ฟู่จาวหนิงจับมือของเซียวหลันยวนเอาไว้"นี่มันในรถม้านะ"เสียงของนางอ่อนยวบหน่อยๆ น่าจะเพราะใบหน้าของเซียวหลันยวนอยู่กล้านางขนาดนี้ ดวงตาลึกซึ้งของเขา จมูกสันโด่งนั่น แล้วยังมีริมฝีปากที่กลืนลมหายใจของนางไปแล้ว ล้วนทำเอาเลือดของนางเดือดพล่านไม่ใช่มีแค่ชายหนุ่มที่ถูกหญิงสาวยั่วยวนจนร่างกายร้อนผ่าว แต่หญิงสาวเองก็ถูกชายหนุ่มดึงดุดได้เช่นกันตอนนี้เซียวหลันยวนทำเอานางรู้สึกปากลิ้นแห้งผากสมกับเป็นหนุ่มรูปงามอันดับหนึ่งแห่งแคว้นเจาจริงๆ!พูดได้ว่า ตอนอยู่ในต้าชื่อนางก็ไม่เคยเห็นใครหน้าตาดีเท่าเขา หรือคนที่ตรงกับส่วนที่นางชอบเลยชายคนนี้ตรงตามแบบที่นางชอบอย่างสมบูรณ์เซียวหลันยวนสัมผัสหน้าผากนางเบาๆ และกำลังพยายามข่มลมหายใจกับอาการใจเต้นลงมาในดวงตาเขายังมียังมีแสงมืดมนอยู่"ข้ามีความรู้สึกแบบนี้เป็นครั้งแรก..." เสียงของเขาแหบพร่า"อ๋า? ความรู้สึกอะไร?""อยากกลับบ้านดุจคมศร" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นมาทีละคำๆอยากกลับบ้านดุจคมศร?อยากกลับแคว้นเจาขนาดนั้นเลยหรือ?ฟู่จาวหนิงตอนแรกยังไม่ค่อยเข้าใจนัก จนตอนที่เขาจูบลงมาที่ริมฝีปากนางอีกครั้ง นางจึงเข้าใจขึ้นมา หัวใจเต้นระรัวขึ้นอีกครั
"แล้วซือถูไป๋ล่ะ?"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นคิดถึงซือถูไป๋ขึ้มมา หลายวันนี้เขาไม่เห็นซือถูไป๋เลย เขาไปทำอะไรแล้วนะ?"คุณชายซือถูพอเจอกับคนที่ผู้นำตระกูลถูส่งมา ก็ถูกบังคับให้กลับบ้านไปแล้ว" เฉินเซียงนึกเรื่องนี้ออกขึ้นมา เพราะเดิมทีองค์หญิงใหญ่ไม่ได้ใส่ใจเรื่องร่องรอยของซือถูไป๋นัก ตอนที่นางได้ยินเรื่องนี้จึงไม่ได้เข้ามารายงานในทันทีกระทั่งตัวเลือกรองที่นางคิดไว้อย่างซือถูไป๋ก็ไม่อยู่แล้วหรือ?องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นร้อนรนขึ้นมา "ถ้าอย่างนั้นข้า..."นางเองก็อยากจะออกไปบ้างแล้ว! แต่นางจะไปไหนได้ล่ะ?ฝ่าบาทไม่มีทางให้นางได้ไปไหน ตอนนี้นางเองก็ยังหาวัตถุดิบยาดีดีไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นก็ยังไม่เห็นว่าเหล่าหมอเทวดาของสมาคมหมอใหญ่จะค้นคว้าเรื่องยาอายุวัฒนะออกมาได้เลยนางยังกลับไปเมืองหลวงจักรพรรดิพร้อมองค์จักรพรรดิแบบนี้ไม่ได้องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นรู้สึกว่าตนเองถ้ากลับไปเช่นนี้ คงจะไม่ได้ออกมาอีกแล้วในใจนางมีลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก"องค์หญิงใหญ่ ข้าน้อยมีความคิด" อิ๋นสั่วมองนางเอ่ยขึ้นเสียงขรึม"รีบว่ามา""พวกเราไม่ลองไปยอดเขาโยวชิงดูล่ะ?" อิ๋นสั่วเอ่ยขึ้นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นงงงันไปไปยอ
ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนไม่สนใจว่าคนที่อยู่ในเมืองจี้เหล่านั้นจะคิดอะไร หลังออกจากเมืองจี้ยิ่งเดินทางก็ยิ่งหนาว ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ได้แวะพักมากนัก เร่งเดินทางอยู่ทุกวันระหว่างทางก็ได้รับข่าวสารจากแคว้นเจาทางนั้นมาตลอดแคว้นเจารู้แล้วว่าเซียวหลันยวนไปยังต้าชื่อ แต่ก็ยังไม่เคลื่อนไหวอะไรคนที่เซียวหลันยวนทิ้งไว้ไม่ได้ตรวจพบว่าจักรพรรดิเจาส่งทหารออกมา กระทั่งตลอดทางก็ย้งไม่เจอกับการลอบสังหารอีกด้วย สงบจนทำให้คนรู้สึกไม่ปกติแต่ต่อให้เป็นเช่นนี้ พวกเขาเองก็ยังเร่งเดินทางกลับมาตลอดทางถึงอย่างไร นั่นก็คือบ้านของพวกเขาเสิ่นเสวียนทางนั้นเองก็ส่งจดหมายด่วนเข้ามา ก่อนวันที่พวกเขาจะออกจากเมืองจี้ ผู้อาวุโสจี้ก็พาสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินขึ้นมาบนเส้นทางขากลับแคว้นเจาแล้วนอกจากองครักษ์ที่เซียวหลันยวนทิ้งไว้ เสิ่นเสวียนยังส่งองครักษ์ออกมาอีกไม่น้อยเซียวหลันยวนเดิมทีคิดว่าพวกขเาออกเดินทางมาก่อน ก็เพื่อจะขจัดอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างทาง แต่คิดไม่ถึงว่าระหว่างทางกลับคลื่นลมสงบ ไม่รู้ว่าคนที่ไล่สังหารสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินล้มเลิกภารกิจนี้ไปแล้วหรือยังจนตอนที่พวกเขามองเห็นหอเมืองหลวงแคว้นเจ
มีคนคาดเดา แต่ก็ไม่กล้าพูดออกมา และไม่รู้ว่าคนเหล่านี้คือใคร แต่ว่าบนชุดทะมัดทะแมงสีดำบวกกับเกราะอ่อนสีดำบนตัวพวกเขา มองแล้วดูน่าเกรงขามฟู่จาวหนิงเลิกม่ามองออกไป ก็สูดปากขึ้นมา จากนั้นจึงหันหน้ามองไปทางเซียวหลันยวน"องครักษ์เงามังกรหรือ?""อือฮึ" เซียวหลันยวนพยักหน้า"ท่าน..." ฟู่จาวหนิงพูดไม่ออก "ท่านให้พวกเขาเปิดเผยตัวเพื่อส่งพวกเราเข้าเมืองเนี่ยนะ?""ใช่ เจ้าก็ลองดูว่าทหารทางการพวกนั้นจะกล้าจับข้าไหม" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นเสียงเรียบฟู่จาวหนิงกุมหน้าผากมีองครักษ์เงามังกรสวมเกราะอ่อนสีดำตั้งมากมายคอยคุ้มกัน ทหารทางการที่ไหนจะกล้าทำอะไร?เซียวหลันยวนนี่ไม่เล่นตามกฏเลยจริงๆ ถึงอย่างไรองครักษ์เงามังกรเหล่านี้ขนาดราชองครักษ์ก็ยังไม่กล้าปะทะด้วยเลยแต่องครักษ์เงามังกรเดิมทีก็จัดตั้งขึ้นเพื่อคุ้มครององค์จักรพรรดิ คุณสมบัติในสิทธิ์ของพวกเขาจึงอยู่ใต้องค์จักรพรรดิเพียงคนเดียวตอนนี้กลับมีคนพิเศษอย่างเซียวหลันยวนปรากฏตัวขึ้นไม้นี้ของไท่ซ่างหวงเด็ดขาดจริงๆจักรพรรดิเจาน่าจะโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงเลยทีเดียวในประตูหอเมือง ทหารทางการหลายสิบคนตั้งขบวนเข้มเพื่อรอพวกเขาได้รับข่าวมาก่อ
"อ๋องเจวี้ยน พวกเรามีราชโองๆๆๆๆๆๆ..."คนในที่ว่าการคนนั้นอยากจะพูดคำที่คิดออกมาอย่างยากลำบาก แต่แรงกดดันบนตัวกลับมากขึ้นเรื่อยๆ เขารู้สึกเหมือนถูกกดลงติดพื้น เงยหน้าขึ้นมายังไม่ได้ ไม่ต้องพูดเรื่องพูดเลย พูดอะไรก็ตะกุกตะกักไปหมดโครมตัวเขาพังพาบลงโครม ยังจะพูดให้ชัดเจนได้อีกเสียที่ไหน?คนอื่นๆ พอเห็นสภาพเขาก็ใจสั่นวาบ ความกล้าที่เหลืออยู่ก็สลายหายไปเพราะความหวาดกลัวอ๋องเจวี้ยนร้ายกาจขนาดนี้เชียว เช่นนั้นก็โทษพวกเขาไม่ได้แล้วกระมัง?เพราะพวกเขาต่อกรกับอ๋องเจวี้ยนไม่ได้นี่นา องค์จักรพรรดิถ้ารู้ก็คงไม่โยนความรับผิดชอบมาบนตัวพวกเขาหรอกกระมังรถม้าของอ๋องเจวี้ยนเคลื่อนผ่านประตูเมืองผ่านหน้าพวกเขา องครักษ์เงามังกรเองก็คุ้มครองอยู่รอบๆ ตามติดเข้าไป ใครก็ไม่กล้าเข้าใกล้ทั้งนั้นประชาชนระหว่างทางพอเห็นขบวนใหญ่เช่นนี้ก็รีบถอยหนีกัน มองกันอย่างหวาดหวั่นไปทางรถของอ๋องเจวี้ยน"อ๋องเจวี้ยนกลับเมืองหลวงแล้ว""คนพวกนั้นคือองครักษ์เงามังกรหรือ? องครักษ์เงามังกรดูพลังน่ากลัวจริงๆ""น่ากลัวมาก หรืออ๋องเจวี้ยนจะรู้ว่าทุกคนกำลังพูดถึงใบหน้าของเขา? หลังจากนี้คงไม่มีใครกล้าพูดแล้ว ไม่เช่นนั้นคงถ
ตอนที่พูดถึงคำนี้ ในน้ำเสียงของเซียวหลันยวนก็มีความยั่วยวนขึ้นมา แฝงนัยยะไม่ชัดเจน"หน้าของท่านนี่ด้านขึ้นทุกทีแล้วนะ" ฟู่จาวหนิงเอียงตามองเขาจวนอ๋องเจวี้ยนหลายเดือนนี้ประตูใหญ่ล้วนปิดสนิท มีคนเข้าออกน้อยมาก ปกติจะเงียบจนเหมือนเป็นบ้านร้างอย่างไรอย่างนั้นวันนี้ ประตูใหญ่จวนอ๋องเจวี้ยนในที่สุดก็เปิดออกแล้วผู้ดูแลจงก็พาคนใช้กลุ่มหนึ่งออกมาต้อนรับอย่างเบิกบาน"คารวะท่านอ๋องและพระชายากลับจวน"พวกเขามองรถม้าตาแป๋ว ม่านรถเลิกออก เซียวหลันยวนลงมาจากรถม้าผู้ดูแลจงพอเห็นเขาสวมหน้ากากอยู่ ในใจก็ผิดหวังหน่อยๆเพราะพวกเขาเดิมทีคิดว่าผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ใบหน้าท่านอ๋องน่าจะดีขึ้นแล้ว ยังคิดว่าพวกเขาจะได้เห็นใบหน้างดงามสมบูรณ์แบบของนายท่านเสียอีกใครจะคิดว่ายังสวมหน้ากากอยู่เช่นนี้ใบหน้าท่านอ๋องน่าจะรักษาไม่ได้จริงๆ แล้วกระมัง?ผู้ดูแลจงระงับความเศร้าสร้อยในใจ เข้ามาต้อนรับ"ท่านอ๋องและพระชายาเดินทางกันเหน็ดเหนื่อยเสียแล้ว"เซียวหลันยวนยื่นมือไปโอบเอวของฟู่จาวหนิง อุ้มนางลงมาจากรถม้าหงจั๋วกับเฝิ่นซิงที่ยืนอยู่ข้างๆ พอเห็นฉากนี้ ดวงตาทั้งสองคนก็เป็นประกาย กลายเป็นดวงดาราวิบวับไปเส
"ท่านพี่!"ฟู่จาวเฟยพอเข้าจวนอ๋องก็พุ่งเข้ามาหาด้านหลังมีเสี่ยวเหยาประคองผู้เฒ่าฟู่เข้ามา จงเจี้ยนเองก็ตามมาด้วยฟู่จาวหนิงพอเห็นก็รีบเข้าไปรับ"หยุดๆๆ"พอเห็นฟู่จาวเฟยพุ่งเข้ามาก็รีบห้ามเอาไว้ก่อนเซียวหลันยวนยื่นมือกดไว้บนบ่าของฟู่จาวเฟย และหยุดร่างเขาเอาไว้ได้ทันที"เดี๋ยวไปชนพี่สาวเจ้าขึ้นมาจะทำอย่างไร?" เซียวหลันยวนน้ำเสียงขรึมเจ้าเด็กตัวเหม็นนี่คิดจะพุ่งเข้ามากอดจาวหนิงหรือ? เลิกคิดไปได้เลยเขาเองก็โตขนาดนี้แล้ว หญิงชายเมื่อเจ็ดขวบก็ต้องแยกกัน ต่อให้เป็นน้องชายก็ไม่ให้กอดหรอก"พี่เขย!"ฟู่จาวเฟยเห็นเขาก็ร้องเรียกขึ้นมา หนักแน่นเด็ดขาด"...อืม" สีหน้าเซียวหลันยวนก็ผ่อนคลายลงมาก็ยังไม่ได้แย่ขนาดนั้นนี่นะ เขาปล่อยมือออก "พี่สาวของเจ้าเหนื่อยแล้ว ระวังหน่อย"ถึงอย่างไรก็ห้ามกอดอยู่ดี"ท่านปู่ เสี่ยวเฟย"ฟู่จาวหนิงเดินเข้ามา ตบลงบนบ่าฟู่จาวเฟย "สูงขึ้นแล้วนะ""ท่านพี่เองก็สูงขึ้น" ฟู่จาวเฟยมองจุดนี้ออกทันที"จาวหนิง! กลับมาก็ดีแล้ว กลับมาก็ดีแล้ว"ผู้เฒ่าฟู่มองฟู่จาวหนิง พิจารณาตัวนาง ดวงตารื้นขึ้นหน่อยๆสิบกว่าปีก่อนพวกเขาสองคนปู่หลานพึ่งพาอาศัยกันมาตลอด พอห่าง
"ไม่มี ก็แค่ออกไปไม่ได้เท่านั้น มีคนคอยจับตาดูข้าตลอด อย่างอื่นก็ไม่มีอะไร ถึงไม่ออกไปก็ไม่เป็นไร ข้าก็อยู่เป็นเพื่อนท่านปู่พอดี"ฟู่จาวเฟยหัวเราะเบาๆ ไปทางฟู่จาวหนิงพี่สาวเพิ่งจะกลับมา อย่าทำให้อารมณ์นางไม่ดีอันที่จริง ใครจะมาชอบให้คนอื่นคอยจับตาเวลาออกไปข้างนอกกัน? อย่างกับถูกกักบริเวณวันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาก้าวออกจากบ้านในช่วงครึ่งปีเลยนะแล้วยังเพราะเซียวหลันยวนส่งคนไปรับมาด้วย คนที่คอยจับจ้องเขาก็ไม่กล้าเข้าขวาง"ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว""จาวหนิง เจ้า ก่อนหน้านี้เจ้าเขียนจดหมายว่า ได้ข่าวพ่อแม่ของเจ้าแล้ว นี่เรื่องจริงหรือ?" ผู้เฒ่าฟู่ทนจนถึงตอนนี้ก็ทนไม่ไหวแล้วสายตาที่เต็มไปด้วยความหวังของเขาจ้องมองฟู่จาวหนิง อยากจะฟังข่าวคราวของฟู่จิ้นเชินจากปากนางเองฟู่จาวเฟยเองก็มองนาง"ท่านพี่บอกว่าพวกเขาไม่ได้จงใจทิ้งข้า นี่มันเกิดอะไรขึ้น?" เสียงของเขาสั่นพร่าเล็กน้อยฟู่จาวหนิงไม่ให้เขากระวนกระวายใจนานนัก พยักหน้าให้"ใช่แล้ว ข้าพบกับพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างทางกลับมาแคว้นเจาด้วย แต่ว่าจะช้าหน่อย อาจารย์ของข้าอยู่กับพวกเขา""จริงหรือ?""จริงแท้อย่างที่