“หึ!” แพททริกสันกลอกตาอย่างเซ็งๆ รู้ว่าน้องชายกำลังจะเล่นบทดราม่า
“คือ... พอดีว่าขากลับผมไม่มีรถน่ะครับพ่อ รถผมเสีย! เลยฝากป๋าไปซ่อม พ่อจะใจดีให้ผมยืมรถไปใช้ก่อนสักคันได้ไหมครับ” เจคอปหันไป ออดอ้อนผู้เป็นบิดา
“ได้อยู่แล้วเจค ก็รถของลูกเสียนี่! ไม่ได้แข่งแพ้แล้วโดนยึดรถ ซะหน่อยจริงไหม? ฮ่าๆๆ” เลโอนาดท์ประชดคนช่างอ้อนอย่างอดไม่ได้
“ฮ่าๆๆ” แพททริกสันหัวเราะชอบใจที่ผู้เป็นบิดารู้ทันน้องชาย
เจคอปกลอกตาอย่างเพลียๆ ในขณะที่ทุกคนต่างหัวเราะเยาะเขากันอย่างขบขัน แต่ก็ไม่ทำให้เขายอมละความพยายามง่ายๆ
“ว่าแต่ คันไหนก็ได้ใช่ไหมครับพ่อ”
“ใช่! คันไหนก็ได้ยกเว้น Ford Mustang Hennessey คันเดียวลูก ฮ่าๆๆ” เลโอนาดท์เอ่ยพร้อมกับหัวเราะออกมา
“ฮ่าๆๆๆ” แพททริกสันยกกำปั้นขึ้นชนกับผู้เป็นบิดาอย่างถูกใจ ที่ดักทางคนเจ้าเล่ห์ได้อีกครั้ง
“โธ่! พ่ออะ ผมเล็งคันนั้นก่อนเลยนะ” เจคอปโอดครวญขึ้นทันทีที่ทุกคนรู้ทันตนไปหมดซะทุกอย่าง
มะลิฉัตรหัวเราะใส่คนที่หน้าบูดอย่างชอบใจ ก่อนจะถามไถ่เรื่องงานที่บริษัทกับโปรเจกต์ใหม่ที่กำลังจะมีขึ้น แพททริกสันบอกรายละเอียดคร่าวๆ ก่อนจะหันไปมองรอบๆ เพื่อหาใครบางคน ที่ตั้งแต่เข้ามาในงานยังไม่เห็นแม้แต่เงาของเธอ
“แพท มองหาใครเหรอลูก?” มะลิฉัตรแกล้งถาม
“เอ่อ...ผมยังไม่เห็นน้องพิมเลยครับ” ชายหนุ่มตอบยิ้มๆ
“อ๋อ! น้องพิมยังอยู่ข้างบนน่ะลูก สงสัยใกล้จะเสร็จแล้วมั้ง” มะลิฉัตรบอกพลางหันไปยิ้มให้สามี
“งั้นแพทขึ้นไปตามน้องเองครับ” แพททริกสันรีบอาสา
“รีบๆ ขึ้นไปเลยนะครับคุณแพททริกสัน ก่อนที่น้ำลายจะฟูมปาก ฮ่าๆๆ” คนที่แพ้พนันอดแขวะไม่ได้ หลังจากเสียอาเกร่าไปก็ดูเหมือนอะไรๆ จะดูขัดหูขัดตาไปหมด ‘หึ! ที่แท้โคแก่ก็อยากกินหญ้าอ่อน’
“ทำไมน้ำลายถึงต้องฟูมปากของฉันฮะเจค!” แพททริกสันหันมาถามด้วยสีหน้านิ่งๆ ทั้งที่รู้ว่าน้องชายหมายถึงอะไร
“นั่นสิ! ทำไมล่ะเจค” มะลิฉัตรถามต่อด้วยความสงสัย
“แม่เคยเห็นไหมครับเวลาที่โคแก่ๆ มันอยากจะเคี้ยวหญ้าอ่อนๆ น่ะ น้ำลายมันจะฟูมปากยังไงล่ะครับ ฮ่าๆๆ” เจคอปบอกเสร็จก็หัวเราะอย่างชอบใจที่ได้เอาคืน หลังจากที่ถูกหัวเราะเยาะมานาน
‘หึ! เขาไม่โกรธให้มันเห็นหรอก ทั้งๆ ที่เขาโคตรจะซีเรียสเรื่องนี้สุดๆ เขารู้ว่าน้องชายหงุดหงิดที่เสียรถ แต่ขอโทษ...วันนี้เขามีเรื่องที่สำคัญกว่ารออยู่’
“เจค! นี่นายเป็นวันนั้นของเดือนหรือเปล่าฮะ! ฉันแค่ 35 ไม่ใช่ 75 ซะหน่อย ที่สำคัญฉันยังหนุ่มยังแน่นและยังมีไฟ แล้วฉันก็คิดว่านายน่าจะรู้ดีนะ เพราะนายเพิ่งจะเสียอาเกร่าให้ฉัน อย่างนี้ใช่ไหมครับแม่ ที่คนไทยเขาเรียกว่าแพ้แล้วพาลน่ะครับ” แพททริกสันร่ายยาว
เลโอนาดท์และมะลิฉัตรพากันหัวเราะบุตรชายคนเล็ก ที่ไม่ว่าจะพูดหรือทำอะไรก็ดูจะผิดไปหมด!
“โอเคๆ ผมคงจะเป็นวันนั้นของเดือนอย่างที่ป๋าบอกน่ะแหละ เชิญเลยครับคุณแพททริกสัน เมื่อกี้บอกว่ารีบอยู่ไม่ใช่เหรอ” เจคอปรีบบอก พร้อมกับยกมือขึ้นทั้งสองข้างเพื่อบอกว่ายอมแพ้
แพททริกสันยกยิ้มตรงมุมปากนิดๆ ก่อนจะเดินเข้าไปข้างในคฤหาสน์ เพื่อหาใครบางคนที่อยู่ในห้วงความคิดของเขาตลอดหลายปี
ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าเดินตรงเข้าไปยังห้องแต่งตัว ด้วยสีหน้าที่ตื่นเต้นอย่างบอกไม่ถูก...สองปีที่ยาวนานราวกับชั่วกัปชั่วกัลป์ กำลังจะสิ้นสุดลงในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้แล้ว!
ขณะที่มะลิฉัตรเอ่ยชวนสามีและบุตรชายคนสุดท้องเข้าไปในงาน ก็พอดีกับที่เสียงเครื่องยนต์ของ Aston Martin (แอสตัน มาร์ติน) สีเเดงสวยเฉียบ ป้ายทะเบียน R8888 ดังกระหึ่มแล่นตรงเข้ามายังคฤหาสน์ และไม่ถึงสองนาทีก็เข้ามาจอดตรงลานน้ำพุด้านหน้า ใกล้ๆ กับที่ทุกคนกำลังยืนอยู่ แน่นอนว่าจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกเสียจากออร์แลนโด้ บุตรชายคนรองของตระกูล! ชายหนุ่มที่ได้ฉายาเจ้าชายน้ำแข็งแห่งปี
“สวัสดีครับพ่อ แม่! สบายดีนะครับ” ออร์แลนโด้เอ่ยพร้อมกับสวมกอดมารดา ก่อนจะเข้าไปกอดผู้เป็นบิดาต่อ
ทั้งสองกอดตอบและเอ่ยทักทายบุตรชายคนรองที่หายหน้าไปร่วม สี่เดือน
“สบายดีจ้ะ ว่าแต่ลูกผอมลงไปหรือเปล่าอลัน?” มะลิฉัตรมองบุตรชายไปมาอย่างสำรวจ
“ก็นิดหน่อยครับ ช่วงนี้ยุ่งมากครับแม่” ออร์แลนโด้ตอบยิ้มๆ
“ดูแลตัวเองด้วยนะ แม่เป็นห่วงรู้ไหม?” มะลิฉัตรยิ้มก่อนจะชวนบุตรชายและสามีเดินกลับเข้าไปในงานเลี้ยง ท่ามกลางสายตาของสาวๆ ที่หันมองตามสองหนุ่มหล่อกันเป็นแถว
แพททริกสันเดินมาถึงหน้าห้องแต่งตัวของหญิงสาว ที่ตอนนี้เขายอมรับอย่างไม่ต้องปกปิดอีกต่อไป ว่าอยากเจอเธอมากขนาดไหน
ก๊อกๆๆ ซูซี่ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสอง รีบเดินไปเปิดประตูให้คนมาเยือน พลางคิดในใจว่าน่าจะเป็นสาวใช้ขึ้นมาตามหญิงสาว
“คร่าาาา รอแป๊บหนึ่งนะคะ” ซูซี่ลากเสียงอย่างเพลียๆ ก่อนจะหมุนลูกบิดเปิดประตูให้คนด้านนอก แต่แล้วก็ต้องตกตะลึงราวกับโดนมนตร์สะกดที่สั่งให้กะเทยยืนนิ่งอยู่กับที่ หลังจากได้เห็นความหล่อเหลาคมคายของแพททริกสันชัดๆ เต็มสองตา ‘แม่เจ้า... ใครก็ได้ช่วยตบหน้าอีซูซี่ทีเถอะ! นี่มันเทพบุตรชัดๆ’
แพททริกสันเดินเบี่ยงตัวหลบสาวประเภทสองที่ยืนแข็งเป็นหินไปอย่างไม่สนใจ ทันทีที่เข้ามาในห้องก็เห็นพิมพลอยยืนก้มมองเช็กความเรียบร้อยของชุดที่ใส่อยู่ตรงกระจกบานใหญ่ ‘พระเจ้า! ไม่อยากจะเชื่อ เขาดูรูปเธอทุกวัน แต่พอมาเห็นตัวจริงแบบนี้ เขาชักจะอดใจไม่ไหวแล้วสิ เธอสวยและมีเสน่ห์ เย้ายวนกว่าผู้หญิงทุกคนที่เคยเจอ ที่เคยสัมผัสมา’
พิมพลอยมัวแต่สำรวจความเรียบร้อยครั้งสุดท้าย ก่อนจะออกไปยังงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของคุณมะลิฉัตรที่ด้านนอก พอเงยหน้าขึ้นมองที่กระจกก็ตกใจที่เห็นแพททริกสันยืนซ้อนอยู่ทางด้านหลังของเธอ
“สวัสดีค่ะน้องพิม!” แพททริกสันเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้มกว้าง
“พะ...พี่แพท” พิมพลอยเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นๆ ในขณะที่หัวใจก็เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ
“ค่ะ! พี่เอง ออกไปได้แล้ว” ชายหนุ่มตอบแล้วหันไปเอ่ยปากไล่สาวประเภทสองที่ยืนเซ่ออยู่ตรงประตูห้อง
“ฮะ!... เอ่อ ค่ะๆ ซูซี่ขอตัวก่อนนะคะคุณพิม” ซูซี่ที่เพิ่งได้สติหลังจากที่ยืนแข็งเป็นหินไปนานรีบขอตัว แล้วเดินออกจากห้องไปด้วยท่าทางมึนๆ งงๆ
“สะ...สวัสดีค่ะพี่แพท...เอ่อ คือว่า...คือว่าน้องพิมกำลังจะเข้าไปในงานพอดีค่ะ” พิมพลอยหันมามองคนที่ยืนอยู่ทางด้านหลังของเธออย่างตื่นเต้น!
“น้องพิมกลัวพี่เหรอคะคนดี ดูซิ! สั่นใหญ่เลย หึๆ” แพททริกสันเอ่ยถามและขยับเข้ามาใกล้กว่าเดิม
“เอ่อ...” หญิงสาวอายหน้าแดงก่ำเมื่ออยู่ห่างจากอีกฝ่ายไม่ถึงคืบ
“คุณแม่ให้พี่ขึ้นมาตามน้องพิมน่ะค่ะ อ้อ! แล้วพี่ก็มีของจะให้เราด้วย” ชายหนุ่มบอกก่อนจะล้วงลงไปในกระเป๋าเสื้อสูท หยิบสร้อยที่มีจี้เป็นคำว่า P&P โดยฝังเพชรเอาไว้ตรงส่วนหัวโค้งของตัวพีทั้งสองตัว ซึ่งสั่งทำเป็นพิเศษสำหรับเธอ
หญิงสาวหน้าแดงปลั่ง ยืนนิ่งอยู่กับที่เมื่ออีกฝ่ายสวมสร้อยให้ก่อนจะก้มลงประทับริมฝีปากยังต้นคอระหงอย่างแผ่วเบา
“อ๊ะ!” พิมพลอยสะดุ้งตกใจ ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าทำแบบนี้กับเธอ
แพททริกสันยกยิ้มที่มุมปากนิดๆ อย่างชอบใจกับท่าทางเขินอายของสาวเจ้า ก่อนจะค่อยๆ เชยคางของเธอขึ้นแล้วกดจูบเบาๆ ลงยังริมฝีปากบางอวบอิ่ม ที่เขาถวิลหามาตลอด ‘เขาเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ทำแบบนี้กับเธอ!’
หญิงสาวที่กำลังเคลิบเคลิ้มกับจูบแสนหวาน พยายามดึงสติที่ล่องลอยให้กลับมา ‘พระเจ้า! เขาทำแบบนี้อีกแล้ว!’
สองปีก่อน...
เขาจูบเธอครั้งแรกตอนงานวันเกิดของเขา หลังจากที่เขาท้าดวลเหล้ากับคาเรนเทีย สุดท้ายทุกคนต่างก็เมาจนบอดี้การ์ดต้องช่วยกันหามกลับห้อง แพททริกสันเห็นจะหนักกว่าคนอื่น คุณมะลิฉัตรเลยขอให้เธอขึ้นไปช่วยดูอีกฝ่าย ขณะที่ท่านต้องไปดู เจคอปที่เมาไม่แพ้กันในห้องถัดไป
‘พี่แพทคะ! พี่แพท! น้องพิมเข้าไปได้ไหมคะ' พิมพลอยร้องเรียกคนข้างในห้อง แต่ก็เงียบ! ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ เธอจึงล้วงกุญแจที่มาดามให้มาและกำลังจะไขประตูเข้าไป แต่อยู่ๆ คนด้านในก็เปิดประตูออกมา แล้วดึงเธอเข้าไปในห้อง และตรึงแขนทั้งสองของเธอเอาไว้กับประตูห้อง เขาจู่โจมรวดเร็วไม่ให้เธอได้มีโอกาสตั้งตัวใดๆ
จูบที่รุนแรงและดุดันราวกับต้องการจะลงโทษเธอให้ขาดใจตายในตอนแรก เริ่มเปลี่ยนมาเป็นอ่อนโยนนุ่มนวลและเนิ่นนาน จนทำให้เธอหลงลืมทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวไปหมด
จนกระทั่งมือหนาของเขาเริ่มลูบไล้บั้นท้ายของเธอไปมา เธอจึงได้สติ และทุบที่หน้าอกของเขาให้หยุดการกระทำทุกอย่าง
เขาครางในลำคอราวกับกำลังหงุดหงิดที่ถูกขัดใจ แต่ก็ยอมถอนจูบออกให้แต่โดยดี เธอรู้สึกถึงลิ้นอุ่นๆ แล้วก็กลิ่นของแอลกอฮอล์ที่ร้อนแรงและความหวานปานจะขาดใจ
เธอสั่นไปหมด แข้งขาแทบจะไม่มีแรงยืน ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามองเขา ไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไงต่อไป
‘อย่าใส่ชุดนี้อีกนะน้องพิม พี่หวงรู้ไหม! ถ้าพี่เห็นอีกครั้งนะเป็นเรื่องแน่ แล้วก็ห้ามมอง ห้ามยิ้มให้ผู้ชายคนไหนอีก เข้าใจใช่ไหมพิมพลอย!!’ เขาต่อว่าเสียงดัง จนเธอทำตัวไม่ถูก เพราะชุดที่ใส่นั้น คุณมะลิฉัตรเป็นคนเลือกมาให้เธอเองวันนี้เธอดีใจยิ่งกว่าอะไรที่จะได้เจอเขา...คนที่เธอแอบหลงรักมานาน แต่พอเธอเข้าไปในงานวันเกิดเขา เธอรู้สึกเหมือนเขากำลังโกรธใครสักคนอยู่ สายตาขวางๆ ที่มองมามันทำให้เธอรู้สึกอึดอัดและตอนนี้...เธอรู้แล้วว่าเพราะอะไร เป็นเธอสินะ ที่ทำให้เขาโกรธ พลันน้ำตาแห่งความเสียใจน้อยใจก็ไหลบ่าออกมาอย่างเก็บไม่อยู่“พิมพลอย! พี่ถามว่าเข้าใจไหม!” แพททริกสันเผลอตะคอกอย่างลืมตัว ‘เขาโมโหที่เห็นสายตาของเพื่อนๆ จ้องมองเธอราวกับจะกลืนกิน มันทำให้เขาหงุดหงิดจนแทบจะเก็บอาการไม่อยู่ ส่วนพิมพลอยน่ะเหรอ? หึ! ใครยิ้มให้เธอก็ยิ้มตอบทุกคนนั่นแหละ และนั่นมันทำให้เขาแทบจะยกโต๊ะขึ้นทุ่มลงกลางงานวันเกิดของตัวเองเสียให้ได้’พิมพลอยเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมตอบอะไร ทำให้คนที่รอฟังคำตอบอยู่ทนไม่ไหว ใช้มือประคองใบหน้าจิ้มลิ้มให้เงยขึ้นมองตน
“น้องพิมพร้อมจะคุยกับพี่แพทหรือยังคะ” แพททริกสันเอ่ยหลังจากที่เดินมาถึงลานน้ำพุ“พี่แพทจะคุยเรื่องอะไรเหรอคะ?” พิมพลอยถามกลับด้วยหัวใจสั่นๆ“ก็คุยเรื่องที่พี่บอกไว้เมื่อสองปีก่อนไงคะ ยังจำได้ไหม?”“เอ่อ พี่แพทคะ น้องพิมคิดว่าเรา...เอ่อ...เราต่าง...”“ทำไมคะ? หรือน้องพิมคิดว่าพี่แก่เกินไป!” แพททริกสันถามอย่างหงุดหงิด ‘ถ้าลองตอบเขาว่า เราต่างกันเรื่องอายุละก็ หึ! พ่อจะลากขึ้นห้องไปฟัดให้ฟ้าเหลืองเลยคอยดู!’“น้องพิมหมายความว่า เราต่างก็แทบจะไม่เคยรู้จักกันเลย และอาจจะเร็วเกินไปที่เราเอ่อ...จะคบกันน่ะค่ะ” หญิงสาวรีบตอบเพราะอีกฝ่ายกำลังตีความหมายไปไกล ‘บ้าจริง! นี่เขาไม่รู้ตัวเหรอ ว่าตัวเองหล่อและดูดีขนาดไหน’“งั้นลองถามพี่แพทมาสักข้อสิคะ เกี่ยวกับเรื่องของน้องพิม”ชายหนุ่มบอกพร้อมกับจ้องมองใบหน้างามอย่างหลงใหล“สีโปรดของน้องพิมคือสีอะไรคะ?” พิมพลอยชั่งใจอยู่ครู่ก่อนจะเอ่ยถาม“น้องพิมชอบสีฟ้า ชอบดอกกุหลา
ทั้งสองเดินจับมือกันกลับเข้างาน ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องมาอย่างสนใจใคร่รู้ แต่แล้วอยู่ๆ ก็ได้ยินเสียงเรียกจากข้างหลังดังมาแต่ไกล“พี่แพททริกคะ!”ชายหนุ่มกลอกตาอย่างเซ็งๆ ก่อนจะหันกลับไปมองคนที่เดินแกมวิ่งเข้ามาหา ‘พระเจ้า! ให้มันได้อย่างนี้สิพับผ่า ลูเซียน่าชอบเข้ามายุ่มย่ามกับเขาบ่อยๆ ทำตัววุ่นวายอย่างกับเป็นคนรัก ล่าสุดมือขวาคนสนิทเพิ่งรายงานว่าหล่อนไปให้สัมภาษณ์ ว่ากำลังคบหาดูใจอยู่กับเขา จนมารดาของเขาทราบข่าวเข้า ถึงกับต่อสายตรงมาเคลียร์ขณะที่เขากำลังประชุมอยู่ เขาหัวเสียและหงุดหงิดกับคำขู่สารพัดของมารดา จนสั่งยกเลิกประชุมทั้งวัน พอจะจัดการกับตัวปัญหา ลูเซียน่าก็บินหนีไปเที่ยวต่างประเทศซะอย่างงั้น! เขาเลยไม่ได้เคลียร์กับเธอสักที หึ! วันนี้แหละฤกษ์ดีเลยละ เขาไม่อยากให้พิมพลอยลังเลหรือกังวลอะไรอีก แค่เรื่องอายุก็มากพอละ คงถึงเวลาที่จะต้องชัดเจนในทุกๆ อย่างซะที!’“พี่แพททริกคะ ซีน่ามองหาพี่อยู่ตั้งนาน...แล้วนี่ใครคะ?” ลูเซียน่าเอ่ยถามเพราะจำสาวตรงหน้าไม่ได้ แต่ก็รู้สึกคุ้นๆ หน้าอีกฝ่ายอยู่ไม่น้อย
สิ้นคำกล่าวสั้นๆ ของมาดามแจสมิน ก็มีเสียงปรบมือดังขึ้นท่ามกลางความยินดีของแขกที่มาร่วมงาน ในขณะที่ลูเซียน่ากำลังจะแหกปากส่งเสียงกรี๊ด แต่ก็ถูกฮาร์ดี้ มือขวาคนสนิทของลูเซียสเอามือปิดปาก แล้วถูกอุ้มออกจากงานไปที่รถ ที่มีลูเซียสนั่งรออยู่ก่อน ท่ามกลางสายตาหลายๆ คู่ที่หันไปมองกันอย่างสนใจแพททริกสันยิ้มแก้มแทบปริกับคำประกาศของมารดา ในที่สุดสิ่งที่เขาเฝ้ารอคอยก็มาถึงซะที ต้องขอบคุณมารดาของเขา สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างในวันนี้ มันคุ้มค่ากับการรอคอยจริงๆ แม้เขาจะแอบท้วงในใจว่าสามเดือนมันนานเกินไปก็ตามพิมพลอยยืนตัวแข็งทื่อ อึ้งแล้วอึ้งอีกกับหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างจนเธอตั้งรับแทบไม่ทัน ‘พระเจ้า! วันนี้มีแต่เรื่องเซอร์ไพรส์ทั้งวัน แถมเป็นเซอร์ไพรส์ต่อๆ กัน จนเธอแทบไม่มีเวลาจะหายใจเลย’เจคอปกับออร์แลนโด้ผิวปากแซว พร้อมกับยกนิ้วให้มารดาที่ชัดเจนและเด็ดขาด มิน่า! บิดาของพวกเขาถึงได้ไม่กล้าหือ! มะลิฉัตรส่งไมค์ต่อให้แพททริกสัน ที่ยืนยิ้มจนเหงือกแทบแห้งก็ยังไม่ยอมหุบยิ้มสักที เธอสะกิดเตือนบุตรสาวบุญธรรมที่เหมือนวิญญาณ จะออกจากร่างไปชั่วขณะ โถๆ
พนักงานสาวแผนกต้อนรับแอบซุบซิบกันหลังเคาน์เตอร์ หลังจากคนที่เป็นหัวข้อของการสนทนาเพิ่งจะขับรถออกไปได้ไม่นาน“ตอนแรกนะ ฉันคิดว่าคุณแพททริกจะได้กับยัยลูเซียน่าซะอีก ขานั้นชอบวีนชอบเหวี่ยง แถมเวลามาที่นี่ก็ชอบวางตัวราวกับเจ้าของน่ะแกฉันละเกลียดแม่นี่จริงๆ” นีน่าพนักงานต้อนรับเอ่ยขึ้น“เมื่อคืนฉันได้ไปช่วยบริการแขกในงานที่คฤหาสน์มา ฉันเห็นนางหน้าแตกกลางงาน แล้วส่งเสียงกรี๊ดจนคุณเจคอปสุดหล่อของฉันทนไม่ไหวต้องยกมือขึ้นปิดหูเลยแก!” เจนนี่ที่ได้ไปช่วยดูแลแขกที่คฤหาสน์โรคาซานเดอร์เมื่อคืน คุยอวดสองสาวที่ไม่ได้ไป“แหม น้อยๆ หน่อยเถอะหล่อน คุณเจคอปของฉัน ฮ่าๆๆๆ อย่างแกน่ะเดินผ่านสักสิบรอบ คุณเจคอปยังไม่มองเลยย่ะ!” มินนี่ตอกกลับเพื่อนสาวอย่างรู้สึกหมั่นไส้“โถๆ ทำอย่างกะแกไม่เคยฝันอย่างนั้นแหละมินนี่! ฉันเห็นนะเวลาที่คุณออร์แลนโด้พาสาวๆ มาฟาดที่นี่ แกก็ได้แค่มองเขาเดินผ่านแกไปอย่างไร้ตัวตนทุกครั้ง ฮ่าๆๆ ผู้ชายอะไร! เย็นชาชะมัดเลยอะ!” เจนนี่เอาคืน เพื่อนสาว“เย็นชาแบบนี้แหละ มินนี่ชอบบบบบ” มินนี่
สามชั่วโมงต่อมา...“น้องพิมคะ! น้องพิม! หนังจบแล้วค่ะ” แพททริกสันเรียกคนที่หลับสนิทไปตั้งแต่สามสิบนาทีแรก จนกระทั่งหนังจบแล้วสาวเจ้าก็ไม่มีท่าทีว่าจะตื่น เขานอนมองใบหน้าจิ้มลิ้มที่หลับตาพริ้มในอ้อมแขน มันทำให้ความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้นตั้งแต่ที่ขาเรียวสวยยกขึ้นมาพาดบนขาของเขาจนกระทั่งตอนนี้บางอย่างของเขาก็ยังไม่ยอมสงบ! ไม่ว่าหนังที่ดูจะบู๊ดุเดือดแค่ไหน ก็ไม่สามารถดึงสายตาของเขาไปจากใบหน้าเธอได้เลย เขาจำต้องรีบปลุกเธอก่อนที่เขาจะระงับอารมณ์พลุ่งพล่านของตัวเองไม่ไหว!“น้องพิมขอโทษค่ะ” คนที่เพิ่งตื่นอายจนหน้าแดง“ไม่เป็นไรค่ะน้องพิมจะนอนต่อไหมคะ พี่แพทจะได้นอนเป็นเพื่อนค่ะ” แพททริกสันบอกพลางส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้หญิงสาว“เอ่อ...ไม่แล้วค่ะ น้องพิมขอไปห้องน้ำก่อน พี่แพทรอน้องพิมที่หน้าโรงหนังนะคะ” เธอรีบลุกเดินออกไปยังห้องน้ำข้างนอก เพื่อเช็กความเรียบร้อยของตัวเองอย่างอายๆ“ได้ครับ เจ้าหญิงของพี่” แพททริกสัขำเมื่อเห็นสีหน้าตกใจของสาวเจ้า
ครึ่งชั่วโมงต่อมา... แพททริกสันก็ออกมานั่งรอที่โต๊ะอาหารด้านนอก หยิบหนังสือพิมพ์มาเปิดอ่านและจิบกาแฟไปพลางๆ อย่างอารมณ์ดีหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ พิมพลอยก็สวมใส่เสื้อผ้าที่อีกฝ่ายเตรียมไว้ให้ รวมทั้งชุดชั้นในที่เธอใส่มันได้พอดีจนแอบสงสัยว่าเขารู้ไซส์ของเธอ ได้ยังไงหญิงสาวเดินออกไปที่ห้องอาหาร เห็นอีกฝ่ายนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ไปอมยิ้มไปก็อดสงสัยไม่ได้“พี่แพทอ่านข่าวอะไรอยู่หรือคะ” พิมพลอยเอ่ยถามขณะนั่งลงที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้ามกับชายนหนุ่ม“อ้าว! น้องพิมมาแล้วเหรอคะ! พี่แพทกำลังอ่านข่าวคู่รักคู่หนึ่งอยู่ค่ะ ข่าวบอกว่าผู้หญิงคนนี้โชคดีมากๆ ที่ได้หัวใจของผู้ชายที่หล่อเหลาและแสนจะเพอร์เฟกต์ไปครอง ข่าวยังบอกว่า...ผู้ชายคนนี้หลงรักหญิงสาวหัวปักหัวปำมาตั้งแต่ตอนที่เธอยังอายุได้ 17 ปีน่ะค่ะ ลองดูรูปไหมคะ พี่แพทว่าน้องพิมอาจจะรู้จักเธอ!” แพททริกสันบอกเสียงจริงจัง พร้อมกับส่งหนังสือพิมพ์ไปให้หญิงสาวดู“จริงหรือคะว้าว!! ชักอยากจะรู้แล้วว่าเธอคนนั้นคือใคร”พิมพลอยยื่นมือไปรับหนังสือพิมพ์มาเปิดดู ก่อนจะ
“น้องพิมนั่งรอพี่ที่ห้องทำงานนะคะ พี่คุยงานที่ห้องประชุมใหญ่สักครู่ เดี๋ยวตามไปค่ะ” ชายหนุ่มกระซิบบอก“พี่แพทไม่ต้องรีบนะคะ น้องพิมรอได้ค่ะ” พิมพลอยบอกก่อนจะเดินตามนีรยาไป หลังจากที่อีกฝ่ายพยักหน้าชวนแพททริกสันมองตามแผ่นหลังบางที่เดินเข้าไปในห้องทำงานของตนจนกระทั่งประตูห้องทำงานปิดลง จึงเดินตามจิมมี่เจมส์กับจอแดนไปยังห้องประชุมใหญ่ เพื่อวางแผนงานให้รัดกุมขึ้นกว่าเดิมห้องทำงานของท่านประธาน...“ว้าว! ห้องทำงานของพี่แพทสวยและดูหรูหราจังเลยนะคะ คุณนีรยา” หญิงสาวเอ่ยด้วยท่าทางตื่นเต้น“คุณแพททริกเป็นคนที่มีสไตล์น่ะค่ะ มีห้องนอนและห้องน้ำด้วยนะคะ ตรงประตูด้านโน้น แต่ต้องใส่รหัสเข้าไปค่ะ คุณพิมจะเข้าไปดูก็ได้นะคะสวยมากเลยค่ะ รหัสคือ Pimploy ค่ะ รหัสนี้ทราบกันไม่กี่คน เอ่อ...ยังไงนีขอตัวก่อนค่ะ ต้องเตรียมเอกสารให้ที่ประชุม เดี๋ยวให้ผู้ช่วยของณีจะยกเครื่องดื่มกับของว่างมาให้ เชิญคุณพิมตามสบายเลยนะคะ ถ้าต้องการอะไรเพิ่มเติมก็กดหนึ่ง ที่โทรศัพท์บนโต๊ะทำงานของบอส เรียกใช้ผู้ช่วยขอ