"ท่านลุง ก่อนหน้านี้ที่ข้าคิดถึงองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น แต่ก็ไม่เคยเจอกับนางเลย แค่เอามาเป็นเงื่อนไขพิจารณาเท่านั้น ถ้าหากไม่มีจาวหนิง บางทีต่อให้แต่งงานเพื่อผลประโยชน์กันจริงๆ อย่างมากสุดก็แค่เคารพกันและกันเหมือนแขก คล้ายกับคำที่ประชาชนพูดกันประโยคนั้น อยู่กันแบบไม่มีความรัก""เจ้าเคยคิดเรื่องจะอยู่ด้วยกันแบบไม่มีความรักกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นด้วยหรือ?"เสิ่นเสวียนฟังประโยคนี้แล้วเสียดหูหน่อยๆ ขมวดคิ้วขึ้นมา สายตาที่เขามองเซียวหลันยวนเริ่มไม่สบอารมณ์แล้วเซียวหลันยวนชะงักไป"นี่ก็แค่สมมติ เป็นความคิดที่ยังไม่เป็นผู้ใหญ่ก่อนที่จะได้มาเจอจาวหนิงเท่านั้น""หลังจากนี้แค่ความคิดก็ไม่ควรมี ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือไม่เป็นผู้ใหญ่ก็ตาม""ขอรับ แน่นอนว่าจะไม่มี"เซียวหลันยวนยังคิดว่าเสิ่นเสวียนจะพูดคุยเป็นกันเองระหว่างลูกผู้ชายกับเขา แต่ผลคือตอนนี้ เขายังยืนอยู่ในตำแหน่งลุงของจาวหนิงแล้วหันมาคุยกับเขาโชคดีที่ไม่มีความคิดอื่นใด"ไม่ปิดบังท่านลุง สำหรับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก่อนนห้านี้ ต่อให้นางจะมีเงื่อนไขที่ดีขนาดนั้น ข้าก็ไม่มีความคิดที่คิดจะแต่งงานกับนางจริงๆ เพียงแต่ตอนที่คิดว่าตนเองต้องมีช
เซียวหลันยวนคิดถึงสีหน้าฟู่จาวหนิงตอนที่พูดถึงเรื่องนี้ จู่ๆ ก็อยากหัวเราะขึ้นมาไม่รู้เพราะอะไร เขารู้สึกว่าปฏิกิริยาของฟู่จาวหนิงดูน่ารักดีเพราะเล่ห์เหลี่ยมเล็กๆ ของนางจุดนั้น ตอนที่เขาได้ยินนางพูดก็จับได้หน่อยๆ แล้วอย่างเช่นว่า หลังจากที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเดินออกไห ก็ยังให้เหอเซี่ยนอันมองเห็นข้อมือของนางทั้งสองคนถูกเหอเซี่ยนอันตบไปที่มือ แต่ปฏิกิริยาของทั้งสองคนนั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจนเช่นนี้ทำให้เหอเซี่ยนอันยิ่งรู้สึกไม่ดีกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น"เพราะว่าฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็เป็นคนที่ชอบยุ่งเรื่องคนอื่นชอบซุบซิบนินทาเหมือนกัน อย่างการรังสรรค์โชคที่ลือกันขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น กระทั่งพระพี่นางก็ยังอยากให้นางมาลูบขาเหอเซี่ยนอัน ใช้วิธีนี้เพื่ออวยพรให้กับเหอเซี่ยนอันเลย แต่จาวหนิงกลับพูดผ่านๆ เรื่องนี้ไปแค่ประโยคเดียว ท่านไม่คิดว่ามันแปลกหรือ?"เขาพูดกับเสิ่นเสวียนเสิ่นเสวียนเลิกคิ้ว หัวเราะขึ้นมา"เอาล่ะ ข้าเข้าใจแล้ว เจ้ากลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ""ท่านลุง เช่นนั้นข้าไปหาจาวหนิงนะ""ไปเถอะ"เสิ่นเสวียนมองเซียวหลันยวนออกไป ปิดประตูให้เขา เอนหลังพิงเก้าอี้เขาก้มหน้าลง
"ดังนั้นข้าจึงวิเคราะห์ขั้นแรกที่ลมหนาวครั้งนั้น อันที่จริงมันไม่ใช่ลมหนาว แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจากบาดแผลที่ขา"ฟู่จาวหนิงไม่พูดต่อ แต่เซียวหลันยวนมองคำอธิบายการตรวจครั้งนี้ นางตรวจเจอคุณสมบัติพิษในร่างกายเหอเซี่ยนอันบางส่วน แต่จากการฝังเข็มและตรวจอีกครั้งก็ตัดเรื่องความเป็นได้ที่จะติดพิษทางอาหารออก ที่หัวใจปอดกระเพาะอาหารก็ไม่มีพิษอยู่ แล้วตอนแทงเข็มที่ขาก็มีปัญหาขึ้นมาด้วยแล้วก็เส้นเลือดที่ขาของเขาหนามาก ปูดนูนเป็นเส้นๆ ขึ้นมานอกผิวหนังอย่างเห็นได้ชัด สีเองก็ผิดปกติตอนที่ฟู่จาวหนิงฝังเข็มก็แอบใช้เข็มเจาะเลือดดึงเลือมาหลอดหนึ่งเมื่อครู่นางเอาเลือดเหล่านั้นไปตรวจสอบ ด้านในตรวจพบของที่น่าจะเป็นเหมือนไข่แมลงอยู่ดังนั้น เป็นไปได้มากที่จะเป็นสาเหตนี้แน่นอน นางจึงเตรียมตัวว่า พรุ่งนี้จะไปตรวจอีกครั้งหนึ่ง จากนั้นค่อยยืนยันการรักษาเซียวหลันยวนมองอย่างประหลาดใจ"แผนรักษาของเจ้านี่ ได้ให้คนของจวนผิงเหอกงดูแล้วหรือยัง?""ทำไมหรือ ถ้าหากให้พวกเขาดูจะมีปัญหาอะไร?" ฟู่จาวหนิงหยุดพู่กันลง"บนนี้เจ้าเขียนชื่อหลายชื่อที่ขนาดข้าดูแล้วยังสงสัย ข้ารู้สึกว่าถ้าจะให้พวกเขาดู เจ้าคงได้อธ
"หนิงหนิง นี่ก็ดึกแล้ว พักผ่อนก่อนดีไหม?" เซียวหลันยวนมองฟู่จาวหนิงฟู่จาวหนิงหยิบของลุกขึ้นยืน "ท่านนอนก่อนเถอะ ข้าต้องไปสกัดยาสำหรับเหอเซี่ยนอันอีกครู่หนึ่ง"นางมองตามสายตาเขาไปที่เตียง เข้าใจขึ้นมา"โอ้ ท่านนอนบนเตียงเถอะ"เซียวหลันยวนใจเต้น รู้สึกว่าใจเต้นตึกตักขึ้นมาทันที"ถ้าอย่างนั้นข้ารอเจ้าแล้วกัน?"ตอนที่พูดขาเขาก็เดินไปที่เตียงอย่างควบคุมไม่อยู่ หยิบหมอนของตัวเองขึ้นมาวางไว้ที่หัวเตียงเคียงหมอนฟู่จาวหนิงในใจก็ร้อนวาบขึ้นมาฟู่จาวหนิงที่ความคิดอยู่กับว่าจะสกัดยาอย่างไร พอได้ยินคำพูดเขาก็แย้งมาทันที"ท่านลืมไปแล้วหรือว่าท่านเพิ่งจะขับพิษออกไปจนหมด ต้องพักผ่อนให้ดีสิ? ท่านนอนไปก่อนเลย"พูดจบนางก็เดินออกไป ปิดประตูให้ก่อนหน้าที่เขียนอยู่ในนี้นางก็ไม่ทันคิดเยอะ ตอนนี้พอมาคิดว่าเขาต้องนอน นางถึงมีปฏิกิริยาขึ้นมานางไปเขียนที่ห้องข้างๆ ก็ดีแล้วแท้ๆ"ข้าจะรอเจ้ากลับมา"เซียวหลันยวนปลดเข็มขัดชุดคลุมนอกออก นอนไปบนเตียง คลุมผ้าห่ม กระทั่งได้กลิ่นหอมบนตัวฟู่จาวหนิงด้วยเขาลืมตาโพลง กำลังคิดไปว่าอีกเดี๋ยวฟู่จาวหนิงกลับมา จะยื่นหน้าไปจูบนางดีไหม? หรือว่าใช้มือกอดเอวของนาง
"เอา..เอาเลือดออกมา?"องค์หญิงใหญ่พอได้ยินคำนี้ของฟู่จาวหนิงก็ร้องแหลมเสียงสั่น"เจ้าคิดอะไรกัน! อันเอ๋อร์ของข้าพิการมาตั้งขนาดนี้แล้ว ร่างกายเดิมทีก็อ่อนแอ ข้าพยายามให้เขาได้กินเยอะๆ ดื่มเยอะ เพื่อบำรุงร่างกาย แต่นี้เจ้าคิดจะเอาเลือดเขาออกมาหรือ? เอาเลือดเขาออกมาแล้วรักษาได้หรือไรกัน?"เพราะร้อนรนเกินไป ดังนั้นคำพูดขององค์หญิงใหญ่จึงทั้งรีบร้อนทั้งเสียงดังนางกระทั่งคิดจะพุ่งเข้าไปข่วนฟู่จาวหนิงด้วยซ้ำฟู่จาวหนิงรู้สึกรำคาญจริงๆถ้านางมารักษาให้เหอเซี่ยนอันที่นี่ พูดอะไรมาำคหนึ่งก็ต้องมารับมือกับองค์หญิงใหญ่เช่นนี้ แล้วห้าวันนางจะรักษาเสร็จได้อย่างไรกัน?แค่ฟังเสียงร้องแหลมขององค์หญิงใหญ่ก็แย่แล้ว"ถึงอย่างไร ถ้าคิดจะให้ข้ารักษา ก็ต้องนำเลือดของเขาออกมา พวกท่านคิดให้รอบคอบแล้วกันว่าจะให้ข้ารักษาไหม!"ฟู่จาวหนิงถอยไปก้าวหนึ่ง มองไปทางองค์หญิงใหญ่"แล้วถ้าจะให้ข้ารักษา ตอนที่ข้าอยู่ที่นี่ ก็รบกวนฮูหยินผิงเหอกงไม่ต้องออกมาด้วย! เพราะข้าไม่อยากจะต้องมาถูกตวาดจนปวดหูเป็นระยะก่อนที่จะได้รักษาคนป่วย""เจ้าๆๆ เจ้าบังอาจนัก!"องค์หญิงใหญ่ถูกนางทำให้โมโหเสียแล้วฟู่จาวหนิงคนนี้เป็น
"ฮูหยิน พวกเราออกไปก่อนเถอะ ออกไปกัน" ผิเหอกงพอเห็นนางเหมือนคิดจะพูดอะไร ก็รีบปลอบนางแล้วดึงออกไปเขาเองก็ไม่กล้ามองเหมือนกันคุณหนูรองเหอเองก็หน้าเปลี่ยนสี "ใช้มีดกรีดไปตรงๆ เลยหรือ?"ซู๊ดเหอเซี่ยนอันที่เดิมทียังไม่ค่อยกลัวแต่พอได้ยินคำพูดของพี่สาวก็อดตัวสั่นขึ้นมาไม่ได้"วางใจเถอะ ไม่เจ็บมากหรอก ข้าจะทำให้ผิวหนังชาเสียก่อน"ฟู่จาวหนิงหยิบผ้าฝ้ายขาวผืนหนึ่งออกมา เทของเหลวที่เหมือนกับน้ำลงไปเล็กน้อย จากนั้นก็มาทาบนขาของเหอเซี่ยนอัน"เย็นดีจัง" เหอเซี่ยนอันเอ่ยขึ้น"รอสักครู่"ผ่านไปพักหนึ่ง ฟู่จาวหนิงจึงใช้คมมีดกรีดเบาๆ ไปที่ขาของเขา"เอ๋? ไม่รู้สึกอะไรเลย!"เหอเซี่ยนอันตกตะลึงอย่างมากฟู่จาวหนิงกลับรู้สึกเสียดายถ้าหากเข็มเจาะเลือดที่ไว้ใช้เจาะของนางเอาออกมาได้ล่ะก็ จะต้องมาใช้วิธีการแบบนี้ทำไม ใช้มีดหรือ? โบราณของแท้แต่ก็ไม่มีทางเลือกคุณหนูรองเหอพอเห็นนางลงมีดจริงๆ ก็หันหน้าออกไป ไม่กล้าจ้องแล้วแต่เหอเซี่ยนอันกลับจ้องเขม็งฟู่จาวหนิงเอาเลือดออกมาเล็กน้อยจากนั้นก็โรยผงยาลงไป เลือดแข็งตัวอย่างรวดเร็วแผลเองก็ไม่ใหญ่ด้วยนางหยิบขวดเล็กลุกขึ้นยืน "สิ่งนี้ข้าต้องวาง
น่าจะเพราะขาพิการมาแล้วปีครึ่ง ตอนนี้จึงรู้สึกว่า จะเป็นอย่างไรก็คงไม่แย่ไปกว่านี้แล้ว"ต่อให้ท่านจะบอกว่าขานี้รักษาไม่ได้ ข้าจะยืนไม่ได้อีกทั้งชีวิต ข้า ข้าเองก็ยอมรับแล้ว!"หลังจากเหอเซี่ยนอันพูดคำนี้ ดวงตาก็แดงรื้น ร้องไห้จ้าขึ้นมาฟู่จาวหนิงทั้งโมโหทั้งขบขันพูดว่ากล้าหาญมาก แต่นี่ร้องไห้ขึ้นในพริบตาเลยนะนี่มันกล้าหาญหรือว่าไม่กล้าหาญกันเนี่ย?"ข้าบอกตอนไหนว่ารักษาไม่ได้?""อึก!"เสียงสะอื้นของเหอเซี่ยนอันชะงักไปทันที แต่ก็เก็บไม่อยู่จนส่งเสียงอึกออกมา"รักษาได้ ที่ข้าอยากบอกคือสาเหตุที่ทำให้ขาของเจ้าพิการน่ะ มันน่ากลัวมาก บางทีบอกแล้วมันดูเวทนาอยู่ แต่ข้ารักษาได้"คำพูดของฟู่จาวหนิง ทำให้พวกเขาถลึงตาโตมองนาง"ไม่เข้าใจหรือ?""เข้าใจแล้ว ท่านบอกว่าขาของข้าท่านรักษาได้!" น้ำตาของเหอเซี่ยนอันอาบลงมาอีกครั้งฟู่จาวหนิงพอได้ยินเขาพูดเช่นนี้ก็อดยิ้มขึ้นมาไม่ได้นี่ก็จับจุดสำคัญได้จริงๆ สินะ"ใช่ เจ้าไม่ได้ฟังผิด ข้าต้องยืนยันกับเจ้าก่อน ขาของเจ้าข้ารักษาได้ แต่ก่อนที่จะรักษา พวกเจ้าน่าจะอยากรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับขานี้กันแน่กระมัง?"หลังจากถูกฟู่จาวหนิงย้ำมาหลายครั้งว่
แต่ว่าผิงเหอกงอยู่ที่นี่ก็ดีเหมือนกัน"ในเมื่อพวกเจ้าอยากรู้ เช่นนั้นข้าก็จะพูดความจริงล่ะนะ"ผิงเหอกงมองนางอย่างตึงเครียด "หมอเทวดาฟู่ ท่านพูดเถอะ""ในขาของเหอเซี่ยนอัน มีแมลงพิษชอนไชเข้าไป ยิ่งไปกว่านั้น เนื่องจากเวลาผ่านมากว่าปีครึ่งแล้ว แต่ว่าแมลงพิษเหล่านี้ก็ยังมีชีวิตอยู่ กระทั่งยังวางไข่ในเลือดของเขาด้วยซ้ำ""อะไรนะ?!"เสียงขิงผิงเหอกงพุ่งขึ้นสูง สีหน้าเปลี่ยนไปแล้ว"แมลง..."เหอเซี่ยนอันหน้าซีด ตาเหลือกเป็นลมไปเรียบร้อยคุณหนูรองเหอมองไปที่ขาของเขา ถอยหลังออกไปด้วยสัญชาตญาณ กระทั่งสำรอกแห้งออกมา"โอ๊ก..."ฟู่จาวหนิงพูดไม่ออกนางยังคิดว่าเหอเซี่ยนอันที่พูดอย่างกล้าหาญจะพอรับไหวอยู่ ใครจะคิดว่าเจ้าเด็กนี่กลับเป็นลมล้มตึงไปแล้วนางมองไปทางผิงเหอกง "พิษของแมลงพิษนี้มีบทบาททำให้เส้นประสาทชา ยิ่งไปกว่านั้นถ้าผ่านไปนานจะกัดกร่อนกระดูก ทำให้กระดูกกรอบจนหลุดร่อน พอปล่อยไปนานเข้า กระดูกขาของเขาก็จะพังหมดยับเยิน ถึงตอนนั้นสองขาก็จะพิการไปจริงๆ จะช่วยอย่างไรก็ไม่ได้แล้ว"ผิงเหอกงเสียงสั่นเทา"หรือว่า หรือว่าจะเป็นแมลงกระดูกตาย?""ท่านเคยได้ยินมาหรือ?""พวกนักล่าบางส่วนของต้
ก่อนหน้านี้ทรมานหมอฟู่ไว้มาก สาวใช้นั่นยังบอกว่าหมอฟู่กับนายท่านเป็นอะไรอะไรกันอีก ป้าหนิวเห็นแล้วไม่สบอารมณ์องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถูกนางเหลือบมองใส่แบบนี้จนอายไปเฉินเซียงกลับถลึงตามองแผ่นหลังป้าหนิวเจ้าคนชั้นต่ำ นังคนชั้นต่ำ กล้ามามององค์หญิงใหญ่พวกนางแบบนี้เรอะฟู่จิ้นเชินตอนนี้จึงหมุนตัวหันไปมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ถามขึ้นว่า "องค์หญิงใหญ่จะพบอ๋องเจวี้ยน เพราะอยากให้อ๋องเจวี้ยนพาท่านไปเมืองหลวงหรือ? ถ้าหากมีเป้าหมายนี้ เช่นนั้นข้าบอกท่านไว้ได้เลย ว่าท่านยังออกจากเมืองเจ้อไม่ได้"ฟู่จาวหนิงกับอันเหนียนผู้บริหารท้องถิ่นโหยวสามฝ่ายตกลงกันแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองปิดอยู่ ใครอยากจะออกจากเมือง ต้องยื่นจดหมายออกจากเมืองมา ถ้าบนต้องมีผู้บริหารท้องถิ่นโหยวใต้เท้าอันและหมอฟู่สามคนลงนาม ขาดไปสักคนก็ไม่ได้ถ้าหากไม่มีจดหมายออกจากเมืองที่มีนามทั้งสาม ใครก็ออกไปไม่ได้ทั้งนั้นแล้วอาการป่วยอย่างองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ฟู่จาวหนิงไม่มีทางปล่อยนางออกไปแน่ไหนจะเรื่องที่นางจะตามอ๋องเจวี้ยนไปอีกฟู่จิ้นเชินตอนนี้รู้สึกว่าสมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นตอนนี้ไม่ค่อยดีนัก แค่คิดก็รู้แล้ว ฟู่จาวหนิงจะยอมให้อ๋องเ
ฟู่จาวหนิงถูกจูบจนเคลิ้มหลับไปอีกรอบเซียวหลันยวนได้ยินเสียงหายใจลึกของนางแล้วก็จนใจเขาเลือดพุ่งขึ้นมาแล้ว แต่นางกลับหลับไป ดูท่าในเมืองเจ้อระยะนี้นางคงจะเหนื่อยมากจริงๆเขาเองก็ไม่ได้ทรมานนาง กอดนางแล้วหลับไปองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเดิมทีกำลังรอว่าจะฝันอีกครั้ง ดีที่สุดคือได้ฝันเห็นลุงหวังพูดอะไรกับอ๋องเจวี้ยนว่ากล่องใบนั้นเปิดอย่างไรแต่เมื่อคืนนี้นางก็ฝันจริงๆ น่าเสียดายที่ฝันร้าย ในฝันตนเองอยู่ในตำหนักเพียงคนเดียว จะอย่างไรก็ออกไปไม่ได้ และไม่มีใครด้วย ทุกแห่งมีแต่แสงทึม ในความมือเหมือนมีเสียงอะไรที่น่ากลัว ทำให้นางรู้สึกกลัวมากหลังจากสะดุ้งตื่น องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นก็เหงื่อท่วมไปทั้งตัว"องค์หญิงใหญ่ ท่านฝันร้ายหรือ?" เฉินเซียงถูกนางทำสะดุ้งตื่นตาม รีบลุกขึ้นนั่งองค์หญิงใหญ่ไม่ค่อยฝันร้ายเท่าไร แต่บางครั้งก็จะฝันร้ายบ้างสักครั้ง แสดงว่าช่วงเวลานั้นจะผ่านไปได้ไม่ค่อยดีนักเฉินเซียงเครียดขึ้นมาแล้วพวกนางตอนนี้ผ่านความน่าเวทนามากมาแล้ว ไม่น่าแย่กว่านี้แล้ว ไม่เช่นนั้นนางคงทนรับไม่ไหวแล้วนางมององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นอย่างตึงเครียด หวังว่านางจะปฏิเสธแต่นางก็ยังผิดหวัง องค์หญิงใ
"รุ่นหลังของตระกูลปันมีกี่คนหรือ?""รุ่นหลังของตระกูลปันก็มีอยู่ไม่น้อยเลย พวกเขามีช่างที่มีฝีมือ ในตอนนั้นหลบหนีจากภัยพิบัติได้ เหลือรุ่นหลังเอาไว้ ตอนนี้คนที่มีอำนาจในตระกูลปันชื่อว่าปันมู่ พวกเขาไหว้วานขบวนพ่อค้าให้ส่งจดหมายเข้ามา บอกว่าคนเองก็อยู่ระหว่างทางมาแคว้นเจาแล้ว"ปันมู่เซียวหลันยวนจำชื่อนี้ไว้"แล้วเจ้าเป็นรุ่นหลังจากตระกูลไหนกัน?""ใต้ฝ่าพระบาท ข้าคือรุ่นหลังจากตระกูลเหมิ่ง ตอนนั้นปู่ข้าได้รับมอบหมายงานกะทันหัน ทิ้งสิ่งของเพื่อส่งมอบให้กับจักรพรรดิรุ่นใหม่ องค์หญิงใหญ่จากไปแล้ว แต่ยังทิ้งลูกหลานไว้ ก็คือฝ่าพระบาทนั่นเอง ข้าระลึกเสมอว่าต้องนำสิ่งของส่งให้ถึงมือท่าน"แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่เขาหรือไม่ เขาได้รับสิ่งของที่จักรพรรดินีทิ้งไว้แล้วหรือยัง เขาส่งเครื่องพยากรณ์ออกไปสุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้"เจ้าหมายถึงเครื่องพยากรณ์หรือเปล่า?""ใต้ฝ่าพระบาทรู้จริงๆ ด้วย ใช่แล้ว ของสิ่งนี้อยู่ในมือข้ามาหลายปีแล้ว ข้าปกป้องเอาไว้ไม่ค่อยปล่อยไปไหน ตอนนี้ก็ส่งให้กับมือใต้ฝ่าพระบาทได้เสียที ในที่สุดข้าก็ได้พักผ่อนเสียที..."ลุงหวังบอกถึงตำแหน่งที่ซ่อนเครื่องพยากรณ์เซียวหลันยวนฟังเ
ฟู่จาวหนิงเก็บเครื่องพยากรณ์กลับเข้าไปในมิติ แล้วก็ถูกเซียวหลันยวนกอดเข้าไปในผ้าห่มเขาคลุมผ้าห่มนางให้ดี จูบไปที่ปากนางเบาๆ เอ่ยขึ้นแผ่วเบาว่า "เจ้าก็นอนให้สบาย ข้าจะทำการอย่างระวัง""ได้"เซียวหลันยวนเป่าเปลวเทียน ออกประตูไปอย่างแผ่วเบา"ท่านอ๋อง?" ชิงอีออกมาจากมุมมืดรู้สึกเกินคาดหน่อยๆ ที่ท่านอ๋องจะออกไปตอนดึกขนาดนี้ คืนนี้ไม่ใช่ควรอยู่กับพระชายาหรอกหรือ?"ไป" เซียวหลันยวนกลับไม่อธิบายอะไรมากตอนมาถึงทางตาเฒ่าอู๋ ในคืนเงียบสงัดเช่นนี้ กลับได้ยินเสียงไอค่อกแค่กอยู่แค่กๆๆๆมีทั้งที่ดังขึ้นครั้งสองครั้ง และมีที่ดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดมีทั้งที่ดังจนปอดแทบฉีก ทำเอาคนที่ไม่ไอฟังแล้วรู้สึกคันขึ้นมาที่คอเลย แทบจะไอตามไปด้วย"ท่านอ๋อง คนเหล่านี้ป่วยหนักมาก" ชิงอีเอ่ยขึ้นเสียงต่ำเขาเห็นว่าท่านอ๋องยังมาที่ตาเฒ่าอู๋ทางนี้ จึงรู้สึกกังวลขึ้นหน่อยๆ"อืม ดังนั้นหวังว่าจาวหนิงจะค้นคว้ายาที่สามารถสะกดอาการป่วยนี้ออกมาได้ ไม่ให้มันระบาดต่อไปอีก ไม่เช่นนั้นก็ไม่อยากจะคิด"เซียวหลันยวนถึงแม้จะปวดในที่ฟู่จาวหนิงอยู่ที่นี่ แต่เขาก็เข้าใจดี ตอนนี้เมืองเจ้อต้องการนางจริงๆไม่ใช่แค่เมืองเ
"ท่านเองก็ลองดูสิ" นางส่งคืนกลับให้เขาเขายังไม่ทันได้ดูเลยน กลับส่งให้นางดูก่อนเสียแล้วเซียวหลันยวนรับมา หยิบไปวางไว้ตรงหน้าในใจเขาเองก็สั่นสะเทือนเช่นกันนี่มันยอดเยี่ยมมาก"เครื่องพยากรณ์นี้ ในตงฉิงถือได้ว่าเป็นสมบัติเลยกระมัง?" ฟู่จาวหนิงเอ่ยขึ้น"อืม" เซียวหลันยวนวางเครื่องพยากรณ์ลง พยักหน้า "ราชครูจะสืบทอดต่อให้เป็นรุ่นๆ ถ้าหากบนมือไม่มีเครื่องมือพยากรณ์ ราชครูก็จะไม่เป็นที่ยอมรับอย่างชอบธรรม ยิ่งไปกว่านั้น คนตงฉิงก็ยังเชื่อว่า ผลลัพธ์ที่ไม่ได้ออกมาจากการคาดการณ์ของเครื่องมือพยากรณ์ ล้วนไม่แม่นยำทั้งสิ้น""นั่นเท่ากับเป็นสิ่งที่เครื่องพยากรณ์สิบห้าปีใหม่คำนวณออกมาใช่ไหม? แล้วเก่ากว่านั้นล่ะ""ที่เก่ากว่านั้นจะถูกประทับตราเป็นของไม่ใช้งานแล้ว แล้วปิดผนึกไว้ในสุสานจักรพรรดิ"หรือก็คือ ขอแค่ไม่มีชิ้นใหม่ออกมา บนโลกนี้ก็จะมีแค่เครื่องพยากรณ์ที่กำลังใช้งานอยู่เพียงชิ้นเดียวเท่านั้น"แล้วลุงหวังคนนั้น คงจะไม่ใช่รุ่นหลังของราชครูตงฉิงหรอกกระมัง?" ฟู่จาวหนิงถามขึ้นเซียวหลันยวนนิ่งงันไปพักหนึ่ง ตอบว่า "อันที่จริงก่อนหน้านี้ข้าก็คาดเดามาตลอด เจ้าอารามต่างหากที่น่าจะเป็น"ฟู่
"กล่องใบนี้ เป็นงานฝีมือของตระกูลปัน"แตกต่างกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นที่ได้กล่องมาแล้วศึกษาอยู่นานแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เซียวหลันยวนหมุนๆ ดูก็สรุปออกมา"ตระกูลปัน?""อืม" เซียวหลันยวนพูดไปด้วย มือเองก็คลำๆ ไปด้วย "หลานหรงไม่ใช่ว่าค้นข้อมูลเกี่ยวกับตงฉิงมาหรือ? ตอนนั้นลุงเสิ่นเองก็มอบหนังสือมาให้ ด้านบนมีการแนะนำตระกูลบางส่วนของตงฉิงไว้ ตระกูลปันก็อยู่ในนั้นด้วย""พูดเช่นนี้ ตระกูลปันก็เป็นช่างอย่างนั้นหรือ?"ฟู่จาวหนิงอดคิดถึงหลู่ปัน(นักประดิษฐ์เลื่องชื่อในประวัติศาสตร์จีน)ขึ้นมาไม่ได้ที่นี่ก็มีตระกูลปันด้วย ดูแล้วก็ลึกลับเอาการ"อืม เข้าใจแบบนี้ได้"เซียวหลันยวนตอนเพิ่งเริ่มยังดูช้าๆ อยู่ ลูบๆ คลำๆ แต่ไม่นานนักก็ดูรวดเร็วขึ้นมา กล่องไม้ที่ดูสมบูรณ์แบบนั่นไม่รู้เขาทำอีท่าไหน ตรงนี้กลับดึงได้ตรงนั้นกลับกดได้ขึ้นมาฟู่จาวหนิงมองเขาเล่นอยู่ครู่หนึ่ง ก็ไม่ได้ถามอะไร นั่งมองเขาเปิดกล่องใบนั้นอยู่ข้างๆนิ้วของเขามีข้อต่อชัดเจน เรียวสวย เล็บสะอาดเรียบร้อยราวกับเป็นงานศิลปะสองมือนี้ ไม่เอาไปเล่นเปียโนคือน่าเสียดายมากตอนที่ความคิดฟู่จาวหนิงเริ่มเตลิด ก็ได้ยินเสียงดังแกร๊ก กล่องเปิดออกแ
"ขโมยมาจากไหนกัน?" ฟู่จาวหนิงมองเขา"ห้องข้างฝั่งตะวันตก"พอเขาพูดเช่นนี้ ฟู่จาวหนิงก็เข้าใจขึ้นมาทันที สมองนางร้อยเรียงเรื่องราวออกมาอย่างรวดเร็วนางถามขึ้นอย่างตกตะลึง "องค์หญิงใหญ่ออกไปข้างนอกมาหรือ? ่นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้วหรือ?"เซียวหลันยวนนับถือสมองของนางจริงๆ ที่คิดได้เร็วขนาดนี้"ใช่แล้ว เจ้าพูดถูกต้อง ข้าประเมินนางต่ำไป คิดไม่ถึงว่านางจะฝันเรื่องแบบนี้ได้จริงๆ"เซียวหลันยวนเองก็รู้สึกเกินคาดถึงแม้เขาจะให้คนจับตาดูองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นไว้ แต่ก็เป็นแค่ความเคยชินที่ชอบให้เรื่องอยู่ในการควบคุมเท่านั้น คิดไม่ถึงว่าจะได้มาเห็นฝันของนางเป็นจริงนางมีความสามารถเช่นนี้ ไม่แปลกที่หลายปีมานี้ก็ยังรักษาชื่อเสียงในเรื่องโชคไว้ได้ แล้วยังทำให้ฝ่าบาทต้าชื่อดึงนางไว้แน่นโดยไม่ยอมปล่อยมืออีกแล้วก็ไม่รู้ว่าจะฝันเห็นถึงอะไรบ้างด้วย"ท่านหมายความว่า นางหาชายชราคนนั้นเจอแล้ว?"ฟู่จาวหนิงพอคิดๆ ก็รู้สึกไม่ถูก "แล้วนางไปกล่อมชายชราให้ส่งของให้นางไม่ได้ ก็เลยเลือกขโมยมาอย่างนั้นหรือ?!"ถ้าหากเป็นเช่นนั้น ความทรงจำเกี่ยวกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นของนางก็คงต้องล้างใหม่เสียแล้วเรื่องแบบนี้ก็
คืนนี้ องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นน่าจะเพราะออกไปด้านนอกตากลมหนาวมา กลางดึกจึงจับไข้จนมึนงง แล้วก็ไอจนนอนไม่ได้แต่นางไม่รู้ ว่าตอนที่นางไอจนสลึมสลือ มีเงาดำร่างหนึ่งเข้ามาในห้องนางอย่างไร้ซุ่มเสียงเฉินเซียงที่นอนอยู่บนแคร่นิ่มข้างๆ พลิกตัวมา ในปากพึมพำอะไรคำสองคำ จากนั้นก็หลับไปอีกเงาดำชะงักไป รื้อค้นในห้องขึ้นมาน่าจะเพราะที่นี่ไม่ใช่สถานที่ขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ยิ่งไปกว่านั้นก็ไม่มีชั้นเก็บของอะไรไว้ซ่อนของได้มาก เพียงไม่นาน เขาก็หาของเจอวางอยู่ในลังที่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นนำมาด้วยถึงแม้ลังจะใส่กลอนไว้ แต่พอเห็นกลอนนั่น เงาดำก็รู้ว่ากุญแจอยู่ที่ไหน จึงเด็ดปิ่นปักผมเล่มหนึ่งออกมาจากองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น พอบิดออกก็กลายเป็นกุญแจจริงๆคนในวังส่วนมากล้วนใช้วิธีการนี้กลอนถูกปลดออกทันที พอได้ของที่ห่อผ้าไว้ เงาดำก็จัดการลงกลอนลังอีกครั้ง นำปิ่นปักผมคืนกลับไป จากนั้นก็ออกประตูมาอย่างไร้ซุ่มเสียงเพียงไม่นาน ของชิ้นนี้ก็มาอยู่ตรงหน้าเซียวหลันยวน"ท่านอ๋อง อีกเดี๋ยวให้พระชายาดูดีไหม ของนี่อยู่ในมือลุงหวังคนนั้นแล้วยังย้ายไปอยู่ในมือองค์หญิงใหญ่อีก พวกเขาติดโรคมากันหมดแล้ว ทางที่ดีท่านอย่า
ฟู่จาวหนิงรู้ว่าตอนนี้ต่อให้จะรับประกันดีแค่ไหน เซียวหลันยวนก็ยังกังวลตนเองอยู่ดีก็เหมือนกับที่เขาไม่ยอมกลับเมืองหลวง นางก็รู้สึกกังวลว่าเขาจะติดโรคระบาดที่นี่"พรุ่งนี้ท่านกลับเมืองหลวงเถอะ เอาจริงๆ ท่านอยู่ที่นี่ข้าก็เป็นห่วงอยู่ตลอด แล้วท่านก็ตามข้ามาแบบนี้อีก""พรุ่งนี้จะดูสถานการณ์ ข้ารับปากเจ้า จะไม่คอยตามเจ้าแล้ว""ไม่ตามแล้วหรือ?""ใช่ แค่รู้ว่าทุกวันเจ้าผ่านไปอย่างไร ทำอะไรบ้าง ในใจข้าก็พอเข้าใจแล้ว จะไม่ตามอีก"แม้จะเป็นห่วง แต่ตอนนี้พอได้ติดตามมาวันหนึ่ง ได้รู้ว่านางใช้ชีวิตผ่านไปอย่างไร ก็ยังดีกว่าก่อนหน้านี้ที่ไม่รู้อะไรเลย ทำได้แค่คอยจินตนาการผ่านถ้อยคำบนจดหมายเขาจะมาถ่วงแข้งขานางไม่ได้ เพราะแม้แต่เขาก็รู้ ว่าเมืองเจ้อตอนนี้ขาดฟู่จาวหนิงไม่ได้"ถ้าอย่างนั้นท่านไปพักกับผู้บริหารท้องถิ่นโหยวเถอะ ทางนั้นอย่างน้อยก็ไม่มีคนป่วย"ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าในโรงหมอก็ยังมีความเสี่ยงสูง"พรุ่งนี้ข้าไม่อยู่ที่โรงหมอ ข้าจะไปที่อื่นหน่อย"ฟู่จาวหนิงเห็นว่าเซียวหลันยวนมีแผนการของตนเองอยู่ จึงไม่ได้ถามอะไรเขามากขึ้น ถึงอย่างไรเขาปล่อยนางให้อยู่ที่นี่รักษาคนป่วยได้ ไม่ได้ดึงดันจะพ