ซู๊ดสีหน้าเซียวหลันยวนเปลี่ยนไปอีกครั้งเรื่องนี้เขาเองก็ยังไม่รู้!แต่ที่เสิ่นเสวียนสามารถพูดออกมาได้ ก็พิสูจน์ได้ว่าระดับความน่าเชื่อถือนั้นสูงอยู่เสิ่นเสวียนมองออกจากปฏิกิริยาของเขา ว่าเรื่องนี้เซียวหลันยวนก็ไม่รู้เหมือนกัน"ท่านไม่รู้หรือ? ราชครูตงฉิง ข้าเองก็ไม่รู้ว่าท่านเข้าใจหรือเปล่า จากที่ข้ารู้มา ความสามารถในการคาดคะเนของพวกเขาแข็งแกร่งมาก ส่วนจุดนี้ที่ข้ารู้มาได้อย่างไร ข้าก็บอกท่านได้อยู่ สมบัติล้ำค่าที่สุดของตระกูลเสิ้นพวกเราคือหนังสือ หนังสือเหล่านี้เนื้อหาก็มากมี กระทั่งมีชีวประวัติที่แท้จริงบางส่วนอีกด้วย"ในตอนนี้ เซียวหลันยวนก็เข้าใจถึงความล้ำค่าของหนังสือที่สะสมไว้เหล่านั้นเป็นครั้งแรกมิน่าถึงได้มีคนมากมายจ้องหนังสือสะสมพวกนั้นตาเป็นมัน"เจ้ายอดเขาโยวชิงคนนั้นน่าจะพูดอะไรกับเจ้าไว้ น่าจะเกี่ยวกับพวกวิถีโชคชะตากระมัง? แล้วยังพูดถึงเรื่องขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นด้วยใช่ไหม? เพราะข้าตรวจสอบเจอการปฏิสัมพันธ์กันครั้งหนึ่งของพวกท่านด้วย ปีที่ท่านเพิ่งไปที่ยอดเขาโยวจิง องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็ออกจากเมืองหลวงจักรพรรดิต้าชื่อ ตรงไปที่สุสานจักรพรรดิ""ตอนนั้นที่พวกท่า
"หนังสือหย่าร้างเขียนให้ท่านไว้แล้ว ท่านลองดู ถ้าหากไม่คัดค้านอะไรก็ทำตามนี้เลย""ท่านลุง ข้าไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเลย" เซียวหลันยวนบีบหนังสือหย่าในมือแน่น ใจเองก็กระตุกเจ็บขึ้นมา"ข้าเชื่อ แต่สำหรับผู้ชายส่วนใหญ่ ผู้หญิงจะไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะเวลาที่เอามาเปรียบเทียบกับอำนาจความมั่งคั่งตัวตนฐานะ"น้ำเสียงเสิ่นเสวียนฟังไม่ออกถึงความโกรธเคือง ดูสงบมากแสงเทียนบนโต๊ะกำลังสั่นไหว ทั้งที่เส้นแสงดูอบอุ่น แต่บรรยากาศที่พันล้อมระหว่างพวกเขากลับเย็นเยียบ"ตั้งแต่เด็กจนเติบใหญ่ในแคว้นเจาท่านลำบากมาก องค์จักรพรรดิแคว้นเจามองท่านเป็นเสี้ยนหนามอยู่ตลอด ก่อนหน้านี้สุขภาพของท่านก็ย่ำแย่ แล้วยังติดพิษอีก ถูกตัดสินว่าจะอยู่ได้ไม่ถึงสามสิบ องค์จักรพรรดิแคว้นเจาจึงยังยอมทนไว้ ตอนนี้จาวหนิงรักษาท่านจนดีขึ้น แล้วยังเห็นสุขภาพของท่านดีวันดีคืน จะช้าเร็วก็ต้องลงมือรับมือกับท่านอยู่ดี"เสิ่นเสวียนเองก็คิดอย่างชัดเจนจุดนี้เขาเข้าใจเซียวหลันยวนได้ถึงอย่างไรเซียวหลันยวนก็ไม่ง่ายเลยจริงๆ ถ้าหากเขารู้สึกว่าการเลือกองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นจะช่วยเหลือเขาได้มากกว่า ก็สามารถเข้าใ
ฟ้าสางแล้วฟู่จาวหนิงในที่สุดก็ดูเคสผู้ป่วยทั้งหมดจนจบ และดูเคสเสริมที่เกี่ยวข้องจนหมดแล้วด้วย ตบโต๊ะลุกขึ้นยืนผู้ป่วยเคสนี้เหมาะสมกับสถานการณ์ของเซียวหลันยวนจริงๆ!แล้วนางก็ได้วัตถุดิบยาเหล่านั้นมาแล้วด้วย สามารถทดลองรักษาได้แล้ว!นางออกจากห้องเภสัชทันที รีบเดินไปที่ประตูแล้วผลักออกไป"สืออี รีบไปจับเจ้าบ้าเซียวหลันยวนนั่น...." กลับมา!ฟู่จาวหนิงยังไม่ทันพูดจบ สีหน้าก็เปลี่ยนไป เพราะนางไม่รู้เลยว่าที่ประตูมีคนนั่งอยู่คนหนึ่งและเพราะเคลื่อนไหวพรวดพราดเกินไป นางจึงหยุดเท้าไม่อยู่ กระแทกไปบนแผ่นหลังของคนคนนั้นเซียวหลันยวนตอนที่ได้ยินการเคลื่อนไหวของนางก็เตรียมจะหันหน้ากลับ แต่นางก็กระแทกเข้ามาแล้ว เขาเองก็รีบคว้าแขนของนางไว้ ดึงนางมากอดไว้ด้านหน้าฟู่จาวหนิงจึงนั่งอยู่บนตักเขา แล้วรู้สึกว่าเขาเย็นเยียบไปทั้งตัว เย็นจนนางสะดุ้งโหยงพอเงยหน้ามามองหน้ากากของเขา นางก็โมโหขึ้นมา ยื่นมือเลิกหน้ากากนั่นของเขาออก"เจ้าหน้ากากนี่ท่านจะสวมไปถึงเมื่อไรกัน?!"นางทนมาพอแล้ว!นางเดิมทีเป็นหมอใหญ่ของเขา ก่อนหน้านี้ก็เห็นหน้าของเขามาแล้ว ตอนนี้เขาเอาแต่หลบหน้านางเพื่ออะไรกัน!"จาวหนิง!"
"ถ้าใบหน้าของข้าไม่ดีขึ้นมา รักษาโฉมกลับมาไม่ได้ เจ้าจะรังเกียจและหวาดกลัวไหม?"เซียวหลันยวนจับมือของนางไว้ เงยหน้ามองนางเขาเครียดจนเกร็งไปทั้งตัว เพราะตอนนี้เป็นครั้งแรกที่เขาไม่หลบไม่เลี่ยงเช่นนี้ นำใบหน้าทั้งหมดเปิดเผยออกมาต่อหน้าของนางให้นางได้เห็นใบหน้าของเขาชัดๆระยะห่างที่ใกล้ขนาดนี้ฟู่จาวหนิงมองหน้าของเขานิ่ง"เซียวหลันยวน ท่านกัววลว่าข้าจะรังเกียจและหวาดกลัวใบหน้านี้ของท่าน ก็เลยอยากจะหย่าร้างหรือ?""ไม่ใช่เพราะท่านมีตัวเลือกที่ดีกว่า รู้สึกว่าองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นจะให้ความช่วยเหลือที่มากกว่ากับท่านได้ แล้วยังมีโชคที่สามารถคอยคุ้มครองท่านได้ ดังนั้นเลยอยากให้ข้าถอยจากตำแหน่งพระชายาอ๋องเจวี้ยน?"เซียวหลันยวนยื่นมือไปที่เอวนาง ประคองเอวนางไว้ จ้องมองนาง ดวงตาแดงรื้นขึ้นมาอันที่จริง ยังต้องการคำตอบของนางอีกที่ไหน?เขาไม่เห็นสายตารังเกียจหรือหวาดกลัวของนางเลยแม้แต่น้อยนางไม่กลัวสภาพเหมือนผีของเขาและไม่รังเกียจสภาพเหมือนผีแบบเขา"ข้ากลัวมาตลอดว่าจะส่งผลกระทบกับเจ้า จะทำให้เจ้ารังเกียจและหวาดกลัว ข้าไม่กล้าปลดหน้ากากนี้ต่อหน้าเจ้า กระทั่งไม่กล้าจะทดลอง เพราะถ้าหากเจ
เซียวหลันยวนดึงนางมาในอ้อมกอดเขาเดิมทีนั่งอยู่บนแคร่นิ่ม พอนางถูกดึงมาเช่นนี้ จึงทับลงไปบนหน้าอกเขาสองมือนางดันหน้าอกเขาไว้ ถลึงตามองเขา"จะหย่าอยู่แล้วแต่ยังไม่ยอมปล่อยมือหรือ?""ไม่หย่าหรอก"เซียวหลัยยวนตอนนี้ก็กลัวจริงๆ แล้ว เมื่อคืนนี้ฟู่จาวหนิงไล่เขาออกจากห้องเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้นางไม่เคยทำเลยเสิ่นเสวียนเองก็ตรวจสอบความลับเขาจนหมดแล้ว ถึงกับลงมือเขียนหนังสือหย่าร้างด้วยตนเองเขากลัวว่าเสิ่นเสวียนจะดึงฟู่จาวหนิงเข้าไปพูดคุยอย่างมีเหตุผลเหมือนกัน ด้วยความเคารพต่อตัวท่านลุงของฟู่จาวหนิง แล้วด้วยนิสัยที่มีเหตุผลและใจเย็นมากกว่าหญิงสาวทั่วไปแต่เดิมของนาง ก็อาจจะถูกเสิ่นเสวียนกล่อมเอาได้เรื่องหย่าร้างสำหรับนางแล้ว แทบจะไม่มีผลเสียอะไรเลย เป็นผลดีเสียด้วยซ้ำด้วยความสามารถของนาง นางจะปีนไปยังคนมีอำนาจอื่นๆ ไม่ได้เลยหรือ? ถ้านางคิดจะหาผู้ชายที่รักมั่นต่อนางจะหาไม่ได้เลยหรือ?ไม่ใช่ว่ามีซือถูไป๋อยู่คนหนึ่งหรือไร?ไหนจะยังองค์ชายสองแห่งต้าชื่อ ที่แทบจะเข้ามาร่วมศึกชิงนางอยู่แล้วอีกคนพูดได้ว่า ถ้าแค่เขาปล่อยมือไป ฟู่จาวหนิงคงบินหนีไปไกลอย่างแน่นอน เป็นสิ่งที่เขาไม่มีทางไ
"ใช่ พอยิ่งหลงรัก ก็ยิ่งกลัว"เซียวหลันยวนหอมไปเบาๆ บนหน้านาง "หนิงหนิง ข้าชอบเจ้า มีแต่เจ้าเท่านั้น"ฟู่จาวหนิงคิดว่าตนเองยังโกรธอยู่ แต่พอได้ยินคำพูดเหล่านี้จะไม่รู้สึกอะไร แต่เอาจริงๆ นางกลับพบว่าพอได้ยินเขาพูดออกมาเหมือนจะคลุ้มคลั่งแบบนี้ ใจของนางเองก็อดใจเต้นระส่ำขึ้นมาไม่ได้นางกัดริมฝีปากล่าง กลัวว่าตนเองจะใจอ่อนตอบรับเขาเช่นนั้นที่โมโหก่อนหน้านี้ก็เสียเปล่าน่ะสิ?นางไม่ตอบ แต่ก็ไม่ได้ดิ้นให้หลุด ทั้งสองคนนิ่งเงียบขึ้นมาพร้อมกันอยู่พักหนึ่ง ราวกับกำลังฟังเสียงใจเต้นของอีกฝ่ายอยู่ฟู่จาวหนิงไม่ดิ้นรนอีกแล้ว และไม่ได้ผลักไสเขา แล้วยังไม่ด่าเขาต่อ ใจของเซียวหลันยวนก็เหมือนแช่อยู่ในน้ำผลไม้เปรี้ยวหวาน พ่นฟองอากาศออกมาเขารู้ว่าตนเองก่อนหน้านี้ทำผิดกับนางจริง และเขาที่ทำผิดใหญ่โตขนาดนั้น ฟู่จาวหนิงก็ยังยอมให้อภัยเขาเร็วขนาดนี้เขาเกือบจะเสียภรรยาที่แสนดีขนาดนี้ไปแล้วผ่านไปพักหนึ่ง ฟู่จาวหนิงจึงยื่นมือมาหยิกที่เอวเขา"ท่านปล่อยมือก่อน มีเรื่องหนึ่งที่ร้ายแรงมากที่ท่านยังไม่ได้พูดให้ชัดเจน!"เซียวหลันยวนใจกระตุก เรื่องอะไร?ดูเหมือนจะร้ายแรงมากเสียด้วย?เขาไม่กล้าชักช้า
ดังนั้น นี่เป็นเสื้อผ้าที่ร้านเสื้อผ้าสำเร็จรูปของตระกูลชิ่งหรือ?ฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าตัวเองขายหน้าเอามากๆ ขายหน้าไปถึงบ้านคุณย่าแล้วหลังจากนางถามออกมาถึงพบว่าที่แท้ตัวเองก็เหมือนกับหญิงสาวคนอื่นๆ ชอบคิดไปเรื่อยเปื่อย ชอบหึงไปเรื่อยเปื่อย แล้วยังชอบหาเรื่องทะเลาะอย่างไม่มีเหตุผลอีกี"แล้วใครให้ท่านไม่ยอมบอกกันเล่า?"ฟู่จาวหนิงตัดสินใจแว้งกลับ"ใช่ เป็นข้าที่ไม่ยอมอธิบายออกมาเอง ข้าผิดเอง" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นมาด้วยท่าทางแสนดี"ท่านไม่ใช่แค่ไม่ยอมอธิบายเอง แต่ยังจงใจท้าทายจะทะเลาะกับข้าด้วย""ใช่ ข้าผิดไปแล้ว ข้าขอโทษ""เซียวหลันยวน""หืม ข้าอยู่นี่"ฟู่จาวหนิงจู่ๆ ก็รู้สึกหมดเรี่ยวแรงผู้ชายต่ำช้าคนนี้ ตอนที่สมองยังบ้าๆ บอๆ ก็เอาแต่ทำให้คนโมโห แต่พอสมองกลับมาดี ท่าทีของเขาก็แสนดีจนโกรธไม่ลงเลย"หนิงหนิง..."เซียวหลันยวนคล้องคอนาง เอียงเข้าไปหานาง แต่ตอนที่ลมหายใจสัมผัสกัน เขาก็อดทนผละตัวถอยออกมาอีกสภาพเขาแบบนี้...ฟู่จาวหนิงมองออกถึงความดิ้นรนและปรารถนาจากในตาของเขาเขามองริมฝีปากนางมาหลายครั้งแล้ว สายตาเองก็ร้อนแรงเหมือนเปลวไฟ ทั้งสองคนห่างกันไปหลายเดือน ไม่ได้เข้าใกล
ต่อให้คิดตกแล้ว แต่ให้นางมองใบหน้าพังๆ ของตนเองในระยะใกล้เช่นนี้ เซียวหลันยวนก็ยังรู้สึกกดดันในใจอยู่ฟู่จาวหนิงยังรู้สึกว่าลมหายใจของเขาตึงเครียดอย่างชัดเจนเขามีแรงกดดันในใจจริงๆฟู่จาวหนิงถอนหายใจในใจ เอาจริงๆ ตอนที่เห็นใบหน้าเขาชัดๆ ในใจนางอันที่จริงก็ตกใจขึ้นมากะทันหันเหมือนกันเพราะว่า...นางเข้าใจเสี่ยวชิ่นในคืนนั้นได้ว่าทำไมจึงตกใจจนร้องไห้ใบหน้าเดิมของเซียวหลันยวนนั้นงดงามเอามากๆ ตอนนี้กลับน่ากลัวขนาดนี้ใบหน้ามีแผลเป็นตกสะเก็ด จนดูเหมือนรากไม้คลานอยู่บนใบหน้า ดึงตาหูจมูกปากไปจนเปลี่ยนรูปเซียวหลันยวนเดิมทีเรียกได้ว่าเป็นหนุ่มรูปงามอันดับหนึ่งในใต้หล้าได้เลย กระทั่งซือถูไป๋ก็ยังแพ้เขาตอนนี้กลับต่างอย่างเห็นได้ชัดถึงเพียงนี้ ตัวเขาเองจะยอมรับได้หรือ?เขาเองก็น่าจะถือว่าจิตใจมีความสามารถในการยอมรับที่แข็งแกร่งมากแล้ว ถ้าเป็นคนอื่น คงจะพังทลายไปเรียบร้อย"ข้าคิดออกถึงหนึ่งวิธีการรักษา แต่ต้องบอกกับท่านให้เข้าใจก่อน"พลังการยอมรับของฟู่จาวหนิงแข็งแกร่งมาก และเพราะเมื่อคืนนี้นางเองก็เห็นคนป่วยเหล่านั้นมาก่อนแล้ว เคสคนป่วยพวกนั้น แผลเป็นบนใบหน้าน่ากลัวอย่างมาก รูปภาพคว