"ฮูหยิน พวกเราออกไปก่อนเถอะ ออกไปกัน" ผิเหอกงพอเห็นนางเหมือนคิดจะพูดอะไร ก็รีบปลอบนางแล้วดึงออกไปเขาเองก็ไม่กล้ามองเหมือนกันคุณหนูรองเหอเองก็หน้าเปลี่ยนสี "ใช้มีดกรีดไปตรงๆ เลยหรือ?"ซู๊ดเหอเซี่ยนอันที่เดิมทียังไม่ค่อยกลัวแต่พอได้ยินคำพูดของพี่สาวก็อดตัวสั่นขึ้นมาไม่ได้"วางใจเถอะ ไม่เจ็บมากหรอก ข้าจะทำให้ผิวหนังชาเสียก่อน"ฟู่จาวหนิงหยิบผ้าฝ้ายขาวผืนหนึ่งออกมา เทของเหลวที่เหมือนกับน้ำลงไปเล็กน้อย จากนั้นก็มาทาบนขาของเหอเซี่ยนอัน"เย็นดีจัง" เหอเซี่ยนอันเอ่ยขึ้น"รอสักครู่"ผ่านไปพักหนึ่ง ฟู่จาวหนิงจึงใช้คมมีดกรีดเบาๆ ไปที่ขาของเขา"เอ๋? ไม่รู้สึกอะไรเลย!"เหอเซี่ยนอันตกตะลึงอย่างมากฟู่จาวหนิงกลับรู้สึกเสียดายถ้าหากเข็มเจาะเลือดที่ไว้ใช้เจาะของนางเอาออกมาได้ล่ะก็ จะต้องมาใช้วิธีการแบบนี้ทำไม ใช้มีดหรือ? โบราณของแท้แต่ก็ไม่มีทางเลือกคุณหนูรองเหอพอเห็นนางลงมีดจริงๆ ก็หันหน้าออกไป ไม่กล้าจ้องแล้วแต่เหอเซี่ยนอันกลับจ้องเขม็งฟู่จาวหนิงเอาเลือดออกมาเล็กน้อยจากนั้นก็โรยผงยาลงไป เลือดแข็งตัวอย่างรวดเร็วแผลเองก็ไม่ใหญ่ด้วยนางหยิบขวดเล็กลุกขึ้นยืน "สิ่งนี้ข้าต้องวาง
น่าจะเพราะขาพิการมาแล้วปีครึ่ง ตอนนี้จึงรู้สึกว่า จะเป็นอย่างไรก็คงไม่แย่ไปกว่านี้แล้ว"ต่อให้ท่านจะบอกว่าขานี้รักษาไม่ได้ ข้าจะยืนไม่ได้อีกทั้งชีวิต ข้า ข้าเองก็ยอมรับแล้ว!"หลังจากเหอเซี่ยนอันพูดคำนี้ ดวงตาก็แดงรื้น ร้องไห้จ้าขึ้นมาฟู่จาวหนิงทั้งโมโหทั้งขบขันพูดว่ากล้าหาญมาก แต่นี่ร้องไห้ขึ้นในพริบตาเลยนะนี่มันกล้าหาญหรือว่าไม่กล้าหาญกันเนี่ย?"ข้าบอกตอนไหนว่ารักษาไม่ได้?""อึก!"เสียงสะอื้นของเหอเซี่ยนอันชะงักไปทันที แต่ก็เก็บไม่อยู่จนส่งเสียงอึกออกมา"รักษาได้ ที่ข้าอยากบอกคือสาเหตุที่ทำให้ขาของเจ้าพิการน่ะ มันน่ากลัวมาก บางทีบอกแล้วมันดูเวทนาอยู่ แต่ข้ารักษาได้"คำพูดของฟู่จาวหนิง ทำให้พวกเขาถลึงตาโตมองนาง"ไม่เข้าใจหรือ?""เข้าใจแล้ว ท่านบอกว่าขาของข้าท่านรักษาได้!" น้ำตาของเหอเซี่ยนอันอาบลงมาอีกครั้งฟู่จาวหนิงพอได้ยินเขาพูดเช่นนี้ก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้นี่ก็จับจุดสำคัญได้จริงๆ สินะ"ใช่ เจ้าไม่ได้ฟังผิด ข้าต้องยืนยันกับเจ้าก่อน ขาของเจ้าข้ารักษาได้ แต่ก่อนที่จะรักษา พวกเจ้าน่าจะอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับขานี้กันแน่กระมัง?"หลังจากถูกฟู่จาวหนิงย้ำมาหลายครั้งว่
แต่ว่าผิงเหอกงอยู่ที่นี่ก็ดีเหมือนกัน"ในเมื่อพวกเจ้าอยากรู้ เช่นนั้นข้าก็จะพูดความจริงล่ะนะ"ผิงเหอกงมองนางอย่างตึงเครียด "หมอเทวดาฟู่ ท่านพูดเถอะ""ในขาของเหอเซี่ยนอัน มีแมลงพิษชอนไชเข้าไป ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากเวลาผ่านมากว่าปีครึ่งแล้ว แต่ว่าแมลงพิษเหล่านี้ก็ยังมีชีวิตอยู่ กระทั่งยังวางไข่ในเลือดของเขาด้วยซ้ำ""อะไรนะ?!"เสียงขิงผิงเหอกงพุ่งขึ้นสูง สีหน้าเปลี่ยนไปแล้ว"แมลง..."เหอเซี่ยนอันหน้าซีด ตาเหลือกเป็นลมไปเรียบร้อยคุณหนูรองเหอมองไปที่ขาของเขา ถอยหลังออกไปด้วยสัญชาตญาณ กระทั่งสำรอกแห้งออกมา"โอ๊ก..."ฟู่จาวหนิงพูดไม่ออกนางยังคิดว่าเหอเซี่ยนอันที่พูดอย่างกล้าหาญจะพอรับไหวอยู่ ใครจะคิดว่าเจ้าเด็กนี่กลับเป็นลมล้มตึงไปแล้วนางมองไปทางผิงเหอกง "พิษของแมลงพิษนี้มีบทบาททำให้เส้นประสาทชา ยิ่งไปกว่านั้นถ้าผ่านไปนานจะกัดกร่อนกระดูก ทำให้กระดูกกรอบจนหลุดร่อน พอปล่อยไปนานเข้า กระดูกขาของเขาก็จะพังหมดยับเยิน ถึงตอนนั้นสองขาก็จะพิการไปจริงๆ จะช่วยอย่างไรก็ไม่ได้แล้ว"ผิงเหอกงเสียงสั่นเทา"หรือว่า หรือว่าจะเป็นแมลงกระดูกตาย?""ท่านเคยได้ยินมาหรือ?""พวกนักล่าบางส่วนของต้
"หมอเทวดาฟู่ สิ่งนี้คืออะไรหรือ?""ท่อนกระดูกหมูน่ะ" ฟู่จาวหนิงไม่เปลี่ยนสีหน้าผิงเหอกงถลึงตาอ้าปากค้างเขานึกไม่ถึงเลยว่ารักษาโรคจะต้องใช้กระดูกหมู "แล้วบนกระดูกนั่น...""เป็นยาลับที่ข้าทำขึ้นมา มีแรงดึงดูดเจ้าแมลงพิษพวกนั้นอย่างมาก"นางกรีดขาของเหอเซียนอันออกเป็นแผล แล้วมัดกระดูกหมูชุบยาชิ้นนั้นเอาไว้ที่ข้างๆ แผล จากนั้นก็หยิบเข็มเงินออกมา เริ่มปักลงไปบนขาของเหอเซี่ยนอันพอแทงเข็มเหล่านี้ ก็สามารถเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และยังกระตุ้นให้เส้นประสาทตื่นตัวด้วยจากการปักเข็มลงไปไม่น้อยของนาง แมลงพิษที่อยู่ในขาของเหอเซี่ยนอันก็ไม่อาจอยู่นิ่งได้อีกแล้ว จะถูกบีบให้ขยับตัวขั้นตอนนี้เหอเซี่ยนอันต้องรู้สึกแย่มากแน่นอนตอนที่ชอนไช ยาบนกระดูกหมูนั่นก็จะสำแดงบทบาท แผ่กลิ่นประหลาดที่สามารถดึงดูดแมลงพิษออกมาผิงเหอกงกับคุณหนูรองเหอทั้งสองคนล้วนสีหน้าตึงเครียด กำหมัดแน่น จ้องมองบาดแผลแบบทั้งกลัวทั้งเครียดผ่านไปครู่หนึ่งก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวแต่พวกเขาก็เห็นฟู่จาวหนิงยังคงแทงเข็มต่อไปอย่างสงบ จึงกลั้นหายใจรอต่อไปในที่สุด ตำแหน่งปากแผลก็มีจุดสีแดงดำขยับขยุกขยิกขึ้นมาผิงเหอกงเกือบจ
เมื่อครู่ถือโอกาสช่องว่างที่ผิงเหอกงไปพักหายใจ คุณหนูรองเหอเองก็ไปล้างปากพักผ่อน ที่นี่ไม่มีคน นางจึงใช้อุปกรณ์มาแสกนขาของเหอเซี่ยนอัน และพบว่าไม่มีแมลงเป็นอยู่อีกแล้ว นางจึงถอนใจโล่งออกมาถ้าไม่มีอุปกรณ์นี้ นางเองก็ไม่มีวิธียืนยันว่าไม่มีแมลงเหลือรอดอยู่สักตัวแล้วเหมือนกันตอนนี้พอยืนยันได้ก็วางใจพอเสร็จเรื่อนี้ นางก็จะกลับแล้ว"หมอเทวดาฟู่ พรุ่งนี้ท่านต้องมาอีกนะ!" ผิงเหอกงมาส่งฟู่จาวหนิงถึงหน้าประตูด้วยตนเอง โค้งคารวะให้หลายครั้ง กลัวว่าท่าทีจะไม่ดีพอ จนฟู่จาวหนิงไม่กลับมาอีก"ข้าต้องกรรับไปสกัดยาให้ใหม่ พรุ่งนี้ตอนบ่ายจะมาอีกครั้ง""ได้เลยได้เลย"ผิงเหอกงหยิบกล่องใบหนึ่งมาจากมือของคนใช้ข้างๆ ประเคนสองมือให้กับฟู่จาวหนิง "นี่คือน้ำใจส่วนหนึ่งของข้า วันนี้ลำบากหมอเทวดาฟู่เสียแล้ว วางใจเถิด เรื่องค่ารักษาถึงเวลาข้าจะมอบให้แน่นอน""นี่คืออะไรหรือ?" ไม่ใช่ค่ารักษาหรอกหรือ?"ลูกเขยคนโตที่ไม่ได้เรื่องของข้าคนนั้นประจำการอยู่ที่เมืองหมาน ทางนั้นมีวัตถุดิบยาบางส่วนที่เมืองหลวงจักรพรรดิทางนี้ไม่มี บอกว่าให้เอาไว้ต้มดื่ม ดีต่อสตรีเพศ พวกเราเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่อง ท่านเป็นหมอเทวดา สู้
เสิ่นเสวียนพอได้ยินคำพูดฟู่จาวหนิงก็ชะงักตะลึงไป"นั่นน่าจะเป็นชุดใหม่ที่ส่งไปประจำการเมื่อครึ่งปีก่อน ช่วงครึ่งปีนี้เพราะอาการป่วยของไท่ไท่อาวุโส แม้ข้าจะรู้ว่าคนที่ประจำการเมืองหมานเปลี่ยนไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้ไปหาข้อมูลอย่างละเอียด"เรื่องนี้ภายหลังเขาเองก็จะไปจัดการเช่นกันแต่เขาก็คิดไม่ถึง ว่าเขายังไม่ทันจะได้ลงมือ ฟู่จาวหนิงทางนี้ก็เหมือนจะหาเส้นสายได้อย่างบังเอิญเข้าเสียแล้วแม่ทัพคนใหม่ที่ส่งไปประจำการยังเมืองหมาน กลับเป็นพี่เขยใหญ่ของเหอเซี่ยนอันเรื่องนี้มีเรื่องบังเอิญแบบนี้ด้วยหรือ?สายตาที่มองฟู่จาวหนิงของผู้อาวุโสจี้ยิ่งเปล่งประกาย"เมื่อครู่ก็พูดอยู่ ว่าโชคของศิษย์รักของข้าดีมากเป็นพิเศษ เป็นคนที่มีโชควาสนา! พวกเจ้าดูเอาก็แล้วกัน แค่อยู่กับนางก็ได้รับโชคติดมาตามตัวแล้วใช่ไหมล่ะ?"นางไปรักษาเหอเซี่ยนอัน ก็ทำให้ได้เถาอมแสงมาให้เซียวหลันยวน สำคัญอย่างมากสำหรับเซียวหลันยวนตอนนี้ แผลเป็นบนหน้าเขาเองก็จะหายเร็วขึ้นด้วยส่วนเสิ่นเสวียนทางนี้ แม้เขาจะไม่รู้ว่าอะไรที่เมืองหมานนั่นใช้อย่างไร แต่ตอนนี้พอฟังแล้ว ก็เหมือนสามารถใช้เส้นสายอย่างเหอเซี่ยนอันได้พอดีเสิ่นเสวียนเองก็
ฟู่จาวหนิงเขย่งปลายเท้ากระซิบข้างหูเขาเช่นนี้ ทำเอาใจเซียวหลันยวนร้อนวูบวาบขึ้นทันทีนี่เป็นครั้งแรกที่ฟู่จาวหนิงพูดแสดงความรู้สึกออกมาเช่นนี้ใช่ไหม?จะไม่เอาเขาไปวางไว้ด้านหลังคนอื่น หรือก็คือ ทุกเรื่องคือทำเพื่อเขาก่อนอย่างนั้นสินะ?"หนิงหนิง..."เขากุมมือฟู่จาวหนิงตอนนี้เอง มีสาวใช้คนหนึ่งวิ่งเข้ามา"นายท่าน คุณหนูจาวหนิง แขกสองคนนั้นจู่ๆ ก็ปวดหัวขึ้นมา พวกท่านรีบไปดูเถิด"ประโยคนี้ตัดบทความคิดที่พุ่งขึ้นมาของเซียวหลันยวนทันที เขาใจเย็นลงมาเรียบร้อยเมื่อครู่เขาซึ้งใจจนเกือบจะจูบฟู่จาวหนิงต่อหน้าท่านลุงกับผู้อาวุโสจี้ไปเสียแล้วใจของเสิ่นเสวียนกับฟู่จาวหนิงสั่นกึกขึ้นมาเพราะสาวใช้คนนี้รับผิดชอบส่งข้าวส่งน้ำให้กับฟู่จิ้นเชินและเสิ่นเชี่ยว ตอนนี้เป็นเวลาส่งกับข้าวให้พวกเขาพอดีดังนั้นแขกสองคนที่ว่าจึงเป็นพวกเขาแน่นอน"ข้าจะไปเดี๋ยวนี้ อายวน สิ่งนี้ท่านเก็บเอาไว้ก่อน" ฟู่จาวหนิงส่งกล่องเถาอมแสงให้เซียวหลันยวน ยกชายกระโปรงแล้ววิ่งไปยังจุดที่อยู่พวกเขาอยู่ร่างกายของสามีภรรยาฟู่จิ้นเชินและเสิ่นเชี่ยวนั้นแย่มากจริงๆร่างกายของพวกเขาสองคนเหมือนเปลือกร่างอ่อนแอที่ใช้พลังงานไ
ผู้อาวุโสจี้ตกตะลึงไปแล้ว"จาวหนิงใช้สองมือจับชีพจรพร้อมกันได้ด้วยหรื?"นี่มันหนึ่งใช้ใช้สองทางเลยนะเสิ่นเสวียนเก็บสายตาลง "ข้าเองก็เพิ่งเคยเห็นครั้งแรก"ดูท่าพวกเขาจะยังไม่เห็นความสามารถทั้งหมดของฟู่จาวหนิงนี่ไม่ใช่สิ่งที่หมอทั่วไปจะทำได้ฟู่จาวหนิงไม่มีเวลา เพราะฟู่จิ้นเชินแม้เขาจะให้นางไปช่วยเสิ่นเชี่ยว แต่จากที่นางเห็น พวกเขาสามีภรรยาตอนนี้วิกฤตพอๆ กันเซียวหลันยวนให้สืออีสือซานเข้ามา เสี่ยวชิ่นเองก็ตามเข้ามาแล้วพวกเขาล้วนรออยู่ด้านนอก รอให้ฟู่จาวหนิงเรียกแล้วค่อยเข้าช่วยเหลือฟู่จาวหนิงหลังจากจับชีพจรสีหน้าก็ขรึมลงเล็กน้อยเสิ่นเสวียนคอยสังเกตสีหน้านางตลอด พอเห็นเช่นนี้ใจก็ขรึมลงเช่นกัน"เสี่ยวชิ่น หยิบกล่องยาของข้ามา""เจ้าค่ะ"ช่วงนี้ที่เสี่ยวชิ่นติดตามฟู่จาวหนิง ทำงานได้คล่องแคล่วขึ้นเยอะ และส่วนใหญ่คือตามจังหวะของนางทันแล้ว หลังจากหอกล่องยาเข้ามาก็วางไว้ข้างเตียงแล้วเปิดออก หยิบกระเป๋าเข็มออกมาเปิด"สืออีสือซาน""ขอรับ""ยกแคร่นิ่มเข้ามา วางไว้ข้างเตียง จัดเขาให้นอนบนแคร่นิ่ม""ขอรับ!" สืออีกับสือซานเองก็รีบเข้ามา รับคำสั่งแล้วทำตามแคร่นิ่มถูกย้ายมาหน้าเต