชัดเจน"องค์จักรพรรดิมีรับสั่ง เห็นแก่อ๋องเจวี้ยนที่ร่างกายอ่อนแอโดดเดี่ยวมาตั้งแต่เล็ก ไม่ค่อยได้รับความรักที่อบอุ่น ดังนั้นจึงเพาะบ่มนิสัยขี้อายและดื้อรั้นออกมา ตอนนี้อ๋องเจวี้ยนสุขภาพกลังหันไปในทางที่ดี จึงต้องรีบปรับตัวกับชีวิตทั่วไปให้ไว้ที่สุด จวนอ๋องเองก็ควรจะมีคนให้มากขึ้น และในจวนอ๋องเองก็มีแม่นางหลายคนเข้าไปอยู่ใหม่พอดี ล้วนเป็นหญิงสาวที่อ่อนโยนเรียบร้อยเห็นอกเห็นใจผู้อื่น สามารถแบ่งเบาภาระในจวนอ๋องแก่พระชายาอ๋องเจวี้ยนได้ และสามารถคอยดูแลอ๋องเจวี้ยน ให้จวนอ๋องเต็มไปด้วยความรักที่อบอุ่น"พอฟังถึงจุดนี้ ฟู่จาวหนิงก็เข้าใจความหมายขององค์จักรพรรดิขึ้นมานี่คิดจะใช้พระราชโองการมากดดันนาง ให้นางจำเป็นต้องเก็บแม่นางสามคนนี้เอาไว้เซียวหลันยวนมีความคิดจะเก็บข้าวของของพวกนางแล้วโยนออกจากจวนอ๋องเจวี้ยนไปด้วยกัน มันก็ดูเรียบง่ายและหยาบคายอยู่ ทว่าตอนนี้องค์จักรพรรดิก็จะทำตรงข้ามกับเขาแล้วขันทีเองก
ฟู่จาวหนิงมาถึงโถงหน้าสาวงามทั้งสามคนเองก็อยู่ที่นี่ชิวอวิ๋น อวิ๋นจู และยังมีคนนั้นที่ชื่อซือหรูและเป็นไปตามคาด คนที่ชื่อซือหรูก็ยังเป็นแม่นางที่หน้าตาดีชิวอวิ๋นหน้าตาสะสวย ดูมีความหยิ่งยโสที่สง่าผ่าเผยหน่อยๆ ซือหรูกลับเป็นพวกดูอ่อนโยนเรียบร้อยอวิ๋นจูเป็นคนที่โดดเด่นสุดในสามคนนี้ คิ้วตาคมชัดวิจิตร โดยเฉพาะผิวที่ขาวผ่องนั่นยิ่งไปกว่านั้น อวิ๋นจูยังเป็นคนที่มาจากครอบครัวที่ดีที่สุดในสามคนนี้ด้วย แม้นางจะเป็นลูกสาวนอกสมรส แต่บิดาก็เป็นถึงอ๋องฉยงนางยืนอยู่คนเดียวห่างจากชิวอวิ๋นกับซือหรูออกมาหน่อย ดูแล้วเหมือนจะรังเกียจที่ต้องยืนอยู่ด้วยักนกับสองคนนั้นตรงหน้าพวกนางยังมีขันทีคนหนึ่งเข้ามาประกาศราชโองการ กำลังยืนรออย่างกระวนกระวายพอเห็นฟู่จาวหนิงเดินมา เขาก็รีบโค้งตัวคารวะ เดินเข้ามาต้อนรับ"เจ้าคนรับใช้" อวิ๋นจูแอบส่งสายตาเหยียดๆ ใส่ขันทีคนนี้นี่เป็นถึงคนข้างกายองค์จักรพรรดิเลยนะ แล้วยังเป็นคนแจ้งราชโองการอีก ทำไมถึงต้องพะเน้าพะนอพระชายาอ๋องเจวี้ยนเสียขนาดนั้น?นางไม่รู้ ว่าต่อให้ไม่มีอ๋องเจวี้ยน ตอนที่ฟู่จาวหนิงเข้าวังสมัยก่อนก็ไม่ได้ไว้หน้าองค์จักรพรรดิเท่าไรนัก ยิ่งไ
"ท่านอ๋องของพวกเจ้าเตรียมการไว้นานแล้วสินะ?"พอได้ยินนางถามเช่นนี้ องครักษ์ลับก็ใจเต้นขึ้นมา ทำไมจึงรู้สึกว่าคำพูดนี้ของพระชายาทำเอาใจลนลานไปหมดกันนะ?"ท่านอ๋องหลายวันก่อนจัดคนไปไว้ในคุกใหญ่แล้ว แต่ว่า ท่านอ๋องคาดการณ์ไว้ว่าวันที่เข้าคุกน่าจะเป็นหลายวันหลังจากนี้ ยิ่งไปกว่านั้นห้องคุกก็ยังเป็นอีกที่หนึ่งด้วย..."ฟู่จาวหนิงยิ้มๆ"วางแผนไว้แล้วจริงๆ? หรือก็คือ เขาตอนนี้ไม่ได้เข้าไปอยู่ในห้องคุกที่เตรียมเอาไว้สินะ?"เซียวหลันยวนผู้ชายคนนี้ มีอย่างที่ไหน คิดเอาไว้นานแล้วว่าองค์จักรพรรดิจะจับเขาขังคุก แล้วตนเองก็จัดเตรียมไว้ดิบดี แต่กลับไม่ยอมบอกให้นางรู้แม้แต่น้อย!เขาเคยคิดไหมว่านางจะเป็นห่วงเขา?จดหมายนางก็ไม่ได้รีบร้อนเอามาอ่าน แต่นางกลับอยากจะถามก่อน!องครักษ์ลับก้มหน้าต่ำ "ขอรับ ท่านอ๋องถูกขังเอาไว้ในคุกใต้ดิน...""คุกใต้ดินเป็นอย่างไรบ้าง?""ก็...พอไหวอยู่กระมัง?""เหอะๆ" ฟู่จาวหนิงหัวเราะเย็นชาในใจองครักษ์ลับลนลานกว่าเดิมแล้ว ท่านอ๋องกำชับไว้ ว่าอย่าบอกสถาพในห้องคุก แต่ตอนนี้พระชายาทำท่านเหมือนจะถามให้ละเอียดเสียแล้ว แล้วเขาไม่พูดได้หรือ?"เจ้าจะไม่พูดก็ได้" ฟู่จาวหนิง
"กลับไปแจ้งพระชายา ว่าไม่ต้องกังวล"ในห้องคุกมืด เซียวหลันยวนกำลังนั่งอยู่บนกองฟาง หลับตา น้ำเสียงฟังแล้วนิ่งสงบมาก"ท่านอ๋อง พระชายาจะต้องถามสถานการณ์ในคุกแน่นอน ถ้าหากพระชายาต้องการจะรู้ องค์จักรพรรดิถึงกับจับท่านส่งมาในคุกที่มืดอับชื้นเช่นนี้..."แล้วพระชายาจะไม่เป็นห่วงแย่หรือ?องครักษ์ลับพิจารณาคุกใหญ่แห่งนี้พวกเขาเดิมทีคิดว่า องค์จักรพรรดิจะให้คนพาท่านอ๋องส่งไปที่ห้องคุกด้านบนซึ่งสะอาดกว่าแห้งกว่าหน่อย ห้องคุกด้านบนอย่างน้อยก็ยังมีเตียง ยิ่งไปกว่านั้นยังสะอาดกว่านี้ มีหน้าต่างสามารถรับแสงได้ ตอนกลางวันยังสว่างขึ้นหน่อยคิดไม่ถึงว่าองค์จักรพรรดิจะพาคนมาขังเอาไว้ในคุกใต้ดินที่มืดที่สุดเสียอย่างนั้นคุกใต้ดินนี้แต่ก่อนมีไว้ขังพวกนักโทษหนักที่สังหารคนเป็นผักปลา ไม่มีหน้าต่าง ไม่มีแสง ขุดเอาไว้ใต้ดิน อับชื้นมากๆยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ยังไม่มีเตียง ที่มุมหนึ่งก็วางไว้แค่กองฟาง มุมกำแพงมีตะไคร่ขึ้นเนื่องจากอับชื้น กลิ่นของที่นี่ก็แย่เอามากๆขังไว้ที่นี่คือไม่รู้เดือนรู้ตะวันเลยทีเดียวถ้าหากท่านอ๋องยังมีสุขภาพแบบก่อนหน้านี้ อยู่ในนี้แค่คืนเดียวก็คงป่วยพับไปแล้วตอนนี้ร่างกายขอ