"ไม่ใช่ ข้าเป็นคนที่แต่งงานกับเขาเอง""แต่งกับเขาเอง?""ใช่ ยิ่งไปกว่านั้นเขาเดิมทีก็ไม่ได้หน้าตาเช่นนี้ แต่เป็นเพราะเขาโดนพิษเล่นงานมา ดังนั้น หลังจากนี้เจ้าห้ามพูดถึงใบหน้าเขากับคนอื่นนะ เวลาอยู่ต่อหน้าเขาก็ต้องแสดงท่าทีให้เป็นปกติมากที่สุด แล้วห้ามมาพูดกับข้าเรื่องไม่ได้รับความเป็นธรรมอะไรนี่ด้วย เข้าใจไหม?"ฟู่จาวหนิงฟังความหมายของเสี่ยวชิ่น ก็เหมือนพูดว่านางแต่งกับเซียวหลันยวนแล้วน่าเวทนาน่าสงสารมากเสียอย่างนั้น แล้วยังรู้สึกว่านางทุกคนอยู่กับเซียวหลันยวนคงจะหวาดกลัวมาก จึงรีบกำชับกับเสี่ยวชิ่นอย่างเข้มงวดขึ้นมาเสียรอบหนึ่ง"เจ้าค่ะ ข้าน้อยทราบแล้ว"เสี่ยวชิ่นยังกล้าเสียที่ไหนยิ่งไปกว่านั้นคุณหนูหลังจากฟังการบรรยายของนางแล้วก็ไม่ได้รู้สึกกลัวอะไร ยอดเยี่ยมจริงๆ คุณหนูสมแล้วที่เป็นคุณหนู ถ้าเป็นนางคงจะทำไม่ได้แน่ๆพอมาถึงเรือนหน้า เสิ่นเสวียนเห็นแค่นางเข้ามา จึงเผยสีหน้าเข้าใจ"ส่งอาหารค่ำของอ๋องเจวี้ยนเข้าไป" เขาบอกกับคนใช้"ขอรับ"ฟู่จาวหนิงนั่งลงตรงข้ามเสิ่นเสวียน "ท่านลุง ท่านเดาไว้แล้วใช่ไหมว่าเขาจะไม่มากินข้าว?"นี่เตรียมการไว้แล้วอย่างเห็นได้ชัด"มองออกน่ะ" เสิ่
ฟู่จาวหนิงเองก็ถลึงตาโตอ้าปากค้างเช่นกันมิน่าเมื่อครู่เสิ่นเสวียนตอนที่เห็นนางถึงมีปฏิกิริยาปกติแบบนั้น ที่แท้เขาเองก็เป็น "นักแสดงยอดเยี่ยม" คนหนึ่งเหมือนกันมองไม่ออกถึงร่างเสิ่นเสวียนคนเดิมเลยยิ่งไปกว่านั้นคนในที่ว่าการยังถามว่าเขาใช่ซ่งเป่าซานไหม แสดงว่าเขาแต่งตัวแสดงเป็นคนนี้จนมีตัวตนขึ้นมาแล้วหรือ?"ก็ไม่ค่อยได้ยินพวกเจ้าทำผิดอะไรอีกเท่าไรนั่นล่ะ คราวที่แล้วโดนปรับเงินไปหลายอยู่เลยว่าง่ายขึ้นมาแล้วอย่างนั้นหรือ?"คนในที่ว่าการคุยสนทนากับเสิ่นเสวียนขึ้นมาเสียอย่างนั้น"ก็ไม่ใช่หรือไรกัน? ปวดใจเสียเหลือเกิน!" เสิ่นเสวียนทำหน้านิ้วถอนใจเสียงขมขื่นทหารทางการคนนั้นหัวเราะร่าขึ้นมา ตบลงไปบนบ่าเขา "ก็ต้องทำให้เจ้าปวดใจสิ! พวกเจ้าตอนนั้นก่อเรื่องไว้ตั้งขนาดไหน? วันดีคืนดีก็ไปทะเลาะวิวาทกับเพื่อนบ้านสาดเสียเทเสียใส่กัน! ประเดี๋ยวประด๋าวก็ขึ้นไปประท้วงบนถนนอีก หญิงรับใช้ของบ้านเจ้าพวกนั้นก็ด้วย สบถคำหยาบกันร้ายกาจเหลือเกิน สบถกันจนพวกพ่อค้าที่มาจากแคว้นเจาคิดว่าเมืองหลวงจักรพรรดิของเราเป็นบ้านป่าเมืองเถื่อนกันไปแล้ว!"พรืด!ฟู่จาวหนิงตกตะลึงขึ้นไปอีกมีเรื่องแบบนี้ด้วย?"ใช่ใ
ระหว่างทางกลับฟู่จาวหนิงกำลังคิด ความหมายของท่านลุง น่าจะไม่ใช่ให้เซียวหลันยวนกับนางพักอยู่ห้องเดียวกันกระมัง!อันที่จริงนางก็รู้ว่าเรือนแห่งนี้ห้องว่างมีไม่มากที่แท้ก็มีคนบางส่วนพักอยู่แล้ว ถ้าแสดงเป็นครอบครัวที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่จริงๆ ร่องรอยก็จะต้องมีแน่นอนเซียวหลันยวนคนนั้น ถ้านอนบนเตียงคนอื่นก็เหมือนจะไม่ชินเสียด้วย นอกเสียจากเครื่องนอนทั้งหมดจะถูกเปลี่ยนก่อนหน้านี้ตอนที่ออกไปพวกเขายังเอารถม้าไปด้วย ตอนไปถึงโรงเตี๊ยมก็จะเอาสิ่งที่ตัวเขาใช้ไปปู พิถีพิถันสุดๆถ้าหากไม่ได้ตามเงื่อนไข เขาอยู่แค่สองชั่วยามพอถูไถ แต่มีทางได้นอนจริงๆ แน่ฟู่จาวหนิงอันที่จริงก็อยากจะบอกว่าเขามีปัญหา แต่ถ้าเขาไม่เปลี่ยนแล้วจะทำอะไรได้พวกเขาอาจจะต้องอยู่ที่นี่อีกหลายวัน แล้วจะให้เขาอยู่แค่พอถูไถไปตลอดหรือ? ทุกคนต้องมานอนพิงแค่ได้ครู่เดียวแบบนั้น?ตอนนางกลับไปถึงห้องตนเอง ชิงอีกำลังเก็บกวาดถาดชามบนโต๊ะฟู่จาวหนิงเหลือบมองผาดหนึ่งอาหารที่ส่งมา กินไปแค่ไม่กี่คำเท่านั้น"ทำไมล่ะ ไม่อร่อยหรือ?" นางถามขึ้นคำหนึ่งเซียวหลันยวนนั่งอยู่ข้างๆ หน้ากากยังคงสวมไว้ดิบดี"ไม่ใช่ อร่อยมาก แต่ไม่อยากอาหาร"
ฟู่จาวหนิงตะลึงไป "ได้สิ"เซียวหลันยวนกอดผ้าห่มเดินออกไปวางยังแคร่นิ่มที่ไม่ห่างออกไปนัก"ข้าจะนอนที่นี่แล้วกัน ไม่รบกวนเจ้าแล้ว" เซียวหลันยวนเอ่ยขึ้นเหอะๆ"เอาสิ" ฟู่จาวหนิงกลอกตาขาว "ดับเทียนเสียด้วย""ได้"เซียวหลันยวนปรบมือ ดับไฟเทียนลงมาในห้องตกอยู่ในความมืดมิด หน้าต่างกระดาษมีเพียงแสงจันทร์ลอดเข้ามารางๆฟู่จาวหนิงนอนอยู่บนเตียง ได้ยินการเคลื่อนไหวของเขาทางนั้น เหมือนว่าจะนอนลงไปแล้ว"หน้ากากของท่านไม่ปลดลงมาหรือ?"เซียวหลันยวนคิดไม่ถึงว่าหูของนางจะไวขนาดนี้ ขนาดไม่หลดหน้ากากลงมาก็ยังฟังออก"จะปลดตอนนี้นั่นล่ะ""ข้าไม่ได้บังคับท่านให้ถอดนะ ท่านไม่ถอดก็เรื่องของท่าน"ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่เรื่องของนางอยู่แล้วเซียวหลันยวนปลดหน้ากากลงมาเงียบๆเขานอนลงไป ยื่นมือมาสัมผัสใบหน้าตนเองเบาๆ ตอนโดนมือก็เหมือนจับเข้ากับคางคกที่เป็นปีศาจไปแล้ว สัมผัสมือทำเอาขยะแขยงรู้สึกหมดอาลัยตายอยากไปขณะหนึ่งเลยจริงๆฟู่จาวหนิงรู้สึกว่าแรงกดดันในห้องลดลงมาแล้วอย่างประหลาดพอคิดแล้วนางจึงถามออกมา"หน้าของท่าน มันแย่ลงใช่ไหม?"ผ่านไปครู่หนึ่งถึงได้ยินเสียงตอบของเซียวหลันยวน "ใช่"เขาไม่อย
ในวังจักรพรรดิตำหนักจิ้งฉีที่นี่คือวังบรรทมขององค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นแม้จะกลับมาน้อยครั้ง ช่วงสิบปีนี้วันที่มายังตำหนักจิ้งฉีใช้นิ้วนับได้เลย แต่เหล่าสาวใช้วังของตำหนักจิ้งฉีก็อยู่ที่นี่มาตลอดทั้งปี คอยเก็บกวาดเป็นอย่างดี จัดการตัดแต่งต้นไม้ใบหญ้าดังนั้นตำหนักจิ้งฉีจึงสะอาดสะอ้านมาโดยตลอดเดิมทีองค์จักรพรรดิยังจะจัดเลี้ยงเชิญองค์หญิงใหญ่อยู่ แต่เพราะเรื่องลอบสังหารในวันนี้ งานเลี้ยงจึงยกเลิก องค์จักรพรรดิฮองเฮาพอเจอกับนาง ก็เข้าปลอบประโลมไปไม่กี่คำ จากนั้นจึงให้นางไปพักผ่อนยังวังบรรทมองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นถูกปรนนิบัติอาบน้ำอาบท่า ตอนที่แช่อยู่ในน้ำร้อนให้สาวใช้วังค่อยๆ ขัดสีฉวีวรรณ ไม่รู้เพราะอะไรจึงคิดถึงคนเหล่านั้นที่พบในวันนี้ในสมองนางคนที่คิดถึงก่อนคือซือถูไป๋คุณชายเปล่งปลั่งที่เหมือนพระจันทร์คนนั้น ชุดคลุมผ้าไหมสีขาวพออยู่ในกลุ่มคนดูแล้วก็เหมือนมีแสงสว่างขาวนวลชั้นหนึ่งแผ่ออกมาพริบตานั้น นางกระทั่งรู้สึกว่าตนเองในช่วงเวลาที่โดดเดี่ยว สิ่งที่คอยวาดฝันอยู่ตลอด ชายหนุ่มที่สามารถมายืนอยู่ข้างกายตนเองได้ ต้องมีหน้าตาแบบนี้นั่นล่ะองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นยื่นมือ
"โอ้ องค์หญิงใหญ่หมายถึงคนที่ใส่ชดสีดำ แล้วสวมหน้ากากประหลาดๆ คนนั้นใช่ไหม?""อืม คนนั้นนั่นล่ะ""นั่นน่าจะเป็นคนแปลกๆ กระมัง?" เฉินเซ๊ยงคิดถึงคนคนนั้น ก็รู้สึกขลาดขึ้นหน่อยๆ ไม่รู้เพราะอะไรหรือมีอะไรต้องกลัว แต่มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เหมือนกับตอนที่มองเห็นคนอื่น"ทำไมถึงมีคนประหลาดแบบนี้ด้วย?""สวมหน้ากากไว้ก็ประหลาดแล้วนี่นา ไม่เห็นหน้าเลยสักนิด องค์หญิงใหญ่กลับเมืองหลวง เรื่องใหญ่ขนาดนี้ คนทั้งหมดล้วนจัดการตนเองให้เรียบร้อยแล้วออกมาหาท่าน เพื่อให้ท่านจดจำ เขาจะสวมหน้ากากแบบนั้นไว้ทำไมกัน?""บางทีอาจจะไม่อยากให้คนจำตนเองได้กระมัง""อาจจะหน้าตาอัปลักษณ์ก็ได้นะ" เฉินเซ๊ยงเอ่ยขึ้น "ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครหน้าตาดีกว่าคุณชายพระจันทร์ขาวคนนั้นแล้วกระมัง?"นั่นก็ใช่องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นเองก็รู้สึกเหมือนกัน น่าจะไม่มีใครดีกว่าเขาแล้วกระมังแต่ในใจนางก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่รู้สึกอยากรู้อยากเห็นกับผุ้ชายสวมหน้ากากคนนั้นมาก"ฝ่าบาทส่งคนออกไปสืบจับนักฆ่าแล้ว องค์หญิงใหญ่เองก็รีบพักผ่อนเถิด"องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้นพยักหน้านางเองก็เหนื่อยแล้วพรุ่งนี้เองก็อยากรีบไปถามด้วยว่าหาคุณชายคนนั้นเจอแล้ว
"หรือว่าเสิ่นฉยงจะเป็นตัวการสำคัญในเมืองหมาน? แล้วคิดจะส่งคนกลับมาล้างแค้น?"ตอนนั้นเขาไม่ฟังคำอธิบายของเสิ่นฉยงกับคนตระกูลเสิ่น ฝืนส่งเสิ่นฉยงไปที่เมืองหมาน สำหรับบ้านตระกูลเสิ่นแล้ว ก็น่าจะเป็นความแค้นจริงๆดังนั้นเสิ่นฉยงกลับมาแก้แค้นหรือ?"เขามีความสามารถนี้ด้วยหรือ?""ฝ่าบาท ต่อให้เสิ่นฉยงจะไม่มีความสามารถนี้ ก็ไม่ใช่ว่ายังมีเสิ่นเสวียนอยู่หรือ?""เสิ่นเสวียน?""เสิ่นเสวียนปีที่แล้วออกจากต้าชื่อไปเกือบปี จะบอกว่าเขาไม่ได้ไปที่เมืองหมานเพื่อวางแผนอะไรกับพี่ใหญ่ของเขาหรือ?"หน้าขององค์จักรพรรดิขรึมลงมา"ปีที่แล้วตอนนั้น เสิ่นเสวียนป่วยจนจะตายอยู่แล้ว ตอนนั้นข้าส่งหมอไปตรวจตั้งหลายคน ไม่ผิดแน่นอน"ถ้าไม่ใช่เขาหาคนมายืนยันแล้ว เขาเองก็ไม่มีทางปล่อยให้เสิ่นเสวียนออกไปหาหมอจากที่อื่นๆ แน่องค์จักรพรรดิตอนนั้นยังรู้สึกว่าเสิ่นเสวียนต่อให้ออกจากบ้านไปหาหมอก็คงไม่ทันการแล้วแน่ๆ เขาต้องตายอยู่ข้างนอกแน่นอนให้เสิ่นเสวียนไปไปตายที่ต่างบ้านต่างเมือง มีจุดจบน่าเวทนา เขาเองก็ยินดีที่จะได้เห็นแต่คิดไม่ถึงว่าเสิ่นเสวียนจะยังไม่ตาย ซ้ำยังกลับมาอีกตอนนี้นักฆ่ายังพูดชื่อเมืองหมานออกมา
หรือว่าพวกเขาไม่เกรงกลัวความตายกัน?องค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น นั่นเป็นคนที่พระพุทธเจ้าปกป้องเลยนะ!ยังมีคนบางส่วน ที่คืนนี้ไม่ว่าอย่างไรก็นอนไม่หลับ ซึ่งก็คือคนที่เกิดเรื่องเหยียบกันขึ้นมาในวันนี้นั่นเองครั้งนี้บาดเจ็บไปยี่สิบเอ็ดคน ตายไปแล้วสองคน ยังเหลืออีกเจ็ดคนบาดเจ็บหนักจวนทางการแน่นอนว่าต้องเข้ามาดูแลคนเหล่านี้ ตอนนี้คนเหล่านี้ทั้งหมดรับไปอยู่ในโรงหมอที่ใหญ่ที่สุดแล้ว ส่งหมอใหญ่ที่ดีหน่อยไปคอยดูแลในโรงหมอเองก็หลับกันไม่ลงคนเหล่านี้ไม่ค่อยพูดถึงองค์หญิงใหญ่ฝูอวิ้น ที่พวกเขาพูดกันมากหน่อยคือคนที่ช่วยชีวิตพวกเขาวันนี้"ข้าตอนนั้น ข้าตอนนั้นรู้สึกว่าตนเองหายใจไม่ออกแล้ว รู้สึกว่าตัวเองกำลังจะตายแล้ว ต่อมาแม่นางคนนั้น คนที่สวมหน้ากาก นางก็ประคองข้าขึ้นมา ใช้เข็มแทงไปที่หน้าอกข้าสองเข็ม แล้วก็เหมือนลมมันระบายออกทันที ข้าถึงหายใจได้ขึ้นมา!"มีประชาชนที่เจ็บน้อยหน่อยบอกสถานการณ์ตอนนั้นกับคนที่บ้านพวกคนที่เจ็บน้อยหน่อยล้วนอยู่ในห้องเดียวกัน เตียงหลายเตียงรวมอยู่ด้วยกัน นอนกันไม่หลับ เอาแต่พูดคุยกับคนในบ้านที่ได้รับแจ้งให้มาดูแล"ใช่ใช่ใช่ ข้าเองก็ด้วย ข้าตอนนั้นคอข้าบิด ถูกคนทับล