“ถ้าแพ้ มะลิจะจ่ายแค่หนึ่งร้อยปอนด์ แต่ถ้าชนะมะลิจะได้หนึ่งหมื่นปอนด์ถูกต้องไหมคะ” มะลิฉัตรเอ่ยพร้อมกับส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ ให้สามี
“ตามนั้นเลยครับคุณผู้หญิง” เลโอนาดท์ตอบยิ้มๆ กับท่าทางตื่นเต้นของภรรยา
“แล้วถ้าเกิดไม่ใช่พี่อลันกับพี่เจคล่ะคะ” พิมพลอยหันไปมองหน้าคนนั้นทีคนนี้ทีอย่างนึกสนุกตาม ก่อนจะเอ่ยแย้งทั้งสองเพราะเสียงรถที่แล่นเข้ามาจอดไม่ค่อยคุ้นสักเท่าไหร่
“ถ้าไม่ใช่อลันกับเจค เงินพนันหมื่นกับหนึ่งร้อยปอนด์เป็นของน้องพิม ดีไหมลูก!” เลโอนาดท์เอ่ยก่อนจะยิ้มกว้างให้สาวน้อย
“จริงๆ นะคะคุณพ่อ โอ๊ย! น้องพิมตื่นเต้นค่ะ อยากรู้จังว่าใครจะมา!” พิมพลอยเอ่ยและทำท่าทางตื่นเต้น
“ฮ่าๆๆ / คิกๆๆ” เลโอนาดท์กับมะลิฉัตรหัวเราะออกมาพร้อมๆกัน กับท่าทางซื่อๆ ของสาวน้อยที่แสดงออก
“สวัสดีครับพ่อ สวัสดีครับแม่!” น้ำเสียงที่ทุ้มๆ เอ่ยทักทายขึ้นที่ด้านหลัง พิมพลอยหันไปมองและสบตากับชายหนุ่มเข้าอย่างจัง
‘ผู้ชายที่อยู่ในรูปใบนั้น’ หญิงสาวบอกตัวเองในใจ พลางรู้สึกสั่นขึ้นมานิดๆ หัวใจก็เต้นแรงขึ้นจนเริ่มจะหายใจติดๆ ขัดๆ อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน และทันทีที่ดวงตาสีฟ้าเข้มจ้องมองมายังเธอ มันเหมือนโลกทั้งใบหยุดนิ่งอยู่กับที่ เหมือนว่าเธอได้หลุดเข้าไปอยู่ในโลกอีกใบ ที่มีแค่เขาและเธอเพียงสองคนเท่านั้น
“อ้าว! แบบนี้ทั้งคุณและผมต้องจ่ายให้น้องพิมแล้วสิ ฮ่าๆๆ” เลโอนาดท์เอ่ยขึ้นหลังจากที่เห็นบุตรชายคนโตทักทาย
“ไม่น่าเชื่อว่างานนี้จะต้องจ่ายน้องพิม คิกๆๆ” มะลิฉัตรเอ่ยกับสามีที่ต่างฝ่ายต่างเดาไม่ถูก พิมพลอยที่เพิ่งได้สติรีบส่งยิ้มเจื่อนให้กับทั้งสอง
“พ่อไม่นึกว่าแพทยังจำทางเข้าคฤหาสน์ได้นะเนี่ย ฮ่าๆ” เลโอนาดท์เอ่ยแซวบุตรชายคนโต ที่สองปีมานี้ไม่เคยเหยียบเข้ามาที่คฤหาสน์เลย
“ใช่ค่ะ! มะลิเองก็เกือบลืมไปว่ามีลูกชายอีกสามคน โทร. ไปตามทีไรก็บอกว่ายังไม่ว่างๆ แต่ขยันเป็นข่าวกับแม่ดารานางแบบไม่เว้นแต่ละวัน น่าน้อยใจจริงๆ” มะลิฉัตรรีบเอ่ยสมทบ เพราะจะเจอบุตรชายแต่ละคนได้ก็ตอนงานใหญ่ๆดังๆ ของแวดวงไฮโซที่สามหนุ่มขยันพากันควงสาวๆ ไปไม่เคยซ้ำหน้า จนเธอและสามีแทบจะต้องเดินหลบออกห่างๆ เพราะไม่อยากไปทำความรู้จักสาวคนไหนของบุตรชาย นั่นเป็นเพราะถ้าเจอที่งานหน้าอีกครั้ง บุตรชายก็จะควงสาวคนใหม่ไป เรียกได้ว่างานละคนนั่นเอง !
“แหม! พ่อกับแม่ก็พูดเกินไป อ้อ! แล้วนี่...” แพททริกสันแกล้งเอ่ยถาม พลางหันไปมองสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้าเต็มๆ ตาอีกครั้ง ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อข่มความรู้สึกบางอย่างเอาไว้ ขณะที่หัวใจเต้นโครมครามเสียงดังแบบไม่เป็นจังหวะ
“นี่น้องพิม พิมพลอย น้องสาวของลูกกับอลันและเจคจ้ะ” มะลิฉัตรกล่าวแนะนำ พิมพลอยรีบยกมือไหว้อีกฝ่ายย่างอายๆ อาการสนุกสนานร่าเริงก่อนหน้าหายไปทันทีทันใด
แพททริกสันยังคงมองค้างไม่ได้รับไหว้ เพราะยังตกใจกับคำว่า...น้องสาวที่มารดาของตนบอกเมื่อครู่
“น้องสาว! หมายความว่า...” ชายหนุ่มเอ่ยค้างไว้พลางหันมามองที่ผู้เป็นบิดาอย่างไม่ไว้ใจ
เลโอนาดท์ถึงกับสะดุ้งกับสายตาที่เหมือนจะจับผิด ว่าตนแอบไปนอกใจภรรยามาตอนไหน ประมุขของบ้านที่กำลังถูกกล่าวหากลอกตาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะเอ่ยเตือนบุตรชายเสียงเข้ม! “แพท! พ่อได้รางวัลผู้นำครอบครัวดีเด่นมาห้าปีซ้อนนะลูก!”
“น้องพิมเป็นลูกสาวของเพื่อนแม่ที่เสียชีวิตเมื่อปีก่อน พ่อกับแม่ก็เลยรับน้องพิมมาเป็นลูกสาวคนเล็กน่ะ น้องพิมจ๊ะ นี่พี่แพท พี่ชายอีกคนของหนูจ้ะ!” มะลิฉัตรรีบอธิบายก่อนที่บุตรชายจะตีความไปไกล
“โล่งใจ! นึกว่าสายเลือดเดียวกันซะอีก” แพททริกสันบ่นพึมพำเบาๆ ในขณะที่ผู้เป็นบิดาหันมามองค้อนอย่างเคืองๆ ที่ได้ยินบุตรชายเอ่ยราวกับไม่ไว้วางใจตน!
“อะไรนะคะ” พิมพลอยเอ่ยถามเพราะได้ยินอีกฝ่ายพูดไม่ถนัด
“อ๋อ! เอ่อ...สวัสดีค่ะน้องพิม เรียกพี่ว่าพี่แพทนะคะ” แพททริกสันรีบเอ่ยเปลี่ยนเรื่องคุย และนั่งลงใกล้ๆ กับเก้าอี้ที่สาวน้อยนั่งอยู่อย่างเนียนๆ
เลโอนาดท์หันไปมองภรรยาทันทีที่ได้ยินลูกชายคนโตพูดคะ-ค่ะ อย่างที่ไม่เคยพูดมาก่อน จนรู้สึกแปลกใจชอบกล
“สวัสดีค่ะพี่แพท” หญิงสาวยกมือไหว้อีกฝ่ายอีกครั้ง
“สวัสดีค่ะน้องพิม” แพททริกสันรีบยกมือขึ้นรับไหว้ ก่อนจะแกล้งเนียนเอ่ยเรื่องอาหารเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของบิดาและมารดา ที่เอาแต่มองเหมือนจะจับผิด จนเขาแทบจะทำตัวไม่ถูก
“ว้าว! กับข้าวน่าทานมากๆ เลย ฝีมือแม่อีกแล้วใช่ไหมครับ”
“ใช่จ้ะ แม่กับน้องพิมช่วยกันทำ แต่พล่าปลาแซลมอนจานนี้ฝีมือน้องพิม ลองชิมดูสิว่าผ่านไหม?” มะลิฉัตรเอ่ยทดสอบอาการของบุตรชาย พร้อมกับหันไปส่งซิกให้สามี
“งั้นขอพี่แพทลองชิมดูหน่อยนะคะ” แพททริกสันหันไปเอ่ยกับสาวน้อยยิ้มๆ จนลืมสังเกตสายตาที่มองมาของบิดาและมารดา
หลังจากวันนั้น... แพททริกสันก็แวะมาทานข้าวเย็นที่คฤหาสน์บ่อยๆ โดยให้มือขวาคนสนิทอยู่เคลียร์งานแทนตั้งแต่ทุ่มหนึ่งจนถึงสี่ทุ่มแทบทุกวัน เพื่อที่ตนเองจะได้กลับไปชิมฝีมือทำกับข้าวของพิมพลอยที่คฤหาสน์บ่อยๆ จนจิมมี่เจมส์ทนไม่ไหวต้องเอ่ยเตือนผู้เป็นนาย ที่เหมือนจะไม่รู้สึกตัวกับสิ่งที่กระทำอยู่
‘บอสครับ! อย่าหาว่าผมเสือกเลยนะครับ อาทิตย์นี้บอสกลับไปทานข้าวที่คฤหาสน์ทุกวันเลย! เว้นช่วงบ้างเถอะครับ ผมว่าป่านนี้นายใหญ่กับมาดามอาจจะมองออกแล้วก็ได้ ว่าบอสน่ะจ้องจะกินไก่วัดอยู่!’ ทันทีที่เอ่ยจบมือขวาคนสนิทก็วิ่งออกห้องไปอย่างรู้ตัว ว่าถ้าขืนยังอยู่ต่อต้องมีงานเข้าแน่ๆ
และก็เป็นไปอย่างที่คาดการณ์ หลังจากที่จิมมี่เจมส์วิ่งออกไปและยังไม่ทันได้ปิดประตูสนิท สันหนังสือเล่มใหญ่ก็ลอยมากระแทกเข้าที่ประตูห้องดังโครม! ตามด้วยเสียง
‘ไอ้เจเจ! มึงกลับมานี่!’ แพททริกสันตะโกนตามเสียงดัง หลังจากที่โดนมือขวาคนสนิทเอ่ยวาจาแทงใจดำใส่
จิมมี่เจมส์หยุดฟังอยู่หน้าห้อง พลางอดขำไม่ได้กับท่าทางของผู้เป็นนาย ที่อยู่ในอาการของคนมีความรัก แต่ต้องเก็บซ่อนความรู้สึกของตัวเอง เพราะสาวเจ้าอายุแค่สิบเจ็ดปีเท่านั้น แถมนายใหญ่กับมาดามยังหวงอย่างกับอะไรดี!
จากคำพูดของมือขวาคนสนิทครั้งนั้น ทำให้แพททริกสันเกิดคำถามว่าตัวเองนั้นกำลังทำอะไรอยู่ ใช่! เธออายุแค่สิบเจ็ดปี ในขณะที่เขาอายุยี่สิบแปดปี พระเจ้า! ห่างกันตั้งสิบสองปีแน่ะ! ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างหงุดหงิด พร้อมกับตั้งใจว่าจะกลับไปเจอหน้าเธอแค่เดือนละครั้ง พอให้ตัวเองได้เห็นรอยยิ้มหวานๆ บ้าง เพราะถ้าขืนไปเจอเธอทุกวันแบบนี้ แล้วถ้าเกิดวันไหนที่เขาหน้ามืดขึ้นมาเผลอตัวไปจูบเธอเข้า ทีนี้เรื่องจะไม่จบที่จูบอย่างแน่นอน
กลิ่นหอมอ่อนๆ ของเธอที่เขาได้เผลอสูดดมเข้าไปนั้น มันตามไปหลอกหลอนเขาในยามค่ำคืน จนต้องให้คนสนิทเรียกหาผู้หญิงมาปล่อยความต้องการ กลางดึกบ่อยๆ มันเป็นเรื่องที่โคตรจะหงุดหงิดสำหรับเขาเลย ที่ต้องมีอะไรกับผู้หญิงอีกคน แต่กลับจินตนาการถึงผู้หญิงอีกคน
แพททริกสันกลับไปใช้ชีวิตแบบเก่าที่ควงสาวๆ ไม่ซ้ำหน้าเหมือนที่ผ่านมา เพื่อพยายามที่จะลบรอยยิ้มหวานๆ กับกลิ่นหอมอ่อนๆ ของพิมพลอยออกไปจากความรู้สึกที่โหยหากับความต้องการทางกาย ในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเขาเอง มันดูจะผิดเพี้ยนไปหมด เขาจะต้องดึงตัวตนเดิมของเขากลับมาให้ได้ จะไม่ยอมให้ผู้หญิงตัวเล็กๆ มามีอิทธิพลต่อชีวิตของเขา เพราะสิ่งที่เขาต้องทำในตอนนี้คือพิสูจน์ตัวเอง เพื่อที่จะเข้าไปรับตำแหน่งผู้กุมบังเหียนใหญ่ของโรคาซานเดอร์แทนบิดาที่เตรียมจะวางมือ และนั่นทำให้เขาต้องออกห่างจากเธอ เพราะรอยยิ้มบางๆ กับเสียงหวานๆ นั้น มันทำให้เขาหลงลืมสิ่งรอบข้างไปอย่างไม่รู้สึกตัว!
ด้านพิมพลอยเองก็รู้สึกเหมือนตัวเองจะเป็นบ้าที่เอาแต่เฝ้ารอ! เขาทำให้เธอยิ้ม ทำให้เธอมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ๆ เขาทำให้เธอพร่ำเพ้อและแอบฝันไปไกล แล้วอยู่ๆ เขาก็หายไป ไม่แวะมาที่คฤหาสน์อีกเลย
สามปีต่อมา...เมื่อวานพิมพลอยแอบได้ยินเด็กรับใช้คุยกันว่าวันนี้แพททริกสันจะกลับมาจัดงานเลี้ยงวันเกิดที่คฤหาสน์ พร้อมกับเพื่อนสนิทที่ข้างสระว่ายน้ำ เธอตื่นเต้นมากตอนที่ได้ยิน! พอช่วงหัวค่ำคุณมะลิฉัตรก็แจ้งข่าวให้เธอทราบอีกครั้ง เธอแทบจะเก็บอาการดีใจเอาไว้ไม่อยู่ แต่พอคิดไปคิดมา ถ้าเกิดว่าวันนี้แพททริกสันพาผู้หญิงมาด้วย เธอจะทำยังไง? พอคิดมาถึงตรงนี้ก็รู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
หญิงสาวนั่งถอนหายใจอยู่คนเดียวเงียบๆ ตรงระเบียงทางเดินระหว่างชั้นสองกับชั้นสาม มองดูแม่บ้านและใครต่อใครที่ช่วยกันเตรียมของ เพื่อจัดและตกแต่งสถานที่กันอย่างขยันขันแข็ง พลางแอบคิดในใจว่าตอนดึกๆ เธอจะมาแอบดูเขาตรงจุดที่นั่งอยู่ เพราะสามารถมองเห็นบริเวณโดยรอบของงาน ได้อย่างชัดเจนเลยทีเดียว
ขณะที่พิมพลอยกำลังนั่งมองคนจัดงานอยู่นั้น มะลิฉัตรที่เดินลงมาจากชั้นสี่ ก็เห็นท่าทางเหม่อลอยของบุตรสาวบุญธรรม จึงรีบเดินเข้าไปหาอีกฝ่าย
“น้องพิม! มานั่งทำอะไรตรงนี้จ๊ะ ทำไมยังไม่อาบน้ำแต่งตัวล่ะ”
“มีอะไรเหรอคะคุณแม่?” พิมพลอยตกใจนิดๆ ที่เห็นมะลิฉัตรเดินเข้ามา จึงรีบปรับสีหน้าพร้อมกับส่งยิ้มกว้างไปให้ดั่งเช่นทุกครั้ง
“อ้าว! ก็เตรียมตัวไปร่วมงานวันเกิดของพี่แพทไงลูก สงสัยจะลืมไปแล้วแน่ๆ เลย” มะลิฉัตรแกล้งหยอก
“เอ่อ... น้องพิมไม่ได้ลืมค่ะ แค่ไม่รู้ว่า...” สมควรจะไปหรือเปล่า
“น้องพิมเป็นน้องสาวของพี่แพทนะ ทำไมน้องสาวจะไปร่วมแสดงความยินดีในวันเกิดของพี่ชายไม่ได้ล่ะ ไม่เอาๆ ห้ามคิดมากเด็ดขาด เอางี้! เดี๋ยวแม่ไปช่วยน้องพิมแต่งตัวดีกว่า!” มะลิฉัตรเอ่ยขึ้นพลางดึงมือ สาวน้อย ที่ตอนนี้กลายเป็นสาวสะพรั่งให้ลุกขึ้น
“โอเคค่ะ น้องพิมจะไป” หญิงสาวยิ้ม ก่อนจะเดินตามแม่บุญธรรมเข้าไปยังห้องนอนของตัวเองที่อยู่ชั้นสามอย่างว่าง่าย
Rocasander Villa...เวลา 19:45 น.แพททริกสันในวัย 33 ปี ขับรถเข้ามาจอดพร้อมกับแดเนียล ตามมาติดๆ ด้วยเจคอป ออร์แลนโด้ และคารอส เพชรดนัย ร็อฟเวลล์ น้องชายของแดเนียล พวกเขาทั้งห้าคนมีชื่อเรียกแทนกลุ่มว่า R&R ซึ่งย่อมาจาก Rocasander & Rofwell (โรคาซานเดอร์ แอนด์ ร็อฟเวลล์)รถสปอร์ตซูเปอร์คาร์ห้าคันของหนุ่มๆ R&R เข้ามาจอดเรียงกันยังด้านหน้าของคฤหาสน์ จากนั้นก็มีซูเปอร์คาร์อีกยี่สิบกว่าคันขับตามเข้ามาจอดในเวลาไล่ๆ กันจากนั้นหนุ่มๆ สามสิบกว่าคน และสาวๆ ที่ควงมาอีกยี่สิบกว่าคน ก็พากันเดินตามแพททริกสันไปทางปีกด้านขวาของคฤหาสน์ ที่จัดเลี้ยงงานวันคล้ายวันเกิดเอาไว้หลังจากที่ดื่มทานกันไปได้สักพัก บรรดาเหล่าเพื่อนพ้องของแพททริกสันก็ขึ้นไปร่วมแจมกับนักร้องบนเวทีกันเป็นระยะๆ ทั้งเจคอป ออร์แลนโด้ คารอสและแดเนียล ที่ขึ้นไปร้องและเล่นดนตรีกันอย่างครบแก๊ง R&Rในขณะที่ทุกคนกำลังสังสรรค์กัน เลโอนาดท์และมาดามแจสมินก็เดินมาพร้อมกับพิมพลอยที่ตอนนี้อายุได้ 21 ปีเต็ม ใบหน้าของเธอนั้นสะสวยและจิ้มลิ้ม ราวกับดอกไม้แรกแย้มที่กำลังเบ่งบาน ทำเอาหนุ่มในงานหันมามองกันเป็นตาเดียวเจคอปที่ขึ้นไปร้องเพลงบนเวที เห็นอาการ
“ยังไม่ได้ทานค่ะ ซีน่าคิดถึงพี่แพททริกที่สุดเลย” ลูเซียน่าเอ่ยขึ้นพลางเขย่งปลายเท้าขึ้นหอมแก้มชายหนุ่มอย่างคิดถึง“ซีน่า! ทักทายผู้ใหญ่หรือยัง” ลูเซียสที่เดินมาถึงโต๊ะเอ่ยเตือนบุตรสาวลูเซียน่าหน้าเสียนิดๆ ที่ถูกผู้เป็นบิดาตำหนิ จึงรีบหันไปเอ่ยทักทายผู้ใหญ่ที่นั่งอยู่อย่างเสียไม่ได้“สวัสดีครับอาลูเซียส สบายดีนะครับ” แพททริกสันทักทายด้วยสีหน้ายิ้มๆ“สวัสดีหลานรัก สุขสันต์วันเกิดนะ” ลูเซียสเอ่ยพร้อมกับส่งของขวัญให้“ขอบคุณครับ” แพททริกสันรับของขวัญส่งให้เด็กรับใช้ที่อยู่ใกล้ๆ เอาไปวางที่โต๊ะ“อ้าว! แล้วซาเก้ล่ะ!” ลูเซียสถามหาเพื่อนซี้อีกคน“ซาเก้ออกไปคุยกับต้อมแล้วก็เพชรน่ะ” เลโอนาดท์หันมาตอบ“ว่าแต่มะลิกับพราวเป็นไงมั่งครับ สบายดีกันใช่ไหม” ลูเซียสเอ่ยถามภรรยาของเพื่อน ก่อนจะนั่งลงร่วมวงกับทุกคนด้านลูเซียน่าก็นั่งลงข้างๆ แพททริกสันอย่างแนบชิด ก่อนจะส่งยิ้มหวานๆ ไปให้อีกฝ่ายราวกับคนรักที่ไม่ได้เจอกันมานานเจคอปรีบสะกิดพี่ชายคนรองให้หันไปมองคนที่เพิ่งมาถึง ทำให้พิมพลอยที่กำลังคุยกับออร์แลนโด้หันไปมองตาม เธอรู้สึกเจ็บจี๊ดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ที่เห็นอีกฝ่ายแสดงความสนิทสนมออกมาอย่างชัดเจน
แพททริกสันหันมองลูเซียน่าแวบหนึ่งก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์ “ปล่อย!”หญิงสาวทำหน้าเหวอ ยอมปล่อยแขนของอีกฝ่ายแต่โดยดี แต่ก็ไม่วายหันไปใช้สายตาจิกกัดผู้หญิงตัวต้นเหตุอย่างรู้สึกเกลียดชัง“เอางี้นะครับทุกคน ใครอยากจะถามจะคุยเรื่องของน้องพิม เชิญตามมาที่โต๊ะครับ เชิญนะครับพี่คาเรน” เจคอปเอ่ยยิ้มๆพิมพลอยหันไปยิ้มให้เจคอปอย่างรู้สึกขอบคุณ เพราะตอนนี้เธอไม่อยากจะยืนอยู่ตรงนี้อีกแม้แต่วินาทีเดียว“เดี๋ยวพี่จะตามไปนะครับน้องพิม!” คาเรนเทียตะโกนตามหลังสาวเจ้าที่เดินออกไป“ฉันว่าเราดื่มฉลองกันเถอะ นานๆ จะได้เจอกันที” แดเนียลเอ่ยขึ้นอย่างพยายามคลี่คลายสถานการณ์“ก็ได้! มาดวลเหล้ากันหน่อยดีไหม?” แพททริกสันเอ่ยท้าทาย“จัดมาได้เลย! เสนอของรางวัลมาด้วยสิแพททริก” คาเรนเทียยิ้มยั่ว“ถ้าแกชนะ แกจะเอาอะไรล่ะคาเรน!” แพททริกสันถามกลับ“ถ้าฉันชนะ ฉันจะออกเดตกับน้องสาวของแก!” คาเรนเทียขยับเข้าไปกระซิบบอกให้ได้ยินกันแค่สองคนแพททริกสันกำหมัดแน่น แล้วจ้องมองอีกฝ่ายด้วยสายตาดุดัน “แต่ถ้าแกแพ้ แกต้องเลิกยุ่งกับน้องพิม และห้ามเข้าใกล้เธออีกเด็ดขาด!”“ได้ตามนี้!” คาเรนเทียเอ่ยพลางส่งมือไปจับ เพื่อทำสัญญ
“หึ!” แพททริกสันกลอกตาอย่างเซ็งๆ รู้ว่าน้องชายกำลังจะเล่นบทดราม่า“คือ... พอดีว่าขากลับผมไม่มีรถน่ะครับพ่อ รถผมเสีย! เลยฝากป๋าไปซ่อมพ่อจะใจดีให้ผมยืมรถไปใช้ก่อนสักคันได้ไหมครับ” เจคอปหันไป ออดอ้อนผู้เป็นบิดา“ได้อยู่แล้วเจค ก็รถของลูกเสียนี่! ไม่ได้แข่งแพ้แล้วโดนยึดรถ ซะหน่อยจริงไหม? ฮ่าๆๆ” เลโอนาดท์ประชดคนช่างอ้อนอย่างอดไม่ได้“ฮ่าๆๆ” แพททริกสันหัวเราะชอบใจที่ผู้เป็นบิดารู้ทันน้องชายเจคอปกลอกตาอย่างเพลียๆ ในขณะที่ทุกคนต่างหัวเราะเยาะเขากันอย่างขบขัน แต่ก็ไม่ทำให้เขายอมละความพยายามง่ายๆ“ว่าแต่ คันไหนก็ได้ใช่ไหมครับพ่อ” “ใช่!คันไหนก็ได้ยกเว้น Ford Mustang Hennessey คันเดียวลูก ฮ่าๆๆ” เลโอนาดท์เอ่ยพร้อมกับหัวเราะออกมา“ฮ่าๆๆๆ” แพททริกสันยกกำปั้นขึ้นชนกับผู้เป็นบิดาอย่างถูกใจ ที่ดักทางคนเจ้าเล่ห์ได้อีกครั้ง“โธ่! พ่ออะ
‘อย่าใส่ชุดนี้อีกนะน้องพิม พี่หวงรู้ไหม! ถ้าพี่เห็นอีกครั้งนะเป็นเรื่องแน่ แล้วก็ห้ามมอง ห้ามยิ้มให้ผู้ชายคนไหนอีก เข้าใจใช่ไหมพิมพลอย!!’ เขาต่อว่าเสียงดัง จนเธอทำตัวไม่ถูก เพราะชุดที่ใส่นั้น คุณมะลิฉัตรเป็นคนเลือกมาให้เธอเองวันนี้เธอดีใจยิ่งกว่าอะไรที่จะได้เจอเขา...คนที่เธอแอบหลงรักมานาน แต่พอเธอเข้าไปในงานวันเกิดเขา เธอรู้สึกเหมือนเขากำลังโกรธใครสักคนอยู่ สายตาขวางๆ ที่มองมามันทำให้เธอรู้สึกอึดอัดและตอนนี้...เธอรู้แล้วว่าเพราะอะไร เป็นเธอสินะ ที่ทำให้เขาโกรธ พลันน้ำตาแห่งความเสียใจน้อยใจก็ไหลบ่าออกมาอย่างเก็บไม่อยู่“พิมพลอย! พี่ถามว่าเข้าใจไหม!” แพททริกสันเผลอตะคอกอย่างลืมตัว ‘เขาโมโหที่เห็นสายตาของเพื่อนๆ จ้องมองเธอราวกับจะกลืนกิน มันทำให้เขาหงุดหงิดจนแทบจะเก็บอาการไม่อยู่ ส่วนพิมพลอยน่ะเหรอ? หึ! ใครยิ้มให้เธอก็ยิ้มตอบทุกคนนั่นแหละ และนั่นมันทำให้เขาแทบจะยกโต๊ะขึ้นทุ่มลงกลางงานวันเกิดของตัวเองเสียให้ได้’พิมพลอยเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมตอบอะไร ทำให้คนที่รอฟังคำตอบอยู่ทนไม่ไหว ใช้มือประคองใบหน้าจิ้มลิ้มให้เงยขึ้นมองตน
“น้องพิมพร้อมจะคุยกับพี่แพทหรือยังคะ” แพททริกสันเอ่ยหลังจากที่เดินมาถึงลานน้ำพุ“พี่แพทจะคุยเรื่องอะไรเหรอคะ?” พิมพลอยถามกลับด้วยหัวใจสั่นๆ“ก็คุยเรื่องที่พี่บอกไว้เมื่อสองปีก่อนไงคะ ยังจำได้ไหม?”“เอ่อ พี่แพทคะ น้องพิมคิดว่าเรา...เอ่อ...เราต่าง...”“ทำไมคะ? หรือน้องพิมคิดว่าพี่แก่เกินไป!” แพททริกสันถามอย่างหงุดหงิด ‘ถ้าลองตอบเขาว่า เราต่างกันเรื่องอายุละก็ หึ! พ่อจะลากขึ้นห้องไปฟัดให้ฟ้าเหลืองเลยคอยดู!’“น้องพิมหมายความว่า เราต่างก็แทบจะไม่เคยรู้จักกันเลย และอาจจะเร็วเกินไปที่เราเอ่อ...จะคบกันน่ะค่ะ” หญิงสาวรีบตอบเพราะอีกฝ่ายกำลังตีความหมายไปไกล ‘บ้าจริง! นี่เขาไม่รู้ตัวเหรอ ว่าตัวเองหล่อและดูดีขนาดไหน’“งั้นลองถามพี่แพทมาสักข้อสิคะ เกี่ยวกับเรื่องของน้องพิม”ชายหนุ่มบอกพร้อมกับจ้องมองใบหน้างามอย่างหลงใหล“สีโปรดของน้องพิมคือสีอะไรคะ?” พิมพลอยชั่งใจอยู่ครู่ก่อนจะเอ่ยถาม“น้องพิมชอบสีฟ้า ชอบดอกกุหลา
ทั้งสองเดินจับมือกันกลับเข้างาน ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องมาอย่างสนใจใคร่รู้ แต่แล้วอยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเรียกจากข้างหลังดังมาแต่ไกล“พี่แพททริกคะ!”ชายหนุ่มกลอกตาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะหันกลับไปมองคนที่เดินแกมวิ่งเข้ามาหา ‘พระเจ้า! ให้มันได้อย่างนี้สิพับผ่า ลูเซียน่าชอบเข้ามายุ่มย่ามกับเขาบ่อยๆ ทำตัววุ่นวายอย่างกับเป็นคนรัก ล่าสุดมือขวาคนสนิทเพิ่งรายงานว่าหล่อนไปให้สัมภาษณ์ ว่ากำลังคบหาดูใจอยู่กับเขา จนมารดาของเขาทราบข่าวเข้า ถึงกับต่อสายตรงมาเคลียร์ขณะที่เขากำลังประชุมอยู่ เขาหัวเสียและหงุดหงิดกับคำขู่สารพัดของมารดา จนสั่งยกเลิกประชุมทั้งวัน พอจะจัดการกับตัวปัญหา ลูเซียน่าก็บินหนีไปเที่ยวต่างประเทศซะอย่างงั้น! เขาเลยไม่ได้เคลียร์กับเธอสักที หึ! วันนี้แหละฤกษ์ดีเลยละ เขาไม่อยากให้พิมพลอยลังเลหรือกังวลอะไรอีก แค่เรื่องอายุก็มากพอละ คงถึงเวลาที่จะต้องชัดเจนในทุกๆ อย่างซะที!’“พี่แพททริกคะ ซีน่ามองหาพี่อยู่ตั้งนาน...แล้วนี่ใครคะ?” ลูเซียน่าเอ่ยถามเพราะจำสาวตรงหน้าไม่ได้ แต่ก็รู้สึกคุ้นๆ หน้าอีกฝ่ายอยู่ไม่น้อย
สิ้นคำกล่าวสั้นๆ ของมาดามแจสมิน ก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นท่ามกลางความยินดีของแขกที่มาร่วมงาน ในขณะที่ลูเซียน่ากำลังจะแหกปากส่งเสียงกรี๊ด แต่ก็ถูกฮาร์ดี้ มือขวาคนสนิทของลูเซียสเอามือปิดปาก แล้วถูกอุ้มออกจากงานไปที่รถ ที่มีลูเซียสนั่งรออยู่ก่อน ท่ามกลางสายตาหลายๆ คู่ที่หันไปมองกันอย่างสนใจแพททริกสันยิ้มแก้มแทบปริกับคำประกาศของมารดา ในที่สุดสิ่งที่เขาเฝ้ารอคอยก็มาถึงซะที ต้องขอบคุณมารดาของเขา สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างในวันนี้ มันคุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆ แม้เขาจะแอบท้วงในใจว่าสามเดือนมันนานเกินไปก็ตามพิมพลอยยืนตัวแข็งทื่อ อึ้งแล้วอึ้งอีกกับหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างจนเธอตั้งรับแทบไม่ทัน ‘พระเจ้า! วันนี้มีแต่เรื่องเซอร์ไพรส์ทั้งวัน แถมเป็นเซอร์ไพรส์ต่อๆ กัน จนเธอแทบไม่มีเวลาจะหายใจเลย’เจคอปกับออร์แลนโด้ผิวปากแซว พร้อมกับยกนิ้วให้มารดาที่ชัดเจนและเด็ดขาด มิน่า! บิดาของพวกเขาถึงได้ไม่กล้าหือ! มะลิฉัตรส่งไมค์ต่อให้แพททริกสัน ที่ยืนยิ้มจนเหงือกแทบแห้งก็ยังไม่ยอมหุบยิ้มสักที เธอสะกิดเตือนบุตรสาวบุญธรรมที่เหมือนวิญญาณ จะออกจากร่างไปชั่วขณะ โถๆ