เขาขนาดเกิดความคิดกบฏขึ้นแล้วด้วยซ้ำ คนอื่นยิ่งพูดว่าตระกูลเสิ่นดี เขาก็ยิ่งอยากจะทำลายตระกูลเสิ่นหลายปีนี้เขาคอยสะกดตระกูลเสิ่นเอาไว้ตลอด แต่ตระกูลเสิ่นในช่วงเวลาสำคัญก็มักจะเปลี่ยนจากร้ายกลายเป็นดี เขาเองก็ทำได้แค่ค่อยๆ ไปเป็นขั้นเป็นตอน จัดคนบางส่วนให้ไปแต่งงานดองญาติกับตระกูลเสิ่น คนเหล่านั้นก็ล้วนถูกเขาส่งคนไปล้างสมองก่อนทั้งสิ้น หลังจากกลายเป็นคนตระกูลเสิ่นนานวันเข้าก็คิดจะฉีกความสามัคคีของตระกูลเสิ่นออกจากกันตอนนี้เองก็เริ่มเห็นผลแล้วตอนนี้ถ้าเขายังดึงฟู่จาวหนิงมาอยู่ข้างกายได้อีก เช่นนั้นฟู่จาวหนิงก็น่าจะมีประโยชน์อยู่บ้าง"ให้คนไปตรวจสอบอย่างละเอียด ตรวจสอบความสัมพันธ์ของฟู่จาวหนิงกับเสิ่นเสวียนอย่างละเอียด จากนั้นก็๖รวจสอบว่านางกับอ๋องเจวี้ยนมีความรู้สึกอย่างไรต่อกัน"ถ้ารู้ว่าความสัมพันธ์สามีภรรยาของอ๋องเจวี้ยนเป็นอย่างไร เขาจึงสามารถวางแผ่นขั้นต่อไปได้"ขอรับ""ฝ่าบาท แล้วเรื่องงานอภิเษกขององค์หญิงใหญ่ล่ะ?" ขุนนางบางส่วนถามเรื่องนี้ขึ้นมาอีกองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอายุสิบแปดปีแล้วแม่นางที่อายุสิบแปด ก็ไม่ควรจะต้องมาอยู่ในวังหลังอีกจริงๆ จะถูกคนอื่นเอาไปพูดกันต่างๆ
ซือถูไป๋ตกตะลึงไปแล้วแต่เขาก็เข้าใจขึ้นมาได้ทันทีฟู่จาวหนิงน่าจะเจอกับหมอเจี่ยแล้ว และเห็นเอ็นมังกรหยกแล้วด้วยไม่รู้ว่านางใช้วิธีการไหน จึงทำให้หมอเจี่ยมอบเอ็นมังกรหยกให้นางแต่ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เขาตอนนี้ก็เสียโอกาสที่จะเอาวัตถุดิบยานี้ให้ฟู่จาวหนิงไปแล้วเหมือนจะช้าไปก้าวหนึ่งหรือนี่จะเป็นวาสนาที่มักจะคลาดกันอยู่ตลอดของพวกเขา? ซือถูไป๋รู้สึกขมขื่นในใจ"นี่ เจ้าเด็กน้อย ข้าได้ยินว่าตาแก่หน้าด้านของบ้านเจ้าจะเบีบให้เจ้าเป็นราชบุตรเขยหรือ เจ้ายังไม่รีบไปทำคะแนนต่อหน้าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอีก?"ผู้อาวุโสจี้มองสภาพซือถูไป๋ แล้วก็อดกระทุ้งขึ้นมาคำหนึ่งไม่ได้ดูเหมือนองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก่อนหน้านี้ก็ให้ความสำคัญกับเขาอยู่นะ ยังดูมีโอกาสอยู่ในสมองซือถูไป๋ปรากฏใบหน้าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น แต่ไม่นานก็ถูกใบหน้าฟู่จาวหนิงเข้ามาทับแทนที่ เขาปวดใจเหลือเกินถ้าหากเจอกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก่อน บางทีอาจจะอยู่ในใจเขาไปแล้วแต่ความรักบนโลกมนุษย์ทำไมถึงไม่อยู่ในการควบคุมแบบนี้กัน? หลายวันนี้เขาหาฟู่จาวหนิงไม่เจอ รู้สึกแต่ว่าโลกใบนี้มันว่างเปล่าเสียเหลือเกิน"ผู้อาวุโสจี้" เขาขวางผู้อาวุโสจี้
"เรื่องลุงคนโตของเจ้า ข้าจะจับตาไว้ให้ เจ้าเองก็ยุ่งมากพอแล้ว ฟังลุงเถอะ ออกจากต้าชื่อไปก่อนดีกว่า"เซียวหลันยวนเดินเข้ามา กุมมือฟู่จาวหนิงไว้"หนิงหนิง พวกเราไปสมาคมหมอใหญ่เถอะ"เดิมทีฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าไม่ต้องไปไวนัก แต่ว่าตอนนี้เสิ่นเสวียนวิเคราะห์ให้นางออกไปแล้ว นางก็ทำได้แค่ต้องเชื่อฟัง"เช่นนั้นพวกเขา..."ฟู่จาวหนิงมองไปทางด้านที่พวกฟู่จิ้นเชินอยู่เซียวหลันยวนพูดต่อมาให้ "พวกเขารออีกสามวันได้ หลังจากร่างกายดีขึ้นค่อยออกเดินทาง ข้าทิ้งองครักษ์เงามังกรไว้แล้ว ถึงตอนนั้นจะส่งพวกเขากลับเมืองหลวงแคว้นเจาเอง"แม้ว่าเขาจะเชื่อว่าการวางยาครั้งนั้นไม่เกี่ยวขอ้งกับเสิ่นเชี่ยว แต่ก็ยังไม่อยากร่วมเดินทางกับพวกเขานั่นเป็นพ่อตาแม่ยายเลยนะ ถ้าตลอดทางเอาแต่มาใช้สายตาที่ยากจะอธิบายจ้องมองเขา เขาจะใกล้ชิดกับจาวหนิงอย่างไรกัน?แล้วเขาเองก็ไม่อยากให้ฟู่จาวหนิงคอยดูแลพวกเขาไปตลอดทางด้วยพวกเขาเองก็ไม่เคยเลี้ยงดูนางมาเลยสักวัน ตอนนี้ถือดีอย่างไรให้นางมาคอยดูแลตลอดทาง? เขาเป็นห่วงว่านางเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว"การจัดวางของหลันยวนใช้ได้" เสิ่นเสวียนเองก็เอ่ยขึ้น "ตากับยายของเจ้าก็มาเมืองหลวงจั
"ท่านพ่อ พี่หญิงฟู่บอกว่า เสิ่นเสวียนคือลุงของนาง" เหอเซียนอันจู่ๆ ก็เอ่ยขึ้นกับผิงเหอกงผิงเหอกงใจเต้นขึ้นมา"ไม่ใช่แค่เรียกกันเพราะสนิทหรอกหรือ?""ไม่ใช่ นางบอกกับข้าอย่างตั้งใจเลย เสิ่นเสวียนคือลุงของนาง"เหอเซี่ยนอันพูด หยิบหนังสือเล่มหนึ่งในมือออกมา กลยุทธ์ทางการทหาร ก่อนที่ฟู่จาวหนิงจะออกไปยังพูดคำพูดมาส่วนหนึ่ง ถ้าแต่ก่อนคนอื่นมาพูดอะไรเขาก็ฟังไม่เข้าหูทั้งนั้น แต่ไม่รู้ทำไมสิ่งที่ฟู่จาวหนิงบอกกับเขา เขาฟังเข้าไปจนหมด"นางทำไมถึงมาพูดกับเจ้าเรื่องนี้กัน?" ผิงเหอกงดวงตามีความสงสัยเหอเซี่ยนอันเหลือบมองเขาผาดหนึ่ง ร้องเฮอะขึ้นมา "ท่านอย่าคิดมากเลย ก็แค่ข้าไปถามนางเองเท่านั้น ตอนนั้นข้าพูดกับนาง ว่าแม่ข้าเป็นองค์หญิงใหญ่ พี่สาวขององค์จักรพรรดิ ถ้านางอยากจะอยู่ในต้าชื่อข้าช่วยนางได้ แล้วจะเปิดโรงหมอที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงจักรพรรดิให้ หลังจากนี้กระทั่งองค์จักรพรรดิก็ยังจะกลายเป็นภูเขาที่พึ่งพาสำหรับนาง จะไม่มีใครมาหาเรื่องให้นางต้องลำบากใจ"ผิงเหอกง:แม่ของเจ้าคงได้ขอบคุณเจ้าแน่!เจ้าเด็กโง่คนนี้ องค์จักรพรรดิยังแสดงความเคารพต่อแม่ของเขาที่เป็นพี่สาวคนโตอย่างผิวเผินเท่านั้น เ
รองผู้บัญชาการหลินกับนายท่านหลิวพอเจอหน้ากันก็พูดเรื่องนี้ แต่ว่าพวกเขาสบตากันผาดหนึ่ง ทั้งสองคนก็มองออกถึงความหมายของอีกฝ่ายทันที"ข้าไม่สนใจตัวตนฐานะนาง สรปคือ นางช่วยเหลือลูกชายพวกเราไว้ ก็ต้องยอมรับบุญคุณของนาง""ยิ่งไปกว่านั้นก็ดูด้วยว่าตระกูลเสิ่นต้องการอะไรบ้าง ถึงเวลาก็เข้าไปช่วยเหลือแล้วกัน""ข้าบอกกับพวกพี่เขยน้องสะใภ้เหล่านั้นแล้ว ว่าให้คอยแอบช่วยเหลือบ้านตระกูลเสิ่นด้วย""อืม ข้าทางนี้ก็เตรียมตัวด้วยเหมือนกัน หมอเทวดาฟู่จะออกจากต้าชื่อ แตว่าในเมื่อเรียกเสิ่นเสวียนว่าลุง พวกเราก็ต้องช่วย"ตอนที่องค์จักรพรรดิส่งคนออกตามหาเซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิง คนเหล่านี้ล้วนลอบลงมือ จึงโยนระเบิดควันมาหลายลูก เรียกความสนใจพวกทหารทางการออกไปได้พอดี ยืดเวลาปิดประตูเมืองไปได้หน่อย ดังนั้นจึงทำให้ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนออกจากเมืองไปได้ทันทหารทางการที่องค์จักรพรรดิส่งมาค้นเมืองหลวงจักรพรรดิอยู่จนแทบจะทุกซอกทุกมุม แต่ก็ไม่พบตัวอ๋องเจวี้ยน กระทั่งหมอเทวดาฟู่ที่เพิ่งจะถูกเปิดโปงตัวตนฐานะว่าเป็นพระชายาอ๋องเจวี้ยนก็ยังหาไม่พบสองวันต่อมาถึงมีข่าวยืนยัน แจ้งว่าอ๋องเจวี้ยนกับพระชายาอ๋องเจวี้ย
ฟู่จาวหนิงคิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนจู่ๆ ก็จะถามเช่นนี้"ใช่ไหม?"เซียวหลันยวนเห็นนางไม่ตอบ จึงถามมาอีกครั้ง"ใช่สิ"ฟู่จาวหนิงมองเขาเหมือนจะใส่ใจกับคำตอบนี้มาก จึงพยักหน้าให้อย่างจริงใจนางยังไม่เคยเห็นหน้าตาของเซียวหลันยวนตอนที่สมบูรณ์เลย แต่ตอนนี้เหลืออยู่แค่แผลเป็นพิษเล็กๆ เท่านั้น หลักๆ คือมองออกแล้วเขามีคิ้วเข้ม สั่นจมูกโด่งราวมีด ริมฝีปากสวยงาม ใบหน้าเรียบเนียนคมชัด ดวงตาลึกซึ้ง ราวกับฟ้าราตรีประดับด้วยแสงดาวใบหน้าเซียวหลันยวนนั้นยอดเยี่ยมจริงๆ ยิ่งไปกว่นั้นยังเป็นแบบที่นางชอบด้วยรูปตาจมูกริมฝีปากของเขา และยังคางที่ทั้งแข็งแกร่งอ่อนโยนนั่นก็ตรงกับเสปกของนางพอดี เป็นแบบที่นางชอบมากที่สุดฟู่จาวหนิงกระทั่งรู้สึกว่า ตนเองตอนแรกแม้จะไปขอแต่งงานกับเขาเพราะตัวตนฐานะ แต่ต่อมาก็ยืนหยัดได้เพราะหน้าตาของเขาจริงๆไม่เช่นนั้นพวกเขาที่ยังมีความสัมพันธ์แบบคู่แค้นเช่นนี้ นางคงจะหาวิธีการปลีกตัวออกจากเขานานแล้วถึงจะถูก"ท่านเป็นแบบที่ข้าชอบมากที่สุด"เซียวหลันยวนมองนางนิ่ง แสงดาวในดวงตาราวกับทำให้ใจของคนอุ่นวาบขึ้นมาฟู่จาวหนิงแทบจะจมลงไปในดวงตาของเขาแต่นางชะงักไปครู่หนึ่ง ทำตัว
เซียวหลันยวนรู้สึกจำใจเหลือเกินวันคืนเหล่านั้นในเมืองหลวงจักรพรรดิ วันไหนบ้างที่นางไม่ยุ่งจนเท้าแทบไม่แตะพื้น? ในสถานการณ์เช่นนั้นเขาจะไปทรมานนางอีกได้อย่างไร?หลังจากออกจากเมืองหลวง เขาก็พบปัญหานี้อีก พวกเขาต้องอยู่บนเส้นทางตลอดต่อให้ไปถึงเมืองจี้ ก็ญังต้องพักในโรงเตี๊ยมครั้งแรกของเขากับจาวหนิง ต้องไม่ใช่แบบนี้"ท่านอาจารย์บอกว่า ที่เมืองจี้มีสาขาของพันธมิตรโอสถใต้หล้า ถึงตอนนั้นพกวเราไปพักที่พันธมิตรโอสถได้"ฟู่จาวหนิงมองเขา ในดวงตาเผยประกายยิ้ม"นั่นก็ยังเป็นสถานที่ของคนอื่น ไม่สะดวกเอาเสียเลย แล้วยังไม่ยุติธรรมกับเจ้าด้วย"เซียวหลันยวนอยากให้ครั้งแรกของพวกเขาอยู่ที่บ้านตนเอง อยู่บนเตียงไม้ที่กว้างหน่อย บนผ้าห่มสีแดง มีเทียนแดงมงคลไม่มีคนมารบกวน สามารถหวานชื่นกันได้อย่างสุดอารมณ์นิสัยประหลาดนี้ของเขา ฟู่จาวหนิงก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว"เช่นนั้นท่านก็ทนเอาหน่อยแล้วกัน"ฟู่จาวหนิงผละออกจากตัวเขานั่งขึ้นมา หยิบผ้าชุบน้ำมาเช็ดมือเซียวหลันยวนเข้ามาหา จูบลงไปที่ต้นคอของนางระหว่างทั้งสองคนพอไม่มีเรื่องที่เสิ่นเชี่ยววางยาในครั้งนั้น ความสัมพันธ์ก็ใกล้ชิดกันมากขึ้นพอควร ก่อนหน
"ศิษย์พี่รองของเจ้าไม่ติดใจหรอก" ผู้อาวุโสจี้โบกไม้โบกมือไม่ใส่ใจต่งฮ่วนจือหัวเราะขึ้นมา คารวะให้กับฟู่จาวหนิง ดูแล้วก็ไม่ได้ติดใจอะไรจริงๆ"ศิษย์น้องหญิง ได้ยินคำเล่าลือมาตลอด เพิ่งได้มาพบหน้ากัน ท่านอาจารย์ปีที่แล้วเขียนจดหมายหาพวกเรา บนจดหมายมีแต่คำชมตัวเจ้า วันนี้พอได้เห็น ก็รู้สึกว่าท่านอาจารย์ไม่ได้พูดเกินจริงเลย""คารวะศิษย์พี่รอง ข้าเองก็ยังรู้จักวัตถุดิบยาไม่เยอะเท่าไรนัก ช่วงนี้คงต้องศึกษาจากศิษย์พี่รองให้มาก ถึงตอนนั้นศิษย์พี่รองอย่าได้รำคาญตัวข้าเลย"ฟู่จาวหนิงไม่พูดถึงวิชาแพทย์ของนาง วิชาแพทย์ของนางถือว่าไม่เลวนักแต่ถ้าพูดถึงวัตถุดิบยา นางยังไม่รู้จักอีกมากจริงๆถึงอย่างไรตอนนี้ก็มีวัตถุดิบยามากมายที่ในยุคสมัยนั้นของนางไม่มีทางได้พบเห็น"เจ้าถามเขาเอาก็พอ"ผู้อาวุโสจี้ยื่นมือมาตบไหล่ต่งฮ่วนจือ"ใช่ ศิษย์น้องหญิงมาถามข้าได้ตลอดเลยนะ ข้าจะตอบให้ทุกอย่างที่ข้ารู้""เอาล่ะเอาล่ะ พวกเขาเดินทางมาเหนื่อยแล้ว ให้พวกเขาไปพักผ่อนกันก่อน"ต่งฮ่วนจือมองไปทางเซียวหลันยวนที่ตามอยู่ด้านหลังฟู่จาวหนิงมาตลอดเซียวหลันยวนสวมหน้ากากอยู่"อ๋องเจวี้ยน?"หืม?ฟู่จาวหนิงมองต่งฮ่