ฟู่จาวหนิงเขย่งปลายเท้ากระซิบข้างหูเขาเช่นนี้ ทำเอาใจเซียวหลันยวนร้อนวูบวาบขึ้นทันทีนี่เป็นครั้งแรกที่ฟู่จาวหนิงพูดแสดงความรู้สึกออกมาเช่นนี้ใช่ไหม?จะไม่เอาเขาไปวางไว้ด้านหลังคนอื่น หรือก็คือ ทุกเรื่องคือทำเพื่อเขาก่อนอย่างนั้นสินะ?"หนิงหนิง..."เขากุมมือฟู่จาวหนิงตอนนี้เอง มีสาวใช้คนหนึ่งวิ่งเข้ามา"นายท่าน คุณหนูจาวหนิง แขกสองคนนั้นจู่ๆ ก็ปวดหัวขึ้นมา พวกท่านรีบไปดูเถิด"ประโยคนี้ตัดบทความคิดที่พุ่งขึ้นมาของเซียวหลันยวนทันที เขาใจเย็นลงมาเรียบร้อยเมื่อครู่เขาซึ้งใจจนเกือบจะจูบฟู่จาวหนิงต่อหน้าท่านลุงกับผู้อาวุโสจี้ไปเสียแล้วใจของเสิ่นเสวียนกับฟู่จาวหนิงสั่นกึกขึ้นมาเพราะสาวใช้คนนี้รับผิดชอบส่งข้าวส่งน้ำให้กับฟู่จิ้นเชินและเสิ่นเชี่ยว ตอนนี้เป็นเวลาส่งกับข้าวให้พวกเขาพอดีดังนั้นแขกสองคนที่ว่าจึงเป็นพวกเขาแน่นอน"ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ อายวน สิ่งนี้ท่านเก็บเอาไว้ก่อน" ฟู่จาวหนิงส่งกล่องเถาอมแสงให้เซียวหลันยวน ยกชายกระโปรงแล้ววิ่งไปยังจุดที่อยู่พวกเขาอยู่ร่างกายของสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินและเสิ่นเชี่ยวนั้นแย่มากจริงๆร่างกายของพวกเขาสองคนเหมือนเปลือกร่างอ่อนแอที่ใช้พลังงานไ
ผู้อาวุโสจี้ตกตะลึงไปแล้ว"จาวหนิงใช้สองมือจับชีพจรพร้อมกันได้ด้วยหรื?"นี่มันหนึ่งใช้ใช้สองทางเลยนะเสิ่นเสวียนเก็บสายตาลง "ข้าเองก็เพิ่งเคยเห็นครั้งแรก"ดูท่าพวกเขาจะยังไม่เห็นความสามารถทั้งหมดของฟู่จาวหนิงนี่ไม่ใช่สิ่งที่หมอทั่วไปจะทำได้ฟู่จาวหนิงไม่มีเวลา เพราะฟู่จิ้นเชินแม้เขาจะให้นางไปช่วยเสิ่นเชี่ยว แต่จากที่นางเห็น พวกเขาสามีภรรยาตอนนี้วิกฤตพอๆ กันเซียวหลันยวนให้สืออีสือซานเข้ามา เสี่ยวชิ่นเองก็ตามเข้ามาแล้วพวกเขาล้วนรออยู่ด้านนอก รอให้ฟู่จาวหนิงเรียกแล้วค่อยเข้าช่วยเหลือฟู่จาวหนิงหลังจากจับชีพจรสีหน้าก็ขรึมลงเล็กน้อยเสิ่นเสวียนคอยสังเกตสีหน้านางตลอด พอเห็นเช่นนี้ใจก็ขรึมลงเช่นกัน"เสี่ยวชิ่น หยิบกล่องยาของข้ามา""เจ้าค่ะ"ช่วงนี้ที่เสี่ยวชิ่นติดตามฟู่จาวหนิง ทำงานได้คล่องแคล่วขึ้นเยอะ และส่วนใหญ่คือตามจังหวะของนางทันแล้ว หลังจากหอกล่องยาเข้ามาก็วางไว้ข้างเตียงแล้วเปิดออก หยิบกระเป๋าเข็มออกมาเปิด"สืออีสือซาน""ขอรับ""ยกแคร่นิ่มเข้ามา วางไว้ข้างเตียง จัดเขาให้นอนบนแคร่นิ่ม""ขอรับ!" สืออีกับสือซานเองก็รีบเข้ามา รับคำสั่งแล้วทำตามแคร่นิ่มถูกย้ายมาหน้าเต
ถ้าจะบอกว่ากังวล ก็มีอยู่จุดเดียว"คนเป็นอย่างไรบ้าง?" เขาถามขึ้นเสิ่นเสวียนมองเขา "ดูไม่ค่อยดี สลบไปกันหมดแล้ว จาวหนิงกำลังรักษาอยู่ด้านใน"เซียวหลันยวนนิ่งงันไปเดิมทีเขาคิดจะพูดอะไรที่น่าฟังหน่อย อย่างเช่น "จาวหนิงจะรักษาพวกเขาได้" แต่คำพูดก็ติดอยู่ที่มุมปากไม่ยอมพูดออกมาเสิ่นเสวียนก็ไม่ได้ทำให้เขาลำบากใจ"บนตัวพวกเขามีความลับมากมายจริงๆ""อืม" เซียวหลันยวนขานรับคำหนึ่ง ยืนรอที่นี่พร้อมกับพวกเขา"อ๋องเจวี้ยน ไม่ว่าจะอย่างไร คนก็ต้องช่วยกลับมาก่อน ความจริงใจอดีตจึงจะตรวจสอบได้ชัดเจน" ผู้อาวุโสจี้เตือนเสียงต่ำขึ้นมาคำหนึ่งเขายังคิดว่าเซียวหลันยวนอาจจะกำลังคิด ว่าสองคนนี้ถือเป็นศัตรูคู่แค้นเขา รักษาไม่ได้ก็ช่างปะไรเซียวหลันยวนชะงักไปครู่หนึ่ง ตอบกลับมา "ข้ากำลังคิด ว่าหนิงหนิงหลังจากกลับมายังไม่ได้ดื่มน้ำเลย ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่ได้กินข้าวด้วย"นางตอนนี้คงทั้งกระหายทั้งหิวทั้งเหนื่อย ถึงอย่างไรเดิมทีก็เพิ่งจะไปรักษาเหอเซี่ยนอันกลับมานี่นาคำพูดนี้ของเขาทำให้เสิ่นเสวียนอดหันมองเขาไม่ได้"ตอนนี้เจ้ากำลังเป็นห่วงจาวหนิงว่าจะหิวหรือ?""ใช่แล้ว"เรื่องอื่นเขาไม่คิดเลยสำห
เซียวหลันยวนได้ยินการเคลื่อนไหวและลมหายใจด้านในอีกครั้งแล้วราวกับห้องเงียบว่างจู่ๆ ก็มีคนโผล่ออกมาความรู้สึกนี้แปลกประหลาดเกินไป เห็นๆ อยู่ว่าจาวหนิงกับสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินก็อยู่ข้างในมาตลอด"ข้าแค่รอจนร้อนใจน่ะ"เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นช้าๆ ท่ามกลางสายตาสอบถอมของเสิ่นเสวียนเสิ่นเสวียนไม่ถามอะไรอีกฟู่จาวหนิงมองผลการตรวจ สีหน้าปั้นยากขึ้นมาการตรวจสอบก่อนหน้านี้พลาดไปแล้วครั้งนี้ใช้เครื่องมือ ในที่สุดจึงพบว่าส่วนสมองของฟู่จิ้นเชินกับเสิ่นเชี่ยวล้วนมีสิ่งของแปลกประหลาดอยู่ชิ้นหนึ่งยาวประมาณครึ่งนิ้ว หนากว่าเข็มฝังของนางหลายเท่ามองไม่ออกชั่วคราวว่าเป็นอะไรแต่ตรงจุดนั้นคือพื้นที่ความทรงจำ นางตอนนี้สงสัยขึ้นมาแล้ว ที่ความทรงจำของทั้งสองคนสับสนอาจจะเกี่ยวข้องกับของสิ่งนี้ต้องเอามันออกมาฟู่จาวหนิงจัดการพวกเขาจนเรียบร้อย ตอนนี้จึงให้สืออีกับสือซานเปิดประตู"ท่านลุง!"เสิ่นเสวียนได้ยินนางตะโกน รีบสาวเท้าก้าวใหญ่ทันที"เป็นอย่างไรบ้าง" ใจของเขาเองก็แขวนขึ้นมาแล้ว กลัวฟู่จาวหนิงจะบอกว่ารักษาไม่ได้แล้ว"หนิงหนิง ข้าเข้าไปได้ไหม?" เซียวหลันยวนถามขึ้นนอกประตูถึงอย่างไรความสั
ฟู่จาวหนิงล้วนรู้สึกแปลกประหลาดเพราะอะไร? นี่ไม่ใช่เรื่องที่เขาร้อนรนที่สุดหรือ?เขารอมาหลายปีแล้ว อยากจะถามสถานการณ์ในครั้งนั้นให้ชัดเจน"เจ้าเหนื่อยแล้ว แถมหิวอีก ไปกินข้าวแล้วพักผ่อนสักหน่อยเถอะ" เซียวหลันยวนมองฟู่จาวหนิง "ตอนนี้ถ้ายังไม่ดึงออกพวกเขาจะตายไหม?""ไม่หรอก เมื่อครู่ช่วยเอาไว้แล้ว...""ถ้าอย่างนั้นก็ฟังข้าเถอะ"เซียวหลันยวนยื่นมามาดึงนาง "พรุ่งนี้ตื่นมาแล้วค่อยดึงออกก็ได้ ไม่เช่นนั้น คืนนี้เจ้าคงไม่ได้พักแน่"เมื่อคืนนางก็อยู่จนดึกดื่นเพื่อเตรียมตัวรักษาเหอเซี่ยนอัน ตอนนี้อดนอนต่อไม่ได้แล้วใจของเสิ่นเสวียนเองก็ปล่อยวางลงมาตามคำพูดเซียวหลันยวนเช่นกันเขาพยักหน้า "อายวนพูดถูกต้อง เจ้าจะเหนื่อยจนเป็นลมไม่ได้ ไหนๆ ตอนนี้ก็ช่วยพวกเขากลับมาได้แล้วก็ให้พวกเขาพักผ่อนก่อนเถอะ เจ้าเองก็ต้องกินข้าวนอนพักผ่อนด้วย"ผู้อาวุโสจี้เองก็มองเซียวหลันยวนอย่างเห็นด้วยอ๋องเจวี้ยนทำให้เขารู้สึกเกินคาดจริงๆ ต่อหน้าศัตรูเช่นนี้ แต่กลับวางเรื่องการค้นหาความจริงหลายปีนั้นไว้ก่อน แล้วหันไปห่วงสุขภาพของจาวหนิงแทนเขาหวั่นไหวต่อจาวหนิงแล้วกระมัง?แต่ก็หวังว่าเรื่องในครั้งนั้นจะไม่เกี่
เสิ่นเชี่ยวมองมาทางเสิ่นเสวียนสายตาของนางดูสับสน"ท่านเสิ่น มีแต่คนบอกกันว่าท่านเป็นคนที่ยอดเยี่ยมมาก แต่ว่าท่านอยู่ต้าชื่อ แล้วมีความสัมพันธ์อะไรกับอ๋องเจวี้ยนหรือ?""ความสัมพันธ์ของข้ากับอ๋องเจวี้ยนทำให้พวกท่านกังวลหรือ?" เสิ่นเสวียนถาม"ไม่ใช่เช่นนั้น"เรื่องนี้อันที่จริงไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพวกเขาเท่าไรเสิ่นเชี่ยวรู้สึกว่าเวลาตนเองมองเสิ่นเสวียน มีความรู้สึกชิดเชื้ออย่างประหลาด แต่อ๋องเจวี้ยนกับนางนั้นเป็นศัตรูกัน เพราะตัวนางเองก็ไม่รู้ว่าในวังเมื่อตอนนั้นนางได้วางยาพิษใส่อ๋องเจวี้ยนหรือเปล่าถ้าหากนางวางยาจริง เช่นนั้นอ๋องเจวี้ยนก็น่าจะมองนางเป็นศัตรูไหมแต่ว่านางเองก็ไม่อยากกลายเป็นศัตรูกับเสิ่นเสวียน"ตอนนี้ท่านรู้สึกอย่างไรบ้าง?""ยังมึนหัวนิดหน่อย""ก่อนหน้านี้ทำไมจึงปวดหัวหรือ?"เสิ่นเชี่ยวเดิมทีไม่อยากตอบ นางกับสามีมักจะปวดหัวอย่างประหลาดอยู่เสมอ และไม่รู้ว่าเพราะอะไร การกระตุ้นอย่างประหลาดทำให้พวกเขาปวดหัวฉับพลันเสมอ"เมื่อครู่มีคนคุยเล่นกันด้านนอก" เสิ่นเชี่ยวขมวดคิ้ว คิดถึงเรื่องที่นางได้ยินก่อนหน้านี้ "น่าจะเป็นคนใช้สองคน พวกนางบอกว่าหมอเทวดาอะไรสักอย่างมาจา
ทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้จักคุ้นเคยกับเสิ่นเสวียนแท้ๆ นางพูดเช่นนี้กลับดูเหมือนเป็นห่วงเขามากอย่างไรอย่างนั้นนี่จะทำให้เสิ่นเสวียนเข้าใจผิดไหมนะ?สามีของนางยังนอนอยู่ แล้วนางทำเช่นนี้...แต่นางก็ไม่ได้มีความรู้สึกเสน่หาอะไรกับเสิ่นเสวียนนะ นางก็แค่ ก็แค่...เสิ่นเชี่ยวในสมองก็ตื้อขึ้นมา ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าตนเองมีความคิดอะไรเสิ่นเสวียนพอได้ยินว่านางเป็นห่วง ในใจก็อบอุ่นขึ้นมาสมแล้วที่เป็นน้องสาว ตอนนี้ยังไม่รู้ความสัมพันธ์ของพวกเขา แต่เสิ่นเชี่ยวกลับยังเป็นห่วงเขา"ไม่ต้องรีบ ความลำบากอะไรนั่นผ่านไปแล้ว หลังจากนี้จะดีขึ้นมาเอง ท่านเองก็ด้วย"เขาเห็นคิ้วของฟู่จิ้นเชินกระตุกขึ้นมาบ้างแล้วและตามคาด ฟู่จิ้นเชินเองก็ตื่นขึ้นแล้ว"ฮูหยิน!"พอเขาตื่นก็ลุกขึ้นนั่งทันที มองหาฮูหยิน"คุณ ข้าอยู่นี่"เสิ่นเชี่ยวรีบโถมไปอยู่ข้างตัวเขา กุมมือของเขาไว้ฟู่จิ้นเชินถอนใจโล่ง"ตื่นขึ้นมาก็ดีแล้ว รีบไปกินข้าวเถอะ"เสิ่นเสวียนพอเห็นพวกเขาตื่นมาแล้วเหมือนยังไม่เป็นไรชั่วคราว ก็ผ่อนใจโล่งออกมาฟู่จาวหนิงเคยบอกแล้ว พวกเขาตอนนี้ต้องกินข้าวดื่มน้ำแกงให้ดีดี บำรุงร่างกายขึ้นมาหน่อย พยายามดึงกำล
ตอนบ่าย ฟู่จาวหนิงไปยังจวนผิงเหอกงครั้งนี้องค์หญิงใหญ่ไม่ปรากฏตัวเลยผิงเหอกงพาคุณหนูรองเหอออกมาต้อนรับนาง"เสี่ยวอันเมื่อวานหลังจากตื่นมาก็เอาแต่ถามพวกข้า ว่าขาของเขายังมีแมลงอยู่ไหม หรือว่ามีไข่แมลงอีกไหม พวกเราเองก็บอกไม่ได้"คุณหนูรองเหอดูจะเหนื่อยหมดแรง รู้สึกห่อเหี่ยวจนไม่อยากทำอะไร สีหน้าเองก็ไม่ค่อยดีนัก"เมื่อวานตอนเย็ฯข้ากินข้าวไม่ลง พอเห็นอาหารก็คิดถึงเจ้าพวกนั้นที่มุดออกจากขาของเสี่ยวอัน...โอ๊ก!"คุณหนูรองเหอคิดว่าวันนี้จะไม่เป็นไรแล้ว แต่พอพูดถึงเรื่องนี้กับฟู่จาวหนิง นางก็อดสำรอกแห้งออกมาไม่ได้"เอาล่ะเอาล่ะ วันนี้เจ้าก็อยู่ห่างๆ หน่อย ไม่ต้องดูแล้ว" ผิงเหอกงรู้สึกพูดไม่ออกแต่ว่าฟู่จาวหนิงเห็นสีหน้าของเขาก็ไม่ค่อยดีเท่าไรนัก"ข้า ข้าเองก็กินไม่ลงเหมือนกัน" ผิงเหอกงสารภาพออกมาท่ามกลางสายตาของฟู่จาวหนิง"อันที่จริงก็เข้าใจได้"ฟู่จาวหนิงเองก็ไม่คิดว่าอาการเช่นนี้ของพวกเขาดูอ่อนไหวเกินเหตถหรืออ่อนแอเกินไปถึงอย่างไรภาพแบบนั้นมันก็น่าขยะแขยงมากผิงเหอกงมองนางอย่างนับถือ"หมอเทวดาฟู่ช่างกล้าหาญเกินใครจริงๆ"แม่นางที่หน้าตาสะสวยเช่นนี้อย่างฟู่จาวหนิง ตอนจัดการเ