แชร์

บทที่ 1827

ผู้เขียน: จุ้ยหลิงซู
"ถ้าอย่างนั้นก็พูดออกมาตรงๆ ท่านเองก็ไม่ใช่คนมีนิสัยคิดมากนี่"

ตอนที่ฟู่จาวหนิงพูด เซียวหลันยวนก็กวักมือมาทางนางแล้ว ให้นางมานั่งข้างๆ จากนั้นจึงเอาน้ำแกงถ้วยหนึ่งยกมาตรงหน้านาง

"นี่คือรังนกเลือดหายากตุ๋น รีบชิมเร็ว"

พูดจบเขาก็หันไปทางฟู่จิ้นเชิน "เอาด้วยไหม?"

ฟู่จิ้นเชินตอนนี้ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถามว่าเขาจะเอาไหม แต่มันมีอยู่แค่ถ้วยเดียวเท่านั้น นี่ตุ๋นมาให้จาวหนิงไม่ใช่เรอะ แล้วเขายังกล้าพูดว่าเอาได้รึ?

"ไม่ล่ะ ให้จาวหนิงกินก็พอ นางช่วงนี้เหนื่อยหนักมากจริงๆ"

ฟู่จิ้นเชินพูดเช่นนี้ เซียวหลันยวนกลับร้องเรียกคน "ยกเข้ามาเลย"

พอสิ้นเสียงเขา ก็เห็นหงจั๋วถือถาดเข้ามาจากประตู

บนถาดยังมีถ้วยเคลือบขาวลายทองแบบเดียวกันใบหนึ่ง ดูแล้วเหมือนกับของฟู่จาวหนิงไม่ผิดเพี้ยน

"คุณชายฟู่ ตุ๋นไว้ให้ท่านถ้วยหนึ่งด้วยเช่นกัน กินตอนที่ยังร้อนเถิด" หงจั๋วบอก

พอเปิดฝาถ้วยออก ก็เป็นรังนกเลือดเช่นกัน

เซียวหลันยวนน้ำเสียงราบเรียบ "เดิมทีข้าก็ไม่ใช่คนที่ขี้งกนักหรอก"

ท่าทางนั้นเหมือนจะดูหยิ่งๆ อยู่หน่อยๆ ด้วย

ฟู่จาวหนิงอดขำขึ้นมาไม่ได้ เซียวหลันยวนตอนนี้ดูมีอารมณ์เหมือนเด็กๆ กล้ามาแย่พ่อของนางด้วย

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1828

    ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวพอมองไปทางฟู่จิ้นเชิน พ่อลูกทั้งสองคนก็เข้าใจ ว่าพวกเขาเดาถูกแล้ว"แม่นางจูคนนั้น เป็นหลานสาวของใต้เท้าโหยวหรือ?" ฟู่จาวหนิงถาม"ถูกต้อง"ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเงยหน้าขึ้นมาเพราะหลังจากที่องครักษ์ตระกูลจูเข้าเมืองมาหาเขา ก็เล่าที่มาที่ไปของเรื่องออกมา เขาจึงได้รู้ว่าหลานสาวหลังจากเข้าเมืองกลับไม่ได้มาหาเขากับฮูหยิน แต่หลังจากหาข่าวก็ตรงไปที่โรงหมอเลยยิ่งไปกว่านั้น หลังจากเขาเข้ามาพอเห็นเสี่ยวเยว่กับสืออี ถามถึงจูเฉียนเฉี่ยน สีหน้าของทั้งสองคนก็ยากจะบรรยายเลยทีเดียวสืออีแค่บอกกับเขาคำหนึ่ง "แม่นางจูเอาแต่อาละวาดจะขอพบผู้มีพระคุณ"พอได้ยินองครักษ์ของตระกูลจูบอกมา ผู้มีพระคุณของจูเฉียนเฉี่ยนคือฟู่จิ้นเชิน หญิงสาวคนหนึ่งพูดปาวๆ ว่าจะพบเขาให้ได้ แล้วยังไล่ตามมาตลอดทางอีก เห็นได้ชัดว่ามีจุดประสงค์อยู่ดังนั้นผู้บริหารท้องถิ่นโหยวจึงรู้สึกว่าตนเองหน้าตาป่นปี้ไม่มีชิ้นดี โดยเฉพาะอ๋องเจวี้ยนที่ยังนั่งฟังอยู่ข้างๆผู้บริหารท้องถิ่นโหยวอยากจะยกขาแล้วเผ่นเสียด้วยซ้ำ แต่หลานสาวก็ยังอยู่ที่นี่ ต้องพาคนออกไปด้วย"แล้วใต้เท้าโหยวตอนนี้คิดอะไรอยู่ล่ะ?""พระชายา เด็กคนน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1

    ณ เมืองหลวง แคว้นเจาบนถนนที่คึกคักหญิงสาวที่สวมชุดงดงามนางหนึ่งกำลังนำทหารหลายคนของนางไปดักขบวนแห่เจ้าสาวขบวนหนึ่งอย่างดุดัน“หลีกไป นี่คือคุณหนูใหญ่จากตระกูลของหมอเทวดาหลี่ หากว่าพวกเจ้าทำให้คุณหนูไม่พอใจระวังจะเดือดร้อน!” ผู้คนที่กำลังเดินอยู่บนถนนต่างพากันรีบหลีกทางให้ในทันที ด้วยกลัวว่าจะถูกลูกหลง เหล่าชาวเมืองมองไปที่ขบวนแห่เจ้าสาวที่ถูกตกแต่งด้วยความรู้สึกเห็นใจ “นี่เจ้าสาวจากตระกูลไหนกันเนี่ย? ไปทำอะไรให้คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ขัดใจกัน?”“เจ้าไม่รู้หรือ? วันนี้เป็นวันแต่งงานของรัชทายาทเซียวกับคุณหนูตระกูลฟู่ คนที่นั่งอยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวนั่นก็ต้องเป็นคุณหนูฟู่นั่นแหละ”โครม เกี้ยวเจ้าสาวถูกทหารของตระกูลหลี่ใช้กำลังบังคับให้หยุดลง หลังจากที่เกี้ยวเจ้าสาวเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง ก็ได้ยินเสียงตุ๊บดังออกมา คล้ายจะเป็นเสียงของศีรษะที่กระแทกอะไรสักอย่าง“ไปเอาตัวฟู่จาวหนิงมา! แล้วก็ไปถอดชุดเจ้าสาวของนางทิ้งซะ!”คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ชี้นิ้วไปยังเกี้ยวเจ้าสาวก่อนจะสั่งออกมาอย่างวางอำนาจ ทันใดนั้นทหารรับใช้ก็วิ่งไปแล้วยื่นมือไปเปิดม่านบังเกี้ยวเจ้าสาวทันทียายเฒ่าผู้ดูแลพิธีที่ยืนอยู่ด้านข้

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 2

    สมองจาวหนิงผุดภาพร่างกายที่อ่อนแอของผู้เฒ่าฟู่ขึ้นมาฟู่จาวหนิงกับรัชทายาทเซียวเดิมทีมีการหมั้นหมายอยู่ สุขภาพผู้เฒ่าฟู่เองก็ย่ำแย่ลงทุกวัน ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือสามารถเห็นหลานสาวแต่งเข้าจวนตระกูลเซียวได้อย่างราบรื่น ได้มีที่พึ่งพิงในภายภาคหน้า แต่ตระกูลเซียวก็ไม่ยอมเอ่ยเรื่องงานมงคลเสียทีช่วงนี้อาการป่วยของผุ้เฒ่าฟู่ก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว เขาเป็นลมหมดสติอยู่บ่อยครั้ง พอตื่นขึ้นมาก็จะคว้ามือของนางและกังวลเรื่องงานแต่ง ฟู่จาวหนิงก็ร้อนรน ดังนั้นแต่ละวันจึงเอาแต่เซ้าซี้รัชทายาทเซียว หลังถูกปฏิเสธมาหลายครั้ง นางจึงหยิบยกเอาคุณงามความดีที่บิดามารดาของนางเคยช่วยชีวิตองค์รัชทายาทไว้ออกมาให้องค์จักรพรรดิประทานจัดงานแต่งงานให้รัชทายาทเซียวก็ถูกบีบจนต้องจำใจยอมรับการแต่งงานกับฟู่จาวหนิงเซียวเหยียนจิ่งเองก็เป็นบุรุษรูปงามอันดับต้นๆ ในเมืองหลวงจริงๆ คิ้วกระบี่ดวงตาดอกท้อ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเชิด รูปหน้ายอดเยี่ยม ร่างสูงโปร่ง เสื้อคลุมสักหลาดพอดีตัวดูสูงส่ง ขับเน้นร่างของเขาออกมาจนตัวดูเป็นคนแต่นิสัยเป็นสุนัขเสียอย่างนั้นไม่แปลกที่หลี่จื่อเหยาหลงใหลเขามาตลอดพอคิดถึงสถาน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 3

    เสียงโครมดังขึ้น เซียวเหยียนจิ่งรู้สึกว่าเลือดถูกต้มจนเดือดปุดขึ้นมาถึงกระหม่อม"ฟู่!จาว!หนิง!"เขากัดฟันเอ่ยชื่อฟู่จาวหนิงออกมาทีละคำๆนางกล้าดีอย่างไร จึงกล้ามาหยามหมิ่นเขาเช่นนี้?ชาวบ้านรอบๆ ก็ล้วนตาโตพูดไม่ออกกันหมด จากนั้นจึงมองพวกเขาทั้งสองและพยักหน้าเห็นด้วยแบบไม่รู้ตัว พวกเขารู้สึกว่าสิ่งที่คุณหนูฟู่พูดออกมานั้นถูกต้องเซียวเหยียนจิ่งจ้องนางอย่างเกลียดชัง "ฟู่จาวหนิง เจ้าอย่ามาเสียใจภายหลังแล้วกัน! ข้าตอนนี้จะคอยดู ว่าเจ้าจะไสหัวกลับไปอย่างไร! เจ้าอย่าลืมว่าปู่ของเจ้า ตอนนี้เขาก็เหมือนจะเหลือแค่ลมหายใจเฮือกสุดท้ายแล้วสินะ เจ้าเชื่อไหมว่าพอเจ้าเหยียบเข้าประตูจวนไปและเขารู้ว่าเจ้าถูกถอนหมั้น เขาคงขาดใจตายทันทีแน่?"ฟู่จาวหนิงจ้องเขาตาลุกโชนเซียวเหยียนจิ่งเจ้าผู้ชายขยะ ป่านนี้แล้วยังจะมาคุกคามนางอีก!แต่ฟู่จาวหนิงก็รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นไม่ผิดเลย ผู้เฒ่าฟู่เวลานี้คงทนรับเรื่องแรงๆ ไม่ไหวเซียวเหยียนจิ่งพอเห็นนางไม่โต้กลับ ก็หัวเราะเสียงเย็นขึ้นมา "แล้วก็ที่เจ้าหยามหมิ่นรัชทายาทอย่างข้าวันนี้ ข้าจดจำไว้หมดแล้ว เจ้าอย่าได้หวังว่าจะหาสามีได้อีก"เขาจะคอยดูว่าตระกูลไหนจะก

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 4

    "จวนอ๋องเซียว?"ชายหนุ่มในรถม้าพอลิ้มรสสามคำนี้ น้ำเสียงก็เปลี่ยนทันควัน "ไสหัวไปไกลๆ"เซียวเหยียนจิ่งตะลึงงันด้วยโทสะ รู้ถึงตัวตนฐานะเขาแล้ว แต่กลับยังไล่ให้เขาไสหัวไป?"ไม่ได้ยินที่ท่านอ๋องพูดหรือ?" ทหารตบลงที่หัวม้า ม้างามก็ยกเท้าหน้าขึ้นทันที ถีบพัดเซียวเหยียนจิ่งออกไปอย่างแรง"อ๊า!"เซียวเหยียนจิ่งถูกม้าถีบจนปลิว ตกกระแทกลงไปที่หน้าหลี่จื่อเหยาพอดี นางรีบร้อนเข้าไปประคองตัวเขา "พี่เซียว!"นางกระโจนตัวขึ้น ถลึงตาไปทางรถม้าด้วยความโกรธ "อ๋องเจวี้ยนอะไรกัน! คุณหนูอย่างข้าไม่เห็นจะเคยได้ยิน ขนาดพี่ชายองค์รัชทายาทก็ยังรักข้ายอมให้ข้ามาตลอด แล้วเจ้าสูงส่งกว่าท่านพี่องค์รัชทายาทหรือ? ข้าจะบอกเจ้านะ บิดาข้าคือหมอเทวดาหลี่!"ทหารที่เดิมทีชักกระบี่ออกมาแล้วพอได้ยินคำว่าหมอเทวดาหลี่ ท่าทางก็หยุดลงทันที เขาหันหน้าไปมองฟู่จาวหนิง ลังเลขึ้นมา"อ๋องเจวี้ยนจะเสียเวลาอีกไม่ได้ โทษของเจ้าคนโง่ที่ไม่เคารพต่อท่านอ๋อง ข้าจะสั่งสอนนางแทนท่านอ๋องเอง"ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นเสียงขรึม กระชากกระบี่ของทหารออกมา สาวเท้าขึ้นหน้าไปทางหลี่จื่อเหยา ชูกระบี่ แสงเย็นวาบ เสียงแควกดังขึ้น หลี่จื่อเหยารู้สึกหน้าอ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 5

    แม่เฒ่าประคองมือของนาง ตื่นเต้นจนเสียงสั่นพร่าไปหมด"พระชายา ท่านเดินดีดีหน่อยสิ ไอ๊หยาท่านดูสิ พรมแดงก็ปูมาอยู่หน้าเกี้ยวเจ้าสาวแล้ว ที่ประตูยังมีขบวนสาวรับใช้อยู่อีก แต่งกันด้วยเสื้อผ้าใหม่เอี่ยม นั่นสิเรียกว่าความสุข!""แต่คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเวลาเพียงแค่นี้ จวนอ๋องเจวี้ยนก็จัดการไว้หมดแล้ว"ฟู่จาวหนิงถูกประคองเข้าประตู และได้ยินเสียงตื่นเต้นของแม่เฒ่าพูดกับนางมาตลอดทาง ในใจก็ประหลาดใจอย่างมากเช่นกันหลังจากที่อ๋องเจวี้ยนรับปากจะแต่งงานบนถนน ระหว่างทางพวกเขาคงจะสั่งคนให้รีบกลับไปถ่ายทอดคำสั่งที่จวนอ๋องอย่างแน่นอน จากนั้นจึงจัดการตระเตรียมขึ้นมาให้ตายเถอะ นางประเมินอ๋องเจวี้ยนคนนี้ต่ำไปใช่ไหมนะกอดความสงสัยนี้ ฟู่จาวหนิงถูกประคองมาถึงโถงรับแขกกลางสวนดอกไม้แห่งหนึ่ง จากนั้นมีสาวใช้สองคนเดินเข้ามารับช่วงต่อจากยายเฒ่าผู้ดูแลพิธีการ"ข้าน้อยเฝิ่นซิงคารวะพระชายา""ข้าน้อยหงจั๋วคารวะพระชายา"เสียงหญิงสาวทั้งสองใสกังวาน หลังจากคารวะต่อฟู่จาวหนิงแล้วจึงอธิบายสถานการณ์กับนาง"พระชายา เวลานี้โถงพิธีการกับห้องหอกำลังจัดเตรียม ท่านอ๋องต้องไปเปลี่ยนชุดมงคล ข่าวการแต่งงานต้องเข้าวังเพื

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 6

    "ท่านอ๋อง ท่านเป็นอะไรไหม?"ชิงอีหันไปมองอ๋องเจวี้ยนอย่างตึงเครียด"ลากออกไป" อ๋องเจวี้ยนสีหน้าไร้อารมณ์"ขอรับ!"แม่นมทั้งสองคนยังคิดจะตะโกน แต่ก็ถูกกดจุดขมับแล้วลากออกไปชิงอีจึงหมุนตัว มองไปยังใบหน้าของอ๋องเจวี้ยนผาดหนึ่งอย่างรวดเร็ว และก็มองเห็นด้านหลังอ๋องเจวี้ยนมีฟู่จาวหนิงยื่นหัวออกมา รู้สึกสงสัยอย่างหนักหญิงสาวที่ชิงกระบี่จากมือเขาได้อย่างรวดเร็ว แต่พอเจอกับแม่นมสองคนกลับปอดแหกขึ้นมาหรือ?แต่ว่าพอเขาคิดอีกทีก็ไม่แปลก ถึงอย่างไรนั่นก็เป็นคนของฮองเฮา ฟู่จาวหนิงจะกล้าลงมือกับคนของฮองเฮาได้อย่างไร"ท่านอ๋อง จะกราบไหว้ฟ้าดินไหม" เขาถามขึ้นฟู่จาวหนิงพอได้ยินเขาถามเช่นนี้ก็เดินออกมาจากด้านหลังอ๋องเจวี้ยน "ดังนั้น พวกเจ้าที่แท้ไม่คิดจะกราบไหว้ฟ้าดินหรอกหรือ?"ชิงอีนิ่งงัน แต่สายตาที่มองนางกลับตกตะลึงขึ้นมาเขาคิดว่าฟู่จาวหนิงที่ไม่กรีดร้องเมื่อครู่ เพราะว่านางยังไม่เห็นใบหน้าของท่านอ๋อง แต่ตอนนี้นางกลับมองท่านอ๋องด้วยสีหน้าปกติ เห็นได้ชัดว่ามองเห็นแล้วนางไม่กลัวแผลเป็นของท่านอ๋องหรือ?"กราบไหว้ฟ้าดิน พิธีแต่งงานใหญ่" อ๋องเจวี้ยนมองฟู่จาวหนิงอย่างลึกซึ้ง "เจ้าแน่ใจว่าจะไ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 7

    คำพูดของไทเฮาไม่มีใครได้ยินและตอนที่ฮองเฮาเห็นอ๋องเจวี้ยนในชุดมงคลเดินเข้ามา ดวงตาก็มีเงามืดทมึนหลั่งทะลักของชั้นต่ำที่นังแพศยานั่นคลอดออกมา จะแต่งงานมีพระชายาแล้ว!ไม่ ฝันไปเถอะ!พิธีวันนี้ นางจะล่มมันเสีย!ฮองเฮาคิดในใจ ใบหน้าเผยรอยยิ้มออกมา เอียงหน้าไปเอ่ยกับองค์จักรพรรดิเสียงแผ่วเบาว่า "องค์จักรพรรดิมักจะกังวลเรื่องสุขภาพของอ๋องเจวี้ยน ดูเอาเถิด อ๋องเจวี้ยนไม่ใช่ว่าเติบโตมาสูงใหญ่หล่อเหลาหรอกหรือ?"อายุสั้นอะไรกัน ทำไมไม่เห็นว่าจะดูอายุสั้นตรงไหน?องค์จักรพรรดิหัวเราะร่า "แม้จะบอกว่าอายวนจะดูคล้ายกับไท่ซ่างหวงตอนหนุ่มก็เถอะ แต่พอดูแบบนี้พวกเราพี่น้องก็ดูคล้ายกันอยู่พอควรนะ"พอได้ยินองค์จักรพรรดิพูดถึงไท่ซ่างหวง ฮองเฮาก็แค้นจนเข็ดฟันนี่เป็นเพราะเจ้าคนชั้นต่ำนี่หน้าตาคล้ายกับไท่ซ่างหวง ดังนั้นตั้งแต่เล็กจึงถูกไท่ซ่างหวงปกป้องไว้ หลายต่อหลายครั้งก็จัดการเขาไม่ได้เสียทีไท่ซ่างหวงกลัวว่าเขาที่ร่างกายอ่อนแอพอโตมาจะแย่งอะไรกับใครไม่ไหว ก่อนหน้าที่จะตายถึงกับทิ้งโองการไว้ให้แก่เขา รอจนเขาเติบโตกลายเป็นผู้ใหญ่ พอรับพระชายา ก็จะมีคนนำของขวัญชิ้นใหญ่มามอบให้กับเขากระทั่งองค์จั

บทล่าสุด

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1828

    ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวพอมองไปทางฟู่จิ้นเชิน พ่อลูกทั้งสองคนก็เข้าใจ ว่าพวกเขาเดาถูกแล้ว"แม่นางจูคนนั้น เป็นหลานสาวของใต้เท้าโหยวหรือ?" ฟู่จาวหนิงถาม"ถูกต้อง"ผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเงยหน้าขึ้นมาเพราะหลังจากที่องครักษ์ตระกูลจูเข้าเมืองมาหาเขา ก็เล่าที่มาที่ไปของเรื่องออกมา เขาจึงได้รู้ว่าหลานสาวหลังจากเข้าเมืองกลับไม่ได้มาหาเขากับฮูหยิน แต่หลังจากหาข่าวก็ตรงไปที่โรงหมอเลยยิ่งไปกว่านั้น หลังจากเขาเข้ามาพอเห็นเสี่ยวเยว่กับสืออี ถามถึงจูเฉียนเฉี่ยน สีหน้าของทั้งสองคนก็ยากจะบรรยายเลยทีเดียวสืออีแค่บอกกับเขาคำหนึ่ง "แม่นางจูเอาแต่อาละวาดจะขอพบผู้มีพระคุณ"พอได้ยินองครักษ์ของตระกูลจูบอกมา ผู้มีพระคุณของจูเฉียนเฉี่ยนคือฟู่จิ้นเชิน หญิงสาวคนหนึ่งพูดปาวๆ ว่าจะพบเขาให้ได้ แล้วยังไล่ตามมาตลอดทางอีก เห็นได้ชัดว่ามีจุดประสงค์อยู่ดังนั้นผู้บริหารท้องถิ่นโหยวจึงรู้สึกว่าตนเองหน้าตาป่นปี้ไม่มีชิ้นดี โดยเฉพาะอ๋องเจวี้ยนที่ยังนั่งฟังอยู่ข้างๆผู้บริหารท้องถิ่นโหยวอยากจะยกขาแล้วเผ่นเสียด้วยซ้ำ แต่หลานสาวก็ยังอยู่ที่นี่ ต้องพาคนออกไปด้วย"แล้วใต้เท้าโหยวตอนนี้คิดอะไรอยู่ล่ะ?""พระชายา เด็กคนน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1827

    "ถ้าอย่างนั้นก็พูดออกมาตรงๆ ท่านเองก็ไม่ใช่คนมีนิสัยคิดมากนี่"ตอนที่ฟู่จาวหนิงพูด เซียวหลันยวนก็กวักมือมาทางนางแล้ว ให้นางมานั่งข้างๆ จากนั้นจึงเอาน้ำแกงถ้วยหนึ่งยกมาตรงหน้านาง"นี่คือรังนกเลือดหายากตุ๋น รีบชิมเร็ว"พูดจบเขาก็หันไปทางฟู่จิ้นเชิน "เอาด้วยไหม?"ฟู่จิ้นเชินตอนนี้ก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถามว่าเขาจะเอาไหม แต่มันมีอยู่แค่ถ้วยเดียวเท่านั้น นี่ตุ๋นมาให้จาวหนิงไม่ใช่เรอะ แล้วเขายังกล้าพูดว่าเอาได้รึ?"ไม่ล่ะ ให้จาวหนิงกินก็พอ นางช่วงนี้เหนื่อยหนักมากจริงๆ"ฟู่จิ้นเชินพูดเช่นนี้ เซียวหลันยวนกลับร้องเรียกคน "ยกเข้ามาเลย"พอสิ้นเสียงเขา ก็เห็นหงจั๋วถือถาดเข้ามาจากประตูบนถาดยังมีถ้วยเคลือบขาวลายทองแบบเดียวกันใบหนึ่ง ดูแล้วเหมือนกับของฟู่จาวหนิงไม่ผิดเพี้ยน"คุณชายฟู่ ตุ๋นไว้ให้ท่านถ้วยหนึ่งด้วยเช่นกัน กินตอนที่ยังร้อนเถิด" หงจั๋วบอกพอเปิดฝาถ้วยออก ก็เป็นรังนกเลือดเช่นกันเซียวหลันยวนน้ำเสียงราบเรียบ "เดิมทีข้าก็ไม่ใช่คนที่ขี้งกนักหรอก"ท่าทางนั้นเหมือนจะดูหยิ่งๆ อยู่หน่อยๆ ด้วยฟู่จาวหนิงอดขำขึ้นมาไม่ได้ เซียวหลันยวนตอนนี้ดูมีอารมณ์เหมือนเด็กๆ กล้ามาแย่พ่อของนางด้วย

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1826

    ฟู่จิ้นเชินรู้สึกว่า แม้พวกเขาจะไม่มีช่วงเวลารักใคร่ระหว่างพ่อลูกอะไรแบบนั้น จาวหนิงเองก็ไม่ได้เรียกเขาว่าท่านพ่อแบบหวานๆ แต่พวกเขาตอนนี้สามารถทำอะไรด้วยกันได้ อยู่กันเหมือนกับเพื่อน เขาก็รู้สึกพอใจมากแล้วและที่น่าตลกก็คือ ทุกครั้งที่จาวหนิงยอมรับความเห็นหรือวิธีการของเขา ชื่นชมเขาขึ้นมา เขาก็รู้สึกมีความสุขมาก"แล้วตอนนี้ให้ข้าช่วยเจ้าเขียนของง่ายๆ ดูดีไหม? แล้วเจ้าจะลดจะเพิ่มบนนั้นก็ค่อยว่ากัน แบบนี้จะลดภาระงานของเจ้าได้บ้างหรือเปล่า?"พอเวลาที่ฟู่จิ้นเชินกับฟู่จาวหนิงอยู่ด้วยกันนานขึ้นหน่อย แล้วพอทำงานด้วยกัน ก็ปรับตัวกับจังหวะของนางได้อย่างรวดเร็ว แล้วยังเรียนรู้ความเคยชินการพูดของนางมาด้วยบางส่วนยังเหลือแค่ช่วยนางเขียนวิธีกับแผนการนี่ล่ะฟู่จาวหนิงเองก็รู้สึกขำๆ แต่ฟู่ชิ้นเชินเองก็ช่วยแบ่งเบางานนางได้มากเลยทีเดียว"เช่นนั้นท่านก็พักผ่อนดีดี อีกเดี๋ยวข้าจะฝังเข็มให้ท่านเสียหน่อย"ฟู่จาวหนิงอยากจะฉีดยาบำรุงให้เขาสักเข็ม ถือโอกาสฉีดให้ตอนฝังเข็มนี่เลย เขาน่าจะไม่สงสัยอะไร"ได้"ความกังวลใส่ใจของลูกสาว ฟู่จิ้นเชินไม่มีทางปฏิเสธอยู่แล้วตอนนี้เองฟู่จาวหนิงจึงพูดเรื่องของจูเ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1825

    ฟู่จาวหนิงกลับไปที่ห้องข้างฝั่งตะวันตก นางวุ่นอยู่กับการช่วยชีวิตรักษา จนพอว่างลงมาได้ประมาณครึ่งชั่วยามเหนื่อยจนนางหอบเบาๆฟู่จิ้นเชินเองก็ยุ่งอยู่ตลอด พอเห็นนางนั่งลงบนหินด้านนอก ก็หยิบเบาะใบหนึ่งเข้ามา"หิมมันเย็นนะ รองไว้หน่อย"ฟู่จาวหนิงลุกขึ้นเอาเบาะมารองไว้แล้วค่อยนั่งลงอย่างเชื่อฟัง"จำนวนคนที่ติดโรคเพิ่มมากขึ้นอีกแล้ว อีกเดี๋ยวผู้บริหารท้องถิ่นโหยวกับที่ปรึกษาคงเข้ามา เกรงว่าน่าจะเป็นข่าวร้ายอีก"ฟู่จิ้นเชินกังวลถึงข่าวร้าย เพราะรู้สึกว่าฟู่จาวหนิงเหนื่อยเกินไปแล้วนั่นเองนางเองเมื่อคืนก็นอนดีหน่อยแล้ววันนี้ก็นอนช้าหน่อย แต่เขารู้ว่าก่อนหน้านี้ตอนกลางวันนางก็เอาแต่วุ่นกับการรักษาคนไข้ ตอนกลางคืนก็ยังค้นคว้ายาอยู่ในห้องตัวเองคนทั้งหมดล้วนกำลังรอตำรับยาของนางตำรับยาที่นางใช้ตอนนี้ก็เป็นตำรับยารักษาโรคหวัดพื้นฐานแต่มีการปรับวัตถุดิบยากับสัดส่วน แต่ท้ายสุดก็ยังรักษาไปถึงต้นตอไม่ได้ กระทั่งยังมีผลกับโรคช้ามากด้วย คนป่วยแรกสุดที่เข้ามา ก็มีแค่ป้าหนิวคนเดียวที่อาการดีขึ้นมาก แต่คนอื่นยังซมกันอยู่เลยถ้าหากประสิทธิภาพช้าขนาดนี้ก็ไม่ไหว พวกเขาเองก็รับคนมากขนาดนี้ไม่ได้ ยิ่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1824

    ฟู่จาวหนิงพอได้ยินคำพูดของไฉ่เอ๋อร์ ก็รู้สึกพูดไม่ออกนางถามต่อถึงสถานการณ์ของกลุ่มเดินทางนั้น แล้วให้ไฉ่เอ๋อร์บรรยายหน้าตาของฮูหยินอะไรนั่น แล้วจึงเตรียมจะออกไปหาเซียวหลันยวนคนเดินทางกลุ่มนั้นน่าจะเป็นคนของลัทธิเทพทำลายล้าง แล้วยังตรงไปที่เมืองหลวงด้วย ต้องหาตัวพวกเขาให้พบฟู่จาวหนิงไม่ได้รู้สึกญาติดีด้วยกับคนของลัทธิเทพทำลายล้างเลย บวกกับเรื่องที่เสิ่นเชี่ยวถูกใส่ร้ายว่าวางยาเซียวหลันยวนในตอนนั้น ก็เป็นเรื่องที่ลัทธิเทพทำลายล้างจัดฉากขึ้นมา ลัทธิเทพทำลายล้างถือว่าเป็นศัตรูคู่แค้นของนางกับเซียวหลันยวนแล้วเสี่ยวเยว่ก็หิ้วยาน้ำเข้ามาพอดี"ให้นางแช่ไว้จนกว่าอุณหภูมิลดลงก็พอแล้ว อย่าให้เย็นจนจับไข้ หลังจากแช่เสร็จก็ให้นางดื่มน้ำร้อน อย่ากินของซี้ซั้ว ถ้าหิวก็ทนไว้ก่อน" ฟู่จาวหนิงกำชับกับเสี่ยวเยว่"คุณหนู คุณสมบัติทางยาในตัวนางแก้แล้วใช่ไหม?""ตอนนี้แก้ไปเจ็ดส่วนแล้ว ถัดจากนี้อีกสองสามวันยังต้องดื่มยาอีก แล้วก็ยังจะรู้สึกทรมานอยู่บ้าง แต่ก็พอทนได้ ไม่ต้องดูแลมากนักแล้ว"นางเองก็ขี้เกียจจะมาสนใจจูเฉียนเฉี่ยนถ้ามาได้ยินคำพูดพวกนั้นของจูเฉียนเฉี่ยนอีก นางกลัวว่าจะกินข้าวไม่ลง"เ

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1823

    นางชอบฟู่จิ้นเชินจริงๆ ครั้งนี้พอได้เห็นก็ยิ่งชอบ ก่อนหน้าครั้งนั้น ฟู่จิ้นเชินอยู่ในชุดเรียบง่าย ก็ทำให้นางรู้สึกดูสง่ามากแล้วครั้งนี้ฟู่จิ้นเชินพอสุขภาพกลับมาแข็งแรง แล้วยังอยู่ในชุดผ้าไหมใหม่ พอมองใบหน้าหล่อเหลา นางก็ลุ่มหลงไปแล้วจริงๆ"ข้าจะไม่แย่งความโปรดปรานจากแม่ของท่านหรอก พวกท่านมองข้าเป็นคนที่เพิ่มเข้ามาในบ้านไม่ใช่คนที่เข้ามาแย่งเขาไปก็พอ มองข้าเป็นคนในครอบครัวด้วยได้ไหม?"จูเฉียนเฉี่ยนมองฟู่จาวหนิงอย่างลึกซึ้ง ถ้าไม่ใช่ว่ามือนางขยับไม่ได้ คงจะเข้าไปกุมมือฟู่จาวหนิงอย่างจริงใจไว้แล้วสายตาตอนนี้ของฟู่จาวหนิงที่มองนางก็เหมือนกับมองคนปัญญาอ่อนคนหนึ่ง"ตอนที่พบเจ้าครั้งแรก" จู่ๆ นางก็เอ่ยขึ้นอย่างสงบ ทำให้จูเฉียนเฉี่ยนมองมาที่นางอย่างคาดหวัง "ก็ยังรุ้สึกว่าเป็นแม่นางที่ดูร่าเริงคนหนึ่ง"จูเฉียนเฉี่ยนตาเปล่งประกาย "ข้าเองก็ใช่นั่นล่ะ พวกเราหลังจากนี้ยังเป็นเพื่อนกันได้นี่""แต่ว่าตอนนี้" ฟู่จาวหนิงเอ่ยต่อมาว่า "กลับสมองมีปัญหาเหมือนคนป่วยหนัก"จูเฉียนเฉี่ยนงงงันฟู่จาวหนิงเปลี่ยนหัวข้อทันที "ถัดจากนี้ข้าต้องการให้เจ้าปิดตาปิดปาก จากนั้นก็ไปซะ"เข็มในมือนางแทงเข้าไปที่

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1822

    พวกของหมอหลวงเผียวเห็นจูเฉียนเฉี่ยนถูกหิ้วออกมา ก็อยากจะถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง แต่เสียงของฟู่จาวหนิงก็ดังลอดออกมาจากในห้อง"หมอหลวงเผียว พาคุณชายหยวนไปช่วยด้านหน้า อย่ามาเกะกะลูกตาที่นี่"หยวนอี้ร้องซู๊ด ถึงกับบอกว่าเขาเกะกะลูกตาเลยหรือนี่?หมอหลวงเผียวเองก็ไม่คิดว่าพระชายาอ๋องเจวี้ยนจะไม่เกรงใจต่อคุณชายหยวนขนาดนี้ นางน่าจะรู้ว่าเขาเป็นคุณชายทูตจากแคว้นหมิ่นแล้วนี่?"ไม่ได้ยินหรือ?"ฟู่จาวหนิงเริ่มหมดความอดทน จูเฉียนเฉี่ยนเป็นหญิงสาว ติดพิษแบบนี้มา พวกเขาเป็นผู้ชายสองคนยังจะมาอยู่วุ่นวายกันที่นี่อีก?ยังไว้หน้าคนอื่นเขาไหมเนี่ย?"คุณหนู ข้าจะหิ้วคุณชายหยวนออกไปเอง" ไป๋หู่ขึ้นหน้ามาหยวนอี้พอเห็นว่าเขามาจริงๆ ก็รีบก้าวเท้าออกไปทันที"ไม่ต้องลงไม้ลงมือหรอก ข้าออกไปเองได้"เขารู้สึกว่าฟู่จาวหนิงคงจะเห็นด้วยที่ให้องครักษ์ลงไม้ลงมือกับเขา นี่เป็นครั้งแรกที่เขาไม่ได้รับการเคารพยกย่องหลังจากมาถึงแคว้นเจาเหล่าขุนนางใหญ่ในเมืองหลวงพวกนั้น คนไหนบ้างที่ไม่ยกย่องต้อนรับเขา?แต่ละคนล้วนพูดกันว่าเขาอายุน้อยแต่ชาญฉลาดมีความสามารถ เป็นคนที่ยอดเยี่ยมอะไรเทือกนั้น อยากจะเชิญเข้าไปกินข้าวร่ำส

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1821

    พอเห็นออร่าแบบนี้ของฟู่จาวหนิง ก็รู้สึกว่านางน่าจะมีวิธีอยู่หมอหลวงเผียวก็รู้สึกว่าฟู่จาวหนิงใจเย็นและนิ่งมาก เหมือนทำทุกอย่างให้ลุล่วงได้ แต่เขาก็ยังไม่ได้มองในแง่ดีนัก"เจ้าสิ่งนี้แก้ไขได้ยากมากจริงๆ"หยวนอี้ตอนนี้เองก็พูดอะไรไม่ค่อยได้ แต่เขาก็จับจุดสำคัญอีกจุดได้ "สาวใช้คนเมื่อครู่ไม่ใช่กำลังถามถึงคุณชายฟู่หรือ? ที่นี่ยังมีคุณชายฟู่คนไหนอีก? ข้าจำได้ว่าพระชายาอ๋องเจวี้ยนไม่มีพี่ชายนี่"ไม่ใช่แค่ไม่มีพี่ชาย เหมือนว่าพี่ทางญาติก็ไม่มีด้วย"นางมีน้องชาย" หมอหลวงเผียวกดเสียงต่ำ"อ้อ ที่แต่ก่อนเป็นคุณชายน้อยเฮ่อเหลียนนั่นน่ะหรือ?""คุณชายหยวนนี่เข้าใจเรื่องของพระชายาอ๋องเจวี้ยนดีเสียจริง?" หมอหลวงเผียวมองหยวนอี้อย่างสงสัย ทำไมต้องคอยหาข่าวของฟู่จาวหนิงขนาดนี้ด้วย?"ก็ไม่หรอก รู้แค่คร่าวๆ เท่านั้น"หยวนอี้เอ่ยต่อ "แต่ว่าคุณชายน้อยฟู่คนนั้นอายุยังน้อยอยู่นี่? คงไม่น่าใช่ผู้มีพระคุณของแม่นางจูนี่หรอกกระมัง?"หมอหลวงเผียวเดิมทีก็ไม่อยากสนทนาหัวข้อนี้กับเขา แต่พอถูกเขาถามแบบนี้ เขาเองก็คุมปากตัวเองไม่อยู่เหมือนกัน"ก็ไม่เหมือนจริงๆ นั่นล่ะ"หยวนอี้เลิกคิ้ว "หรือก็คือ คุณชายฟู่คน

  • อ๋องพิการผู้โปรดปรานชายาแพทย์หยิ่งยโส   บทที่ 1820

    ฟู่จาวหนิงมาถึงเรือนหน้า เสี่ยวเยว่กับไฉ่เอ๋อร์ก็แทบจะรับมือไม่ไหวแล้วเพราะจูเฉียนเฉี่ยนกระชากเสื้อผ้าตนเองออกหมดแล้ว สีหน้าก็แดงก่ำ สายตาที่มองพวกนางล้วนประกายที่ทำให้คนหวาดกลัวได้อยู่ถ้าไม่ใช่เพราะอายคน เสี่ยวเยว่ก็อยากจะถามหมอหลวงเผียว ว่าพอโดนยานี้แล้ว จะกลายเป็นพวกกินไม่เลือก แล้วหันมากัดนางกับไฉ่เอ๋อร์หรือเปล่า?หญิงสาว ไม่น่าจะมีประโยชน์หรอกกระมัง?"แม่นาง ขอร้องล่ะ รีบได้สติเสียที!" ไฉ่เอ๋อร์เห็นสภาพนี้ของจูเฉียนเฉี่ยนแล้วรู้สึกพังทลายมากพวกนางลงกลอนที่ประตู ไม่เช่นนั้นถ้ามีชายหนุ่มทะเล่อทะล่าเข้ามาแล้วเห็นสภาพของจูเฉียนเฉี่ยนเข้าล่ะก็ จูเฉียนเฉี่ยนคงจะมีชีวิตต่อไปไม่ได้แล้วเสี่ยวเยว่เห็นแล้วก็รู้สึกไม่มีทางเลือก นางคิดจะฟาดจูเฉียนเฉี่ยนให้สลบไปแต่หมอหลวงเผียวบอกว่าสกัดจุดชีพจรก็ยังไม่ได้ผล"สาดน้ำเย็นใส่นางได้ไหม" เสี่ยวเยว่ถามที่นี่มีน้ำเย็นอยู่กาหนึ่ง เย็นชืดไปแล้ว"แบบนั้นแม่นางข้าจะเป็นหวัดไหม?" ไฉ่เอ๋อร์กลัวขึ้นมาเสี่ยวเยว่เอาชุบน้ำ จากนั้นปิดไปบนหน้าจูเฉียนเฉี่ยน"ทำแบบนี้จะได้สติมาหน่อยไหม?"จูเฉียนเฉี่ยนรู้สึกเย็ฯวาบ แต่ก็แค่สั่นขึ้นมา ยังไม่ได้สติ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status