"ช่วยกลับมาได้แล้ว จัดคนเฝ้าเขาไว้ก็พอ อย่าเพิ่งขยับตัวเขา มีเรื่องอะไรตะโกนเรียกข้า"ฟู่จาวหนิงพูดประโยคนี้เสร็จก็ปิดประตูทันที"หมอเทวดาฟู่ ท่านต้องช่วยต๋าเอ๋อร์ของพวกเราให้ได้นะ!"พวกของฮูหยินหลินใหญ่ทั้งสองคนล้วนคุกเข่าร้องไห้อยู่บนพื้น เหล่าสาวใช้ประคองขึ้นมาไม่ได้พวกนางตอนนี้ร่างกายอ่อนไปหมด"ลูกชายข้าช่วยกลับมาได้แล้วจริงหรือ? อ๊า!"นายท่านหลิวไม่สนใจพวกเขาอีก หลังจากได้ยินประโยคนี้ของฟู่จาวหนิงก็ร้องอ๊าพุ่งไปยังห้องของลูกชายทันทีคนรับใช้เองก็ร้องไห้วิ่งตามไปพวกเขาตรงไปข้างเตียง แค่เหลือบมองก็เห็นสีหน้าของหลิวเกาไหลแล้ว"นายท่าน สีหน้าของคุณชายมีสีเลือดแล้ว?" คนรับใช้ถามเสียงสั่นนายท่านหลิวไม่ตอบ ยื่นนิ้วอันสั่นเทาออกไปวัดลมหายใจของลูกชายก่อนหน้านี้วัดลมหายใจของหลิวเกาไหลไม่ได้เลย แม้เขาจะไม่อาจยอมรับความจริงนี้ แต่ตอนที่ผู้ดูแลเขามาถามว่าต้องเตรียมจัดงานศพเลยไหม เขาก็ทำได้แค่พยักหน้าทั้งน้ำตาทั้งจวนหลิวล้วนเตรียมจะจัดงานศพให้กับหลิวเกาไหลแล้วแต่ว่าตอนนี้...ลมหายใจอุ่นร้อน รดลงมาบนนิ้วของนายท่านหลิวนิ้วของนายท่านหลิวสั่นอย่างรุนแรง แต่ก็ยังไม่กล้าจะเชื่อ
"ลูกข้า ลูกชายข้าเขารอดกลับมาแล้ว!" นายท่านหลิวพุ่งออกมาจากในห้อง แทบจะโถมเข้าไปบนตัวผิงเหอกงผิงเหอกงรีบประคองตัวเขา"นายท่านหลิวอย่าเพิ่งตื่นเต้น"อายุตั้งขนาดนี้แล้ว เมื่อครู่คิดจะกระโดดเข้ามาบนตัวเขาอีก ทำเอากระดูกกระเดี้ยวเขากรีดร้องเลยทีเดียว"นายท่านหลิว เกาไหลของบ้านท่านรอดชีวิตแล้วจริงหรือ?" แม่สามีลูกสะใภ้ตระกูลหลินจ้องเขาตาแป๋ว"จริงสิ จริงสิ! ก่อนหน้านนี้ข้าจะให้ผู้ดูแลเอาโคมขาวไปแขวนแล้วด้วยซ้ำ เพราะลูกของข้าเหมือนไม่มีลมหายใจไปแล้ว"นายท่านหลิวปาดน้ำตาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นความตื่นเต้นแทน "ทว่าตอนนี้เขามีลมหายใจขึ้นแล้วจริงๆ มีชีวิตกลับมาแล้วจริงๆ ถึงแม้จะยังไม่ตื่น แต่ว่าข้าเมื่อครู่เพิ่งเห็นหน้าอกเขาพองยุบขึ้นมาแล้ว เขารอดแล้ว!""อามิตตาพุท พระเจ้าคุ้มครองแล้วจริงๆ"ฮูหยินหลินใหญ่กราบไหว้ไปบนฟ้า น้ำตาร่วงผล็อย มองไปทางประตูห้องข้างที่ปิดสนิทนายท่านหลิวเองก็มองไป"หมอเทวดาฟู่จะต้องช่วยหลินต๋ากลับมาได้แน่!"ลูกชายของพวกเขาตอนสามสี่ขวบมักจะมาเล่นอยู่ด้วยกัน ดังนั้นนายท่านเหล่านี้จึงค่อนข้างสนิทกันตอนนี้นายท่านหลิวเองก็หวังว่าหลินต๋าจะรอดกลับมาฟู่จาวหนิงไม
นี่ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ตอนที่พิษคงค้างยังไม่ถูกกำจัด ถ้าเขามารอข้างนอกครึ่งชั่วยามในอากาศเช่นนี้คงกลายเป็นเหมือนก้อนน้ำแข็งไปแล้ว ต่อให้กระตุ้นกำลังภายในก็แทบไม่มีประโยชน์แต่ก่อนเขาล้วนระวังสิ่งเหล่านี้ คอยเฝ้ารออยู่ด้านนอกไม่ได้นานนักทว่าตอนนี้เขากระทั่งไม่รู้สึกหนาวด้วยซ้ำ เพราะกำลังภายในที่ลึกล้ำแสดงบทบาทออกมาได้เต็มที่เซียวหลันยวนในที่สุดก็รู้สึกถึงประโยชน์ตอนที่มือของตนเองยังอบอุ่นได้ในช่วงเวลาที่หนาวเย็นเสียที"นายท่าน ข้าทำไมถึงไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวอะไรเลย? พระชายารักษาคุณชายตระกูลหลินอย่างไรกันแน่?"ชิงอีเองก็อดทนมาหนึ่งชั่วยามแล้วก่อนหน้านี้ตอนที่เขาไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวยังคิดว่าฟู่จาวหนิงอาจจะกำลังฝังเข็มมือของนางเบามาก ตอนที่ตั้งสมาธิกลิ่นอายอาจจะเบาบาง ด้วยกำลังภายในของเขาจะไม่ได้ยินก็ไม่แปลกแต่นี่ก็ผ่านไปนานแล้ว ในห้องกลับไม่มีการเคลื่อนไหวใดเลย นี่มันแปลกมากแต่ว่า ชิงอีเองก็แค่รู้สึกอยากรู้อยากเห็นว่าฟู่จาวหนิงช่วยชีวิตคนอย่างไรกัน"เจ้าอยากจะเรียนวิชาแพทย์หรือ?"เซียวหลันยวนเหลือบมองเขา"อ๋า ไม่ใช่ขอรับ" เขามีพรสวรรค์นั้นที่ไหน"ในเมื่อไม่คิดจะเรียนว
ณ เมืองหลวง แคว้นเจาบนถนนที่คึกคักหญิงสาวที่สวมชุดงดงามนางหนึ่งกำลังนำทหารหลายคนของนางไปดักขบวนแห่เจ้าสาวขบวนหนึ่งอย่างดุดัน“หลีกไป นี่คือคุณหนูใหญ่จากตระกูลของหมอเทวดาหลี่ หากว่าพวกเจ้าทำให้คุณหนูไม่พอใจระวังจะเดือดร้อน!” ผู้คนที่กำลังเดินอยู่บนถนนต่างพากันรีบหลีกทางให้ในทันที ด้วยกลัวว่าจะถูกลูกหลง เหล่าชาวเมืองมองไปที่ขบวนแห่เจ้าสาวที่ถูกตกแต่งด้วยความรู้สึกเห็นใจ “นี่เจ้าสาวจากตระกูลไหนกันเนี่ย? ไปทำอะไรให้คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ขัดใจกัน?”“เจ้าไม่รู้หรือ? วันนี้เป็นวันแต่งงานของรัชทายาทเซียวกับคุณหนูตระกูลฟู่ คนที่นั่งอยู่ในเกี้ยวเจ้าสาวนั่นก็ต้องเป็นคุณหนูฟู่นั่นแหละ”โครม เกี้ยวเจ้าสาวถูกทหารของตระกูลหลี่ใช้กำลังบังคับให้หยุดลง หลังจากที่เกี้ยวเจ้าสาวเกิดการสั่นไหวอย่างรุนแรง ก็ได้ยินเสียงตุ๊บดังออกมา คล้ายจะเป็นเสียงของศีรษะที่กระแทกอะไรสักอย่าง“ไปเอาตัวฟู่จาวหนิงมา! แล้วก็ไปถอดชุดเจ้าสาวของนางทิ้งซะ!”คุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ชี้นิ้วไปยังเกี้ยวเจ้าสาวก่อนจะสั่งออกมาอย่างวางอำนาจ ทันใดนั้นทหารรับใช้ก็วิ่งไปแล้วยื่นมือไปเปิดม่านบังเกี้ยวเจ้าสาวทันทียายเฒ่าผู้ดูแลพิธีที่ยืนอยู่ด้านข้
สมองจาวหนิงผุดภาพร่างกายที่อ่อนแอของผู้เฒ่าฟู่ขึ้นมาฟู่จาวหนิงกับรัชทายาทเซียวเดิมทีมีการหมั้นหมายอยู่ สุขภาพผู้เฒ่าฟู่เองก็ย่ำแย่ลงทุกวัน ความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือสามารถเห็นหลานสาวแต่งเข้าจวนตระกูลเซียวได้อย่างราบรื่น ได้มีที่พึ่งพิงในภายภาคหน้า แต่ตระกูลเซียวก็ไม่ยอมเอ่ยเรื่องงานมงคลเสียทีช่วงนี้อาการป่วยของผุ้เฒ่าฟู่ก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว เขาเป็นลมหมดสติอยู่บ่อยครั้ง พอตื่นขึ้นมาก็จะคว้ามือของนางและกังวลเรื่องงานแต่ง ฟู่จาวหนิงก็ร้อนรน ดังนั้นแต่ละวันจึงเอาแต่เซ้าซี้รัชทายาทเซียว หลังถูกปฏิเสธมาหลายครั้ง นางจึงหยิบยกเอาคุณงามความดีที่บิดามารดาของนางเคยช่วยชีวิตองค์รัชทายาทไว้ออกมาให้องค์จักรพรรดิประทานจัดงานแต่งงานให้รัชทายาทเซียวก็ถูกบีบจนต้องจำใจยอมรับการแต่งงานกับฟู่จาวหนิงเซียวเหยียนจิ่งเองก็เป็นบุรุษรูปงามอันดับต้นๆ ในเมืองหลวงจริงๆ คิ้วกระบี่ดวงตาดอกท้อ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากเชิด รูปหน้ายอดเยี่ยม ร่างสูงโปร่ง เสื้อคลุมสักหลาดพอดีตัวดูสูงส่ง ขับเน้นร่างของเขาออกมาจนตัวดูเป็นคนแต่นิสัยเป็นสุนัขเสียอย่างนั้นไม่แปลกที่หลี่จื่อเหยาหลงใหลเขามาตลอดพอคิดถึงสถาน
เสียงโครมดังขึ้น เซียวเหยียนจิ่งรู้สึกว่าเลือดถูกต้มจนเดือดปุดขึ้นมาถึงกระหม่อม"ฟู่!จาว!หนิง!"เขากัดฟันเอ่ยชื่อฟู่จาวหนิงออกมาทีละคำๆนางกล้าดีอย่างไร จึงกล้ามาหยามหมิ่นเขาเช่นนี้?ชาวบ้านรอบๆ ก็ล้วนตาโตพูดไม่ออกกันหมด จากนั้นจึงมองพวกเขาทั้งสองและพยักหน้าเห็นด้วยแบบไม่รู้ตัว พวกเขารู้สึกว่าสิ่งที่คุณหนูฟู่พูดออกมานั้นถูกต้องเซียวเหยียนจิ่งจ้องนางอย่างเกลียดชัง "ฟู่จาวหนิง เจ้าอย่ามาเสียใจภายหลังแล้วกัน! ข้าตอนนี้จะคอยดู ว่าเจ้าจะไสหัวกลับไปอย่างไร! เจ้าอย่าลืมว่าปู่ของเจ้า ตอนนี้เขาก็เหมือนจะเหลือแค่ลมหายใจเฮือกสุดท้ายแล้วสินะ เจ้าเชื่อไหมว่าพอเจ้าเหยียบเข้าประตูจวนไปและเขารู้ว่าเจ้าถูกถอนหมั้น เขาคงขาดใจตายทันทีแน่?"ฟู่จาวหนิงจ้องเขาตาลุกโชนเซียวเหยียนจิ่งเจ้าผู้ชายขยะ ป่านนี้แล้วยังจะมาคุกคามนางอีก!แต่ฟู่จาวหนิงก็รู้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นไม่ผิดเลย ผู้เฒ่าฟู่เวลานี้คงทนรับเรื่องแรงๆ ไม่ไหวเซียวเหยียนจิ่งพอเห็นนางไม่โต้กลับ ก็หัวเราะเสียงเย็นขึ้นมา "แล้วก็ที่เจ้าหยามหมิ่นรัชทายาทอย่างข้าวันนี้ ข้าจดจำไว้หมดแล้ว เจ้าอย่าได้หวังว่าจะหาสามีได้อีก"เขาจะคอยดูว่าตระกูลไหนจะก
"จวนอ๋องเซียว?"ชายหนุ่มในรถม้าพอลิ้มรสสามคำนี้ น้ำเสียงก็เปลี่ยนทันควัน "ไสหัวไปไกลๆ"เซียวเหยียนจิ่งตะลึงงันด้วยโทสะ รู้ถึงตัวตนฐานะเขาแล้ว แต่กลับยังไล่ให้เขาไสหัวไป?"ไม่ได้ยินที่ท่านอ๋องพูดหรือ?" ทหารตบลงที่หัวม้า ม้างามก็ยกเท้าหน้าขึ้นทันที ถีบพัดเซียวเหยียนจิ่งออกไปอย่างแรง"อ๊า!"เซียวเหยียนจิ่งถูกม้าถีบจนปลิว ตกกระแทกลงไปที่หน้าหลี่จื่อเหยาพอดี นางรีบร้อนเข้าไปประคองตัวเขา "พี่เซียว!"นางกระโจนตัวขึ้น ถลึงตาไปทางรถม้าด้วยความโกรธ "อ๋องเจวี้ยนอะไรกัน! คุณหนูอย่างข้าไม่เห็นจะเคยได้ยิน ขนาดพี่ชายองค์รัชทายาทก็ยังรักข้ายอมให้ข้ามาตลอด แล้วเจ้าสูงส่งกว่าท่านพี่องค์รัชทายาทหรือ? ข้าจะบอกเจ้านะ บิดาข้าคือหมอเทวดาหลี่!"ทหารที่เดิมทีชักกระบี่ออกมาแล้วพอได้ยินคำว่าหมอเทวดาหลี่ ท่าทางก็หยุดลงทันที เขาหันหน้าไปมองฟู่จาวหนิง ลังเลขึ้นมา"อ๋องเจวี้ยนจะเสียเวลาอีกไม่ได้ โทษของเจ้าคนโง่ที่ไม่เคารพต่อท่านอ๋อง ข้าจะสั่งสอนนางแทนท่านอ๋องเอง"ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้นเสียงขรึม กระชากกระบี่ของทหารออกมา สาวเท้าขึ้นหน้าไปทางหลี่จื่อเหยา ชูกระบี่ แสงเย็นวาบ เสียงแควกดังขึ้น หลี่จื่อเหยารู้สึกหน้าอ
แม่เฒ่าประคองมือของนาง ตื่นเต้นจนเสียงสั่นพร่าไปหมด"พระชายา ท่านเดินดีดีหน่อยสิ ไอ๊หยาท่านดูสิ พรมแดงก็ปูมาอยู่หน้าเกี้ยวเจ้าสาวแล้ว ที่ประตูยังมีขบวนสาวรับใช้อยู่อีก แต่งกันด้วยเสื้อผ้าใหม่เอี่ยม นั่นสิเรียกว่าความสุข!""แต่คิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าเวลาเพียงแค่นี้ จวนอ๋องเจวี้ยนก็จัดการไว้หมดแล้ว"ฟู่จาวหนิงถูกประคองเข้าประตู และได้ยินเสียงตื่นเต้นของแม่เฒ่าพูดกับนางมาตลอดทาง ในใจก็ประหลาดใจอย่างมากเช่นกันหลังจากที่อ๋องเจวี้ยนรับปากจะแต่งงานบนถนน ระหว่างทางพวกเขาคงจะสั่งคนให้รีบกลับไปถ่ายทอดคำสั่งที่จวนอ๋องอย่างแน่นอน จากนั้นจึงจัดการตระเตรียมขึ้นมาให้ตายเถอะ นางประเมินอ๋องเจวี้ยนคนนี้ต่ำไปใช่ไหมนะกอดความสงสัยนี้ ฟู่จาวหนิงถูกประคองมาถึงโถงรับแขกกลางสวนดอกไม้แห่งหนึ่ง จากนั้นมีสาวใช้สองคนเดินเข้ามารับช่วงต่อจากยายเฒ่าผู้ดูแลพิธีการ"ข้าน้อยเฝิ่นซิงคารวะพระชายา""ข้าน้อยหงจั๋วคารวะพระชายา"เสียงหญิงสาวทั้งสองใสกังวาน หลังจากคารวะต่อฟู่จาวหนิงแล้วจึงอธิบายสถานการณ์กับนาง"พระชายา เวลานี้โถงพิธีการกับห้องหอกำลังจัดเตรียม ท่านอ๋องต้องไปเปลี่ยนชุดมงคล ข่าวการแต่งงานต้องเข้าวังเพื