นายท่านหลิวมองผิงเหอกงที่เหงื่อแตกเต็มหัว รู้สึกว่าสมองตนเองใช้การไม่ไหวแล้ว"นางคือหมอเทวดาฟู่ ลูกชายท่านยังมีลมหายใจอยู่ไหม? ให้หมอเทวดาฟู่ลองรักษาดู บางทีอาจจะช่วยเขากลับมาได้!"ผิงเหอกงในที่สุดก็พูดเป็นประโยคได้ ตอนนี้จึงเพิ่งได้พักหายใจหายคอ"ท่านมาแทงมีดกรีดลงที่ใจข้าอีกครั้งใช่ไหม!"นายท่านหลิวปิดหน้าร้องไห้ "เกาหลินลูกข้าตัวเย็นไปแล้ว จะมีลมหายใจอีกได้อย่างไร..."ผิงเหอกงตกตะลึง มองฟู่จาวหนิงทันทีและชั่วพริบตานี้ ฟู่จาวหนิงก็จัดการเลิกเสื้อคุณชายน้อยหลิวออกและฝังเข็มไปนับสิบเข็มแล้วเรียบร้อยการเคลื่อนไหวนี้มัน...รวดเร็วเหลือเกิน!ฟู่จาวหนิงไม่เงยหน้า ท่าทางการลงเข็มก็ไม่หยุดแต่เสียงนั้นมั่นคงมาก"ยังไม่ตาย ข้ากำลังช่วยอย่างสุดกำลัง""ยัง ยังไม่ตาย?"นายท่านหลิวได้ยินประโยคนี้อย่างชัดเจน รีบร้อนปีนตัวขึ้นมา ใช้แขนเสื้อออกแรงเช็ดตา จ้องเขม็งที่ฟู่จาวหนิง"ยังไม่ตาย พวกเข้าถอยออกไปก่อน ที่นี้ห้ามเหลือคนแม้แต่คนเดียว ข้อต้องใช้วิชาลับเฉพาะเพื่อช่วยชีวิต"ฟู่จาวหนิงยังคงไม่เงยหน้าขึ้น หลังจากแทงเข็มลงไปแล้วนางต้องใช้การทุบหน้าอกเพื่อช่วยชีวิต ยิ่งไปกว่านั้นยังต้องฉี
ฟู่จาวหนิงไม่สนว่านายท่านหลิวตอนนี้จะคิดอะไรก่อนที่นางจะมาให้เสี่ยวชิ่นกลับไปส่งคำพูดแล้วเรื่องของเด็กพวกนี้ เป็นไปได้มากว่าเกี่ยวข้องกับลัทธิเทพทำลายล้าง ถ้าหากเป็นเช่นนี้จริง เช่นนั้นการเคลื่อนไหวของลัทธิเทพทำลายล้างครั้งนี้จึงไม่เล็กเลย เป็นไปได้มากว่าเด็กเหล่านี้ไปเห็นอะไรเข้าดังนั้น จะต้องแจ้งให้เสิ่นเสวียนรู้ ให้พวกเขาเตรียมตัวป้องกันเซียวหลันยวนเองก็ต้องรู้ด้วยเสิ่นเสวียนกับเซียวหลันยวนพอได้ยินคำพูดของเสี่ยวชิ่น ก็สบตากันผาดหนึ่ง ทั้งสองคนออกคำสั่งไปทันที ให้เตรียมการป้องกัน และรีบไปตรวจสอบให้ชัดเจนลัทธิเทพทำลายล้างมีความแค้นกับพวกเขาพวกเขาคิดจะร่วมแรงกันขุดรากถอนโคน"ท่านอ๋อง ท่านจะไปไหนหรือ? พระชายาให้ท่านพักผ่อนดีดี" ชิงอีพอเห็นเซียวหลันยวนเปลี่ยนเสื้อผ้า และยังสวมหน้ากากเข้าไปอีก ใจจึงสั่นกึกขึ้นมา"ข้าไม่ได้ไปจัดการเอง แต่ตอนนี้จำเป็นต้องอยู่ข้างกายจาวหนิง"เซียวหลันยวนเป็นห่วงฟู่จาวหนิงในเมื่อเด็กพวกนั้นเป็นไปได้ว่าถูกคนของลัทธิเทพทำลายล้างสังหาร เช่นนั้นคนของลัทธิเทพทำลายล้างก็อาจจะจับจ้องครอบครัวเหล่านี้อยุ่ คอยสังเกตเด็กพวกนี้ว่าตายไปแล้วหรือยังฟู่จ
องค์จักรพรรดิเห็นท่าทีของนาง ความคิดในใจก็เลือนหายไปฝูอวิ้นอยากแต่งงาน อยากเป็นแม่คนเขาเองก็ไม่รู้ว่านางทำไมจึงมีทิฐิขนาดนี้ คอยอยู่แต่ในวังไปทั้งชีวิตมันไม่ดีหรอกหรือ?ถ้าเผ่านางแต่งงานกับคนอื่นไป ไปมีทายาทให้กับผู้อื่น แล้วโชคลาภถูกทำให้เบาบางลงล่ะ ถ้าถูกแบ่งออกไปจะทำอย่างไรกัน?แต่ว่าเขาเองก็ไม่สามารถคันค้านอย่างขึงขังได้ เขาไม่มีทางทำลายความรู้สึกระหว่างพี่น้องของพวกเขาแน่ จะให้ฝูอวิ้นเกิดความไม่ลงรอยกับเขาแม้แต่นิดเดียวก็ไม่ได้ ไม่เช่นนั้น ถ้านางไม่ยอมอวยพรให้อย่างเต็มร้อยแล้วจะทำอย่างไรกัน?ดังนั้น เรื่องการขัดขวางการแต่งงานของนาง ยังต้องวางแผนให้ละเอียดอีก"ในคลังส่วนตัวของข้า มีผ้าไหมงามจันทร์พิสุทธิ์ที่สะสมไว้อยู่สองสามม้วน อีกเดี๋ยวให้คนไปนำออกมาแล้วตัดชุดกระโปรงให้เจ้าก็แล้วกัน ผ้าไหมงามจันทร์พิสุทธิ์ทั้งแผ่นดินเหลืออยู่แค่ไม่กี่ม้วนนี้แล้วเท่านั้น เป็นผ้าไหมที่ล้ำค่ามาก สูงสง่ามาก ข้าจะให้เจ้ากลายเป็นแม่นางที่งดงามที่สุดในฟ้าดินนี้ ใครก็เทียบเจ้าไม่ได้"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นดวงตาเปล่งประกายเล็กน้อย ดูท่าทางชอบใจมาก"ขอบคุณองค์จักรพรรดิ""ขอบคุณอะไรกัน ฝูอวิ้น เจ้าต
"ช่วยกลับมาได้แล้ว จัดคนเฝ้าเขาไว้ก็พอ อย่าเพิ่งขยับตัวเขา มีเรื่องอะไรตะโกนเรียกข้า"ฟู่จาวหนิงพูดประโยคนี้เสร็จก็ปิดประตูทันที"หมอเทวดาฟู่ ท่านต้องช่วยต๋าเอ๋อร์ของพวกเราให้ได้นะ!"พวกของฮูหยินหลินใหญ่ทั้งสองคนล้วนคุกเข่าร้องไห้อยู่บนพื้น เหล่าสาวใช้ประคองขึ้นมาไม่ได้พวกนางตอนนี้ร่างกายอ่อนไปหมด"ลูกชายข้าช่วยกลับมาได้แล้วจริงหรือ? อ๊า!"นายท่านหลิวไม่สนใจพวกเขาอีก หลังจากได้ยินประโยคนี้ของฟู่จาวหนิงก็ร้องอ๊าพุ่งไปยังห้องของลูกชายทันทีคนรับใช้เองก็ร้องไห้วิ่งตามไปพวกเขาตรงไปข้างเตียง แค่เหลือบมองก็เห็นสีหน้าของหลิวเกาไหลแล้ว"นายท่าน สีหน้าของคุณชายมีสีเลือดแล้ว?" คนรับใช้ถามเสียงสั่นนายท่านหลิวไม่ตอบ ยื่นนิ้วอันสั่นเทาออกไปวัดลมหายใจของลูกชายก่อนหน้านี้วัดลมหายใจของหลิวเกาไหลไม่ได้เลย แม้เขาจะไม่อาจยอมรับความจริงนี้ แต่ตอนที่ผู้ดูแลเขามาถามว่าต้องเตรียมจัดงานศพเลยไหม เขาก็ทำได้แค่พยักหน้าทั้งน้ำตาทั้งจวนหลิวล้วนเตรียมจะจัดงานศพให้กับหลิวเกาไหลแล้วแต่ว่าตอนนี้...ลมหายใจอุ่นร้อน รดลงมาบนนิ้วของนายท่านหลิวนิ้วของนายท่านหลิวสั่นอย่างรุนแรง แต่ก็ยังไม่กล้าจะเชื่อ
"ลูกข้า ลูกชายข้าเขารอดกลับมาแล้ว!" นายท่านหลิวพุ่งออกมาจากในห้อง แทบจะโถมเข้าไปบนตัวผิงเหอกงผิงเหอกงรีบประคองตัวเขา"นายท่านหลิวอย่าเพิ่งตื่นเต้น"อายุตั้งขนาดนี้แล้ว เมื่อครู่คิดจะกระโดดเข้ามาบนตัวเขาอีก ทำเอากระดูกกระเดี้ยวเขากรีดร้องเลยทีเดียว"นายท่านหลิว เกาไหลของบ้านท่านรอดชีวิตแล้วจริงหรือ?" แม่สามีลูกสะใภ้ตระกูลหลินจ้องเขาตาแป๋ว"จริงสิ จริงสิ! ก่อนหน้านนี้ข้าจะให้ผู้ดูแลเอาโคมขาวไปแขวนแล้วด้วยซ้ำ เพราะลูกของข้าเหมือนไม่มีลมหายใจไปแล้ว"นายท่านหลิวปาดน้ำตาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นความตื่นเต้นแทน "ทว่าตอนนี้เขามีลมหายใจขึ้นแล้วจริงๆ มีชีวิตกลับมาแล้วจริงๆ ถึงแม้จะยังไม่ตื่น แต่ว่าข้าเมื่อครู่เพิ่งเห็นหน้าอกเขาพองยุบขึ้นมาแล้ว เขารอดแล้ว!""อามิตตาพุท พระเจ้าคุ้มครองแล้วจริงๆ"ฮูหยินหลินใหญ่กราบไหว้ไปบนฟ้า น้ำตาร่วงผล็อย มองไปทางประตูห้องข้างที่ปิดสนิทนายท่านหลิวเองก็มองไป"หมอเทวดาฟู่จะต้องช่วยหลินต๋ากลับมาได้แน่!"ลูกชายของพวกเขาตอนสามสี่ขวบมักจะมาเล่นอยู่ด้วยกัน ดังนั้นนายท่านเหล่านี้จึงค่อนข้างสนิทกันตอนนี้นายท่านหลิวเองก็หวังว่าหลินต๋าจะรอดกลับมาฟู่จาวหนิงไม
นี่ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ ตอนที่พิษคงค้างยังไม่ถูกกำจัด ถ้าเขามารอข้างนอกครึ่งชั่วยามในอากาศเช่นนี้คงกลายเป็นเหมือนก้อนน้ำแข็งไปแล้ว ต่อให้กระตุ้นกำลังภายในก็แทบไม่มีประโยชน์แต่ก่อนเขาล้วนระวังสิ่งเหล่านี้ คอยเฝ้ารออยู่ด้านนอกไม่ได้นานนักทว่าตอนนี้เขากระทั่งไม่รู้สึกหนาวด้วยซ้ำ เพราะกำลังภายในที่ลึกล้ำแสดงบทบาทออกมาได้เต็มที่เซียวหลันยวนในที่สุดก็รู้สึกถึงประโยชน์ตอนที่มือของตนเองยังอบอุ่นได้ในช่วงเวลาที่หนาวเย็นเสียที"นายท่าน ข้าทำไมถึงไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวอะไรเลย? พระชายารักษาคุณชายตระกูลหลินอย่างไรกันแน่?"ชิงอีเองก็อดทนมาหนึ่งชั่วยามแล้วก่อนหน้านี้ตอนที่เขาไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวยังคิดว่าฟู่จาวหนิงอาจจะกำลังฝังเข็มมือของนางเบามาก ตอนที่ตั้งสมาธิกลิ่นอายอาจจะเบาบาง ด้วยกำลังภายในของเขาจะไม่ได้ยินก็ไม่แปลกแต่นี่ก็ผ่านไปนานแล้ว ในห้องกลับไม่มีการเคลื่อนไหวใดเลย นี่มันแปลกมากแต่ว่า ชิงอีเองก็แค่รู้สึกอยากรู้อยากเห็นว่าฟู่จาวหนิงช่วยชีวิตคนอย่างไรกัน"เจ้าอยากจะเรียนวิชาแพทย์หรือ?"เซียวหลันยวนเหลือบมองเขา"อ๋า ไม่ใช่ขอรับ" เขามีพรสวรรค์นั้นที่ไหน"ในเมื่อไม่คิดจะเรียนว
"ระวังหลบเร็ว มีมือสังหาร!"สืออีกระดจนขึ้นยอดหลังคาก่อน แต่เขายังไม่ทันยืนมั่นคง ปราณกระบี่ที่เฉียบคมสายหนึ่งก็พุ่งมาตรงหน้าอกเขาเฉียบคมมิอาจต้าน!สืออีหน้าเปลี่ยนสี เบี่ยงตัวหลบอย่างหวุดหวิด ชิ้นผ้าที่หน้าอกถูกถากออกไปกระบี่ของอีกฝ่ายเป็นกระบี่ล้ำค่าหายาก!เขายังไม่ทันเห็นคนที่ลอบโจมตี ก็เห็นอีกสองคนอีกสองคนกำลังยืนอยู่ยอดหลังคา ขณะเดียวกันก็กระทืบเท้าอย่างรุนแรง ย่ำจนกระเบื้องแตกถ้าหากให้พวกเขาเข้าไปในห้อง พระชายาจะมีอันตราย!ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้พระชายากำลังรักษาคนป่วยยังไม่ออกมา ถ้าหากถูกผลกระทบเข้าล่ะ...สืออีพุ่งเข้าไปโดยไม่สนใจชีวิตตนเองและตอนนี้ ใบไม้กำหนึ่งก็พุ่งแหวกอากาศเข้ามา ซัดไปที่ขาของคนสองคนที่ยกขึ้นกำลังจะเหยียบลงไปพวกเขาเบี่ยงร่าง กลิ้งอยู่บนหลังคาเซียวหลันยวนกับชิงอีกระโจนลงจากต้นไม้สืออีลิงโลด ท่านอ๋องอยู่ด้วยหรือ?"ลงไปคุ้มกัน"เซียวหลันยวนพูดกับเขาคำหนึ่ง ในมือมีใบไม้เหลืองอีกกำ ซัดใส่คนกลุ่มนั้นอีกครั้ง"ขอรับ!"สืออีกกระโจนลงไปอย่างรวดเร็ซ"ใครก็ได้ ใครก็ได้!"นายท่านหลิวรีบร้องหาคนคุ้มครองเรือนเหล่าสาวใช้ประคองแม่สามีลูกสะใภ้ตระกุลหลิ
เสียงดัง "ปึง"ฟู่จาวหนิงไม่ใช่ว่าไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวด้านนอกแต่เมื่อครู่นางกำลังเย็บแผลให้หลินต๋า จะหยุดกลางคันไม่ได้ตอนนี้ในที่สุดก็ทำขั้นตอนสุดท้ายเสร็จ นางจึงส่งหลินต๋าออกมาจากในมิติ วางไว้บนเตียงบนหลังคามีกระเบื้องหล่นลงมา แตกบนพื้น กระจัดกระจาย"สืออีสือซาน!"ฟู่จาวหนิงกำมีดผ่าตัดไว้ในมือ ยืนอยู่ข้างเตียงคอยคุ้มกันนางใช้เวลาไปหลายชั่วโมงกว่าจะช่วยชีวิตหลินต๋ากลับมาได้ ตอนนี้ไม่มีทางให้คนอื่นเข้ามากวนเด็ดขาด"คุณหนู ไม่เป็นไร ท่านไม่ต้องออกมา"สืออีกับสือซานกุมกระบี่คุ้มครองอยู่ที่ประตู คอยจับตาการเคลื่อนไหวด้านบนไว้เสียงเคร้งคร้างปะทะกัน รวดเร็วราวห่าฝนแต่ว่าเสียงปึงเมื่อครู่ดังอยู่ด้านนอกเรือนคนคุ้มครองเรือนจวนหลิววิ่งเข้ามาแล้ว แต่พอเห็นการต่อสู้บนหลังคา แสงกระบี่เงาตกค้าง รวดเร็วจนพวกเขามองไม่ชัด"นี่ นี่มันยอดฝีมือจากที่ไหนกัน?""ไม่ใช่คนที่พวกเราจะรับมือไหวเลย!"คนคุ้มครองเรือนหน้าเปลี่ยนสีกันแล้วพวกเขาเป็นกังฟูอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ใช่ยอดฝีมือบู๊ลิ้ม วิทยายุทธ์เช่นนี้สูงส่งกว่าพวกเขาอย่างชัดเจน ไม่รู้ว่ามีมือสังหารอยู่มากเท่าไร พวกเขาเข้าไปคงได้ตายเปล่า
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ
ฟู่จาวหนิงถูกจูบจนเคลิ้มหลับไปอีกรอบเซียวหลันยวนได้ยินเสียงหายใจลึกของนางแล้วก็จนใจเขาเลือดพุ่งขึ้นมาแล้ว แต่นางกลับหลับไป ดูท่าในเมืองเจ้อระยะนี้นางคงจะเหนื่อยมากจริงๆเขาเองก็ไม่ได้ทรมานนาง กอดนางแล้วหลับไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเดิมทีกำลังรอว่าจะฝันอีกครั้ง ดีที่สุดคือได้ฝันเห็นลุงหวังพูดอะไรกับอ๋องเจวี้ยนว่ากล่องใบนั้นเปิดอย่างไรแต่เมื่อคืนนี้นางก็ฝันจริงๆ น่าเสียดายที่ฝันร้าย ในฝันตนเองอยู่ในตำหนักเพียงคนเดียว จะอย่างไรก็ออกไปไม่ได้ และไม่มีใครด้วย ทุกแห่งมีแต่แสงทึม ในความมือเหมือนมีเสียงอะไรที่น่ากลัว ทำให้นางรู้สึกกลัวมากหลังจากสะดุ้งตื่น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เหงื่อท่วมไปทั้งตัว"องค์หญิงใหญ่ ท่านฝันร้ายหรือ?" เฉินเซียงถูกนางทำสะดุ้งตื่นตาม รีบลุกขึ้นนั่งองค์หญิงใหญ่ไม่ค่อยฝันร้ายเท่าไร แต่บางครั้งก็จะฝันร้ายบ้างสักครั้ง แสดงว่าช่วงเวลานั้นจะผ่านไปได้ไม่ค่อยดีนักเฉินเซียงเครียดขึ้นมาแล้วพวกนางตอนนี้ผ่านความน่าเวทนามากมาแล้ว ไม่น่าแย่กว่านี้แล้ว ไม่เช่นนั้นนางคงทนรับไม่ไหวแล้วนางมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอย่างตึงเครียด หวังว่านางจะปฏิเสธแต่นางก็ยังผิดหวัง องค์หญิงใ
"รุ่นหลังของตระกูลปันมีกี่คนหรือ?""รุ่นหลังของตระกูลปันก็มีอยู่ไม่น้อยเลย พวกเขามีช่างที่มีฝีมือ ในตอนนั้นหลบหนีจากภัยพิบัติได้ เหลือรุ่นหลังเอาไว้ ตอนนี้คนที่มีอำนาจในตระกูลปันชื่อว่าปันมู่ พวกเขาไหว้วานขบวนพ่อค้าให้ส่งจดหมายเข้ามา บอกว่าคนเองก็อยู่ระหว่างทางมาแคว้นเจาแล้ว"ปันมู่เซียวหลันยวนจำชื่อนี้ไว้"แล้วเจ้าเป็นรุ่นหลังจากตระกูลไหนกัน?""ใต้ฝ่าพระบาท ข้าคือรุ่นหลังจากตระกูลเหมิ่ง ตอนนั้นปู่ข้าได้รับมอบหมายงานกะทันหัน ทิ้งสิ่งของเพื่อส่งมอบให้กับจักรพรรดิรุ่นใหม่ องค์หญิงใหญ่จากไปแล้ว แต่ยังทิ้งลูกหลานไว้ ก็คือฝ่าพระบาทนั่นเอง ข้าระลึกเสมอว่าต้องนำสิ่งของส่งให้ถึงมือท่าน"แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่เขาหรือไม่ เขาได้รับสิ่งของที่จักรพรรดินีทิ้งไว้แล้วหรือยัง เขาส่งเครื่องพยากรณ์ออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้"เจ้าหมายถึงเครื่องพยากรณ์หรือเปล่า?""ใต้ฝ่าพระบาทรู้จริงๆ ด้วย ใช่แล้ว ของสิ่งนี้อยู่ในมือข้ามาหลายปีแล้ว ข้าปกป้องเอาไว้ไม่ค่อยปล่อยไปไหน ตอนนี้ก็ส่งให้กับมือใต้ฝ่าพระบาทได้เสียที ในที่สุดข้าก็ได้พักผ่อนเสียที..."ลุงหวังบอกถึงตำแหน่งที่ซ่อนเครื่องพยากรณ์เซียวหลันยวนฟังเ
ฟู่จาวหนิงเก็บเครื่องพยากรณ์กลับเข้าไปในมิติ แล้วก็ถูกเซียวหลันยวนกอดเข้าไปในผ้าห่มเขาคลุมผ้าห่มนางให้ดี จูบไปที่ปากนางเบาๆ เอ่ยขึ้นแผ่วเบาว่า "เจ้าก็นอนให้สบาย ข้าจะทำการอย่างระวัง""ได้"เซียวหลันยวนเป่าเปลวเทียน ออกประตูไปอย่างแผ่วเบา"ท่านอ๋อง?" ชิงอีออกมาจากมุมมืดรู้สึกเกินคาดหน่อยๆ ที่ท่านอ๋องจะออกไปตอนดึกขนาดนี้ คืนนี้ไม่ใช่ควรอยู่กับพระชายาหรอกหรือ?"ไป" เซียวหลันยวนกลับไม่อธิบายอะไรมากตอนมาถึงทางตาเฒ่าอู๋ ในคืนเงียบสงัดเช่นนี้ กลับได้ยินเสียงไอค่อกแค่กอยู่แค่กๆๆๆมีทั้งที่ดังขึ้นครั้งสองครั้ง และมีที่ดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดมีทั้งที่ดังจนปอดแทบฉีก ทำเอาคนที่ไม่ไอฟังแล้วรู้สึกคันขึ้นมาที่คอเลย แทบจะไอตามไปด้วย"ท่านอ๋อง คนเหล่านี้ป่วยหนักมาก" ชิงอีเอ่ยขึ้นเสียงต่ำเขาเห็นว่าท่านอ๋องยังมาที่ตาเฒ่าอู๋ทางนี้ จึงรู้สึกกังวลขึ้นหน่อยๆ"อืม ดังนั้นหวังว่าจาวหนิงจะค้นคว้ายาที่สามารถสะกดอาการป่วยนี้ออกมาได้ ไม่ให้มันระบาดต่อไปอีก ไม่เช่นนั้นก็ไม่อยากจะคิด"เซียวหลันยวนถึงแม้จะปวดในที่ฟู่จาวหนิงอยู่ที่นี่ แต่เขาก็เข้าใจดี ตอนนี้เมืองเจ้อต้องการนางจริงๆไม่ใช่แค่เมืองเ
"ท่านเองก็ลองดูสิ" นางส่งคืนกลับให้เขาเขายังไม่ทันได้ดูเลยน กลับส่งให้นางดูก่อนเสียแล้วเซียวหลันยวนรับมา หยิบไปวางไว้ตรงหน้าในใจเขาเองก็สั่นสะเทือนเช่นกันนี่มันยอดเยี่ยมมาก"เครื่องพยากรณ์นี้ ในตงฉิงถือได้ว่าเป็นสมบัติเลยกระมัง?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"อืม" เซียวหลันยวนวางเครื่องพยากรณ์ลง พยักหน้า "ราชครูจะสืบทอดต่อให้เป็นรุ่นๆ ถ้าหากบนมือไม่มีเครื่องมือพยากรณ์ ราชครูก็จะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชอบธรรม ยิ่งไปกว่านั้น คนตงฉิงก็ยังเชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ออกมาจากการคาดการณ์ของเครื่องมือพยากรณ์ ล้วนไม่แม่นยำทั้งสิ้น""นั่นเท่ากับเป็นสิ่งที่เครื่องพยากรณ์สิบห้าปีใหม่คำนวณออกมาใช่ไหม? แล้วเก่ากว่านั้นล่ะ""ที่เก่ากว่านั้นจะถูกประทับตราเป็นของไม่ใช้งานแล้ว แล้วปิดผนึกไว้ในสุสานจักรพรรดิ"หรือก็คือ ขอแค่ไม่มีชิ้นใหม่ออกมา บนโลกนี้ก็จะมีแค่เครื่องพยากรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น"แล้วลุงหวังคนนั้น คงจะไม่ใช่รุ่นหลังของราชครูตงฉิงหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นเซียวหลันยวนนิ่งงันไปพักหนึ่ง ตอบว่า "อันที่จริงก่อนหน้านี้ข้าก็คาดเดามาตลอด เจ้าอารามต่างหากที่น่าจะเป็น"ฟู่
"กล่องใบนี้ เป็นงานฝีมือของตระกูลปัน"แตกต่างกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ได้กล่องมาแล้วศึกษาอยู่นานแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เซียวหลันยวนหมุนๆ ดูก็สรุปออกมา"ตระกูลปัน?""อืม" เซียวหลันยวนพูดไปด้วย มือเองก็คลำๆ ไปด้วย "หลานหรงไม่ใช่ว่าค้นข้อมูลเกี่ยวกับตงฉิงมาหรือ? ตอนนั้นลุงเสิ่นเองก็มอบหนังสือมาให้ ด้านบนมีการแนะนำตระกูลบางส่วนของตงฉิงไว้ ตระกูลปันก็อยู่ในนั้นด้วย""พูดเช่นนี้ ตระกูลปันก็เป็นช่างอย่างนั้นหรือ?"ฟู่จาวหนิงอดคิดถึงหลู่ปัน(นักประดิษฐ์เลื่องชื่อในประวัติศาสตร์จีน)ขึ้นมาไม่ได้ที่นี่ก็มีตระกูลปันด้วย ดูแล้วก็ลึกลับเอาการ"อืม เข้าใจแบบนี้ได้"เซียวหลันยวนตอนเพิ่งเริ่มยังดูช้าๆ อยู่ ลูบๆ คลำๆ แต่ไม่นานนักก็ดูรวดเร็วขึ้นมา กล่องไม้ที่ดูสมบูรณ์แบบนั่นไม่รู้เขาทำอีท่าไหน ตรงนี้กลับดึงได้ตรงนั้นกลับกดได้ขึ้นมาฟู่จาวหนิงมองเขาเล่นอยู่ครู่หนึ่ง ก็ไม่ได้ถามอะไร นั่งมองเขาเปิดกล่องใบนั้นอยู่ข้างๆนิ้วของเขามีข้อต่อชัดเจน เรียวสวย เล็บสะอาดเรียบร้อยราวกับเป็นงานศิลปะสองมือนี้ ไม่เอาไปเล่นเปียโนคือน่าเสียดายมากตอนที่ความคิดฟู่จาวหนิงเริ่มเตลิด ก็ได้ยินเสียงดังแกร๊ก กล่องเปิดออกแ
"ขโมยมาจากไหนกัน?" ฟู่จาวหนิงมองเขา"ห้องข้างฝั่งตะวันตก"พอเขาพูดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็เข้าใจขึ้นมาทันที สมองนางร้อยเรียงเรื่องราวออกมาอย่างรวดเร็วนางถามขึ้นอย่างตกตะลึง "องค์หญิงใหญ่ออกไปข้างนอกมาหรือ? ่นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้วหรือ?"เซียวหลันยวนนับถือสมองของนางจริงๆ ที่คิดได้เร็วขนาดนี้"ใช่แล้ว เจ้าพูดถูกต้อง ข้าประเมินนางต่ำไป คิดไม่ถึงว่านางจะฝันเรื่องแบบนี้ได้จริงๆ"เซียวหลันยวนเองก็รู้สึกเกินคาดถึงแม้เขาจะให้คนจับตาดูองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไว้ แต่ก็เป็นแค่ความเคยชินที่ชอบให้เรื่องอยู่ในการควบคุมเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเห็นฝันของนางเป็นจริงนางมีความสามารถเช่นนี้ ไม่แปลกที่หลายปีมานี้ก็ยังรักษาชื่อเสียงในเรื่องโชคไว้ได้ แล้วยังทำให้ฝ่าบาทต้าชื่อดึงนางไว้แน่นโดยไม่ยอมปล่อยมืออีกแล้วก็ไม่รู้ว่าจะฝันเห็นถึงอะไรบ้างด้วย"ท่านหมายความว่า นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้ว?"ฟู่จาวหนิงพอคิดๆ ก็รู้สึกไม่ถูก "แล้วนางไปกล่อมชายชราให้ส่งของให้นางไม่ได้ ก็เลยเลือกขโมยมาอย่างนั้นหรือ?!"ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ความทรงจำเกี่ยวกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นของนางก็คงต้องล้างใหม่เสียแล้วเรื่องแบบนี้ก็
คืนนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน่าจะเพราะออกไปด้านนอกตากลมหนาวมา กลางดึกจึงจับไข้จนมึนงง แล้วก็ไอจนนอนไม่ได้แต่นางไม่รู้ ว่าตอนที่นางไอจนสลึมสลือ มีเงาดำร่างหนึ่งเข้ามาในห้องนางอย่างไร้ซุ่มเสียงเฉินเซียงที่นอนอยู่บนแคร่นิ่มข้างๆ พลิกตัวมา ในปากพึมพำอะไรคำสองคำ จากนั้นก็หลับไปอีกเงาดำชะงักไป รื้อค้นในห้องขึ้นมาน่าจะเพราะที่นี่ไม่ใช่สถานที่ขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีชั้นเก็บของอะไรไว้ซ่อนของได้มาก เพียงไม่นาน เขาก็หาของเจอวางอยู่ในลังที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนำมาด้วยถึงแม้ลังจะใส่กลอนไว้ แต่พอเห็นกลอนนั่น เงาดำก็รู้ว่ากุญแจอยู่ที่ไหน จึงเด็ดปิ่นปักผมเล่มหนึ่งออกมาจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น พอบิดออกก็กลายเป็นกุญแจจริงๆคนในวังส่วนมากล้วนใช้วิธีการนี้กลอนถูกปลดออกทันที พอได้ของที่ห่อผ้าไว้ เงาดำก็จัดการลงกลอนลังอีกครั้ง นำปิ่นปักผมคืนกลับไป จากนั้นก็ออกประตูมาอย่างไร้ซุ่มเสียงเพียงไม่นาน ของชิ้นนี้ก็มาอยู่ตรงหน้าเซียวหลันยวน"ท่านอ๋อง อีกเดี๋ยวให้พระชายาดูดีไหม ของนี่อยู่ในมือลุงหวังคนนั้นแล้วยังย้ายไปอยู่ในมือองค์หญิงใหญ่อีก พวกเขาติดโรคมากันหมดแล้ว ทางที่ดีท่านอย่า
ฟู่จาวหนิงรู้ว่าตอนนี้ต่อให้จะรับประกันดีแค่ไหน เซียวหลันยวนก็ยังกังวลตนเองอยู่ดีก็เหมือนกับที่เขาไม่ยอมกลับเมืองหลวง นางก็รู้สึกกังวลว่าเขาจะติดโรคระบาดที่นี่"พรุ่งนี้ท่านกลับเมืองหลวงเถอะ เอาจริงๆ ท่านอยู่ที่นี่ข้าก็เป็นห่วงอยู่ตลอด แล้วท่านก็ตามข้ามาแบบนี้อีก""พรุ่งนี้จะดูสถานการณ์ ข้ารับปากเจ้า จะไม่คอยตามเจ้าแล้ว""ไม่ตามแล้วหรือ?""ใช่ แค่รู้ว่าทุกวันเจ้าผ่านไปอย่างไร ทำอะไรบ้าง ในใจข้าก็พอเข้าใจแล้ว จะไม่ตามอีก"แม้จะเป็นห่วง แต่ตอนนี้พอได้ติดตามมาวันหนึ่ง ได้รู้ว่านางใช้ชีวิตผ่านไปอย่างไร ก็ยังดีกว่าก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้อะไรเลย ทำได้แค่คอยจินตนาการผ่านถ้อยคำบนจดหมายเขาจะมาถ่วงแข้งขานางไม่ได้ เพราะแม้แต่เขาก็รู้ ว่าเมืองเจ้อตอนนี้ขาดฟู่จาวหนิงไม่ได้"ถ้าอย่างนั้นท่านไปพักกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเถอะ ทางนั้นอย่างน้อยก็ไม่มีคนป่วย"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าในโรงหมอก็ยังมีความเสี่ยงสูง"พรุ่งนี้ข้าไม่อยู่ที่โรงหมอ ข้าจะไปที่อื่นหน่อย"ฟู่จาวหนิงเห็นว่าเซียวหลันยวนมีแผนการของตนเองอยู่ จึงไม่ได้ถามอะไรเขามากขึ้น ถึงอย่างไรเขาปล่อยนางให้อยู่ที่นี่รักษาคนป่วยได้ ไม่ได้ดึงดันจะพ