เมื่อครู่ถือโอกาสช่องว่างที่ผิงเหอกงไปพักหายใจ คุณหนูรองเหอเองก็ไปล้างปากพักผ่อน ที่นี่ไม่มีคน นางจึงใช้อุปกรณ์มาแสกนขาของเหอเซี่ยนอัน และพบว่าไม่มีแมลงเป็นอยู่อีกแล้ว นางจึงถอนใจโล่งออกมาถ้าไม่มีอุปกรณ์นี้ นางเองก็ไม่มีวิธียืนยันว่าไม่มีแมลงเหลือรอดอยู่สักตัวแล้วเหมือนกันตอนนี้พอยืนยันได้ก็วางใจพอเสร็จเรื่อนี้ นางก็จะกลับแล้ว"หมอเทวดาฟู่ พรุ่งนี้ท่านต้องมาอีกนะ!" ผิงเหอกงมาส่งฟู่จาวหนิงถึงหน้าประตูด้วยตนเอง โค้งคารวะให้หลายครั้ง กลัวว่าท่าทีจะไม่ดีพอ จนฟู่จาวหนิงไม่กลับมาอีก"ข้าต้องกรรับไปสกัดยาให้ใหม่ พรุ่งนี้ตอนบ่ายจะมาอีกครั้ง""ได้เลยได้เลย"ผิงเหอกงหยิบกล่องใบหนึ่งมาจากมือของคนใช้ข้างๆ ประเคนสองมือให้กับฟู่จาวหนิง "นี่คือน้ำใจส่วนหนึ่งของข้า วันนี้ลำบากหมอเทวดาฟู่เสียแล้ว วางใจเถิด เรื่องค่ารักษาถึงเวลาข้าจะมอบให้แน่นอน""นี่คืออะไรหรือ?" ไม่ใช่ค่ารักษาหรอกหรือ?"ลูกเขยคนโตที่ไม่ได้เรื่องของข้าคนนั้นประจำการอยู่ที่เมืองหมาน ทางนั้นมีวัตถุดิบยาบางส่วนที่เมืองหลวงจักรพรรดิทางนี้ไม่มี บอกว่าให้เอาไว้ต้มดื่ม ดีต่อสตรีเพศ พวกเราเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ท่านเป็นหมอเทวดา สู้
เสิ่นเสวียนพอได้ยินคำพูดฟู่จาวหนิงก็ชะงักตะลึงไป"นั่นน่าจะเป็นชุดใหม่ที่ส่งไปประจำการเมื่อครึ่งปีก่อน ช่วงครึ่งปีนี้เพราะอาการป่วยของไท่ไท่อาวุโส แม้ข้าจะรู้ว่าคนที่ประจำการเมืองหมานเปลี่ยนไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้ไปหาข้อมูลอย่างละเอียด"เรื่องนี้ภายหลังเขาเองก็จะไปจัดการเช่นกันแต่เขาก็คิดไม่ถึง ว่าเขายังไม่ทันจะได้ลงมือ ฟู่จาวหนิงทางนี้ก็เหมือนจะหาเส้นสายได้อย่างบังเอิญเข้าเสียแล้วแม่ทัพคนใหม่ที่ส่งไปประจำการยังเมืองหมาน กลับเป็นพี่เขยใหญ่ของเหอเซี่ยนอันเรื่องนี้มีเรื่องบังเอิญแบบนี้ด้วยหรือ?สายตาที่มองฟู่จาวหนิงของผู้อาวุโสจี้ยิ่งเปล่งประกาย"เมื่อครู่ก็พูดอยู่ ว่าโชคของศิษย์รักของข้าดีมากเป็นพิเศษ เป็นคนที่มีโชควาสนา! พวกเจ้าดูเอาก็แล้วกัน แค่อยู่กับนางก็ได้รับโชคติดมาตามตัวแล้วใช่ไหมล่ะ?"นางไปรักษาเหอเซี่ยนอัน ก็ทำให้ได้เถาอมแสงมาให้เซียวหลันยวน สำคัญอย่างมากสำหรับเซียวหลันยวนตอนนี้ แผลเป็นบนหน้าเขาเองก็จะหายเร็วขึ้นด้วยส่วนเสิ่นเสวียนทางนี้ แม้เขาจะไม่รู้ว่าอะไรที่เมืองหมานนั่นใช้อย่างไร แต่ตอนนี้พอฟังแล้ว ก็เหมือนสามารถใช้เส้นสายอย่างเหอเซี่ยนอันได้พอดีเสิ่นเสวียนเองก็
ฟู่จาวหนิงเขย่งปลายเท้ากระซิบข้างหูเขาเช่นนี้ ทำเอาใจเซียวหลันยวนร้อนวูบวาบขึ้นทันทีนี่เป็นครั้งแรกที่ฟู่จาวหนิงพูดแสดงความรู้สึกออกมาเช่นนี้ใช่ไหม?จะไม่เอาเขาไปวางไว้ด้านหลังคนอื่น หรือก็คือ ทุกเรื่องคือทำเพื่อเขาก่อนอย่างนั้นสินะ?"หนิงหนิง..."เขากุมมือฟู่จาวหนิงตอนนี้เอง มีสาวใช้คนหนึ่งวิ่งเข้ามา"นายท่าน คุณหนูจาวหนิง แขกสองคนนั้นจู่ๆ ก็ปวดหัวขึ้นมา พวกท่านรีบไปดูเถิด"ประโยคนี้ตัดบทความคิดที่พุ่งขึ้นมาของเซียวหลันยวนทันที เขาใจเย็นลงมาเรียบร้อยเมื่อครู่เขาซึ้งใจจนเกือบจะจูบฟู่จาวหนิงต่อหน้าท่านลุงกับผู้อาวุโสจี้ไปเสียแล้วใจของเสิ่นเสวียนกับฟู่จาวหนิงสั่นกึกขึ้นมาเพราะสาวใช้คนนี้รับผิดชอบส่งข้าวส่งน้ำให้กับฟู่จิ้นเชินและเสิ่นเชี่ยว ตอนนี้เป็นเวลาส่งกับข้าวให้พวกเขาพอดีดังนั้นแขกสองคนที่ว่าจึงเป็นพวกเขาแน่นอน"ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ อายวน สิ่งนี้ท่านเก็บเอาไว้ก่อน" ฟู่จาวหนิงส่งกล่องเถาอมแสงให้เซียวหลันยวน ยกชายกระโปรงแล้ววิ่งไปยังจุดที่อยู่พวกเขาอยู่ร่างกายของสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินและเสิ่นเชี่ยวนั้นแย่มากจริงๆร่างกายของพวกเขาสองคนเหมือนเปลือกร่างอ่อนแอที่ใช้พลังงานไ
ผู้อาวุโสจี้ตกตะลึงไปแล้ว"จาวหนิงใช้สองมือจับชีพจรพร้อมกันได้ด้วยหรื?"นี่มันหนึ่งใช้ใช้สองทางเลยนะเสิ่นเสวียนเก็บสายตาลง "ข้าเองก็เพิ่งเคยเห็นครั้งแรก"ดูท่าพวกเขาจะยังไม่เห็นความสามารถทั้งหมดของฟู่จาวหนิงนี่ไม่ใช่สิ่งที่หมอทั่วไปจะทำได้ฟู่จาวหนิงไม่มีเวลา เพราะฟู่จิ้นเชินแม้เขาจะให้นางไปช่วยเสิ่นเชี่ยว แต่จากที่นางเห็น พวกเขาสามีภรรยาตอนนี้วิกฤตพอๆ กันเซียวหลันยวนให้สืออีสือซานเข้ามา เสี่ยวชิ่นเองก็ตามเข้ามาแล้วพวกเขาล้วนรออยู่ด้านนอก รอให้ฟู่จาวหนิงเรียกแล้วค่อยเข้าช่วยเหลือฟู่จาวหนิงหลังจากจับชีพจรสีหน้าก็ขรึมลงเล็กน้อยเสิ่นเสวียนคอยสังเกตสีหน้านางตลอด พอเห็นเช่นนี้ใจก็ขรึมลงเช่นกัน"เสี่ยวชิ่น หยิบกล่องยาของข้ามา""เจ้าค่ะ"ช่วงนี้ที่เสี่ยวชิ่นติดตามฟู่จาวหนิง ทำงานได้คล่องแคล่วขึ้นเยอะ และส่วนใหญ่คือตามจังหวะของนางทันแล้ว หลังจากหอกล่องยาเข้ามาก็วางไว้ข้างเตียงแล้วเปิดออก หยิบกระเป๋าเข็มออกมาเปิด"สืออีสือซาน""ขอรับ""ยกแคร่นิ่มเข้ามา วางไว้ข้างเตียง จัดเขาให้นอนบนแคร่นิ่ม""ขอรับ!" สืออีกับสือซานเองก็รีบเข้ามา รับคำสั่งแล้วทำตามแคร่นิ่มถูกย้ายมาหน้าเต
ถ้าจะบอกว่ากังวล ก็มีอยู่จุดเดียว"คนเป็นอย่างไรบ้าง?" เขาถามขึ้นเสิ่นเสวียนมองเขา "ดูไม่ค่อยดี สลบไปกันหมดแล้ว จาวหนิงกำลังรักษาอยู่ด้านใน"เซียวหลันยวนนิ่งงันไปเดิมทีเขาคิดจะพูดอะไรที่น่าฟังหน่อย อย่างเช่น "จาวหนิงจะรักษาพวกเขาได้" แต่คำพูดก็ติดอยู่ที่มุมปากไม่ยอมพูดออกมาเสิ่นเสวียนก็ไม่ได้ทำให้เขาลำบากใจ"บนตัวพวกเขามีความลับมากมายจริงๆ""อืม" เซียวหลันยวนขานรับคำหนึ่ง ยืนรอที่นี่พร้อมกับพวกเขา"อ๋องเจวี้ยน ไม่ว่าจะอย่างไร คนก็ต้องช่วยกลับมาก่อน ความจริงใจอดีตจึงจะตรวจสอบได้ชัดเจน" ผู้อาวุโสจี้เตือนเสียงต่ำขึ้นมาคำหนึ่งเขายังคิดว่าเซียวหลันยวนอาจจะกำลังคิด ว่าสองคนนี้ถือเป็นศัตรูคู่แค้นเขา รักษาไม่ได้ก็ช่างปะไรเซียวหลันยวนชะงักไปครู่หนึ่ง ตอบกลับมา "ข้ากำลังคิด ว่าหนิงหนิงหลังจากกลับมายังไม่ได้ดื่มน้ำเลย ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ได้กินข้าวด้วย"นางตอนนี้คงทั้งกระหายทั้งหิวทั้งเหนื่อย ถึงอย่างไรเดิมทีก็เพิ่งจะไปรักษาเหอเซี่ยนอันกลับมานี่นาคำพูดนี้ของเขาทำให้เสิ่นเสวียนอดหันมองเขาไม่ได้"ตอนนี้เจ้ากำลังเป็นห่วงจาวหนิงว่าจะหิวหรือ?""ใช่แล้ว"เรื่องอื่นเขาไม่คิดเลยสำห
เซียวหลันยวนได้ยินการเคลื่อนไหวและลมหายใจด้านในอีกครั้งแล้วราวกับห้องเงียบว่างจู่ๆ ก็มีคนโผล่ออกมาความรู้สึกนี้แปลกประหลาดเกินไป เห็นๆ อยู่ว่าจาวหนิงกับสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินก็อยู่ข้างในมาตลอด"ข้าแค่รอจนร้อนใจน่ะ"เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นช้าๆ ท่ามกลางสายตาสอบถอมของเสิ่นเสวียนเสิ่นเสวียนไม่ถามอะไรอีกฟู่จาวหนิงมองผลการตรวจ สีหน้าปั้นยากขึ้นมาการตรวจสอบก่อนหน้านี้พลาดไปแล้วครั้งนี้ใช้เครื่องมือ ในที่สุดจึงพบว่าส่วนสมองของฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวล้วนมีสิ่งของแปลกประหลาดอยู่ชิ้นหนึ่งยาวประมาณครึ่งนิ้ว หนากว่าเข็มฝังของนางหลายเท่ามองไม่ออกชั่วคราวว่าเป็นอะไรแต่ตรงจุดนั้นคือพื้นที่ความทรงจำ นางตอนนี้สงสัยขึ้นมาแล้ว ที่ความทรงจำของทั้งสองคนสับสนอาจจะเกี่ยวข้องกับของสิ่งนี้ต้องเอามันออกมาฟู่จาวหนิงจัดการพวกเขาจนเรียบร้อย ตอนนี้จึงให้สืออีกับสือซานเปิดประตู"ท่านลุง!"เสิ่นเสวียนได้ยินนางตะโกน รีบสาวเท้าก้าวใหญ่ทันที"เป็นอย่างไรบ้าง" ใจของเขาเองก็แขวนขึ้นมาแล้ว กลัวฟู่จาวหนิงจะบอกว่ารักษาไม่ได้แล้ว"หนิงหนิง ข้าเข้าไปได้ไหม?" เซียวหลันยวนถามขึ้นนอกประตูถึงอย่างไรความสั
ฟู่จาวหนิงล้วนรู้สึกแปลกประหลาดเพราะอะไร? นี่ไม่ใช่เรื่องที่เขาร้อนรนที่สุดหรือ?เขารอมาหลายปีแล้ว อยากจะถามสถานการณ์ในครั้งนั้นให้ชัดเจน"เจ้าเหนื่อยแล้ว แถมหิวอีก ไปกินข้าวแล้วพักผ่อนสักหน่อยเถอะ" เซียวหลันยวนมองฟู่จาวหนิง "ตอนนี้ถ้ายังไม่ดึงออกพวกเขาจะตายไหม?""ไม่หรอก เมื่อครู่ช่วยเอาไว้แล้ว...""ถ้าอย่างนั้นก็ฟังข้าเถอะ"เซียวหลันยวนยื่นมามาดึงนาง "พรุ่งนี้ตื่นมาแล้วค่อยดึงออกก็ได้ ไม่เช่นนั้น คืนนี้เจ้าคงไม่ได้พักแน่"เมื่อคืนนางก็อยู่จนดึกดื่นเพื่อเตรียมตัวรักษาเหอเซี่ยนอัน ตอนนี้อดนอนต่อไม่ได้แล้วใจของเสิ่นเสวียนเองก็ปล่อยวางลงมาตามคำพูดเซียวหลันยวนเช่นกันเขาพยักหน้า "อายวนพูดถูกต้อง เจ้าจะเหนื่อยจนเป็นลมไม่ได้ ไหนๆ ตอนนี้ก็ช่วยพวกเขากลับมาได้แล้วก็ให้พวกเขาพักผ่อนก่อนเถอะ เจ้าเองก็ต้องกินข้าวนอนพักผ่อนด้วย"ผู้อาวุโสจี้เองก็มองเซียวหลันยวนอย่างเห็นด้วยอ๋องเจวี้ยนทำให้เขารู้สึกเกินคาดจริงๆ ต่อหน้าศัตรูเช่นนี้ แต่กลับวางเรื่องการค้นหาความจริงหลายปีนั้นไว้ก่อน แล้วหันไปห่วงสุขภาพของจาวหนิงแทนเขาหวั่นไหวต่อจาวหนิงแล้วกระมัง?แต่ก็หวังว่าเรื่องในครั้งนั้นจะไม่เกี่
เสิ่นเชี่ยวมองมาทางเสิ่นเสวียนสายตาของนางดูสับสน"ท่านเสิ่น มีแต่คนบอกกันว่าท่านเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ว่าท่านอยู่ต้าชื่อ แล้วมีความสัมพันธ์อะไรกับอ๋องเจวี้ยนหรือ?""ความสัมพันธ์ของข้ากับอ๋องเจวี้ยนทำให้พวกท่านกังวลหรือ?" เสิ่นเสวียนถาม"ไม่ใช่เช่นนั้น"เรื่องนี้อันที่จริงไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเขาเท่าไรเสิ่นเชี่ยวรู้สึกว่าเวลาตนเองมองเสิ่นเสวียน มีความรู้สึกชิดเชื้ออย่างประหลาด แต่อ๋องเจวี้ยนกับนางนั้นเป็นศัตรูกัน เพราะตัวนางเองก็ไม่รู้ว่าในวังเมื่อตอนนั้นนางได้วางยาพิษใส่อ๋องเจวี้ยนหรือเปล่าถ้าหากนางวางยาจริง เช่นนั้นอ๋องเจวี้ยนก็น่าจะมองนางเป็นศัตรูไหมแต่ว่านางเองก็ไม่อยากกลายเป็นศัตรูกับเสิ่นเสวียน"ตอนนี้ท่านรู้สึกอย่างไรบ้าง?""ยังมึนหัวนิดหน่อย""ก่อนหน้านี้ทำไมจึงปวดหัวหรือ?"เสิ่นเชี่ยวเดิมทีไม่อยากตอบ นางกับสามีมักจะปวดหัวอย่างประหลาดอยู่เสมอ และไม่รู้ว่าเพราะอะไร การกระตุ้นอย่างประหลาดทำให้พวกเขาปวดหัวฉับพลันเสมอ"เมื่อครู่มีคนคุยเล่นกันด้านนอก" เสิ่นเชี่ยวขมวดคิ้ว คิดถึงเรื่องที่นางได้ยินก่อนหน้านี้ "น่าจะเป็นคนใช้สองคน พวกนางบอกว่าหมอเทวดาอะไรสักอย่างมาจา
เขาอยากไปด้วยกันกับลูกสาว เช่นนี้จะได้มีเวลาอยู่ด้วยกัน และยังได้มองอยู่ข้างๆ ถึงสภาพการทำงานของนางด้วย อยู่กับคนเป็นอย่างไร จะได้เข้าใจนางมากขึ้น รู้จักนางมากขึ้นเขาพลาดที่จะมองดูลูกสาวเติบโตไปหลายปี ตอนนี้อยากจะคว้าโอกาสนี้ไว้บางที ความสัมพันธ์หลังจากนี้อาจจะดีขึ้นมาอีกก็ได้นิสัยของฟู่จิ้นเชินคือมุ่งมั่นไปที่เป้าหมาย ไม่รีบไม่ร้อน แต่จะไม่ยอมแพ้ และจะคอยคว้าโอกาสทั้งหมดไว้ ก้าวไปยังจุดหมายทีละก้าวๆเหมือนกับตอนที่เขาพาภรรยา รู้ว่าห้ามตายเด็ดขาด จะถูกจับกลับไปไม่ได้ บนพื้นฐษนนี้ ใช้เวลาไปหลายปี แต่เขาก็ไม่ได้ล้มเลิกการตามหาความจริงเรื่องการวางยาในอดีตถ้าหากไม่ใช่มาเจอกับฟู่จาวหนิง อันที่จริงเขาก็ยังทนต่อไปได้ บางทีอาจจะถึงวันที่เขาพบกับความจริงวันนั้นฟู่จาวหนิงมองเซียวหลันยวนสำหรับตอนนี้ที่นางหันมามองตนเอง ต้องการความเห็นจากเขา ในใจเซียวหลันยวนจึงพอใจมากขึ้นมาเขากุมมือนางไว้ บอกกับนางว่า "ให้เขาไปด้วยก็ดี"เขามองออกแล้ว ฟู่จิ้นเชินนี้ไม่ธรรมดาเลย ฉลาดและตื่นตัว ใจเย็นเฉียบแหลมมีฟู่จิ้นเชินตามไปด้วย ในใจเซียวหลันยวนก็ค่อนข้างจะวางใจถ้าหากไม่ใช่ว่าตัวตนฐานะเขาไปไหนมา
"สถานที่อย่างเมืองเจ้อค่อนข้างจะพิเศษ พื้นที่ใหญ่โต ประชาชนน้อย และการเดินทางก็สะดวกสบาย" ฟู่จิ้นเชินตอบ "ถ้าหากจะยัดผู้ประสบภัยเข้าไป อันที่จริงก็สามารถทำได้อยู่ ข้าเคยไปเมืองเจ้อในเมืองมีพื้นที่ว่างค่อนข้างกว้างขวางอยู่หลายแห่ง บางครั้งยังมีพวกพ่อค้าพเนจรจากที่ต่างๆ ไปทำตลาดนัดกันที่นั่นด้วย"ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนมองเขาอย่างเกินคาด"เมืองเจ้อท่านก็เคยไปมาหรือ?"ฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวสบตากัน สองสามีภรรยายิ้มอย่างจำใจ"ถ้าจะให้พูด พวกเราไปมาหลายสถานที่เลย"ฟู่จาวหนิงกับเซียวหลันยวนเองก็เข้าใจขึ้นมา สิบกว่าปีนี้พวกเขาล้วนต้องคอยหลบการไล่ล่าสังหารอยู่ภายนอก แล้วยังมีการไล่จับของจวนทางการอีก แต่ละสถานที่จึงไม่สามารถอยู่ได้นานนัก ดังนั้นพวกเขาจึงหนีไปแทบจะทุกที่"แต่ว่าทางนั้นนาจะขาดแคลนเรื่องวัตถุ ถึงอย่างไรต่อให้มีที่ว่างที่จะจัดวางผู้ประสบภัยเข้าไป นั่นก็ต้องสร้างกระโจมจัดแจงที่พัก ไม่เช่นนั้นวันที่อากาศหนาวเช่นนี้ ก็ไม่สามารถปล่อยให้ผู้ประสบภัยต้องนอนด้านนอกทนหนาวทนหิวได้"ฟู่จิ้นเชินบอกกับฟู่จาวหนิงว่า "พรุ่งนี้ข้าจะไปกับเจ้าด้วย"นี่เป็นสิ่งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยเอ่ยถึงม
ดังนั้น จาวหนิงจะต้องไม่ยอมถูกชายหนุ่มคนอื่นดึงดูดแน่ เพราะไม่มีใครเทียบกับเขาได้แล้วระหว่างทาง อ๋องเจวี้ยนอารมณ์ดีมาก กระทั่งยังสามารถคุยกับฟู่จิ้นเชินเรื่องโป๋จีอย่างทัดเทียมกันด้วยรอจนมาถึงจวนอ๋อง พวกเขาก็หารือตัดสินใจออกมาได้แล้ว พรุ่งนี้จะส่งโป๋จียัดเข้าไปในขบวนของอันเหนียน พาเขาออกจากเมืองก่อน หลอกเขา ให้เขาคิดว่ารับปากว่าจะช่วยเขาออกไป รอให้ได้จดหมาย คนของเซียวหลันยวนก็จะคุมตัวเขากลับเมืองหลวง"พรุ่งนี้ข้าจะไปค้นตัวเขาเอง" เซียวหลันยวนบอกกับฟู่จาวหนิงคนอื่นล้วนค้นไม่เจอ เขาไม่เชื่อว่าตนเองจะหาไม่พบ"แล้วนายพันเก๋อล่ะ?""ให้เขาเข้าวังไม่ได้พบกับจักรพรรดิไม่ได้ชั่วคราวก็พอแล้ว" ฟู่จิ้นเชินมีแผนการ"ท่านคิดจะทำอะไรหรือ?" ฟู่จาวหนิงขมวดคิ้ว เก๋อมู่กวงมีวรยุทธ์ ฟู่จิ้นเชินยังขังเขาไว้ในวังได้หรือ?"ข้ารู้ว่ามีคนหนึ่งที่พัวพันกับเก๋อมู่กวงอยู่ อ๋องเจวี้ยนส่งคนนั้นไปที่ห้องของเก๋อมู่กวงก็พอแล้ว" ฟู่จิ้นเชินมองไปทางเซียวหลันยวน"เส้นสายของท่านนี่ทั้งเยอะทั้งซับซ้อนจริงๆ""ถึงอย่างไรข้าก็เป็นแค่ประชาชนธรรมดา มีเส้นสายแค่นี้ไม่คู่ควรให้เอ่ยถึงหรอก""ประชาชนธรรมดาไม่มีทางพาคน
ฟู่จิ้นเชินเองก็นับถือเซียวหลันยวน"คิดไม่ถึงเลยว่าอ๋องเจวี้ยนจะรู้มากขนาดนี้"ฟู่จาวหนิงก็ตกใจ "ท่านพูดภาษาเฮ่อเหลียนได้หรือ?"สำหรับความนับถือของฟู่จิ้นเชิน เซียวหลันยวนไม่สนใจ แต่น้ำเสียงตกใจของฟู่จาวหนิง ทำให้เขารู้สึกภูมิใจขึ้นมาหน่อยๆนางนั่งตัวตรงขึ้นมาด้วยสัญชาตญาณ ใช้น้ำเสียงที่ราบเรียบพูดว่า "อืม ก็ไม่ได้ยากอะไรนี่"พรวดฟู่จาวเฟยอยากจะขำขึ้นมาทำไมคำพูดพี่เขยถึงดูแปลกๆ?ตอนอยู่ว่างๆ ในบ้านกับท่านปู่กับน้าเซี่ยอันห่าวพกวเขาก็เคยพูดภาษาเฮ่อเหลียนออกมา เพราะพวกเขาอยากรู้อยากเห็นหน่อยๆแต่หลังจากที่ได้ยินเขาพูดไปไม่กี่คำก็ยังบอกว่าเรียนยาก สักคำเดียวก็เรียนกันออกมาไม่ได้ความสามารถการเรียนรู้ของพ่อเขาดีมาก แต่ก็ยอมรับว่านี่เรียนยากจริงๆพี่เขยกลับบอกว่าไม่ยาก แต่ว่า ที่โป๋จีพูดรวดเดียวอย่างรวดเร็วขนาดนั้น แล้วพี่เขยยังฟังออกได้ ก็อธิบายได้ว่าเขาเป็นมันทุกอย่างจริงๆ"เรียนมาตอนอยู่ที่ยอดเขาโยวชิงหรือ?" ฟู่จาวหนิงใช้สายตานับถือมองเขา กระพริบตาปริบๆอ๋องเจวี้ยนพอใจขึ้นมาทันที แล้วยังรู้สึกจิตใจหวานชื่นด้วย"ใช่แล้ว""เจ้าอารามสอนมาหรือ?" ฟู่จาวหนิงประหลาดใจ "หรือว่าเ
"เช่นนั้นก็ใสหัวไป"เซียวหลันยวนพาคนออกจากคุกใหญ่เหล่าผู้คอมมองพวกเขา "หัวหน้า ตอนนี้ทำอย่างไรดี? นายพันเก๋อบอกไว้แล้ว ถ้าเฮ่อเหลียนเฟยมีความน่าสงสัยที่จะเป็นศัตรู ต้องคุมตัวเขาไว้ก่อนนี่นา"ก่อนหน้านี้ใต้เท้าหยิ่นจิงเจ้าก็ดึงคนไว้แล้ว ตอนนี้อ๋องเจวี้ยนพาเขาเดินวนในคุกไปรอบหนึ่ง จากนั้นกลับเดินกลับไปอย่างองอาจเสียอย่างนั้นพรุ่งนี้ถ้านายพันเก๋อถามขึ้นมา พวกเขาจะทำอย่างไรกัน?เรื่องนี้ จะต้องนำไปให้ฝ่าบาททรงทราบแน่ องค์จักรพรรดิถ้าหากถามหาความรับผิดชอบขึ้นมา พวกเขาจะทำอย่างไรกัน?แต่หัวหน้าคุกก็ไม่กล้าทำอะไรนี่นา"ช่างมัน ผลักไปบนหัวอ๋องเจวี้ยนให้หมดแล้วกัน พรุ่งนี้ถ้านายพันเก๋อซักไซ้ขึ้นมา พวกเราก็บอกไปว่าพวกเราขวางอ๋องเจวี้ยนไม่อยู่"นี่โทษพวกเขาได้ที่ไหน?ฟู่จาวหนิงพอเห็นพวกเขาออกมาแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ"เสี่ยวเฟยไม่ต้องอยู่หรือ?" นางถามเซียวหลันยวน"ไม่ต้องให้อยู่แล้ว ให้พวกเขาไปที่จวนอ๋องเองแล้วกัน" เซียวหลันยวนตอบฟู่จิ้นเชินมองเขา "ขอบคุณมาก"นี่คือความหมายที่จะปกป้องพวกเขาแล้วถ้าหากพวกเขาไม่อยู่ในจวนอ๋อง พรุ่งนี้นายพันเก๋อพาคนไปที่บ้านตระกูลฟู่ พวกเขาคงไม่มีทางต่
โป๋จีเอาเรื่องที่เผ่าเฮ่อเหลียนยึดครองเมืองพูดจนกลายเป็นตัวเลือกที่จำใจของพวกเขาเสียอย่างนั้นฟู่จาวเฟยถามยังถามสถานการณ์ในเมืองตอนนี้อีกหน่อย แล้วยังถามเขาว่าทำไมถึงถูกเก๋อมู่กวงจัง รอจนเขา...ตอบมาทีละข้อ ถามขึ้นมาทันที "แล้วจดหมายที่นำมาให้ข้าล่ะ? ข้าอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ส่งจดหมายให้กับข้าหรือ?"โป๋จีมองไปทางเซียวหลันยวน"นี่คืออ๋องเจวี้ยนสินะ? พวกข้าได้ยินว่า อ๋องเจวี้ยนตอนนี้เป็นพี่เขยของเจ้า""ใช่แล้ว แต่เขากับองค์จักรพรรดิมีความสัมพันธ์ไม่ค่อยดี"สายตาโป๋จีหม่นลงเล็กน้อย พวกเขารู้เรื่องนี้"แล้วพ่อแท้ๆ ของเจ้าล่ะ?""เขาฟังพี่สาวข้า""หมอเทวดาฟู่ใช่ไหม?""ใช่ ชื่อเสียงของพี่สาวข้ามากขนาดนี้เลยหรือ? ลือกันไปถึงทางเผ่าแล้วหรือ?" ฟู่จาวเฟยถาม"แน่นอน นางเป็นถึงหมอที่อายุน้อยสุดในสมาคมหมอใหญ่เลยนะ" แล้วยังเป็นหมอหญิงอีก"แล้วจดหมายอยู่ที่ไหนล่ะ?""จะส่งให้เจ้าเลยก็ไม่ใช่ว่าไม่ได้หรอก แต่ว่าเจ้าต้องทำเรื่องหนึ่งก่อน จดหมายสำหรับพวกเราแล้วสำคัญมาก ไม่ใช่เรื่องที่จะทำร้ายหรอก""เขียนอะไรไว้หรือ?""เจ้าอ่านจดหมายก็จะเข้าใจเอง""ท่านจะให้ข้าช่วยทำอะไรหรือ?" ฟู่จาวเฟยเริ่มจะเกิด
ขอแค่พวกเขาสงสัยในตัวฟู่จาวเฟยก็พอแล้วหัวหน้าคุกกับมือปราบเจียงพวกเขาก็เริ่มสงสัยเช่นนี้แล้วพวกเขามองฟู่จาวเฟย และมองไปยังโป๋จี สีหน้าเองก็กังวลขึ้นมา"คุณชายฟู่ นี่มัน..." มือปราบเจียงเข้าประชิดฟู่จิ้นเชิน กดเสียงต่ำคิดจะเตือนเขาคุณชายฟู่จะฟังไม่ออกได้อย่างไร?ยิ่งไปกว่านั้น ถ้าอยู่ต่อหน้านายพันเก๋อ แล้วเห็นว่าโป๋จีกับคุณชายน้อยฟู่มีความสัมพันธ์อันดีกันล่ะก็ คุณชายน้อยฟู่ก็จะยิ่งน่าสงสัยมากขึ้นไปอีกนายพันเก๋อคงไม่มีทางเชื่อคุณชายน้อยฟู่แน่นอนแล้วถ้าคุณชายน้อยฟู่ถูกกำหนดให้เป็นพวกของราชาเฮ่อเหลียน เช่นนั้นก็ถือว่ามีโทษกบฏ อาจจะลากตระกูลฟู่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยได้กระทั่งว่า อ๋องเจวี้ยนเองก็จะโดนหางเลขไปด้วยแต่ว่า องค์จักรพรรดิก็คิดจะรับมืออ๋องเจวี้ยนชัดเจนขนาดนี้ เช่นนั้นถ้ามีโอกาสจับกุมขึ้นมาจะปล่อยไปได้อย่างไรกัน?มือปราบเจียงรู้ว่าลูกสาวตนเองชอบพระชายาอ๋องเจวี้ยนมาก ดังนั้นเขาจึงกังวลแทนพระชายาอ๋องเจวี้ยนขึ้นมา"่ท่านลุงโป๋จี ท่านกำลังพูดอะไรน่ะ? ท่านพ่อกับท่านแม่ข้าตอนนั้นไม่ได้จงใจทิ้งข้า แล้วก็..."ฟู่จาวเฟยชะงักไป เปลี่ยนคำใหม่ "ราชาเฮ่อเหลียนยังสังหารแม่เลี้ยงข
"ท่านลุงโป๋จี ได้ยินว่าท่านมาส่งจดหมายให้ข้าหรือ?"ฟู่จาวเฟยถามออกมาทันทีโป๋จีก่อนหน้านี้ก็ดีกับเขาพอควร แต่ตอนนี้พอมาคิด ก็น่าจะแค่คิดว่าเขาเป็นลูกชายของราชาเฮ่อเหลียน เมื่อครู่ตอนที่เขาเห็นสายตาของตนเอง ก็แตกต่างกับแต่ก่อนไปแล้วฟู่จาวเฟยตอนนี้ยังพิจารณาออกได้ว่า เมื่อครู่ตอนที่โป๋จีมองเห็นสายตาของเขา นั่นเป็นความตื่นเต้นดีใจที่ได้เห็นเป้าหมายยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้ที่เขาถามออกมาโป๋จีก็ยังพิจารณามองเขาอยู่"ใช่แล้ว องค์ชาย" โป๋จีใช้ภาษาเมืองหลวงที่ฟังแล้วแปลกๆ เรียกเขาว่าองค์ชาย จากนั้นก็มองไปทางอ๋องเจวี้ยนด้วยสัญชาตญาณ เปลี่ยนเป็นภาษาเฮ่อเหลียนว่า "ราชาได้รับจดหมายของเจ้า บอกว่าเจ้าหาพ่อแม่ที่แท้จริงพบแล้ว มีตัวตนฐานะใหม่ ดูพึงพอใจมาก"โป๋จีไม่รู้ว่าเซียวหลันยวนฟังภาษาเฮ่อเหลียนออกฟู่จิ้นเชินอันที่จริงก็ไม่รู้พอเขาฟังประโยคนี้ออกจึงมองไปทางเซียวหลันยวน ตอนนี้จะแปลให้เขาคงไม่สะดวกนัก ถ้าเขาพูดออกมาตอนนี้ เกรงว่าโป๋จีคงไม่พูดความจริงแล้วรอให้เขาพูดสิ่งที่ควรพูดให้จบก่อนแล้วกันคำนี้ของโป๋จี น่าจะพูดให้เขาฟังความหมายของคำพูดนี้ แสดงออกว่าราชาเฮ่อเหลียนรู้แล้วว่าฟู่จาวเฟยเ
ถ้าประตูวังปิดแล้ว คืนนี้น่าจะยังไม่ได้พบองค์จักรพรรดิเช่นนั้นพรุ่งนี้ช่วงประชุมเช้าก็น่าจะได้พบ ห่างจากตอนนี้ไม่ถึงสามชั่วยามเซียวหลันยวนไม่พูดอะไรอีกหลังจากเขาได้ข่าวไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องส่งคนไปคุ้มครองนอกวังแน่ เก๋อมู่กวงคืนนี้เข้าวังไม่ได้ ไม่ได้พบองค์จักรพรรดิ ดังนั้นจะต้องรอจนถึงประชุมเช้าแน่นอนช่วงหลายชั่วยามนี้เพียงพอแล้วพวกเขาได้ยินเสียงของฟู่จิ้นเชินแล้วฟู่จิ้นเชินกำลังพูดภาษาเฮ่อเหลียนอยู่"พี่เขย ท่านพ่อกำลังพูดว่า..." ฟู่จาวเฟยคิดจะแปลให้เซียวหลันยวนก่อนอย่างฉลาดเฉลียวรู้ความ แต่คิดไม่ถึงว่าเซียวหลันยวนจะโบกไม้โบกมือ"ข้าฟังออกน่ะ""อ๋า?"ฟู่จาวเฟยตกตะลึง"ลืมบอกไป ว่าข้าเป็นภาษาเฮ่อเหลียน" เซียวหลันยวนน้ำเสียงราบเรียบ ราวกับกำลังพูดเรื่องเล็กจ้อยที่ธรรมดามากๆ เรื่องหนึ่งหัวหน้าคุกเองก็เหลือบมองเขาอย่างตกตะลึง"ถ้าข้าน้อยจำไม่ผิดล่ะก็ ท่านอ๋องยังพูดภาษาหนานฉือได้ด้วย?""ใช่"หัวหน้าคุกกับฟู่จาวเฟยสบตากันผาดหนึ่ง ทั้งสองคนล้วนเห็นความตกตลึงในดวงตาของอีกฝ่ายอ๋องเจวี้ยนทำไมถึงพูดได้หลายภาษานัก?เขาไม่ใช่ว่าพักฟื้นอยู่ในยอดเขาโยวชิงตลอดหรือไรกัน? คนทั้ง