แชร์

2

“ถ้าแพ้ มะลิจะจ่ายแค่หนึ่งร้อยปอนด์ แต่ถ้าชนะมะลิจะได้หนึ่งหมื่นปอนด์ถูกต้องไหมคะ” มะลิฉัตรเอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มเจ้าเล่ห์  ให้สามี

“ตามนั้นเลยครับคุณผู้หญิง” เลโอนาดท์ตอบยิ้มๆ กับท่าทางตื่นเต้นของภรรยา

“แล้วถ้าเกิดไม่ใช่พี่อลันกับพี่เจคล่ะคะ” พิมพลอยหันไปมองหน้าคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างนึกสนุกตาม ก่อนจะเอ่ยแย้งทั้งสองเพราะเสียงรถที่แล่นเข้ามาจอดไม่ค่อยคุ้นสักเท่าไหร่

“ถ้าไม่ใช่อลันกับเจค เงินพนันหมื่นกับหนึ่งร้อยปอนด์เป็นของน้องพิม ดีไหมลูก!” เลโอนาดท์เอ่ยก่อนจะยิ้มกว้างให้สาวน้อย

“จริงๆ นะคะคุณพ่อ โอ๊ย! น้องพิมตื่นเต้นค่ะ อยากรู้จังว่าใครจะมา!” พิมพลอยเอ่ยและทำท่าทางตื่นเต้น

“ฮ่าๆๆ / คิกๆๆ” เลโอนาดท์กับมะลิฉัตรหัวเราะออกมาพร้อมๆกัน กับท่าทางซื่อๆ ของสาวน้อยที่แสดงออก

“สวัสดีครับพ่อ สวัสดีครับแม่!” น้ำเสียงที่ทุ้มๆ เอ่ยทักทายขึ้นที่ด้านหลัง พิมพลอยหันไปมองและสบตากับชายหนุ่มเข้าอย่างจัง

‘ผู้ชายที่อยู่ในรูปใบนั้น’ หญิงสาวบอกตัวเองในใจ พลางรู้สึกสั่นขึ้นมานิดๆ หัวใจก็เต้นแรงขึ้นจนเริ่มจะหายใจติดๆ ขัดๆ อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และทันทีที่ดวงตาสีฟ้าเข้มจ้องมองมายังเธอ มันเหมือนโลกทั้งใบหยุดนิ่งอยู่กับที่ เหมือนว่าเธอได้หลุดเข้าไปอยู่ในโลกอีกใบ  ที่มีแค่เขาและเธอเพียงสองคนเท่านั้น

“อ้าว! แบบนี้ทั้งคุณและผมต้องจ่ายให้น้องพิมแล้วสิ ฮ่าๆๆ” เลโอนาดท์เอ่ยขึ้นหลังจากที่เห็นบุตรชายคนโตทักทาย

“ไม่น่าเชื่อว่างานนี้จะต้องจ่ายน้องพิม คิกๆๆ” มะลิฉัตรเอ่ยกับสามีที่ต่างฝ่ายต่างเดาไม่ถูก พิมพลอยที่เพิ่งได้สติรีบส่งยิ้มเจื่อนให้กับทั้งสอง

“พ่อไม่นึกว่าแพทยังจำทางเข้าคฤหาสน์ได้นะเนี่ย ฮ่าๆ” เลโอนาดท์เอ่ยแซวบุตรชายคนโต ที่สองปีมานี้ไม่เคยเหยียบเข้ามาที่คฤหาสน์เลย

“ใช่ค่ะ! มะลิเองก็เกือบลืมไปว่ามีลูกชายอีกสามคน โทร. ไปตามทีไรก็บอกว่ายังไม่ว่างๆ แต่ขยันเป็นข่าวกับแม่ดารานางแบบไม่เว้นแต่ละวัน น่าน้อยใจจริงๆ” มะลิฉัตรรีบเอ่ยสมทบ เพราะจะเจอบุตรชายแต่ละคนได้ก็ตอนงานใหญ่ๆดังๆ ของแวดวงไฮโซที่สามหนุ่มขยันพากันควงสาวๆ ไปไม่เคยซ้ำหน้า จนเธอและสามีแทบจะต้องเดินหลบออกห่างๆ เพราะไม่อยากไปทำความรู้จักสาวคนไหนของบุตรชาย นั่นเป็นเพราะถ้าเจอที่งานหน้าอีกครั้ง บุตรชายก็จะควงสาวคนใหม่ไป เรียกได้ว่างานละคนนั่นเอง !

“แหม! พ่อกับแม่ก็พูดเกินไป อ้อ! แล้วนี่...” แพททริกสันแกล้งเอ่ยถาม พลางหันไปมองสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าเต็มๆ ตาอีกครั้ง ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อข่มความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ ขณะที่หัวใจเต้นโครมครามเสียงดังแบบไม่เป็นจังหวะ

“นี่น้องพิม พิมพลอย น้องสาวของลูกกับอลันและเจคจ้ะ” มะลิฉัตรกล่าวแนะนำ พิมพลอยรีบยกมือไหว้อีกฝ่ายย่างอายๆ อาการสนุกสนานร่าเริงก่อนหน้าหายไปทันทีทันใด

แพททริกสันยังคงมองค้างไม่ได้รับไหว้ เพราะยังตกใจกับคำว่า...น้องสาวที่มารดาของตนบอกเมื่อครู่

“น้องสาว! หมายความว่า...” ชายหนุ่มเอ่ยค้างไว้พลางหันมามองที่ผู้เป็นบิดาอย่างไม่ไว้ใจ

เลโอนาดท์ถึงกับสะดุ้งกับสายตาที่เหมือนจะจับผิด ว่าตนแอบไปนอกใจภรรยามาตอนไหน ประมุขของบ้านที่กำลังถูกกล่าวหากลอกตาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะเอ่ยเตือนบุตรชายเสียงเข้ม! “แพท! พ่อได้รางวัลผู้นำครอบครัวดีเด่นมาห้าปีซ้อนนะลูก!” 

“น้องพิมเป็นลูกสาวของเพื่อนแม่ที่เสียชีวิตเมื่อปีก่อน พ่อกับแม่ก็เลยรับน้องพิมมาเป็นลูกสาวคนเล็กน่ะ น้องพิมจ๊ะ นี่พี่แพท พี่ชายอีกคนของหนูจ้ะ!” มะลิฉัตรรีบอธิบายก่อนที่บุตรชายจะตีความไปไกล

“โล่งใจ! นึกว่าสายเลือดเดียวกันซะอีก” แพททริกสันบ่นพึมพำเบาๆ ในขณะที่ผู้เป็นบิดาหันมามองค้อนอย่างเคืองๆ ที่ได้ยินบุตรชายเอ่ยราวกับไม่ไว้วางใจตน!

“อะไรนะคะ” พิมพลอยเอ่ยถามเพราะได้ยินอีกฝ่ายพูดไม่ถนัด

“อ๋อ! เอ่อ...สวัสดีค่ะน้องพิม เรียกพี่ว่าพี่แพทนะคะ” แพททริกสันรีบเอ่ยเปลี่ยนเรื่องคุย และนั่งลงใกล้ๆ กับเก้าอี้ที่สาวน้อยนั่งอยู่อย่างเนียนๆ

เลโอนาดท์หันไปมองภรรยาทันทีที่ได้ยินลูกชายคนโตพูดคะ-ค่ะ อย่างที่ไม่เคยพูดมาก่อน จนรู้สึกแปลกใจชอบกล

“สวัสดีค่ะพี่แพท” หญิงสาวยกมือไหว้อีกฝ่ายอีกครั้ง

“สวัสดีค่ะน้องพิม” แพททริกสันรีบยกมือขึ้นรับไหว้ ก่อนจะแกล้งเนียนเอ่ยเรื่องอาหารเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของบิดาและมารดา ที่เอาแต่มองเหมือนจะจับผิด จนเขาแทบจะทำตัวไม่ถูก

“ว้าว! กับข้าวน่าทานมากๆ เลย ฝีมือแม่อีกแล้วใช่ไหมครับ”

“ใช่จ้ะ แม่กับน้องพิมช่วยกันทำ แต่พล่าปลาแซลมอนจานนี้ฝีมือน้องพิม ลองชิมดูสิว่าผ่านไหม?” มะลิฉัตรเอ่ยทดสอบอาการของบุตรชาย พร้อมกับหันไปส่งซิกให้สามี

“งั้นขอพี่แพทลองชิมดูหน่อยนะคะ” แพททริกสันหันไปเอ่ยกับสาวน้อยยิ้มๆ จนลืมสังเกตสายตาที่มองมาของบิดาและมารดา

หลังจากวันนั้น... แพททริกสันก็แวะมาทานข้าวเย็นที่คฤหาสน์บ่อยๆ โดยให้มือขวาคนสนิทอยู่เคลียร์งานแทนตั้งแต่ทุ่มหนึ่งจนถึงสี่ทุ่มแทบทุกวัน เพื่อที่ตนเองจะได้กลับไปชิมฝีมือทำกับข้าวของพิมพลอยที่คฤหาสน์บ่อยๆ จนจิมมี่เจมส์ทนไม่ไหวต้องเอ่ยเตือนผู้เป็นนาย ที่เหมือนจะไม่รู้สึกตัวกับสิ่งที่กระทำอยู่

‘บอสครับ! อย่าหาว่าผมเสือกเลยนะครับ อาทิตย์นี้บอสกลับไปทานข้าวที่คฤหาสน์ทุกวันเลย! เว้นช่วงบ้างเถอะครับ ผมว่าป่านนี้นายใหญ่กับมาดามอาจจะมองออกแล้วก็ได้ ว่าบอสน่ะจ้องจะกินไก่วัดอยู่!’ ทันทีที่เอ่ยจบมือขวาคนสนิทก็วิ่งออกห้องไปอย่างรู้ตัว ว่าถ้าขืนยังอยู่ต่อต้องมีงานเข้าแน่ๆ

และก็เป็นไปอย่างที่คาดการณ์ หลังจากที่จิมมี่เจมส์วิ่งออกไปและยังไม่ทันได้ปิดประตูสนิท สันหนังสือเล่มใหญ่ก็ลอยมากระแทกเข้าที่ประตูห้องดังโครม! ตามด้วยเสียง

‘ไอ้เจเจ! มึงกลับมานี่!’ แพททริกสันตะโกนตามเสียงดัง หลังจากที่โดนมือขวาคนสนิทเอ่ยวาจาแทงใจดำใส่

จิมมี่เจมส์หยุดฟังอยู่หน้าห้อง พลางอดขำไม่ได้กับท่าทางของผู้เป็นนาย ที่อยู่ในอาการของคนมีความรัก แต่ต้องเก็บซ่อนความรู้สึกของตัวเอง เพราะสาวเจ้าอายุแค่สิบเจ็ดปีเท่านั้น แถมนายใหญ่กับมาดามยังหวงอย่างกับอะไรดี!

จากคำพูดของมือขวาคนสนิทครั้งนั้น ทำให้แพททริกสันเกิดคำถามว่าตัวเองนั้นกำลังทำอะไรอยู่ ใช่! เธออายุแค่สิบเจ็ดปี ในขณะที่เขาอายุยี่สิบแปดปี พระเจ้า! ห่างกันตั้งสิบสองปีแน่ะ! ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างหงุดหงิด พร้อมกับตั้งใจว่าจะกลับไปเจอหน้าเธอแค่เดือนละครั้ง พอให้ตัวเองได้เห็นรอยยิ้มหวานๆ บ้าง เพราะถ้าขืนไปเจอเธอทุกวันแบบนี้ แล้วถ้าเกิดวันไหนที่เขาหน้ามืดขึ้นมาเผลอตัวไปจูบเธอเข้า ทีนี้เรื่องจะไม่จบที่จูบอย่างแน่นอน

กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเธอที่เขาได้เผลอสูดดมเข้าไปนั้น มันตามไปหลอกหลอนเขาในยามค่ำคืน จนต้องให้คนสนิทเรียกหาผู้หญิงมาปล่อยความต้องการ กลางดึกบ่อยๆ มันเป็นเรื่องที่โคตรจะหงุดหงิดสำหรับเขาเลย ที่ต้องมีอะไรกับผู้หญิงอีกคน แต่กลับจินตนาการถึงผู้หญิงอีกคน

แพททริกสันกลับไปใช้ชีวิตแบบเก่าที่ควงสาวๆ ไม่ซ้ำหน้าเหมือนที่ผ่านมา เพื่อพยายามที่จะลบรอยยิ้มหวานๆ กับกลิ่นหอมอ่อนๆ ของพิมพลอยออกไปจากความรู้สึกที่โหยหากับความต้องการทางกาย ในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขาเอง มันดูจะผิดเพี้ยนไปหมด เขาจะต้องดึงตัวตนเดิมของเขากลับมาให้ได้ จะไม่ยอมให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ มามีอิทธิพลต่อชีวิตของเขา เพราะสิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้คือพิสูจน์ตัวเอง เพื่อที่จะเข้าไปรับตำแหน่งผู้กุมบังเหียนใหญ่ของโรคาซานเดอร์แทนบิดาที่เตรียมจะวางมือ และนั่นทำให้เขาต้องออกห่างจากเธอ เพราะรอยยิ้มบางๆ กับเสียงหวานๆ นั้น มันทำให้เขาหลงลืมสิ่งรอบข้างไปอย่างไม่รู้สึกตัว!

ด้านพิมพลอยเองก็รู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นบ้าที่เอาแต่เฝ้ารอ! เขาทำให้เธอยิ้ม ทำให้เธอมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ๆ เขาทำให้เธอพร่ำเพ้อและแอบฝันไปไกล แล้วอยู่ๆ เขาก็หายไป ไม่แวะมาที่คฤหาสน์อีกเลย

สามปีต่อมา...เมื่อวานพิมพลอยแอบได้ยินเด็กรับใช้คุยกันว่าวันนี้แพททริกสันจะกลับมาจัดงานเลี้ยงวันเกิดที่คฤหาสน์ พร้อมกับเพื่อนสนิทที่ข้างสระว่ายน้ำ เธอตื่นเต้นมากตอนที่ได้ยิน! พอช่วงหัวค่ำคุณมะลิฉัตรก็แจ้งข่าวให้เธอทราบอีกครั้ง เธอแทบจะเก็บอาการดีใจเอาไว้ไม่อยู่ แต่พอคิดไปคิดมา ถ้าเกิดว่าวันนี้แพททริกสันพาผู้หญิงมาด้วย เธอจะทำยังไง? พอคิดมาถึงตรงนี้ก็รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

หญิงสาวนั่งถอนหายใจอยู่คนเดียวเงียบๆ ตรงระเบียงทางเดินระหว่างชั้นสองกับชั้นสาม มองดูแม่บ้านและใครต่อใครที่ช่วยกันเตรียมของ เพื่อจัดและตกแต่งสถานที่กันอย่างขยันขันแข็ง พลางแอบคิดในใจว่าตอนดึกๆ เธอจะมาแอบดูเขาตรงจุดที่นั่งอยู่ เพราะสามารถมองเห็นบริเวณโดยรอบของงาน ได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว

ขณะที่พิมพลอยกำลังนั่งมองคนจัดงานอยู่นั้น มะลิฉัตรที่เดินลงมาจากชั้นสี่ ก็เห็นท่าทางเหม่อลอยของบุตรสาวบุญธรรม จึงรีบเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย

“น้องพิม! มานั่งทำอะไรตรงนี้จ๊ะ ทำไมยังไม่อาบน้ำแต่งตัวล่ะ”

“มีอะไรเหรอคะคุณแม่?” พิมพลอยตกใจนิดๆ ที่เห็นมะลิฉัตรเดินเข้ามา จึงรีบปรับสีหน้าพร้อมกับส่งยิ้มกว้างไปให้ดั่งเช่นทุกครั้ง

“อ้าว! ก็เตรียมตัวไปร่วมงานวันเกิดของพี่แพทไงลูก สงสัยจะลืมไปแล้วแน่ๆ เลย” มะลิฉัตรแกล้งหยอก

“เอ่อ... น้องพิมไม่ได้ลืมค่ะ แค่ไม่รู้ว่า...” สมควรจะไปหรือเปล่า

“น้องพิมเป็นน้องสาวของพี่แพทนะ ทำไมน้องสาวจะไปร่วมแสดงความยินดีในวันเกิดของพี่ชายไม่ได้ล่ะ ไม่เอาๆ ห้ามคิดมากเด็ดขาด เอางี้! เดี๋ยวแม่ไปช่วยน้องพิมแต่งตัวดีกว่า!” มะลิฉัตรเอ่ยขึ้นพลางดึงมือ สาวน้อย ที่ตอนนี้กลายเป็นสาวสะพรั่งให้ลุกขึ้น

“โอเคค่ะ น้องพิมจะไป” หญิงสาวยิ้ม ก่อนจะเดินตามแม่บุญธรรมเข้าไปยังห้องนอนของตัวเองที่อยู่ชั้นสามอย่างว่าง่าย

บทที่เกี่ยวข้อง

บทล่าสุด

DMCA.com Protection Status