ฟู่จาวหนิง! พระชายาอ๋องเจวี้ยน! พวกเขาล้วนได้ยินเรื่องของนางมาไม่น้อย นั่นไม่ใช่คนที่ไปยั่วยุได้เลยนะ นางกระทั่งองค์จักรพรรดิก็ยังกล้าไปต่อปากต่อคำด้วย พวกเขาในสายตาฟู่จาวหนิงไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น!ถ้าถูกจับจ้องไว้ล่ะก็ พวกเขาหลังจากนี้ได้เดือดร้อนแน่!คนเหล่านี้ล้วนขวัญเสียกันหมดแล้วคนที่ให้พวกเขาเข้ามาเอะอะบอกไว้ว่า ถ้าเอาคนมาเยอะๆ แล้วบวกกับเรื่องเมื่อสิบแปดปีก่อนเข้าไป ฟู่จิ้นเชินจะต้องนึกพวกเจ้าไม่ออก จำพวกเจ้าไม่ได้แน่ขอแค่เอาคนมามากพอ สถานการณ์วุ่นวายพอ แค่พวกเขาสร้างความวุ่นวายแล้วหนีไป ตระกูลฟู่ก็จับมือใครดมไม่ได้หรอกแต่ใครจะคิดว่าฟู่จิ้นเชินจะมาไม้นี้?"ฟู่ สหายฟู่ ไม่ต้องจดหรอก พวกเราก็แค่เจอพวกเจ้าบนถนนเท่านั้น...""ใช่ๆๆ ไม่มีใครมาแจ้งพวกเรา""พวกเรามีที่มาแหล่งข่าวเสียที่ไหน เข้าใจผิดแล้ว..."พวกเขาคิดจะถอย ถ้าหากไปถึงฟู่จาวหนิงคงวุ่นวายไม่จบไม่สิ้นแน่"ในเมื่อมากันแล้ว เช่นนั้นก็มาคุยเรื่องเก่ากันก่อนเถิด อย่าเพิ่งรีบไปกัน" ฟู่จิ้นเชินเอ่ยขึ้นอย่างสงบ "พวกเจ้าไม่ใช่มาหาสหายเก่าอย่างข้าหรอกหรือ?""เจ้ากับฮูหยินเพิ่งกลับมา น่าจะเหนื่อยกันแล้ว พวกเราเอาไว้ค่อ
ฟู่จิ้นเชินอันที่จริงก็เตรียมใจไว้แล้วตอนนั้นพวกเขาออกจากเมืองไปแบบนั้น หลายๆ เรื่องยังคงอยู่ ทั้งที่เกี่ยวกับราชวงศ์ท่านอ๋อง ทั้งที่เกี่ยวข้องกับองค์จักรพรรดิ และไม่มีทางที่จะลืมเลือนจากเวลาที่ไหลผ่านไปกระทั่งองค์จักรพรรดิก็ไม่แน่ว่าจะลืมพวกเขาถ้าหากไม่ใช่เพราะลูสาวของพวกเขาจับพลัดจับผลู พบบุพเพมหัศจรรย์จนไปแต่งงานกับอ๋องเจวี้ยน ตอนนี้พวกเขายังไม่ทันเข้าเมืองหลวงก็คงถูกคนของอ๋องเจวี้ยนจับไปแล้วสิ่งที่รอพวกเขาก็คือการจำคุกและการไต่สวนหรือบางที คนที่รู้เรื่องเบื้องหลังในตอนนั้น หรือคนที่สงสัยว่าพวกเขาไปรู้ความลับอะไรเข้า ตอนนี้อาจจะเปิดเผยตัวกันออกมาถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่มีทางเป็นแบบตอนนี้ ที่ยังเข้าเมืองมาได้อย่างปลอดภัย กลับมาที่บ้านกระทั่งว่า บ้านตระกูลฟู่เองก็อาจจะไม่อยู่แล้วด้วย บ้านหลังนี้ ไม่มีทางเป็นไปได้ที่จะยังอยู่ที่นี่เพื่อรอพวกเขากลับบ้านกลับบ้าน ใช่แล้ว พวกเขาในที่สุดก็กลับมาบ้านแล้วและทั้งหมดนี้ เป็นเพราะจาวหนิงเป็นจาวหนิงที่ให้พวกเขากลับมาบ้านได้ฟู่จิ้นเชินเข้าใจจุดนี้ได้ดียิ่งกว่าใครรอจนอารมณ์ของทุกคนนิ่งลงมาแล้ว เขาจึงถามถึงผู้เฒ่าฟู่กับฟู่จาวหนิ
เขาดีใจมาก ขณะเดียวกันก็ยังสงสารและปวดใจจาวหนิงเป็นคนที่ลำบากมาไม่น้อย แล้วยังพยายามอย่างมาก แบกเรื่องต่างๆ ไว้มากมายขนาดไหน?มีแค่เคยแบกท้องฟ้าให้กับคนมากมายขนาดนี้เท่านั้น จึงจะถูกคนเหล่านี้เชื่อมั่นอย่างไม่มีข้อกังขาเช่นนี้"เช่นนั้นก็ฟังจาวหนิงเถอะ แต่ว่า หาคนไปส่งจดหมายให้พ่อของข้าหน่อยได้ไหม? เขาสามารถกลับมาได้หรือเปล่า?" ฟู่จิ้นเชินถาม"น่าจะได้อยู่ ข้าเมื่อครู่เดิมทีก็จะไปที่จวนอ๋อง ในบ้านทำซาลาเปาไว้จึงคิดจะส่งไปที่นั่น"เซี่ยซื่อตื่นเต้นขึ้นมาอีกครั้ง"ดูเอาเถอะ พวกเจ้ากลับมาเป็นเรื่องน่ายินดีเสียขนาดนี้ ต้องรีบไปบอกท่านผู้เฒ่าหน่อยแล้ว เขาต้องรีบกลับมาแน่ๆ!"นางรู้สึกอดรนทนไม่ไหว "ข้าจะไปที่จวนอ๋อง พวกเจ้าพักผ่อนกันก่อนเถอะ เสี่ยวเถา หู่จือ พวกเจ้ารีบไปต้มชา แล้วยกน้ำร้อนมาให้คุณชายใหญ่กับฮูหยินน้อยชะล้างหน่อย ต้องข้ามกองไฟเสียหน่อยไหม? กว่าจะได้กลับมาบ้านกัน สักหน่อยดีไหม?"ป้าจงพอได้ยินคำนี้ก็ตบต้นขา"ใช่ๆๆ เรื่องนี้ต้องมี ต้องมีต้องมี ข้าจะไปเตรียมไฟให้""เช่นนั้นพวกเจ้าก็เตรียมเถอะ ข้าจะไปที่จวนอ๋อง เฉินซาน รบกวนเจ้าเอารถม้าไปส่งข้าหน่อย""่ขอรับ"ทางนี้ก็เร
"เจ้าว่าอะไรนะ?"ผู้เฒ่าฟู่พอได้ยินคำพูดของเซี่ยซื่อ จึงลุกพรวดขึ้นทันที และเพราะลุกเร็วเกินไป หน้าจึงมืดไปเล็กน้อย ยังดีที่ฟู่จาวเฟยรีบเข้ามาประคองเขา"ผู้เฒ่าฟู่ ตอนนี้พวกเขาอยู่ในบ้าน จาวหนิงทางนี้มีบอกให้พวกท่านกลับไปไหม?" เซี่ยซื่อมาถึงจวนอ๋องเจวี้ยน ก็ยังต้องถามสถานการณ์ฝั่งนี้ด้วยพอสิ้นเสียงนาง สือซานก็เดินเข้ามา"ท่านอ๋องกับพระชายาก่อนหน้านี้สั่งการไว้แล้ว ว่าพอสามีภรรยาคุณชายฟู่กลับมาถึงเมืองหลวง พวกเราจะคุ้มครองท่านผู้เฒ่ากับคุณชายเสี่ยวเฟยกลับบ้านตระกูลฟู่เอง แต่หลังจากกลับไป ขอให้ผู้เฒ่าฟู่กับคุณชายเสี่ยวเฟยอย่าออกจากบ้านไปไหน"ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนวางแผนไว้นานแล้ว"ในเมื่อพวกเขากำชับไว้แล้ว เช่นนั้นพวกเราก็รีบกลับไป ไป เร็ว รีบกลับกัน" ดวงตาผู้เฒ่าฟู่แดงรื้น พลังพูดประโยคนี้จบ น้ำตาก็ไหลอาบลงมาเขารีบกุมมือฟู่จาวเฟย "เสี่ยวเฟย พ่อแม่ของเจ้ากลับมาแล้ว!"ฟู่จาวเฟยแข็งทื่อไปทั้งตัวจู่ๆ เขาเองก็ไม่ชัดเจนขึ้นมาว่าตนเองรู้สึกอย่างไรพ่อม่ผู้ให้กำเนิดกลับมาแล้ว ในที่สุดเขาก็จะได้พบพวกเขาแล้วแต่ว่า พวกเขาจะคิดอย่างไรกับตนเองบ้างนะ? หลังจากพบกันแล้ว ควรจะพูดอะไรดี
แต่ว่า ไอ้ที่บังเอิญดันไม่บังเอิญ เขาดันให้เซียวหลันยวนไปอยู่ในคุกถึงสองเดือน!สอเดือนนี้เขารอไหวที่ไหน? กับข้าวเย็นชืดกันพอดีเขาอยากจะดูว่าสามีภรรยาเซียวหลันยวนจะทะเลาะกันขึ้นมาไหม?"องค์จักรพรรดิ" พระชายาเล่อเติมชาให้เขาอยู่ข้างๆ อิงแอบเข้ามา "ท่านไม่ใช่แค่ให้อ๋องเจวี้ยนติดคุกอยู่คนเดียวหรอกหรือ? พระชายาอ๋องเจวี้ยนไม่ได้ติดด้วยนี่นา ท่านก็ส่งคนไปที่คุกอธิบายเรื่องนี้กับพระชายาอ๋องเจวี้ยนสิ ให้นางรีบกลับบ้านตระกูลฟู่เพื่อพบพ่อแม่ เช่นนี้ก็ยิ่งแสดงออกว่าฝ่าบาทเมตตานางเป็นพิเศษ มีน้ำใจให้"พระชายาเยว่ยังอายุน้อยกว่าฟู่จาวหนิงเล็กน้อย เรื่องในอดีตนางยังไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ก็ไม่ได้ขวางให้นางเกลียดชังฟู่จาวหนิง ที่ทำชอบทำให้นางอารมณ์เสียอยู่เรื่อยส่งชิวอวิ๋นไปในจวนอ๋องเจวี้ยน เดิมทีก็มีเป้าหมายอยู่ใครจะคิดว่าฟู่จาวหนิงไม่ไว้หน้าเลยแม้แต่น้อย แล้วยังไล่ชิวอวิ๋นออกมาอีกนางสองวันนี้ยังโกรธไม่หายเหมือนว่าตอนนี้โอกาสจะมาแล้ว"พระชายาอ๋องเจวี้ยนไม่ใช่อยากทำให้คนรู้สึกว่านางรักอย่างลึกซึ้งต่ออ๋องเจวี้ยน อยากจะอยู่ในคุกกับเขา ร่วมทุกข์กับเขาหรอกหรือ? ตอนนี้พ่อแม่นางกลับมาแล้ว ถ้าพอนา
ถึงอย่างไร เซียวหลันยวนก็อยู่ในคุกแค่คนเดียวคนขององค์จักรพรรดิกับใครบางคนที่คอยจับตาอยู่ตลอด เพียงไม่นานก็ได้ยินถึงเรื่องที่เกิดขึ้นตอนนั้นสิ่งที่บรรยายจากปากของผู้คุม เล่าบทสนทนาของสามีภรรยาคู่นี้ออกมาอย่างชัดเจนรอบหนึ่งบอกมาว่า อ๋องเจวี้ยนดึงมือของฟู่จาวหนิงไว้ ในน้ำเสียงฟังออกว่ามีอารมณ์ซับซ้อนอ๋องเจวี้ยนพูดว่า: ข้าลำบากหาพวกเขามาสิบกว่าปี ตอนนี้พวกเขากลับมาแล้ว ข้ากลับไม่สามารถไปสอบถามด้วยตนเองได้อย่างชัดเจน ว่าตอนนั้นทำไมจึงต้องวางยา! เจ้ายังไม่ไปพบพวกเขาไม่ได้หรือ? ไม่เช่นนั้น พอข้าไม่อยู่ด้วย พวกเขาจะต้องใช้ความเป็นครอบครัวล่อลวงเจ้าแน่ ให้เจ้าไปยืนอยู่ฝั่งพวกเขาหลังจากนั้นพระชายาอ๋องเจวี้ยนจึงเริ่มแสดงเจตนารมณ์พระชายาอ๋องเจวี้ยนตอบว่า: ท่านไม่เข้าใจข้าหรือ? ท่านตอนนี้ออกไปไม่ได้ ข้าจะออกไปดูพวกเขาก่อนว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เข้าไปถามให้ชัดเจน แล้วข้ายังพาพวกเขามาในคุกได้ ถึงตอนนั้นท่านค่อยถามจากพวกเขาอ๋องเจวี้ยนเอ่ยมาอีกว่า: เจ้าทำได้หรือ? ตั้งหลายปีมาแล้ว เจ้าไม่ใช่รอให้พวกเขากลับมาหรอกหรือ? ตอนนี้พวกเขากลับมาแล้วจริงๆ ต่อให้ปู่ของเจ้า ก็ไม่สามารถรับปากได้ว่าจะให้พ
ตอนที่ฟู่จาวหนิงกลับมา ทั้งครอบครัวยังร้องไห้กันไม่จบ น้ำตายังเช็ดกันอยู่ แต่เหมือนเช็ดเท่าไรก็ไม่หมดเสียทีนางเข้ามาในโถงใหญ่ อันห่าวเห็นนางก่อนเป็นคนแรกอันห่าวตาเป็นประกาย ร้องเรียกนางขึ้นทันที "พี่หญิงจาวหนิง!"เสียงนี้ ทำให้คนที่กำลังร้องไห้ตัวโยนได้สติกลับมาพวกเขามองไปทางฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหันหลังให้แสง เดินเข้ามาช้าๆ ท้องฟ้าแสงหิมะอยู่ด้านหลังนาง ส่องโครงร่างนางออกมาราวกับเคลือบชั้นแสงอ่อนโยนชั้นหนึ่งให้กับนางพอนางเข้ามา ความโศกเศร้าเหล่านั้นก็จางลงไปพอควรเดิมทีพวกเขาก่อนหน้ายังควบคุมตัวกันไม่ได้ คิดถึงภาพความยากลำบากของแต่ละคนในช่วงสิบกว่าปีก่อน ทุกคนล้วนเศร้าเสียใจ แต่พอฟู่จาวหนิงเข้ามา พวกเขาก็เหมือนกับมองเห็นความหวังในอนาคตอดีตสุดท้ายก็จะผ่านไปอนาคตนั้นยังไม่เข้ามาฟู่จาวเฟยเองก็ไม่ละอายอีกต่อไปแล้ว "ท่านพี่!"พอเขาเห็นฟู่จาวหนิง ก็รู้สึกเหมือนมีสิ่งยึดเหนี่ยว ไม่ว่าอย่างไร ต่อให้พ่อแม่จะคิดเล็กคิดน้อยต่ออดีตเขาที่มองศัตรูเป็นแม่แท้ๆ ถึงอย่างไรท่านพี่ก็ยอมรับเขาแล้ว มีท่านพี่คอยหนุนอยู่ เขาก็ไม่กลัวอะไรทั้งนั้นผู้เฒ่าฟู่เองก็ตื่นเต้นเหลือจะกล่าว รีบกวักมื
เสี่ยวเถายกชาร้อนเข้ามา ถอยออกไปข้างๆฟู่จาวหนิงจิบชาร้อนไปจิบหนึ่ง ทำให้ร่างกายอุ่นขึ้นมาหน่อย จึงเอ่ยขึ้นว่า"จากนี้พวกท่านวางแผนทำอะไร?"ผู้เฒ่าฟู่ชะงักไปจาวหนิงเด็กคนนี้ ทำไมถึงไม่มีความอ่อนแออ่อนโยนกับความเป็นหญิงเลยกันนะ?ในที่สุดได้กลับมาอยุ่กับพ่อแม่แล้ว แต่ก็ไม่มีร้องไห้ไม่อะไรเลยเลย? ยิ่งไปกว่านั้น ก็น่าจะพูดเรื่องความลำบากความน้อยเนื้อต่ำใจในช่วงนั้นหน่อยสิ ถ้าไม่พูดแล้วจะให้พ่อกับแม่เสียใจรู้สึกผิดได้อย่างไรกัน?"จาวหนิง หลังจากนี้ก็ต้องอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวน่ะสิ" ผู้เฒ่าฟู่คิดจะเอาคืนแทนนางเสียหน่อย ตบลงไปที่หลังของฟู่จิ้นเชิน เอ่ยขึ้นเสียงเข้มงวด "จาวหนิงเด็กคนนี้ลำบากมาไม่น้อย นางเป็นเด็กคนหนึ่ง แต่ยังต้องดูแลตาแก่คนนี้ แล้วยังคอยรักษาโรคให้ข้าอีก""ขนาดข้ายังไม่รู้เลยว่าเด็กคนนี้ไปร่ำเรียนวิชาแพทย์มาตอนไหน ก่อนหน้านี้ข้าวก็ยังไม่ค่อยกิน ตอนที่ข้าไม่รู้ ต้องไปเจอกับความยากลำบากมาขนาดไหนกันนะ"ผู้เฒ่าฟู่ปาดน้ำตา "นางตอนนี้เป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยน นั่นไม่ใช่การแต่งงานที่พ่อแม่จัดให้ตามประเพณี ไม่ใช่การแต่งงานเพราะรักกับอ๋องเจวี้ยนที่จะผูกพันไปทั้งชีวิต แต่เป็นการแ
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ
ฟู่จาวหนิงถูกจูบจนเคลิ้มหลับไปอีกรอบเซียวหลันยวนได้ยินเสียงหายใจลึกของนางแล้วก็จนใจเขาเลือดพุ่งขึ้นมาแล้ว แต่นางกลับหลับไป ดูท่าในเมืองเจ้อระยะนี้นางคงจะเหนื่อยมากจริงๆเขาเองก็ไม่ได้ทรมานนาง กอดนางแล้วหลับไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเดิมทีกำลังรอว่าจะฝันอีกครั้ง ดีที่สุดคือได้ฝันเห็นลุงหวังพูดอะไรกับอ๋องเจวี้ยนว่ากล่องใบนั้นเปิดอย่างไรแต่เมื่อคืนนี้นางก็ฝันจริงๆ น่าเสียดายที่ฝันร้าย ในฝันตนเองอยู่ในตำหนักเพียงคนเดียว จะอย่างไรก็ออกไปไม่ได้ และไม่มีใครด้วย ทุกแห่งมีแต่แสงทึม ในความมือเหมือนมีเสียงอะไรที่น่ากลัว ทำให้นางรู้สึกกลัวมากหลังจากสะดุ้งตื่น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เหงื่อท่วมไปทั้งตัว"องค์หญิงใหญ่ ท่านฝันร้ายหรือ?" เฉินเซียงถูกนางทำสะดุ้งตื่นตาม รีบลุกขึ้นนั่งองค์หญิงใหญ่ไม่ค่อยฝันร้ายเท่าไร แต่บางครั้งก็จะฝันร้ายบ้างสักครั้ง แสดงว่าช่วงเวลานั้นจะผ่านไปได้ไม่ค่อยดีนักเฉินเซียงเครียดขึ้นมาแล้วพวกนางตอนนี้ผ่านความน่าเวทนามากมาแล้ว ไม่น่าแย่กว่านี้แล้ว ไม่เช่นนั้นนางคงทนรับไม่ไหวแล้วนางมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอย่างตึงเครียด หวังว่านางจะปฏิเสธแต่นางก็ยังผิดหวัง องค์หญิงใ
"รุ่นหลังของตระกูลปันมีกี่คนหรือ?""รุ่นหลังของตระกูลปันก็มีอยู่ไม่น้อยเลย พวกเขามีช่างที่มีฝีมือ ในตอนนั้นหลบหนีจากภัยพิบัติได้ เหลือรุ่นหลังเอาไว้ ตอนนี้คนที่มีอำนาจในตระกูลปันชื่อว่าปันมู่ พวกเขาไหว้วานขบวนพ่อค้าให้ส่งจดหมายเข้ามา บอกว่าคนเองก็อยู่ระหว่างทางมาแคว้นเจาแล้ว"ปันมู่เซียวหลันยวนจำชื่อนี้ไว้"แล้วเจ้าเป็นรุ่นหลังจากตระกูลไหนกัน?""ใต้ฝ่าพระบาท ข้าคือรุ่นหลังจากตระกูลเหมิ่ง ตอนนั้นปู่ข้าได้รับมอบหมายงานกะทันหัน ทิ้งสิ่งของเพื่อส่งมอบให้กับจักรพรรดิรุ่นใหม่ องค์หญิงใหญ่จากไปแล้ว แต่ยังทิ้งลูกหลานไว้ ก็คือฝ่าพระบาทนั่นเอง ข้าระลึกเสมอว่าต้องนำสิ่งของส่งให้ถึงมือท่าน"แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่เขาหรือไม่ เขาได้รับสิ่งของที่จักรพรรดินีทิ้งไว้แล้วหรือยัง เขาส่งเครื่องพยากรณ์ออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้"เจ้าหมายถึงเครื่องพยากรณ์หรือเปล่า?""ใต้ฝ่าพระบาทรู้จริงๆ ด้วย ใช่แล้ว ของสิ่งนี้อยู่ในมือข้ามาหลายปีแล้ว ข้าปกป้องเอาไว้ไม่ค่อยปล่อยไปไหน ตอนนี้ก็ส่งให้กับมือใต้ฝ่าพระบาทได้เสียที ในที่สุดข้าก็ได้พักผ่อนเสียที..."ลุงหวังบอกถึงตำแหน่งที่ซ่อนเครื่องพยากรณ์เซียวหลันยวนฟังเ
ฟู่จาวหนิงเก็บเครื่องพยากรณ์กลับเข้าไปในมิติ แล้วก็ถูกเซียวหลันยวนกอดเข้าไปในผ้าห่มเขาคลุมผ้าห่มนางให้ดี จูบไปที่ปากนางเบาๆ เอ่ยขึ้นแผ่วเบาว่า "เจ้าก็นอนให้สบาย ข้าจะทำการอย่างระวัง""ได้"เซียวหลันยวนเป่าเปลวเทียน ออกประตูไปอย่างแผ่วเบา"ท่านอ๋อง?" ชิงอีออกมาจากมุมมืดรู้สึกเกินคาดหน่อยๆ ที่ท่านอ๋องจะออกไปตอนดึกขนาดนี้ คืนนี้ไม่ใช่ควรอยู่กับพระชายาหรอกหรือ?"ไป" เซียวหลันยวนกลับไม่อธิบายอะไรมากตอนมาถึงทางตาเฒ่าอู๋ ในคืนเงียบสงัดเช่นนี้ กลับได้ยินเสียงไอค่อกแค่กอยู่แค่กๆๆๆมีทั้งที่ดังขึ้นครั้งสองครั้ง และมีที่ดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดมีทั้งที่ดังจนปอดแทบฉีก ทำเอาคนที่ไม่ไอฟังแล้วรู้สึกคันขึ้นมาที่คอเลย แทบจะไอตามไปด้วย"ท่านอ๋อง คนเหล่านี้ป่วยหนักมาก" ชิงอีเอ่ยขึ้นเสียงต่ำเขาเห็นว่าท่านอ๋องยังมาที่ตาเฒ่าอู๋ทางนี้ จึงรู้สึกกังวลขึ้นหน่อยๆ"อืม ดังนั้นหวังว่าจาวหนิงจะค้นคว้ายาที่สามารถสะกดอาการป่วยนี้ออกมาได้ ไม่ให้มันระบาดต่อไปอีก ไม่เช่นนั้นก็ไม่อยากจะคิด"เซียวหลันยวนถึงแม้จะปวดในที่ฟู่จาวหนิงอยู่ที่นี่ แต่เขาก็เข้าใจดี ตอนนี้เมืองเจ้อต้องการนางจริงๆไม่ใช่แค่เมืองเ
"ท่านเองก็ลองดูสิ" นางส่งคืนกลับให้เขาเขายังไม่ทันได้ดูเลยน กลับส่งให้นางดูก่อนเสียแล้วเซียวหลันยวนรับมา หยิบไปวางไว้ตรงหน้าในใจเขาเองก็สั่นสะเทือนเช่นกันนี่มันยอดเยี่ยมมาก"เครื่องพยากรณ์นี้ ในตงฉิงถือได้ว่าเป็นสมบัติเลยกระมัง?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"อืม" เซียวหลันยวนวางเครื่องพยากรณ์ลง พยักหน้า "ราชครูจะสืบทอดต่อให้เป็นรุ่นๆ ถ้าหากบนมือไม่มีเครื่องมือพยากรณ์ ราชครูก็จะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชอบธรรม ยิ่งไปกว่านั้น คนตงฉิงก็ยังเชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ออกมาจากการคาดการณ์ของเครื่องมือพยากรณ์ ล้วนไม่แม่นยำทั้งสิ้น""นั่นเท่ากับเป็นสิ่งที่เครื่องพยากรณ์สิบห้าปีใหม่คำนวณออกมาใช่ไหม? แล้วเก่ากว่านั้นล่ะ""ที่เก่ากว่านั้นจะถูกประทับตราเป็นของไม่ใช้งานแล้ว แล้วปิดผนึกไว้ในสุสานจักรพรรดิ"หรือก็คือ ขอแค่ไม่มีชิ้นใหม่ออกมา บนโลกนี้ก็จะมีแค่เครื่องพยากรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น"แล้วลุงหวังคนนั้น คงจะไม่ใช่รุ่นหลังของราชครูตงฉิงหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นเซียวหลันยวนนิ่งงันไปพักหนึ่ง ตอบว่า "อันที่จริงก่อนหน้านี้ข้าก็คาดเดามาตลอด เจ้าอารามต่างหากที่น่าจะเป็น"ฟู่
"กล่องใบนี้ เป็นงานฝีมือของตระกูลปัน"แตกต่างกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ได้กล่องมาแล้วศึกษาอยู่นานแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เซียวหลันยวนหมุนๆ ดูก็สรุปออกมา"ตระกูลปัน?""อืม" เซียวหลันยวนพูดไปด้วย มือเองก็คลำๆ ไปด้วย "หลานหรงไม่ใช่ว่าค้นข้อมูลเกี่ยวกับตงฉิงมาหรือ? ตอนนั้นลุงเสิ่นเองก็มอบหนังสือมาให้ ด้านบนมีการแนะนำตระกูลบางส่วนของตงฉิงไว้ ตระกูลปันก็อยู่ในนั้นด้วย""พูดเช่นนี้ ตระกูลปันก็เป็นช่างอย่างนั้นหรือ?"ฟู่จาวหนิงอดคิดถึงหลู่ปัน(นักประดิษฐ์เลื่องชื่อในประวัติศาสตร์จีน)ขึ้นมาไม่ได้ที่นี่ก็มีตระกูลปันด้วย ดูแล้วก็ลึกลับเอาการ"อืม เข้าใจแบบนี้ได้"เซียวหลันยวนตอนเพิ่งเริ่มยังดูช้าๆ อยู่ ลูบๆ คลำๆ แต่ไม่นานนักก็ดูรวดเร็วขึ้นมา กล่องไม้ที่ดูสมบูรณ์แบบนั่นไม่รู้เขาทำอีท่าไหน ตรงนี้กลับดึงได้ตรงนั้นกลับกดได้ขึ้นมาฟู่จาวหนิงมองเขาเล่นอยู่ครู่หนึ่ง ก็ไม่ได้ถามอะไร นั่งมองเขาเปิดกล่องใบนั้นอยู่ข้างๆนิ้วของเขามีข้อต่อชัดเจน เรียวสวย เล็บสะอาดเรียบร้อยราวกับเป็นงานศิลปะสองมือนี้ ไม่เอาไปเล่นเปียโนคือน่าเสียดายมากตอนที่ความคิดฟู่จาวหนิงเริ่มเตลิด ก็ได้ยินเสียงดังแกร๊ก กล่องเปิดออกแ
"ขโมยมาจากไหนกัน?" ฟู่จาวหนิงมองเขา"ห้องข้างฝั่งตะวันตก"พอเขาพูดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็เข้าใจขึ้นมาทันที สมองนางร้อยเรียงเรื่องราวออกมาอย่างรวดเร็วนางถามขึ้นอย่างตกตะลึง "องค์หญิงใหญ่ออกไปข้างนอกมาหรือ? ่นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้วหรือ?"เซียวหลันยวนนับถือสมองของนางจริงๆ ที่คิดได้เร็วขนาดนี้"ใช่แล้ว เจ้าพูดถูกต้อง ข้าประเมินนางต่ำไป คิดไม่ถึงว่านางจะฝันเรื่องแบบนี้ได้จริงๆ"เซียวหลันยวนเองก็รู้สึกเกินคาดถึงแม้เขาจะให้คนจับตาดูองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไว้ แต่ก็เป็นแค่ความเคยชินที่ชอบให้เรื่องอยู่ในการควบคุมเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเห็นฝันของนางเป็นจริงนางมีความสามารถเช่นนี้ ไม่แปลกที่หลายปีมานี้ก็ยังรักษาชื่อเสียงในเรื่องโชคไว้ได้ แล้วยังทำให้ฝ่าบาทต้าชื่อดึงนางไว้แน่นโดยไม่ยอมปล่อยมืออีกแล้วก็ไม่รู้ว่าจะฝันเห็นถึงอะไรบ้างด้วย"ท่านหมายความว่า นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้ว?"ฟู่จาวหนิงพอคิดๆ ก็รู้สึกไม่ถูก "แล้วนางไปกล่อมชายชราให้ส่งของให้นางไม่ได้ ก็เลยเลือกขโมยมาอย่างนั้นหรือ?!"ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ความทรงจำเกี่ยวกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นของนางก็คงต้องล้างใหม่เสียแล้วเรื่องแบบนี้ก็
คืนนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน่าจะเพราะออกไปด้านนอกตากลมหนาวมา กลางดึกจึงจับไข้จนมึนงง แล้วก็ไอจนนอนไม่ได้แต่นางไม่รู้ ว่าตอนที่นางไอจนสลึมสลือ มีเงาดำร่างหนึ่งเข้ามาในห้องนางอย่างไร้ซุ่มเสียงเฉินเซียงที่นอนอยู่บนแคร่นิ่มข้างๆ พลิกตัวมา ในปากพึมพำอะไรคำสองคำ จากนั้นก็หลับไปอีกเงาดำชะงักไป รื้อค้นในห้องขึ้นมาน่าจะเพราะที่นี่ไม่ใช่สถานที่ขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีชั้นเก็บของอะไรไว้ซ่อนของได้มาก เพียงไม่นาน เขาก็หาของเจอวางอยู่ในลังที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนำมาด้วยถึงแม้ลังจะใส่กลอนไว้ แต่พอเห็นกลอนนั่น เงาดำก็รู้ว่ากุญแจอยู่ที่ไหน จึงเด็ดปิ่นปักผมเล่มหนึ่งออกมาจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น พอบิดออกก็กลายเป็นกุญแจจริงๆคนในวังส่วนมากล้วนใช้วิธีการนี้กลอนถูกปลดออกทันที พอได้ของที่ห่อผ้าไว้ เงาดำก็จัดการลงกลอนลังอีกครั้ง นำปิ่นปักผมคืนกลับไป จากนั้นก็ออกประตูมาอย่างไร้ซุ่มเสียงเพียงไม่นาน ของชิ้นนี้ก็มาอยู่ตรงหน้าเซียวหลันยวน"ท่านอ๋อง อีกเดี๋ยวให้พระชายาดูดีไหม ของนี่อยู่ในมือลุงหวังคนนั้นแล้วยังย้ายไปอยู่ในมือองค์หญิงใหญ่อีก พวกเขาติดโรคมากันหมดแล้ว ทางที่ดีท่านอย่า
ฟู่จาวหนิงรู้ว่าตอนนี้ต่อให้จะรับประกันดีแค่ไหน เซียวหลันยวนก็ยังกังวลตนเองอยู่ดีก็เหมือนกับที่เขาไม่ยอมกลับเมืองหลวง นางก็รู้สึกกังวลว่าเขาจะติดโรคระบาดที่นี่"พรุ่งนี้ท่านกลับเมืองหลวงเถอะ เอาจริงๆ ท่านอยู่ที่นี่ข้าก็เป็นห่วงอยู่ตลอด แล้วท่านก็ตามข้ามาแบบนี้อีก""พรุ่งนี้จะดูสถานการณ์ ข้ารับปากเจ้า จะไม่คอยตามเจ้าแล้ว""ไม่ตามแล้วหรือ?""ใช่ แค่รู้ว่าทุกวันเจ้าผ่านไปอย่างไร ทำอะไรบ้าง ในใจข้าก็พอเข้าใจแล้ว จะไม่ตามอีก"แม้จะเป็นห่วง แต่ตอนนี้พอได้ติดตามมาวันหนึ่ง ได้รู้ว่านางใช้ชีวิตผ่านไปอย่างไร ก็ยังดีกว่าก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้อะไรเลย ทำได้แค่คอยจินตนาการผ่านถ้อยคำบนจดหมายเขาจะมาถ่วงแข้งขานางไม่ได้ เพราะแม้แต่เขาก็รู้ ว่าเมืองเจ้อตอนนี้ขาดฟู่จาวหนิงไม่ได้"ถ้าอย่างนั้นท่านไปพักกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเถอะ ทางนั้นอย่างน้อยก็ไม่มีคนป่วย"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าในโรงหมอก็ยังมีความเสี่ยงสูง"พรุ่งนี้ข้าไม่อยู่ที่โรงหมอ ข้าจะไปที่อื่นหน่อย"ฟู่จาวหนิงเห็นว่าเซียวหลันยวนมีแผนการของตนเองอยู่ จึงไม่ได้ถามอะไรเขามากขึ้น ถึงอย่างไรเขาปล่อยนางให้อยู่ที่นี่รักษาคนป่วยได้ ไม่ได้ดึงดันจะพ