มีคนคาดเดา แต่ก็ไม่กล้าพูดออกมา และไม่รู้ว่าคนเหล่านี้คือใคร แต่ว่าบนชุดทะมัดทะแมงสีดำบวกกับเกราะอ่อนสีดำบนตัวพวกเขา มองแล้วดูน่าเกรงขามฟู่จาวหนิงเลิกม่ามองออกไป ก็สูดปากขึ้นมา จากนั้นจึงหันหน้ามองไปทางเซียวหลันยวน"องครักษ์เงามังกรหรือ?""อือฮึ" เซียวหลันยวนพยักหน้า"ท่าน..." ฟู่จาวหนิงพูดไม่ออก "ท่านให้พวกเขาเปิดเผยตัวเพื่อส่งพวกเราเข้าเมืองเนี่ยนะ?""ใช่ เจ้าก็ลองดูว่าทหารทางการพวกนั้นจะกล้าจับข้าไหม" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นเสียงเรียบฟู่จาวหนิงกุมหน้าผากมีองครักษ์เงามังกรสวมเกราะอ่อนสีดำตั้งมากมายคอยคุ้มกัน ทหารทางการที่ไหนจะกล้าทำอะไร?เซียวหลันยวนนี่ไม่เล่นตามกฏเลยจริงๆ ถึงอย่างไรองครักษ์เงามังกรเหล่านี้ขนาดราชองครักษ์ก็ยังไม่กล้าปะทะด้วยเลยแต่องครักษ์เงามังกรเดิมทีก็จัดตั้งขึ้นเพื่อคุ้มครององค์จักรพรรดิ คุณสมบัติในสิทธิ์ของพวกเขาจึงอยู่ใต้องค์จักรพรรดิเพียงคนเดียวตอนนี้กลับมีคนพิเศษอย่างเซียวหลันยวนปรากฏตัวขึ้นไม้นี้ของไท่ซ่างหวงเด็ดขาดจริงๆจักรพรรดิเจาน่าจะโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงเลยทีเดียวในประตูหอเมือง ทหารทางการหลายสิบคนตั้งขบวนเข้มเพื่อรอพวกเขาได้รับข่าวมาก่อ
"อ๋องเจวี้ยน พวกเรามีราชโองๆๆๆๆๆๆ..."คนในที่ว่าการคนนั้นอยากจะพูดคำที่คิดออกมาอย่างยากลำบาก แต่แรงกดดันบนตัวกลับมากขึ้นเรื่อยๆ เขารู้สึกเหมือนถูกกดลงติดพื้น เงยหน้าขึ้นมายังไม่ได้ ไม่ต้องพูดเรื่องพูดเลย พูดอะไรก็ตะกุกตะกักไปหมดโครมตัวเขาพังพาบลงโครม ยังจะพูดให้ชัดเจนได้อีกเสียที่ไหน?คนอื่นๆ พอเห็นสภาพเขาก็ใจสั่นวาบ ความกล้าที่เหลืออยู่ก็สลายหายไปเพราะความหวาดกลัวอ๋องเจวี้ยนร้ายกาจขนาดนี้เชียว เช่นนั้นก็โทษพวกเขาไม่ได้แล้วกระมัง?เพราะพวกเขาต่อกรกับอ๋องเจวี้ยนไม่ได้นี่นา องค์จักรพรรดิถ้ารู้ก็คงไม่โยนความรับผิดชอบมาบนตัวพวกเขาหรอกกระมังรถม้าของอ๋องเจวี้ยนเคลื่อนผ่านประตูเมืองผ่านหน้าพวกเขา องครักษ์เงามังกรเองก็คุ้มครองอยู่รอบๆ ตามติดเข้าไป ใครก็ไม่กล้าเข้าใกล้ทั้งนั้นประชาชนระหว่างทางพอเห็นขบวนใหญ่เช่นนี้ก็รีบถอยหนีกัน มองกันอย่างหวาดหวั่นไปทางรถของอ๋องเจวี้ยน"อ๋องเจวี้ยนกลับเมืองหลวงแล้ว""คนพวกนั้นคือองครักษ์เงามังกรหรือ? องครักษ์เงามังกรดูพลังน่ากลัวจริงๆ""น่ากลัวมาก หรืออ๋องเจวี้ยนจะรู้ว่าทุกคนกำลังพูดถึงใบหน้าของเขา? หลังจากนี้คงไม่มีใครกล้าพูดแล้ว ไม่เช่นนั้นคงถ
ตอนที่พูดถึงคำนี้ ในน้ำเสียงของเซียวหลันยวนก็มีความยั่วยวนขึ้นมา แฝงนัยยะไม่ชัดเจน"หน้าของท่านนี่ด้านขึ้นทุกทีแล้วนะ" ฟู่จาวหนิงเอียงตามองเขาจวนอ๋องเจวี้ยนหลายเดือนนี้ประตูใหญ่ล้วนปิดสนิท มีคนเข้าออกน้อยมาก ปกติจะเงียบจนเหมือนเป็นบ้านร้างอย่างไรอย่างนั้นวันนี้ ประตูใหญ่จวนอ๋องเจวี้ยนในที่สุดก็เปิดออกแล้วผู้ดูแลจงก็พาคนใช้กลุ่มหนึ่งออกมาต้อนรับอย่างเบิกบาน"คารวะท่านอ๋องและพระชายากลับจวน"พวกเขามองรถม้าตาแป๋ว ม่านรถเลิกออก เซียวหลันยวนลงมาจากรถม้าผู้ดูแลจงพอเห็นเขาสวมหน้ากากอยู่ ในใจก็ผิดหวังหน่อยๆเพราะพวกเขาเดิมทีคิดว่าผ่านไปนานขนาดนี้แล้ว ใบหน้าท่านอ๋องน่าจะดีขึ้นแล้ว ยังคิดว่าพวกเขาจะได้เห็นใบหน้างดงามสมบูรณ์แบบของนายท่านเสียอีกใครจะคิดว่ายังสวมหน้ากากอยู่เช่นนี้ใบหน้าท่านอ๋องน่าจะรักษาไม่ได้จริงๆ แล้วกระมัง?ผู้ดูแลจงระงับความเศร้าสร้อยในใจ เข้ามาต้อนรับ"ท่านอ๋องและพระชายาเดินทางกันเหน็ดเหนื่อยเสียแล้ว"เซียวหลันยวนยื่นมือไปโอบเอวของฟู่จาวหนิง อุ้มนางลงมาจากรถม้าหงจั๋วกับเฝิ่นซิงที่ยืนอยู่ข้างๆ พอเห็นฉากนี้ ดวงตาทั้งสองคนก็เป็นประกาย กลายเป็นดวงดาราวิบวับไปเส
"ท่านพี่!"ฟู่จาวเฟยพอเข้าจวนอ๋องก็พุ่งเข้ามาหาด้านหลังมีเสี่ยวเหยาประคองผู้เฒ่าฟู่เข้ามา จงเจี้ยนเองก็ตามมาด้วยฟู่จาวหนิงพอเห็นก็รีบเข้าไปรับ"หยุดๆๆ"พอเห็นฟู่จาวเฟยพุ่งเข้ามาก็รีบห้ามเอาไว้ก่อนเซียวหลันยวนยื่นมือกดไว้บนบ่าของฟู่จาวเฟย และหยุดร่างเขาเอาไว้ได้ทันที"เดี๋ยวไปชนพี่สาวเจ้าขึ้นมาจะทำอย่างไร?" เซียวหลันยวนน้ำเสียงขรึมเจ้าเด็กตัวเหม็นนี่คิดจะพุ่งเข้ามากอดจาวหนิงหรือ? เลิกคิดไปได้เลยเขาเองก็โตขนาดนี้แล้ว หญิงชายเมื่อเจ็ดขวบก็ต้องแยกกัน ต่อให้เป็นน้องชายก็ไม่ให้กอดหรอก"พี่เขย!"ฟู่จาวเฟยเห็นเขาก็ร้องเรียกขึ้นมา หนักแน่นเด็ดขาด"...อืม" สีหน้าเซียวหลันยวนก็ผ่อนคลายลงมาก็ยังไม่ได้แย่ขนาดนั้นนี่นะ เขาปล่อยมือออก "พี่สาวของเจ้าเหนื่อยแล้ว ระวังหน่อย"ถึงอย่างไรก็ห้ามกอดอยู่ดี"ท่านปู่ เสี่ยวเฟย"ฟู่จาวหนิงเดินเข้ามา ตบลงบนบ่าฟู่จาวเฟย "สูงขึ้นแล้วนะ""ท่านพี่เองก็สูงขึ้น" ฟู่จาวเฟยมองจุดนี้ออกทันที"จาวหนิง! กลับมาก็ดีแล้ว กลับมาก็ดีแล้ว"ผู้เฒ่าฟู่มองฟู่จาวหนิง พิจารณาตัวนาง ดวงตารื้นขึ้นหน่อยๆสิบกว่าปีก่อนพวกเขาสองคนปู่หลานพึ่งพาอาศัยกันมาตลอด พอห่าง
"ไม่มี ก็แค่ออกไปไม่ได้เท่านั้น มีคนคอยจับตาดูข้าตลอด อย่างอื่นก็ไม่มีอะไร ถึงไม่ออกไปก็ไม่เป็นไร ข้าก็อยู่เป็นเพื่อนท่านปู่พอดี"ฟู่จาวเฟยหัวเราะเบาๆ ไปทางฟู่จาวหนิงพี่สาวเพิ่งจะกลับมา อย่าทำให้อารมณ์นางไม่ดีอันที่จริง ใครจะมาชอบให้คนอื่นคอยจับตาเวลาออกไปข้างนอกกัน? อย่างกับถูกกักบริเวณวันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาก้าวออกจากบ้านในช่วงครึ่งปีเลยนะแล้วยังเพราะเซียวหลันยวนส่งคนไปรับมาด้วย คนที่คอยจับจ้องเขาก็ไม่กล้าเข้าขวาง"ไม่เป็นไรก็ดีแล้ว""จาวหนิง เจ้า ก่อนหน้านี้เจ้าเขียนจดหมายว่า ได้ข่าวพ่อแม่ของเจ้าแล้ว นี่เรื่องจริงหรือ?" ผู้เฒ่าฟู่ทนจนถึงตอนนี้ก็ทนไม่ไหวแล้วสายตาที่เต็มไปด้วยความหวังของเขาจ้องมองฟู่จาวหนิง อยากจะฟังข่าวคราวของฟู่จิ้นเชินจากปากนางเองฟู่จาวเฟยเองก็มองนาง"ท่านพี่บอกว่าพวกเขาไม่ได้จงใจทิ้งข้า นี่มันเกิดอะไรขึ้น?" เสียงของเขาสั่นพร่าเล็กน้อยฟู่จาวหนิงไม่ให้เขากระวนกระวายใจนานนัก พยักหน้าให้"ใช่แล้ว ข้าพบกับพวกเขา ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างทางกลับมาแคว้นเจาด้วย แต่ว่าจะช้าหน่อย อาจารย์ของข้าอยู่กับพวกเขา""จริงหรือ?""จริงแท้อย่างที่
ในห้อง สาวใช้หลายคนเก็บกวาดเสร็จแล้ว กำลังเตรียมจะถอยออกไป"นี่กำลังวุ่นอะไรกันหรือ?" ฟู่จาวหนิงพอถามจบ ก็เห็นสีแดงเต็มห้อง ม่านสีแดง ผ้าห่มเครื่องนอนสีแดง แล้วยังมีหมอนคู่รักอีกด้วยบนโต๊ะมีเชิงเทียนทองแท้แปดเชิง ด้านบนมีเทียนแดงแปดเล่มหน้าต่างแขวนโคมแดงไว้ โบกไหวตามลมกระทั่งบนโต๊ะแปดเซียนยังวางกาน้ำชาถ้วยน้ำชาไว้ และยังเคลือบด้วยสีแดง วาดลวดลายเป็ดเยวียนยางเอาไว้ด้วยให้ตายเถอะ...ฟู่จาวหนิงพอเห็นฉากเช่นนี้ ก็รู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกขึ้นมานางมองไปทางเซียวหลันยวนด้วยสัญชาตญาณ แต่ก็ไม่เห็นใบหน้าเซียวหลันยวน เพราะหน้ากากของเขายังไม่ปลดลงมาแต่พอเซียวหลันยวนเอ่ยปาก ความยินดีที่น่าพึงพอใจก็หลั่งทะลักออกมา"จัดการได้ไม่เลว ตบรางวัล"สาวใช้เหล่านั้นดีใจกันขึ้นมา ทยอยกันคารวะ "ขอบคุณท่านอ๋อง!"พวกนางได้ยินผู้ดูแลกำชับให้มาจัดการ และท่านผู้เฒ่าตระกูลฟู่ก็เข้ามาพอดี ช่วงเวลาที่คุยกันอยู่ที่โถงหน้าก็ให้พวกนางได้มาจัดการตกแต่งกันคิดไม่ถึงว่าจะได้รางวัลจากท่านอ๋องด้วยหลายปีมาแล้ว นอกจากของขวัญและเงินที่ท่านอ๋องมอบให้กับทุกคนในจวนช่วงปีใหม่แล้ว นี่ถือเป็นครั้งแรกเลยเหล่าสาวใช
"ท่านอ๋องโปรดระงับความโกรธ ช่วงนี้มีคนบางส่วนก่อความวุ่นวาย จงใจยัดคนหลายคนเข้ามาในจวนอ๋อง" โม่เหอเอ่ยรายงานเสียงต่ำกับเซียวหลันยวน "สาวใช้เมื่อครู่ชื่อว่าชิวอวิ๋น เป็นหนึ่งในนั้น พระชายาเยว่ส่งเข้ามา""พระชายาเยว่?""ลูกสาวคนเล็กจากตระกูลเยว่ เข้าวังสามเดือนก็ได้รับความโปรดปราน ช่วงนี้กำลังเป็นที่จับตามอง กระทั่งฮองเฮาเองก็ยังเสียเปรียบให้กับนางเลย"ตระกูลเยว่ เดิมทีเป็นตระกูลขุนพลรบ เพียงแต่ก่อนหน้านี้พ่อลูกของตระกูลเยว่สามคนตายในการรบ เหลือเพียงนายท่านสามเยว่คอยดูแลตระกูล เดิมทีทุกคนคิดว่าจะตกอับไปแล้ว ไม่มีใครสนใจเซียวหลันยวนก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้สนใจตระกูลเยว่แต่ก็คิดไม่ถึงว่าตระกูลเยว่จะสร้างความสำเร็จออกมาได้ด้วยตัวคุณหนูเยว่เพียงคนเดียวสามเดือน ก็เป็นพระชายาแล้ว?เดิมทีเขาไม่อยู่ในเมืองหลวง ก่อนหน้าที่จะไปก็กำชับพวกเขาไว้แล้ว ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่มาเกินไปก็ปล่อยผ่านได้ รอเขากลับมาแล้วค่อยจัดการคิดแล้วการถูกยัดสาวใช้หลายคนเข้ามานี่ก็คือเรื่องเล่านั้นสินะสาวใช้ที่ชื่อชิวอวิ๋นคนนี้ก็ดูไม่นิ่งสักเท่าไร เขาเพิ่งจะกลับมาวันแรกก็คิดจะลงมือทำอะไรเสียแล้วในดวงตาเซียวหลันยวนมี
"แค่รู้สึกว่าพออยู่ในมือเจ้าแล้วมันน่าจะหวานเป็นพิเศษ" เสียงของเซียวหลันยวนขรึมต่ำน่าดึงดูด ฟังแล้วหูคันยุบยิบฟู่จาวหนิงกำลังจะพูดอะไร จู่ๆ ก็รู้สึกหน่วงๆ ที่ท้องน้อยนางตัวแข็งทื่อ ค่อยๆ เงยหน้ามองเซียวหลันยวน ชั่วขณะหนึ่งไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกมาดีนางมองไม่ออกเสียที่ไหน เซียวหลันยวนกำลังเฝ้ารอคืนนี้อย่างเห็นได้ชัด กระทั่งรอมาตลอดทางด้วยซ้ำแต่นางเดิมทีอยากจะหารือกับเขาดีดีก่อน กลับมาหลังเผชิญความยากลำบากมาตลอดทาง ยังไม่รู้ว่าเมืองหลวงตอนนี้สถานการณ์เป็นอย่างไรกันแน่ องค์จักรพรรดิถ้าเผื่อเตรียมแผนมากมายไว้รับมือพวกเขาล่ะ เช่นนั้นหลังจากที่กลับมาพวกเขาคงจะอยู่กันไม่สงบสุขนักภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ เดิมทีก็ยังไม่เหมาะที่จะมีลูกแต่ว่ายุคสมัยนี้มาตรการการคุมกำเนิดยังไม่ดีพอ นางเองก็ยังไม่ได้คิดว่าจะใช้ยาอะไรจากในคลังสกัดยา ดังนั้น ทางที่ดีจึงอย่าเพิ่งหลับนอนกันจะอย่างไรก็ต้องรอสักเดือนนั่นล่ะ?แต่เมื่อครู่พอเห็นท่าทีร้อนรุ่มของเซียวหลันยวน คืนนี้นางคงเลี่ยงไม่พ้นแน่ส่วนถ้าตอนนี้..."มีอะไรหรือ?"เซียวหลันยวนพอเห็นสีหน้าของนางใจก็สั่นกึก ดูแล้วเหมือนจะเกิดอะไรขึ้น"อายวน ข้า