เสิ่นเชี่ยวกำลังเล่าเรื่องในตอนนั้นคนในห้องก็ล้วนนิ่งงันไม่ขัดนาง เพราะนางน่าจะกำลังคิดไปด้วยพูดออกมาด้วย"ภายหลังข้าจึงออกมา แต่ก็ไม่รู้เพราะอะไร หลังจากนั้นสมองของข้าก็มึนๆ งงๆ แล้วยังเวียนหัวด้วย ข้าก่อนหน้านี้บางครั้งก็มีอาการแบบนี้ ดังนั้นจึงไม่คิดจะอยู่ต่อแล้ว เดี๋ยวจะทำอะไรพลาดขึ้นตอนอยู่ในงานเลี้ยง""ข้าตอนนั้น" เสิ่นเชี่ยวดวงตาดูว่างเปล่า "ตอนนั้นข้าไปหาสาวใช้วัง บอกว่าจะออกจากวังก่อน แต่สาวใช้วังบอกว่าไม่ได้ ตอนนั้นยังไม่มีใครออกไป ไม่สามารถส่งข้าออกไปตามลำพังได้ จึงชี้ไปที่ตำหนักข้างแห่งหนึ่ง บอกว่าถ้ารู้สึกแย่จริงๆ ก็ไปพักผ่อนที่นั่นได้"พวกเขารู้ ว่าเสิ่นเชี่ยวใกล้จะพูดถึงจุดสำคัญแล้ว"ข้าตอนนั้นก็ไร้เดียงสา ไม่รู้สึกสงสัยอะไรเลย กระทั่งรู้สึกว่า ข้าอยู่ที่นั่นตัวตนฐานะนั้นต่ำต้อยที่สุด คนอื่นต่อให้คิดจะทำร้าย ก็คงไม่มาถึงข้าหรอก เพราะข้าเองก็แค่คนธรรมดา ไม่ใช่คนสูงศักดิ์อะไร ไม่ว่าจะเป็นใคร แค่ยื่นนิ้วออกมาส่งๆ นิ้วหนึ่งก็บี้ข้าตายได้แล้ว"เสิ่นเชี่ยวตอนนั้นคิดเช่นนั้นจริงๆและเพราะสามีของนางไปช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิไว้โดยบังเอิญ ได้รับโอกาสให้มาอยู่เบื้องหน้าพระพั
ความทรงจำก่อนหน้านี้บอกนาง ว่าฟู่จาวหนิงเป็นหมอเทวดา แต่ตอนนี้พอสัมผัสได้ถึงวิชาแพทย์ของนางอย่างแท้จริง เสิ่นเชี่ยวก็อารมณ์ซับซ้อนขึ้นมา แต่ที่แจ่มชัดที่สุดคือความภาคภูมิใจนี่คือลูกสาวของนาง นางภาคภูมิใจมากจริงๆ ภูมิใจเอามากๆแต่ก็ไม่รู้ว่าฟู่จาวหนิงต้องเจอเรื่องลำบากมาแค่ไหน ถึงได้กลายมาเป็นหมอตั้งแต่อายุยังน้อยแค่นี้ นางรู้สึกสะอื้นที่จมูกขึ้นมาอีกแล้วฟู่จิ้นเชินพอเห็นภรรยาผ่อนคลายลงมา ก็รู้สึกอาการปวดหัวของนางน่าจะบรรเทาลงแล้วเขาจึงพูดต่อว่า "ความทรงจำในงานเลี้ยงของฮูหยินมีถึงแค่นี้ ตอนที่นางตื่นมาอีกที ก็เห็นว่าตนเองถือชามยาพิษนั่นไว้แล้ว ยืนอยู่ข้างเตียงอ๋องเจวี้ยนที่ยังเล็ก คนมากมายหลั่งไหลเข้ามามองนาง คนทั้งหมดพูดกันว่านางกรอกยาพิษใส่อ๋องเจวี้ยน ไม่มีใครให้โอกาสนางได้อธิบายเลย"น้ำตาเสิ่นเชี่ยวไหลลงมาอีกครั้ง"ข้าคิดไม่ออกจริงๆ ว่าตอนนั้นตัวเองไปอยู่ที่นั่นตอนไหน แต่ว่า ข้าไม่น่าจะใช้คนที่ทำร้ายใต้ฝ่าพระบาท""และเพราะนางก็อธิบายอะไรไม่ได้ ดังนั้นจึงถูกคุมตัวเข้าไปในคุกใหญ่ หลังจากข้ารู้เรื่องนี้ จึงไปขอร้ององค์รัชทายาท ให้ขอเวลาข้าหน่อย ให้ข้าได้ตรวจสอบความจริง องค์จัก
ความคิดนี้เด็ดขาดมากเสิ่นเสวียนรู้สึกต้องมองฟู่จิ้นเชินใหม่เสียแล้ว"ตอนนั้นองค์จักรพรรดิยังทรงมีเมตตามาก ดังนั้นข้าจึงกล้าเสี่ยงเช่นนี้ ยังดีที่ปกติข้ารู้จักคนอยู่ไม่น้อย พวกเขาตอนนั้นเองก็ยินดีจะช่วยเหลือ พวกเราทิ้งเงินเอาไว้ให้ที่บ้าน แล้วยังให้คนส่งจดหมายให้ จากนั้นจึงหลบหนีออกจากเมืองหลวง"พูดถึงจุดนี้ พวกของฟู่จาวหนิงก็พอจะรู้เรื่องราวในตอนนั้นคร่าวๆ แล้วแต่ที่ฟู่จาวหนิงยังไม่ค่อยเข้าใจก็คือ..."พวกท่านทิ้งเงินไว้เท่าไรหรือ? ส่งจดหมายอะไรไว้?"พอได้ยินนางถามเช่นนี้ ฟู่จิ้นเชินก็หน้าเปลี่ยนสีทันทีเขาเองก็ฉลาดมาก เข้าใจขึ้นมาทันควัน "พวกเจ้าไม่ได้รับเงินและก็ไม่ได้รับจดหมายด้วยอย่างนั้นหรือ?""ไม่มีเลย"ฟู่จาวหนิงส่ายหัว สีหน้าเย็นวาบลงมาถ้าตอนนั้นพวกเขามีเงินอยู่บ้าง ท่านปู่คงไม่ต้องลำบากขนาดนี้ แล้วถ้ามีจดหมาย ท่านปู่เองก็คงไม่ต้องรู้สึกเหมือนฟ้าถล่มลงมาเช่นนี้ด้วย ไม่รู้เลยว่าพวกเขาไปไหน เป็นตายร้ายดีอย่างไรหลายปีมานี้ ในใจก็เหมือนแขวนห้อยไว้กลางอากาศ"ตอนนั้นก่อนที่จะไป ข้าจะอย่างไรก็ต้องดูแลท่านพ่อกับลูกสาว ดังนั้นรางวัลที่ได้มาในตอนนั้นจึงนำไปจำนำเป็นเงินหมด
เสิ่นเชี่ยวถลึงตาค้างชั่วขณะหนึ่ง บรรยากาศในห้องก็ตึงเครียดขึ้นมาแม้ฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวจะรู้สึกว่าตนเองในอดีตจะถูกใส่ร้าย แต่ไม่ว่าอย่างไร เรื่องในตอนนั้นก็ส่งผลกระทบร้ายแรงที่ย้อนกลับไปแก้ไขไม่ได้อ๋องเจวี้ยนหลายปีนี้มีสุขภาพย่ำแยมาตลอด ยังถูกพูดไว้ว่าจะอายุไม่ถึงสามสิบอีกด้วยสิ่งเหล่านี้ พวกของฟู่จิ้นเชินต่อมานั้นรู้อยู่ แค่ความทรงจำถูกทำให้สับสนเท่านั้น ตอนนี้ล้วนนึกออกหมดแล้วและพวกเขาที่ต้องทิ้งบ้านเกิดเมืองนอน ทอดทิ้งครอบครัว ระหกระเหินมาหลายปี แทบเอาตัวไม่รอดไม่ว่าอย่างไร ระหว่างพวกเขาก็ถูกคั่นไว้ด้วยเหวลึกที่มิอาจข้ามไปได้อยู่แต่ว่าตอนนี้เซียวหลันยวนกับฟู่จาวหนิงเป็นสามีภรรยากันแล้ว!ฟู่จิ้นเชินหลังจากตกตะลึงก็คิดจะลงจากเตียงทันทีเขาประสานสายตากับเซียวหลันยวน ยื่นมามาขวางไว้ตรงหน้าฟู่จาวหนิง"อ๋องเจวี้ยน ถ้าท่านเกลียดชังพวกเรา ก็นำความโกรธมาลงที่พวกเราเสีย จาวหนิงตอนนั้นยังเป็นเพียงเด็กน้อย นางไม่รู้อะไรทั้งนั้น เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับนาง"ฟู่จาวหนิงมองแขนที่มาขวางอยู่ตรงหน้าตนเอง พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะหนึ่งสภาพเขาแบบนี้ ยังคิดจะปกป้องนางอีกหรือ?"ข้
ฟู่จาวหนิงเห็นมือของเซียวหลันยวนยื่นเข้ามา เดินตรงไปหาเขา"จาวหนิง..."เสิ่นเชี่ยวคิดจะดึงนางไว้ สีหน้ากังวลเศร้าสลดแต่ฟู่จิ้นเชินก็กลับมากุมมือนางไว้ ส่ายหัวให้นาง"ก่อนหน้าพวกเรา อ๋องเจวี้ยนก็อยู่ด้วยกันกับจาวหนิงแล้ว" ฟู่จิ้นเชินเตือนเสิ่นเชี่ยวขึ้นเสียงต่ำพวกเขาแม้จะเป็นห่วง แต่พอเห็นฟู่จาวหนิงเดินไปหาอ๋องเจวี้ยนอย่างไม่ลังเล เขาเองก็เข้าใจความจริงแล้วช่วงเวลาที่ฟู่จาวหนิงอยู่กับอ๋องเจวี้ยนนั้นยาวนานกว่าเวลาที่อยู่กับพวกเขามากนักระหว่างพวกเขา ก็ควรจะยิ่งเข้าใจได้สำหรับฟู่จาวหนิง พวกเขาตอนนี้ต่างหากที่เป็นคนแปลกหน้าแม้ในใจจะเศร้าโศก แต่ฟู่จิ้นเชินก็เข้าใจขึ้นมาจุดหนึ่ง ตอนนี้พกวเขาไม่มีคุณสมบัติที่จะไปชี้นกชี้ไม้กับฟู่จาวหนิง แต่ก็ยังต้องสังเกตอย่างละเอียดว่าเป้าหมายที่อ๋องเจวี้ยนแต่งงานกับฟู่จาวหนิงคืออะไรถ้าหากเขามีเป้าหมายที่ไม่ดี เช่นนั้นไม่ว่าอย่างไรเขาก็จะเข้าไปสกัดห้ามให้ได้ฟู่จาวหนิงเดินมาอยู่ข้างกายเซียวหลันยวน วางมือไว้บนฝ่ามือเขาเซียวหลันยวนกำมือของนางแน่น จากนั้นก็มองไปทางฟู่จิ้นเชินและเสิ่นเชี่ยว"ท่านตรวจสอบมาได้ไม่น้อยเลย""ข้าได้ยินว่าหลายปีนี้
เสิ่นเสวียนฟังถึงตรงนี้จึงเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ "ดูท่า ช่วงสิบกว่าปีนี้พวกท่านเองก็ตรวจสอบมาได้ไม่น้อยเลย"พวกเขาไม่รู้เรื่องภายในเหล่านี้ แต่มาได้ยินจากฟู่จิ้นเชินเสียอย่างนั้นฟู่จิ้นเชินมองเขา"พวกเราก็น่าจะเพราะสำรวจมาถึงจุดนี้ จึงถูกคนของลัทธิเทพทำลายล้างไล่สังหารเอา เจ้าลัทธิเทพทำลายล้างคนนั้นก็ยังไม่นานด้วย เป็นไปได้มากว่าความคิดที่จะหาเจ้าลัทธิคนใหม่ยังไม่หายไปไหน พวกเขาไม่มีทางให้พวกเราเอาเรื่องพูดออกไปแน่นอน ดังนั้นจึงทำทุกวิถีทางเพื่อสกัดพวกเรา""แล้วทำไมพวกเขาถึงยังไม่เอาชีวิตพวกท่าน แค่ทำให้พวกท่านความทรงจำสับสนแค่นี้หรือ?" เซียวหลันยวนถามฟู่จิ้นเชินยิ้มขืนเสิ่นเชี่ยวตอนนี้ก็พูดแทนเขาขึ้นมาอย่างทนไม่ไหว"พวกเขาคิดจะเอาชีวิตพวกเรามาตลอด ไม่ใช่แค่คนของลัทธิเทพทำลายล้าง แต่ยังมีคนจากแคว้นเจาด้วย หลายปีมานี้พวกเราหลบนั่นทีนี่ที โชคดีที่สามีข้าฉลาด สามารถสลัดการล่าสังหารของพวกเขาได้ตลอด เรื่องร้ายจึงกลายเป็นดีได้"ถ้าหากไม่ใช่เพราะฟู่จิ้นเชินฉลาดสุขุมล่ะก็ พวกเขาคงตายไปไม่รู้ตั้งแต่กี่ปีก่อนแล้วแต่แม้จะรักษาชีวิตไว้ได้ แต่ก็ยังถูกวางแผนใส่หลายต่อหลายครั้งอยู่ พวกเขาทั้
"คุณ พวกเรา พวกเรายังไม่ได้พูดถึงเฟยเอ๋อร์เลย..."เสิ่นเชี่ยวกุมมือเขาแน่นขึ้นไปอีก สั่นเทิ่มขึ้นมาทั้งตัว ในใจเหมือนถูกมือข้างหนึ่งบีบเอาไว้ เจ็บปวดจนแทบไม่ไหวชีวิตของพวกเขา ลืมลูกสาวไปคนหนึ่ง แล้วยังทำลูกชายอีกคนหนึ่งหายไปลูกสาวยังไม่รู้ว่ามีน้องชายอีกคนหนึ่ง"ข้า ข้าเมื่อครู่ไม่กล้าพูด พวกเราเพิ่งเจอกับลูกสาว ถ้าหากบอกนางไป ว่านางยังมีน้องชายอีกคน นางจะเสียใจไหม?""นาง..."ฟู่จิ้นเชินคิดถึงคำพูดที่ฟู่จาวหนิงพูดกับเขามาก่อนหน้านี้ ถอนหายใจ "นางน่าจะรู้แล้ว"เขาตอนนั้นยังไม่รู้ว่านี่คือลูกสาวของเขา จึงเคยพูดเรื่องเฟยเอ๋อร์ไปแล้วว่าเป็นอย่างไร ตอนนี้ฟู่จาวหนิงคงจะรู้แล้วแน่ๆ"นาง นางรู้หรือ?"เสิ่นเชี่ยวตกตะลึงฟู่จิ้นเชินยื่นมือมาตบลงบนหลังมือนาง "ฮูหยิน เจ้าตอนนี้พูดเรื่องเฟยเอ๋อร์ได้แล้วหรือ?"จะไม่อาการกำเริบแล้วใช่ไหม?เสิ่นเชี่ยวงงงันไปครู่หนึ่ง "ใช่..."ทั้งปวดใจ อยากจะหาตัวเฟยเอ๋อร์ แต่นางก็เหมือนจะไม่มีอาการกำเริบแล้ว"ลูกสาวของพวกเรา วิชาแพทย์ยอดเยี่ยมมาก" ฟู่จิ้นเชินถอนหายใจยาวอีกครั้ง เขารู้สึกภูมิใจ แต่ก็เสียใจมากด้วย เพราะหลายปีนี้จาวหนิงจะต้องเจอเรื่องลำบ
ในช่วงยาวนานที่ผ่านมา เรื่องนี้พาดอยู่ระระหว่างพวกเขา ทำให้ส่วนลึกของความรู้สึกพวกเขากลับเหมือนมีกำแพงมากั้นกันไว้ จะอย่างไรก็ไม่อาจใกล้ชิดกันได้เลยตอนนี้เซียวหลันยวนพูดมาเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็พลิกกุมมือเขาทันทีทั้งสองคนมองอีกฝ่าย ในดวงตาสะท้อนหน้าตาของอีกฝ่ายออกมา"แฮ่ม" เสิ่นเสวียนกระแอมขึ้นมาเสียงหนึ่งสนใจเขาหน่อยก็ดีนะเขายังอยู่ที่นี่นา สายตาที่พวกเขาสบกันแทบจะเหนียวจนยืดเป็นเส้นอยู่แล้วฟู่จาวหนิงหน้าร้อนผะผ่าว มองไปทางเขา"ท่านลุง ท่านคิดว่าอย่างไรล่ะ?"เสิ่นเสวียนพยักหน้า "ไม่น่าใช่นางที่วางยา พวกเขาไม่รู้ว่าพบเรื่องนี้หรือเปล่า เสิ่นเชี่ยวแม้จะไม่ใช่คนถนัดซ้าย แต่ว่าพอนางใช้ช้อน กลับใช้มือซ้ายขึ้นมา""อ๋า?""อื๋อ?"ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนตะลึงงันไปเสิ่นเสวียนหัวเราะ "เพราะนางเป็นน้องสาวข้า การสังเกตของข้าส่วนใหญ่เลยอยู่บนตัวนาง ก่อนหน้านี้ข้าเองก็เคยมองพวกเขากินข้าวอยู่"แล้วยังมองอยู่นอกหน้าต่างตั้งนานสองนาน"เย็นวันนั้นตอนที่ข้ากับหลันยวนกำลังคุยกันเรื่องนี้ เขาตรวจสอบเรื่องในปีนั้นไว้ละเอียดมาก กระทั่งยังจัดวางคนในจำนวนที่เท่ากันที่ห้องตำหนักนั้นเพื่อดูสถา